ในอนาคต เมื่อตระกูนจินถูกทำลาย หยางผิงไม่สามารถได้รับผลสแกนหินพนันหยกได้อีก ทำให้เขาทำผิดพลาดในการผ่าหินพนันหยกมากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายเขาก็ต้องใช้วิธีเดิม ร่วมมือกับเจ้าของร้านพนันหินหยก สแกนหินพนันหยกล่วงหน้า แต่สุดท้ายเขาก็พลาด เพราะเขาไม่มีตระกูลจิงที่สามารถปกปิดหลักฐานทั้งหมดได้ เขาจึงถูกเปิดเผยและถูกจับ

ชื่อเสียงทั้งหมดล้วนหลอกลวง สลายหายไปในพริบตา

หยางผิงยิ้มพูดคุยกับทุกคน ไม่มีความเย่อหยิ่งของผู้เชี่ยวชาญแม้แต่น้อย ทำให้เขาสามารถเข้ากับคนอื่นๆได้ง่าย

ทุกคนพูดคุยกันไม่นาน ก็แยกกันไปนั่งที่นั่งของตัวเอง

นักพนันหินต่างไปนั่งบนชั้นลอย

จิงมู่ไท่เห็นว่าพร่้อมแล้ว เขากดกำไลข้อมือ

ในเวลานั้นเอง พนักงานชายในชุดสีดำผลักรถเข็นเข้ามา ด้านบนมือผ้าสีแดงคลุมบางอย่างเอาไว้ เมื่อรถเข็นมากลางเวที พนักงานก็ออกไป ก่อนจะมีชายหนุ่มในชุดสูทสีเทาเดินขึ้นเวทีด้วยท่าทางมั่นใจ เขายืนข้างรถเข็นก่อนจะมองไปรอบๆ สุดท้ายสายตาก็มาตกที่จิวโมไป๋ ดวงตาของเขาพลันลุกไหม้ไปด้วยความโกรธ แต่เขาก็สงบลงในพริบตา ก่อนจะยิ้มและกล่าวเสียงดัง

“สวัดดีทุกคน ผมจิงมู่หยาน ผมจะเป็นพิธีกรในวันนี้ เพื่อไม่ให้เสียเวลา เรามาเริ่มที่หินพนันหยกหมายเลย 1 กันก่อนเลย!”จิงมู่หยานเปิดผ้าคลุมสีแดง หินขนาด 40 ซ.ม.ปรากฏขึ้น หินมีสีเทา บนตัวหินมีดอกเหมยหยกสีเขียวอ่อนสลับเขียวเข้มกระจายอยู่ทั่วหิน

ทุกตายตาจ้องเขม็งไปที่หินก้อนนั้น บางคนถึงกับผุกลุกขึ้นยืนเพื่อเขย่งดู ในการพนันหินหยกจะดูกันที่ ดอกเหมยหยกเป็นอย่างแรก ยิ่งมีดอกเหมยหยกมากเท่าไหร่โอกาสที่จะได้รับหยกมีมากขึ้น หินพนันก้อนนี้มีเหมยหยกนับไม่ถ้วน โอกาสได้หยกมีเกือบ 100 % ไม่แปลกเลยที่พวกเขาจะตื่นเต้น

เมื่อมั่นใจว่ามีหยกแล้ว พวกเขาต้องคาดเดาว่าภายในหินพนันหยกจะเป็นหยกอะไร มีขนาดเท่าไหร่ หยกมีความบริสุทธิ์หรือขุ่นมัว และสุดท้ายหยกได้รับความเสียหายหรือไม่

จิงมู่หยานยกยิ้มอย่างภูมิใจ เขามองไปรอบๆก่อนจะหันมาด้านหน้าและกล่าว

“เชิญประมาจารย์ทุกท่านขึ้นมาก่อนครับ”

ปรมาจารย์หยุนลุกขึ้นอย่างช้าๆ ด้วยการประคองของหยุนมู่ไคและเดินขึ้นไปบนเวที เพื่อตรวจสอบหยกเป็นคนแรก

ไม่มีใครพูดอะไร เพราะ ปรมาจารย์หยุน มีอายุมากที่สุดและมีประสบการณ์ในวงการพนันหยกมากที่สุด เขาจึงได้รับเกียรติให้ขึ้นไปเป็นคนแรก

ปรมาจารย์หยุนมองหินพนันหยกก่อน จะพยักหน้าช้าๆ และพูดแผ่วเบาราวกระซิบ ชี้แนะลูกชายของตัวเอง

หยุนมู่ไคพยักหน้ารับฟังอย่างตั้งใจ ดวงตากวาดมองผ่านเส้นบนผิวหินพนัน

พวกเขาตรวจสอบอยู่ 1 นาที ก่อนจะเดินลงไป

ในตอนนี้เองปรมาจารย์คงและปรมาจารย์เตี่ยว ลุกขึ้นแทบจะพร้อมกัน ทุกคนต่างจ้องมองไปยังทั้งสอง ราวกับว่ากำลังดูเรื่องสนุก

ปรมาจารย์คงและปรมาจารย์เตี่ยว แทบจะเป็นปรมาจารย์พร้อมกัน แม้ปรมาจารย์คงจะมีอายุมากกว่า แต่ศักดิ์ศรีของปรมาจารย์เตี่ยว แทบจะไม่ต่างกัน

พวกเขาทั้งสองมองหน้ากัน แต่ไม่มีใครพูดอะไร บรรยากาศกลายเป็นอึดอัด เตี่ยวชิงฉิงขยับปากอยากจะพูดอะไร

แต่สุดท้ายเธอก็ไม่พูด เธอลอบมองไปยังชายหนุ่มข้างๆ ปรมาจารย์คง เขาคือคงหนานหาน ลูกชายคนเดียวของปรมาจารย์คง ส่วนหญิงสาวอีกคนคืออิงหมานหมาน เป็นภรรยาของคงหนานหาน

ดวงตาของเตี่ยวชิงฉิง เต็มไปด้วยความขุ่นมัวเมื่อมองอิงหมานหมาน

“เชิญ ปรมาจารย์คงและปรมาจารย์เตี่ยว ขึ้นเวทีพร้อมกันได้เลยครับ”จิงมู่หยานรีบพูด เขาได้รับคำเตือนจากพี่ชายของตัวเอง เอาไว้ก่อน เขาจึงแก้ไขสถานการณ์อย่างรวดเร็ว

ปรมาจารย์คงและปรมาจารย์เตี่ยว เดินขึ้นเวที จากคนละด้านของเวที ทำให้พวกเขา แยกกันตรวจสอบหินพนันคนละด้าน 1 นาที พวกเขาก็ลงไป

ปรมาจารย์จิงลุกขึ้นก่อนและหันมาพยักหน้าให้กับลู่หว่าน และเดินขึ้นไป

แม้เขาจะเป็นปรมาจารย์หยก แต่ปรมาจารย์จิงนั้นมีชื่อเสียงไม่เท่าคนอื่น กว่าจะกลายเป็นปรมาจารย์หยก เขาก็อายุ 40 กว่าแล้ว หลังจากเป็นปรมาจารย์หยก เขาก็ไม่ได้สร้างชื่อเสียงมากมายนัก แม้แต่ลู่หว่านยังมีชื่อเสียงมากกว่า ที่เขาสามารถขึ้นไปก่อนลู่หว่าน เพราะอายุของเขาที่มากกว่า

ลู่หว่านจึงให้เขาไปก่อน

ปรมาจารย์จิงเดินขึ้นไปพร้อมกับจิงมู่ไท่

จิงมู่หยานยิ้มให้พี่ชายและลุงของเขา

ปรมาจารย์จิงเดินไปรอบๆมองหินพนันด้วยท่าทางเคร่งขรึมจริงจัง ปากก็อธิบายรายละเอียดของหินพนันหยก ด้วยท่าทางมั่นใจ

จิวโมไป๋เห็นดังนั้นก็อดหัวเราะไม่ได้ เขามั่นใจว่าต้องมีกลโกงอย่างแน่นอน แต่เขาไม่พูดอะไร

1 นาที ปรมาจารย์จิง และ จิงมู่ไท่ ก็ลงจากเวที

ลู่หว่านลุกขึ้นอย่างช้าๆ แต่สง่างาม เธอหันมาหาจิวโมไป๋และพยักหน้า ให้เขาตามขึ้นไป

จิวโมไป๋ยิ้มแผ่วเบา ลุกขึ้นและเดินตามลู่หว่านไป

เนี่ยฟูหานอยากจะขึ้นไปด้วย แต่ลู่หว่านไม่ให้ตามขึ้นไป

นักพนันหยก เห็นลู่หว่านเดินขึ้นเวทีไปพร้อมกับเด็กหนุ่มไร้ชื่อ ทำให้เกิดเสียงซุบซิบดังขึ้น

จิงมู่ไท่มองตามหลังทั้งสอง ดวงตาแฝงไปด้วยอารมณ์มืดมน

เซียวหนานจิ้นและหลานซูเมิ่ง มองจิวโมไป๋อย่างแปลกใจ พวกเขาคิดว่าจิวโมไป๋มาร่วมสนุก เพราะเป็นเพื่อนกับเนี่ยฟูหานเท่านั้น ไม่คิดเลยว่าจิวโมไป๋จะได้รับความสนใจจากลู่หว่านให้ขึ้นไปพร้อมกัน

1 นาที พวกเขาก็เดินลงเวทีกลับมาที่นั่ง