แม่ปากร้ายยุค​ 80 1141 แผนของคุณย่าฟาง

Now you are reading แม่ปากร้ายยุค​ 80 Chapter 1141 แผนของคุณย่าฟาง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1141 แผนของคุณย่าฟาง

……….

ตอนที่ 1141 แผนของคุณย่าฟาง

การปลูกถ่ายผิวหนังของหลินม่ายและการเช่าเหมาลำเครื่องบินมีค่าใช้จ่ายเกือบ 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

อย่างไรก็ตามฟางจั๋วหรานไม่สนใจเรื่องเงิน หลังจากใช้เงินไปมากมาย เขาก็ไม่ได้รู้สึกแย่เลย ที่จริงแทบไม่รู้สึกอะไรเลยด้วยซ้ำ

นอกจากนี้เงินยังถูกใช้ไปกับภรรยาของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่รู้สึกอะไรเลย

สิ่งเดียวที่เขารู้สึกเป็นทุกข์คือความเจ็บปวดจากการปลูกถ่ายผิวหนังของหลินม่าย และความทรมานจากอาการคันเมื่อผิวหนังเริ่มผสานเข้าด้วยกัน

แต่เมื่อคิดว่าเขาใช้เงินเกือบสามล้านดอลลาร์สหรัฐ หลินม่ายไม่รู้สึกอะไรเลย นอกจากปวดใจ

เธอบอกกับฟางจั๋วหรานว่า เงินสามล้านนั้นสามารถซื้อเพชรสีชมพูขนาด 5 กะรัตได้ แต่กลับต้องมาสิ้นเปลืองไปกับการปลูกถ่ายผิวหนัง

เมื่อหลินม่ายพูดเช่นนี้ ฟางจั๋วหรานก็อุ้มเธอนั่งรถเข็นเพื่อพาออกไปสูดอากาศในสวนสาธารณะขนาดเล็กของโรงพยาบาล

หลินม่ายไม่ใช่คนช่างพูด แต่ในตอนนี้เธอกลับบ่นพึมพำไม่หยุดหย่อน

ฟางจั๋วหรานสามารถคาดการณ์ได้ว่าวันหนึ่งในอนาคต เมื่อทั้งคู่แก่ตัวลง หลินม่ายจะทำให้เด็ก ๆ กลัวด้วยความคิดไร้สาระเช่นนี้ เมื่อถึงเวลานั้นเขาจะเป็นคนเดียวที่เต็มใจที่อยู่เคียงข้างคอยฟังเธอบ่นไม่หยุด

ไม่กี่วันหลังจากที่หลินม่ายพูดถึงการใช้เงิน 3 ล้านดอลลาร์ซื้อเพชรสีชมพูขนาด 5 กะรัต เธอก็ได้รับแหวนเพชรสีชมพู 5 กะรัตจากฟางจั๋วหราน

แหวนมีความละเอียดอ่อนและสวยงามมาก เพชรสีชมพูตรงกลางถูกเจียระไนแบบเหลี่ยมเกสร ล้อมรอบด้วยกลีบดอกที่ทำจากเพชรสีขาว ทำให้แหวนดูใหญ่เป็นพิเศษ

เมื่อฟางจั๋วหรานหยิบแหวนเพชรสีชมพูออกมาสวมให้หลินม่าย หลินม่ายก็กรีดร้องด้วยความดีใจ

เธอพูดอย่างมีความสุข “คุณซื้อมันมาจริงด้วย”

ฟางจั๋วหรานสวมแหวนให้เธอและพูดอย่างใจเย็น “ก็เห็นว่าภรรยาของผมชอบมัน!”

หลินม่ายยืดคอออกไปมอบจูบแก่เขาอย่างหวานชื่น

แม้ว่าหลินม่ายและคนอื่น ๆ จะกลับมาที่สหรัฐอเมริกา แต่เธอก็ให้ความสนใจกับสถานการณ์ในหนานจิง

หลังจากที่หูเซี่ยงหงถูกจับกุม เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติที่ส่งมาจากเบื้องบนก็เข้ามารับช่วงต่อ

หูเซี่ยงหงผู้สูญเสียโอกาสในการฆ่าตัวตายไม่อาจเข้าใจได้ว่าหลินม่ายคาดเดาได้อย่างไรว่าหล่อนมีเขี้ยวพิษในปาก หล่อนไม่ใช่เทพเซียนเสียหน่อย!

แน่นอนว่าหลินม่ายไม่ใช่เทพเซียน แต่เธอเข้าใจภาษาญี่ปุ่น

ในเวลานั้น หลังจากฟังการสนทนาระหว่างหูเซี่ยงหงและคนขับรถชาวญี่ปุ่น เธอก็ยัดก้อนอิฐเข้าไปในปากของหูเซี่ยงหงทันที เพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายฆ่าตัวตาย

หลังจากที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเข้ามารับช่วงต่อ พวกเขาก็ออกแถลงข่าวว่า แม้หลินม่ายจะดำเนินการแล้ว แต่ก็ยังสายเกินไป หูเซี่ยงหงชาวจีนที่ต้องสงสัยว่าเป็นสายลับได้บดขยี้เขี้ยวพิษและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องการใช้ข่าวปลอมนี้ เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับเพื่อนร่วมงานของหูเซี่ยงหงที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดเป็นการชั่วคราว

เพื่อที่จะซื้อเวลาซักถามหูเซี่ยงหงเกี่ยวกับที่อยู่ของสมาชิกคนอื่น ๆ ออกจากปากของหล่อน ทางที่ดีที่สุดคือจับพวกเขาทั้งหมด

แต่หูเซี่ยงหงมีจิตใจเข้มแข็ง และยังคงปิดปากสนิท ไม่ว่าสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติจะสอบปากคำหล่อนอย่างไร หล่อนก็ปฏิเสธที่จะพูดอะไรสักคำ โดยแสร้งทำเป็นเป็นใบ้ทุกวัน

ตอนที่คุณย่าฟางยังสาว นางอาจไม่มีทักษะในการเดินทัพและการต่อสู้เท่าคุณปู่ฟาง แต่นางเป็นผู้เชี่ยวชาญในงานใต้ดิน

ข้อมูลที่ได้รับในปีนั้นช่วยชีวิตสหายนักปฏิวัติหลายคนได้

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาตอนที่เป็นสายลับ คุณย่าฟางเฝ้าดูเทคนิคการสอบสวนศัตรูนับไม่ถ้วน ทั้งแบบไม้นวมและไม้แข็ง นางได้เรียนรู้มากมายเกี่ยวกับเทคนิคเหล่านี้ทั้งหมด ซึ่งสามารถนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ในครั้งนี้

ภายใต้คำแนะนำของคุณย่าฟาง สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติรีบใช้มันเปิดปากหูเซี่ยงหง

หล่อนสารภาพทุกอย่างที่ตนรู้และร้องไห้อย่างขมขื่น โดยบอกว่าหล่อนเป็นคนบาประดับชาติ

วิธีการของคุณย่าฟางนั้นง่ายมาก

นั่นคือสร้างเรื่องราวประสบการณ์ชีวิตปลอมแทนความจริงที่ว่าหล่อนเป็นทายาทผู้นำทางทหารของประเทศเกาะ

บอกว่าหูเซี่ยงหงเป็นผู้รอดชีวิตจากการสังหารหมู่ที่หนานจิง ครอบครัวทั้งสิบเอ็ดคนของเธอถูกชาวเกาะสังหารอย่างโหดเหี้ยม

เดิมทีผู้รุกรานต้องการใช้หล่อนที่เป็นเด็กทารกในการทดลอง แต่หลังจากการสังหารหมู่ที่หนานจิง คนจีนก็รวมตัวกันเพื่อต่อสู้กับผู้รุกราน ทำให้แผนนี้ถูกขัดจังหวะ

ต่อมาประเทศเกาะพ่ายแพ้ แต่หูเซี่ยงหงได้หายตัวไป โดยไม่คาดคิดว่าหล่อนจะปรากฏตัวในประเทศจีนอีกครั้งและกลายเป็นสมาชิกขององค์กรมืดจากประเทศเกาะ

หูเซี่ยงหงเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง หล่อนจึงสารภาพทุกอย่าง

หูเซี่ยงหงในฐานะอดีตสายลับพิเศษไม่เคยเชื่อใจผู้อื่นง่าย ๆ

เหตุผลที่หล่อนเชื่อในตัวตนปลอมสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติจัดทำขึ้นเพื่อหล่อนโดยเฉพาะ เนื่องจากตอนที่องค์กรขอให้หล่อนแฝงตัวไปอยู่ใกล้กับจางเสวี่ยฉุน พวกเขาให้หล่อนปลอมแปลงตัวตนเป็นคนจีนชื่อหูเซี่ยหง ซึ่งมีตัวตนอยู่จริง

รูปถ่ายแม่ของหูเซี่ยงหงดูคล้ายกับหล่อนมากตอนที่ยังเป็นเด็ก

ในเวลานั้น เมื่อองค์กรขอให้หล่อนปลอมตัวเป็นหูเซี่ยงหง หล่อนสงสัยว่าตัวเองอาจเป็นหูเซี่ยงหงตัวจริงหรือเปล่า และองค์กรมืดนี้ฝึกฝนหล่อนอย่างดี เพื่อให้เป็นนักฆ่าที่สามารถทำร้ายเพื่อนร่วมชาติของตนได้ตลอดเวลาใช่หรือไม่?

หล่อนเคยเห็นตัวอย่างเช่นนี้มากมายในองค์กร และรู้สึกหวาดกลัวมากว่า เธออาจเป็นหนึ่งในนั้น

ถ้าขอให้หล่อนฆ่าชาวต่างชาติ หล่อนสามารถลงมือโดยไม่กะพริบตา แต่ถ้าขอให้หล่อนฆ่าเพื่อนร่วมชาติ หล่อนจะมีภาระทางจิตใจที่หนักหน่วง

เมื่อทราบความคิดของหล่อน ผู้นำขององค์กรก็โกรธจัด เขาบอกว่าเคยพบพ่อของหล่อนในช่วงสงคราม ซึ่งเคยมีส่วนร่วมในการสังหารพลเรือนชาวจีนจำนวนมากพร้อมกับพ่อของเธอ เพื่อพิสูจน์ว่าหล่อนคือชาวเกาะที่แท้จริง

หล่อนยังถูกดุด้วยว่าพ่อของหล่อนเสียชีวิตเพื่อชาติ และแม่ของหล่อนก็อาสาเป็นนางบำเรอในค่ายหลังจากที่พ่อเสียชีวิตเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับทหารคนอื่น ก่อนจะเสียชีวิตด้วยโรคภัยไข้เจ็บ

ในฐานะลูกสาวของพ่อแม่ผู้กล้าหาญ หล่อนต้องหลั่งเลือดหยดสุดท้ายเพื่อประเทศเกาะ โดยไม่สงสัยในประสบการณ์ชีวิตของหล่อนเอง

ในเวลานั้น หูเซี่ยงหงตัวปลอมซึ่งมีชื่อจริงว่าทานากะ เรียวโกะถูกดุด่าอย่างหนักจนไม่สามารถเงยหน้าขึ้นได้

นับตั้งแต่หล่อนเริ่มเชื่อว่าตนเองคือหูเซี่ยงหงตัวจริง ทานากะ เรียวโกะก็กลายเป็นคนเสียสติและสับสนบ่อยครั้ง

ในใจของหล่อนได้เล่นซ้ำข้อมูลที่ได้รับเมื่อองค์กรเตรียมหล่อนให้ปลอมตัวเป็นหูเซี่ยงหง เพื่อความสมบูรณ์แบบ

มีรูปถ่ายนองเลือดของครอบครัวหูเซี่ยงหงที่ถูกฆาตกรรมอย่างไร้ความปรานีมากมาย

ภาพถ่ายเหล่านั้นทำให้ทานากะ เรียวโกะ ซึ่งเข้าใจผิดคิดว่าหล่อนคือหูเซี่ยงหงเต็มไปด้วยอาการตำหนิตัวเอง

ญาติของหล่อนทั้งหมดถูกปีศาจสังหารอย่างไร้ความปรานี แต่หล่อนกลับกำลังช่วยเหลือพวกเขา!

หล่อนบอกกับสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติว่าองค์กรมืดที่ตนอยู่นั้นเรียกว่าองค์กรเหยี่ยวดำ

ไม่กี่ปีที่ผ่านมา เมื่อจางเสวี่ยฉุนประกาศในสื่อว่ากำลังจะเขียนหนังสือ “หายนะที่ถูกลืมของสงครามโลกครั้งที่สอง” องค์กรก็มุ่งความสนใจไปที่หล่อน

เพื่อป้องกันไม่ให้จางเสวี่ยฉุนพูดเรื่องการสังหารหมู่ที่หนานจิงกับประเทศทางตะวันตก องค์กรมืดจึงส่งหูเซี่ยงหงไปวางยาจางเสวี่ยฉุน เพื่อทำให้หล่อนต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวที่รักษาไม่หาย

ด้วยวิธีนี้เท่านั้น จางเสวี่ยฉุนจะถูกฆ่าตายโดยไม่ต้องเปิดเผยองค์กร

ท้ายที่สุดแล้ว ทุกคนในประชาคมระหว่างประเทศต้องการเอาชนะองค์กรแบบพวกเขาที่เป็นรัฐทหาร และยังมีองค์กรเอกชนที่ต่อสู้กับพวกเขาด้วย

องค์กรมืดไม่ต้องการถูกล้อมและปราบปราม ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถเปิดเผยตัวเองได้

หูเซี่ยงหงยังมอบยาพิษที่ตนใช้กับจางเสวี่ยฉุนกับพวกเขาอีกด้วย

หลังจากการทดสอบพบว่า หากรับประทานพิษนี้เป็นเวลาประมาณหนึ่งปีอาจทำให้เกิดมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน และมีอัตราการเสียชีวิตสูงมาก

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบจางเสวี่ยฉุนทันที และพบว่าในเลือดของหล่อนมีความเข้มข้นของพิษสูงมาก และมีโอกาสที่หล่อนจะเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว

หลังจากได้รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ หล่อนก็ได้รับใบสั่งยาจีนเพื่อกำจัดพิษในร่างกาย

นอกจากนี้หูเซี่ยงหงยังเล่าถึงสิ่งที่หล่อนรู้เกี่ยวกับองค์กรเหยี่ยวดำในประเทศจีน

จากเบาะแสที่ได้รับจากหูเซี่ยงหง สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติได้ติดตามเบาะแสและตามล่าองค์กรเหยี่ยวดำทั้งหมดที่ซุ่มซ่อนอยู่ในดินแดนประเทศจีน ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างมากต่อองค์กรเหยี่ยวดำ

ผู้นำองค์เดือดดาลหนักจนหน้าซีดเผือด

สมาชิกคนหนึ่งถามว่า เขาต้องการแก้แค้นครอบครัวหลินม่ายหรือไม่

หากครอบครัวหลินม่ายไม่เข้ามาแทรกแซง แผนการของพวกเขาในการวางยาพิษจางเสวี่ยฉุนอย่างช้า ๆ คงไม่ล้มเหลว และไม่ต้องสูญเสียสมาชิกระดับสูงไปมากมายขนาดนี้

สมาชิกที่ถูกส่งไปจีนในฐานะสายลับล้วนแต่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงในองค์กร

เนื่องจากประเทศจีนเป็นเป้าหมายที่พวกเขาต้องการกำจัดให้สิ้นซาก จึงต้องส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงเข้าไป

หากเกิดสงครามอีกครั้ง พวกเขาจะพยายามบุกประเทศจีนอีกครั้ง!

ผู้นำองค์กรส่ายหัว ตอนนี้พวกเขาอยู่บนจุดสูงสุดของพายุ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจีนจะปกป้องครอบครัวหลินม่ายในทุกด้านอย่างแน่นอน

ในเวลานี้ การตอบโต้ครอบครัวหลินม่ายเป็นเพียงการยอมจำนนให้อีกฝ่ายตัดหัวเท่านั้น

การแก้แค้นเป็นสิ่งจำเป็นอย่างแน่นอน แต่ไม่ใช่ตอนนี้ พวกเขาต้องรอโอกาส

เหตุผลที่สมาชิกขององค์กรเหยี่ยวดำที่ซุ่มซ่อนอยู่ในจีนเชื่อข่าวเท็จที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเผยแพร่ออกไปว่า ทานากะ เรียวโกะบดขยี้เขี้ยวพิษและฆ่าตัวตายไปแล้ว

ทั้งหมดนี้เป็นเพราะหลินม่ายชกทานากะ เรียวโกะหลังจากที่ยัดก้อนอิฐเข้าปากอีกฝ่าย

หมัดนั้นทำให้ทานากะ เรียวโกะหมดสติ และส่งผลให้ผู้คนที่เห็นเหตุการณ์เชื่อว่าหล่อนตายแล้ว

สมาชิกขององค์กรเหยี่ยวดำแฝงตัวในกลุ่มคนดูในขณะนั้น แต่เพื่อไม่ให้เปิดเผยตัวเอง พวกเขาจึงยืนอยู่บริเวณรอบนอกของฝูงชน

พยานที่อยู่ในขณะนั้นกล่าวว่าทานากะ เรียวโกะเสียชีวิตทันทีและมีเลือดไหลออกจากปากของหล่อนเป็นจำนวนมาก พวกเขาจึงเชื่อว่ามันเป็นความจริง

แม้ว่าสมาชิกบางคนจะมีข้อสงสัย แต่ในที่สุดพวกเขาก็เลือกที่จะเชื่อสิ่งที่ทานากะ เรียวโกะพูดกับคนขับในตอนท้าย

ดังนั้นจึงไม่มีสมาชิกขององค์กรคนใดหลบหนีหลังจากทราบข่าว กระทั่งสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเข้าจับกุมพวกเขาทั้งหมด

หลังจากเหตุการณ์นี้ หลินม่ายกลัวว่าจางเสวี่ยฉุนจะหวาดกลัวและถอยห่างจากการเขียนหนังสือ “หายนะที่ถูกลืมของสงครามโลกครั้งที่สอง” แต่ในเวลาเดียวกันก็รู้สึกผิดและติดอยู่ในความสับสนทางความคิด

ดังนั้นเธอจึงโทรหาจางเสวี่ยฉุนเพื่อแสดงการสนับสนุนอย่างไม่มีเงื่อนไข ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเลือกอะไรก็ตาม

……………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

ขิงยิ่งแก่ยิ่งเผ็ด คุณย่าฟางสมัยสาวๆ ก็เก่งใช่ย่อยนะเนี่ย

ไหหม่า(海馬)

……….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด