พลิกนาฬิกา ย้อนชะตานางร้าย 219 (ตอนพิเศษเพิ่มเติม 10)

Now you are reading พลิกนาฬิกา ย้อนชะตานางร้าย Chapter 219 (ตอนพิเศษเพิ่มเติม 10) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“อาเรีย! สบายดีไหมคะ”

อาเรียพูดไม่ออก เมื่อซาร่ามาเยี่ยมเธอพร้อมกับใบหน้ายิ้มแย้ม

แน่นอนว่าที่เป็นเช่นนั้นไม่ใช่เพราะซาร่า แต่เป็นเพราะบลิสที่ควรจะนอนหลับอยู่ ดันโผล่มาด้วยต่างหาก

แถมยังมีเจสซี่กับแอนนี่อีกด้วย

“ซาร่า…นี่มันอะไรกันคะ ทำไมซาร่ากับบลิสถึง-“

ขณะที่อาเรียถามออกไป บลิสก็ก้าวออกมาข้างหน้าพร้อมกับยิ้มร่าราวกับรอจังหวะนี้อยู่

“พี่คะ! ชุดนี้เป็นยังไงคะ หนูซื้อมาใหม่เลย! ”

ไม่รู้ว่าเด็กคนนั้นไปเรียนมาจากที่ไหน เธอจับชายกระโปรงเอาไว้อย่างแผ่วเบา

เพราะเหตุนั้นอาเรียจึงหยุดคำถามของตนเอาไว้แล้วปราดตามองดูการแต่งกายของบลิสช้าๆ

‘…แมวเหรอ’

แม้จะเป็นชุดเดรสสีแดงที่ดูหรูหราเป็นอย่างมากก็ตาม แต่ริบบิ้นยาวๆ ที่ผูกเอาไว้ด้านหลังกับโบผูกผมชิ้นใหญ่ที่ติดเอาไว้ข้างศีรษะทั้งสองด้านนั้น ทำให้อาเรียนึกถึงแมวขึ้นมา

ดูแล้วก็น่ารักอยู่หรอก แต่ก็ดูแปลกอยู่นิดหน่อย เป็นชุดที่ให้ความรู้สึกกึ่งกลางระหว่างชุดทั่วไปกับชุดสำหรับใส่ไปงานเลี้ยงแฟนซี

ดังนั้นอาเรียจึงได้แต่ทอดสายตามองนิ่งๆ ไม่แสดงท่าทีอะไรเป็นพิเศษกลับไป ซาร่ายิ้มเบาๆ เธอจัดโบผูกผมที่อยู่บนศีรษะของบลิสและถามว่า

“ไม่ชอบเหรอคะ ดิฉันเห็นว่ามันเข้ากันดีเลยเลือกมา ไม่น่ารักเหรอคะ”

มันดูน่าอายมากเลย แต่เพราะซาร่าบอกว่าเธอเป็นคนเลือกเอง จะให้บอกว่ามันดูแปลกๆ ได้อย่างไรกันเล่า

ถึงจะดูมากเกินไปหน่อย แต่ที่จริงก็ไม่ได้แปลกอะไร อาเรียจึงถอนหายใจเบาๆ และส่ายหน้าออกไป

“…สวยดีค่ะ น่ารักน่าชัง และก็น่าเอ็นดูมากเลยค่ะ”

“ใช่ไหมล่ะคะ ดิฉันรู้ค่ะ ว่าต้องคิดแบบนั้นแน่ๆ! ”

เมื่อพูดชมเกินจริงขึ้นมา ซาร่าก็ยิ้มออกมาอย่างชื่นมื่น ส่วนบลิสก็ถามว่า‘จริงเหรอ’และระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

เจสซี่และแอนนี่ที่เฝ้าดูอยู่เบื้องหลังก็ไม่ต่างกัน

มีอะไรให้ดีใจขนาดนั้นกันนะ อาเรียขมวดคิ้วออกมาเล็กน้อยโดยไม่ให้ทั้งสี่คนที่กำลังมีความสุขอยู่ตรงหน้าสังเกตเห็น

“นอกจากอันนี้แล้วหนูซื้อมาหลายอย่างเลยนะ! สวยมากๆ เลย! เดี๋ยวหนูโชว์ให้ดู! ”

แล้วจู่ๆ บลิสก็จับมืออาเรียลากออกไป

แม้จะไม่ใช่เรี่ยวแรงที่มากมาย แต่เพราะอาเรียไม่ทันได้ระวังอะไร เธอจึงเผลอเดินตามแรงดึงของบลิสไปโดยไม่รู้ตัว

บลิสมุ่งหน้าไปยังห้องนอนของเธออย่างรวดเร็ว ท่าทางจะตื่นเต้นดีใจที่อาเรียยอมเดินตามมาอย่างง่ายดาย

โดยที่ไม่รู้เลยว่าการกระทำเช่นนั้น ทำให้อาเรียสงสัยขึ้นมา

‘…ทำไมถึงรู้ที่ทางในพระราชวังดีขนาดนี้ล่ะ’

อาเรียหรี่ตามองดูบลิสซึ่งเลือกเส้นทางที่รวดเร็วที่สุดได้อย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย

คนที่อยู่ในพระราชวังแค่วัน สองวันไม่มีทางทำแบบนี้ได้แน่ๆ ยิ่งไปกว่านั้น-

‘ทำไมยังมีเรี่ยวแรงเหลืออยู่แบบนี้กันล่ะ’

หากเป็นคนที่ไม่ได้สืบสายเลือดจากราชวงศ์เหมือนตนเองแล้ว หากใช้พลังก็ควรจะยังสลบอยู่แท้ๆ

อาเรียนึกถึงสภาพของตัวเองที่สลบเหมือดไม่ได้สติทั้งวันหลังจากที่พลิกนาฬิกาทรายแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

แต่บลิสที่ใช้พลังเคลื่อนที่ไปไม่รู้ตั้งกี่ครั้งตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้ กลับนอกหลับไปเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น แถมยังไม่มีทีท่าเหน็ดเหนื่อยอะไรเลย

‘ที่บอกว่าใช้พลังเคลื่อนที่อยู่หลายครั้งในตอนแรกนั้น ก็ฟังดูไม่น่ามีเหตุผลเอาเสียเลย’

แล้วอาเรียก็เข้าใจในสิ่งที่อาซปิดบังขึ้นมาในภายหลัง

ว่าบลิสซึ่งแม้จะใช้พลังไปหลายครั้ง แต่ยังคงอยู่ในสภาพปกติดีนั้น ไม่ใช่น้องต่างแม่ของตนแน่นอน

‘แล้วเด็กนั่นเป็นใครกันแน่…’

หากไม่ใช่น้องต่างแม่และเป็นคนที่สืบสายเลือดมาจากราชวงศ์แล้ว ทำไมถึงได้หน้าตาเหมือนตนขนาดนี้ได้

ในขณะที่สงสัยและเริ่มคาดเดาขึ้นมา ก็เดินมาถึงห้องนอนพอดี

บลิสที่เดินนำอยู่ข้างหน้า หันหลังขวับมายิ้มร่าให้กับอาเรียและถามว่า

“พี่คะ! หนูซื้อชุดมาเยอะเลย เพราะฉะนั้นต้องดูให้ครบทุกชุดนะ! เข้าใจใช่ไหม หืม”

ท่าทางบลิสไม่ได้คิดจะฟังคำตอบเลย เธอหายไปในห้องแต่งตัวกับสาวใช้ที่ถือข้าวของอย่างรวดเร็วก่อนที่อาเรียจะทันได้พูดอะไรด้วยซ้ำ

“ทุกครั้งที่ลองชุดก็เอาแต่ถามว่าจะถูกใจพระชายาหรือเปล่าตลอดเลยค่ะ”

แอนนี่เดินตามหลังเข้ามาในห้องนอนและพูดว่าจะได้เห็นฉากนั้นอีกครั้งพร้อมกับหัวคิกคักออกมา

“น่ารักมากๆ เลยล่ะค่ะ เพราะใช้เวลาเลือกตั้งสามชั่วโมงเลยนี่นา”

คงเป็นเพราะออกไปข้างนอกกับบลิสโดยไม่รายงานให้อาเรียทราบก่อน เจสซี่จึงค่อยๆ พูดเสริมขึ้นมาอย่างระมัดระวัง

“อุ๊ย ดิฉันได้เห็นไปไม่กี่ครั้งเองค่ะ ถ้าอย่างนั้นแสดงว่าดิฉันจะได้เห็นภาพน่ารักน่าเอ็นดูนั่นอีกครั้งใช่ไหมคะเนี่ย”

“ใช่แล้วค่ะ”

แม้แต่ซาร่าเองก็พูดเข้าขาอย่างสนุกสนานไปด้วย

ในสถานการณ์แบบนี้ คงไม่สามารถบอกให้ทุกคนกลับไปแล้วจับตัวบลิสที่เปลี่ยนชุดอย่างร่าเริงมานั่งซักไซ้ว่าเธอคือใครกันแน่ได้

“ช่วยเตรียมชาให้หน่อยนะ เอาที่ไม่ร้อนจนเกินไป”

“ค่ะ พระชายา”

อาเรียถอนหายใจแล้วนั่งลงบนโซฟา ปล่อยให้สามสาวพากันส่งเสียงตื่นเต้นว่าบลิสจะน่ารักมากขนาดไหน

ในระหว่างที่รอ อาเรียคิดกับตัวเองว่าเธอควรจะกลับมาคิดถึงเรื่องที่หยุดคิดไปเมื่อครู่นี้

นั่นก็คือเรื่องเกี่ยวกับบลิสที่มีหน้าตาเหมือนกับเธอราวกับเธอเป็นคนให้กำเนิดด้วยตัวเอง

‘…เดี๋ยวนะ’

”ให้กำเนิดด้วยตัวเองงั้นเหรอ”

แม้จะเป็นข้อสันนิษฐานที่ดูไร้สาระจนหัวเราะไม่ออก แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

มีความเป็นไปได้ว่าบลิสอาจจะมาจากอนาคตและมีพลังอยู่สองอย่าง

แม้จะดูไม่คาดฝัน แต่พลังพวกนั้นก็มาจากพลังของอาเรียและอาซ

หากข้อสมมตินี้เป็นจริงละก็ จะสามารถอธิบายได้ว่าทำไมบลิสถึงรู้ที่ทางในพระราชวังเป็นอย่างดี

และราวกับจะยืนยันว่าอาเรียไม่ได้คิดผิดไป ซาร่าที่นั่งอยู่ข้างเธอก็ยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยนและพูดเกี่ยวกับบลิสขึ้นมา

“ตอนเจอเลดี้บลิสครั้งแรก ดิฉันคิดว่าอาเรียกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งเสียอีกค่ะ แต่พอสังเกตดูดวงตาดีๆ แล้ว กลับมีตาสีฟ้าเหมือนกับตาขององค์รัชทายาทเลยค่ะ”

อาเรียใจเต้นกับคำที่ถูกเล่าออกมาอย่างสบายๆ ซาร่าพูดต่อไปโดยไม่รู้อะไร

“เพราะอย่างนั้นดิฉันจึงเข้าใจว่าไม่ใช่น่ะค่ะ ถ้าทั้งสองคนมีลูกแล้วละก็ คงจะน่ารักเหมือนกับเลดี้บลิสแน่ๆ เลยค่ะ”

เห็นได้ชัดว่าซาร่าไม่รู้อะไรเลย แต่คำพูดนั้นกลับฟังดูเหมือนเธอกำลังพูดความจริงอยู่

อาเรียฟังซาร่าพูดด้วยสีหน้าแข็งทื่อขึ้นเรื่อยๆ เธอดื่มชาที่สาวใช้เพิ่งรินให้หมดภายในครั้งเดียว

“อาเรีย”

แทนที่จะตอบกลับไปด้วยสีหน้าอ่อนโยนดั่งปกติ แต่สีหน้าอาเรียกลับดูแย่เอามากๆ และในตอนนั้นที่ซาร่าเรียกชื่อเธอนั่นเอง

“พระชายาคะ-! “

สาวใช้ที่หายเข้าไปในห้องแต่งตัว วิ่งออกมาด้วยท่าทีตกใจ

“คุณหนูน้อย…! ”

อย่าบอกนะว่าใช้พลังมากไปเลยเกิดอะไรผิดปกติขึ้นมาน่ะ

อาเรียตกใจลุกพรวดขึ้นจากที่นั่งและถามออกไปด้วยน้ำเสียงร้อนรน

“เกิดอะไรขึ้น! ”

“คุณหนูเปลี่ยนชุดแล้วก็..หลับไปเลยค่ะ…”

“หลับเหรอ…”

แอนนี่ย้อนถามด้วยน้ำเสียงตกตะลึง และซาร่าที่กะพริบตาอยู่ครู่หนึ่งก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

“เปลี่ยนเสื้อผ้ามาทั้งวัน ก็คงจะเหนื่อยแหละค่ะ แม้แต่ตอนอยู่ในรถม้าขากลับมา ก็เอาแต่ตื่นเต้นว่าอาเรียจะชอบชุดไหนมากที่สุด อดทนมาจนถึงตอนนี้ได้ก็เก่งมากแล้วค่ะ”

ก็แค่ชุดเองจะอะไรมากมาย แค่เลือกดูผ่านๆ ก็ได้แล้วแท้ๆ เป็นแค่เด็กอายุเจ็ดขวบ ทำไมถึงเล่นกับใจคนได้เก่งขนาดนี้กันนะ

‘ตอนอายุเจ็ดขวบฉันไม่ได้เงอะงะแบบนี้เสียหน่อย ‘

อาเรียตั้งใจจะว่าให้บลิสแบบนั้น แล้วเธอก็กระแอมไอขึ้นมา ลองมาคิดดูแล้วบลิสกับตัวเธอเองก็ไม่ได้ต่างกันมากเท่าไหร่นัก

ไม่สิ หากคิดให้ละเอียดดูแล้ว ในช่วงชีวิตแรกของเธอนั้น แม้จะกลายเป็นผู้ใหญ่แล้วเธอก็ยังดูเงอะงะโง่เขลาอยู่ดี กว่าจะตั้งสติคิดได้ก็หลังจากที่ผ่านความตายไปแล้วครั้งหนึ่ง

“เอ่อ…ถ้าเขย่าตัวเล็กน้อยก็น่าจะตื่นนะคะ ให้ดิฉันปลุกคุณหนูเลยไหมคะ”

สาวใช้ถามออกมาอย่างระมัดระวัง แม้จะกังวลว่าบลิสอาจจะหลับไปจนไม่ได้ทานมื้อเย็นก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีความจำเป็นต้องปลุกเด็กน้อยที่กำลังหลับให้ตื่นขึ้นมา

อาเรียส่ายหน้า

“ไม่ต้องหรอก เรื่องชุดน่ะ เอาไว้ค่อยดูทีหลังก็ได้ อุ้มเข้านอนทั้งแบบนั้นเลยดีกว่า”

“อ๊ะ ค่ะ! ดิฉันจะทำตามที่สั่งเดี๋ยวนี้เลยค่ะ”

อาเรียรั้งสาวใช้ที่ตั้งใจจะเข้าไปในห้องแต่งตัวเพื่ออุ้มบลิสออกมา

“เดี๋ยวฉันทำเอง”

ฮะ ทำไมล่ะ ดวงตาของสาวใช้ถามออกมาแบบนั้น

แอนนี่เองก็เอียงคอทำหน้าสงสัยว่าทำไมถึงต้อง ‘ทำด้วยตัวเอง’ ด้วย

และคนที่แปลกใจที่สุดก็คืออาเรียนั่นเอง  ทำไมฉันถึงคิดทำเรื่องที่ไม่สำคัญนั่นด้วยตัวเองกันนะ อาเรียเกิดความสงสัยในการกระทำของตัวเองขึ้นมา

แต่ว่า

‘…บางทีคนที่ละเลยและเอาแต่ดุด่าบลิสด้วยคำพูดแรงๆ อาจจะเป็นฉันก็ได้’

อาเรียคิดว่าบางทีเธออาจจะเป็นตัวการที่ทำให้เด็กอายุแค่เจ็ดขวบย้อนต้องเวลากลับมาในอดีตก็เป็นได้ เพราะอย่างนั้นเธอจึงไม่สามารถอยู่เฉยๆ ได้

แม้จะไม่รู้ว่านั่นเป็นความจริงหรือไม่ แต่อาเรียเองก็ไม่รู้ว่าทำไมตนถึงได้รู้สึกผิดขึ้นมา แม้ว่าการอุ้มเด็กมาไว้ในอ้อมกอดจะไม่สามารถทำให้ความรู้สึกนั้นหายไปก็ตาม แต่เธอก็อยากจะทำอย่างนั้นอยู่ดี

“ดิฉันเองก็อยากทำนะคะ แต่ถูกอาเรียชิงตัดหน้าไปก่อนเสียได้ แต่ก็ไม่แปลกหรอกค่ะ ในเมื่อเป็นคนที่อยู่ร่วมกันในพระราชวัง ก็คงจะรู้สึกถูกใจอยู่ไม่น้อยสินะคะ”

คำพูดของซาร่าทำให้ทุกคนเข้าใจในการกระทำของอาเรีย

อาเรียพยักหน้าเล็กน้อยแล้วเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวทันที

‘…ในที่แบบนี้ก็ยังหลับได้อีกหรือนี่’

ท่าทางคงผล็อยหลับไประหว่างใส่เสื้อผ้าอยู่แน่ๆ เพราะบลิสนอนอยู่บนพื้นในสภาพที่สวมแขนเสื้อข้างเดียวเท่านั้น

‘ในเมื่อใช้พลังไปก่อนหน้านี้ตั้งนานแล้ว ฉะนั้นสาเหตุที่มาหลับเอาตอนนี้คงไม่เกี่ยวกับเรื่องนั้นแน่’

ฝืนความง่วงเอาไว้ตลอดทั้งๆ ที่รู้สึกเหนื่อย สุดท้ายเลยกลายเป็นแบบนี้สินะ

ถ้าอย่างนั้นก็ควรจะนอนตามที่บอกให้นอนเมื่อกี้สิ จะออกไปข้างนอกทำไมนะ

อาเรียเดาะลิ้นไม่พอใจ และในตอนที่ตั้งใจจะถอดเสื้อผ้าของบลิสออกนั่นเอง

“…! ”

เมื่อมีอะไรมาสัมผัสตัวเข้า บลิสก็ตอบสนองด้วยการจับมือของอาเรียอย่างรวดเร็ว

แม้จะพยายามชักมือออกในทันที แต่บลิสกลับจับมือของอาเรียเข้ามากอดไว้ในอกแน่น

“แม่ จ๋า…”

จากนั้นบลิสก็เพรียกหาแม่และน้ำตาไหลออกมา เพราะแบบนั้นอาเรียจึงไม่สามารถทำอะไรได้ไปพักหนึ่ง

‘…ในอนาคตมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่นะ’

ทั้งที่คิดว่าเรื่องยุ่งยากทั้งหลายจบลงไปแล้วแท้ๆ ท่าทางในอนาคตจะมีเรื่องยากลำบากรออยู่เสียแล้ว

อาเรียถอดหายใจแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าให้บลิส จากนั้นก็ค่อยๆ อุ้มบลิสขึ้นมาโดยระวังไม่ให้ตื่น ก่อนจะออกไปจากห้องแต่งตัว

“เอ่อ ห้องของคุณหนู-“

“เอาเป็นห้องที่อยู่ข้างๆ แล้วกัน”

ห้องนอนที่อยู่ข้างๆ ไม่ใช่ห้องสำหรับแขก แต่เป็นห้องที่อาเรียและอาซเอาไว้ใช้ต่างหากอีกห้องหนึ่ง

สาวใช้ที่เห็นว่าอาเรียเอาใจใส่บลิสมากเป็นพิเศษรีบพาเธอไปยังห้องข้างๆ อย่างรวดเร็ว

อาเรียวางบลิสลงบนฟูกเตียงนุ่มๆ และจ้องมองดูเด็กน้อยที่กำลังหลับใหลอยู่สักพัก

ภาพเด็กน้อยกำลังยื่นมือคว้าเอาส่วนที่เหลือของหมอนเข้ามากอดราวกับกำลังร้องขอความรักนั่น ดูน่าสงสารเหมือนกับตัวอาเรียในอดีตไม่มีผิด

‘…ต้องรู้ให้ได้ว่ามันเกิดอะไรกันแน่’

ถ้าเป็นอาซละก็คงจะรู้เรื่องนี้อยู่แน่ๆ เพราะเขาคงได้ยินคำอธิบายที่ละเอียดมาจากบลิสแล้ว

ในเมื่อคาดเดาตัวตนของบลิสได้แล้ว ตอนนี้ก็เหลือแค่ยืนยันมันเท่านั้น

เพราะตอนนี้ซาร่ามาเยี่ยมอยู่พอดี อาเรียจึงตัดสินใจว่าจะถามความจริงหลังรับประทานอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อยแล้วเดินออกจากห้องไปเงียบๆ แล้วแอนนี่ที่ยืนคอยอยู่หน้าประตูมาตลอดก็เรียกอาเรียขึ้นมา

“เอ่อ พระชายาคะ มีเวลาสักครู่ไหมคะ”

สีหน้าดูจริงจังเป็นอย่างมาก ราวกับจะสารภาพเรื่องสำคัญออกมา

“มีเรื่องอะไรหรือ”

“ดิฉันมีเรื่องจะแจ้งให้ทราบค่ะ เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ เลยล่ะค่ะ”

……………………………………………….

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

พลิกนาฬิกา ย้อนชะตานางร้าย 219 (ตอนพิเศษเพิ่มเติม 10)

Now you are reading พลิกนาฬิกา ย้อนชะตานางร้าย Chapter 219 (ตอนพิเศษเพิ่มเติม 10) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“อาเรีย! สบายดีไหมคะ”

อาเรียพูดไม่ออก เมื่อซาร่ามาเยี่ยมเธอพร้อมกับใบหน้ายิ้มแย้ม

แน่นอนว่าที่เป็นเช่นนั้นไม่ใช่เพราะซาร่า แต่เป็นเพราะบลิสที่ควรจะนอนหลับอยู่ ดันโผล่มาด้วยต่างหาก

แถมยังมีเจสซี่กับแอนนี่อีกด้วย

“ซาร่า…นี่มันอะไรกันคะ ทำไมซาร่ากับบลิสถึง-“

ขณะที่อาเรียถามออกไป บลิสก็ก้าวออกมาข้างหน้าพร้อมกับยิ้มร่าราวกับรอจังหวะนี้อยู่

“พี่คะ! ชุดนี้เป็นยังไงคะ หนูซื้อมาใหม่เลย! ”

ไม่รู้ว่าเด็กคนนั้นไปเรียนมาจากที่ไหน เธอจับชายกระโปรงเอาไว้อย่างแผ่วเบา

เพราะเหตุนั้นอาเรียจึงหยุดคำถามของตนเอาไว้แล้วปราดตามองดูการแต่งกายของบลิสช้าๆ

‘…แมวเหรอ’

แม้จะเป็นชุดเดรสสีแดงที่ดูหรูหราเป็นอย่างมากก็ตาม แต่ริบบิ้นยาวๆ ที่ผูกเอาไว้ด้านหลังกับโบผูกผมชิ้นใหญ่ที่ติดเอาไว้ข้างศีรษะทั้งสองด้านนั้น ทำให้อาเรียนึกถึงแมวขึ้นมา

ดูแล้วก็น่ารักอยู่หรอก แต่ก็ดูแปลกอยู่นิดหน่อย เป็นชุดที่ให้ความรู้สึกกึ่งกลางระหว่างชุดทั่วไปกับชุดสำหรับใส่ไปงานเลี้ยงแฟนซี

ดังนั้นอาเรียจึงได้แต่ทอดสายตามองนิ่งๆ ไม่แสดงท่าทีอะไรเป็นพิเศษกลับไป ซาร่ายิ้มเบาๆ เธอจัดโบผูกผมที่อยู่บนศีรษะของบลิสและถามว่า

“ไม่ชอบเหรอคะ ดิฉันเห็นว่ามันเข้ากันดีเลยเลือกมา ไม่น่ารักเหรอคะ”

มันดูน่าอายมากเลย แต่เพราะซาร่าบอกว่าเธอเป็นคนเลือกเอง จะให้บอกว่ามันดูแปลกๆ ได้อย่างไรกันเล่า

ถึงจะดูมากเกินไปหน่อย แต่ที่จริงก็ไม่ได้แปลกอะไร อาเรียจึงถอนหายใจเบาๆ และส่ายหน้าออกไป

“…สวยดีค่ะ น่ารักน่าชัง และก็น่าเอ็นดูมากเลยค่ะ”

“ใช่ไหมล่ะคะ ดิฉันรู้ค่ะ ว่าต้องคิดแบบนั้นแน่ๆ! ”

เมื่อพูดชมเกินจริงขึ้นมา ซาร่าก็ยิ้มออกมาอย่างชื่นมื่น ส่วนบลิสก็ถามว่า‘จริงเหรอ’และระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

เจสซี่และแอนนี่ที่เฝ้าดูอยู่เบื้องหลังก็ไม่ต่างกัน

มีอะไรให้ดีใจขนาดนั้นกันนะ อาเรียขมวดคิ้วออกมาเล็กน้อยโดยไม่ให้ทั้งสี่คนที่กำลังมีความสุขอยู่ตรงหน้าสังเกตเห็น

“นอกจากอันนี้แล้วหนูซื้อมาหลายอย่างเลยนะ! สวยมากๆ เลย! เดี๋ยวหนูโชว์ให้ดู! ”

แล้วจู่ๆ บลิสก็จับมืออาเรียลากออกไป

แม้จะไม่ใช่เรี่ยวแรงที่มากมาย แต่เพราะอาเรียไม่ทันได้ระวังอะไร เธอจึงเผลอเดินตามแรงดึงของบลิสไปโดยไม่รู้ตัว

บลิสมุ่งหน้าไปยังห้องนอนของเธออย่างรวดเร็ว ท่าทางจะตื่นเต้นดีใจที่อาเรียยอมเดินตามมาอย่างง่ายดาย

โดยที่ไม่รู้เลยว่าการกระทำเช่นนั้น ทำให้อาเรียสงสัยขึ้นมา

‘…ทำไมถึงรู้ที่ทางในพระราชวังดีขนาดนี้ล่ะ’

อาเรียหรี่ตามองดูบลิสซึ่งเลือกเส้นทางที่รวดเร็วที่สุดได้อย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย

คนที่อยู่ในพระราชวังแค่วัน สองวันไม่มีทางทำแบบนี้ได้แน่ๆ ยิ่งไปกว่านั้น-

‘ทำไมยังมีเรี่ยวแรงเหลืออยู่แบบนี้กันล่ะ’

หากเป็นคนที่ไม่ได้สืบสายเลือดจากราชวงศ์เหมือนตนเองแล้ว หากใช้พลังก็ควรจะยังสลบอยู่แท้ๆ

อาเรียนึกถึงสภาพของตัวเองที่สลบเหมือดไม่ได้สติทั้งวันหลังจากที่พลิกนาฬิกาทรายแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

แต่บลิสที่ใช้พลังเคลื่อนที่ไปไม่รู้ตั้งกี่ครั้งตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้ กลับนอกหลับไปเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น แถมยังไม่มีทีท่าเหน็ดเหนื่อยอะไรเลย

‘ที่บอกว่าใช้พลังเคลื่อนที่อยู่หลายครั้งในตอนแรกนั้น ก็ฟังดูไม่น่ามีเหตุผลเอาเสียเลย’

แล้วอาเรียก็เข้าใจในสิ่งที่อาซปิดบังขึ้นมาในภายหลัง

ว่าบลิสซึ่งแม้จะใช้พลังไปหลายครั้ง แต่ยังคงอยู่ในสภาพปกติดีนั้น ไม่ใช่น้องต่างแม่ของตนแน่นอน

‘แล้วเด็กนั่นเป็นใครกันแน่…’

หากไม่ใช่น้องต่างแม่และเป็นคนที่สืบสายเลือดมาจากราชวงศ์แล้ว ทำไมถึงได้หน้าตาเหมือนตนขนาดนี้ได้

ในขณะที่สงสัยและเริ่มคาดเดาขึ้นมา ก็เดินมาถึงห้องนอนพอดี

บลิสที่เดินนำอยู่ข้างหน้า หันหลังขวับมายิ้มร่าให้กับอาเรียและถามว่า

“พี่คะ! หนูซื้อชุดมาเยอะเลย เพราะฉะนั้นต้องดูให้ครบทุกชุดนะ! เข้าใจใช่ไหม หืม”

ท่าทางบลิสไม่ได้คิดจะฟังคำตอบเลย เธอหายไปในห้องแต่งตัวกับสาวใช้ที่ถือข้าวของอย่างรวดเร็วก่อนที่อาเรียจะทันได้พูดอะไรด้วยซ้ำ

“ทุกครั้งที่ลองชุดก็เอาแต่ถามว่าจะถูกใจพระชายาหรือเปล่าตลอดเลยค่ะ”

แอนนี่เดินตามหลังเข้ามาในห้องนอนและพูดว่าจะได้เห็นฉากนั้นอีกครั้งพร้อมกับหัวคิกคักออกมา

“น่ารักมากๆ เลยล่ะค่ะ เพราะใช้เวลาเลือกตั้งสามชั่วโมงเลยนี่นา”

คงเป็นเพราะออกไปข้างนอกกับบลิสโดยไม่รายงานให้อาเรียทราบก่อน เจสซี่จึงค่อยๆ พูดเสริมขึ้นมาอย่างระมัดระวัง

“อุ๊ย ดิฉันได้เห็นไปไม่กี่ครั้งเองค่ะ ถ้าอย่างนั้นแสดงว่าดิฉันจะได้เห็นภาพน่ารักน่าเอ็นดูนั่นอีกครั้งใช่ไหมคะเนี่ย”

“ใช่แล้วค่ะ”

แม้แต่ซาร่าเองก็พูดเข้าขาอย่างสนุกสนานไปด้วย

ในสถานการณ์แบบนี้ คงไม่สามารถบอกให้ทุกคนกลับไปแล้วจับตัวบลิสที่เปลี่ยนชุดอย่างร่าเริงมานั่งซักไซ้ว่าเธอคือใครกันแน่ได้

“ช่วยเตรียมชาให้หน่อยนะ เอาที่ไม่ร้อนจนเกินไป”

“ค่ะ พระชายา”

อาเรียถอนหายใจแล้วนั่งลงบนโซฟา ปล่อยให้สามสาวพากันส่งเสียงตื่นเต้นว่าบลิสจะน่ารักมากขนาดไหน

ในระหว่างที่รอ อาเรียคิดกับตัวเองว่าเธอควรจะกลับมาคิดถึงเรื่องที่หยุดคิดไปเมื่อครู่นี้

นั่นก็คือเรื่องเกี่ยวกับบลิสที่มีหน้าตาเหมือนกับเธอราวกับเธอเป็นคนให้กำเนิดด้วยตัวเอง

‘…เดี๋ยวนะ’

”ให้กำเนิดด้วยตัวเองงั้นเหรอ”

แม้จะเป็นข้อสันนิษฐานที่ดูไร้สาระจนหัวเราะไม่ออก แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

มีความเป็นไปได้ว่าบลิสอาจจะมาจากอนาคตและมีพลังอยู่สองอย่าง

แม้จะดูไม่คาดฝัน แต่พลังพวกนั้นก็มาจากพลังของอาเรียและอาซ

หากข้อสมมตินี้เป็นจริงละก็ จะสามารถอธิบายได้ว่าทำไมบลิสถึงรู้ที่ทางในพระราชวังเป็นอย่างดี

และราวกับจะยืนยันว่าอาเรียไม่ได้คิดผิดไป ซาร่าที่นั่งอยู่ข้างเธอก็ยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยนและพูดเกี่ยวกับบลิสขึ้นมา

“ตอนเจอเลดี้บลิสครั้งแรก ดิฉันคิดว่าอาเรียกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งเสียอีกค่ะ แต่พอสังเกตดูดวงตาดีๆ แล้ว กลับมีตาสีฟ้าเหมือนกับตาขององค์รัชทายาทเลยค่ะ”

อาเรียใจเต้นกับคำที่ถูกเล่าออกมาอย่างสบายๆ ซาร่าพูดต่อไปโดยไม่รู้อะไร

“เพราะอย่างนั้นดิฉันจึงเข้าใจว่าไม่ใช่น่ะค่ะ ถ้าทั้งสองคนมีลูกแล้วละก็ คงจะน่ารักเหมือนกับเลดี้บลิสแน่ๆ เลยค่ะ”

เห็นได้ชัดว่าซาร่าไม่รู้อะไรเลย แต่คำพูดนั้นกลับฟังดูเหมือนเธอกำลังพูดความจริงอยู่

อาเรียฟังซาร่าพูดด้วยสีหน้าแข็งทื่อขึ้นเรื่อยๆ เธอดื่มชาที่สาวใช้เพิ่งรินให้หมดภายในครั้งเดียว

“อาเรีย”

แทนที่จะตอบกลับไปด้วยสีหน้าอ่อนโยนดั่งปกติ แต่สีหน้าอาเรียกลับดูแย่เอามากๆ และในตอนนั้นที่ซาร่าเรียกชื่อเธอนั่นเอง

“พระชายาคะ-! “

สาวใช้ที่หายเข้าไปในห้องแต่งตัว วิ่งออกมาด้วยท่าทีตกใจ

“คุณหนูน้อย…! ”

อย่าบอกนะว่าใช้พลังมากไปเลยเกิดอะไรผิดปกติขึ้นมาน่ะ

อาเรียตกใจลุกพรวดขึ้นจากที่นั่งและถามออกไปด้วยน้ำเสียงร้อนรน

“เกิดอะไรขึ้น! ”

“คุณหนูเปลี่ยนชุดแล้วก็..หลับไปเลยค่ะ…”

“หลับเหรอ…”

แอนนี่ย้อนถามด้วยน้ำเสียงตกตะลึง และซาร่าที่กะพริบตาอยู่ครู่หนึ่งก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

“เปลี่ยนเสื้อผ้ามาทั้งวัน ก็คงจะเหนื่อยแหละค่ะ แม้แต่ตอนอยู่ในรถม้าขากลับมา ก็เอาแต่ตื่นเต้นว่าอาเรียจะชอบชุดไหนมากที่สุด อดทนมาจนถึงตอนนี้ได้ก็เก่งมากแล้วค่ะ”

ก็แค่ชุดเองจะอะไรมากมาย แค่เลือกดูผ่านๆ ก็ได้แล้วแท้ๆ เป็นแค่เด็กอายุเจ็ดขวบ ทำไมถึงเล่นกับใจคนได้เก่งขนาดนี้กันนะ

‘ตอนอายุเจ็ดขวบฉันไม่ได้เงอะงะแบบนี้เสียหน่อย ‘

อาเรียตั้งใจจะว่าให้บลิสแบบนั้น แล้วเธอก็กระแอมไอขึ้นมา ลองมาคิดดูแล้วบลิสกับตัวเธอเองก็ไม่ได้ต่างกันมากเท่าไหร่นัก

ไม่สิ หากคิดให้ละเอียดดูแล้ว ในช่วงชีวิตแรกของเธอนั้น แม้จะกลายเป็นผู้ใหญ่แล้วเธอก็ยังดูเงอะงะโง่เขลาอยู่ดี กว่าจะตั้งสติคิดได้ก็หลังจากที่ผ่านความตายไปแล้วครั้งหนึ่ง

“เอ่อ…ถ้าเขย่าตัวเล็กน้อยก็น่าจะตื่นนะคะ ให้ดิฉันปลุกคุณหนูเลยไหมคะ”

สาวใช้ถามออกมาอย่างระมัดระวัง แม้จะกังวลว่าบลิสอาจจะหลับไปจนไม่ได้ทานมื้อเย็นก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีความจำเป็นต้องปลุกเด็กน้อยที่กำลังหลับให้ตื่นขึ้นมา

อาเรียส่ายหน้า

“ไม่ต้องหรอก เรื่องชุดน่ะ เอาไว้ค่อยดูทีหลังก็ได้ อุ้มเข้านอนทั้งแบบนั้นเลยดีกว่า”

“อ๊ะ ค่ะ! ดิฉันจะทำตามที่สั่งเดี๋ยวนี้เลยค่ะ”

อาเรียรั้งสาวใช้ที่ตั้งใจจะเข้าไปในห้องแต่งตัวเพื่ออุ้มบลิสออกมา

“เดี๋ยวฉันทำเอง”

ฮะ ทำไมล่ะ ดวงตาของสาวใช้ถามออกมาแบบนั้น

แอนนี่เองก็เอียงคอทำหน้าสงสัยว่าทำไมถึงต้อง ‘ทำด้วยตัวเอง’ ด้วย

และคนที่แปลกใจที่สุดก็คืออาเรียนั่นเอง  ทำไมฉันถึงคิดทำเรื่องที่ไม่สำคัญนั่นด้วยตัวเองกันนะ อาเรียเกิดความสงสัยในการกระทำของตัวเองขึ้นมา

แต่ว่า

‘…บางทีคนที่ละเลยและเอาแต่ดุด่าบลิสด้วยคำพูดแรงๆ อาจจะเป็นฉันก็ได้’

อาเรียคิดว่าบางทีเธออาจจะเป็นตัวการที่ทำให้เด็กอายุแค่เจ็ดขวบย้อนต้องเวลากลับมาในอดีตก็เป็นได้ เพราะอย่างนั้นเธอจึงไม่สามารถอยู่เฉยๆ ได้

แม้จะไม่รู้ว่านั่นเป็นความจริงหรือไม่ แต่อาเรียเองก็ไม่รู้ว่าทำไมตนถึงได้รู้สึกผิดขึ้นมา แม้ว่าการอุ้มเด็กมาไว้ในอ้อมกอดจะไม่สามารถทำให้ความรู้สึกนั้นหายไปก็ตาม แต่เธอก็อยากจะทำอย่างนั้นอยู่ดี

“ดิฉันเองก็อยากทำนะคะ แต่ถูกอาเรียชิงตัดหน้าไปก่อนเสียได้ แต่ก็ไม่แปลกหรอกค่ะ ในเมื่อเป็นคนที่อยู่ร่วมกันในพระราชวัง ก็คงจะรู้สึกถูกใจอยู่ไม่น้อยสินะคะ”

คำพูดของซาร่าทำให้ทุกคนเข้าใจในการกระทำของอาเรีย

อาเรียพยักหน้าเล็กน้อยแล้วเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวทันที

‘…ในที่แบบนี้ก็ยังหลับได้อีกหรือนี่’

ท่าทางคงผล็อยหลับไประหว่างใส่เสื้อผ้าอยู่แน่ๆ เพราะบลิสนอนอยู่บนพื้นในสภาพที่สวมแขนเสื้อข้างเดียวเท่านั้น

‘ในเมื่อใช้พลังไปก่อนหน้านี้ตั้งนานแล้ว ฉะนั้นสาเหตุที่มาหลับเอาตอนนี้คงไม่เกี่ยวกับเรื่องนั้นแน่’

ฝืนความง่วงเอาไว้ตลอดทั้งๆ ที่รู้สึกเหนื่อย สุดท้ายเลยกลายเป็นแบบนี้สินะ

ถ้าอย่างนั้นก็ควรจะนอนตามที่บอกให้นอนเมื่อกี้สิ จะออกไปข้างนอกทำไมนะ

อาเรียเดาะลิ้นไม่พอใจ และในตอนที่ตั้งใจจะถอดเสื้อผ้าของบลิสออกนั่นเอง

“…! ”

เมื่อมีอะไรมาสัมผัสตัวเข้า บลิสก็ตอบสนองด้วยการจับมือของอาเรียอย่างรวดเร็ว

แม้จะพยายามชักมือออกในทันที แต่บลิสกลับจับมือของอาเรียเข้ามากอดไว้ในอกแน่น

“แม่ จ๋า…”

จากนั้นบลิสก็เพรียกหาแม่และน้ำตาไหลออกมา เพราะแบบนั้นอาเรียจึงไม่สามารถทำอะไรได้ไปพักหนึ่ง

‘…ในอนาคตมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่นะ’

ทั้งที่คิดว่าเรื่องยุ่งยากทั้งหลายจบลงไปแล้วแท้ๆ ท่าทางในอนาคตจะมีเรื่องยากลำบากรออยู่เสียแล้ว

อาเรียถอดหายใจแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าให้บลิส จากนั้นก็ค่อยๆ อุ้มบลิสขึ้นมาโดยระวังไม่ให้ตื่น ก่อนจะออกไปจากห้องแต่งตัว

“เอ่อ ห้องของคุณหนู-“

“เอาเป็นห้องที่อยู่ข้างๆ แล้วกัน”

ห้องนอนที่อยู่ข้างๆ ไม่ใช่ห้องสำหรับแขก แต่เป็นห้องที่อาเรียและอาซเอาไว้ใช้ต่างหากอีกห้องหนึ่ง

สาวใช้ที่เห็นว่าอาเรียเอาใจใส่บลิสมากเป็นพิเศษรีบพาเธอไปยังห้องข้างๆ อย่างรวดเร็ว

อาเรียวางบลิสลงบนฟูกเตียงนุ่มๆ และจ้องมองดูเด็กน้อยที่กำลังหลับใหลอยู่สักพัก

ภาพเด็กน้อยกำลังยื่นมือคว้าเอาส่วนที่เหลือของหมอนเข้ามากอดราวกับกำลังร้องขอความรักนั่น ดูน่าสงสารเหมือนกับตัวอาเรียในอดีตไม่มีผิด

‘…ต้องรู้ให้ได้ว่ามันเกิดอะไรกันแน่’

ถ้าเป็นอาซละก็คงจะรู้เรื่องนี้อยู่แน่ๆ เพราะเขาคงได้ยินคำอธิบายที่ละเอียดมาจากบลิสแล้ว

ในเมื่อคาดเดาตัวตนของบลิสได้แล้ว ตอนนี้ก็เหลือแค่ยืนยันมันเท่านั้น

เพราะตอนนี้ซาร่ามาเยี่ยมอยู่พอดี อาเรียจึงตัดสินใจว่าจะถามความจริงหลังรับประทานอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อยแล้วเดินออกจากห้องไปเงียบๆ แล้วแอนนี่ที่ยืนคอยอยู่หน้าประตูมาตลอดก็เรียกอาเรียขึ้นมา

“เอ่อ พระชายาคะ มีเวลาสักครู่ไหมคะ”

สีหน้าดูจริงจังเป็นอย่างมาก ราวกับจะสารภาพเรื่องสำคัญออกมา

“มีเรื่องอะไรหรือ”

“ดิฉันมีเรื่องจะแจ้งให้ทราบค่ะ เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ เลยล่ะค่ะ”

……………………………………………….

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+