แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย 799 รอคำตอบจากต้าอี

Now you are reading แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย Chapter 799 รอคำตอบจากต้าอี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ถ้าอยากให้ฉันแนะนำล่ะก็ อีกไม่กี่วันถ้าเธอเจอผู้หญิงที่ถูกใช้ความรุนแรงคนนั้นอีก เธอก็ตั้งใจจัดการแก้ปัญหาให้เขาซะ ถ้าแก้ปัญหานี้ได้ เธอก็จะได้คำตอบของเคสเย่ต้าเชียน”

 

 

“สองเคสนี้เกี่ยวกันเหรอ” ต้าอีคิดไม่ออกว่ามีจุดที่เหมือนกันตรงไหน

 

 

“คิดเอาเอง” เสี่ยวเชี่ยนทิ้งไว้แค่นี้

 

 

รุ่นพี่ผู้หญิงที่เดินอยู่ข้างหน้าพวกเธอได้ยินคำพูดแค่บางส่วน พอเข้าใจอยู่บ้าง ต้าอีมีเรื่องที่ไม่เข้าใจเลยขอคำแนะนำจากประธานเชี่ยน แต่ประธานเชี่ยนไม่บอก

 

 

ดูท่าสองคนนี้จะไม่ได้สนิทกันเท่าไร รุ่นพี่คนนี้บันทึกข้อมูลไว้ในใจ กะว่ากลับไปจะเอาไปเม้าท์กับเพื่อนสนิท บอกกันว่าประธานเชี่ยนดูแลต้าอี แต่ดูแล้วก็ไม่เห็นจะดูแลสักเท่าไร ก็ยังมีกั๊กวิชาความรู้ จึ๊ๆๆ

 

 

เสี่ยวเชี่ยนหันไปมองรุ่นพี่คนนั้น อีกฝ่ายจึงรีบหันหน้ากลับไป เสี่ยวเชี่ยนลองนึกดู รุ่นพี่คนนี้ดูเหมือนจะสนิทกับรุ่นพี่แสบก้นคนนั้น ซึ่งก็คือรุ่นพี่ที่เรียนปริญญาเอกที่เคยพูดจาให้ร้ายเสี่ยวเชี่ยนแล้วเสี่ยวเชี่ยนเอาคืนด้วยยาหม่องน้ำจนแสบก้นไปหมด

 

 

พอรู้สึกได้ว่าประธานเชี่ยนมองมา รุ่นพี่คนนี้จึงแสร้งทำเป็นตีสนิท

 

 

“ประธานเชี่ยน คุยอะไรกับต้าอีเหรอ”

 

 

“คุยปัญหาเรื่องเรียนน่ะค่ะ”

 

 

“ประธานเชี่ยนซัมเมอร์นี้มีแพลนอะไรหรือเปล่า มีที่ฝึกงานดีๆแนะนำรุ่นพี่รุ่นน้องบ้างไหม” ทุกคนต่างอยากรู้ชีวิตส่วนตัวของประธานเชี่ยน เห็นประธานเชี่ยนใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนม มีรถขับมามหาวิทยาลัย ไม่รู้ว่าเอาเงินมาจากไหน ทุกคนจึงอยากรู้เรื่องราวส่วนตัวของบุคคลที่มีชื่อเสียงในมหาวิทยาลัยคนนี้

 

 

ประธานเชี่ยนไม่แคร์ใครทั้งนั้นยกเว้นคนรอบตัวเธอ ดังนั้นพอได้มีโอกาสคุยกับประธานเชี่ยนรุ่นพี่คนนี้จึงรีบถามซ่อกแซ่ก

 

 

“ปิดซัมเมอร์ฉันจะกลับบ้านไปแต่งงาน ถ้ารุ่นพี่รุ่นน้องอยากมาร่วมฉันก็ยินดีต้อนรับนะคะ”

 

 

คำตอบของประธานเชี่ยนทำอีกฝ่ายอึ้ง รุ่นพี่ยิ้มออกมา “อ่า ประธานเชี่ยนจะแต่งงานแล้วเหรอ ยินดีด้วยนะ”

 

 

นี่เป็นประเด็นที่เจ๋งมาก ไม่มีใครกล้าต่อ เพราะถ้าคุยต่อจะโยงไปถึงเรื่องเงินใส่ซอง ปกติก็ไม่ได้สนิทกัน คุยเรื่องเงินๆทองๆยิ่งไม่เหมาะ

 

 

พอไปถึงห้องรับรองรุ่นพี่คนนั้นก็รีบไปหาที่นั่งให้ไกลจากเสี่ยวเชี่ยนหน่อย กลัวเสี่ยวเชี่ยนจะพูดเรื่องแต่งงานต่อ

 

 

เสี่ยวเชี่ยนยิ้มแล้วนั่งกินแตงโม

 

 

“เรื่องเงินจะว่าเชยก็เชย แต่เงินแก้ปัญหาได้เยอะแยะ โดยเฉพาะทำให้ได้เห็นสันดานคน ดังนั้น—”

 

 

“หืม” ต้าอีมองเสี่ยวเชี่ยน

 

 

“รอเสี่ยวเฉียงกลับมาแล้วเธอกับพี่รองมาเยี่ยมบ้านฉันสิ เงินใส่ซองก็แล้วแต่อย่าให้เยอะเกินไป ฉันจะชวนพี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ใหญ่ด้วย” เสี่ยวเชี่ยนยิ้มเจ้าเล่ห์เหมือนนางจิ้งจอก ต้าอีก็ยิ้มออกมา

 

 

“พูดอย่างกับว่ามีแค่เธอที่จะแต่งงาน ฉันไม่แต่งหรือไง”

 

 

งานแต่งของลูกชายสองคนแห่งบ้านตระกูลอวี๋จัดห่างกันแค่ไม่กี่วัน

 

 

“พวกเธอน่ะจดทะเบียนก่อนฉัน เป็นสามีภรรยากันมาตั้งกี่ปีแล้ว ยังจะกล้าว่าที่ฉันจะเอาซองอีกเหรอ”

 

 

สู้เรื่องความแถ ประธานเชี่ยนถนัด

 

 

อวี๋หมิงอี้เป็นผู้ชายหัวโบราณมาก ตอนนั้นพอเขามีอะไรกันกับต้าอีก็รีบไปจดทะเบียนเลยทันที ถ้านับเรื่องอายุชีวิตคู่ของต้าอียังมากกว่าเสี่ยวเชี่ยนด้วยซ้ำ

 

 

ทุกคนถูกเชิญมานั่งกินแตงโมตากแอร์อย่างงงๆ ไม่นานเถ้าแก่เล็กที่ทราบเรื่องก็รีบมาทันที เวลานี้หลิวลี่ก็ ‘เพิ่งกลับมาพอดี’ เขาทำหน้าตกใจเหมือนเพิ่งทราบเรื่อง

 

 

“อ้าว น้าหลี่นี่มันอะไรกันครับเนี่ย ผมไม่รู้จริงๆว่าเพื่อนผมไปลาดตระเวนตรงนั้นกันแล้วเข้าใจผิดเชิญนักศึกษามาที่นี่ ขอโทษจริงๆครับ ผมไม่เห็นได้ยินแม่บอกเลยว่าช่วงนี้มีกิจกรรมข้างนอกด้วย”

 

 

คำพูดของหลิวลี่เล่นเอาเถ้าแก่เล็กกระอักกระอ่วนพูดไม่ออก นี่เป็นงานส่วนตัวของเธอ เถ้าแก่ใหญ่จะรู้ได้ยังไง

 

 

“เด็กๆไม่ได้ทำอะไรผิดเดี๋ยวก็ถูกปล่อยตัวแล้ว เดี๋ยวน้าไปอธิบายกับแม่เราเอง” เถ้าแก่เล็กพอนึกถึงหน้าโหดๆของเถ้าแก่ใหญ่ก็กลัวขึ้นมาทันที

 

 

“ถ้าต่อไปน้าหลี่จะแจกใบปลิวแบบนี้บอกผมก่อนสิครับ เดี๋ยวผมหาที่ให้ ตามกฎหมายควบคุมเมืองตรงทางเข้าออกย่านการค้าห้ามแจกใบปลิว เดี๋ยวถ้าเกิดเหตุการณ์เข้าใจผิดแบบนี้อีกคงไม่ดีแน่”

 

 

เถ้าแก่เล็กอยากร้องไห้แต่ไร้น้ำตา งานส่วนตัวแบบนี้เดิมทีเธอก็ไม่อยากป่าวประกาศ แล้วจะทำตามที่บอกได้ยังไง

 

 

หลิวลี่กับเสี่ยวเชี่ยนเล่นละครกันอย่างเนียนๆ เถ้าแก่เล็กได้แต่เก็บความโกรธเอาไว้ เธอมองไปเห็นศิษย์รักของเถ้าแก่ใหญ่นั่งแทะแตงโมอย่างสบายใจอยู่ในกลุ่มนักศึกษา

 

 

“ศาสตราจารย์หลี่คะ หนูบังเอิญผ่านไปเลยเข้าไปช่วย นึกไม่ถึงว่าจะถูกเชิญมากินแตงโม” เสี่ยวเชี่ยนโบกมือให้เถ้าแก่เล็กอย่างกระตือรือร้น

 

 

เถ้าแก่เล็กมองเสี่ยวเชี่ยน แล้วมองต้าอีที่นั่งอยู่ข้างเสี่ยวเชี่ยน ดูเหมือนจะเข้าใจอะไรแล้ว

 

 

ประธานเชี่ยนรีบกินแตงโมชิ้นสุดท้าย เธอชอบที่สุดตอนที่เห็นคนหมั่นไส้เธอแต่ทำอะไรเธอไม่ได้

 

 

พอออกมาแล้วเสี่ยวเชี่ยนก็ขับรถพาต้าอีออกไป เสี่ยวเชี่ยนถามต้าอี

 

 

“กังวลบ้างหรือเปล่า”

 

 

“กังวลอะไรเหรอ”

 

 

“ก็กังวลว่าอีกหน่อยเถ้าแก่เล็กจะกลั่นแกล้งเธอ”

 

 

เถ้าแก่เล็กฉลาดขนาดนั้นคงไม่ถึงกับดูไม่ออกว่าทำไมลูกศิษย์ถึงถูกเชิญไปกินแตงโมที่นั่น

 

 

“ฉันคิดว่าเถ้าแก่เล็กคงไม่ใช่คนที่แค้นฝังหุ่นอะไรขนาดนั้น เขาไม่มีทางแกล้งฉันเรื่องเรียนเพราะเรื่องแค่นี้หรอก ต่อให้แกล้งจริง ถ้าฉันทำได้ดีเขาก็หาที่ติไม่ได้ คิดเสียว่าเป็นบททดสอบก็แล้วกัน”

 

 

เสี่ยวเชี่ยนพยักหน้า นี่เป็นเหตุผลสำคัญที่เธอชอบต้าอี ใจกว้าง ไม่คิดเล็กคิดน้อย

 

 

คนเป็นบอสต่างชอบลูกน้องแบบนี้ ทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับงาน ไม่คิดมากในเรื่องที่ไม่จำเป็น มีความสามารถ คุมปากตัวเองได้ ทีมต้องการคนแบบนี้ไปร่วมงาน

 

 

“ฉันจะบอกเหตุผลของฉันให้เธอฟัง ฉันเห็นด้วยกับความคิดเธอที่ว่าเถ้าแก่เล็กไม่แกล้งเธอหรอก แต่เหตุผลของฉันต่างกัน ฉันวิเคราะห์ว่าเถ้าแก่เล็กไม่กล้ามีปัญหากับเถ้าแก่ใหญ่ตรงๆหรอก เขาอาจจะไม่ได้ดีกับเธอมาก แต่ไม่มีทางแกล้งเธอแน่นอน เพราะเขารู้ว่ามีฉันปกป้อง เธอดูนะเรื่องเดียวกันแท้ๆ แต่เธอมองอย่าง ฉันก็มองอีกอย่าง”

 

 

“แล้วใครถูกล่ะ”

 

 

“ถูกหมด เรื่องเดียวกันมองได้หลายมุม บทสรุปที่ได้ก็ไม่เหมือนกัน และทุกบทสรุปก็อาจสมเหตุสมผลหมดด้วย บางครั้งบทสรุปที่ต่างกันล้วนถูกหมด เธอเป็นจิตแพทย์ต้องรู้จักตั้งข้อสังเกตจิตใจคนไข้ในหลายๆมุม แบบนั้นถึงจะหาจุดสมดุลระหว่างคนไข้กับพวกเราได้ ถ้าจะพูดให้ชัดขึ้นหน่อยก็ หลังจากที่เธอกลายเป็นจิตแพทย์แล้ว ศัตรูที่แท้จริงก็คือปีศาจในใจเธอ เธอจะหาจุดสมดุลให้ตัวเองยังไง”

 

 

หลังกลับไปต้าอีเอาแต่คิดถึงคำพูดที่คุยกับเสี่ยวเชี่ยนในวันนี้ ส่วนเสี่ยวเชี่ยนพอกลับถึงบ้านก็เอาสมุดบันทึกออกมาแล้วเริ่มจดบันทึกเกี่ยวกับการใช้ความรุนแรงในครอบครัว

 

 

ต้นตอของการใช้ความรุนแรงในครอบครัวมาจากความคิดสามีเป็นใหญ่ที่มีมานับพันปี อำนาจของพ่อและอำนาจของสามีขยะทางความคิดเหล่านี้ตกทอดมาเป็นร้อยเป็นพันปีอยู่ในใจของใครหลายคน ผู้ชายที่มีความคิดแบบนี้เห็นผู้หญิงเป็นสิ่งของ ก่อให้เกิดการใช้ความรุนแรง พฤติกรรมแบบนี้ก็เกี่ยวเนื่องกับรูปแบบการใช้ชีวิตกับพ่อแม่ในวัยเด็ก เด็กที่โตมาในสภาพแวดล้อมที่มีการใช้ความรุนแรงภายในครอบครัว พ่อมีอำนาจสูงในบ้าน ก็จะมีพฤติกรรมชอบใช้ความรุนแรง

 

 

 ส่วนรูปแบบการแก้ปัญหาเรื่องแบบนี้ก็เหมือนกับเรื่องที่เธอจัดการเถ้าแก่ใหญ่ที่ใช้ต้าอีทำงานประหนึ่งเป็นคนใช้

 

 

เมื่อเกิดการใช้ความรุนแรงขึ้นภายในบ้านครั้งแรก ก็ให้รวบรวมพลังทั้งหมดสู้กลับ มีแรงเท่าไรใช้ให้หมด มีญาติกี่คนก็ขนมา สู้ให้ถึงที่สุด ให้อีกฝ่ายรู้สึกได้ถึงความร้ายกาจ ครั้งหน้าถ้าอยากลงมืออีกก็จะเกรงกลัว

 

 

แต่ถ้าเป็นผู้ชายที่ใช้ความรุนแรงภายในครอบครัวมาแล้วหลายครั้งแบบนั้นก็ต้อง—

 

 

เสี่ยวเชี่ยนหยุดเขียนแล้วขึ้นบรรทัดใหม่ว่า

 

 

รอบทสรุปจากต้าอี

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย 799 รอคำตอบจากต้าอี

Now you are reading แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย Chapter 799 รอคำตอบจากต้าอี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ถ้าอยากให้ฉันแนะนำล่ะก็ อีกไม่กี่วันถ้าเธอเจอผู้หญิงที่ถูกใช้ความรุนแรงคนนั้นอีก เธอก็ตั้งใจจัดการแก้ปัญหาให้เขาซะ ถ้าแก้ปัญหานี้ได้ เธอก็จะได้คำตอบของเคสเย่ต้าเชียน”

 

 

“สองเคสนี้เกี่ยวกันเหรอ” ต้าอีคิดไม่ออกว่ามีจุดที่เหมือนกันตรงไหน

 

 

“คิดเอาเอง” เสี่ยวเชี่ยนทิ้งไว้แค่นี้

 

 

รุ่นพี่ผู้หญิงที่เดินอยู่ข้างหน้าพวกเธอได้ยินคำพูดแค่บางส่วน พอเข้าใจอยู่บ้าง ต้าอีมีเรื่องที่ไม่เข้าใจเลยขอคำแนะนำจากประธานเชี่ยน แต่ประธานเชี่ยนไม่บอก

 

 

ดูท่าสองคนนี้จะไม่ได้สนิทกันเท่าไร รุ่นพี่คนนี้บันทึกข้อมูลไว้ในใจ กะว่ากลับไปจะเอาไปเม้าท์กับเพื่อนสนิท บอกกันว่าประธานเชี่ยนดูแลต้าอี แต่ดูแล้วก็ไม่เห็นจะดูแลสักเท่าไร ก็ยังมีกั๊กวิชาความรู้ จึ๊ๆๆ

 

 

เสี่ยวเชี่ยนหันไปมองรุ่นพี่คนนั้น อีกฝ่ายจึงรีบหันหน้ากลับไป เสี่ยวเชี่ยนลองนึกดู รุ่นพี่คนนี้ดูเหมือนจะสนิทกับรุ่นพี่แสบก้นคนนั้น ซึ่งก็คือรุ่นพี่ที่เรียนปริญญาเอกที่เคยพูดจาให้ร้ายเสี่ยวเชี่ยนแล้วเสี่ยวเชี่ยนเอาคืนด้วยยาหม่องน้ำจนแสบก้นไปหมด

 

 

พอรู้สึกได้ว่าประธานเชี่ยนมองมา รุ่นพี่คนนี้จึงแสร้งทำเป็นตีสนิท

 

 

“ประธานเชี่ยน คุยอะไรกับต้าอีเหรอ”

 

 

“คุยปัญหาเรื่องเรียนน่ะค่ะ”

 

 

“ประธานเชี่ยนซัมเมอร์นี้มีแพลนอะไรหรือเปล่า มีที่ฝึกงานดีๆแนะนำรุ่นพี่รุ่นน้องบ้างไหม” ทุกคนต่างอยากรู้ชีวิตส่วนตัวของประธานเชี่ยน เห็นประธานเชี่ยนใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนม มีรถขับมามหาวิทยาลัย ไม่รู้ว่าเอาเงินมาจากไหน ทุกคนจึงอยากรู้เรื่องราวส่วนตัวของบุคคลที่มีชื่อเสียงในมหาวิทยาลัยคนนี้

 

 

ประธานเชี่ยนไม่แคร์ใครทั้งนั้นยกเว้นคนรอบตัวเธอ ดังนั้นพอได้มีโอกาสคุยกับประธานเชี่ยนรุ่นพี่คนนี้จึงรีบถามซ่อกแซ่ก

 

 

“ปิดซัมเมอร์ฉันจะกลับบ้านไปแต่งงาน ถ้ารุ่นพี่รุ่นน้องอยากมาร่วมฉันก็ยินดีต้อนรับนะคะ”

 

 

คำตอบของประธานเชี่ยนทำอีกฝ่ายอึ้ง รุ่นพี่ยิ้มออกมา “อ่า ประธานเชี่ยนจะแต่งงานแล้วเหรอ ยินดีด้วยนะ”

 

 

นี่เป็นประเด็นที่เจ๋งมาก ไม่มีใครกล้าต่อ เพราะถ้าคุยต่อจะโยงไปถึงเรื่องเงินใส่ซอง ปกติก็ไม่ได้สนิทกัน คุยเรื่องเงินๆทองๆยิ่งไม่เหมาะ

 

 

พอไปถึงห้องรับรองรุ่นพี่คนนั้นก็รีบไปหาที่นั่งให้ไกลจากเสี่ยวเชี่ยนหน่อย กลัวเสี่ยวเชี่ยนจะพูดเรื่องแต่งงานต่อ

 

 

เสี่ยวเชี่ยนยิ้มแล้วนั่งกินแตงโม

 

 

“เรื่องเงินจะว่าเชยก็เชย แต่เงินแก้ปัญหาได้เยอะแยะ โดยเฉพาะทำให้ได้เห็นสันดานคน ดังนั้น—”

 

 

“หืม” ต้าอีมองเสี่ยวเชี่ยน

 

 

“รอเสี่ยวเฉียงกลับมาแล้วเธอกับพี่รองมาเยี่ยมบ้านฉันสิ เงินใส่ซองก็แล้วแต่อย่าให้เยอะเกินไป ฉันจะชวนพี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ใหญ่ด้วย” เสี่ยวเชี่ยนยิ้มเจ้าเล่ห์เหมือนนางจิ้งจอก ต้าอีก็ยิ้มออกมา

 

 

“พูดอย่างกับว่ามีแค่เธอที่จะแต่งงาน ฉันไม่แต่งหรือไง”

 

 

งานแต่งของลูกชายสองคนแห่งบ้านตระกูลอวี๋จัดห่างกันแค่ไม่กี่วัน

 

 

“พวกเธอน่ะจดทะเบียนก่อนฉัน เป็นสามีภรรยากันมาตั้งกี่ปีแล้ว ยังจะกล้าว่าที่ฉันจะเอาซองอีกเหรอ”

 

 

สู้เรื่องความแถ ประธานเชี่ยนถนัด

 

 

อวี๋หมิงอี้เป็นผู้ชายหัวโบราณมาก ตอนนั้นพอเขามีอะไรกันกับต้าอีก็รีบไปจดทะเบียนเลยทันที ถ้านับเรื่องอายุชีวิตคู่ของต้าอียังมากกว่าเสี่ยวเชี่ยนด้วยซ้ำ

 

 

ทุกคนถูกเชิญมานั่งกินแตงโมตากแอร์อย่างงงๆ ไม่นานเถ้าแก่เล็กที่ทราบเรื่องก็รีบมาทันที เวลานี้หลิวลี่ก็ ‘เพิ่งกลับมาพอดี’ เขาทำหน้าตกใจเหมือนเพิ่งทราบเรื่อง

 

 

“อ้าว น้าหลี่นี่มันอะไรกันครับเนี่ย ผมไม่รู้จริงๆว่าเพื่อนผมไปลาดตระเวนตรงนั้นกันแล้วเข้าใจผิดเชิญนักศึกษามาที่นี่ ขอโทษจริงๆครับ ผมไม่เห็นได้ยินแม่บอกเลยว่าช่วงนี้มีกิจกรรมข้างนอกด้วย”

 

 

คำพูดของหลิวลี่เล่นเอาเถ้าแก่เล็กกระอักกระอ่วนพูดไม่ออก นี่เป็นงานส่วนตัวของเธอ เถ้าแก่ใหญ่จะรู้ได้ยังไง

 

 

“เด็กๆไม่ได้ทำอะไรผิดเดี๋ยวก็ถูกปล่อยตัวแล้ว เดี๋ยวน้าไปอธิบายกับแม่เราเอง” เถ้าแก่เล็กพอนึกถึงหน้าโหดๆของเถ้าแก่ใหญ่ก็กลัวขึ้นมาทันที

 

 

“ถ้าต่อไปน้าหลี่จะแจกใบปลิวแบบนี้บอกผมก่อนสิครับ เดี๋ยวผมหาที่ให้ ตามกฎหมายควบคุมเมืองตรงทางเข้าออกย่านการค้าห้ามแจกใบปลิว เดี๋ยวถ้าเกิดเหตุการณ์เข้าใจผิดแบบนี้อีกคงไม่ดีแน่”

 

 

เถ้าแก่เล็กอยากร้องไห้แต่ไร้น้ำตา งานส่วนตัวแบบนี้เดิมทีเธอก็ไม่อยากป่าวประกาศ แล้วจะทำตามที่บอกได้ยังไง

 

 

หลิวลี่กับเสี่ยวเชี่ยนเล่นละครกันอย่างเนียนๆ เถ้าแก่เล็กได้แต่เก็บความโกรธเอาไว้ เธอมองไปเห็นศิษย์รักของเถ้าแก่ใหญ่นั่งแทะแตงโมอย่างสบายใจอยู่ในกลุ่มนักศึกษา

 

 

“ศาสตราจารย์หลี่คะ หนูบังเอิญผ่านไปเลยเข้าไปช่วย นึกไม่ถึงว่าจะถูกเชิญมากินแตงโม” เสี่ยวเชี่ยนโบกมือให้เถ้าแก่เล็กอย่างกระตือรือร้น

 

 

เถ้าแก่เล็กมองเสี่ยวเชี่ยน แล้วมองต้าอีที่นั่งอยู่ข้างเสี่ยวเชี่ยน ดูเหมือนจะเข้าใจอะไรแล้ว

 

 

ประธานเชี่ยนรีบกินแตงโมชิ้นสุดท้าย เธอชอบที่สุดตอนที่เห็นคนหมั่นไส้เธอแต่ทำอะไรเธอไม่ได้

 

 

พอออกมาแล้วเสี่ยวเชี่ยนก็ขับรถพาต้าอีออกไป เสี่ยวเชี่ยนถามต้าอี

 

 

“กังวลบ้างหรือเปล่า”

 

 

“กังวลอะไรเหรอ”

 

 

“ก็กังวลว่าอีกหน่อยเถ้าแก่เล็กจะกลั่นแกล้งเธอ”

 

 

เถ้าแก่เล็กฉลาดขนาดนั้นคงไม่ถึงกับดูไม่ออกว่าทำไมลูกศิษย์ถึงถูกเชิญไปกินแตงโมที่นั่น

 

 

“ฉันคิดว่าเถ้าแก่เล็กคงไม่ใช่คนที่แค้นฝังหุ่นอะไรขนาดนั้น เขาไม่มีทางแกล้งฉันเรื่องเรียนเพราะเรื่องแค่นี้หรอก ต่อให้แกล้งจริง ถ้าฉันทำได้ดีเขาก็หาที่ติไม่ได้ คิดเสียว่าเป็นบททดสอบก็แล้วกัน”

 

 

เสี่ยวเชี่ยนพยักหน้า นี่เป็นเหตุผลสำคัญที่เธอชอบต้าอี ใจกว้าง ไม่คิดเล็กคิดน้อย

 

 

คนเป็นบอสต่างชอบลูกน้องแบบนี้ ทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับงาน ไม่คิดมากในเรื่องที่ไม่จำเป็น มีความสามารถ คุมปากตัวเองได้ ทีมต้องการคนแบบนี้ไปร่วมงาน

 

 

“ฉันจะบอกเหตุผลของฉันให้เธอฟัง ฉันเห็นด้วยกับความคิดเธอที่ว่าเถ้าแก่เล็กไม่แกล้งเธอหรอก แต่เหตุผลของฉันต่างกัน ฉันวิเคราะห์ว่าเถ้าแก่เล็กไม่กล้ามีปัญหากับเถ้าแก่ใหญ่ตรงๆหรอก เขาอาจจะไม่ได้ดีกับเธอมาก แต่ไม่มีทางแกล้งเธอแน่นอน เพราะเขารู้ว่ามีฉันปกป้อง เธอดูนะเรื่องเดียวกันแท้ๆ แต่เธอมองอย่าง ฉันก็มองอีกอย่าง”

 

 

“แล้วใครถูกล่ะ”

 

 

“ถูกหมด เรื่องเดียวกันมองได้หลายมุม บทสรุปที่ได้ก็ไม่เหมือนกัน และทุกบทสรุปก็อาจสมเหตุสมผลหมดด้วย บางครั้งบทสรุปที่ต่างกันล้วนถูกหมด เธอเป็นจิตแพทย์ต้องรู้จักตั้งข้อสังเกตจิตใจคนไข้ในหลายๆมุม แบบนั้นถึงจะหาจุดสมดุลระหว่างคนไข้กับพวกเราได้ ถ้าจะพูดให้ชัดขึ้นหน่อยก็ หลังจากที่เธอกลายเป็นจิตแพทย์แล้ว ศัตรูที่แท้จริงก็คือปีศาจในใจเธอ เธอจะหาจุดสมดุลให้ตัวเองยังไง”

 

 

หลังกลับไปต้าอีเอาแต่คิดถึงคำพูดที่คุยกับเสี่ยวเชี่ยนในวันนี้ ส่วนเสี่ยวเชี่ยนพอกลับถึงบ้านก็เอาสมุดบันทึกออกมาแล้วเริ่มจดบันทึกเกี่ยวกับการใช้ความรุนแรงในครอบครัว

 

 

ต้นตอของการใช้ความรุนแรงในครอบครัวมาจากความคิดสามีเป็นใหญ่ที่มีมานับพันปี อำนาจของพ่อและอำนาจของสามีขยะทางความคิดเหล่านี้ตกทอดมาเป็นร้อยเป็นพันปีอยู่ในใจของใครหลายคน ผู้ชายที่มีความคิดแบบนี้เห็นผู้หญิงเป็นสิ่งของ ก่อให้เกิดการใช้ความรุนแรง พฤติกรรมแบบนี้ก็เกี่ยวเนื่องกับรูปแบบการใช้ชีวิตกับพ่อแม่ในวัยเด็ก เด็กที่โตมาในสภาพแวดล้อมที่มีการใช้ความรุนแรงภายในครอบครัว พ่อมีอำนาจสูงในบ้าน ก็จะมีพฤติกรรมชอบใช้ความรุนแรง

 

 

 ส่วนรูปแบบการแก้ปัญหาเรื่องแบบนี้ก็เหมือนกับเรื่องที่เธอจัดการเถ้าแก่ใหญ่ที่ใช้ต้าอีทำงานประหนึ่งเป็นคนใช้

 

 

เมื่อเกิดการใช้ความรุนแรงขึ้นภายในบ้านครั้งแรก ก็ให้รวบรวมพลังทั้งหมดสู้กลับ มีแรงเท่าไรใช้ให้หมด มีญาติกี่คนก็ขนมา สู้ให้ถึงที่สุด ให้อีกฝ่ายรู้สึกได้ถึงความร้ายกาจ ครั้งหน้าถ้าอยากลงมืออีกก็จะเกรงกลัว

 

 

แต่ถ้าเป็นผู้ชายที่ใช้ความรุนแรงภายในครอบครัวมาแล้วหลายครั้งแบบนั้นก็ต้อง—

 

 

เสี่ยวเชี่ยนหยุดเขียนแล้วขึ้นบรรทัดใหม่ว่า

 

 

รอบทสรุปจากต้าอี

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+