หนึ่งฝ่ามือสยบโลกาบทที่ 798 อารยธรรมวิญญาณศิลา!

Now you are reading หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา Chapter บทที่ 798 อารยธรรมวิญญาณศิลา! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 798 อารยธรรมวิญญาณศิลา!
ต้องมีอะไรเกิดขึ้นที่นี่แน่… หวังเป่าเล่อไม่ทำอะไรบุ่มบ่ามและตรวจดูรอบๆ โดยละเอียดก่อน เขาปลดปล่อยพลังปราณขั้นแสร้งอมตะของตั๊กแตนให้พัดไปทั่วบริเวณ พอมั่นใจว่าแถวนี้ปลอดภัยดี ชายหนุ่มก็หันไปมองเศษซากด้านหน้า

ชายหนุ่มไม่มีความรู้เกี่ยวกับที่นี่จึงไม่สามารถคาดคะเนยุคสมัยจากเสื้อผ้าของเหล่าศพได้ มีพลังประหลาดบางอย่างในจักรพิภพนี้ขัดขวางสัมผัสสวรรค์ของเขา พลังนี้เหมือนจะสามารถหยุดเวลาและรักษาสภาพศพก่อนตายเอาไว้ เสื้อผ้าและเครื่องประดับบนตัวศพก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกันจึงไม่มีร่องรอยการผุพังหรือย่อยสลายอยู่เลย

หวังเป่าเล่อนึกไม่ออกเลยว่าพลังชนิดใดกันที่ทำให้เกิดอะไรเช่นนี้ได้ ไม่รู้ว่ามันเกิดจากผู้ฝึกตนหรือเกิดจากพลังประหลาดที่อาศัยอยู่ในจักรพิภพแห่งนี้กันแน่

ว่ากันตามหลักการ ถึงจักรพิภพนี้จะอยู่ในที่รกร้างและห่างไกล แต่ก็น่าจะมีคนผ่านมาพบแล้ว ถ้าผ่านมาจริง…ก็ไม่สมเหตุสมผลเลยที่ศพและเศษซากพวกนี้ยังไม่ได้รับการแตะต้องใดๆ หวังเป่าเล่อหรี่ตา ยังคงระแวดระวังตัว เขาข่มความละโมบ ไม่ได้ตรวจสอบศพและเศษซากรอบตัวในทันที ชายหนุ่มกังวลว่าจะมีภัยอันตรายอื่นที่ไม่รู้หลบซ่อนอยู่ท่ามกลางสิ่งเหล่านี้โดยที่เข็มทิศก็ไม่สามารถตรวจพบได้

เขาโบกมือส่งหุ่นเชิดนับหมื่นตัวกระจายออกไปรอบพื้นที่ ชายหนุ่มเริ่มตรวจสอบทั่วบริเวณอย่างละเอียดผ่านสายตาของหุ่นเชิด จากนั้นก็แยกสัมผัสสวรรค์ออกมาสิบกว่าส่วนและใส่เข้าไปในหุ่นเชิดเพื่อให้เห็นทุกอย่างได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

หุ่นเชิดกว่าหมื่นตัวกระจายตัวออกไปรอบเรือบินรบ พวกมันพุ่งผ่านทะเลศพ ช่วยขยายวิสัยทัศน์ของหวังเป่าเล่อออกไป ครึ่งชั่วโมงต่อมา เมื่อหุ่นเชิดออกห่างไปได้ในระดับหนึ่ง ดวงตาของชายหนุ่มก็ฉายแสงวาบขึ้น

ท่ามกลางทะเลศพและเศษซากนับไม่ถ้วนมีศพบางศพที่แต่งกายต่างไป ศพเหล่านี้ไม่ได้เกาะกลุ่มอยู่ที่เดียว แต่กระจายตัวกันออกไป หวังเป่าเล่อพบศพเหล่านั้นประมาณเจ็ดถึงแปดศพในระยะวิสัยทัศน์ของตัวเอง

ศพพวกนี้ไม่ได้อยู่ในยุคเดียวกับศพอื่นๆ… การค้นพบครั้งนี้ทำให้หวังเป่าเล่อรู้สึกระแวงมากขึ้นกว่าเดิม ความคิดและการคาดเดาต่างๆ ผุดขึ้นเรื่อยๆ ในหัวเห็นเป็นภาพกลุ่มผู้ฝึกตนจากอารยธรรมอื่นๆ ย่างกรายเข้ามาในพื้นที่แห่งนี้ในอดีต พอเข้ามาในจักรพิภพนี้ก็พบความตายโดยไม่ได้คาดคิด

ศพที่เดิมทีอยู่ที่นี่อาจจะซ่อนอันตรายบางอย่างที่ไม่รู้เอาไว้ก็เป็นได้ หวังเป่าเล่อหรี่ตาประเมินสถานการณ์ เขาลังเลที่จะกลับออกไปจึงเรียกหุ่นเชิดออกมาอีกชุด และส่งข้ามทะเลศพไปยังดาวเคราะห์ทั้งสี่ดวง

เขาตั้งใจจะใช้หุ่นเชิดเหล่านี้ตรวจดูว่าดาวเคราะห์ทั้งสี่มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า จากนั้นจึงจะตัดสินใจว่าจะตรวจสอบสถานที่แห่งนี้ต่อไปดีหรือไม่

เมื่อวางแผนได้ดังนั้น ชายหนุ่มก็ส่งหุ่นเชิดออกมาเรื่อยๆ เมื่อหวังเป่าเล่อปล่อยหุ่นเชิดออกมาได้สามหมื่นตัว หุ่นเชิดกลุ่มหนึ่งก็ไปถึงดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง ดาวเคราะห์ดวงนี้มีสีดำสนิท มองไกลๆ ดูคล้ายสะเก็ดดาวขนาดใหญ่ เมื่อเหล่าหุ่นเชิดลงเหยียบบนดาวเคราะห์ก็ไม่เห็นสิ่งอื่นใดนอกจากสีดำสนิท

ไม่มีพืชหรือแหล่งน้ำ มีเพียงเทือกเขาและยอดเขามากมายขึ้นกระจายอยู่ทั่วดาวเคราะห์ ทั้งดาวเงียบสนิท การมาถึงของเหล่าหุ่นเชิดทำลายความเงียบไป แต่ก็ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดโผล่มาต้อนรับ

หวังเป่าเล่อตัดสินใจเฝ้ารอแทนที่จะออกคำสั่งส่งพวกมันไปสำรวจดาวเคราะห์ หลังจากหุ่นเชิดที่เหลือลงเหยียบดาวเคราะห์อีกสามดวงแล้ว เขาจึงเริ่มตรวจสอบดาวเคราะห์ทั้งสี่ดวงพร้อมกัน ดวงตาของชายหนุ่มเบิกกว้างเมื่อเริ่มทำการค้นหา จากนั้นก็บังคับหุ่นเชิดตัวหนึ่งให้หันไปมองหน่อไม้สีดำที่ขึ้นอยู่บนเนินเตี้ยของดาวเคราะห์แห่งหนึ่ง!

ไผ่ต้นนี้แม้มีลักษณะคล้ายพืชแต่ลำต้นกลับเป็นหิน ใบของมันก็เป็นหินด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีของเหลวบางอย่างซึมออกมาจากผิวไผ่และหยดลงบนหน่อ

ไม่มีทั้งกลิ่นหรือพลังวิญญาณใดๆ จากไผ่ต้นนี้ ถึงกระนั้นหวังเป่าเล่อก็รู้สึกเหมือนถูกสายฟ้าฟาดเมื่อได้ค้นพบมัน หัวใจของเขาเต้นถี่รัว

ต้นไผ่ศิลา!

หวังเป่าเล่อไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง เขาเคยอ่านเจอสิ่งนี้ในบันทึกของอารยธรรมดวงเนตรสวรรค์ ชื่อของมันอาจฟังดูธรรมดา แต่มูลค่านั้นมากมายมหาศาล ต้นไผ่ศิลาสูญพันธุ์ไปจากอารยธรรมดวงเนตรสวรรค์แล้ว การจะได้มาต้องไปรับจากอารยธรรมอื่นและต้องจ่ายราคาแพง

ต้นไผ่ศิลาเป็นส่วนประกอบหลักในการเสริมพลังเรือบินรบเวท เป็นของหายากมากและเป็นที่ต้องการสูง ไผ่ความยาวเพียงนิ้วมือก็ทำให้เกิดการต่อสู้สุดชีวิตได้ ส่วนต้นไผ่ศิลาที่อยู่เบื้องหน้าหวังเป่าเล่อตอนนี้…หากนำกลับไปก็คงไม่ได้สร้างสงครามระหว่างสองสำนักใหญ่ แต่ก็อาจทำให้เกิดความโกลาหลและความคลุ้มคลั่งในบางกองทหารได้

หวังเป่าเล่ออยากได้และคอยตามหาต้นไผ่ศิลาอยู่เช่นกัน เขามีตั๊กแตนที่มีพลังครึ่งหนึ่งของเรือบินรบเวท หากหลอมมันเข้ากับต้นไผ่ศิลาที่ได้ขนาดพอ ก็มีโอกาสสูงที่มันจะพัฒนาไปเป็นเรือบินรบเวทเต็มขั้น!

หน่อไม้ศิลา… หวังเป่าเล่อใจเต้นแรง สัมผัสอันตรายที่กระจายอยู่รอบตัวทำให้เขานึกลังเลใจ ระหว่างที่กำลังลังเลใจอยู่นั้นเอง หุ่นเชิดที่ออกสำรวจดาวเคราะห์ทั้งสี่ก็พบต้นไผ่ศิลาผุดขึ้นมาจากพื้น ความจริงแล้วมีต้นไผ่ศิลากว่าพันต้นผุดขึ้นมาบนดาวเคราะห์ดวงที่สาม!

ส่วนดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ มีต้นไผ่ศิลาผุดขึ้นเพียงสิบกว่าต้น ภาพที่เห็นทำให้หวังเป่าเล่อตื่นเต้นจนตาแดงและหายใจถี่รัว เจ้าลาและเจ้าอู๋น้อยไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นจึงไม่รู้ว่าชายหนุ่มเป็นอะไรไป แต่เจ้าอู๋น้อยก็ตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาได้พบของมีค่าบางอย่าง

เจ้าลาไม่รู้ว่าหวังเป่าเล่อคิดอะไรอยู่ แต่จักรพิภพแห่งนี้ก็มีบางสิ่งยั่วยวนใจมัน เป็นสิ่งที่เย้ายวนไม่แพ้ความรู้สึกที่หวังเป่าเล่อมีต่อต้นไผ่ศิลา เพราะอย่างไรเสีย…สิ่งที่กระจัดกระจายอยู่รอบๆ ก็คือเศษซากและชิ้นส่วนสมบัติเวท ซึ่งถือเป็นของกินสำหรับมันทั้งสิ้น!

บางชิ้นดูน่ากินยิ่งนัก…

ทั้งหวังเป่าเล่อและเจ้าลาต่างหายใจถี่รัวพร้อมกัน เจ้าอู๋น้อยมองทั้งสองอย่างเกรงกลัว ความคิดในหัวแล่นไปมา เขาตัดสินใจทำตามน้ำและเร่งลมหายใจตัวเองขึ้น

มีต้นไผ่ศิลามากมายขนาดนี้ ต้องลองเสี่ยงดูแล้ว! หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง หวังเป่าเล่อก็กัดฟันแน่นและตัดสินใจได้ เขาหยิบเข็มทิศออกมาและตรวจดูอย่างละเอียด ผลการตรวจสอบไม่พบสัญญาณสิ่งมีชีวิตบนดาวเคราะห์ทั้งสี่ ชายหนุ่มเลิกลังเลใจ สั่งการให้เหล่าหุ่นเชิดเก็บต้นไผ่มา เขาเรียกเรือบินรบหลายพันลำออกมาและส่งไปที่ดาวเคราะห์แต่ละดวงเพื่อให้หุ่นเชิดขนต้นไผ่ใส่!

หวังเป่าเล่อลองเดิมพันดู เขาคอยเดินลมปราณเฝ้าระวัง ตั๊กแตนเองก็เปิดการใช้งานไว้เต็มที่ ตอนนี้ชายหนุ่มอยู่ที่ขอบสุดของจักรพิภพ หากมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นก็มั่นใจว่าจะหลบหนีออกไปได้ทันเวลา

เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า ขณะที่ความกังวลคุกรุ่นอยู่ภายในระหว่างคอยเฝ้าระวัง เหล่าหุ่นเชิดได้รับภารกิจสุดหินในการขุดต้นไผ่ศิลาจากผืนดิน พวกหุ่นเชิดต้องขุดที่เดิมซ้ำๆ ถึงจะเซาะหินออกจากผืนดินได้เล็กน้อย ถึงหวังเป่าเล่อส่งหุ่นเชิดออกไปนับไม่ถ้วน แต่ผ่านไปเนิ่นนานก็ขุดต้นไผ่ศิลาส่งขึ้นเรือบินรบกลับมาให้หวังเป่าเล่อได้แค่ต้นเดียว

ไม่ต้องรีบ ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไปก็ได้… ถึงจะรู้สึกเป็นกังวลใจอยู่มาก แต่ชายหนุ่มก็รู้ว่าช้าๆ จะได้พร้าเล่มงาม หากเกิดอะไรผิดพลาดอาจส่งผลไม่ดีได้ เขามองไปยังจักรพิภพเบื้องหน้าขณะปลอบใจตัวเอง

ทันใดนั้น ดาวเคราะห์ดวงหนึ่งก็สั่นไหวเบาๆ หวังเป่าเล่อสัมผัสได้ถึงแรงสั่นในทันที แต่ก่อนจะได้ตรวจสอบอะไร แรงสั่นก็ทวีความรุนแรงขึ้น ดาวเคราะห์อีกสามดวงก็เริ่มสั่นสะเทือนเช่นกัน แผ่นดินกำลังไหวรุนแรงราวกับมีงูเหลือมเลื้อยอยู่ใต้ดิน

ขณะที่แผ่นดินสั่นไหว พลังล้นเหลือก็ปะทุขึ้นจากกองหิน ยอดเขา และเทือกเขาบนดาวเคราะห์ ฟากฟ้าสั่นคลอน เมฆาหมุนวน ลมพัดกรรโชก ทั่วทั้งจักรพิภพได้รับผลกระทบ ในตอนนั้นเองกองหิน ยอดเขา และเทือกเขา…ก็ผุดยืนขึ้น!

พวกมันไม่ใช่กองหิน หรือยอดเขา หรือเทือกเขา พวกมันคือ…มนุษย์ศิลา…ที่มีขนาดแตกต่างกันไป!

ราวกับว่าเหล่าหุ่นเชิดได้ปลุกพวกมันจากการหลับใหล พวกมันดูท่าจะกำลังอารมณ์ไม่ดี เหล่ามนุษย์ศิลาเบิกตาสีชาดหันมองหุ่นเชิดรอบตัว จากนั้นก็เงยหน้าร้องคำรามดังลั่นจักรพิภพ!

หวังเป่าเล่อหน้าตื่นทันใด พยายามเรียกหุ่นเชิดกลับ แต่เสียงร้องคำรามของเหล่ามนุษย์ศิลาแข็งแกร่งเกินไป เป็นเหมือนพายุพัดไปทั่วพื้นที่ ส่งแรงระเบิดกัมปนาทพัดกระจายไม่หยุดหย่อน กองทัพหุ่นเชิดสามหมื่นตัวถูกพายุพัดทำลายไปกว่าครึ่งในทันใด!

ยังไม่จบแค่ไหน มีอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้หวังเป่าเล่อ เจ้าลา และเจ้าอู๋น้อยตัวสั่นเทิ้มด้วยความหวาดกลัว ขณะที่มนุษย์ศิลามากมายบนดาวเคราะห์ทั้งสี่ตื่นขึ้นจากการหลับใหล พลังขั้นจิตวิญญาณอมตะเจ็ดถึงแปดจุดก็ปะทุตื่นขึ้นจากแก่นดาวเคราะห์!

ล้อกันเล่นหรืออย่างไร หวังเป่าเล่อคร่ำครวญ เขารีบสั่งตั๊กแตนหันหลังกลับ เตรียมถอยหนีอย่างไม่ลังเลใจ

……………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกาบทที่ 798 อารยธรรมวิญญาณศิลา!

Now you are reading หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา Chapter บทที่ 798 อารยธรรมวิญญาณศิลา! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 798 อารยธรรมวิญญาณศิลา!
ต้องมีอะไรเกิดขึ้นที่นี่แน่… หวังเป่าเล่อไม่ทำอะไรบุ่มบ่ามและตรวจดูรอบๆ โดยละเอียดก่อน เขาปลดปล่อยพลังปราณขั้นแสร้งอมตะของตั๊กแตนให้พัดไปทั่วบริเวณ พอมั่นใจว่าแถวนี้ปลอดภัยดี ชายหนุ่มก็หันไปมองเศษซากด้านหน้า

ชายหนุ่มไม่มีความรู้เกี่ยวกับที่นี่จึงไม่สามารถคาดคะเนยุคสมัยจากเสื้อผ้าของเหล่าศพได้ มีพลังประหลาดบางอย่างในจักรพิภพนี้ขัดขวางสัมผัสสวรรค์ของเขา พลังนี้เหมือนจะสามารถหยุดเวลาและรักษาสภาพศพก่อนตายเอาไว้ เสื้อผ้าและเครื่องประดับบนตัวศพก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกันจึงไม่มีร่องรอยการผุพังหรือย่อยสลายอยู่เลย

หวังเป่าเล่อนึกไม่ออกเลยว่าพลังชนิดใดกันที่ทำให้เกิดอะไรเช่นนี้ได้ ไม่รู้ว่ามันเกิดจากผู้ฝึกตนหรือเกิดจากพลังประหลาดที่อาศัยอยู่ในจักรพิภพแห่งนี้กันแน่

ว่ากันตามหลักการ ถึงจักรพิภพนี้จะอยู่ในที่รกร้างและห่างไกล แต่ก็น่าจะมีคนผ่านมาพบแล้ว ถ้าผ่านมาจริง…ก็ไม่สมเหตุสมผลเลยที่ศพและเศษซากพวกนี้ยังไม่ได้รับการแตะต้องใดๆ หวังเป่าเล่อหรี่ตา ยังคงระแวดระวังตัว เขาข่มความละโมบ ไม่ได้ตรวจสอบศพและเศษซากรอบตัวในทันที ชายหนุ่มกังวลว่าจะมีภัยอันตรายอื่นที่ไม่รู้หลบซ่อนอยู่ท่ามกลางสิ่งเหล่านี้โดยที่เข็มทิศก็ไม่สามารถตรวจพบได้

เขาโบกมือส่งหุ่นเชิดนับหมื่นตัวกระจายออกไปรอบพื้นที่ ชายหนุ่มเริ่มตรวจสอบทั่วบริเวณอย่างละเอียดผ่านสายตาของหุ่นเชิด จากนั้นก็แยกสัมผัสสวรรค์ออกมาสิบกว่าส่วนและใส่เข้าไปในหุ่นเชิดเพื่อให้เห็นทุกอย่างได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

หุ่นเชิดกว่าหมื่นตัวกระจายตัวออกไปรอบเรือบินรบ พวกมันพุ่งผ่านทะเลศพ ช่วยขยายวิสัยทัศน์ของหวังเป่าเล่อออกไป ครึ่งชั่วโมงต่อมา เมื่อหุ่นเชิดออกห่างไปได้ในระดับหนึ่ง ดวงตาของชายหนุ่มก็ฉายแสงวาบขึ้น

ท่ามกลางทะเลศพและเศษซากนับไม่ถ้วนมีศพบางศพที่แต่งกายต่างไป ศพเหล่านี้ไม่ได้เกาะกลุ่มอยู่ที่เดียว แต่กระจายตัวกันออกไป หวังเป่าเล่อพบศพเหล่านั้นประมาณเจ็ดถึงแปดศพในระยะวิสัยทัศน์ของตัวเอง

ศพพวกนี้ไม่ได้อยู่ในยุคเดียวกับศพอื่นๆ… การค้นพบครั้งนี้ทำให้หวังเป่าเล่อรู้สึกระแวงมากขึ้นกว่าเดิม ความคิดและการคาดเดาต่างๆ ผุดขึ้นเรื่อยๆ ในหัวเห็นเป็นภาพกลุ่มผู้ฝึกตนจากอารยธรรมอื่นๆ ย่างกรายเข้ามาในพื้นที่แห่งนี้ในอดีต พอเข้ามาในจักรพิภพนี้ก็พบความตายโดยไม่ได้คาดคิด

ศพที่เดิมทีอยู่ที่นี่อาจจะซ่อนอันตรายบางอย่างที่ไม่รู้เอาไว้ก็เป็นได้ หวังเป่าเล่อหรี่ตาประเมินสถานการณ์ เขาลังเลที่จะกลับออกไปจึงเรียกหุ่นเชิดออกมาอีกชุด และส่งข้ามทะเลศพไปยังดาวเคราะห์ทั้งสี่ดวง

เขาตั้งใจจะใช้หุ่นเชิดเหล่านี้ตรวจดูว่าดาวเคราะห์ทั้งสี่มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า จากนั้นจึงจะตัดสินใจว่าจะตรวจสอบสถานที่แห่งนี้ต่อไปดีหรือไม่

เมื่อวางแผนได้ดังนั้น ชายหนุ่มก็ส่งหุ่นเชิดออกมาเรื่อยๆ เมื่อหวังเป่าเล่อปล่อยหุ่นเชิดออกมาได้สามหมื่นตัว หุ่นเชิดกลุ่มหนึ่งก็ไปถึงดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง ดาวเคราะห์ดวงนี้มีสีดำสนิท มองไกลๆ ดูคล้ายสะเก็ดดาวขนาดใหญ่ เมื่อเหล่าหุ่นเชิดลงเหยียบบนดาวเคราะห์ก็ไม่เห็นสิ่งอื่นใดนอกจากสีดำสนิท

ไม่มีพืชหรือแหล่งน้ำ มีเพียงเทือกเขาและยอดเขามากมายขึ้นกระจายอยู่ทั่วดาวเคราะห์ ทั้งดาวเงียบสนิท การมาถึงของเหล่าหุ่นเชิดทำลายความเงียบไป แต่ก็ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดโผล่มาต้อนรับ

หวังเป่าเล่อตัดสินใจเฝ้ารอแทนที่จะออกคำสั่งส่งพวกมันไปสำรวจดาวเคราะห์ หลังจากหุ่นเชิดที่เหลือลงเหยียบดาวเคราะห์อีกสามดวงแล้ว เขาจึงเริ่มตรวจสอบดาวเคราะห์ทั้งสี่ดวงพร้อมกัน ดวงตาของชายหนุ่มเบิกกว้างเมื่อเริ่มทำการค้นหา จากนั้นก็บังคับหุ่นเชิดตัวหนึ่งให้หันไปมองหน่อไม้สีดำที่ขึ้นอยู่บนเนินเตี้ยของดาวเคราะห์แห่งหนึ่ง!

ไผ่ต้นนี้แม้มีลักษณะคล้ายพืชแต่ลำต้นกลับเป็นหิน ใบของมันก็เป็นหินด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีของเหลวบางอย่างซึมออกมาจากผิวไผ่และหยดลงบนหน่อ

ไม่มีทั้งกลิ่นหรือพลังวิญญาณใดๆ จากไผ่ต้นนี้ ถึงกระนั้นหวังเป่าเล่อก็รู้สึกเหมือนถูกสายฟ้าฟาดเมื่อได้ค้นพบมัน หัวใจของเขาเต้นถี่รัว

ต้นไผ่ศิลา!

หวังเป่าเล่อไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง เขาเคยอ่านเจอสิ่งนี้ในบันทึกของอารยธรรมดวงเนตรสวรรค์ ชื่อของมันอาจฟังดูธรรมดา แต่มูลค่านั้นมากมายมหาศาล ต้นไผ่ศิลาสูญพันธุ์ไปจากอารยธรรมดวงเนตรสวรรค์แล้ว การจะได้มาต้องไปรับจากอารยธรรมอื่นและต้องจ่ายราคาแพง

ต้นไผ่ศิลาเป็นส่วนประกอบหลักในการเสริมพลังเรือบินรบเวท เป็นของหายากมากและเป็นที่ต้องการสูง ไผ่ความยาวเพียงนิ้วมือก็ทำให้เกิดการต่อสู้สุดชีวิตได้ ส่วนต้นไผ่ศิลาที่อยู่เบื้องหน้าหวังเป่าเล่อตอนนี้…หากนำกลับไปก็คงไม่ได้สร้างสงครามระหว่างสองสำนักใหญ่ แต่ก็อาจทำให้เกิดความโกลาหลและความคลุ้มคลั่งในบางกองทหารได้

หวังเป่าเล่ออยากได้และคอยตามหาต้นไผ่ศิลาอยู่เช่นกัน เขามีตั๊กแตนที่มีพลังครึ่งหนึ่งของเรือบินรบเวท หากหลอมมันเข้ากับต้นไผ่ศิลาที่ได้ขนาดพอ ก็มีโอกาสสูงที่มันจะพัฒนาไปเป็นเรือบินรบเวทเต็มขั้น!

หน่อไม้ศิลา… หวังเป่าเล่อใจเต้นแรง สัมผัสอันตรายที่กระจายอยู่รอบตัวทำให้เขานึกลังเลใจ ระหว่างที่กำลังลังเลใจอยู่นั้นเอง หุ่นเชิดที่ออกสำรวจดาวเคราะห์ทั้งสี่ก็พบต้นไผ่ศิลาผุดขึ้นมาจากพื้น ความจริงแล้วมีต้นไผ่ศิลากว่าพันต้นผุดขึ้นมาบนดาวเคราะห์ดวงที่สาม!

ส่วนดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ มีต้นไผ่ศิลาผุดขึ้นเพียงสิบกว่าต้น ภาพที่เห็นทำให้หวังเป่าเล่อตื่นเต้นจนตาแดงและหายใจถี่รัว เจ้าลาและเจ้าอู๋น้อยไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นจึงไม่รู้ว่าชายหนุ่มเป็นอะไรไป แต่เจ้าอู๋น้อยก็ตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาได้พบของมีค่าบางอย่าง

เจ้าลาไม่รู้ว่าหวังเป่าเล่อคิดอะไรอยู่ แต่จักรพิภพแห่งนี้ก็มีบางสิ่งยั่วยวนใจมัน เป็นสิ่งที่เย้ายวนไม่แพ้ความรู้สึกที่หวังเป่าเล่อมีต่อต้นไผ่ศิลา เพราะอย่างไรเสีย…สิ่งที่กระจัดกระจายอยู่รอบๆ ก็คือเศษซากและชิ้นส่วนสมบัติเวท ซึ่งถือเป็นของกินสำหรับมันทั้งสิ้น!

บางชิ้นดูน่ากินยิ่งนัก…

ทั้งหวังเป่าเล่อและเจ้าลาต่างหายใจถี่รัวพร้อมกัน เจ้าอู๋น้อยมองทั้งสองอย่างเกรงกลัว ความคิดในหัวแล่นไปมา เขาตัดสินใจทำตามน้ำและเร่งลมหายใจตัวเองขึ้น

มีต้นไผ่ศิลามากมายขนาดนี้ ต้องลองเสี่ยงดูแล้ว! หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง หวังเป่าเล่อก็กัดฟันแน่นและตัดสินใจได้ เขาหยิบเข็มทิศออกมาและตรวจดูอย่างละเอียด ผลการตรวจสอบไม่พบสัญญาณสิ่งมีชีวิตบนดาวเคราะห์ทั้งสี่ ชายหนุ่มเลิกลังเลใจ สั่งการให้เหล่าหุ่นเชิดเก็บต้นไผ่มา เขาเรียกเรือบินรบหลายพันลำออกมาและส่งไปที่ดาวเคราะห์แต่ละดวงเพื่อให้หุ่นเชิดขนต้นไผ่ใส่!

หวังเป่าเล่อลองเดิมพันดู เขาคอยเดินลมปราณเฝ้าระวัง ตั๊กแตนเองก็เปิดการใช้งานไว้เต็มที่ ตอนนี้ชายหนุ่มอยู่ที่ขอบสุดของจักรพิภพ หากมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นก็มั่นใจว่าจะหลบหนีออกไปได้ทันเวลา

เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า ขณะที่ความกังวลคุกรุ่นอยู่ภายในระหว่างคอยเฝ้าระวัง เหล่าหุ่นเชิดได้รับภารกิจสุดหินในการขุดต้นไผ่ศิลาจากผืนดิน พวกหุ่นเชิดต้องขุดที่เดิมซ้ำๆ ถึงจะเซาะหินออกจากผืนดินได้เล็กน้อย ถึงหวังเป่าเล่อส่งหุ่นเชิดออกไปนับไม่ถ้วน แต่ผ่านไปเนิ่นนานก็ขุดต้นไผ่ศิลาส่งขึ้นเรือบินรบกลับมาให้หวังเป่าเล่อได้แค่ต้นเดียว

ไม่ต้องรีบ ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไปก็ได้… ถึงจะรู้สึกเป็นกังวลใจอยู่มาก แต่ชายหนุ่มก็รู้ว่าช้าๆ จะได้พร้าเล่มงาม หากเกิดอะไรผิดพลาดอาจส่งผลไม่ดีได้ เขามองไปยังจักรพิภพเบื้องหน้าขณะปลอบใจตัวเอง

ทันใดนั้น ดาวเคราะห์ดวงหนึ่งก็สั่นไหวเบาๆ หวังเป่าเล่อสัมผัสได้ถึงแรงสั่นในทันที แต่ก่อนจะได้ตรวจสอบอะไร แรงสั่นก็ทวีความรุนแรงขึ้น ดาวเคราะห์อีกสามดวงก็เริ่มสั่นสะเทือนเช่นกัน แผ่นดินกำลังไหวรุนแรงราวกับมีงูเหลือมเลื้อยอยู่ใต้ดิน

ขณะที่แผ่นดินสั่นไหว พลังล้นเหลือก็ปะทุขึ้นจากกองหิน ยอดเขา และเทือกเขาบนดาวเคราะห์ ฟากฟ้าสั่นคลอน เมฆาหมุนวน ลมพัดกรรโชก ทั่วทั้งจักรพิภพได้รับผลกระทบ ในตอนนั้นเองกองหิน ยอดเขา และเทือกเขา…ก็ผุดยืนขึ้น!

พวกมันไม่ใช่กองหิน หรือยอดเขา หรือเทือกเขา พวกมันคือ…มนุษย์ศิลา…ที่มีขนาดแตกต่างกันไป!

ราวกับว่าเหล่าหุ่นเชิดได้ปลุกพวกมันจากการหลับใหล พวกมันดูท่าจะกำลังอารมณ์ไม่ดี เหล่ามนุษย์ศิลาเบิกตาสีชาดหันมองหุ่นเชิดรอบตัว จากนั้นก็เงยหน้าร้องคำรามดังลั่นจักรพิภพ!

หวังเป่าเล่อหน้าตื่นทันใด พยายามเรียกหุ่นเชิดกลับ แต่เสียงร้องคำรามของเหล่ามนุษย์ศิลาแข็งแกร่งเกินไป เป็นเหมือนพายุพัดไปทั่วพื้นที่ ส่งแรงระเบิดกัมปนาทพัดกระจายไม่หยุดหย่อน กองทัพหุ่นเชิดสามหมื่นตัวถูกพายุพัดทำลายไปกว่าครึ่งในทันใด!

ยังไม่จบแค่ไหน มีอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้หวังเป่าเล่อ เจ้าลา และเจ้าอู๋น้อยตัวสั่นเทิ้มด้วยความหวาดกลัว ขณะที่มนุษย์ศิลามากมายบนดาวเคราะห์ทั้งสี่ตื่นขึ้นจากการหลับใหล พลังขั้นจิตวิญญาณอมตะเจ็ดถึงแปดจุดก็ปะทุตื่นขึ้นจากแก่นดาวเคราะห์!

ล้อกันเล่นหรืออย่างไร หวังเป่าเล่อคร่ำครวญ เขารีบสั่งตั๊กแตนหันหลังกลับ เตรียมถอยหนีอย่างไม่ลังเลใจ

……………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+