โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】 368

Now you are reading โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】 Chapter 368 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.368 – ไล่ตามออกจากเมือง

 

ใบหน้าของฉินเฟิง มันเด็กเกินไป!

 

ฉะนั้นโกวเกิงจะไปทันคิดอย่างไร? เขาย่อมคาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายเป็นผู้เชี่ยวชาญ

 

อีกอย่าง ก่อนหน้านี้ฉินเฟิงเพิ่งออกมาจากการฝึกยุทธในสุสานเทพสงคราม ดังนั้นสวมใส่เพียงเสื้อผ้าหลวมๆ มิใช่ชุดรบ กระทั่งตราเลเวล D ก็ไม่ได้ติดมัน

 

โกวเกิงจึงไม่ทันระวัง ผุดรอยยิ้มน่าหวาดกลัว ก้าวสะอึกเพียงหนึ่ง ย่นระยะมาปรากฏตัวต่อหน้าฉินเฟิง

 

วินาทีต่อมา ฝ่ามือของโกวเกิงก็ฉกเข้าที่คอของฉินเฟิง

 

สำหรับโกวเกิง เขารู้สึกว่าการจะสังหารฉินเฟิง มันง่ายดายราวกับบีบคอลูกไก่

 

ทว่าอีกไม่นาน โกวเกิงจะได้รู้ ว่าฉินเฟิงแม้ดูเหมือนลูกไก่ แต่มิใช่ลูกไก่อ่อนแออย่างแน่นอน!

 

ฉินเฟิงก็สวนกลับไปเช่นกัน หมัดนี้แม้เชื่องช้ากว่าอีกฝ่าย แต่ก็อัดแน่นไปด้วยกำลังภายใน ระเบิดเข้าใส่โกวเกิง

 

รอยยิ้มบนใบหน้าโกวเกิงแข็งค้าง จิตใต้สำนึกคล้ายบังเกิดลางสังหรณ์ร้าย

 

“เทคนิคแขนเหล็ก!”

 

กำลังภายในของโกวเกิงปะทุไหวอย่างเร่งร้อน เนื่องจากเวลามันน้อยไป สายเกินกว่าจะสร้างปราณกำลังภายใน จึงทำได้เพียงอัดฉีดกำลังภายในลงช่วงแขน จากนั้นถอนฝ่ามือออก เอียงตัวใช้ส่วนที่เปลี่ยนเป็นเหล็กกล้าเข้าทานรับการโจมตีตรงหน้าแทน

 

ปงงงง!

 

กำปั้นของฉินเฟิงซัดเปรี้ยงเข้าใส่แขนของโกวเกิง

 

เสมือนดั่งค้อนปอนด์กระแทกเข้ากับเหล็ก เสียงสะท้อนหนักทึบ ต่อมา เหล็กที่ตกอยู่ภายใต้การโจมตีของฉินเฟิง ก็บุบลงทันใด

 

ใบหน้าของโกวเกิง ฉายชัดถึงความเจ็บปวด

 

เปรี๊ยะ!

 

ตามมาติดๆด้วยเสียงข้อกระดูกเคลื่อนจากกัน

 

เมื่อไม่ได้รับการสนับสนุนจากกำลังภายใน พอถูกกระแทกด้วยพลังโจมตีมหาศาล แรงปะทะก็ส่งโกวเกิงหมุนคว้างไปในอากาศ

 

ตูม!

 

โกวเกิงพุ่งทะลุตึก โครงสร้างที่เสียหายอยู่แล้วมิอาจทานทนต่อไปไหว ถล่มลงมา

 

ช่างน่าอับอายยิ่งนัก

 

“ไอ้เด็กเปรต!”

 

เนื่องจากฉินเฟิงไม่ได้ใช้พลังงานเต็มที่ โกวเกิงเลยยังไม่ตระหนักถึง ว่าฉินเฟิงแข็งแกร่งขนาดไหน

 

โกวเกิงคิดแค่ว่า เมื่อครู่เขาประเมินศัตรูต่ำไป

 

กร๊อบ! โกวเกิงจัดกระดูกแขนที่หักให้เข้าที่ด้วยตนเอง

 

ตามมาติดๆด้วยกำลังภายในที่ระเบิดออก ก่อร่างเป็นปราณกำลังภายในในอากาศ ห่อหุ้มร่างกายตน

 

“ไอ้หนู คราวนี้อย่าหวังเลยว่าจะรอดไปได้!” โกวเกิงตวาดลั่น

 

“และต่อให้แกไม่ตาย แต่สิ่งที่กำลังเฝ้ารอแกอยู่ มันคือความทรมานอันไม่มีที่สิ้นสุด! เพราะท้ายที่สุดแล้ว บนตัวแกเหมือนจะมีความลับมากมายเก็บงำอยู่ มันคุ้มค่าที่จะนำตัวไปทดลอง!”

 

ฉินเฟิงแสยะยิ้ม ปลดปล่อยกำลังภายในออกสู่ภายนอกเช่นเดียวกับศัตรู

 

ปราณกำลังภายในซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเลเวล D ปรากฏขึ้น

 

สีหน้าของโกวเกิงหมองลง แต่พริบตาเดียวมันก็ถูกความโหดเหี้ยมยิ่งกว่าเข้ากลบกลืน!

 

จากนั้น เขาก็หยิบอาวุธออกมา

 

เป็นกริชสั้นคู่หนึ่ง

 

อาวุธมักจะบอกถึงความเชี่ยวชาญของผู้ใช้ และกริชนี้ บ่งบอกชัดเจน–

 

–ว่าโกวเกิงฉกาจในด้านการลอบสังหาร!

 

วินาทีต่อมา โกวเกิงก็หายวับไป

 

ความว่องไวนี้ หากเทียบกับครั้งแรกที่โกวเกิงหมายจะฉกฝ่ามือบีบคอฉินเฟิง มันรวดเร็วกว่านับ 10 เท่า!

 

โกวเกิงในปัจจุบัน เปลี่ยนมาอยู่ในสภาวะต่อสู้เต็มรูปแบบแล้ว!

 

ในชั่วพริบตาเดียว โกวเกิงปรากฏตัวขึ้นด้านซ้ายของฉินเฟิง คมกริชที่สาดประกายเย็นเยียบ กรีดผ่านความว่างเปล่า

 

กึ้งงงง!

 

ปราณกำลังภายในสั่นสะเทือนทันใด

 

เคร้ง เคร้ง เคร้ง!

 

สองมือของโกวเกิงร่ายระบำพรั่งพราว ปลดปล่อยภาพติดตานับไม่ถ้วน ภายใต้การระดมโจมตีดั่งโกรธแค้นเคืองกันจากชาติปางก่อน สุดท้ายกลายเป็นสุดยื้อ ปราณกำลังภายในแตกเป็นเสี่ยงๆในที่สุด

 

และที่อธิบายไปทั้งหมด มันผ่านพ้นไปแค่ 1 วินาทีเท่านั้น!

 

รวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง!

 

ช่วงเวลาเดียวกัน เมื่อศัตรูเผยโฉมออกมา ฉินเฟิงก็สามารถล็อคพลังสมาธิลงบนร่างของโกวเกิง

 

โกวเกิงวาดวาดแขนเป็นวงเสี้ยว กวาดตรงเข้าใส่ลำคอของฉินเฟิง ในวิสัยทัศน์ของเขา ราวกับว่าได้เห็นถึงฉากหัวของฉินเฟิงร่วงลงกับพื้นไปแล้ว

 

ฉินเฟิงสะบัดมือออก เปลวไฟพลันลุกไหม้ ปะทุออกจากมือเขาทันใด

 

“ลำแสงเปลวเพลิง!”

 

ลำแสงนี้ มีเส้นผ่านศูนย์กลางหนากว่า 1 เมตร มันมีขนาดเกือบเท่ากระสุนจากปืนใหญ่พลังงาน –หลังจากฉินเฟิงได้ดูดซับผลึกเพชรเพลิง อบิลิตี้ไฟของเขาก็ทรงพลังขึ้นกว่าเดิมมาก

 

ลำแสงเปลวเพลิงนี้ ปะทุออกอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่ใช่การระเบิดโจมตีอย่างเต็มกำลัง

 

ก็แค่เชือดไก่ เหตุใดต้องใช้ขวานยักษ์จามมันด้วยเล่า? มีดครัวธรรมดาก็พอแล้ว!

 

ฉินเฟิงเพียงโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ และปัง! เปลวเพลิงกระทบเป้าหมาย ปราณกำลังภายในแตกสลายลงทันที เส้นแสงเปลวเพลิงม้วนเข้าใส่ร่างของโกวเกิง

 

ความรู้สึกแสบร้อนดั่งถูกแผดเผา ตกลงบนชุดรบของโกวเกิง เปลวเพลิงทรงอานุภาพทำลายชุดรบของเขาโดยตรง

 

เป็นอีกครั้งที่โกวเกิงถูกแรงปะทะ ส่งตัวขึ้นไปลอยคว้างบนอากาศ

 

“นี่มันใช้อบิลิตี้!”

 

โกวเกิงไม่คาดคิดเลย ว่าฉินเฟิงจะเป็นผู้ใช้อบิลิตี้

 

เพราะหมัดแรกที่ชกเข้าใส่เขา เห็นได้ชัดว่านั่นเป็นพลังของผู้ใช้วรยุทธโบราณ!

 

ฉินเฟิงก้าวตามติดเพื่อคว้าชัยชนะ

 

“ร่างทรงนกยูง!”

 

คราวนี้เป็นเพลิงฟ้าที่ปะทุโหม ปรากฏร่างเงานกยูงสีฟ้าสยายปีกออก โฉบเข้าหา หมายจะโอบกอดโกวเกิง

 

แต่โอบกอดแบบนี้ โกวเกิงมิกล้ายอมรับ!

 

“เป็นเพลิงฟ้ากลายพันธุ์! ที่แท้แกก็คือฉินเฟิง!”

 

โกวเกิงขนลุกชัน ความเจ็บแสบจากท่าลำแสงเปลวเพลิงยังไม่ทันจางหาย ก็ต้องเผชิญกับท่าใหม่ซะแล้ว ดังนั้นเขามีหรือจะยินยอม ร่างของโกวเกิงพลันกระพริบไหว หายวับไปจากตำแหน่งเดิม

 

ปัง!

 

ร่างทรงนกยูงปะทะเข้ากับพื้น แรงระเบิดขุดพื้นจนกลายเป็นหลุมใหญ่

 

โกวเกิงที่เล็ดลอดมาได้มิกล้าอยู่เฉย หันหลังวิ่งหนีไปทันที

 

แน่นอน เขาย่อมเคยได้ยินชื่อเสียงของฉินเฟิงมาก่อน

 

แม้ตนจะซ่อนตัวอยู่ในหมู่บ้านหวังเป่ยเพื่อทำการทดลอง แต่เรื่องของสันเขาถังซาน หรือการทำลายตระกูลซง โกวเกิงย่อมได้รับข่าว แต่เขาไม่คิดฝันเลยว่าจะได้พบกับฉินเฟิงที่นี่

 

หากไม่ได้มาเห็นด้วยตาตัวเอง โกวเกิงไม่อยากเชื่อเลยว่าฉินเฟิงจะแข็งแกร่งขนาดนี้

 

เดิมเขาคิดว่าเรื่องราวอันโด่งดังอย่างปล้นจักรพรรดินกยูงเพลิงฟ้าที่ถังซาน อาจเป็นเพราะโชคช่วย ส่วนเรื่องที่สามารถสังหารผู้นำตระกูลซงได้ นั่นอาจเป็นเพราะซงจินควงแก่เกินไปแล้ว

 

แต่ทุกฉาก ทุกการลงมือเมื่อครู่ เห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

 

โกวเกิงเมื่อได้เผชิญหน้ากับฉินเฟิง ก็มิอาจโต้กลับได้เลย ดังนั้น–

 

–เขาต้องรีบหนี!

 

ช่างหัวหยานฟาง! ตัวเองยังแทบเอาชีวิตไม่รอด แล้วจะไปช่วยมันได้อย่างไร อีกอย่างเขาเก่งกาจในเรื่องเทคนิคอำพราง ขอแค่กลืนไปกับตึกราม เมื่อสบโอกาสก็จะหนีออกไปนอกปราการชาตง

 

ฟู่ว! โกวเกิงวิ่งสุดฝีเท้ามาหลบในมุมหนึ่งถอนหายใจโล่งอก

 

ดูเหมือนว่าเขาจะสลัดฉินเฟิงหลุดแล้ว!

 

“ฉันต้องรายงานเรื่องนี้แก่ท่านหยาน เมื่อเขาเห็นว่าหยานฟางได้รับบาดเจ็บสาหัส ถึงเวลานั้นฉินเฟิงจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย”

 

นี่เท่ากับเป็นการล้างแค้นให้ตนเองด้วย!

 

“อุ ..” โกวเกิงคร่ำครวญ อาการบาดเจ็บตรงช่วงท้องจากลำแสงเปลวเพลิง มันร้ายแรงเกินไป

 

โกวเกิงนำเครื่องมือสีเงินออกมาจากพื้นที่มิติ จากนั้นก็กดปุ่มเปิดมิติปิดล้อม พริบตาเดียวประตูมิติก็เปิดออก

 

โกวเกิงกำลังจะเดินออกไปทางประตูนี้ แต่ในตอนนั้นเอง กลับปรากฏร่างหนึ่งผุดขึ้นมาจากเงาดำอย่างกะทันหัน

 

“หึ หึ จะรีบหนีไปไหน!!” ฉินเฟิงหัวเราะเย็นชา เผยร่างของตนขึ้นทันใด

 

โกวเกิงสะดุ้งตกใจ เหลียวกลับมามอง พบว่าฉินเฟิงยืนอยู่ห่างเขาแค่ไม่เกิน 1 เมตร

 

ดวงตาของโกวเกิงเบิกกว้างด้วยความตกใจ ทั้งตัวผงะไปข้างหลัง ถอยไปไกลเกือบ 10 เมตร ก็สะดุดขาตัวเอง ล้มก้นกระแทกลงกับพื้น

 

ผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล D ต้องมาแสดงท่าทีน่าสมเพชเช่นนี้ หากผู้อื่นเห็น เกรงว่าคงถูกหัวเราะใส่จนฟันร่วง

 

แต่เวลานี้ฉินเฟิงไม่คิดสนใจโกวเกิง

 

“ลำแสงเปลวเพลิง!”

 

เส้นแสงที่ลุกไหม้ปะทุขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ลำแสงระเบิดพลังเต็มพิกัด ลากยาวเป็นสายปะทะเข้าใส่ใจกลางของเครื่องมือมิติที่โกวเกิงเพิ่งเรียกออกมา

 

ภายในอุปกรณ์มิติ มันติดตั้งไว้ด้วยศิลารูนมิติ ล้ำค่าเป็นอย่างมาก นี่คือสิ่งที่ใช้ในการปิดล้อมมิติ

 

ตูม!

 

เครื่องมือมิติพังลงทันที!

 

ท่ามกลางความมืดมิดในราตรีกาล แสงสีเงินกระพริบไหวอย่างต่อเนื่อง ยากนักที่จะไม่สังเกตเห็น

 

ฉินเฟิงไม่รอช้า ส่งเสียงผ่านพันธสัญญาออกไป!

 

“ไป๋หลี รีบบอกทุกคน ว่าให้เร่งอพยพเดี๋ยวนี้!”

 

“เข้าใจแล้ว!”

 

สองจิตวิญญาณที่เชื่อมต่อกัน ทำให้สามารถส่งข่าวได้อย่างรวดเร็ว

 

ช่วงเวลานี้ เมื่อเห็นเครื่องมือมิติระเบิด โกวเกิงเองก็ตะลึงงันไปเช่นกัน

 

อย่างไรก็ตาม เสียงสนั่นแบบนี้ เป็นธรรมดาที่ย่อมดึงดูดความสนใจจากผู้คนภายนอก

 

“ฉินเฟิง แกพลาดแล้ว รอความตายได้เลย!” โกวเกิงฉีกตัวหลบไปด้านข้าง ต้องการจะหลบหนีอีกครั้ง!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด