ข้ามเวลาล่าฝันบทที่ 31 2
ข้ามเวลาล่าฝัน! ข้ามเวลาล่าฝัน! บทที่ 31 ตอนที่ 2
ข้ามเวลาล่าฝัน! บทที่ 31 ตอนที่ 2
“เอาเงินมาปะ?”
“อ่า”
มารุมองดูเพื่อนทั้งสองคนพูดคุยกัน พวกเขามักจะอยู่คุยกันเสมอในช่วงพักเที่ยง
“เงินอะไร?” มารุถาม
“เงินให้ครูฝึก”
ทั้งสองคนนําเงินออกมาคนละสามหมื่นวอน รวม เป็นหกหมื่นวอนมารุได้แต่ทําหน้างง เพราะเขาไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย
“ไปบอกกันตอนไหนเนี่ย?”
“วันเสาร์”
“อ่อ”
“แกไม่ต้องจ่ายหรอก แค่พวกเราก็พอ”
“เหรอ?”
โชคดีที่เขาไม่ต้องเสียเงิน
“แต่…” เดมยังพูดขัดขึ้น “ทําไมครูเขาถึงพูดสุภาพกับครูฝึกจัง? แถมเงินนี่อีกถ้าครูเราบอกครูมิโซไปตรง ๆ ฉันว่าเธอน่าจะพอเข้าใจนะ”
โดจินเดาะลิ้น
“คนพวกนั้นเขาก็มีศักดิ์ศรีของตัวเองนะเว้ย ลองคิดดิ จะมาแสดงท่าทางน่าสมเพชต่อหน้าอดีตลูกศิษย์ได้เหรอ? ถ้าต้องเป็น แบบนั้นฉันคงได้บ้าตายแน่ไม่แปลกหรอกที่ครูเขาจะใช้เงินเดือน ตัวเองจ่าย
“เหรอ?”
“ใช่สิ”
“แล้วทําไมต้องทําตัวสุภาพด้วย?”
“อาจจะเพราะไม่ได้สนิทกันมั้ง ก็ครูเขาไม่บอกเราด้วยซ้ําว่าครูมิโซเป็นรุ่นพี่เรา”
ดูโดจินค่อนข้างมั่นใจในคําตอบ แต่มารุกลับส่ายหัว
“อะไร คิดว่าไม่ใช่เหรอ?”
“ไม่มีทางเลย”
“งั้นทําไมเขาถึงทําตัวสุภาพกับเธอแบบนั้นล่ะ? มองผ่าน ๆ นี้นี้กว่าคนไม่รู้จักกันด้วยซ้ํานะ”
“ต่อให้พวกเราไม่เห็นฉันว่าพวกเขาก็เป็นแบบนั้น พนันไหม?”
โดจินและเดมยังส่ายหัวเมื่อเห็นมารุหยิบเงินแบงค์พันขึ้นมา
“ครูเราแค่รักษาหน้าครูฝึกแค่นั้นแหละ คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาทําเหมือนเธอเป็นเด็กไปอีกคนต่อหน้าเรา?”
“เรื่องนั้น”
เดมยังพยักหน้ายอมรับและเข้าใจทันที
“พวกแกก็รู้จักครูเราดี ฉันเห็นเขาทําตัวแบบนี้กับศิษย์เก่าทุกคนแหละฉันว่าเขาคงพยายามที่จะปฏิบัติกับพวกนั้นให้เหมือนพวกเขาเป็นผู้ใหญ่จริง ๆ นั่นเป็นสิ่งที่ฉันต้องนับถือเลย เพราะแบบนั้นด้วยแหละมั้งเขาถึงพยายามจะเก็บเรื่องเงินไว้ให้เป็นความลับที่สุดเขาไม่อยากให้มันเกิดปัญหาอะไรกันขึ้น ยิ่งเพราะเขารู้จักครูฝีกดีแกเองก็บอกนี่ ใช่ไหมโดจิน? ว่ายิ่งรู้จักคนอื่นมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งต้องให้เกียรติเขามากเท่านั้น”
“อ่า ครูเรานี่เท่จริง ๆ”
ทั้งสองคนต่างเห็นด้วย
“แล้วจะเอาเงินไปให้ยังไง? ฉันว่าเขาไม่น่าจะยอมรับหรอกนะ”
“เราคิดว่าจะเอาให้ครูฝึกเองเลย”
“โอ้ แบบนั้นเอาสินะ”
“แต่รู้ไหมว่ามันน่าตลกตรงไหน?”
“ตรงไหน?”
“ครูน่ะซื้ออาหารมาเลี้ยงพวกเราทุกวัน ครูมิโซเองก็ไม่ชอบปกปิดอะไรมาก เธอบอกมาว่าเธอได้ชั่วโมงละ 40000 วอน”
มารุได้แต่ขํา ผู้หญิงคนนี้ไม่ชอบปกปิดอะไรจริง ๆ แต่เรื่องนั้นเขาก็เห็นตั้งแต่ไปคุยกันบนดาดฟ้าแล้ว
แต่เดี๋ยวนะ
ถ้าเธอทํางานหนักขนาดนี้
“แต่เธอมาทุกวัน แถมวันหยุดยังมาเต็มวันอีกไม่ใช่เหรอ?”
“อ่า ถ้าเธอได้เงินเต็มจํานวนจากการมาสอนมากขนาดนั้นมันคงจะบ้ามาก ๆ เราเลยถาม”
“ถามว่าสรุปได้เท่าไหร่กันแน่?”
“ใช่”
“เหอะ”
โดจินเองก็กล้าไม่เบา ถึงขนาดถามอะไรแบบนั้นออกไป
“จริง ๆ เธอควรจะได้ทั้งหมดเลย 800000 วอน จากการที่มาสอนแค่ช่วงวันหยุดน่ะนะ แต่นี้เธอเล่นมาทุกวัน แถมยังใช้เงินที่ได้เกีอบครึ่งมาเลี้ยงข้าวพวกเราอีก”
มารุยังจําได้ว่ามิโซควักเงินตัวเองออกมาใช้พวกปีหนึ่งไปซื้อข้าวมากิน
“จะบอกว่าทํางานแล้วเสียเงินเหรอ?”
“เนอะ?”
“พยายามเข้าล่ะพวกแก”
“ตั้งใจแบบนั้นอยู่แล้ว”
ทั้งสองคนยิ้ม
เวลาไหลผ่านไปราวกับน้ําที่ไหลผ่านอุ้งมือ กว่าจะทันรู้ตัว มันก็เล็ดลอดออกไปจนหมดแล้ว ชมรมนั้นกําลังไปได้สวย ทั้งเรื่องฉาก และเรื่องการแสดงมารุใช้เวลาส่วนมากนั่งทําฉาก
“ไปเอามาจากไหนเนี่ย?”
“แค่ลองค้น ๆ ดูแถวนี้น่ะ”
มีกองไม้กองอยู่ทั่วห้องไปหมด พวกมันดูสภาพใช้การไม่ค่อยได้เพราะถูกทิ้งร้างมานาน แต่หลังจากลองได้ทาสีใหม่ พวกมันก็ดูสดใสขึ้นมา
มารุช่วยตอกตะปูยึดแผ่นไม้ เพราะเขาทนดูพวกเด็ก ๆ ยืนงงหาวิธีตอกตะปูกันเองไม่ไหว มันดูอันตรายจนเกินไป
“ให้ตายสิมารุ”
“สุดยอด ผู้จัดการเราทําได้ทุกอย่างเลย”
แน่นอนว่าเขาทําได้ เขาไม่ได้เพิ่งจะเคยทําอะไรแบบนี้เสียหน่อยมารุตอกแผ่นไม้เข้าไปเสริมโครงสร้างของฉากร้าน มันถูกสร้าง ขึ้นลวก ๆ จากไม้อัดแต่ก็ยังหนักไม่เบา สมาชิกคนอื่น ๆ มาช่วย เขายกมันตั้งขึ้น
“โอ้”
“ถ้าได้ตกแต่งอีกหน่อยสวยแน่นอน”
มารยิ้มกว้างขณะจ้องมองไปที่ฉาก อย่างน้อยเขาก็ยังทําประโยชน์กับชมรมได้บ้าง มันทําให้เขารู้สึกดีขึ้นมาหน่อย หลังจากได้คุ ยกับพ่อในวันนั้นมันก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปมากมายนัก เขายังคิด ถึงเรื่องความฝันของตัวเองอยู่บ้างเป็นครั้งคราวแต่ก็คิดหามันไม่เจ อสักที ตอนอายุ 45 เขามีความฝันอะไรรึเปล่านะ? มีอะไรที่เขาต้องยอมแพ้ไปเพราะไม่มีเวลารึเปล่านะ? มันคือสิ่งเดียวที่ติดอยู่ในหัวมารุในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
คําถามของเขาเปลี่ยนไปจาก “เราจะใช้ชีวิตยังไง?” เป็น “ความฝันของเราคืออะไร?
ความฝัน มารุอยากจะเป็นอะไรกันนะ?
Comments
ข้ามเวลาล่าฝันบทที่ 31 2
ข้ามเวลาล่าฝัน! ข้ามเวลาล่าฝัน! บทที่ 31 ตอนที่ 2
ข้ามเวลาล่าฝัน! บทที่ 31 ตอนที่ 2
“เอาเงินมาปะ?”
“อ่า”
มารุมองดูเพื่อนทั้งสองคนพูดคุยกัน พวกเขามักจะอยู่คุยกันเสมอในช่วงพักเที่ยง
“เงินอะไร?” มารุถาม
“เงินให้ครูฝึก”
ทั้งสองคนนําเงินออกมาคนละสามหมื่นวอน รวม เป็นหกหมื่นวอนมารุได้แต่ทําหน้างง เพราะเขาไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย
“ไปบอกกันตอนไหนเนี่ย?”
“วันเสาร์”
“อ่อ”
“แกไม่ต้องจ่ายหรอก แค่พวกเราก็พอ”
“เหรอ?”
โชคดีที่เขาไม่ต้องเสียเงิน
“แต่…” เดมยังพูดขัดขึ้น “ทําไมครูเขาถึงพูดสุภาพกับครูฝึกจัง? แถมเงินนี่อีกถ้าครูเราบอกครูมิโซไปตรง ๆ ฉันว่าเธอน่าจะพอเข้าใจนะ”
โดจินเดาะลิ้น
“คนพวกนั้นเขาก็มีศักดิ์ศรีของตัวเองนะเว้ย ลองคิดดิ จะมาแสดงท่าทางน่าสมเพชต่อหน้าอดีตลูกศิษย์ได้เหรอ? ถ้าต้องเป็น แบบนั้นฉันคงได้บ้าตายแน่ไม่แปลกหรอกที่ครูเขาจะใช้เงินเดือน ตัวเองจ่าย
“เหรอ?”
“ใช่สิ”
“แล้วทําไมต้องทําตัวสุภาพด้วย?”
“อาจจะเพราะไม่ได้สนิทกันมั้ง ก็ครูเขาไม่บอกเราด้วยซ้ําว่าครูมิโซเป็นรุ่นพี่เรา”
ดูโดจินค่อนข้างมั่นใจในคําตอบ แต่มารุกลับส่ายหัว
“อะไร คิดว่าไม่ใช่เหรอ?”
“ไม่มีทางเลย”
“งั้นทําไมเขาถึงทําตัวสุภาพกับเธอแบบนั้นล่ะ? มองผ่าน ๆ นี้นี้กว่าคนไม่รู้จักกันด้วยซ้ํานะ”
“ต่อให้พวกเราไม่เห็นฉันว่าพวกเขาก็เป็นแบบนั้น พนันไหม?”
โดจินและเดมยังส่ายหัวเมื่อเห็นมารุหยิบเงินแบงค์พันขึ้นมา
“ครูเราแค่รักษาหน้าครูฝึกแค่นั้นแหละ คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาทําเหมือนเธอเป็นเด็กไปอีกคนต่อหน้าเรา?”
“เรื่องนั้น”
เดมยังพยักหน้ายอมรับและเข้าใจทันที
“พวกแกก็รู้จักครูเราดี ฉันเห็นเขาทําตัวแบบนี้กับศิษย์เก่าทุกคนแหละฉันว่าเขาคงพยายามที่จะปฏิบัติกับพวกนั้นให้เหมือนพวกเขาเป็นผู้ใหญ่จริง ๆ นั่นเป็นสิ่งที่ฉันต้องนับถือเลย เพราะแบบนั้นด้วยแหละมั้งเขาถึงพยายามจะเก็บเรื่องเงินไว้ให้เป็นความลับที่สุดเขาไม่อยากให้มันเกิดปัญหาอะไรกันขึ้น ยิ่งเพราะเขารู้จักครูฝีกดีแกเองก็บอกนี่ ใช่ไหมโดจิน? ว่ายิ่งรู้จักคนอื่นมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งต้องให้เกียรติเขามากเท่านั้น”
“อ่า ครูเรานี่เท่จริง ๆ”
ทั้งสองคนต่างเห็นด้วย
“แล้วจะเอาเงินไปให้ยังไง? ฉันว่าเขาไม่น่าจะยอมรับหรอกนะ”
“เราคิดว่าจะเอาให้ครูฝึกเองเลย”
“โอ้ แบบนั้นเอาสินะ”
“แต่รู้ไหมว่ามันน่าตลกตรงไหน?”
“ตรงไหน?”
“ครูน่ะซื้ออาหารมาเลี้ยงพวกเราทุกวัน ครูมิโซเองก็ไม่ชอบปกปิดอะไรมาก เธอบอกมาว่าเธอได้ชั่วโมงละ 40000 วอน”
มารุได้แต่ขํา ผู้หญิงคนนี้ไม่ชอบปกปิดอะไรจริง ๆ แต่เรื่องนั้นเขาก็เห็นตั้งแต่ไปคุยกันบนดาดฟ้าแล้ว
แต่เดี๋ยวนะ
ถ้าเธอทํางานหนักขนาดนี้
“แต่เธอมาทุกวัน แถมวันหยุดยังมาเต็มวันอีกไม่ใช่เหรอ?”
“อ่า ถ้าเธอได้เงินเต็มจํานวนจากการมาสอนมากขนาดนั้นมันคงจะบ้ามาก ๆ เราเลยถาม”
“ถามว่าสรุปได้เท่าไหร่กันแน่?”
“ใช่”
“เหอะ”
โดจินเองก็กล้าไม่เบา ถึงขนาดถามอะไรแบบนั้นออกไป
“จริง ๆ เธอควรจะได้ทั้งหมดเลย 800000 วอน จากการที่มาสอนแค่ช่วงวันหยุดน่ะนะ แต่นี้เธอเล่นมาทุกวัน แถมยังใช้เงินที่ได้เกีอบครึ่งมาเลี้ยงข้าวพวกเราอีก”
มารุยังจําได้ว่ามิโซควักเงินตัวเองออกมาใช้พวกปีหนึ่งไปซื้อข้าวมากิน
“จะบอกว่าทํางานแล้วเสียเงินเหรอ?”
“เนอะ?”
“พยายามเข้าล่ะพวกแก”
“ตั้งใจแบบนั้นอยู่แล้ว”
ทั้งสองคนยิ้ม
เวลาไหลผ่านไปราวกับน้ําที่ไหลผ่านอุ้งมือ กว่าจะทันรู้ตัว มันก็เล็ดลอดออกไปจนหมดแล้ว ชมรมนั้นกําลังไปได้สวย ทั้งเรื่องฉาก และเรื่องการแสดงมารุใช้เวลาส่วนมากนั่งทําฉาก
“ไปเอามาจากไหนเนี่ย?”
“แค่ลองค้น ๆ ดูแถวนี้น่ะ”
มีกองไม้กองอยู่ทั่วห้องไปหมด พวกมันดูสภาพใช้การไม่ค่อยได้เพราะถูกทิ้งร้างมานาน แต่หลังจากลองได้ทาสีใหม่ พวกมันก็ดูสดใสขึ้นมา
มารุช่วยตอกตะปูยึดแผ่นไม้ เพราะเขาทนดูพวกเด็ก ๆ ยืนงงหาวิธีตอกตะปูกันเองไม่ไหว มันดูอันตรายจนเกินไป
“ให้ตายสิมารุ”
“สุดยอด ผู้จัดการเราทําได้ทุกอย่างเลย”
แน่นอนว่าเขาทําได้ เขาไม่ได้เพิ่งจะเคยทําอะไรแบบนี้เสียหน่อยมารุตอกแผ่นไม้เข้าไปเสริมโครงสร้างของฉากร้าน มันถูกสร้าง ขึ้นลวก ๆ จากไม้อัดแต่ก็ยังหนักไม่เบา สมาชิกคนอื่น ๆ มาช่วย เขายกมันตั้งขึ้น
“โอ้”
“ถ้าได้ตกแต่งอีกหน่อยสวยแน่นอน”
มารยิ้มกว้างขณะจ้องมองไปที่ฉาก อย่างน้อยเขาก็ยังทําประโยชน์กับชมรมได้บ้าง มันทําให้เขารู้สึกดีขึ้นมาหน่อย หลังจากได้คุ ยกับพ่อในวันนั้นมันก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปมากมายนัก เขายังคิด ถึงเรื่องความฝันของตัวเองอยู่บ้างเป็นครั้งคราวแต่ก็คิดหามันไม่เจ อสักที ตอนอายุ 45 เขามีความฝันอะไรรึเปล่านะ? มีอะไรที่เขาต้องยอมแพ้ไปเพราะไม่มีเวลารึเปล่านะ? มันคือสิ่งเดียวที่ติดอยู่ในหัวมารุในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
คําถามของเขาเปลี่ยนไปจาก “เราจะใช้ชีวิตยังไง?” เป็น “ความฝันของเราคืออะไร?
ความฝัน มารุอยากจะเป็นอะไรกันนะ?
Comments