แม่ปากร้ายยุค​ 80 1047 ซุนเยว่อู่พ่อผู้ให้กำเนิด

Now you are reading แม่ปากร้ายยุค​ 80 Chapter 1047 ซุนเยว่อู่พ่อผู้ให้กำเนิด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1047 ซุนเยว่อู่พ่อผู้ให้กำเนิด

ตอนที่ 1047 ซุนเยว่อู่พ่อผู้ให้กำเนิด

โต้วโต้วไม่เพียงฟ้องร้องหรงจี้เหมยในข้อหายักยอกค่าเลี้ยงดูและเครื่องประดับทองของหล่อนเท่านั้น แต่ยังกล่าวหาว่าหรงจี้เหมยละเมิดสิทธิ์ขั้นพื้นฐาน ขัดขวางไม่ให้หล่อนไปเรียน และยังพยายามขายหล่อน

แต่หรงจี้เหมยยืนยันว่าเป็นโต้วโต้วเองที่สมัครใจมอบเงินค่าเลี้ยงดูบุตรเป็นค่าครองชีพของครอบครัว

ส่วนที่ไม่ให้หล่อนไปโรงเรียน เป็นเพราะครอบครัวยากจนมาก

หล่อนต้องการขายโต้วโต้วเหรอ? นั่นมันเรื่องไร้สาระ

หล่อนแค่อยากหาครอบครัวที่เพียบพร้อมสำหรับโต้วโต้ว เพื่อที่เด็กน้อยจะได้มีชีวิตที่ดีโดยไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารและเสื้อผ้า

แม้รู้ว่าหรงจี้เหมยกำลังแก้ตัว แต่สุดท้ายมันก็เป็นเรื่องยากสำหรับหรงจี้เหมยที่จะทำงานกวาดถนนและจ่ายค่าเล่าเรียนให้กับลูกสี่คน

สำหรับการไม่อนุญาตให้โต้วโต้วเข้าโรงเรียน ในขณะที่ปล่อยให้เด็กอีกสามคนเรียนอยู่นั้นสามารถพิสูจน์ได้ว่าหรงจี้เหมยมีความลำเอียง อย่างไรก็ตามการเลี้ยงลูกแบบลำเอียงนั้นไม่ผิดกฎหมาย

หลังจากการสอบสวนของศาลและตำรวจอย่างละเอียดแล้ว ข้อกล่าวหาเดียวที่สามารถฟ้องร้องหรงจี้เหมยคือการยักยอกค่าเลี้ยงดูบุตรและเครื่องประดับทองของโต้วโต้ว นอกนั้นไม่พบหลักฐานเพียงพอที่จะเอาความในเรื่องอื่นได้

ท้ายที่สุดคู่รักที่เกือบจะซื้อโต้วโต้วก็ไม่กล้ายอมรับว่าต้องการซื้อลูก ซึ่งมันผิดกฎหมาย

พวกเขาพูดเพียงว่าต้องการรับเลี้ยงเด็ก

ศาลสั่งให้หรงจี้เหมยคืนค่าเลี้ยงดูและเครื่องประดับทองคำของโต้วโต้วภายในสามเดือน ไม่อย่างนั้นหล่อนจะถูกตัดสินลงโทษ

หรงจี้เหมยตื่นตระหนกจนร้องไห้ บอกว่าเงินเลี้ยงดูบุตรและเครื่องประดับทองคำของโต้วโต้วล้วนถูกโจรขโมยไป และหล่อนไม่ได้เป็นคนยักยอกเงินเหล่านั้น ทว่าศาลปฏิเสธที่จะรับฟัง

เพื่อหลีกเลี่ยงการจำคุก หรงจี้เหมยพยายามยืมเงินจากทุกที่ แต่ไม่มีใครกล้าให้ยืม เพราะกลัวว่าหล่อนจะไม่จ่ายคืน จากนั้นพวกเขาจะเรียกร้องจากใครได้?

ครึ่งเดือนต่อมา หรงจี้เหมยยังคงไม่อาจยืมเงินมาได้ หล่อนจึงมีความคิดที่จะหลบหนีอีกครั้ง

ครั้งนี้ต้องหนีไปให้ไกล อยู่ในหูเป่ยไม่ได้แล้ว เนื่องจากถูกพบตัวได้ง่ายเกินไป

หล่อนไม่ได้วางแผนที่จะพาโต้วโต้วไปด้วย และตัดสินใจให้เด็กน้อยดูแลตัวเอง

ใครบอกให้นังเด็กเลวนี่ฟ้องร้องแม่ตัวเอง!

หรงจี้เหมยแอบซื้อตั๋วรถไฟ ก่อนจะหนีไปพร้อมกับลูกฝาแฝดและจิงจิง

กลุ่มคนทั้งสี่ขึ้นรถไฟและเพิ่งหาที่นั่งได้ สามีภรรยาคู่หนึ่งก็เดินเข้ามาพร้อมกับลูกสาวสองคน

ชายคนนั้นพูดอย่างสุภาพกับหรงจี้เหมย “สหาย โปรดลุกด้วยเถอะครับ ที่นั่งเหล่านี้เป็นของพวกเรา”

“ที่นั่งเหล่านี้เป็นของคุณเหรอ? คุณเขียนชื่อกำกับไว้หรือไง? หรือว่าคุณพูดคุยและพวกมันตกลงที่จะเป็นของคุณ?”

หรงจี้เหมยหันศีรษะกลับไปพลางกล่าวคำอย่างดุเดือด

แต่เมื่อสบตากับชายคนนั้น ทั้งคู่ก็แข็งค้างไปทันที

ดวงตาของชายคนนั้นเผยความลุกลี้ลุกลน เขาพูดกับภรรยาและลูกสาวสองคนด้านข้างว่า “เราไปหาที่นั่งว่างที่อื่นกันเถอะ”

ขณะกล่าว เขาก็พยายามรุนหลังของทุกคนออกไป

แต่ภรรยาขัดขืน “เราซื้อตั๋วสำหรับที่นั่งทั้งสี่ แล้วทำไมเราถึงต้องให้ที่นั่งตัวเองกับคนอื่นด้วยล่ะ?”

ชายคนนั้นกระซิบ “ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผู้หญิงที่จะดูแลลูกสามคนด้วยตัวเอง ยิ่งต้องเดินทางไกล หากช่วยได้ก็ช่วยไปเถอะ”

หญิงสาวมองเขาราวกับไม่เคยรู้จักชายคนนี้ ทั้งสองอยู่ด้วยกันมานับสิบปี ตั้งแต่เมื่อใดที่สามีของหล่อนเป็นคนชอบช่วยเหลือคนอื่น?

ในเวลานี้เองหรงจี้เหมยก็กล่าวคำขอโทษ “มันเป็นความผิดเราเองค่ะ เราไม่ควรแย่งที่นั่งของพวกคุณ”

จากนั้นหล่อนก็ลุกขึ้นพร้อมเด็กทั้งสามคน และยกที่นั่งให้ครอบครัวสี่คนที่เพิ่งมา

ผู้หญิงคนนั้นมองหรงจี้เหมยด้วยสายตาฉงน ก่อนนั่งลงพร้อมกับลูกสาวสองคน

ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา รถไฟก็มาถึงสถานีเจิ้งโจว

ชายคนนั้นลุกขึ้นยืนและกล่าวด้วยรอยยิ้มกับหรงจี้เหมย “เรากำลังลงที่สถานีนี้ คุณและลูก ๆ นั่งที่ของเราเถอะครับ”

หรงจี้เหมยโบกมือ “ไม่เป็นไรค่ะ เราเองก็ต้องลงเหมือนกัน”

ทั้งต้าซวง เสี่ยวซวง และจิงจิงต่างก็มองดูหล่อนด้วยความสับสน

หล่อนไม่ได้บอกพวกเขาหรือว่าจะพาไปที่ซานตง ที่ซึ่งสามารถหาเงินเลี้ยงชีพได้มากมาย? ทำไมถึงต้องการลงที่สถานีเจิ้งโจวอย่างกะทันหันล่ะ?

หรงจี้เหมยขยิบตาให้พวกเขา เป็นสัญญาณว่าอย่าพูดอะไร เด็กทั้งสามจึงปิดปากแน่น

ใบหน้าของชายคนนั้นแข็งทื่อ ก่อนที่เขาจะลงจากรถไฟพร้อมภรรยาและลูกสาว

จากนั้นหรงจี้เหมยก็ลงจากรถไฟพร้อมเด็กทั้งสามคน

หลังลงจากรถไฟแล้ว ชายหนุ่มก็รีบเดินออกไปนอกสถานีรถไฟพร้อมกับภรรยาและลูกสาว

ภรรยาถามอย่างงุนงงว่า “ทำไมคุณถึงเดินเร็วขนาดนี้ล่ะ?”

ขณะที่พูด เขาแสร้งทำเป็นมองย้อนกลับไปโดยไม่ตั้งใจ แต่ไม่พบหรงจี้เหมยและเด็กทั้งสาม จึงคิดว่าเขาสามารถสลัดคนเหล่านั้นทิ้งได้แล้ว และแอบถอนหายใจยาว

หลังจากพักอยู่ที่บ้านแม่ยายสองถึงสามวัน ชายคนนั้นก็กลับมาที่เมืองเจียงเฉิงพร้อมภรรยาและลูก ๆ ของเขา

เขามีวันหยุดประจำปีเพียงห้าวันและต้องกลับไปทำงาน

ในวันที่สองหลังจากกลับมาที่เมืองเจียงเฉิง ชายคนนั้นก็ไปทำงานตามปกติโดยสวมชุดสูทและรองเท้าหนัง

เขาเดินไปได้ครึ่งทาง ก่อนจะได้ยินคนเรียกชื่อเสียงดัง “ซุนเยว่อู่!”

หัวใจซุนเยว่อู่เต้นรัว รีบหันหน้ากลับไปมองและเห็นบุคคลที่เขาไม่อยากเจอมากที่สุด… หรงจี้เหมย

เขานึกว่าตัวเองสลัดหล่อนได้แล้ว แต่ไม่คาดคิดว่าหล่อนจะมาดักรอเขาอยู่ที่นี่

ซุนเยว่อู่มองไปรอบ ๆ อย่างกระวนกระวายใจ ดึงหรงจี้เหมยไปในที่ลับตาและถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า “คุณพยายามทำอะไรกันแน่?”

หรงจี้เหมยตอบกลับ “ฉันไม่ได้พยายามทำอะไรเลย แค่อยากบอกคุณว่า ฉันอยากยกลูกสาวของเราให้คุณเลี้ยง”

“ไม่มีทาง!” ซุนเยว่อู่ปฏิเสธอย่างเด็ดขาด

บ้านที่เขาอาศัยอยู่ตอนนี้ รวมถึงหน้าที่การงานปัจจุบันล้วนได้รับการจัดการโดยพ่อตาของเขา

แม้ว่าพ่อตาของเขาจะเกษียณแล้ว และกลับมาที่เมืองเจิ้งโจวบ้านเกิดเพื่อใช้ชีวิตที่เหลือ

แต่ถ้าเขาทำผิดกับลูกสาวของอีกฝ่าย พ่อตาสามารถทวงคืนทุกสิ่งที่เคยมอบให้เขาได้ เวลานั้นเขาอาจไม่เหลืออะไรอีกเลย

เขาจึงไม่สามารถพาลูกกลับไปเลี้ยงดูได้ ถ้าภรรยาของเขารู้เรื่องลูกสาวนอกสมรส หล่อนอาจจะขอหย่าเลยก็ได้?

หรงจี้เหมยเลิกคิ้ว “คุณบอกว่าไม่มีทางงั้นเหรอ? แล้วทำไมฉันต้องเลี้ยงดูลูกของเราเพียงคนเดียวด้วย?”

ชายคนนั้นพูดด้วยใบหน้ามืดมน “คุณอย่าลืมสิ คุณเป็นคนที่หลอกผมในตอนนั้น และเด็กคือสิ่งที่คุณต้องการ!”

“แล้วยังไง? สุดท้ายเด็กคนนั้นก็เป็นลูกของเรา!”

ชายคนนั้นพลันยิ้ม “ผมไม่ยอมรับ แล้วคุณจะทำอะไรผมได้?”

หรงจี้เหมยยิ้มเย้ยหยัน “คุณอาจจะยังไม่รู้ แต่ตอนนี้โรงพยาบาลผู่จี้สามารถตรวจดีเอ็นเอเพื่อพิสูจน์ความสัมพันธ์ทางสายเลือดได้แล้ว คุณอยากลองดูไหมล่ะ?”

ซุนเยว่อู่ตกตะลึง หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ถามอย่างเถรตรง “บอกผมมา คุณต้องการอะไรเพื่อจะปล่อยผมไป?”

“นำเงินมาให้ฉัน 40,000 หยวน แล้วฉันกับลูกจะไม่ติดต่อคุณอีกนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป”

ซุนเยว่อู่กล่าว “เพียงเพราะคุณบอกว่าเรามีลูกด้วยกัน แต่นั่นคือลูกของเราจริงเหรอ? แล้วถ้าเด็กคนนั้นตายก่อนกำหนดล่ะ? คุณกำลังพยายามแบล็กเมล์ผมโดยใช้เด็กที่เกิดจากคนอื่นหรือเปล่า?”

“คุณกลัวว่าฉันจะโกหกสินะ” หรงจี้เหมยพยักหน้า “ได้ ฉันจะพาโต้วโต้วมาพบคุณ จากนั้นคุณจะทำการตรวจดีเอ็นเอพร้อมหล่อน”

ตอนเที่ยง ซุนเยว่อู่ได้พบกับโต้วโต้ว

แม้เด็กน้อยจะหน้าตาน่ารัก แต่เขาก็ไม่อาจชอบหล่อนได้ลง

ภรรยาของเขาได้ให้กำเนิดลูกสาวสองคนแล้ว เขาไม่ต้องการลูกสาวอีก หากเป็นลูกชาย เขาอาจยอมพิจารณาได้

พ่อและลูกสาวทำการตรวจดีเอ็นเอ และผลออกมาในอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา

โต้วโต้วและซุนเยว่อู่เป็นพ่อลูกกันจริง

โต้วโต้วตกใจมาก ในเมื่อซุนเยว่อู่เป็นพ่อผู้ให้กำเนิดของหล่อน แล้วหลี่กวงจื้อล่ะ เป็นพ่อเลี้ยงของหล่อนเหรอ?

แล้วทำไมหรงจี้เหมยและหลี่กวงจื้อถึงโกหกหล่อนว่า หลี่กวงจื้อเป็นพ่อผู้ให้กำเนิดของหล่อน?

โดยเฉพาะหลี่กวงจื้อ ซึ่งใจดีกับหล่อนมาก

เป็นไปได้ไหมว่าเขาพยายามเอาใจหล่อน และทำให้หล่อนไว้วางใจจนยอมมอบเงินค่าเลี้ยงดูบุตรแก่พวกเขา?

เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้ โต้วโต้วพลันรู้สึกหนาวสะท้านในใจ

ในขณะที่แม่คนอื่นทำทุกอย่างเพื่อลูกตัวเอง แต่ดูเหมือนว่าแม่ของหล่อนจะสนใจแต่แผนการต่อต้านหล่อนเท่านั้น

แม่โหดร้ายกับหล่อนมากเกินไป โดยจงใจทิ้งหล่อนไว้ข้างหลัง และหนีไปพร้อมกับน้องสองคนและจิงจิง

โต้วโต้วไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกลับมาทำไม แต่บอกหล่อนว่ามีเรื่องต้องทำ

ซ้ำพ่อผู้ให้กำเนิดก็ดูเหมือนจะเกลียดหล่อน สายตาที่จ้องมองมาราวกับคาดหวังอยากให้หล่อนอันตรธานหายไป

โต้วโต้วรู้สึกเศร้าเสียใจ ทั้งพ่อและแม่ของหล่อนต่างก็ไม่ชอบหล่อนเลย

แม่หลินและพ่อฟางดีต่อหล่อนมาก แต่พวกเขาไม่ต้องการหล่อนอีกต่อไปแล้ว

หล่อนคิดในใจ ถ้าไม่ใช่เพราะน้องชาย ต่อให้หล่อนจะทำผิดพลาดครั้งใหญ่ แต่แม่หลินและพ่อฟางจะยังคงให้อภัยและยินดีต้อนรับหล่อนกลับบ้าน

แต่เมื่อน้องชายมาเกิด หล่อนก็กลายเป็นคนไร้ค่าทันที~

หรงจี้เหมยส่งโต้วโต้วไปซื้ออมยิ้มและมองซุนเยว่อู่จากด้านข้าง “พรุ่งนี้นำเงินมาให้ฉัน 40,000 หยวน ไม่งั้นก็รับผลที่ตามมาซะ!”

ซุนเยว่อู่กล่าว “มีแค่ 20,000 หยวน จะเอาหรือไม่เอา”

หรงจี้เหมยเลิกคิ้วถาม “คุณไม่กลัวว่าฉันจะนำเรื่องนี้ไปบอกภรรยาของคุณหรือไง?”

“กลัวสิ ทำไมจะกลัวล่ะ! แต่ผมหาเงินมาได้แค่ 20,000 หยวน แล้วคุณจะให้ผมทำยังไง?”

หรงจี้เหมยครุ่นคิดอยู่นาน ค่าเลี้ยงดูและเครื่องประดับทองคำของโต้วโต้วไม่ควรมีมูลค่าน้อยกว่า 30,000 หยวน 20,000 หยวนนั้นน้อยเกินไป!

หล่อนจึงทะเลาะกับซุนเยว่อู่ โดยยืนกรานว่าจะต้องได้เงิน 30,000 หยวน ไม่อย่างนั้นหล่อนจะเปิดโปงเรื่องลูกสาวนอกสมรสให้ภรรยาของเขาได้รู้อย่างแน่นอน

หลังจากโต้เถียงกันพักหนึ่ง ซุนเยว่อู่จึงต้องยอมไปหยิบยืมจากคนอื่น

ไม่กี่วันต่อมา เงินสดที่ได้รับ 30,000 หยวนก็ถูกส่งมอบให้กับหรงจี้เหมย

หรงจี้เหมยมอบเงินให้ศาลและรอดพ้นจากคุกอีกครั้ง

เจ้าหน้าที่ศาลได้ติดต่อคณะกรรมการประจำย่านที่หรงจี้เหมยอาศัยอยู่ โดยจัดให้มีเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นสองคนดูแลเงินของโต้วโต้ว

มอบเงินแก่หรงจี้เหมย 30 หยวนทุกเดือนเพื่อเป็นค่าครองชีพของโต้วโต้ว

โต้วโต้วกลับบอกว่าหล่อนไม่อยากอยู่กับแม่ และอยากกลับไปอยู่บ้านของหลินม่าย

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

ถึงมีคำบอกไงว่าถ้าคิดจะรักสนุกก็ต้องป้องกันด้วย ไม่งั้นก็มีลูกแบบไม่ตั้งใจให้เกิดมาจนกลายเป็นปัญหาคาราคาซังแบบนี้ เฮ้อ ทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงไม่ควรเป็นพ่อคนแม่คนเลย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด