แม่ปากร้ายยุค​ 80 1130 ดาราดังมาเยือน

Now you are reading แม่ปากร้ายยุค​ 80 Chapter 1130 ดาราดังมาเยือน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1130 ดาราดังมาเยือน

……….

ตอนที่ 1130 ดาราดังมาเยือน

ใบหน้าต้าจินหยาปรากฏเหงื่อไหลซึม และดูหวาดกลัวมาก

ไม่น่าแปลกใจเลยที่หัวหน้าโหยวและหัวหน้าเผยจะมาที่นี่ด้วยตัวเอง ปรากฏว่าเขาทำให้ประธานหลินแห่งบริษัทกุยตันขุ่นเคือง

แก๊งของพวกเขากล้าดีอย่างไรมายุ่งกับนายทุนใหญ่ขนาดนี้

แม้แต่หัวหน้าใหญ่โหยวและหัวหน้าใหญ่เผยยังไม่กล้ายั่วยุเธอ

ความมั่งคั่งของเธอช่างน่าทึ่ง ในสหรัฐอเมริกาซึ่งเงินมีความสำคัญมากกว่าสิ่งใด ตราบใดที่คุณมีเงิน คุณจะทำอะไรก็ได้ และคงใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีที่จะทำลายแก๊งอันธพาลของเขา

ใบหน้าของต้าจินหยาซีดลง เขาลูบมือพลางอธิบาย “คุณนายเฉิน โปรดอย่าตำหนิผมที่จำภูเขาไท่ไม่ได้ ผมเป็นคนแก่ที่ไม่อ่านหนังสือหรือหนังสือพิมพ์ พวกผมแค่ทะเลาะและฆ่าแกงกันทุกวัน แล้วจะจำประธานหลินได้อย่างไร? ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำให้คุณขุ่นเคือง ดังนั้นปล่อยผมไปสักครั้งเถอะ”

ลุงฝูพูดอย่างเย็นชา “อย่าแสร้งทำเป็นน่าสงสารต่อหน้าคุณชายโหยวและคุณชายเผยเลย ไม่สำคัญหรอกว่าคุณจะรู้จักคุณนายน้อยหรือไม่ แต่ผู้จัดการโรงแรมหยวนไหลบอกว่าลูกน้องที่คุณส่งมาเก็บเงินค่าคุ้มครองกล้าลงมือกับคุณนายน้อยของผม คุณกล้าดียังไงถึงมาก่อปัญหา?”

ต้าจินหยาดูตกใจ “ผมไม่รู้เรื่องนี้เลยนะ ลูกน้องที่ผมส่งมาเก็บเงินคุ้มครองไม่ได้บอกผมว่า โรงแรมหยวนไหลเป็นของคุณหญิงของคุณลุงฝู”

ทันใดนั้นต้าจินหยาก็ตระหนักได้ เขากัดฟันพูดว่า “นี่ผมถูกหลอกงั้นเหรอ!”

เขามองไปรอบ ๆ และถามลูกน้องที่อยู่ด้านข้างด้วยเสียงทุ้ม “เจ้าสารเลวเฝิงเยว่เฟิงนั่นอยู่ที่ไหน?”

เมื่อเห็นท่าทางดุร้ายราวกับกำลังจะฆ่าใครสักคนของเจ้านาย ลูกน้องคนนั้นก็ตอบเสียงสั่นว่า “เฝิงเยว่เฟิงบอกว่า ว่าเขาจะไปเข้าห้องน้ำครับ”

“ไปจับมันกลับมาเดี๋ยวนี้!”

ลูกน้องทั้งหมดที่อยู่รอบ ๆ ต้าจินหยาสาวเท้าวิ่งออกไปทันที ก่อนที่เฝิงเยว่เฟิงจะถูกจับตัวภายในเวลาสิบนาที

เมื่อเฝิงเยว่เฟิงเห็นหน้าของต้าจินหยา เขาก็ตกใจมากจนขาทั้งสองอ่อนแรง

เมื่อเขากำลังจะร้องขอความเมตตา ต้าจินหยาก็ดึงเข็มขัดออกมา

ลูกน้องช่วยกันถอดเสื้อของเฝิงเยว่เฟิงออกทั้งหมด จากนั้นต้าจินหยาใช้เข็มขัดฟาดลงไปบนร่างกายส่วนบนที่เปลือยเปล่าของอีกฝ่าย

ทันใดนั้นผิวหนังของเฝิงเยว่เฟิงก็เต็มไปด้วยแผลฉกรรจ์ที่มีเลือดไหลย้อย ซึ่งเป็นภาพที่โหดร้ายมาก

ในขณะที่ต้าจินหยากำลังเฆี่ยนตีเฝิงเยว่เฟิง เขาก็ตะคอกถามอีกฝ่าย “แกกล้าหลอกใช้ฉันได้ยังไง ไอ้เวรตะไลนี่! แก ทำไมถึงหลอกใช้ฉัน?”

เฝิงเยว่เฟิงไม่ได้ตอบสิ่งใด เพียงแต่ส่งเสียงครวญครางอย่างน่าสมเพช

ตอนที่เขาพาเพื่อนสองถึงสามคนมาเก็บค่าคุ้มครอง เขารู้แล้วว่าหลินม่ายเป็นเจ้าของโรงแรมหยวนไหล ดังนั้นเขาจึงต้องการหลอกใช้ต้าจินหยาเพื่อล้างแค้นให้เฝิงเยว่จู๋พี่สาวของเขา

หลังจากกลับมา เขาได้จงใจปกปิดความจริงที่ว่าหลินม่ายเป็นเจ้าของโรงแรมแห่งนี้

กล่าวแค่ว่าเจ้าของโรงแรมหยวนไหลไม่เพียงปฏิเสธที่จะจ่ายค่าคุ้มครองเท่านั้น แต่ยังดูถูกต้าจินหยาด้วยถ้อยคำเหยียดหยามทุกอย่าง เพื่อปลุกเร้าความโกรธของต้าจินหยาให้ส่งคนไปจัดการกับหลินม่าย

แต่ต้าจินหยาไม่ได้ใส่ใจ ซึ่งทำให้เฝิงเยว่เฟิงผิดหวังอย่างมาก

เขาจึงพาพี่น้องสองถึงสามคนไปที่โรงแรมหยวนไหลเพื่อก่อปัญหา แต่พวกเขากลับเป็นฝ่ายที่ถูกหลินม่ายทุบตีแทน

เฝิงเยว่เฟิงยอมรับความอัปยศนี้ไม่ได้ เขาจึงวิ่งไปบอกต้าจินหยาว่า เขาไปที่โรงแรมหยวนไหลอีกครั้งเพื่อเก็บเงินคุ้มครองแล้ว เจ้าของโรงแรมไม่เพียงปฏิเสธที่จะจ่ายเงินเท่านั้น แต่ยังทุบตีเขาและเพื่อน ๆ ด้วย

จากนั้นเขาก็พูดต่อไปอีกหลายอย่างเป็นต้นว่าตีสุนัขต้องดูเจ้าของ ซึ่งเจ้าของโรงแรมขนาดเล็กแห่งนี้จงใจกระทบกระเทียบลูกพี่จินและคนอื่นๆ

ในที่สุดต้าจินหยาก็ถูกโน้มน้าวให้พาพี่น้องในแก๊งไปหาหลินม่าย

หลังจากเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ต้าจินหยาก็ให้ลูกน้องลงโทษเฝิงเยว่เฟิงจนพิการ ไล่เขาออกจากแก๊ง และปล่อยให้เขาเอาตัวรอดเองเพื่อเป็นการขอโทษหลินม่าย จากนั้นข้อพิพาทเรื่องค่าคุ้มครองจึงได้รับการแก้ไข

เฝิงเยว่เฟิงกล้าสร้างปัญหาในครั้งนี้เพราะโรงแรมไม่ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิด

หลินม่ายจึงขอให้ฟางจั๋วเยวี่ยผลิตกล้องวงจรปิดจำนวนหนึ่งเพื่อจัดส่งมายังสหรัฐอเมริกา ไม่เพียงติดตั้งในโรงแรมหยวนไหลเท่านั้น แต่ยังสั่งให้ติดตั้งกล้องวงจรปิดในร้านอาหารทั้งหมดของเธอในสหรัฐอเมริกา

หลินม่ายยังช่วยฟางจั๋วเยวี่ยโปรโมตกล้องวงจรปิดของเขาในสหรัฐอเมริกาด้วย

กล้องวงจรปิดของฟางจั๋วเยว่มีคุณภาพดีและราคาต่ำ จึงสามารถตีตลาดในสหรัฐอเมริกาได้อย่างรวดเร็ว

กว่าจะรู้ตัว เวลาก็ล่วงเลยมาถึงวันคริสต์มาสอีฟ

หลังเลิกเรียนในวันนั้น นักเรียนต่างชาติจากประเทศผักดองคนหนึ่งหยุดเธอและบอกว่านักเรียนต่างชาติหลายคนตัดสินใจที่จะรับประทานอาหารมื้อใหญ่ด้วยกันในวันคริสต์มาสอีฟ จึงถามเธอว่าต้องการเข้าร่วมด้วยหรือไม่

แม้หลินม่ายจะไม่ชอบเข้าสังคม และชอบใช้เวลาอยู่กับครอบครัวเมื่อมีเวลาว่าง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่เข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มใด ๆ

ท้ายที่สุดแล้วเธอเป็นนักธุรกิจหญิง และเธอยังคงจำเป็นต้องสร้างความสัมพันธ์

นักเรียนเอเชียที่สามารถมาเรียนที่สหรัฐอเมริกาได้ ถ้าไม่ได้มีครอบครัวที่ร่ำรวย ก็ต้องเป็นคนที่ทำงานหนักและมีผลการเรียนดี

ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน การผูกมิตรไว้ย่อมมีประโยชน์เช่นกัน

หลินม่ายตอบตกลงและถามว่าพวกเขาจะรับประทานอาหารค่ำแบบไหน

นักเรียนต่างชาติคนหนึ่งถามว่า “คุณอยากกินอะไรล่ะ?”

เนื่องจากโรงแรมหยวนไหลของหลินม่ายไม่ประสบกับความเจริญรุ่งเรืองทางธุรกิจ เธอจึงคิดพาเพื่อนร่วมชั้นไปที่โรงแรมเพื่อกินหม้อไฟ โดยหวังว่ามันจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น

เธอแนะนำให้ไปกินหม้อไฟที่โรงแรมของเธอ และจะให้ส่วนลด 20%

นักศึกษาเอเชียหลายคนเห็นด้วย

โดยเฉพาะนักศึกษาต่างชาติจากประเทศสิงคโปร์ พวกเขาปรบมือเสียงดังและบอกว่าหม้อไฟจีนอร่อยมาก

นักศึกษาต่างชาติจากประเทศผักดองที่เพิ่งถามหลินม่ายว่าจะเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำหรือไม่พลันพูดขึ้นอย่างเหยียดหยาม “หม้อไฟจีนจะอร่อยขนาดไหนกันเชียว หม้อไฟทหารต่างหากที่อร่อยที่สุด”

นักศึกษาต่างชาติจากประเทศเกาะโต้แย้ง “หม้อไฟของจีนมีประวัติยาวนานนับพันปี แล้วหม้อไฟทหารของคุณมีอายุสักกี่ปีกัน? แล้วฉันก็ได้ยินมาว่าหม้อไฟทหารจากประเทศคุณเดิมทีทำจากเนื้ออาหารกลางวันบรรจุกระป๋องที่เหลือจากกองทัพสหรัฐฯ แม้ว่ามันจะไม่เป็นแบบนั้นแล้ว แต่ก็เป็นเรื่องยากสำหรับฉันที่จะยอมรับความคิดที่ว่ามันทำมาจากของเหลือจากกองทัพสหรัฐฯ ถ้าจะไปกินหม้อไฟทหาร ฉันคนหนึ่งที่ไม่ขอไปด้วย”

ไม่เพียงนักศึกษาจากประเทศเกาะที่แสดงท่าทีเช่นนี้ นักศึกษาต่างชาติคนอื่น ๆ จากเอเชียก็แสดงทัศนคติแบบเดียวกัน ซึ่งทำให้นักศึกษาจากประเทศผักดองคนนั้นโกรธเคืองจนใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีดำเหมือนก้นหม้อ

ในท้ายที่สุดคนกลุ่มน้อยก็เชื่อฟังคนหมู่มาก ทุกคนตัดสินใจไปที่โรงแรมของหลินม่ายเพื่อกินหม้อไฟแบบจีนในวันคริสต์มาสอีฟ

ในวันคริสต์มาสอีฟ ผู้คนหลายสิบคนไปที่โรงแรมของหลินม่ายเพื่อกินหม้ไฟ

หลินม่ายมีเมนูหม้อไฟมากมาย เช่น ลูกชิ้นปลา ผ้าขี้ริ้ววัว โรลเนื้อติดมัน ม้วนเนื้อแกะ ผักกาดหอม ถั่วงอก… เกือบทุกอย่างที่พอจะนึกถึง

ทุกคนกินหม้อไฟอย่างมีความสุข แม้แต่นักศึกษาชาวผักดองที่ตามืดบอดและหยิ่งผยองก่อนหน้าก็หยุดกินไม่ได้

นักศึกษาต่างชาติคนอื่น ๆ ต่างอุทานว่ามันอร่อย แต่มีเพียงนักศึกษาจากประเทศผักดองเท่านั้นที่ยัดอาหารเข้าปากจนแก้มป่อง และพูดอย่างเหยียดหยามว่า “ก็ไม่ได้อร่อยขนาดนั้นสักหน่อย”

หลินม่ายเหลือบมองนักศึกษาชาวผักดอง มันยากมากเลยเหรอที่จะยอมรับว่าคนอื่นเก่ง?

ขณะที่ทุกคนกำลังเพลิดเพลินกับมื้ออาหาร ทันใดนั้นก็มีสาวผมบลอนด์แสนสวยและเซ็กซี่พร้อมกลุ่มบอดี้การ์ดและผู้ช่วยเดินเข้ามา ซึ่งทำให้ลูกค้าในร้านแตกตื่น

สาวผมบลอนด์เซ็กซี่คนนั้นคือเสี่ยวมี่มี่ ดารายอดนิยมในวงการยุคปัจจุบัน

เมื่อเสี่ยวมี่มี่มาถึง หล่อนก็สั่งหม้อไฟและอาหารที่มีชื่อเสียงมากมาย

เช่น ซุปรากบัวและซี่โครงหมู ลูกชิ้นมุก ปลาหมักข้าวเหนียว ลูกชิ้นปลาเอ้อเฉิงโบราณ ทอดมันปลา ทอดมันเนื้อ…

เสี่ยวมี่มี่และผู้ติดตามของหล่อนกินอย่างมีความสุข

วันรุ่งขึ้นก็มีข่าวว่าดาราใหญ่เสี่ยวมี่มี่มาที่โรงแรมเพื่อรับประทานอาหารค่ำถูกพาดหัวข่าวของหน้าบันเทิงชื่อดัง

หลินม่ายมองดูพลางยิ้มเล็กน้อย

เธอใช้เงินครึ่งล้านหยวนเพื่อเชิญเสี่ยวมี่มี่มารับประทานอาหาร เพียงเพื่อทำให้โรงแรมหยวนไหลมีชื่อเสียงมากขึ้น

ธุรกิจโรงแรมหยวนไหลไม่ได้เฟื่องฟูมาก แม้หลินม่ายจะบอกว่าไม่สำคัญ แต่เธอก็ยังรู้สึกกังวลอยู่เล็กน้อย

การว่าจ้างเสี่ยวมี่มี่มารับประทานอาหารของโรงแรมมีค่าใช้จ่ายเพียง 500,000 หยวนเท่านั้น

แต่หากเชิญชวนหล่อนถ่ายโฆษณาอาจมีราคามากกว่าหนึ่งล้านตามมูลค่าปัจจุบันของหล่อน

เมื่อรวมกับค่าธรรมเนียมการออกอากาศโฆษณา มันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะว่าจ้างด้วยเงินน้อยกว่าสองล้าน

ด้วยการใช้จ่ายเพียง 500,000 หยวนเพื่อเลี้ยงอาหารฟรีให้เสี่ยวมี่มี่ เธอสามารถเป็นหัวข้อข่าวบันเทิงของหนังสือพิมพ์รายใหญ่ ๆ ได้ ซึ่งถือเป็นการโฆษณาที่คุ้มค่ามาก

หลินม่ายนึกว่าอาจต้องใช้เวลาสองถึงสามวันกว่าอิทธิพลความดังของเสี่ยวมี่มี่จะมีผล

โดยไม่คาดคิด เมื่อถึงเวลา 10.30 น. ทันทีที่โรงแรมเปิดทำการ แฟนคลับของเสี่ยวมี่มี่จำนวนมากก็หลั่งไหลเข้ามา

พวกเขาทั้งหมดสั่งหม้อไฟแบบเดียวกัน และสั่งอาหารต่าง ๆ ที่เสี่ยวมี่มี่กินเมื่อวานนี้ ส่งผลให้ธุรกิจของโรงแรมที่เคยเงียบเหงาพลันได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างรวดเร็ว

ในตอนกลางคืนคุณต้องรอโต๊ะว่างอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง

สาเหตุหลักคือวันนี้เป็นวันคริสต์มาส นอกจากแฟนคลับของเสี่ยวมี่มี่ที่มาสนับสนุนแล้ว ชาวเมืองจำนวนมากยังต้องการมาใช้บริการด้วยเช่นกัน

พวกเขายังต้องการลิ้มรสว่าอาหารที่เสี่ยวมี่มี่ดาราดังกินนั้นอร่อยแค่ไหน

หลายคนหยุดชิมไม่ได้ อาหารทุกอย่างอร่อยจนใคร ๆ ก็อยากเลียจาน แต่การใช้ตะเกียบกลับยุ่งยากกว่าที่คิด

เมื่อเวลาประมาณสองทุ่ม เสี่ยวมี่มี่ได้นำกลุ่มบอดี้การ์ดและผู้ช่วยมายังโรงแรมหยวนไหลอีกครั้ง ซึ่งสร้างความโกลาหลไปทั่วบริเวณ

หลินม่ายกำลังฉลองคริสต์มาสกับครอบครัวที่บ้านรู้สึกแปลกใจมากกับข่าวที่ได้รับ เพราะเธอไม่ได้เชิญเสี่ยวมี่มี่ในวันนี้

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

มันก็ต้องมีบู้บี้เรื่องอาหารกันตลอดเลย แต่ขออย่ามาบู้บี้อาหารไทยแล้วกัน

ไหหม่า(海馬)

……….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด