โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】 610 – ทำคุณบูชาโทษ

Now you are reading โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】 Chapter 610 - ทำคุณบูชาโทษ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

แน่นอน คนพวกนี้แตกต่างจากผู้คนในเมืองหวัง พวกเขาไม่โลภจนเกินไป ยังคงให้ความสำคัญต่อสัญญา

แต่กระนั้น เมื่อเทียบกับผู้คนในเมืองหวังแล้ว พวกเขาหวาดกลัวต่อความตายกว่ามาก

แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนกระจ่างแจ้งในวันนี้ก็คือ ความแข็งแกร่งอันลึกล้ำของฉินเฟิง!

การล่าสังหารดำเนินไปกว่าสี่ชั่วโมงเต็ม แต่การเก็บกวาดสินสงครามหลังจากนั้น ผลปรากฏว่าใช้เวลาแทบไม่ต่างกัน มากถึงสามชั่วโมงเต็ม กว่าพวกเขาจะแล้วเสร็จ ท้องฟ้าก็เริ่มมืดครึ้ม เนื่องจากสภาพอากาศในฤดูหนาว ทำให้กลางคืนมาถึงเร็วกว่าปกติ

“ถอนกำลังได้!” ฉินเฟิงสั่งการ บัญชาให้ผู้คนล่าถอย แต่คนที่เหลือก็ยังกวาดสายตา และปลดปล่อยพลังสมาธิออกมาอยู่หลายครั้ง คล้ายเกรงว่าตนจะพลาดพลั้งบางสิ่งไป

พวกเขาเสพติดการเก็บสมบัติไปแล้ว!

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นงานที่หนักจริงๆ

วัตถุดิบเผ่าแมลง แม้มีมูลค่าเพียงเล็กน้อย ทว่าส่วนที่แพงที่สุดของผึ้งบรรพกาลก็คือเข็มพิษของพวกมัน ที่อานุภาพร้ายแรงไม่ต่างจากปืนไรเฟิล รองลงมาก็จะเป็นกระดองและปีกผึ้ง ปีกผึ้งบางเบามาก แต่สามารถใช้หลอมกลายเป็นวัตถุสำหรับทำเครื่องร่อนได้

สุดท้ายคือช่วงหน้าท้องของผึ้งบรรพกาล เป็นถุงสีเหลืองอมเขียวดูน่าขยะแขยง

หากเก็บสิ่งเหล่านี้ลงไปในสุสานเทพสงครามโดยตรง ด้วยกลิ่นและสภาพอันน่ารังเกียจของมัน เกรงว่าคงมอบความลำบากให้แก่ซูซิงฝูกับคนอื่นๆแล้ว

เพราะเหตุนี้เอง ฉินเฟิงถึงได้ว่าจ้างใครบางคน ให้รับหน้าที่แยกชิ้นส่วน ส่วนดีนำกลับไปขายต่อ ส่วนเสียนำมากองรวมกัน แน่นอน ส่วนเสียที่ไม่จำเป็น ถูกฉินเฟิงจัดการเผาโดยตรง ไม่ปล่อยทิ้งไว้ให้กลายเป็นอาหารเสริมกับแมลงสัตว์ร้ายตัวอื่นๆ

ทั้งแปดล่าถอยออกมา พร้อมวัตถุดิบโหลดเต็มพื้นที่มิติ ใบหน้ายิ้มแย้มเบิกบานมีความสุข

และไม่ทราบว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญหรือโชคชะตา การกลับมาของพวกเขาในวันนี้ ระหว่างทางได้พบกับทีมของซื่อฉิงพอดิบพอดี

พื้นที่เขต 5 และเขต 7 อยู่ใกล้เคียงกัน และเนื่องจากพวกเขายังอยู่ในพื้นที่สีส้มที่มีระดับอันตรายเล็กน้อย ดังนั้นเลยตัดสินใจร่วมขบวน เดินทางกลับพร้อมกัน ทั้งสองสนทนาผ่านกำลังภายใน

แน่นอนว่าคนอื่นๆก็ย่อมได้ยินมัน

“ผลงานเก็บเกี่ยววันนี้เป็นยังไงบ้าง?” ซื่อฉิงเอ่ยถาม

“ก็ไม่เลว ทางฝั่งคุณล่ะ เป็นยังไง?”

“กวาดล้างไปได้ส่วนหนึ่ง แต่จากที่คำนวณแล้ว คิดว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อยสิบวันถึงครึ่งเดือน ถึงจะทำลายรังของพวกมันได้”

“โอ้ ถือว่าเร็วอยู่นะนั่น”

“นายยังสนใจมาร่วมภารกิจกันอยู่ไหม? ถ้านายมาด้วย มันต้องเร็วกว่านี้แน่!”

“อย่าเลย สำหรับผมลุยคนเดียวสะดวกกว่า”

ทั้งสองพูดคุยอย่างเป็นกันเอง ขณะที่ลูกน้องของแต่ละฝ่าย ต่างเม้มริมฝีปากแน่น

ฝั่งลูกน้องของซื่อฉิง แน่นอนย่อมคิดว่าฉินเฟิงคุยโว ทัศนคติหยิ่งทะนงเกินไป ต่อให้สามารถทำลายรังแมลงได้ก็ตาม แต่คิดว่าน่าจะเกิดจากการพึ่งพาอาวุธดัดแปลงระดับสูงมากกว่า

แต่ฝั่งลูกน้องของฉินเฟิง หยวนเสี่ยวกวงและคนอื่นๆ แทบลืมหายใจ ฉินเฟิงสามารถอ้าปากเอ่ยเรื่องโกหกอย่างไม่ยี่หระได้อย่างไร เพราะพวกเขาเห็นกับตาว่ารังผึ้งได้ถูกทำลายไปแล้ว แต่ยังบอกคนอื่นแค่ว่า ‘ก็ไม่เลว’ เนี่ยนะ?

หากให้พูดกันโดยทั่วไป แผนการของซื่อฉิงถือว่าเป็นเรื่องปกติ การคิดนำกลุ่มคนออกล่าสังหาร ก่อนอื่นต้องระมัดระวังไม่ให้รังแมลงเกิดจลาจล เริ่มเก็บกวาดจากรอบนอก จนจำนวนของพวกมันบางตา แล้วเริ่มควบคุมพื้นที่ ขยับลึกเข้าไป สุดท้ายถึงค่อยโจมตีรังแมลง ล่อลวงจักรพรรดิสัตว์ร้ายออกมา แล้วสังหารพวกมัน

หากกระบวนการนี้ ในแต่ละครั้งใช้ระยะเวลาครึ่งเดือน ในหนึ่งฤดูหนาว อาจสามารถสังหารจักรพรรดิสัตว์ร้ายได้ถึงสามตัว และนั่นถือเป็นสถิติสูงสุดในสมรภูมิแล้ว

อ้างอิงตามกรณีนี้ ตราบใดที่มีเลเวล B เข้าร่วมภารกิจแค่สัก 3 – 4 คน แล้วแยกย้ายกันไปใช้กลยุทธ์ที่กล่าวมา ก็น่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ทุกเขตทั้งพื้นที่ลุ่มน้ำตู่ซานได้

เพราะท้ายที่สุดแล้ว สติปัญญาของพวกแมลงสัตว์ร้ายต่ำต้อยเกินไป ต่อให้กำลังถูกรุกคืบเข้าถึงรังอย่างช้าๆ พวกมันก็ไม่สนใจ

ทว่าการกระทำของฉินเฟิง ออกจากแหวกแนว ไร้เหตุผลอย่างสิ้นเชิง

ตั้งแต่แรกเขาเลือกที่จะบุกเข้าไปถึงรังแมลงโดยตรง ไม่จัดการแมลงสัตว์ร้ายตลอดเส้นทาง เมื่อมาถึงใช้กระสุนปืนใหญ่ยิงอัดเข้ารัง สังหารผึ้งบรรพกาลที่อยู่ในรังไปได้มากกว่า 90 % จากนั้นจึงค่อยรับมือกับพวกที่เหลือ ไล่สังหารระดับราชันย์กับจักรพรรดิ จบภารกิจโดยสมบูรณ์

เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะกับคำอื่นใดเลยนอกจากคำว่า ‘ตำนาน!’

และถ้าให้พูดบรรยายออกไปก็คงไม่มีใครเชื่อ

ภายใต้ความคิดที่แตกต่างกันออกไป รถศึกของทั้งสองทีมก็กลับมาถึงเมืองกลางตู่ซาน ทั้งสองมุ่งหน้าไปยังตึกรับรองผู้ใช้พลัง

“ฉันกดยืนยันภารกิจว่าจ้างแล้ว นี่คือรางวัลของพวกคุณ และนี่ของแถม ยังไงก็ตาม น้ำผึ้งในขวดนี้ก่อนจะกิน อย่าลืมเจือจางมัน มิฉะนั้นอาจตัวระเบิดแตกตาย!”

ฉินเฟิงส่งแก่นสัตว์ร้ายให้แก่ลูกจ้างทั้งหก พร้อมมอบน้ำผึ้งขวดเล็กให้อีกคนละขวดอย่างเท่าเทียม

แน่นอน ว่าน้ำผึ้งนี่ไม่ได้มาจากรังผึ้ง เพราะพวกมันทั้งหมดถูกยึดไปตั้งนานแล้ว กลายเป็นของไป๋หลีแต่เพียงผู้เดียว

“ขอบพระคุณมิสเตอร์ ว่าแต่พรุ่งนี้คุณมีแผนที่จะไปออกล่าอีกรึเปล่า?” ผู้ใช้พลังเลเวล E คนหนึ่งรีบเอ่ยถาม

“ใช่ ถ้ามิสเตอร์ไปอีก ได้โปรดพรุ่งนี้อย่าลืมเรียกใช้พวกเรา!”

“แน่ใจหรอ? งั้นก็เพิ่มหมายเลขสื่อสารของฉันทิ้งไว้นะ”

หลายคนเพิ่มหมายเลขสื่อสารของฉินเฟิง

กระทั่งหยวนเสี่ยวกวงที่พอมีชื่อเสียงในเมือง ก็ยังมีท่าทีนอบน้อม หรืออาจเรียกได้ว่ายอมกระดิกหาง เพื่อปรารถนาจะได้หมายเลขติดต่อของฉินเฟิงมาไว้ในครอบครอง

ส่วนซื่อฉิงและเหล่าลูกน้อง ขอตัวไปส่งมอบภารกิจ จากนั้นก็แยกย้ายกันไป แต่มีบางส่วนยังรั้งอยู่ในตึกผู้ใช้พลัง

เมื่อแจกจ่ายรางวัลเสร็จสิ้น ฉินเฟิงก็นำไป๋หลีมาตรวจสอบบันทึกการต่อสู้

สิบนาทีต่อมา ภายในโถงผู้ใช้พลัง ประกาศเสียงก้องกังวานแบบเมื่อวานดังขึ้นอีกครั้ง

【ติ๊งต่อง! สถานการณ์รบในพื้นที่เขต 5เกิดการเปลี่ยนแปลง】

ว่าจบ พื้นที่โซนแดงของเขต 5 ก็เปลี่ยนเป็นสีส้ม

【ภารกิจปราบปรามรังผึ้งประสบผลสำเร็จ : ผู้บรรลุภารกิจ ผู้ใช้พลังเลเวล C ฉินเฟิง】

【ภารกิจปราบปราบราชินีผึ้งระดับจักรพรรดิสัตว์ร้ายประสบผลสำเร็จ : ผู้บรรลุภารกิจ ผู้ใช้พลังเลเวล C ไป๋หลี!】

ข่าวนี้สร้างความตื่นตะลึงให้แก่ผู้คนอีกครั้ง

ทั้งยังเล่นเอาซื่อฉิงที่เพิ่งกลับมาจากสมรภูมิถึงกับพูดไม่ออก

เจ้าเด็กฉินเฟิงนี่ เมื่อกี้ไม่ใช่เพิ่งพูดว่าก็ไม่เลวหรอกเหรอ? ผลงานถึงขนาดนี้เนี่ยนะไม่เลว? ? ?

“หลอกกันได้นะเจ้าเด็กนั่น! แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขามันสัตว์ประหลาดตัวจริง!” ซื่อฉิงอดส่ายหัวไม่ได้ ทั้งยังไม่อยากคิดเรื่องนี้อีกต่อไป

อีกด้านหนึ่ง คงถิงอาศัยอยู่ในห้องรับรองของตึกผู้ใช้พลัง ข่าวนี้ย่อมส่งมาถึงหูเธอเช่นกัน

“นายฉินเฟิงคนนี้ แข็งแกร่งถึงขนาดนี้เชียว?”

ในแววตาของคงถิงกระพริบไหว ยิ่งมายิ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมั่นอกมั่นใจในสิ่งที่ตนคิด

“ในเมื่อเป็นแบบนั้น … ถ้าฉันได้ฉินเฟิงมาเป็นแฟน พวกผู้หญิงคนอื่นๆจะไม่อิจฉาตาร้อนไปเลยหรอ?”

“ขนาดพ่อฉันยังทำไม่ได้เลย แต่ฉินเฟิงกลับทำมันได้ อ้อ อีกอย่างนึง ฉันได้ยินมาว่ากลุ่มของฉินเฟิงยังรวยมากอีกด้วย!”

คำพูดเหล่านี้ของเธอ ไม่ได้ปิดบังมันจากใคร สองผู้ใช้พลังเลเวล C ที่ยืนอยู่ข้างกายเธอ เผยถึงความเหยียดหยันในแววตาของพวกเขา

สองคนนี้เป็นบอดี้การ์ดที่คงโบะหามาให้คงถิง หากไม่ใช่เพราะเห็นแก่เงิน พวกเขาจะไม่สนใจคงถิงเลย

อย่างไรก็ตาม พวกเขาคร้านที่จะเอ่ยเตือน ว่าต่อให้คงถิงชอบฉินเฟิง แต่เกรงว่าฉินเฟิงคงไม่สนใจ!

ไม่ว่าในเรื่องรูปลักษณ์ , ความรู้สึกแรกพบ และเรื่องผลประโยชน์ … ฉินเฟิงย่อมไม่ใช่คนโง่ ฉะนั้นไม่สนใจเธอแน่นอน

คงถิงจิบไวน์แดงราคาแพง จมจ่อมไปกับรสของมันสักพักค่อยเอ่ยปากว่า “แต่ข้างกายฉินเฟิง ดันมีนังผู้หญิงที่ชื่อไป๋หลีคอยประกบอยู่ตลอดเวลา เธอค่อนข้างรกหูรกตาฉัน พวกนายช่วยไปกำจัดเธอให้ทีสิ!”

ผู้ใช้พลังเลเวล C ทั้งสองขมวดคิ้วทันใด

“คุณหนู ถ้าอยากทำแบบนั้นจริงๆ คุณควรไปหาคนอื่นดีกว่า พวกเราไม่สามารถปลีกตัวจากไปได้ ยังต้องคอยปกป้องคุณ ครั้งก่อนที่คุณถูกลักพาตัวไป ท่านผู้ใหญ่คงได้ถ่ายทอดคำสั่งมา ว่าห้ามพวกเราปล่อยให้คุณอยู่นอกสายตาอีก!”

“ถ้าแค่งานเล็กๆน้อยๆแบบนี้พวกนายยังจัดการไม่ได้ แล้วฉันจะจ้างพวกนายไปทำไม!” คงถิงกล่าวด้วยความโกรธ

ทว่าสองบอดี้การ์ดนิ่งงันไม่ไหวติง คงถิงไม่มีทางเลือกอื่น ได้แต่ฮึดฮัดออกจากห้องนั่งเล่น กลับไปทิ้งตัวบนที่นอนของเธอ

“เหอ เหอ คิดว่าฉันจะไม่มีหนทางอื่นเลยหรอถ้าไม่พึ่งพวกนาย? นี่มันก็แค่ภารกิจฆ่าง่ายๆ ดังนั้นจ้างวานคนก็พอแล้ว!”

เมื่อคิดได้ คงถิงก็เปิดอุปกรณ์สื่อสารของเธอ เปิดรายการนักฆ่า และเสนอเงินรางวัล 5 หมื่นล้านออกไป

ไม่นาน ก็มีคนกดรับภารกิจ

“ทุกอย่างจะแล้วเสร็จในเจ็ดวัน คุณรอรับฟังข่าวดีได้เลย”

นักฆ่าส่งข้อความตอบกลับมา

คงถิงยิ้มยิงฟันด้วยความดีใจ ที่เหลือก็แค่เฝ้ารอข่าวดี บ่นพึมพำในใจ

‘คอยดูเถอะนังเครื่องประดับ อีกไม่นาน แฟนเธอต้องตกเป็นของฉัน!’

โดยที่ไม่ทราบเลยว่า อีกฝ่ายที่ส่งข้อความตอบกลับมา แท้จริงแล้วมิใช่คนจากทางพันธมิตรหัวเซี่ย

หากคงถิงอยู่ที่นี่ เธอคงสามารถระบุตัวพวกมันได้ในทันที เพราะคนกลุ่มนี้ คือกลุ่มที่เพิ่งลักพาตัวเธอไป –เป็นทีมย่อยของกลุ่มปีศาจชินระ!

ทีมของพวกติหรัง!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด