แม่ปากร้ายยุค 80 700 ตลาดสดแห่งแรกในปักกิ่ง
ตอนที่ 700 ตลาดสดแห่งแรกในปักกิ่ง
เมื่อเวลาดำเนินจนถึงสี่ทุ่ม ทั้งครอบครัวก็เข้านอน หลินม่ายและฟางจั๋วหรานต่างอาบน้ำเพื่อเตรียมพร้อมที่จะเข้านอน
หลินม่ายมองไปที่ฟางจั๋วหรานด้วยดวงตาเบิกกว้างและรู้ว่าเขาต้องการทำอะไร
แม้การแต่งงานจะผ่านไปเกือบสองเดือนแล้ว แต่เธอก็ยังเขินอายมาก
ฟางจั๋วหรานอุ้มเธอขึ้นวางลงบนเตียง คลุมเธอด้วยผ้านวม ก่อนจะนอนทับบนตัวเธออย่างอ่อนโยน
จากนั้นจึงจูบและกอดหลินม่ายนอนอย่างนุ่มนวลในอ้อมแขนของเขา
เมื่อฟางจั๋วหรานกำลังจะเริ่มต้นช่วงเวลาแห่งการร่วมรัก หลินม่ายก็นึกถึงความเมตตาของเขาที่มีต่อเธอ ชายหนุ่มก้มลง ใช้ริมฝีปากสัมผัสทั่วร่างกายเธอก่อนจะกล่าว “ผมจะเริ่มแล้วนะ~”
ฟางจั๋วหรานมองเธอด้วยความประหลาดใจ
ทุกครั้งที่เขาจะร่วมรักกับเธอ หลินม่ายมักมีท่าทางเขินอายอย่างมาก
เขากำลังคิดกับตัวเองว่า สิ่งที่กำลังทำอยู่เป็นการขืนใจเธอหรือไม่
หลินม่ายเผยรอยยิ้มในดวงตา “ได้ คุณลงมือเลย”
หลินม่ายเป็นคนเก่งแต่ปาก แต่ใจเธอไม่ได้กล้าแกร่งเช่นนั้น
เธอพยายามลูบไล้ทั่วร่างกายของฟางจั๋วหราน แต่ก็เขินอายเกินกว่าจะอดทนทำได้
ในที่สุดเธอก็กลิ้งตัวออกจากอ้อมแขนของเขาพลางกล่าว “ฉันเหนื่อย ไว้วันหลังดีกว่า”
“ผมไม่เหนื่อย ไม่อยากเปลี่ยนวันด้วย คุณไม่อยาก แต่ผมอยาก~” ฟางจั๋วหรานกล่าวด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย
หลินม่ายคิดในใจ ‘ผู้ชายมักทำเรื่องไร้ยางอายแบบนี้ตลอดเลยสิน่า…’
……
จ้าวเลี่ยงใช้เวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ในการตกแต่งตลาดสดและรับสมัครพนักงานทั้งหมด
มีทั้งคนงานที่ถูกเลิกจ้างจากตลาดสดเดิมและคนหนุ่มสาวที่ว่างงาน
กำหนดวันเปิดทำการคือวันอาทิตย์นี้
แม้ทั้งสองจะใช้พลังอย่างมากตลอดทั้งคืนจนเหน็ดเหนื่อย แต่หลินม่ายและสามีของเธอก็ตื่นตั้งแต่หกโมงเช้าเพื่อมาดูแลตลาดสดแห่งแรกในปักกิ่ง
หลังจากที่พวกเขาทั้งสองอาบน้ำแต่งตัวแล้วก็มายังห้องนั่งเล่น คุณปู่ฟาง คุณย่าฟาง และโต้วโต้วตื่นแล้ว พวกเขาทั้งหมดแต่งตัวดูดี หากใครไม่รู้ก็อาจคิดว่าครอบครัวนี้จะเดินทางไปเที่ยว
ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน อุณหภูมิในกรุงปักกิ่งลดต่ำมาก ลมพัดกระทบใบหน้าจนรู้สึกหนาวเหน็บ
ฟางจั๋วหรานให้ทุกคนสวมหน้ากาก ซึ่งสามารถป้องกันทั้งลมหนาวและพายุทราย
ฟางจั๋วหรานสวมหน้ากากให้หลินม่ายและได้เห็นคิ้วโก่งของเธอ ยิ่งเขามองมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งชอบเธอมากขึ้นเท่านั้น
เขาแอบเหลือบมองคุณปู่ฟาง คุณย่าฟาง และโต้วโต้ว แต่พวกเขาไม่ได้มองมายังเขา เมื่อเห็นว่ามีโอกาสดังนั้น เขาก็รีบจูบแก้มหลินม่ายทันที
หลินม่ายจ้องมองเขาอย่างเขินอายและรักใคร่
ตลาดสดฝูตัวตัวอยู่ไม่ไกลจากลานบ้านของหลินม่าย และทั้งครอบครัวก็วางแผนที่จะไปที่นั่น
หลังจากออกไป หลินม่ายเห็นคนชราบางคนเดินไปมาโดยถือวิทยุไว้ในมือพร้อมฟังขณะเดิน
สิ่งที่ออกอากาศทางวิทยุคือโฆษณาสำหรับการประกวดนางแบบ
เพลง ‘ชีวิตที่เบ่งบาน’ ดังขึ้น เหล่าผู้อาวุโสที่ได้ฟังก็ต่างเพลิดเพลินไปกับบทเพลงอันไพเราะนั้น
ความสามารถในการลอกเลียนแบบของเด็กนั้นยอดเยี่ยมมาก
โต้วโต้วฟัง ‘ชีวิตที่เบ่งบาน’ จากวิทยุของคนอื่นหลายครั้งระหว่างทาง ไม่นานหล่อนก็สามารถจดจำและร้องบทเพลงได้ที่ปากทางเข้าตลาด
วันแรกที่ตลาดแห่งนี้เปิดทำการก็มีอาหารสดลดราคามากมาย โดยมีข้อจำกัดว่าลูกค้าแต่ละคนสามารถซื้อได้เพียงหนึ่งครั้งเท่านั้น
รับสิทธิ์จำนวนจำกัดเพียงห้าร้อยคน หลังจากนั้นทุกอย่างจะขายในราคาปกติ
จ้าวเลี่ยงมีประสบการณ์มากในเรื่องนี้ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการที่ผู้คนต่างกรูเข้ามาเพื่อแย่งชิงกันซื้ออาหารครึ่งราคา เขานำเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้ามารักษาความสงบเรียบร้อยในตลาดสด
เมื่อลูกค้าเข้าแถว เขาก็ขอให้หัวหน้ารักษาความปลอดภัยแจกจ่ายคูปองลดราาให้พวกเขา
ด้วยการจัดการเช่นนี้ การซื้ออาหารทะเลครึ่งราคาตลอดสามวันก็ไร้ซึ่งอุบัติเหตุ และคูปองลดราคาก็ช่วยป้องกันอุบัติเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยคูปองลดราคาอาหารจะเริ่มแจกจ่ายก่อนเวลาที่ตลาดสดจะเปิดให้บริการ
ชายและหญิงชรามากมายที่มาเดินตลาดต่างรวมตัวกันเพื่อพูดคุย
พวกเขาจับกลุ่มพูดคุยกันถึงการประกวดนางแบบของห้องเสื้อจิ่นซิ่ว
หญิงชราหลายคนถามกันว่านางแบบคืออะไร?
หลายคนต่างบอกด้วยว่าหลานสาวของพวกเขาต้องการมีส่วนร่วม
หญิงและชายวัยชราบางคนถึงกับตั้งตารอ หากหลานสาวของพวกเขาได้รับรางวัลชนะเลิศก็คงจะดีไม่น้อย!
ชายและหญิงชราพูดคุยกันจนถึงเวลาเจ็ดโมงเช้า ซึ่งเป็นเวลาที่ตลาดสดฝูตัวตัวจะเปิดทำการ
ชายชราและหญิงชราที่มายังตลาดแห่งนี้ต่างรุดไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
หลินม่ายจ้องมองไปยังคนเหล่านั้นด้วยท่าทางกังวลเล็กน้อย ทันทีที่ประตูตลาดเปิดออก ชายและหญิงชราก็รีบกรูกันเข้ามา เป็นไปได้สูงว่าอาจเกิดอุบัติเหตุขึ้น
เธอรีบเดินไปหาจ้าวเลี่ยงและบอกเขาถึงความกังวลของตน
เธอบอกเขาว่าไม่ให้เปิดประตูใหญ่ และให้เปิดประตูเล็กไว้ก่อน ให้ชายและหญิงชราเหล่านี้เข้าตลาดผ่านทางประตูเล็กเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
จ้าวเลี่ยงพยักหน้า “ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน”
แม้ว่าจะมีเพียงประตูเล็กที่ถูกเปิดออก แต่ชายชราและหญิงชราก็เบียดเสียดกันเข้าไปด้านใน
แต่ประตูเล็กนั้นมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยืนอยู่ทั้งในและนอกประตูเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย แม้ว่าชายและหญิงชราจะเบียดเสียดกันจนล้มลง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็สามารถพยุงพวกเขาไว้ได้
ในเวลาไม่ถึงสิบห้านาที ชายและหญิงชราทุกคนที่มาซื้อชองก็เข้าสู่ตลาดไเอย่างปลอดภัย และจ้าวเลี่ยงก็เปิดประตูใหญ่
นี่คืตลาดสดฝูตัวตัวแห่งแรกในปักกิ่ง เช่นเดียวกับตลาดสดสองแห่งของหลินม่ายในเจียงเฉิง พวกเขาขายเกือบทุกอย่าง
ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือ ผักเรือนกระจกที่ขายในตลาดสดสองแห่งในเจียงเฉิงนั้นสดมาก
ผักเรือนกระจกที่ขายในตลาดสดแห่งนี้ในปักกิ่งค่อนข้างจะเหี่ยวเฉา
ท้ายที่สุดแล้ว ผักเรือนกระจกเหล่านี้ล้วนถูกขนส่งมาจากพื้นที่ชนบทของเจียงเฉิงและต้องใช้เวลาอย่างมากตั้งแต่การเลือก การคัดแยก ไปจนถึงการฝากขาย
หากต้องการกินผักเรือนกระจกสดก็ต้องรอให้ผักเรือนกระจกของจ้าวเลี่ยงในเขตชานเมืองของกรุงปักกิ่งเติบโตเสียก่อน
นี่เป็นครั้งแรกสำหรับคนทั่วไปในเมืองหลวงที่ได้เห็นตลาดสดที่มีความหลากหลาย ครบถ้วน และไม่มีค่าเข้า เช่นเดียวกับคนในเจียงเฉิงในตอนนั้นที่รู้สึกแปลกตาและตื่นเต้น
เหตุผลของความตื่นเต้นคือ คุณภาพของสินค้าในตลาดสดฝูตัวตัวของหลินม่ายนั้นดีกว่าตลาดสดของรัฐอย่างเห็นได้ชัด และราคาก็แพงกว่าตลาดสดของรัฐเพียงเล็กน้อย
ข้าวและแป้งก็ล้วนเป็นของใหม่ สดและหอมนุ่มกว่าที่อื่น ๆ
ชายชราและหญิงชราหลายคนซื้อบะหมี่หลายร้อยถุงและขี่จักรยานกลับบ้านอย่างมีความสุข
แน่นอนว่าไม่มีใครอยากซื้อข้าวเก่าและบะหมี่เก่าจากร้านค้าในตลาดของรัฐ
นอกจากนี้ยังมีผู้คนจำนวนมากที่ซื้อน้ำมันปรุงอาหาร เพราะน้ำมันปรุงอาหารจำนวนเล็กน้อยที่แจกจ่ายโดยรัฐนั้นไม่เพียงพอสำหรับคนธรรมดาที่จะกิน
ชายชราและหญิงชราเหล่านั้นซื้อของไปมากมายจากตลาดแห่งนี้ ราวกับกลัวว่าพวกเขาจะไม่สามารถซื้อได้ในอนาคต
แม้ว่าการซื้อเนื้อวัวและเนื้อแกะจำนวนมากเช่นนี้จะไม่ถูกนัก แต่ก็มีหลายคนที่สามารถซื้อได้
ที่นี่คือเมืองหลวง กระเป๋าเงินของผู้คนที่นี่หนักกว่าผู้คนในเจียงเฉิงมาก และกำลังซื้อก็แข็งแกร่งกว่ามาก
หลินม่ายขอให้จ้าวเลี่ยงตัดเอ็นจากขาวัวและขาแกะให้เธอ
ตั้งแต่มาถึงเมืองหลวง ครอบครัวของเธอไม่ค่อยได้กินเนื้อวัวและเนื้อแกะ เพราะไม่สามารถหาซื้อได้
เมื่อวานนี้ โต้วโต้วบอกว่าหล่อนอยากกินหม้อไฟเนื้อ ดังนั้นวันนี้เธอจึงวางแผนจะทำอาหารกินเองโดยซื้อเนื้อวัวและเนื้อแกะจากตลาดของตัวเอง
นอกจากนี้หลินม่ายยังซื้อผักมากมาย เช่น มะเขือเทศและผักกาดหอม ไปจนเต็มตะกร้า
เมื่อทั้งครอบครัวของหลินม่ายกำลังจะจากไป ชายคนหนึ่งก็เดินเข้ามาหาจ้าวเลี่ยง
ชายคนนั้นบอกว่าเขาเป็นผู้จัดการร้านปิ้งย่างที่เปิดมายาวนาน และถามจ้าวเลี่ยงว่าเขาสามารถจัดหาเนื้อวัวและเนื้อแกะสดจำนวนหนึ่งร้อยกิโลกรัมให้ร้านของเขาทุกวันได้หรือไม่?
แน่นอนว่าตลาดสดฝูตัวตัวเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีคู่ค้ามากมาย ดังนั้นการจัดหาเนื้อวัวและเนื้อแกะเพิ่มจึงไม่ใช่ปัญหา
จ้าวเลี่ยงตอบตกลง และทั้งสองก็เข้าสู่ขั้นตอนการต่อรองราคาทันที
หลินม่ายไม่ได้อยู่ฟัง เพราะเธอเชื่อมั่นในความสามารถของจ้าวเลี่ยง
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เปิดตลาดในปักกิ่งแล้ว ทีนี้อยากกินอยากซื้ออะไรก็ซื้อสบายแล้วล่ะ
ไหหม่า(海馬)
Comments