แม่ปากร้ายยุค​ 80 1116 ความสงสัย

Now you are reading แม่ปากร้ายยุค​ 80 Chapter 1116 ความสงสัย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1116 ความสงสัย

……….

ตอนที่ 1116 ความสงสัย

เวลานี้เป็นวันที่สิบห้ามกราคม ท้องฟ้าในนิวยอร์กเต็มไปด้วยหิมะ

ฟางจั๋วหรานขับรถไปรับหลินม่ายที่มหาวิทยาลัยทันทีที่เขาเลิกงานเพื่อไปร่วมงานเทศกาลโคมไฟ

พอขับรถไปถึงหน้าประตูมหาวิทยาลัย หลินม่ายก็โทรบอกเขาว่าไม่ต้องขับเข้ามา และเธอกำลังจะเลิกเรียนเร็ว ๆ นี้

ฟางจั๋วหรานนั่งอยู่ในรถและรอสักครู่ ก่อนเขาจะเห็นหลินม่ายวิ่งออกจากโรงเรียนโดยมีกระเป๋านักเรียนอยู่บนหลัง

แม้ว่าเธอจะเป็นแม่ของลูกน้อยวัยสามขวบและกำลังตั้งท้องลูกอีกคน แต่ใบหน้าของหลินม่ายยังคงอ่อนเยาว์เหมือนกับเด็กนักเรียนมัธยมปลาย

ฟางจั๋วหรานลงจากรถและทักทายภรรยาตัวน้อยของเขา

ในเวลานี้ จู่ ๆ รถจักรยานยนต์ก็ลื่นไถลเนื่องจากน้ำแข็งและหิมะบนพื้น ซึ่งกำลังจะพุ่งเข้ามาชนหลินม่ายที่กำลังวิ่งมาหาฟางจั๋วหราน

ฟางจั๋วหรานรีบวิ่งไปขวางรถจักรยานยนต์ด้วยความสิ้นหวัง รถจักรยานยนต์ คนขี่ และฟางจั๋วหรานต่างก็ล้มลงพื้น ขณะที่หลินม่ายไม่ได้รับอันตรายใด ๆ

หลินม่ายจับมือของหนึ่งของเขาพลางถามด้วยความเป็นห่วง “คุณเป็นอะไรมากไหม?”

ฟางจั๋วหรานตอบ “ไม่เจ็บเท่าไหร่ ผมใส่เสื้อผ้าหนาอยู่”

หลินม่ายรู้สึกโล่งใจ

คนขี่รถจักรยานยนต์คันนี้เป็นเด็กผิวดำ แม้ว่าเขาจะล้มกระแทกพื้นอย่างแรง แต่เขาก็ไม่ได้ตำหนิฟางจั๋วหราน

เขาเอาแต่ขอโทษและอธิบายว่า หากบนพื้นไม่มีหิมะและเป็นน้ำแข็ง รถจักรยานยนต์ของเขาไม่ลื่นไถลและเกือบจะชนหลินม่าย

สิ่งที่เด็กผิวดำพูดเป็นความจริงทั้งหมด ฟางจั๋วหรานไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายอับอายและปล่อยเขาไปโดยดี

หลายวันต่อมาเป็นวันวาเลนไทน์ของทางตะวันตก สภาพอากาศที่ฝนตกและหิมะในนิวยอร์กสิ้นสุดลงในที่สุด และดวงอาทิตย์ที่หายไปนานก็ปรากฏให้เห็นอีกครั้ง

ฟางจั๋วหรานบังเอิญกำลังพักผ่อนในวันนั้น

หลังอาหารกลางวัน เขาขับรถไปร้านขายเครื่องประดับชื่อดัง

เมื่อเดือนที่แล้ว เขาได้สั่งทำดอกกุหลาบทองคำซึ่งมีขนาดเท่ากับดอกกุหลาบจริงที่นี่ นอกจากนี้เขาต้องการสั่งต่างหูมุกสีชมพูคู่หนึ่งด้วย

