แม่ปากร้ายยุค 80 1119 บุกไปอย่างกล้าหาญ
ตอนที่ 1119 บุกไปอย่างกล้าหาญ
……….
ตอนที่ 1119 บุกไปอย่างกล้าหาญ
แม้ว่าเขาจะชนะคดีและได้รับเงินไปแล้ว แต่บุคลิกจอมจู้จี้จุกจิกของมันราดก็กลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง
ไม่มีบริษัทไหนกล้าจ้างเขาเป็นที่ปรึกษากฎหมาย แม้กระทั่งหลินม่ายก็ด้วย
เหตุผลหลักคือ หากมันราดจู้จี้จุกจิกเกินไป นายจ้างอาจดุเขาไม่ได้
แต่ก็ยังเป็นเรื่องปกติที่จะขอให้เขาสู้คดีความให้
ทันทีที่มันราดลงมือ สื่อที่เผยแพร่เรื่องเท็จเกี่ยวกับโรงงานอาหารติ่งเซียงต่างก็พากันตื่นตระหนก
พวกเขากลัวว่า หากแพ้คดีจะต้องจ่ายค่าชดเชยความเสียหายชื่อเสียงมหาศาล
ดังนั้นบุคคลที่อยู่เบื้องหลังจึงถูกเปิดเผยอย่างรวดเร็ว
โดยบอกว่าคนผู้นั้นติดสินบนพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงแพร่ข่าวลือเพื่อทำลายชื่อเสียงของโรงงานอาหารติ่งเซียง
ด้วยเบาะแสที่พวกเขาให้มา มันราดติดตามเบาะแสกระทั่งพบว่าเป็นประธานบริษัทอึนซาน
เพราะผู้ที่ใช้เงินซื้อสื่อเหล่านั้นล้วนเป็นผู้จัดการของบริษัทอึนซาน
แต่ปาร์คซุนกิกลับปฏิเสธและจัดงานแถลงข่าวเพื่อแก้ตัว
การติดสินบนสื่อหลายแห่งเพื่อป้ายสีโรงงานอาหารติ่งเซียงของหลินม่ายล้วนเป็นพฤติกรรมส่วนตัวของผู้จัดการเหล่านั้น และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทอึนซาน
แต่ไม่มีใครนอกจากคนโง่เขลาที่จะเชื่อคำพูดเหล่านี้
ผู้บริโภคได้สรุปว่าบริษัทอึนซานจงใจทำลายชื่อเสียงของโรงงานอาหารติ่งเซียง เนื่องจากไม่สามารถแข่งขันกับโรงงานติ่งเซียงของหลินม่ายได้
ในเมื่อพวกเขาไม่สามารถแข่งขัน นั่นย่อมชัดเจนแล้วว่าคุณภาพผลิตภัณฑ์พวกเขาด้อยกว่า
หลินม่ายยื่นฟ้องสื่ออเมริกันที่เผยแพร่ข่าวลือเกี่ยวกับโรงงานอาหารติ่งเซียงในทางเสียหาย ซึ่งสร้างกระแสความนิยมในหมู่ผู้บริโภค ขณะเดียวกันยังทำให้ชื่อเสียงของบริษัทอึนซานเสื่อมเสียลงอีกด้วย
ปัจจุบันบริษัทอึนซานไม่เพียงไม่สามารถขายกิมจิได้เท่านั้น แต่ยอดขายผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ก็ลดลงเช่นกัน
ปาร์คซุนกิคิดว่านี่เป็นการโจมตีครั้งสุดท้าย แต่เขาไม่คาดคิดว่าการโจมตีระลอกที่สามของหลินม่ายจะเกิดขึ้นในทันที
โรงงานอาหารติ่งเซียงของหลินม่ายออกผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่บริษัทอึนซานมี
ตัวอย่างเช่น เครื่องปรุงรสที่ใช้ในบิบิมบับ หรือเครื่องปรุงรสสำหรับกิมจิจิเก โรงงานอาหารรสชาติพิเศษติ่งเซียงล้วนมีผลิตภัณฑ์เหล่านั้นทั้งหมด
สิ่งสำคัญคือเครื่องปรุงรสที่ผลิตโดยโรงงานอาหารติ่งเซียงซึ่งเลียนแบบผลิตภัณฑ์ของบริษัทอึนซานกลับมีรสชาติอร่อยมากกว่า
ท้ายที่สุดแล้ว แผ่นดินใหญ่ก็เป็นประเทศที่รุ่มรวยทางอาหาร การเลียนแบบเครื่องปรุงรสต่าง ๆ ที่ผลิตโดยบริษัทอึนซานจึงไม่ใช่เรื่องยาก
ยิ่งไปกว่านั้น หลินม่ายยังใช้เงินจำนวนมากเพื่อจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารอเมริกันชั้นนำหลายรายเพื่อศึกษาสูตรเครื่องปรุงรสของบริษัทอึนซาน และทำงานร่วมกับช่างเทคนิคด้านอาหารในประเทศ
แม้ว่าจะไม่สามารถเลียนแบบได้ 100% และสูตรของเครื่องปรุงต่าง ๆ ก็เป็นความลับของบริษัท แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา พวกเขาสามารถวิเคราะห์ได้ถึง 89%
เมื่อรวมกับความคิดสร้างสรรค์ของตนเอง การก้าวข้ามอย่างง่ายดายจึงไม่ใช่ปัญหา
หลินม่ายยังสนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมการขายต่าง ๆ ในไม่ช้าก็เข้ายึดครองตลาดเครื่องปรุงรสของสหรัฐอเมริกาและบีบบริษัทอึนซานไปสู่ขอบเหว
ขณะนี้ในสหรัฐอเมริกา ยกเว้นนักเรียนต่างชาติและชาวแดนผักดอง แทบไม่มีผู้บริโภคคนใดซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัทอึนซาน
โรงงานอาหารติ่งเซียงแข่งขันกับบริษัทในเครือของบริษัทอึนซาน ทำให้เกิดความปั่นป่วนในสื่อ
นักเรียนต่างชาติและผู้คนจากทั้งสองประเทศเกือบทั้งหมดลงเอยด้วยการทะเลาะกันเอง
แดนผักดองในยุคนี้ได้รับการพัฒนามากกว่าจีนมาก และได้รับความสนับสนุนจากชาวอเมริกัน
นักเรียนต่างชาติและคนแดนผักดองมักจะเผยท่าทางเย่อหยิ่งเสมอเมื่อทะเลาะกับนักเรียนชาวจีนและชาวจีนโพ้นทะเล
แต่มีประชากรชาวจีนและมีนักเรียนชาวจีนโพ้นทะเลมีจำนวนมาก เพียงแค่น้ำลายหนึ่งหยดจากแต่ละคนก็สามารถทำให้พวกเขาจมน้ำตายได้
ชาวแดนผักดองและนักเรียนต่างชาติไม่เคยชนะในการทะเลาะกับชาวอเมริกันเชื้อสายจีนเลย จนทำให้เสียหน้าอย่างมาก
ชาวอเมริกันไม่เพียงล้มเหลวในการช่วยพวกเขาเท่านั้น แต่เขายังหยิบยกหัวข้อเรื่องผักดองเผ็ดทางโทรทัศน์ โดยพูดคุยกันในหมู่นักเรียนต่างชาติชาวแดนผักดองและชาวแผ่นดินใหญ่
นักเรียนต่างชาติจากแผ่นดินใหญ่พูดเพียงสิ่งเดียว ว่าผักดองเผ็ดเป็นเพียงกับข้าวอย่างหนึ่งในจีน แต่เป็นอาหารประจำชาติของแดนผักดอง
เอกสารกองหนาของนักเรียนชาวแดนผักดองที่พิสูจน์ว่าผักดองเผ็ดแสนอร่อยเพียงใดนั้นไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง
ถึงกระนั้นหลินม่ายก็ยังปฏิเสธที่จะปล่อยบริษัทอึนซานไป
บริษัทอึนซานไม่เพียงจำหน่ายผักดองเผ็ด ซอสพริก และเครื่องปรุงรสต่าง ๆ ในซูเปอร์มาร์เก็ตเท่านั้น แต่ยังเป็นซัพพลายเออร์ให้กับอุตสาหกรรมจัดเลี้ยงและบริษัทอาหารหลายแห่งอีกด้วย
ดังนั้นแม้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทอึนซานจะขายได้ไม่ดีในซูเปอร์มาร์เก็ต แต่ก็ยังสามารถอยู่รอดได้ เนื่องจากช่องทางการขายดังกล่าว
หลินม่ายวางแผนที่จะยึดช่องนี้ของบริษัทอึนซาน ทำให้พวกเขาไม่มีทางรอดอีก
เพื่อส่งเสริมให้พนักงานขายคว้าธุรกิจซัพพลายเออร์ของบริษัทอึนซาน หลินม่ายจึงประกาศว่าสำหรับใครก็ตามที่ชนะบริษัทซัพพลายเออร์ของบริษัทอึนซานได้ จะได้รับโบนัสเริ่มต้นที่ 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ
ผู้กล้าหาญจะต้องตอบแทนรางวัลใหญ่ ภายใต้การรุกอย่างดุเดือดของพนักงานขายของหลินม่าย ช่องทางการจัดหาของบริษัทอึนซานก็หดตัวลงอย่างรวดเร็ว
ปาร์คซุนกิกังวลมากจนเขาเชิญหลินม่ายไปรับประทานอาหารเย็นเป็นพิเศษ
หลินม่ายไม่ต้องการไป ทั้งสองบริษัทเข้ากันไม่ได้ แล้วนับประสาอะไรกับการไปเจอเขา
แต่ปาร์คซุนกิมาเชิญเธอที่มหาวิทยาลัยด้วยตนเอง หลินม่ายมองผมหงอกของเขาและตอบตกลงอย่างไม่เต็มใจ
ปาร์คซุนกิไม่มีจุดประสงค์อื่นในการเชิญหลินม่ายไปรับประทานอาหารเย็น แต่เพียงเพื่อขอให้เธอปล่อยเขาไป
หลินม่ายส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม “เมื่อคุณพยายามทำร้ายฉัน คุณก็ควรเตรียมพร้อมที่จะถูกฉันฆ่า ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะปล่อยคุณไป”
เธอจากไปหลังจากพูดสิ่งนี้
ปาร์คซุนกิโกรธมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
ในเดือนพฤษภาคม อากาศก็เริ่มอุ่นขึ้นในที่สุด
ช่องทางการจัดหาของบริษัทอึนซานถูกโรงงานอาหารติ่งเซียงของหลินม่ายยึดครองเกือบทั้งหมด
อย่างไรก็ตามยังมีบริษัทใหญ่อีก 2 แห่งที่ยังไม่ถูกยึด
บริษัทใหญ่ทั้งสองแห่งนี้ต่างก็เป็นผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั้งคู่
แห่งหนึ่งคือบริษัทจากแดนผักดองชื่อยอดอลอิบโดโล
อีกแห่งคือบริษัทจากประเทศเกาะชื่อฮิบิสุ
ยอดอลอิบโดโลคือบริษัทบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ใหญ่ที่สุดและเป็นที่รู้จักมากที่สุดในประเทศผักดอง พวกเขามีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหลายประเภทหลายสิบชนิดและต้องใช้เครื่องปรุงจำนวนมาก
หากคุณสามารถเป็นผู้จำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยอดอลอิบโดโล กำไรต่อเดือนของคุณจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ยอดอลอิบโดโลไม่เพียงผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเท่านั้น แต่ยังมีร้านปิ้งย่างยอดอลอิบโดโลอยู่ทั่วโลก ร้านปิ้งย่างเหล่านี้ยังต้องใช้เครื่องปรุงรสมากอีกด้วย
ฮิบิสุเป็นบริษัทบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดในประเทศเกาะ ด้วยขนาดและปริมาณการขายที่ใหญ่กว่า ด้วยขนาดและปริมาณการขายที่ใหญ่กว่า
หลินม่ายถามว่าทำไมเราถึงไม่สามารถเอาชนะสองบริษัทนี้ได้
ลูกน้องของเธอกล่าวด้วยสีหน้าเศร้าว่า คิมแจซุกผู้บริหารคนใหม่ของยอดอลอิบโดโลในสหรัฐอเมริกาชี้แจงชัดเจนว่าเขาจะไม่ร่วมมือกับจีน
พนักงานขายชาวผิวขาวและชาวจีนหลายคนพยายามอย่างเต็มที่ แต่คิมแจซุกไม่ยอมให้พบด้วยซ้ำ ทัศนคติของเขาหยิ่งยโสมาก
นัตสึกิ อิชิกาวะ รองประธานของฮิบิสุกล่าวว่า พวกเขาพอใจกับอุปทานในปัจจุบัน และไม่ต้องการเปลี่ยนซัพพลายเออร์
หลินม่ายตัดสินใจงัดข้อกับทั้งสองด้วยตัวเอง
เธอวางแผนที่จะพบกับคิมแจซุกชายผู้หยิ่งยโสคนนั้นก่อน
เธอขอให้โนอาห์ผู้ช่วยของเธอนัดพบกับคิมแจซุก
ท้ายที่สุดแล้ว เธอเป็นถึงผู้บริหารสูงสุดของบริษัทกุยตัน
นอกเหนือจากบริษัทของฟางจั๋วหราน ว่านทงกรุ๊ปสาขาสหรัฐอเมริกายังมีชื่อเสียงอย่างมาก
เธอไม่ใช่ทหาร แต่เป็นประธานบริษัท แม้ว่าบริษัทในอเมริกาจะเล็ก แต่เธอก็ยังสามารถเท่าเทียมกับเขาได้
แต่คิมแจซุกกลับหันหน้าหนีและปฏิเสธอย่างง่ายดายด้วยเหตุผลเดิม นั่นคือเขาไม่ทำธุรกิจกับคนจีน
เนื่องจากไม่สามารถนัดหมายได้ คงต้องเข้าไปหาถึงถิ่นโดยตรง
เมื่อหลินม่ายมาที่สำนักงานของบริษัทยอดอลอิบโดโลในสหรัฐอเมริกาพร้อมกับบอดี้การ์ด แพทย์ และท้องที่โตมากแล้ว พนักงานต้อนรับก็หยุดเธอไว้ก่อน
พนักงานต้อนรับหญิงถามว่าเธอมีนัดหรือเปล่า แต่หลินม่ายทำเป็นหูทวนลม และเดินตรงไปที่ลิฟต์
บอดี้การ์ดแจ็คและแพทย์ส่วนตัวคุณเอมี่เดินตามหลังอย่างใกล้ชิด
ผู้หญิงที่แผนกต้อนรับกำลังไล่ตามเธอด้วยรองเท้าส้นสูงห้านิ้ว “คุณผู้หญิงคะ ถ้าไม่มีการนัดหมายล่วงหน้า คุณจะเข้าไปข้างในไม่ได้นะคะ!”
หญิงสาวพยายามเรียกหลินม่ายให้หยุด
ผู้หญิงแผนกต้อนรับคนนั้นต้องการเข้ามาคว้าตัวหลินม่าย
แต่ก่อนที่เธอจะเข้าใกล้หลินม่าย หล่อนก็ถูกแจ็คบอดี้การ์ดร่างสูงหยุดไว้ เขาพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “คุณไม่เห็นหรือว่านายหญิงของผมกำลังท้อง หากคุณแตะต้องหล่อน หล่อนจะได้รับอันตราย คุณสามารถจ่ายเงินค่าชดเชยได้ไหมหากเกิดอะไรขึ้น?”
พนักงานต้อนรับสาวไม่กล้าขยับตัวทันทีและทำได้เพียงมองดูทั้งสามเข้าไปในลิฟต์
พนักงานต้อนรับคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วรีบกลับไปที่แผนกต้อนรับ หล่อนต่อสายหาคิมแจซุกเพื่อแจ้งให้ทราบว่า มีคนต้องการบุกเข้าไปในห้องทำงานของเขา
คิมแจซุกพูดอย่างใจเย็น “เข้าใจแล้ว”
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
เหมือนดูแก๊งมาเฟียสามชาติตีกันยังไงไม่รู้แฮะ สรุปฉันกำลังแปลเรื่องอะไรอยู่นี่?
ไหหม่า(海馬)
……….
Comments