โลกที่สงบสุขนี้ ไม่จำเป็นต้องมีข้าบทนำ 0 ผู้กล้าที่ไม่ใช่ผู้กล้า
ชายผู้หนึ่ง ผู้ที่สวมผ้าคลุมที่ขาดแหว่งราวกับว่ามันได้ผ่านศึกอันโชกโชนมา ไม่ต่างจากร่างกายของเขาที่สะบีกสะบอม เปรอะเปื้อนโคลนและน้ำฝนที่สาดมากระทบกับเขา
เขาเดินเข้ามาที่ค่ายของกองทัพจอมมารตามลำพังโดยไร้ซึ่งพรรคพวก พร้อมกับดาบเล่มหนึ่ง
” ผู้กล้ารึ? ” ?
” กล้าเสนอหน้ามาหาพวกข้าถึงที่เชียว? ” ?
” เดี๋ยวก่อน? เจ้ามันไม่ใช่ผู้กล้นี่หว่า? แล้วเป็นใครกัน?–
คืนนั้น เป็นคืนที่ฝนตกหนักมากยิ่งกว่าคืนไหน ในขณะเดียวกัน สายฝนนี้นั้นกลับไม่สามารถดับไฟที่กำลังลุกลามอย่างหนักได้แม้แต่น้อย
ในคืนเดียวกันนั้น ค่ายหนึ่งของกองทัพปีศาจที่มีจำนวนปีศาจกว่า 2000 ตนได้ถูกทำลายลง ด้วยฝีมือของคนคนเดียว
หลังจากคืนนั้นผ่านพ้นมา เรื่องนี้ก็ได้แพร่กระจายออกไปตามเมืองต่างๆ ทำให้ประชาชนต่างตื่นตัวและพูดถึงเรื่องนี้ไม่พัก
จากปากของชาวบ้านแล้วคงมองเรื่องนี้ว่าเป็นฝีมือของคณะผู้กล้า แต่แท้จริงแล้วคนที่เป็นคนทำเรื่องนี้ไม่มีเค้าความเป็นผู้กล้าเลยแม้แต่น้อย
เมืองชายแดน – เนลลู
บาร์รุ่งสางอเดลล่า
กริ๊ง~ กริ๊ง~
” ยินดีต้อนรับค่า ” ?
แม้ว่าในบาร์นี้จะไม่ได้มีผู้คนมากมายนักเนื่องจากเป็นบาร์ที่อยู่ติดกับเขตแดนของพวกปีศาจ แต่ก็มักจะมีนักผจญภัยเก่งๆเข้ามาพักผ่อนเสมอๆ
และวันนี้เองก็เช่นกัน ภายในบาร์นี้มีปาร์ตี้ของนักผจญภัยอยู่ 2 ถึง 3 กลุ่มซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นพวกหน้าใหม่ที่อยากลองของกับแดนปีศาจ
ทว่าหน้าใหม่พวกนั้นกลับจ้องมองไปที่ผู้มาใหม่อย่างไม่ปล่อยตัว พวกเขาสัมผัสได้ถึงออร่าของชายสวมผ้าคลุมคนนั้นได้เป็นอย่างดี ทั่วทั้งตัวของเขาต่างเปียกโชก เสื้อผ้าราวกับผ่านสมรภูมิมาไม่มีผิด
เขาถอดฮูดลง เผยให้เห็นใบหน้าของชายวัยกลางคนอายุเลยเลขสามขึ้นไป ถึงอย่างนั้นการที่เขาทำแบบนั้นมันไม่ได้ทำให้ออร่าของเขาลดน้อยลงไปเลย ไม่เพียงเท่านั้นบรรยากาศรอบตัวเขาก็ยิ่งแสดงให้ถึงแรงกดดันอันมหาศาลมากยิ่งขึ้นไปอีก
ไม่นานนักที่เขาได้ปรากฏตัวขึ้น เจ้าของร้านเหล้าแห่งนี่ที่ทำหน้าที่เป็นบาร์เทนเดอร์และผู้ให้บริการในขณะเดียวกัน เธอวางศอกลงบนเคาท์เตอร์ข้างหน้า ก่อนจะท้าวคางของตนเอง
มองชายคนนั้นอย่างเอือมระอา
” คืนนี้กี่ตัวรึ? ” ?
เขาเดินเข้ามาภายในร้าน และมานั่งด้านหน้าเธอขณะที่กำลังถูกทุหสายตาจ้องมองอยู่ เขารู้ตัวว่าเขากำลังเป็นที่จับตา แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรเพราะรู้ตัวดีว่าถ้าให้เด็กพวกนี้รวมหัวกันก็ยังสู้เขาไม่ได้ จึงปล่อยเลยตามเลยไป
” 2789 ไม่ได้มีตัวที่เก่งมากอะไรขนาดนั้น แต่ก็ปล่อยไว้ไม่ได้อยู่ดี ”
” หืม? ” ?
” ดูแลตัวเองบ้างก็ดีนะเจ้าบ้า ” ?
” ข้ารู้ตัวดีอยู่แล้วอเดลล่า ” ราธ
” แล้ว จะเอาอะไรล่ะ? “อเดลล่า
” ขอเหมือนเดิม ” ราธ
” เหมือนเดิม.. ฮิปโปกริฟฟ์ตุ๋นกับหญ้าวิญญาณ ขนมปังกระเทียมและชาข้าวโอ้ต? “อเดลล่า
” อืม แล้วก็.. นี่สำหรับค่าอาหารและที่พัก ” ราธ
” สามทอง… “อเดลล่า
” เดี๋ยว… น- นี่มันค่อนข้างมากไปหน่อยนะอักราธ!! ปกติค่าอาหารของเจ้าข้าคิดแค่ ห้าสิบเงินเท่านั้นเอง!! “อเดลล่า
” รับไปเถอะ ถือว่าเป็นค่าทำความสะอาดร้านแทนข้า ” ราธ
” … ก็ได้ แล้วแต่เจ้า งั้นเดี๋ยวข้ามาขอเวลาเตรียมอาหารพักนึง ส่วนของหน้าร้านข้าให้น้องสาวของข้าดูแลต่อแล้วกัน ” อเดลล่า
” สวัสดีค่ะคุณอักราธ! ” ?
” ฝากเรื่องชาข้าวด้วยนะ เบล ” ราธ
” ไว้ใจได้เลยค่ะ! ” เบล
และนั่นก็คือหนึ่งวันของอักราธ คนที่สามารถจัดการกองทัพจอมมารได้ด้วยตัวคนเดียวโดยไม่ต้องพึ่งของอย่างดาบศักดิ์สิทธิ์เลย
วันคืนล่วงเลยผ่านไปวันแล้ววันเล่า ทุกๆวันเขาจะเป็นคนจัดการกับพวกปีศาจที่เข้ามายุ่งวุ่นวายแถวๆเมืองชายแดนแห่งนี้เสมอๆ
จนกระทั่งวันหนึ่ง ก็ได้มีกลุ่มคนแปลกๆเดินเข้ามาภายในร้านเหล้ารุ่งสางแห่งนี้ เป็นเวลาเดียวกันกับที่อักราธนั้นกำลังทานข้าวอย่างสงบ
ทันทีที่เขารู้สึกได้ถึงพลังงานบางอย่าง อักราธได้หยุดการกระทำของเขา ก่อนที่จะหันมาสนใจกับกลุ่มคนที่พึ่งเข้าร้านมาใหม่
” ขออนุญาตนะครับ ” ?
คนที่เป็นหัวตี้ดูจะเป็นคนหนุ่มอายุไม่เกินยี่สิบปี ถือว่าเด็กมาเลยทีเดียว และเด็กคนนั้นกำลังใส่ชุดเกราะที่ดูท่าจะหรูหราราคาแพงเอามากๆอยู่ด้วย
ทว่าสิ่งนั้นกลับไม่ใช่สิ่งที่อักราธสนใจ ที่สะดุดตาเขาคือผมสีทองเด่นเป็นสง่า กับดวงตาสองสีที่งดงามคู่นั้นของเด็กหนุ่ม
ทำให้คนที่สังเกตเห็นเขาจะรู้ได้ในทันทีว่าเด็กคนนั้นคือผู้กล้าอย่างแน่นอน
ทุกๆคนในบาร์ต่างจับจ้องไปที่คณะผู้กล้าอย่างไม่ลดละ ก่อนที่เจ้าของบาร์จะได้เอ่ยขึ้น
” อะไรหอบพวกเจ้ามาที่นี่รึ หนุ่มน้อยผู้กล้า “อเดลล่า
” ผมมาที่นี่เพื่อรับสมัครนักรบครับ! ” ?
” โห ” ราธ
กลุ่มของผู้กล้าในตอนนี้มีทั้งหมด 3 คนรวมถึงตัวของผู้กล้าเองด้วย เป็นผู้กล้า 1 คนทำหน้าที่สร้างดาเมจทั้งระยะใกล้และไกล นักเวท 1 คนทำหน้าที่สร้างดาเมจระยะไกลที่มหาศาลให้กับศัตรู และนักบวช 1 คน ทำหน้าที่คอยซัพพอร์ตทีม
ถือเป็นทีมที่ดีเลยทีเดียว
‘ นอกจากผู้กล้าที่เป็นมนุษย์แล้ว.. นักเวทกับนักบวชต่างก็ไม่ใช่มนุษย์ทั้งคู่เลย? เป็นกลุ่มที่น่าสนใจดีแฮะ ‘ ราธ
” ข้าทำหน้าที่นั้นให้ได้นะ ” ราธ
” ” !!? ” “
ทุกคนภายในบาร์ต่างก็หันขวับมาหาเขาทันที ในขณะเดียวกันที่ตัวของราธนั้นไม่ได้มีท่าทีที่ทุกข์ร้อนอะไร
” แน่ใจแล้วใช่ไหมครับ? ” ?
” ร- ราธ..เจ้าแน่ใจแล้วใช่ไหม? “อเดลล่า
” อา ข้าว่ามันก็น่าสนุกดีนะ ที่จะได้เดินทางกับพวกวัยรุ่นน่ะ ” ราธ
หลังจากสิ้นเสียงพูดของเขา ทุกสิ่งต่างก็พลันเงียบลง ไม่นานนักนักบวชของกลุ่มผู้กล้าก็ได้อุทานขึ้นมาอย่างน่าฉงน
แล้วได้ชี้นิ้วมาที่ตัวของอักราธ
” … อ- เอ๊!!?? ” นักบวชหญิง
” มีอะไรหรอไดแอน? ” ผู้กล้าหนุ่ม
” หรือว่าคุณคือ.. จ- จักรพรรดิดาบ อักราธ หรอ!!?? ” ไดแอน
” จริงหรอ!? จักรพรรดิดาบคนนั้นอ่ะนะ!?” ผู้กล้าหนุ่ม
” … ตกใจอะไรกัน? ” ราธ
” คุณลุงแต่งตัวซ่อมซ่อนั่นน่ะนะ!? ” นักเวทหญิง
” ระวังปากหน่อย ยัยหูแหลม ” ราธ
” ข- ขอโทษค่าา ” นักเวทหญิง
วันนั้น เป็นวันที่อักราธได้เข้ามาเป็นสมาชิกของคณะผู้กล้าอย่างเป็นทางการ และเหล่าสมาชิกของปาร์ตี้ผู้กล้านั้นต่างก็เป็นแฟนตัวยงของเขากันทั้งนั้นเลย
ด้วยเหตุนั้น การผจญภัยเพื่อจัดการจอมมารของเหล่าผู้กล้าจึงได้เริ่มต้นขึ้น จากเมืองชายแดนเล็กๆ ที่มีชื่อว่า เนลลู ที่ที่เป็นดั่งบ้านเกิดของจักรพรรดิดาบ
เป็นที่ที่เรียกได้อย่างเต็มปากว่าเป็นบ้านของอักราธ
นับตั้งแต่ที่อักราธเริ่มออกเดินทางไปกับคณะผู้กล้า พวกเขาก็ผ่านเรื่องต่างๆด้วยกันมามากมายจนนับไม่ถ้วน ทั้งเรื่องที่น่ายินดี ทุกข์ใจ เศร้าโศก และสุขใจ จนตอนนี้อักราธนับว่าเด็กๆพวกนี้คือน้องๆของเขาเลย
เริ่มที่คนแรกเลย ผู้กล้าโนอาห์ เป็นเด็กหนุ่มที่กล้าหาญดั่งสมญานาม ใจดี แข็งแกร่งแต่ออกจะซื่อบื้อไปหน่อย
คนที่สอง นักเวททำลายล้าง ฮันบิ เผ่าพันธ์อาร์คเอล์ฟ ครึ่งผสมระหว่างไฮเอล์ฟกับเอล์ฟทมิฬ ถือว่าเป็นตัวตนที่หายากมากในหมู่เอล์ฟเพราะพวกเขาค่อนข้างจะแบ่งชนชั้นกันพอสมควร แต่เห็นแบบนั้นพวกเขาก็รักกันดี
ด้านความสามารถ ฮันบิมีความสามารถรอบด้านโดยเฉพาะเวทมนตร์ แต่เธอค่อนข้างจะขี้บ่นและขี้จุกจิกพอสมควร เห็นเธอเป็นเอล์ฟแบบนี้แต่อายุของเธอพึ่งขึ้น 20 ปีมาหมาดๆเอง ถือว่าเด็กมากๆเมื่อเทียบกับคนอื่นๆในเผ่า
และคนที่สามของคณะผู้กล้า สตรีศักดิ์สิทธิ์ ไดอานา หรือไดแอน เป็นเด็กสาวที่ขี้อาย และมีฉายาอยู่เยอะเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ ตัวแทนของเทพธิดา หรือแม้แต่นักบุญศักดิ์สิทธิ์ แต่เห็นแบบนี้บอกเลยว่าเธอค่อนข้างมือหนักสำหรับพวกที่นิสัยไม่ดีเลยล่ะ
และด้านเผ่าพันธ์ของเธอ แน่นอนว่าเธอไม่ใช่มนุษย์ ไดแอนนั้นเป็นเดมิก็อต หรือครึ่งเทพ มีอายุยืนยาวเทียบเท่ากับเอล์ฟ มีความสามารถทางด้านเวทธาตุใดธาตุหนึ่งสูงลิ่ว
และใช่ ไดแอนนั้นเก่งธาตุแสงเป็นที่สุด เก่งถึงขนาดที่สามารถร่ายคาถาทำลายล้างที่เป็นคาถาลับของเวทสายนี้ได้เลยทีเดียว
ส่วนคนสุดท้ายของคณะผู้กล้า ดาเมจระยะใกล้ที่มีพลังทำลายล้างสูงที่สุด จักพรรดิดาบ อักราธ เขาเป็นชายหนุ่มวัยกลางคน ที่เรื่อยๆไม่ค่อยจริงจังอะไรกับชีวิตนัก จนได้มาเข้าปาร์ตี้ผู้กล้านี่แหละ
ตั้งแต่วันนั้น เวลาก็ได้ล่วงเลยไปถึง 5 ปี ที่พวกเขาได้อยู่ด้วยกัน
” .. เย้ย!? น- นั่นมันส่วนของชั้นน้าา!! ” ฮันบิ
” ฮ่าฮ่าฮ่า!! ฮันบิ เธอไม่ทันฉันหรอก! ” โนอาห์
” เจ้าพวกบ้านี่.. เวลาแบบนี้ก็ยังจะตีกันอีกนะ ” ราธ
” เอ่อ.. คุณราธ เอาเบียร์หน่อยไหมคะ? ” ไดแอน
” ขอบใจ ” ราธ
นั่นทำให้พวกเขาสนิทกันมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมซะอีก
ทว่าช่วงเวลาอันสงบสุขนั้นมันก็ไม่ได้อยู่นานนัก เนื่องจากปีนี้เป็นปีที่พวกปีศาจได้ทำการรุกรานเข้ามาอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีท่าทีว่าจะหยุด พวกเขาจึงต้องเป็นคนจัดการกับพวกปีศาจที่โถมเข้ามาอย่างหนัก โดยที่แทบไม่ได้รับการพักผ่อนเลย
ในครานั้นที่ผู้กล้าสังหารจตุรมารทั้งสี่ได้สำเร็จพลังของเขาเองก็เหลืออยู่ไม่มากแล้ว ตอนนั้นพวกเขาจำเป็นที่จะต้องรุดหน้าไปเพื่อจัดการกับจอมมารให้เร็วที่สุดก่อนที่มันจะกลายเป็นเทพมารได้สำเร็จ มิเช่นนั้นโลกนี้คงมาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว
ทั้งนักเวท ผู้กล้า และนักบวช พละกำลังของเด็กพวกนั้นยังฟื้นคืนมาไม่ถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำ และคนที่มีกำลังล้นเหลือมากที่สุดในตอนนี้คืออักราธ ดังนั้นก่อนที่จะได้เข้าปะทะกับจอมมาร คณะผู้กล้าก็ได้ประชุมกันเพื่อหากลยุทธิ์ที่ดีที่สุดในการพิชิตจอมมาร ที่ตอนนี้ระดับพลังของจอมมารนั้นยิ่งเข้าใกล้เทพมารมากขึ้นเรื่อยๆทุกวินาที
“ ในพวกเราข้าคือคนที่มีกำลังเหลือเฟือ ฉะนั้นแผนของเราคือการให้พวกเจ้าปิดฉากจอมมารหลังจากที่ข้าลดพลังของมันไปได้ส่วนหนึ่ง ” ราธ
“ แต่ว่าจอมมารมันแข็งแกร่งมากเลยนะครับ! ” โนอาห์
“ ใช่! นายสู้กับจอมมารด้วยตัวคนเดียวไม่ไหวหรอก! ” ฮันบิ
“ ไดอาน่าก็คิดแบบนั้นใช่ไหม! เราควรร่วมมือกันจัดการกับจอมมาร! ”ฮันบิ
ไดแอนเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะได้เอ่ยขึ้น ซึ่งคำตอบของเธอนั้นทำเอาโนอาห์กับฮันบิถึงกับชะงัก เพราะไม่คิดว่าคนที่ใจอ่อนที่จะสุดในหมู่ปาร์ตี้ผู้กล้า จะกล้าพูดอะไรแบบนั้นออกมา
“ ข้าเห็นด้วยกับคุณราธค่ะ! ” ไดแอน
“ ไม่สิ! เราจะปล่อยให้พี่ราธไปสู้ตัวคนเดียวได้ยังไง!! ”โนอาห์
“ เพราะฉันรู้สึกได้ว่าตลอดเวลาที่เขาอยู่กับพวกเรามา เขายังไม่เคยเอาจริงสักครั้งยังไงล่ะคะ!! ”ไดแอน
สิ่งที่เธอกล่าวออกมานั้น ทำให้ราธนั้นยิ้มออกมา
“ ตลอดเวลาที่ผ่านมาโนอาห์มักจะเป็นคนปิดฉากเสมอ เพราะปีศาจระดับสูงต้องใช้ธาตุศักดิ์สิทธิ์ในการจัดการ ทำให้คุณราธไม่มีโอกาสได้แสดงพลังนั้นออกมาค่ะ! ข้าไม่รู้ว่าคุณราธเขาจะมีพลังมากมายขนาดไหน แต่ข้ารู้สึกได้ว่าเขาสามารถยื้อกับจอมมารได้จนถึงเวลาที่โนอาห์ต้องปิดฉากค่ะ!! ”ไดแอน
“ … ผมรู้อยู่แล้ว.. แต่จะให้ทำยังไงล่ะ! ผมไม่อยากให้ใครต้องตายเพราะต้องมาเสียสละเพื่อผมหรอกนะ!! ”โนอาห์
“ โนอาห์ ” ราธ
“ คุณราธน่ะเป็นเหมือนกับพี่ชายของผม.. ผมไม่ยอมให้เขาต้องไปคนเดียวหรอก!! ”โนอาห์
“ โนอาห์!!!! ” ราธ
“ อึ่ก… ค- คะ พี่ราธ .. ” โนอาห์
ราธตะคอกใส่เด็กน้อยผู้กล้าเสียงดัง เพื่อเตือนสติ ว่านี่ไม่ใช่การแสดงแต่มันคือการปกป้องโลก หนึ่งชีวิตเพื่อโลกใบนี้มันเป็นการแลกเปลี่ยนที่คุ้นค่าสำหรับเขา
“ มองตาข้า ” ราธ
“ ค- ค่ะ.. ” โนอาห์
“ การเป็นผู้กล้า นั้นเดินอยู่บนเส้นทางแห่งการเสียสละ เราเสียไปตั้งเท่าไหร่กว่าจะมาถึงจุดนี้ เพราะฉะนั้นในครานี้ ขอแค่เพียงข้าเท่านั้นที่อยู่ในเส้นทางแห่งการเสียสละเพื่อโลก ไม่ใช่พวกเจ้าข้าก็ยินดี ” ราธ
“ เพื่อให้พวกเจ้า ได้มีชีวิตอยู่ต่ออย่างที่ควรจะเป็น เพราะงั้นขอแค่ครั้งนี้.. ปล่อยข้าไปเถอะ ” ราธ
สถานการณ์ตอนนี้นั้นกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ผู้กล้ายืนยันชัดเจนที่จะไม่ปล่อยเขาไปแต่ตัวของเด็กหนุ่มในตอนนี้กลับไม่มีพลังพอที่โค่นจอมมารได้ ทางฝั่งของจักรพรรดิดาบเขาจ้องมองเด็กหนุ่มด้วยสายตาที่มุ่งมั่นจนแทบทำเอาเขาอ่อนระทวยไปทั้งกายใจ
“ … ก็ได้.. แต่ท่าน ห้ามตายนะ ” โนอาห์
“ จอมมารใกล้จะเปลี่ยนผ่านสู่ทางเทพแล้ว ข้าไม่สัญญาหรอกนะไอ้หนู แต่ข้าจะพยายามให้ถึงที่สุด ” ราธ
“ ..เจ้าดูมีอะไรอยากจะบอกกับข้านะฮันบิ ”ราธ
“ ส- สู้ให้เต็มที่ล่ะ ลุง.. ” ฮันบิ
“ อะไรนะ? ข้าไม่ได้ยินเท่าไหร่เลย~? ” ราธ
“ เออๆๆๆ!!! เล่นจอมมารให้หงายไปเลยนะตาลุงบ้า!!!! ” ฮันบิ
“ อ่า!- ” ราธ
ก่อนที่เขาจะไป ไดแอนก็ได้ยื่นของบางสิ่งให้กับเขา ดูแล้วมันน่าจะเป็นสร้อยคอหรือไม่ก็เครื่องรางอะไรสักอย่าง
“ ท่านเทพธิดาบอกให้ข้าเอาสิ่งนี้ให้กับท่านน่ะค่ะ.. ”ไดแอน
“ มันคือ? ”ราธ
“ ปีกของเทพีแห่งแสงอีครอส … สุดท้าย ขอเทพธิดาทรงอำนวยพรนะคะคุณราธ!! ” ไดแอน
“ จะเก็บไว้อย่างดีเลย ”ราธ
ทันทีที่กล่าวอำลากันจบ ราธก็เดินตรงเข้าไปยังห้องของจอมมารทันที ส่วนพวกของผู้กล้าเองก็จะไปหาทางลอบโจมตีจอมมารทีเผลอที่เส้นทางอื่นเหมือนกัน
กึก กึก
กึก
กึก กึก
“ โฮ เจ้าน่ะรึ? ผู้กล้าของพวกมนุษย์ ”จอมมาร
ต่อหน้าของเขาคือจอมมารที่สวมเกราะทมิฬทั่วทั่งตัว ตัวสูงใหญ่พกดาบเล่มเบ้อเร่อเหน็บไว้ข้างเอว
“ จะว่าแบบนั้นก็ได้ ” ราธ
ทันทีที่เขาได้ก้าวเข้ามายังห้องโถงของจอมมาร ก็รู้สึกได้ถึงแรงกดทับอันมหาศาลทันที ทว่าสิ่งนั้นไม่ได้ทำให้ราธหวาดหวั่นเลยแม้แต่น้อย สิ่งเดียวที่เขากลัวคือการที่เขาต้องสูญเสียพวกพ้องไปต่างหาก
“ นามของเจ้าคือ? ” จอมมาร
“ อักราธ เอมเพอเรอร์ แกล่ะ?”ราธ
“ นัมซาร์ อีเทอเรียม ”นัมซาร์
พวกเขาต่างก็จับดาบของตนแน่น หาจังหวะเพื่อที่จะโจมตีอีกฝ่าย
ดูท่าจอมมารเองก็คงจะรู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งของศัตรูของมันเช่นกัน ถึงได้พยายามหาจังหวะเพื่อที่จะโจมตีใส่ราธ ระหว่างที่มันกำลังเพ่งสมาธิไปที่เขาอย่างหนัก
ราธกระทืบเท้าหนึ่งครั้งทำให้จอมมารที่จดจ่ออยู่กับดาบของเขาชะงักไปชั่วขณะ ก่อนที่เขาจะพุ่งเข้าใส่จอมมารในทันที ทว่ากลอุบายตื้นๆของเขานั้น ใช้กับจอมมารไม่ได้ผล นัมซาร์ฟาดกลับด้วยแรงและพลังที่มากกว่าหลายเท่าตัว
เมื่ออารมณ์ของทั้งคู่ได้มาถึงจุดหนึ่ง การปะทะฝีดาบกันในครานั้นได้ทำให้ชั้นบนสุดของปราสาทจอมมารพังลงมา
การต่อสู้กันของจักรพรรดิดาบและจอมมารที่เข้าใกล้ระดับเทพมารมากขึ้นทุกทีนั้น ได้ทำให้แทบทั้งปราสาทนั้นพังทลายลงมาเลยทีเดียว ทางฝั่งของผู้กล้านั้นก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก พวกเขาแค่ตามดูอยู่อย่างเป็นห่วงก็เท่านั้น
ตอนแรกมาราธก็พอสู้กับจอมมารได้อยู่หรอก แต่พอสู้กันไปเรื่อยๆเขาดันมาแพ้ที่ความอึดนี่สิ ทำให้จอมมารได้โอกาสในการสร้างดาเมจมากมายเลย แต่เขาเองก็ไม่ยอมจอมมารเหมือนกัน ราธใช้ทุกทักษะที่มีประเคนใส่จอมมารเท่าที่จะทำได้ ทำให้จอมมารเองก็ได้รับแผลไปมากเช่นเดียวกับเขา
แต่ติดที่นัมซาร์มันดันอึดกว่าที่คิดนี่สิ
ในระหว่างการต่อสู้นั้น ร่างของนัมซาร์ได้เรืองแสงออกมาพร้อมทั้งแรงดันมานาโดยรอบที่สูงขึ้นมาเป็นสัญญาณที่บ่งบอกได้เลยว่าเจ้านั่น กำลังจะเปลี่ยนเป็นเทพมาร..
ตู้มม!!!!
บ้าอะไรวะ!!
ฝุบ-
“ เจ้าโง่ ”นัมซาร์
ปั๊ก!!-
นัมซาร์ได้ทิ้งดาบของตนไป ก่อนที่จะหันมาใช้หมัดแทน มันพุ่งเข้ามาต่อยที่หน้าท้องของราธเข้าอย่างจังจนทำเอาเขากระเด็นไปยันภูเขาที่อยู่อีกฝากของที่ที่มันอยู่เลย
ก่อนหน้านี้นัมซาร์ในร่างเกราะหนักนั้นสู้ไม่ได้เต็มที่เท่าไรนักเพราะพลังยังไม่มากพอ ทว่าในตอนนี้มันไม่เหมือนกัน หลังจากที่มันกลายเป็นเทพมารแล้ว เกราะของมันก็ได้ระเบิดออกมา เผยให้เห็นเนื้อในที่เป็นร่างของผู้หญิงที่ดูบอบบาง
ผิวกายสีม่วงทมึน เส้นผมยาวจนถึงพื้นมีสีเป็นสีม่วงเข้ม ตาขาวสีดำนัยน์ตาสีเหลืองทอง พร้อมๆกับปีกของปีศาจทั้งสามคู่ที่ปรากฏออกมาพร้อมกับร่างที่แท้จริงของมัน
น่าเบื่อชะมัด
เห็นว่าเป็นถึงผู้กล้า แต่ที่แท้ก็ไม่เท่าไรหนิ
ในขณะที่เธอได้หันหลังกลับไปนั้น เธอไม่รู้เลยว่าคนที่เธอพึ่งซัดไปนั้นก็ยังไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดเหมือนกัน
“ เพราะเห็นว่ายังไม่ได้กลายเป็นเทพมารหรอกนะ เลยยังไม่ได้จัดเต็มที่น่ะ ”ราธ
หื-
“ ถ้าข้าได้สวมใส่สิ่งนี้ล่ะก็ป่านนี้แกตายไปนานแล้ว- ”ราธ
เร็ว-
“ แกว่ายังไงน- ”นัมซาร์
อั่ค- หัวข้า!!
ป- ปลอกดาบงั้นเรอะ!?
เดี๋ยว- มันมาจาก ข- ข้างล่างงั้นรึ!?
“ อุ่ก- !!? ”นัมซาร์
ไม่สิ ด้านบน!!!
ทันใดนั้นที่ราธได้สวมเกราะของตน นัมซาร์ที่อยุ่ในร่างของเทพมารแล้วก็ยังไม่อาจที่จะตามความเร็วของเขาได้ทัน
ปัก!!-
“ อึ่ก!! ”นัมซาร์
คลืดดด!!
เขาถีบตัวของนัมซาร์จนถอยห่างออกไปพอสมควร
“ แก… ใช่คนเมื่อสักครู่แน่รึ ”นัมซาร์
จอมมารถึงกับจ้องมองเขม็งมาที่เขาเลย เพื่อยืนยันให้แน่ใจว่าเขาจะไม่ได้เคลื่อนไหวด้วยความเร็วแบบเมื่อสักครู่เพื่อที่จะหลอกล่อหรือหนีไปไหน
“ อา ข้าเองอักราธ ” ราธ
“ เกราะนั่นมันอะไรกันแน่!! เหตุใดข้าจึงไม่รู้สึกถึงมัน!! ”นัมซาร์
“ นั่นสินะ เจ้านี่คือแอสทารอธ เป็นเกราะประจำตัวของข้า เมื่อข้าเรื่องใช้มันความสามารถที่แท้จริงของข้าจะปรากฏ ”ราธ
“ นั่นรึ.. พลังที่แท้จริง- น่าสนุก!! ไม่ต้องพูดพล่ามอะไรแล้ว!! เข้ามา!!! ”นัมซาร์
ความรู้สึกที่ทั้งคู่มีให้กันในตอนนี้คือการที่ได้พบกับศัตรูที่คู่ควรของตน ทั้งนัมซาร์และราธต่างก็ซัดกันไปมาไม่ยั้ง พลัดกันล้มลุกคลุกคลานกันไป การปะทะกันของทั้งสองคนได้ทำให้แทบทั้งแดนปีศาจนั้นวอดวาย ทั้งเวทมนตร์ของนัมซาร์และทักษะดาบของจักรพรรดิดาบคนนั้น ทั้งคู่ไม่มีท่าทีจะอ่อนข้อให้กันเลย
ตอนนี้พลังชีวิตของจอมมารกำลังลดลงไปมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ถึงแบบนั้นเธอก็ยังคงยิ้มและสู้ต่อไปได้ ผิดกับราธที่ตอนนี้นั้นแทบจะไม่มีเรี่ยวแรงอะไรเหลืออยู่เลย
ในท้ายที่สุดแล้วทั้งคู่ก็มาจบกันที่จุดเริ่มต้นของการต่อสู้.. หรือก็คือปราสาทจอมมารนั่นเอง
แม้ว่านัมซาร์จะเหนื่อย แต่เธอก็ยังมีแรงเหลือเฟือที่จะเดินหน้าต่อไปได้ ไม่เหมือนกับตัวของจักรพรรดิดาบในตอนนี้ ต้องบอกเลยว่านัมซาร์นั้นเริ่มที่จะมีความรู้สึกดีๆให้กับราธบ้าง ผ่านการต่อสู้สุดหัวใจที่ผ่านมา มันทำให้เธอตื่นเต้นและเร้าใจขั้นสุด ไม่เคยมีใครทำให้เธอรู้สึกแบบนี้มาก่อน
นัมซาร์ยกตัวของอักราธขึ้นมาต่อหน้าของเธอ เขามองเธอกลับด้วยสายตาที่เลื่อนลอย
“ เจ้าเป็นมนุษย์ที่น่าเคารพที่สุดที่ข้าเคยรู้จักมาเลย.. ผู้กล้า อักราธ ”นัมซาร์
“ ไม่ต้องพูดมาก.. ฆ่าข้าซะ ”ราธ
“ เจ้าไม่บอก ข้าก็จะทำเช่นนั้น ”นัมซาร์
“ หากแต่ วงเวียนนี้ยังไม่จบสิ้น พวกเราอาจจะได้มาพบกันอีกภายในหนึ่งพันปีถัดจากนี้.. ”นัมซาร์
“ ม- หมายความว่า.. อะไร ”ราธ
“ หมายความว่าข้ารู้ว่าเจ้าไม่ใช่ผู้กล้าตัวจริง และผู้กล้านั้นกำลังจะปลิดชีพข้าอยู่ ”นัมซาร์
“ แล้วทำไม.. เจ้าไม่ต่อต้าน.. ล่ะ? ”ราธ
นัมซาร์ยิ้มขึ้น แล้วพูดอย่างพึงพอใจ ราวกับว่าตัวของเธอนั้นมิใช่จอมมารยังไงยังงั้น
“ เพราะว่าข้าพอใจที่มันเป็นแบบนี้น่ะสิ ”นัมซาร์
“ อีกอย่าง.. จริงๆข้าก็ไม่ได้ตั้งใจจะรุกรานดินแดนของเจ้าแต่แรก.. เพียงแค่จตุรมารของข้ามันทำเกินกว่าเหตุ ที่มันตายมันก็สมควรแล้ว.. ”นัมซาร์
“ … อืม บอกข้าไปก็ไม่มีประโยชน์ ข้าอยู่ในกำมือเจ้าแล้วจอมมาร”ราธ
“ ก่อนที่ข้าจะฆ่าเจ้า.. (จูบ) ขอแค่นี้ข้าก็พอใจละ ”นัมซาร์
ทันทีที่นัมซาร์ได้จูบกับราธ คมดาบศักดิ์สิทธิ์ของผู้กล้าโนอาห์ก็ได้ตัดผ่านร่างของนางในทันที ภาพที่เขาเห็นทำให้เขาถึงกับอึ้ง ไม่คิดว่าโนอาห์จะเด็ดขาดแบบนี้มาก่อนเลย
“ พี่- ทำใจดีๆไว้นะ!! ผมจะให้ไดแอนรักษาให้เดี๋ยวนี้แหละ!! ”โนอาห์
“ ไม่จำเป็นหรอก …ข้ามาถึงขีดจำกัดแล้ว ”ราธ
“ อะ- อั่ค!! ”ราธ
เขากระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันโนอาห์ก็อุ้มเขาไว้ไม่ห่างตัวเลย สภาพของราธในตอนนี้ดูไม่ได้ดีสักเท่าไรนักราวกับว่าเขาจะไปได้ทุกเมื่อ
“ พี่ราธ… ไดแอนช่วยเขาเร็ว!! ”โนอาห์
“ … ไม่ทันแล้วค่ะโนอาห์.. เขาตายแล้ว ”ไดแอน
“ ……พี่ราธ.. ”โนอาห์
“ ลุง.. ”ฮันบิ
สายตาของราธนั้นไร้แววอีกต่อไป ร่างของเขานิ่งสนิทดั่งสิ่งที่ไม่มีชีวิต จากลมหายใจที่โรยรินเปลี่ยนเป็นสายเลือดของเขาแทน จากร่างกายที่เคยอุ่น กลับกลายเป็นร่างของศพที่หนาวเย็น การตายของชายคนนี้ทำให้ปาร์ตี้ผู้กล้านั้นถึงกับหลั่งน้ำตา
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เวลาก็ล่วงเลยผ่านมาถึง 20 ปีเต็ม
เป็นปีที่ระลึกถึงฮีโร่และผู้เสียสละในสงครามกับเผ่าปีศาจ การเฉลิมฉลองและสวดส่งดวงวิญญาณนี้จะจัดขึ้นทุกๆสิบปี เพื่อให้โลกได้รับรู้ถึงตัวตนของผู้ที่ปราบจอมมาร
อาณาจักรโร้ค – เมืองหลวงเซนน็อก
สุสานเพื่อไว้อาลัยแด่ผู้มีเกียรติ
“ วันนี้อาณาจักรเราก็คึกคักดีค่ะพี่ ” ?
“ แต่ฉันยังจำวันที่เราอยู่ด้วยกันได้เลยนะคะ วันนั้นเรามีความสุขมากเลย.. แต่หลักจากที่ไม่มีพี่อยู่แล้วเราก็ต้องใช้ชีวิตต่อไปตามที่พี่บอก ” ?
หญิงสาวผมบลอนด์ทองตาสองสีสวมชุดเดรสคล้ายกับพวกขุนนางกำลังยืพูดอยู่กับหน้าป้ายหลุมศพหนึ่ง ที่ถูกจัดไว้ให้อยู่ในพื้นที่ที่โดดเดี่ยว วันนี้เธอดูมีชีวิตชีวามากกว่าปกติและพูดเยอะเป็นพิเศษ ก่อนที่จะมีเอล์ฟหญิงคนหนึ่งเดินมาหา
“ นี่องค์ราชินีกำลังทำอะไรอยู่เรอะ ตอนนี้ในเมืองเขากำลังฉลองกันอยู่เลยนะ ” ?
“ ฮันบิเองหรอ? ” ?
“ โนอาห์ รู้อยู่หรอกว่าเธอตื่นเต้นอยากเล่าเรื่องมากมายให้พี่อักราธได้ฟัง แต่ไว้ทีหลังก็ได้นี่ ตอนนี้ไปสนุกกันเถอะ อีกเดี๋ยวก็ถึงตาเธอแล้วนะ ”ฮันบิ
“ จ้ะ ไปกันเถอะ ”โนอาห์
“ ไว้หนู.. จะมาหาใหม่นะคะ พี่ราธ ”โนอาห์
ตัดจบตอน
ผู้กล้านี่ยังไงนิ
Comments