แม่ปากร้ายยุค 80 1170 พบปะสหาย
ตอนที่ 1170 พบปะสหาย
……….
ตอนที่ 1170 พบปะสหาย
หลินม่ายเข้าไปถาม “ขอโทษค่ะ คุณมีธุระอะไรกับฉันหรือคะ?”
ต้วนฉางชิงรีบเดินมาหาเธอพร้อมจับมือเธอเขย่าครั้งแล้วครั้งเล่า “ในที่สุดก็ได้เจอคุณ เราเข้าไปในห้องเพื่อใช้เวลาพูดคุยกันได้ไหมครับ?”
หลินม่ายพยักหน้าตอบรับ
ทุกคนเดินกลับเข้าไปในห้องพักที่ทรุดโทรมของสวี่เมิ่ง
สวี่เมิ่งกล่าวเชิญ “ไม่ทราบว่าท่านทั้งสองกินอาหารค่ำมาหรือยัง หากว่ายัง ก็เชิญมากินกับพวกเราสิคะ”
ต้วนฉางชิงยิ้มอย่างเขินอายและพูดว่า “ตั้งแต่เช้าตรู่ผมได้ยินมาว่าคุณหลินเดินทางมาเมืองเอินซือของเรา ผมก็เลยพยายามถามทั่วทุกหนแห่งเพื่อนตามหา และไม่กินข้าวกลางวันเลยด้วยซ้ำ ตอนนี้ผมจึงหิวมาก ฮ่า ๆ”
สวี่เมิ่งมอบชามข้าวให้เขาและคนขับรถ ก่อนที่ทุกคนจะพูดคุยกันขณะรับประทานอาหาร
รองผู้ว่าต้วนบอกหลินม่ายอย่างตรงไปตรงมาว่าที่เขาเร่งรีบตามหาเธอก็เพราะเขาหวังว่าเธอจะเข้ามาลงทุนในเมืองเอินซือ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่นและทำให้ชีวิตของผู้คนดีขึ้นกว่าเดิม
ดวงตาของรองผู้ว่าต้วนเปล่งประกาย “โครงการอะไรหรือครับ?”
“บ่อน้ำแร่และการท่องเที่ยวค่ะ”
เธอมีความคิดเหล่านี้เมื่อเห็นความล้าหลังของพื้นที่ภูเขาเอินซือ
ต้วนฉางชิงไม่คาดคิดว่าหลินม่ายจะยอมตกลงเห็นชอบอย่างรวดเร็ว จนเขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกยินดี
เขาปรึกษาเรื่องการท่องเที่ยวและบ่อน้ำแร่กับหลินม่ายอยู่นาน กระทั่งสี่ทุ่ม เขาจึงขอตัวออกไปค้างบ้านสหายชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง
ก่อนออกเดินทาง เขาจงใจทิ้งนามบัตรของตัวเองไว้ให้หลินม่าย โดยขอให้เธอมาหาเขาได้ทุกเมื่อหากเธอประสบปัญหาในการลงทุน เขาจะอนุมัติสิ่งต่าง ๆ ให้เธอเอง
บ้านพักและเตียงสามารถรองรับคนได้มากที่สุดเพียงสองคน ดังนั้นฟางจั๋วหรานจึงไปที่หมู่บ้านเพื่อขออาศัยอยู่ชั่วคราว
หลินม่ายและสวี่เมิ่งต้มน้ำ อาบน้ำ และเตรียมเข้านอน
หลังจากเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน หลินม่ายก็ล้มตัวลงนอนและหลับไปทันที
หลินม่ายใช้มือคลำ ดูเหมือนว่ามันจะเป็นฟางและโคลนแห้งที่แตก
เธอพึมพำ “ทำไมถึงมีหญ้ากับเศษดินล่ะ?”
สวี่เมิ่งได้ยินคำพูดของหลินม่ายขณะกึ่งหลับกึ่งตื่น ตอบงึมงำไปว่า “ฉันบอกไปแล้วไงว่าอาคารเรียนของเราทรุดโทรมเกินไป เธออย่าลืมช่วยเราซ่อมแซมด้วยล่ะ”
เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่ออากู่ลามาโรงเรียน หล่อนได้พาคุณย่าของตัวเองมาด้วย
หลินม่ายและสามีรักษาคำพูด โดยพาคุณย่าอากู่ลาไปตรวจที่โรงพยาบาลประจำเขต
ปรากฏว่ามันเป็นไข้ต่ำที่เกิดจากการอักเสบของฟันอย่างต่อเนื่อง
แพทย์จึงสั่งยาและขอให้หญิงชรารับยากลับไปทาน
เมื่ออาการอักเสบของฟันหายแล้วให้นางกลับมาโรงพยาบาลเพื่อถอนฟัน เช่นนั้นฟันจะไม่อักเสบอีก รวมถึงไข้ต่ำจะรักษาหายด้วย
หลังจากส่งคุณย่าอากู่ลากลับโรงเรียน หลินม่ายและฟางจั๋วหรานขับไปรถไปยังบ้านของจางเสวี่ยฉุน
จางเสวี่ยฉุนกำลังนั่งอยู่ข้างหน้าต่างและอ่านหนังสือ จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงลูกสุนัขเห่า จึงเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนเห็นว่าเป็นหลินม่ายและสามีที่กำลังมา
จางเสวี่ยฉุนกรีดร้องอย่างมีความสุข เธอรีบวางหนังสือและออกไปต้อนรับอีกฝ่าย “ทำไมพวกเธอถึงมาที่นี่ล่ะ?”
“เรามาดูว่าเธอเป็นอย่างไรบ้าง”
จางเสวี่ยฉุนเชิญคู่สามีภรรยาเข้าไปนั่งในห้องนั่งเล่น และชงกาแฟให้พวกเขา
“ฉันสบายดี เมสันทำงานเป็นครูอาสาสอนภาษาอังกฤษ และบางครั้งฉันก็ไปช่วยจัดแต่งชั้นเรียนกับเด็ก ๆ”
จางเสวี่ยฉุนหยุดชั่วคราวและแสดงเจตนาว่ายังต้องการกลับไปยังสหรัฐอเมริกาและใช้ปากกาเป็นกระบอกเสียงให้ชาติจีน
หลินม่ายจับมือเธอ “รออย่างน้อยสามปีนะ แล้วฉันจะส่งเธอกลับสหรัฐอเมริกาอย่างปลอดภัยแน่นอน”
จางเสวี่ยฉุนพยักหน้ารับ “ฉันเข้าใจแล้ว แต่สิ่งที่ฉันกังวลคือ เมื่อครอบครัวของฉันกลับไปสหรัฐอเมริกา มันจะทำให้มีพายุใหญ่หรือเปล่า? ท้ายที่สุดแล้วในความคิดของหลาย ๆ คนก็คิดว่าฉันตายไปแล้ว แต่กลับกลายเป็นว่าฉันยังมีชีวิตอยู่…”
หลินม่ายโบกมือ “ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้หรอก เราจะไม่เปิดเผยความจริงที่ว่าเธอถูกบังคับให้แกล้งทำเป็นตายด้วยฝีมือขององค์กรเหยี่ยวดำ ทำให้องค์กรเหยี่ยวดำตกเป็นเป้าหมายของการวิพากษ์วิจารณ์สาธารณะอีกครั้ง”
วิลล่าของจางเสวี่ยฉุนไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก แต่มีหลายห้อง หลินม่ายและสามีพักอาศัยอยู่ที่นี่สองวันก่อนเดินทางกลับ
ทิวทัศน์ในเมืองเอินซือนั้นสวยงาม และยังมีอากาศที่บริสุทธิ์
ระหว่างทางกลับ หลินม่ายบอกกับฟางจั๋วหรานว่า เมื่อพวกเขาแก่ตัวลง เธออยากสร้างวิลล่าบอกภูเขาเมืองเอินซือ เพื่อเชยชมเมฆขาว อากาศเย็นสบาย และดอกไม้ที่ผลิบานอย่างงดงาม
ฟางจั๋วหรานยังคงพูดประโยคเดิม “ได้สิ ผมจะอยู่กับคุณ”
ก่อนออกเดินทางไปเยี่ยมจางเสวี่ยฉุน หลินม่ายและฟางจั๋วหรานไหว้วานสวี่เมิ่ง ขอให้หล่อนช่วยหาคนไปตักน้ำที่บ่อน้ำแร่เซียนหนิ่ว เนื่องจากพวกเขาต้องการนำมันกลับไปทำการทดสอบ
หากคุณภาพน้ำของบ่อน้ำแร่เซียนหนิ่วออกมาดี พวกเขาจะสามารถเปิดโรงงานน้ำแร่ แต่หากว่าไม่ดี พวกเขาคงต้องละทิ้งแผนการลงทุน
เมื่อหลินม่ายและฟางจั๋วหรานกลับมาที่โรงเรียน สวี่เมิ่งได้เตรียมน้ำจากบ่อน้ำแร่เซียนหนิ่วที่พวกเขาต้องการไว้แล้ว ซึ่งเป็นจำนวนค่อนข้างมาก โดยเตรียมไว้ให้หลายสิบขวด แล้วยังใส่ไว้ในถังขนาดใหญ่
หลินม่ายลองชิมด้วยตัวเอง แล้วพบว่าน้ำจากที่นี่มีรสชาติดีกว่าน้ำที่ไหลลงสู่ทะเลสาบหมิงจิ้ง
หลังกลับมาเมืองเจียงเฉิง พี่น้องทั้งห้าที่เพิ่งกลับมาจากโรงเรียนเห็นว่าหลินม่ายและฟางจั๋วหรานกลับมาแล้ว ทุกคนก็วิ่งเข้าไปล้อมรอบทั้งสองด้วยความรักและถามว่าเที่ยวเมืองเอินซือสนุกไหม
หลินม่ายบอกว่ามันสนุก แต่สภาพการเป็นอยู่ค่อนข้างแย่ เด็กส่วนใหญ่ในพื้นที่นั้นมีเพียงรองเท้าแตะฟางสวมใส่
หลินม่ายพยักหน้าเป็นคำตอบ
ตั่วตั่วถามขึ้น “ครั้งหน้าหม่าม้ากับปะป๊าพาพวกเราไปด้วยได้ไหมคะ?”
คุณปู่ฟางโบกมือและบอกว่า “พาเด็ก ๆ ทุกคนไปด้วยเถอะ พวกเขาจะได้เข้าใจถึงชีวิตที่ยากลำบาก”
หลินม่ายพยักหน้ารับ มันเป็นสิ่งที่เธอคิดไว้เช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ หลินม่ายจึงขอให้เหรินเป่าจูทำชุดนักเรียนจำนวนหนึ่งเพื่อจะนำไปบริจาคให้นักเรียนโรงเรียนประถมเซียนหนิ่วเป็นการส่วนตัวในครั้งต่อไปเมื่อพาลูก ๆ ของเธอไปเมืองเอินซือ
เธอต้องการปลูกฝังความรู้สึกรับผิดชอบต่อสังคมให้กับลูก ๆ ของเธอตั้งแต่อายุยังน้อย
ความสามารถที่ยอดเยี่ยมควรมาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่ง
ยากจนก็ดูแลตัวเองได้ หากร่ำรวยก็ช่วยเหลือโลกบ้าง
ในวันที่สองหลังจากกลับมาที่เจียงเฉิง หลินม่ายส่งตัวอย่างน้ำจากบ่อน้ำแร่เซียนหนิ่วไปตรวจสอบ
สองวันต่อมา ผลการทดสอบออกมาและบ่งบอกว่ามันเป็นน้ำแร่คุณภาพสูงเป็นพิเศษ คุณภาพน้ำก็ดีมาก
จากนั้นจึงจะนำผู้เชี่ยวชาญไปยังสถานที่ เพื่อตรวจสอบปริมาณน้ำแร่บนภูเขาที่สามารถผลิตได้ต่อวัน และศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยรอบ เป็นต้น
ด้วยเหตุนี้ หลินม่ายจึงนัดหมายกับผู้เชี่ยวชาญหลายคนเป็นพิเศษ และออกเดินทางตรวจสอบบ่อน้ำแร่เซียนหนิ่วในเมืองเอินซือในสุดสัปดาห์แรกหลังจากวันชาติ
คราวนี้ฟางจั๋วหรานยังคงต้องการไปด้วย แต่หลินม่ายปฏิเสธ
แม้ว่าสภาพถนนในเมืองเอินซือจะย่ำแย่ แต่ก็ว่าจ้างคนขับรถที่มีทักษะและกล้าหาญสองคนไปได้ และฟางจั๋วหรานไม่จำเป็นต้องไปด้วยตัวเอง
เขาทำงานในโรงพยาบาล และสามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยอาการวิกฤตได้จำนวนมาก
เนื่องจากประเทศใช้วันหยุดสุดสัปดาห์เมื่อปีที่แล้ว ปีนี้จึงมีวันหยุดยาวในช่วงวันชาติ
หลินม่ายพาผู้สูงอายุ 3 คนและเด็ก ๆ ที่น่ารักไปเที่ยวในวันหยุด
ทริปนี้จัดขึ้นที่เซี่ยงไฮ้และมณฑลเจ้อเจียง
ครอบครัวเดินทางไปเซี่ยงไฮ้ก่อน
เซี่ยงไฮ้ในปัจจุบันพัฒนาไปมาก และมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย
เดิมทีหลินม่ายวางแผนที่จะเยี่ยมชมเพียงสามวัน แต่หลังจากใช้เวลาสามวัน พวกเขาได้เยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งเท่านั้น เช่น วัดศาลหลักเมือง สวนอวี้หยวน ถนนคนเดินถนนหนานจิง ถนนเก่าฉีเปา และย่านสวีเจียฮุ่ย
แล้วยังมีเดอะบันด์ และหอไข่มุกตะวันออกที่ยังไม่มีเวลาไปอีกด้วย
ประกอบกับการชิมอาหารอันเอร็ดอร่อยต่าง ๆ จนสี่วันผ่านไป
เหลือเวลาอีกสามวันไม่พอที่จะไปเที่ยวหางโจว ครอบครัวจึงตัดสินใจเที่ยวในเซี่ยงไฮ้ต่อ แล้วค่อยไปหางโจวครั้งหน้า
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
สรุปที่ผ่านมาคือการจัดฉากพาเสวี่ยฉุนกับครอบครัวลี้ภัยมาอยู่นี่สินะ
ไหหม่า(海馬)
……….
Comments