ฟางจั๋วหรานเพิ่งขับรถไปที่ทางเข้าร้านขายเครื่องประดับ และกำลังจะลงจากรถ ทันใดนั้นเขาก็เห็นโคอิซึมิ คานาโกะเดินออกมาจากร้านขายเครื่องประดับ

ฟางจั๋วหรานไม่รีบร้อนที่จะลงจากรถ และต้องการรอกระทั่งโคอิซึมิ คานาโกะเดินไปไกลก่อนจึงจะลงรถ

เขากลัวว่าถ้าลงจากรถเร็ว โคอิซึมิ คานาโกะจะรบกวนเขาอีกเมื่อเจอกัน

ทันทีที่โคอิซึมิ คานาโกะเดินออกจากร้านขายเครื่องประดับ เธอก็เห็นชายผิวดำคนหนึ่งที่เดินเข้ามาขวางทาง

ไม่รู้ว่าชายผิวดำพูดอะไรกับโคอิซึมิ คานาโกะ แต่การแสดงออกของหญิงสาวนั้นน่าเกลียดอย่างมาก

ทั้งสองพูดคุยกันนานกว่าสิบนาที ในที่สุดโคอิซึมิ คานาโกะก็หยิบธนบัตรจำนวนหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเงินและยัดใส่มือของชายผิวดำที่กำลังแสดงสีหน้าเคร่งขรึม

ชายผิวดำสะบัดเงินในมือแล้วจากไปอย่างมีความสุข

คิ้วของฟางจั๋วหรานขมวดเข้าหากันแน่น

ชายผิวดำที่เข้ามาขวางด้านหน้าโคอิซึมิ คานาโกะไม่ใช่ใครอื่น นอกจากชายผิวดำที่ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บที่เอวในสนามบินตอนนั้น

มันเป็นเรื่องบังเอิญเหรอ? ชายคนนั้นรู้จักกับโคอิซึมิ คานาโกะอยู่แล้วหรือเปล่า?

เขาพูดอะไรกับโคอิซึมิ คานาโกะ แล้วทำไมหล่อนถึงให้เงินเขาด้วย?

ฟางจั๋วหรานนั่งอยู่ในรถเป็นเวลาครึ่งชั่วโมงพร้อมกับคำถามมากมายในหัว จากนั้นเขาจึงลงจากรถและเดินเข้าไปในร้านขายเครื่องประดับ

ฟางจั๋วหรานส่งบิลให้กับพนักงานร้าน พนักงานร้านจึงเดินไปหยิบดอกกุหลาบทองคำและต่างหูมุกสีชมพูคู่ที่เขาสั่งออกมา

พนักงานพูดว่า “เมื่อครู่มีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาคะยั้นคะยอขอซื้อต่างหูไข่มุกสีชมพูคู่นี้ด้วยค่ะ”

ฟางจั๋วหรานยิ้มรับ จากนั้นเขาจะขับรถไปรับหลินม่ายที่มหาวิทยาลัยพร้อมกับดอกกุหลาบทองคำบริสุทธิ์และต่างหูมุกสีชมพู

เขารออยู่ข้างนอกไม่กี่นาที ก่อนที่หลินม่ายจะวิ่งออกจากห้องเรียนมาหาเขา

วันนี้เธอสวมหมวกกำมะหยี่สีชมพู เสื้อสเวตเชิ้ตสีชมพูตัวหนา และกางเกงยีนรัดรูป ซึ่งดูสดใสและอ่อนหวานในคราวเดียว

ฟางจั๋วหรานคิดว่า การแต่งตัวของภรรยาวันนี้ดูเข้ากันได้ดีกับต่างหูมุกสีชมพูที่เขาเตรียมไว้

เขาถือดอกกุหลาบทองคำบริสุทธิ์ไว้ในมือขณะเดินเข้าไปหา จากนั้นจึงพูดอย่างเสน่หา “สุขสันต์วันวาเลนไทน์ครับ!”

หลินม่ายส่งเสียงด้วยความประหลาดใจและรับดอกกุหลาบทองคำบริสุทธิ์จากเขา “สุขสันต์วันวาเลนไทน์ค่ะ!” เธอเขย่งเท้าและจูบเขาที่แก้มอย่างรักใคร่

ทั้งคู่จับมือกันและเข้าไปนั่งในรถ

ฟางจั๋วหรานสตาร์ทรถแล้วพูดกับหลินม่ายว่า “ผมโทรหาปู่กับย่าแล้ว เราจะใช้เวลาร่วมกันเย็นนี้และจะไม่กลับไปกินอาหารเย็นที่บ้าน”

หลินม่ายพยักหน้า “ดีค่ะ”

วันวาเลนไทน์เป็นเทศกาลของต่างประเทศ หลังจากพูดคุยกัน ทั้งคู่ก็ไปกินบาร์บีคิวสไตล์ตุรกี

หลินม่ายไม่เคยกินบาร์บีคิวสไตล์ตุรกีมาก่อนและตั้งตารอที่จะได้ลิ้มลอง

ร้านบาร์บีคิวตุรกีที่ฟางจั๋วหรานเลือกนั้น ว่ากันว่าเป็นร้านบาร์บีคิวตุรกีที่เปิดโดยชาวเติร์กแท้ ๆ ทว่าช่างเป็นเรื่องบังเอิญที่โคอิซึมิ คานาโกะอยู่ที่นั่นด้วย

ครั้งนี้หล่อนไม่ได้อยู่คนเดียว แต่อยู่กับเพื่อนผู้ชายชาวญี่ปุ่น

ทันทีที่หลินม่ายและสามีเดินเข้าไปในร้าน โคอิซึมิ คานาโกะก็เห็นพวกเขา

โคอิซึมิ คานาโกะเห็นฟางจั๋วหรานช่วยประคองหลินม่ายอย่างระมัดระวังเหมือนเจ้าหญิง ดวงตาของหล่อนพลันแดงก่ำด้วยความอิจฉา

แค่ท้องไม่ใช่หรือไง ทำไมต้องประคบประหงมขนาดนั้นด้วย?

ฟางจั๋วหรานพบโต๊ะที่ชิดผนัง ทั้งคู่จึงเดินไปนั่งที่โต๊ะนั้น

ฟางจั๋วหรานโบกมือให้พนักงานเสิร์ฟ ไม่นานพนักงานเสิร์ฟก็เดินเข้ามาพร้อมส่งเมนูอาหารให้ด้วยความเคารพ

ทั้งคู่ดูเมนูอาหารด้วยกัน ส่งอาหารที่ต้องการ และส่งเมนูอาหารคืนให้กับพนักงานเสิร์ฟ

โคอิซึมิ คานาโกะกำลังพูดคุยกับเพื่อนชายและเพลิดเพลินกับอาหารอร่อย ขณะลอบชำเลืองมองหลินม่ายและสามีจากหางตา

พวกเขาสั่งอาหารอย่างมีความสุข ซึ่งทำให้หล่อนอึดอัดใจ

สิ่งที่ไม่คาดคิดคือ หลังจากนั้นหล่อนก็ได้เห็นภาพบาดตาบาดใจ

ขณะที่ทั้งคู่กำลังรออาหาร ฟางจั๋วหรานหยิบต่างหูมุกสีชมพูออกมาสวมให้หลินม่ายอย่างอ่อนโยน

โคอิซึมิ คานาโกะที่แอบมองอยู่ไม่ไกลแทบหลั่งน้ำตาออกมาทันที

ต่างหูมุกคู่นั้นเป็นต่างหูที่หล่อนเห็นในร้านเครื่องประดับในตอนบ่าย ตอนนั้นหล่อนอยากซื้อมันมาก แต่พนักงานปฏิเสธที่จะขาย โดยบอกว่าเป็นลูกค้าสั่งทำพิเศษ

ไม่คาดคิดว่าฟางจั๋วหรานจะเป็นคนสั่งทำเพื่อหลินม่าย

หล่อนหลังรักฟางจั๋วหรานมาก ทำไมฟางจั๋วหรานถึงไม่ตอบรับความรู้สึกของหล่อนบ้างเลย

ตราบใดที่เขาเต็มใจที่จะตอบรับความรู้สึก หล่อนก็คงไม่ต้องติดอยู่ในความสัมพันธ์สิ้นหวังที่ไม่สามารถก้าวต่อไปได้เช่นนี้

ทั้งหลินม่ายและสามีต่างก็ไม่ได้สังเกตเห็นดวงตาที่ขุ่นเคืองของโคอิซึมิ คานาโกะ ขณะที่พวกเขาเพลิดเพลินกับอาหารอย่างมีความสุข

หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ฟางจั๋วหรานจ่ายเงินและเดินออกจากร้านพร้อมกับหลินม่าย

แต่เมื่อเดินมาถึงหน้าประตูร้าน พวกเขาเห็นโคอิซึมิ คานาโกะถูกชายขี้เมาคนหนึ่งลากออกไป

โคอิซึมิ คานาโกะดิ้นรนและตะโกนเสียงดัง “ปล่อยฉันนะ เจ้าพวกอันธพาล ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!”

ชายคนนั้นพูดด้วยสายตามึนเมา “ในวันวาเลนไทน์ คุณยังโสด ผมเองก็ยังโสด ทำไมเราไม่มาสนุกด้วยกันหน่อยล่ะ!”

โคอิซึมิ คานาโกะมองฟางจั๋วหรานเพื่อขอความช่วยเหลือ

ฟางจั๋วหรานเพิกเฉยและพาหลินม่ายเข้าไปนั่งในรถ

ขณะที่กำลังปิดประตู หลินม่ายกล่าวอย่างลังเล “เราควรโทรหาตำรวจดีไหมคะ?”

ฟางจั๋วหรานสตาร์ทรถ “เดี๋ยวคนอื่นที่ผ่านมาก็โทรแจ้งตำรวจให้เอง”

หลินม่ายรู้สึกโล่งใจ

โคอิซึมิ คานาโกะมองรถแลนด์โรเวอร์ของฟางจั๋วหรานขับห่างออกไปเรื่อย ๆ หล่อนสะบัดมือของชายคนนั้นออกและเดินไปที่รถของตัวเองด้วยความโกรธเกรี้ยว

ผู้ชายคนนั้นคือเพื่อนผู้ชายของโคอิซึมิ คานาโกะเอง เมื่อเห็นว่าหญิงสาวกำลังจากไป เขาก็เดินตามไปและง้างมือตบหน้าหล่อน “คุณแค่อยากใช้ผมแล้วก็ทิ้งไปงั้นสิ? มันไม่มีของฟรีแบบนั้นในโลกหรอกนะ!”

หลังจากนั้น ไม่ว่าโคอิซึมิ คานาโกะจะดิ้นรนอย่างหนักเพียงใด เขาก็ใช้ฝ่ามือทุบหล่อนจนสลบ ก่อนจะพาหล่อนขึ้นรถและขับออกไป

วันรุ่งขึ้น ฟางจั๋วหรานติดต่อนักสืบเอกชนชื่อเจอรี่ที่หลินม่ายเคยใช้บริการมาก่อน

โดยขอให้นักสืบช่วยสอบสวนความเป็นมาของชายหนุ่มผิวดำชื่อฟลอยด์ซึ่งทำให้เขาบาดเจ็บที่สนามบิน

ที่ฟางจั๋วหรานว่าจ้างเจอรี่ เพราะเขารู้สึกว่านักสืบเอกชนคนนี้มีฝีมือดี

เจอรี่ทำตามความคาดหวัง และบอกฟางจั๋วหรานถึงผลการสอบสวนในอีกสองวันต่อมา

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น บังเอิญแบบจังหวะนรกมาก

ปล่อยมือเขาไปเถอะสาว ทำยังไงเขาก็ไม่เหลียวแลเธอหรอก อย่าทำให้ตัวเองเจ็บปวดต่อไปอีกเลย

ไหหม่า(海馬)

……….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด