แม่ปากร้ายยุค 80 1133 ศาสตราจารย์ฟางรู้สึกหึงหวง
ตอนที่ 1133 ศาสตราจารย์ฟางรู้สึกหึงหวง
……….
ตอนที่ 1133 ศาสตราจารย์ฟางรู้สึกหึงหวง
ระหว่างรับประทานอาหารเย็น จางเสวี่ยฉุนยังคงสนทนาอย่างออกรสกับคุณปู่ฟางและคุณย่าฟาง ไม่สนใจแม้แต่จะคีบกับข้าวหรือตักข้าวเข้าปากด้วยซ้ำ
หลินม่ายเห็นแบบนั้นจึงตักอาหารให้อีกฝ่าย
ทันใดนั้นฟางจั๋วหรานก็ยื่นชามข้าวออกมาตรงหน้าเธอพลางชี้ไปยังปลาหวงอวี๋ผัดซอสเปรี้ยวหวานที่อยู่ตรงหน้าจางเสวี่ยฉุน “ภรรยา ผมอยากกินปลาหวงอวี๋ผัดซอสเปรี้ยวหวาน”
หลินม่ายมองเขาด้วยสายตาแปลก ๆ
ฟางจั๋วหรานชอบกินปลาหวงอวี๋ตุ๋นมาก แต่เขาจะไม่กินหากทำเป็นปลาหวงอวี๋ผัดซอสเปรี้ยวหวาน
ทำไมจู่ ๆ วันนี้ก็อยากกินปลาหวงอวี๋ผัดซอสเปรี้ยวหวานล่ะ?
หลินม่ายรับชามของเขาและตักปลาหวงอวี๋ผัดซอสเปรี้ยวหวานชิ้นหนึ่งใส่ในชาม
แต่หลังจากฟางจั๋วหรานรับชามคืนมา เขาก็กินปลาหวงอวี๋ผัดซอสเปรี้ยวหวานเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ยื่นชามอีกครั้งและบอกว่าอยากกินไก่ต้มขาวอวบที่อยู่ตรงหน้าจางเสวี่ยฉุน
ในที่สุดหลินม่ายก็ตระหนักได้ว่าฟางจั๋วหรานกำลังเรียกร้องความสนใจ เพราะกลัวว่าเธอจะเพิกเฉยต่อเขา
ไม่น่าแปลกใจที่ผู้คนมักพูดว่าผู้ชายจะเป็นเด็กไปจนวันตาย ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องจริง
แม้แต่ศาสตราจารย์ที่สุขุมราวกับภูเขาไท่ซานก็ยังมีช่วงเวลาที่เป็นเด็กเอาแต่ใจเช่นนี้
ต่อให้อยากจะอิจฉาหรือแข่งขัน ก็ควรเลือกเป้าหมายให้ถูกต้อง ทำไมถึงต้องอิจฉาผู้หญิงคนอื่นด้วยล่ะ?
อาหารเย็นใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงจึงจะเสร็จ
จางเสวี่ยฉุนกินอาหารและผักทุกอย่างที่หลินม่ายตักใส่ชามให้ เธอคงไม่ทันได้รับรู้ด้วยซ้ำว่ามันอร่อยหรือไม่
หลังจากวางชามและตะเกียบลง จางเสวี่ยฉุนถึงได้ตระหนักว่าตนอิ่มแล้ว
ทั้งครอบครัวส่งจางเสวี่ยฉุนออกไปอย่างกระตือรือร้น คุณปู่ฟางพูดกับหล่อนอย่างใจดี “ถ้าอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสังหารหมู่ที่หนานจิง ปู่แนะนำให้หนูไปหนานจิงและสอบถามกับผู้รอดชีวิตด้วยตนเอง”
จางเสวี่ยฉุนพูดด้วยรอยยิ้มว่าหล่อนจะลองพิจารณาดู
หลังจากนั้น คู่สามีภรรยาหนุ่มสาวก็เดินจับมือกันกลับห้อง
ทันทีที่เข้ามาในห้อง หลินม่ายปิดประตูและใช้แขนคล้องรอบคอของฟางจั๋วหราน ก่อนจะเป็นฝ่ายจูบเขาก่อนฃ
ฟางจั๋วหรานตอบสนองต่อเธออย่างกระตือรือร้น
หลังจากการจูบอย่างเร่าร้อนเป็นเวลานาน หลินม่ายวางศีรษะลงบนแผงอกแข็งแกร่งของชายหนุ่ม “ฉันไม่ได้เมินคุณนะคะ ฉันแค่ชื่นชมจางเสวี่ยฉุนเท่านั้น คุณอย่าคิดมากเลยนะ”
ค่ำคืนนั้นกำหนดให้เป็นคืนที่เหนื่อยล้า ทว่าก็เปี่ยมไปด้วยความหวานหยาดเยิ้ม
นับตั้งแต่ที่จางเสวี่ยฉุนพูดคุยเกี่ยวกับการสังหารหมู่ที่หนานจิงกับคุณปู่ฟางและคุณย่าฟาง หล่อนก็แวะเวียนมาที่บ้านเป็นครั้งคราวเพื่อสนทนากับคู่สามีภรรยาสูงอายุ
คุณปู่ฟางและคุณย่าฟางให้การต้อนรับเธอเป็นอย่างดี ทั้งสามมักพูดคุยกันอย่างออกรสทุกครั้ง
ในตอนนั้น เวลาล่วงเลยมาถึงเดือนเมษายน ดอกทิวลิปริมถนนบานสะพรั่งดูสวยงาม
แต่หลินม่ายยังไม่รู้ว่าจะทำให้คนอเมริกันในท้องถิ่นหลงรักขาหมูตุ๋น ลำไส้ใหญ่ตุ๋น และอาหารตุ๋นอื่น ๆ ได้อย่างไร
ในทางกลับกัน จางเสวี่ยฉุนมักจะไปที่บ้านของหลินม่ายเพื่อร่วมรับประทานอาหาร
ครั้งหนึ่งหลินม่ายทำตีนเป็ดตุ๋นและไส้หมูตุ๋นเพื่อเลี้ยงหล่อน
เป็นผลให้จางเสวี่ยฉุนมีท่าทางต่อต้านอย่างมากเมื่อเห็นอาหารสองชนิดนี้
แต่หลังจากเห็นครอบครัวของหลินม่ายทานอย่างเอร็ดอร่อย หล่อนจึงอดไม่ได้ที่จะลิ้มลอง เมื่อได้ลองชิม หล่อนก็ติดใจตีนเป็ดตุ๋นและไส้หมูตุ๋นทันที
ต่อมาหลินม่ายทำลำไส้เนื้อตุ๋น ตีนไก่ตุ๋น และตับหมูตุ๋น… อาหารตุ๋นเหล่านั้นถือว่ามีรสชาติจัดจ้านในสายตาของชาวอเมริกัน แต่จางเสวี่ยฉุนก็ชอบกินมาก
หลินม่ายยังลองหมักลำไส้เป็ดและลำไส้ห่านแล้วใส่พริกลงไปผัด ซึ่งจางเสวี่ยฉุนชื่นชอบมันเป็นอย่างมาก
หลินม่ายสังเกตเห็นว่าจางเสวี่ยฉุนเริ่มชื่นชอบหลู่ไช่เหล่านั้นหลังจากได้ลองชิมอาหารตุ๋นที่มีรสชาติจัดจ้าน ซึ่งชาวตะวันตกมักคิดว่ามันแปลกประหลาด
หากได้ลองด้วยตนเอง ชาวตะวันตกจะหลงรักอาหารตุ๋นเหล่านี้หรือไม่?
อย่างไรก็ตามตอนที่มีงานเปิดตัว มีชาวตะวันตกลงทะเบียนเข้าร่วมน้อยมาก และสุดท้ายก็ต้องยกเลิกไป
ในวันนี้ จางเสวี่ยฉุนได้มาที่บ้านของหลินม่ายเพื่อรับประทานอาหารเย็นอีกครั้ง
หลินม่ายไม่เพียงปรุงอาหารจานใหญ่หลายจานเท่านั้น แต่ยังเคี่ยวอาหารหลายเมนู เช่น ซี่โครงเบคอน ซุปหัวไชเท้า และหูหมูตุ๋นด้วย
ขณะที่จางเสวี่ยฉุนกำลังกินอาหาร หล่อนก็แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการทำอาหารของหลินม่าย และชมว่าอาหารทุกจานที่หลินม่ายปรุงนั้นอร่อยมาก
จางเสวี่ยฉุนยังกล่าวอีกว่า หล่อนรู้จักพิธีกรชาวจีนที่กำลังจัดรายการอาหารทางสถานีโทรทัศน์นิวยอร์ก อาหารจีนที่เขาปรุงไม่อร่อยเลย แต่เรตติ้งของรายการค่อนข้างดี
จางเสวี่ยฉุนหยิบซี่โครงเบคอนขึ้นมากัดหนึ่งชิ้น มันเค็มและอร่อยมาก จนหล่อนต้องหรี่ตาลง แล้วพูดกับหลินม่ายว่า “ถ้าคุณจัดรายการทำอาหารออกทีวีด้วย เรตติ้งจะสูงกว่าพิธีกรจีนคนนั้นแน่นอน”
ดวงตาของหลินม่ายเปล่งประกายทันที
เธอสามารถถ่ายวิดีโอทำอาหารเหมือนอย่างหลี่ฉีฉีที่เธอเคยเห็นในชีวิตชาติก่อน
การโปรโมตอาหารจีนแก่ผู้ชมทางสถานีโทรทัศน์ต่าง ๆ รวมถึงการแนะนำอาหารตุ๋นรสจัดจ้านที่ชาวตะวันตกไม่คุ้นเคย อาจช่วยให้พวกเขายอมรับอาหารดังกล่าวมากขึ้น
หลินม่ายแสดงความคิดของเธออย่างตื่นเต้นและถามจางเสวี่ยฉุนว่าหล่อนช่วยติดต่อสถานีโทรทัศน์เพื่อทำรายการทำอาหารได้หรือไม่
จางเสวี่ยฉุนเป็นนักข่าวและได้ติดต่อกับสถานีโทรทัศน์หลายแห่ง การขอให้หล่อนช่วยนำร่องจะได้ผลลัพธ์สองเท่าโดยใช้ความพยายามเพียงครึ่งเดียว
จางเสวี่ยฉุนตอบตกลงทันที “วันนี้ฉันมาที่บ้านคุณก็เพราะอยากกินอาหารอำลา ฉันจะออกเดินทางไปหนานจิงในอีกสองวันเพื่อรวบรวมเนื้อหาเกี่ยวกับการสังหารหมู่ที่หนานจิง เช่นนั้นฉันจะเลื่อนการออกเดินทางสักสองถึงสามวัน และทำธุระของคุณให้เสร็จก่อนค่ะ”
สองวันต่อมา จางเสวี่ยฉุนเรียกหลินม่ายให้ไปสถานีโทรทัศน์เล็ก ๆ แห่งหนึ่ง
ทั้งสองพบกันที่ประตูสถานีโทรทัศน์ ก่อนที่จางเสวี่ยฉุนจะพูดขอโทษ “เดิมทีฉันอยากช่วยคุณคุยกับสถานีโทรทัศน์นิวยอร์ก แต่ผู้จัดการสถานีกล่าวว่ารายการอาหารจีนของเสิ่นเหม่ยจวินมีเรตติ้งดีอยู่แล้ว และเขาไม่เต็มใจที่จะเปลี่ยน ฉันติดต่อกับสถานีโทรทัศน์อื่นแล้ว แต่ปัจจุบันสถานีโทรทัศน์อื่น ๆ ก็มีรายการอาหารและไม่จำเป็นต้องมีพิธีกร ฉันเลยติดต่อได้เฉพาะสถานีโทรทัศน์ขนาดเล็กแห่งนี้เท่านั้น ต้องขอโทษจริง ๆ ค่ะ”
หลินม่ายพูดด้วยรอยยิ้ม “ถ้าไม่มีคุณ ฉันคงไม่สามารถเข้าไปในสถานีโทรทัศน์เล็ก ๆ แห่งนี้ได้ด้วยซ้ำ”
จางเสวี่ยฉุนพาเธอเข้าไปในห้องทำงานของบุคคลที่รับผิดชอบกลุ่มรายการอาหาร ก่อนจะขอตัวจากไป
ผู้รับผิดชอบจำหลินม่ายได้ทันทีและแทบจะกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจเมื่อเห็นว่าหลินม่ายมาที่สถานีโทรทัศน์เพื่อนำเสนออาหาร
ประธานหลินแห่งบริษัทกุยตันอันโด่งดังมาที่สถานีโทรทัศน์ขนาดเล็กเพื่อนำเสนออาหาร นี่จะต้องเป็นโอกาสดีให้ผู้คนมากมายพูดถึงและเพิ่มเรตติ้งได้มาก
แม้ว่ามันจะทำให้คุณโด่งดังได้เพียงชั่วระยะเวลาหนึ่งก็ยังน่ายินดี
ทั้งสองฝ่ายรีบเจรจาเงื่อนไขกันอย่างรวดเร็ว ท้ายที่สุดหลินม่ายไม่ได้ตั้งใจที่จะทำเงินจากการนำเสนออาหาร แต่เพียงเพื่อโฆษณาหลู่ไช่ของเธอเท่านั้น
เธอไม่สนใจเรื่องเงินส่วนแบ่ง ดังนั้นการทำสัญญาจึงดำเนินไปอย่างรวดเร็ว
ผู้รับผิดชอบทำรายการอาหารชื่ออาผู่ เขาเป็นชายหนุ่มชาวจีนที่หล่อเหลา อายุไม่เกิน 30 ปี เป็นเจ้านายที่ดี จริงจัง และมีความรับผิดชอบ
หลังจากคุยกับหลินม่าย อาผู่ก็เตรียมเปิดตัวโครงการอาหารอย่างเป็นทางการในเดือนหน้า
เขาต้องการใช้ประโยชน์จากช่วงเวลานี้ประชาสัมพันธ์ให้เธอ ดังนั้นเมื่อมีการเปิดตัวรายการทำอาหารของเธอ เรตติ้งรายการจะได้ไม่ต่ำเกินไป
หลินม่ายตอบตกลงทันที เธอไม่ต้องการให้รายการทำอาหารของตนเองล้มเหลวเช่นกัน
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
พี่หมอหึงแรงมากเลย กลิ่นน้ำส้มกลบกลิ่นอาหารหมดแล้ว
ไหหม่า(海馬)
……….
Comments