Immortal and Martial Dual Cultivation 282 ตํานานของฉ่ฉาวอวิ่น

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 282 ตํานานของฉ่ฉาวอวิ่น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 282 ตํานานของฉ่ฉาวอวิ่น

เซี่ยวเฉินเงยหน้าขึ้นไปมองบนท้องฟ้า ดวงอาทิตย์กําลังจําตกดินและท้องฟ้าย้อมไปด้วยสีแดง;มันกําลังจะใกล้ค่ํา เขาลุกขึ้นยืนและยิ้มขื่นขม “ข้าไม่อาจพูดคุยต่อได้แล้ว ถึงเวลาที่ข้าจะต้องไป เมื่อมีโอกาสอีกในอนาคต,ไว้มาดื่มด้วยกันอีก”

เส้นขอบฟ้าเป็นสีแดงเจิดจ้า อาจเป็นเพราะหยุนเข่อซินดื่มมากเกินไปหน่อย มีรอยแดงระเรื่อบนใบหน้าของนาง เมื่อเทียบเคียงกับพระอาทิตย์ที่กําลังตก,นางดูงดงามยิ่งกว่ามาก

หยุนเข่อซินลุกขึ้นและคํานับมือ “เดินทางปลอดภัย,พวกเราจะได้พบกันอีก!”

เซี่ยวเฉินพยักหน้าและจากนั้นเขาก็หันหลังเดินออกจากลานไป,มุ่งหน้าสู่ประตูบ้านหยุน แสงอาทิตย์ฉายลงบนแผนหลังของเขาเป็นสีแดง และทิ้งเป็นเงาทอดยาวไปบนพื้น

ดวงตาของหยุนเข่อซินมองตามเซียวเฉินขณะที่เขาจากไป ในตอนที่แผ่นหลังของเซี่ยวเฉินหายลับไปเท่านั้นนางจึงถอนสายตากลับมา

เซียวเฉินออกจากบ้านตระกูลหยุนและมุ่งหน้าออกจากเมืองในทันที เขาวางแผนเอาไว้ว่าจะไปถึงที่ท่าเรือแม่น้ํามังกรทมิฬให้ทันก่อนที่จะมืดสนิท

ตลอดทาง, เซียวเฉินได้ใช้ออกมังกรฟ้าเมฆา ทะยานร่างของเขากลายเป็นมังกรหลากพุ่งไหลไปตามถนน เขารวดเร็วเสียยิ่งกว่าอาชาเลือดมังกร

ในตอนที่ดวงตะวันจมลงเส้นขอบฟ้า, ในที่สุด เขาก็ได้มาถึงท่าเรือ ตะเกียงไฟที่ล้อมรอบท่าเรือส่องแสงสว่างจ้า,มีเรือสินท่ามากมายที่กําลังเทียบท่ารอออกเดินทาง

เซียวเฉินมองกวาดดูคร่าวๆและมองหาเรือสินค้าสักลําหนึ่ง หลังจากที่เขาอธิบายจุดหมายของเขาและจ่ายเงิน,เขาก็ได้ขึ้นเรือสําเร็จ

ที่ดาดฟ้าเต็มไปด้วยผู้บ่มเพาะพลังที่ต้องการจะข้ามฟากแม่น้ํา เซียวเฉินพบที่ว่างและนั่งลงขัดสมาธิ ในไม่ช้า,เขาก็เข้าสู่สถานะบ่มเพาะพลัง และค่อยๆหมุนเวียนทักษะสลักร่างพยัคฆ์มังกร

ค่ําคืนผ่านไปอย่างเงียบเชียบ ในตอนรุ่งเช้าของอีกวันหนึ่ง,เรือสินค้าก็ได้ออกท่าเริ่มการเดินทางแล้ว,กําลังล่องไปในแม่น้ํามังกรทมิฬอันกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต

“เจ้าได้ยินมาหรือไม่? แฝดนรกแห่งซีเหอถูกสังหาร ร่างของพวกเขาถูกฟันขาดครึ่งพวกเขาตกตายแลบหาร่างไม่ครบ

“มันเป็นไปไม่ได้ แฝดนรกแห่งซีเหออยู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นต้น พวกเขาท่องไปทั่วแคว้นซีเหอมานานหลายปีและถูกปิดล้อมมานับครั้งไม่ถ้วน แต่กระนั้น,พวกเขามักจะหลบหนีไปได้อย่างปลอดภัย เย็นไปได้อย่างไรที่พวกเขาจะถูกสังหารลงเช่นนี้?”

“ข้าก็ได้ยินมาเหมือนกัน มีคนที่เห็นศพของพวกเขากับตา พวกเขาถูกทิ้งร่างเอาไว้ในทุ่งหญ้ามารอสูรและถูกพวกหมาป่าแทะกิน พวกเขาแค่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนทํา”

“ฮ่าฮ่า,ข้ารู้ว่าใครทํา ข้าอยู่ตรงนั้นในตอนที่เกิดเหตุ พวกเขาสองคนทําเรื่องผิดพลาดอย่างคิดไม่ถึง พวกเขาไปขวางฉ่ฉาวอวิ่นแห่งนิกายดาบเงา หมอกและต้องการให้เขาส่งมอบหินวิญญาณระดับสู่ที่ได้มาจากการประมูล ท้ายที่สุด,พวกเขาสองคนถูกสังหารด้วยน้ํามือของฉ่ฉาวอวิ่นเพียงคนเดียว ทรัพย์สมบัติทั้งหมดของพวกเขาก็ถูกเอาไปเช่นกัน”

ที่ดาดฟ้าในตอนเช้ากลายเป็นคึกคัก ผู้บ่มเพาะพลังทั้งหมดต่างพูดคุยเกี่ยวกับข่าวล่าสุดข่าวนี้ เมื่อเซี่ยวเฉินได้ยินชื่อฉ่ฉาวอวิ่น,เขาอดไม่ได้ที่จะเข้าไปฟังอย่างใกล้ชิด

“ไม่ใช่ว่าฉ่ฉาวอวุ่นอยู่เพียงระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุด? เขาจัดการกับสองระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นต้นได้อย่างไร? ถึงแม้ว่าเขาจะชนะมาได้ มันน่าจะยากเย็นมาก”

คนเมื่อครู่เย้ยขึ้น “ยากเย็น? อย่าทําให้ข้าขบขัน มันเป็นการกดขามเพียงฝ่ายเดียว นี่เป็นเรื่องจริงโดยเฉพาะหลังจากที่ฉ่ฉาวอวินเอาอาวุธศักดิ์สิทธิ์ออกมา แฝดนรกแห่งซีเหอไม่มีแม้แต่โอกาสจะได้วิ่งหนี พวกเขาสองคนถูกฟันขาดครึ่งในดาบเดียว”

“เป็นไปไม่ได้”

“ข้าเห็นมากับตา เป็นเรื่องจริงแท้แน่นอน ในตอนนั้นยังมีกลุ่มกองโจรอยู่ที่ทุ่งหญ้ามารอสูร พวกมันเป็นผู้ช่วยของคู่แฝดนรกแห่งซีเหอ แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกมันเห็นถึงสถานการณ์,พวกมันก็แตกหนีไปอย่างหวาดกลัว”

ผู้คนบนดาดฟ้าสูดหายใจลึก พวกเขาไม่คาดคิดว่าฉ่ฉาวอวุ่นจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ การสังหาร ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธเป็นเหมือนการไล่เตะสุนัขสําหรับเขา

ดวงอาทิตย์กําลังลอยขึ้นจากทิศตะวันออกและฉายแสงลงบนผิวน้ําเป็นประกายสีแดง ขณะที่เซียวเฉินมองดูแสงอาทิตย์,เขาเผยสีหน้ามืดมัว

เซียวเฉินพึมพํา “ฉ่ฉาวอวิ่นเหมือนกับตะวันฉายแสง ในทันทีที่เขาเผยตัว,เขาปัดเป่าความมืดออกไปในทันที เขาแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ ข้าเคยพ่ายแพ้ให้กับเขาในกระบวณท่าเดียว หากในอนาคตข้าไม่อาจเอาชนะเขาได้ มันอาจทิ้งเป็นเงามืดในใจของข้า”

เซียวเฉินถอนสายตากลับมาและนึกถึงการประมือของเขากับฉ่ฉาวอวิ่น เมื่อเขาครุ่นคิดดูอย่างละเอียด,เขาพบว่าฉ่ฉ่าวออื่นแท้จริงแล้วล้มเขาลงได้ในครึ่งกระบวณท่าเท่านั้น

นี่เป็นเพราะฉ่ฉาวอวุ่นยังไม่แม้แต่จะชักอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของเขาออกมา การต่อสู้ในครั้งนั้นเป็นการต่อสู้ที่น่าอัปยศที่สุดในชีวิตของเซี่ยวเฉิน มันอาจกล่าวได้ว่ามันได้กลายมาเป็นปีศาจในใจของเขาแล้ว

หากเซียวเฉินไม่อาจกําจัดปีศาจในใจของเขาออกไปได้ มันอาจจะกลายมาเป็นคอขวดตีบสําหรับเขา ดังนั้น การประมือกับฉ่ฉาวอวิ่นเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

ผู้บ่มเพาะพลังบนดาดฟ้ายังคงถกเถียงกันเรื่องของฉ่ฉาวอริ้น เซี่ยวเฉินเดินไปบริเวณที่สงบเงียบและมองดูผิวน้ําของแม่น้ํามังกรทมิฬอันไร้ขอบเขต

ขณะที่เซียวเฉินกําลังมองออกไปไกล,มีบุคคลหนึ่งเดินเข้ามาและทักทายเขา “น้องชาย,เจ้าเป็นสานุศิษย์ศาลากระบี่สวรรค์?”

เซียวเฉินหันกลับไปและพบกับชายวัยกลางคน อายุประมาณ 40 ปี เขาอยู่ระดับขอบเขตนักบุญขั้นกลางแต่งกายชุดคลุมยาวสีเขียวและแบกกระบี่ใหญ่เอาไว้ที่หลัง

เซี่ยวเฉินพยักหน้า “อืม,ข้าเป็นสานุศิษย์จากยอดเขาฉิงหยุน หรือจะมีเรื่องอะไร?”

ชายวัยกลางคนยิ้มและกล่าว “ไม่มีเรื่องอะไร ลูกชายของข้าก็เป็นสานุศิษย์ศาลากระปสวรรค์เช่นกัน ข้ากําลังเดินทางไปที่ศาลากระปสวรรค์ การเดินทางช่างยาวนาน ดังนั้นข้าจึงมองหาคนคุยด้วย”

เมื่อเซี่ยวเฉินได้ยินดังนั้น,ท่าทีของเขาผ่อนคลายลง เขายิ้มขึ้นอ่อนโยนและกล่าว “ลูกชายของท่านชื่ออะไร? บางทีข้าอาจจะรู้จักเขา”

ชายวัยกลางคนเผยสีหน้าภาคภูมิใจพร้อมกับกล่าวขึ้น “ลูกชายของข้าชื่อเกาเชียง เขาเป็นสานุศิษย์ยอดเขากางอวี่ เขาผ่านการทดสอบเมื่อปีก่อนและตอนนี้เขาเป็นสานุศิษย์แก่นกลาง ข้าเชื่อว่าตอนนี้ระดับพลังของเขาแซงหน้าข้าไปแล้ว”

เกาเชียงจากยอดเขากาง!

เซี่ยวเฉินตะลึงไปเล็กน้อยในใจ อย่างไรก็ตาม,สีหน้าของเขาไม่ได้เปลี่ยนแปลงพร้อมกับกล่าว “ข้ารู้จักเกาเชียง เขาขึ้นสู่ระดับขอบเขตนักบุญขั้นกลางมาได้นานแล้ว ทําไมท่านลุงถึงได้มองหาเขา?”

เมื่อชายวัยกลางคนได้ยินว่าเซี่ยวเฉินรู้จักกับเกาเชียงเขาก็เผยรอยยิ้มเบิกบานในทันที เขากล่าว “เจ้าเป็นสหายของลูกชายของข้า? น้องชายชื่อแซ่อะไร? ดูเหมือนว่าเจ้าเด็กเหลือขอนั้นจะแซงหน้าข้าไปแล้วตอนนี้ คุ้มค่ากับที่ใช้หินวิญญาณไปมากมายเพื่อส่งให้เขาไปที่ศาลากระบี่สวรรค์”

“ใช่แล้ว ลูกชายของข้าเป็นอย่างไรบ้างตอนนี้? เขาไม่ได้เขียนจดหมายมานานมากแล้ว ข้ากําลัง จะไปที่แคว้นตงหมิงและศาลากระบี่สวรรค์ก็อยู่ระหว่างทางพอดี,ดังนั้นข้าจึงจะไปเยี่ยมเขาสักหน่อย”

เซี่ยวเฉินกังวลเล็กน้อย,เขาไม่รู้ว่าจะตอบคําถามนี้เช่นไร เขาได้เห็นเกาเชียงตกตายไปกับตาของตัวเขาเองแต่เมื่อเขาเห็นรอยยิ้มของชายวัยกลางคนผู้นี้ เขาไม่กล้าที่จะพูดความจริง

บางทีมันอาจจะเป็นอย่างที่หยุนเข่อซินได้กล่าวเอาไว้,ไม่มีมือกระบี่ที่แท้จริงในศาลากระบี่สวรรค์อีกแล้ว ถึงอย่างไร ถึงแม้จะมีเป็นร้อยพันเหตุผล,พวกเขาก็ไม่ควรส่งสานุศิษย์ของพกวเขาไปตาย

ความภาคภูมิใจของพวกตําแหน่งสูงในศาลากระบี่สวรรค์ได้จางหายไปหมดแล้ว

เซี่ยวเฉินลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะกล่าว “ข้าเย่เฉิน ท่านลุง,เจ้าอาจจะต้องไปเสียเที่ยว เกาเชียงได้ออกไปฝึกฝนภายนอกกว่าสองเดือนแล้ว เขาน่าจะไม่กลับมาจนถึงสิ้นปี”

ความผิดหวังวูบผ่านในดวงตาของชายกลางคนผู้นี้ เขากล่าว “เช่นนั้นก็ไม่เป็นไร ถึงอย่างไรมันไม่ง่ายนักที่จะเข้าสู่ศาลากระบี่สวรรค์ขอบคุณ,น้องชาย”

เซี่ยวเฉินรีดรอยยิ้มออกมาอย่างยากเย็นและพยายามอย่างที่สุดเพื่อทําให้หน้าดูเป็นธรรมชาติ เขากล่าว “เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ไม่จําเป็นต้องเป็นทางการนัก”

“เร็ว! ดูนั้น! มันคืออะไร?!”

ทันใดนั้น,มีคนบนดาดฟ้าตะโกนขึ้น ทุกคนหยุดพูดคุยและหันไปมอง ประมาณหนึ่งพันเมตรตรงหน้า,พวกเขาเห็นร่างสีดําขนาดใหญ่กําลังเข้ามาหาเรือสินค้าอย่างรวดเร็ว

ในทันทีต่อมา พื้นผิวแม่น้ําเริ่มเกิดเป็นระลอกคลีนรุนแรง สายน้ําขนาดใหญ่พุ่งทะลักเข้ามา
“นั้นมันวาฬทูน่าสีดํา,สัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 ขั้นสูงสุด มันเทียบเท่าได้กับระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นต้น”

“ทําไมพวกเราถึงได้อะบโชคเช่นนี้ พวกเราออกเดินทางมาได้ครู่เดียวก็พบเข้ากับวาฬทูน่าสีดํา พวกเราจบแล้ว”

ผู้คนบนดาดฟ้าแตกตื่นเมื่อพวกเขาเห็นว่า มันเป็นวาฬทูน่าสีดํา

เซียวเฉินเดิมที่ตื่นตะลึงเมื่อเขาเห็นว่ามันคือวาฬทูน่าสีดํา จากนั้นเขาก็หัวเราะออกมา “โชคชะตาพามาพบกันอีก ข้ามาเจอกับเจ้าทั้งขาไปและขากลับ ในเมื่อครั้งนี้เจ้ายังมา,เจ้าก็อย่าคิดหนีไปอีกครั้ง!”

“น้องชาย,เจ้ากําลังจะทําอะไร?! อย่าวู่วาม!” บิดาของเกาเชียงตะโกนออกมาเมื่อเขาเห็นเชี่ยวเฉินพุ่งตรงเข้าไปหาสัตว์อสูรตัวนั้น

เมื่อฝูงชนเห็นเซียวเฉินกระโดดขึ้นไปในอากาศ,พวกเขาทั้งหมดเย้ยหยันเขา “ผู้เยาว์เดียวนี้ช่างบ้าบิน,พวกเขากล้าที่จะพุ่งเข้าหาวาฬทูน่าสีดํา”

เซี่ยวเฉินคงที่ท่านิ่งสงบและเมินเฉยคําพูดเย็นชาของผู้คนบนดาดฟ้า เขาจ้องมองเสาน้ําสูงกว่าสองร้อยเมตรอย่างไม่มีความเกรงกลัว ความเร็วของมันกําลังเพิ่มขึ้น

“บึ้ม…!”

หมู่เมฆอันไร้ขอบเขตปรากฏขึ้นปั่นป่วนท้องฟ้า เบื้องบนท้องฟ้าสีใสกลายเป็นมืดมิดในทันที เกิดเสียงสายฟ้าแตกตัวดังออกมาจากหมู่เมฆ,สภาวะแห่งสายฟ้าของเซียวเฉินเร่งสูงขึ้น

“วาดกระบี่!”

กระแสพลังของเซียวเฉินเร่งถึงขีดสุดและเขาร้องตะโกนออกมา แสงสายฟ้าวูบไหวทะลวงผ่านท้องฟ้า,มองดูราวกับสายโซ่สีม่วง

กระบี่เงาจันทร์ถูกชักออกมา,ปรากฎคมขึ้น จังหวะเดียวกันสายฟ้า เซียวเฉินฟันลงไปด้วยกระบี่ของเขา,หลอมรวมกระแสพลังอันไร้ขอบเขตและสายฟ้าอันไร้ขีดจํากัด

แสงกระบี่เจิดจ้าปรากฏขึ้นท่มกลางท้องฟ้าอันมืดมิด กระบี่แสงวูบไหวและเสานวนขนาดมหึมาถูกฟันขาดครึ่ง

เมื่อพวกเขามองเห็นเซียวเฉินนัดเสาน้ําขาดเป็นส่วน,ผู้คนที่ด้านล่างไร้คําพูด มีสีหน้าเลิ่กลั่กบนใบหน้าของคนที่กล่าวว่าเซี่ยวเฉินบ้าบิน

“สภาวะแห่งสายฟ้าระดับสมบูรณ์ขั้นต้น,ข้านึกได้แล้วว่าเขาคือใคร เขาคือสานุศิษย์ศาลากระบี่สวรรค์จากยอดเขาฉิงหยุนผู้ที่ประมือกับมู่เฉิงเสวี่ยได้อย่างสูสี”

“เป็นเขานั้นเอง ตั้งแต่เมื่อไหรที่ยอดเขาฉิงหยุนมีสานุศิษย์ที่แกร่งกล้าถึงเพียงนี้? ข้าจําได้ว่ามีเพียงมู่หลงข่ง แต่อย่างไรก็ตาม มู่หลงชงถอนตัวออกจายอดเขาฉิงหยุนไปนานแล้ว เขาผู้นี้ชื่ออะไร?”

มีบางคนบนกลดาดฟ้าจําเซียวเฉินได้และทุกคนต่างตกตะลึง บิดาของเกาเชียงยิ้มและกล่าวขึ้น “คนผู้นี้คือเย่เฉิน,เขาเป็นสหายกับลูกชาย ของข้า”

“เย่เฉิน…ข้าไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน เขาต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญรุ่นเยาว์คนใหม่ ดูเหมือนจะมีมู่หลงชงหมายเลขสองเกิดขึ้นในแคว้นซีเหอ”

ครึ่งเดือนก่อน,เขาสามารถทําให้เสาน้ําอ่อน แรงด้วยพลังกายของเขาเพียงอย่างเดียว ตอนนี้ เขาก้าวขึ้นสู่ระดับขอบเขตนักบุญขั้นกลาง,มันไม่น่าแปลกใจนักที่เขาจะฟันเสาน้ํานี้ขาดครึ่งได้เมื่อเขาชักกระบออกมา

มังกรฟ้าเมฆาทะยานหมุนเวียนและเซี่ยวเฉินยืนอยู่บนผิวน้ํา คลื่นมหึมาระเบิดขึ้นและพุ่งตรงไปที่วาฬทูน่าสีดําที่อยู่ไกลออกไป

ยากระยะไกล,เซียวเฉินดูเหมือนมังกรวารี หมอบเลื่อยอยู่บนผิวของแม่น้ํา

“ฟู!”

เมื่อวาฬทูน่าสีดํามองเห็นเซี่ยวเฉินกําลังใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว,มันคํารามอย่างเกรี้ยวกราดอยู่ใต้น้ํา ดาบที่ก่อตัวขึ้นจากน้ํานับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นและบินไปทางเซียวเฉิน

พลังอะนน่ากลัวบรรจุอยู่ในดาบวารี พวกเขาส่งเสียง ซี่ ซี่ ออกมาพร้อมกับเสียดสีกับอากาศ,ความเร็วของมันรวดเร็วเป็นอย่างมาก

เซี่ยวเฉินจับกระบี่เงาจันทร์มันและดีดตัวออกจากผิวน้ํา,กระโดดไปรอบๆอย่างต่อเนื่อง เขาส่งกระบี่ฉีสีม่วงมากมายไปรับดาบวารีพร้อมกับเขากวัดแกว่งกระบี่ป้องกันตัวเอง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Immortal and Martial Dual Cultivation 282 ตํานานของฉ่ฉาวอวิ่น

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 282 ตํานานของฉ่ฉาวอวิ่น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 282 ตํานานของฉ่ฉาวอวิ่น

เซี่ยวเฉินเงยหน้าขึ้นไปมองบนท้องฟ้า ดวงอาทิตย์กําลังจําตกดินและท้องฟ้าย้อมไปด้วยสีแดง;มันกําลังจะใกล้ค่ํา เขาลุกขึ้นยืนและยิ้มขื่นขม “ข้าไม่อาจพูดคุยต่อได้แล้ว ถึงเวลาที่ข้าจะต้องไป เมื่อมีโอกาสอีกในอนาคต,ไว้มาดื่มด้วยกันอีก”

เส้นขอบฟ้าเป็นสีแดงเจิดจ้า อาจเป็นเพราะหยุนเข่อซินดื่มมากเกินไปหน่อย มีรอยแดงระเรื่อบนใบหน้าของนาง เมื่อเทียบเคียงกับพระอาทิตย์ที่กําลังตก,นางดูงดงามยิ่งกว่ามาก

หยุนเข่อซินลุกขึ้นและคํานับมือ “เดินทางปลอดภัย,พวกเราจะได้พบกันอีก!”

เซี่ยวเฉินพยักหน้าและจากนั้นเขาก็หันหลังเดินออกจากลานไป,มุ่งหน้าสู่ประตูบ้านหยุน แสงอาทิตย์ฉายลงบนแผนหลังของเขาเป็นสีแดง และทิ้งเป็นเงาทอดยาวไปบนพื้น

ดวงตาของหยุนเข่อซินมองตามเซียวเฉินขณะที่เขาจากไป ในตอนที่แผ่นหลังของเซี่ยวเฉินหายลับไปเท่านั้นนางจึงถอนสายตากลับมา

เซียวเฉินออกจากบ้านตระกูลหยุนและมุ่งหน้าออกจากเมืองในทันที เขาวางแผนเอาไว้ว่าจะไปถึงที่ท่าเรือแม่น้ํามังกรทมิฬให้ทันก่อนที่จะมืดสนิท

ตลอดทาง, เซียวเฉินได้ใช้ออกมังกรฟ้าเมฆา ทะยานร่างของเขากลายเป็นมังกรหลากพุ่งไหลไปตามถนน เขารวดเร็วเสียยิ่งกว่าอาชาเลือดมังกร

ในตอนที่ดวงตะวันจมลงเส้นขอบฟ้า, ในที่สุด เขาก็ได้มาถึงท่าเรือ ตะเกียงไฟที่ล้อมรอบท่าเรือส่องแสงสว่างจ้า,มีเรือสินท่ามากมายที่กําลังเทียบท่ารอออกเดินทาง

เซียวเฉินมองกวาดดูคร่าวๆและมองหาเรือสินค้าสักลําหนึ่ง หลังจากที่เขาอธิบายจุดหมายของเขาและจ่ายเงิน,เขาก็ได้ขึ้นเรือสําเร็จ

ที่ดาดฟ้าเต็มไปด้วยผู้บ่มเพาะพลังที่ต้องการจะข้ามฟากแม่น้ํา เซียวเฉินพบที่ว่างและนั่งลงขัดสมาธิ ในไม่ช้า,เขาก็เข้าสู่สถานะบ่มเพาะพลัง และค่อยๆหมุนเวียนทักษะสลักร่างพยัคฆ์มังกร

ค่ําคืนผ่านไปอย่างเงียบเชียบ ในตอนรุ่งเช้าของอีกวันหนึ่ง,เรือสินค้าก็ได้ออกท่าเริ่มการเดินทางแล้ว,กําลังล่องไปในแม่น้ํามังกรทมิฬอันกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต

“เจ้าได้ยินมาหรือไม่? แฝดนรกแห่งซีเหอถูกสังหาร ร่างของพวกเขาถูกฟันขาดครึ่งพวกเขาตกตายแลบหาร่างไม่ครบ

“มันเป็นไปไม่ได้ แฝดนรกแห่งซีเหออยู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นต้น พวกเขาท่องไปทั่วแคว้นซีเหอมานานหลายปีและถูกปิดล้อมมานับครั้งไม่ถ้วน แต่กระนั้น,พวกเขามักจะหลบหนีไปได้อย่างปลอดภัย เย็นไปได้อย่างไรที่พวกเขาจะถูกสังหารลงเช่นนี้?”

“ข้าก็ได้ยินมาเหมือนกัน มีคนที่เห็นศพของพวกเขากับตา พวกเขาถูกทิ้งร่างเอาไว้ในทุ่งหญ้ามารอสูรและถูกพวกหมาป่าแทะกิน พวกเขาแค่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนทํา”

“ฮ่าฮ่า,ข้ารู้ว่าใครทํา ข้าอยู่ตรงนั้นในตอนที่เกิดเหตุ พวกเขาสองคนทําเรื่องผิดพลาดอย่างคิดไม่ถึง พวกเขาไปขวางฉ่ฉาวอวิ่นแห่งนิกายดาบเงา หมอกและต้องการให้เขาส่งมอบหินวิญญาณระดับสู่ที่ได้มาจากการประมูล ท้ายที่สุด,พวกเขาสองคนถูกสังหารด้วยน้ํามือของฉ่ฉาวอวิ่นเพียงคนเดียว ทรัพย์สมบัติทั้งหมดของพวกเขาก็ถูกเอาไปเช่นกัน”

ที่ดาดฟ้าในตอนเช้ากลายเป็นคึกคัก ผู้บ่มเพาะพลังทั้งหมดต่างพูดคุยเกี่ยวกับข่าวล่าสุดข่าวนี้ เมื่อเซี่ยวเฉินได้ยินชื่อฉ่ฉาวอวิ่น,เขาอดไม่ได้ที่จะเข้าไปฟังอย่างใกล้ชิด

“ไม่ใช่ว่าฉ่ฉาวอวุ่นอยู่เพียงระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุด? เขาจัดการกับสองระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นต้นได้อย่างไร? ถึงแม้ว่าเขาจะชนะมาได้ มันน่าจะยากเย็นมาก”

คนเมื่อครู่เย้ยขึ้น “ยากเย็น? อย่าทําให้ข้าขบขัน มันเป็นการกดขามเพียงฝ่ายเดียว นี่เป็นเรื่องจริงโดยเฉพาะหลังจากที่ฉ่ฉาวอวินเอาอาวุธศักดิ์สิทธิ์ออกมา แฝดนรกแห่งซีเหอไม่มีแม้แต่โอกาสจะได้วิ่งหนี พวกเขาสองคนถูกฟันขาดครึ่งในดาบเดียว”

“เป็นไปไม่ได้”

“ข้าเห็นมากับตา เป็นเรื่องจริงแท้แน่นอน ในตอนนั้นยังมีกลุ่มกองโจรอยู่ที่ทุ่งหญ้ามารอสูร พวกมันเป็นผู้ช่วยของคู่แฝดนรกแห่งซีเหอ แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกมันเห็นถึงสถานการณ์,พวกมันก็แตกหนีไปอย่างหวาดกลัว”

ผู้คนบนดาดฟ้าสูดหายใจลึก พวกเขาไม่คาดคิดว่าฉ่ฉาวอวุ่นจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ การสังหาร ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธเป็นเหมือนการไล่เตะสุนัขสําหรับเขา

ดวงอาทิตย์กําลังลอยขึ้นจากทิศตะวันออกและฉายแสงลงบนผิวน้ําเป็นประกายสีแดง ขณะที่เซียวเฉินมองดูแสงอาทิตย์,เขาเผยสีหน้ามืดมัว

เซียวเฉินพึมพํา “ฉ่ฉาวอวิ่นเหมือนกับตะวันฉายแสง ในทันทีที่เขาเผยตัว,เขาปัดเป่าความมืดออกไปในทันที เขาแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ ข้าเคยพ่ายแพ้ให้กับเขาในกระบวณท่าเดียว หากในอนาคตข้าไม่อาจเอาชนะเขาได้ มันอาจทิ้งเป็นเงามืดในใจของข้า”

เซียวเฉินถอนสายตากลับมาและนึกถึงการประมือของเขากับฉ่ฉาวอวิ่น เมื่อเขาครุ่นคิดดูอย่างละเอียด,เขาพบว่าฉ่ฉ่าวออื่นแท้จริงแล้วล้มเขาลงได้ในครึ่งกระบวณท่าเท่านั้น

นี่เป็นเพราะฉ่ฉาวอวุ่นยังไม่แม้แต่จะชักอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของเขาออกมา การต่อสู้ในครั้งนั้นเป็นการต่อสู้ที่น่าอัปยศที่สุดในชีวิตของเซี่ยวเฉิน มันอาจกล่าวได้ว่ามันได้กลายมาเป็นปีศาจในใจของเขาแล้ว

หากเซียวเฉินไม่อาจกําจัดปีศาจในใจของเขาออกไปได้ มันอาจจะกลายมาเป็นคอขวดตีบสําหรับเขา ดังนั้น การประมือกับฉ่ฉาวอวิ่นเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

ผู้บ่มเพาะพลังบนดาดฟ้ายังคงถกเถียงกันเรื่องของฉ่ฉาวอริ้น เซี่ยวเฉินเดินไปบริเวณที่สงบเงียบและมองดูผิวน้ําของแม่น้ํามังกรทมิฬอันไร้ขอบเขต

ขณะที่เซียวเฉินกําลังมองออกไปไกล,มีบุคคลหนึ่งเดินเข้ามาและทักทายเขา “น้องชาย,เจ้าเป็นสานุศิษย์ศาลากระบี่สวรรค์?”

เซียวเฉินหันกลับไปและพบกับชายวัยกลางคน อายุประมาณ 40 ปี เขาอยู่ระดับขอบเขตนักบุญขั้นกลางแต่งกายชุดคลุมยาวสีเขียวและแบกกระบี่ใหญ่เอาไว้ที่หลัง

เซี่ยวเฉินพยักหน้า “อืม,ข้าเป็นสานุศิษย์จากยอดเขาฉิงหยุน หรือจะมีเรื่องอะไร?”

ชายวัยกลางคนยิ้มและกล่าว “ไม่มีเรื่องอะไร ลูกชายของข้าก็เป็นสานุศิษย์ศาลากระปสวรรค์เช่นกัน ข้ากําลังเดินทางไปที่ศาลากระปสวรรค์ การเดินทางช่างยาวนาน ดังนั้นข้าจึงมองหาคนคุยด้วย”

เมื่อเซี่ยวเฉินได้ยินดังนั้น,ท่าทีของเขาผ่อนคลายลง เขายิ้มขึ้นอ่อนโยนและกล่าว “ลูกชายของท่านชื่ออะไร? บางทีข้าอาจจะรู้จักเขา”

ชายวัยกลางคนเผยสีหน้าภาคภูมิใจพร้อมกับกล่าวขึ้น “ลูกชายของข้าชื่อเกาเชียง เขาเป็นสานุศิษย์ยอดเขากางอวี่ เขาผ่านการทดสอบเมื่อปีก่อนและตอนนี้เขาเป็นสานุศิษย์แก่นกลาง ข้าเชื่อว่าตอนนี้ระดับพลังของเขาแซงหน้าข้าไปแล้ว”

เกาเชียงจากยอดเขากาง!

เซี่ยวเฉินตะลึงไปเล็กน้อยในใจ อย่างไรก็ตาม,สีหน้าของเขาไม่ได้เปลี่ยนแปลงพร้อมกับกล่าว “ข้ารู้จักเกาเชียง เขาขึ้นสู่ระดับขอบเขตนักบุญขั้นกลางมาได้นานแล้ว ทําไมท่านลุงถึงได้มองหาเขา?”

เมื่อชายวัยกลางคนได้ยินว่าเซี่ยวเฉินรู้จักกับเกาเชียงเขาก็เผยรอยยิ้มเบิกบานในทันที เขากล่าว “เจ้าเป็นสหายของลูกชายของข้า? น้องชายชื่อแซ่อะไร? ดูเหมือนว่าเจ้าเด็กเหลือขอนั้นจะแซงหน้าข้าไปแล้วตอนนี้ คุ้มค่ากับที่ใช้หินวิญญาณไปมากมายเพื่อส่งให้เขาไปที่ศาลากระบี่สวรรค์”

“ใช่แล้ว ลูกชายของข้าเป็นอย่างไรบ้างตอนนี้? เขาไม่ได้เขียนจดหมายมานานมากแล้ว ข้ากําลัง จะไปที่แคว้นตงหมิงและศาลากระบี่สวรรค์ก็อยู่ระหว่างทางพอดี,ดังนั้นข้าจึงจะไปเยี่ยมเขาสักหน่อย”

เซี่ยวเฉินกังวลเล็กน้อย,เขาไม่รู้ว่าจะตอบคําถามนี้เช่นไร เขาได้เห็นเกาเชียงตกตายไปกับตาของตัวเขาเองแต่เมื่อเขาเห็นรอยยิ้มของชายวัยกลางคนผู้นี้ เขาไม่กล้าที่จะพูดความจริง

บางทีมันอาจจะเป็นอย่างที่หยุนเข่อซินได้กล่าวเอาไว้,ไม่มีมือกระบี่ที่แท้จริงในศาลากระบี่สวรรค์อีกแล้ว ถึงอย่างไร ถึงแม้จะมีเป็นร้อยพันเหตุผล,พวกเขาก็ไม่ควรส่งสานุศิษย์ของพกวเขาไปตาย

ความภาคภูมิใจของพวกตําแหน่งสูงในศาลากระบี่สวรรค์ได้จางหายไปหมดแล้ว

เซี่ยวเฉินลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะกล่าว “ข้าเย่เฉิน ท่านลุง,เจ้าอาจจะต้องไปเสียเที่ยว เกาเชียงได้ออกไปฝึกฝนภายนอกกว่าสองเดือนแล้ว เขาน่าจะไม่กลับมาจนถึงสิ้นปี”

ความผิดหวังวูบผ่านในดวงตาของชายกลางคนผู้นี้ เขากล่าว “เช่นนั้นก็ไม่เป็นไร ถึงอย่างไรมันไม่ง่ายนักที่จะเข้าสู่ศาลากระบี่สวรรค์ขอบคุณ,น้องชาย”

เซี่ยวเฉินรีดรอยยิ้มออกมาอย่างยากเย็นและพยายามอย่างที่สุดเพื่อทําให้หน้าดูเป็นธรรมชาติ เขากล่าว “เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ไม่จําเป็นต้องเป็นทางการนัก”

“เร็ว! ดูนั้น! มันคืออะไร?!”

ทันใดนั้น,มีคนบนดาดฟ้าตะโกนขึ้น ทุกคนหยุดพูดคุยและหันไปมอง ประมาณหนึ่งพันเมตรตรงหน้า,พวกเขาเห็นร่างสีดําขนาดใหญ่กําลังเข้ามาหาเรือสินค้าอย่างรวดเร็ว

ในทันทีต่อมา พื้นผิวแม่น้ําเริ่มเกิดเป็นระลอกคลีนรุนแรง สายน้ําขนาดใหญ่พุ่งทะลักเข้ามา
“นั้นมันวาฬทูน่าสีดํา,สัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 ขั้นสูงสุด มันเทียบเท่าได้กับระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นต้น”

“ทําไมพวกเราถึงได้อะบโชคเช่นนี้ พวกเราออกเดินทางมาได้ครู่เดียวก็พบเข้ากับวาฬทูน่าสีดํา พวกเราจบแล้ว”

ผู้คนบนดาดฟ้าแตกตื่นเมื่อพวกเขาเห็นว่า มันเป็นวาฬทูน่าสีดํา

เซียวเฉินเดิมที่ตื่นตะลึงเมื่อเขาเห็นว่ามันคือวาฬทูน่าสีดํา จากนั้นเขาก็หัวเราะออกมา “โชคชะตาพามาพบกันอีก ข้ามาเจอกับเจ้าทั้งขาไปและขากลับ ในเมื่อครั้งนี้เจ้ายังมา,เจ้าก็อย่าคิดหนีไปอีกครั้ง!”

“น้องชาย,เจ้ากําลังจะทําอะไร?! อย่าวู่วาม!” บิดาของเกาเชียงตะโกนออกมาเมื่อเขาเห็นเชี่ยวเฉินพุ่งตรงเข้าไปหาสัตว์อสูรตัวนั้น

เมื่อฝูงชนเห็นเซียวเฉินกระโดดขึ้นไปในอากาศ,พวกเขาทั้งหมดเย้ยหยันเขา “ผู้เยาว์เดียวนี้ช่างบ้าบิน,พวกเขากล้าที่จะพุ่งเข้าหาวาฬทูน่าสีดํา”

เซี่ยวเฉินคงที่ท่านิ่งสงบและเมินเฉยคําพูดเย็นชาของผู้คนบนดาดฟ้า เขาจ้องมองเสาน้ําสูงกว่าสองร้อยเมตรอย่างไม่มีความเกรงกลัว ความเร็วของมันกําลังเพิ่มขึ้น

“บึ้ม…!”

หมู่เมฆอันไร้ขอบเขตปรากฏขึ้นปั่นป่วนท้องฟ้า เบื้องบนท้องฟ้าสีใสกลายเป็นมืดมิดในทันที เกิดเสียงสายฟ้าแตกตัวดังออกมาจากหมู่เมฆ,สภาวะแห่งสายฟ้าของเซียวเฉินเร่งสูงขึ้น

“วาดกระบี่!”

กระแสพลังของเซียวเฉินเร่งถึงขีดสุดและเขาร้องตะโกนออกมา แสงสายฟ้าวูบไหวทะลวงผ่านท้องฟ้า,มองดูราวกับสายโซ่สีม่วง

กระบี่เงาจันทร์ถูกชักออกมา,ปรากฎคมขึ้น จังหวะเดียวกันสายฟ้า เซียวเฉินฟันลงไปด้วยกระบี่ของเขา,หลอมรวมกระแสพลังอันไร้ขอบเขตและสายฟ้าอันไร้ขีดจํากัด

แสงกระบี่เจิดจ้าปรากฏขึ้นท่มกลางท้องฟ้าอันมืดมิด กระบี่แสงวูบไหวและเสานวนขนาดมหึมาถูกฟันขาดครึ่ง

เมื่อพวกเขามองเห็นเซียวเฉินนัดเสาน้ําขาดเป็นส่วน,ผู้คนที่ด้านล่างไร้คําพูด มีสีหน้าเลิ่กลั่กบนใบหน้าของคนที่กล่าวว่าเซี่ยวเฉินบ้าบิน

“สภาวะแห่งสายฟ้าระดับสมบูรณ์ขั้นต้น,ข้านึกได้แล้วว่าเขาคือใคร เขาคือสานุศิษย์ศาลากระบี่สวรรค์จากยอดเขาฉิงหยุนผู้ที่ประมือกับมู่เฉิงเสวี่ยได้อย่างสูสี”

“เป็นเขานั้นเอง ตั้งแต่เมื่อไหรที่ยอดเขาฉิงหยุนมีสานุศิษย์ที่แกร่งกล้าถึงเพียงนี้? ข้าจําได้ว่ามีเพียงมู่หลงข่ง แต่อย่างไรก็ตาม มู่หลงชงถอนตัวออกจายอดเขาฉิงหยุนไปนานแล้ว เขาผู้นี้ชื่ออะไร?”

มีบางคนบนกลดาดฟ้าจําเซียวเฉินได้และทุกคนต่างตกตะลึง บิดาของเกาเชียงยิ้มและกล่าวขึ้น “คนผู้นี้คือเย่เฉิน,เขาเป็นสหายกับลูกชาย ของข้า”

“เย่เฉิน…ข้าไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน เขาต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญรุ่นเยาว์คนใหม่ ดูเหมือนจะมีมู่หลงชงหมายเลขสองเกิดขึ้นในแคว้นซีเหอ”

ครึ่งเดือนก่อน,เขาสามารถทําให้เสาน้ําอ่อน แรงด้วยพลังกายของเขาเพียงอย่างเดียว ตอนนี้ เขาก้าวขึ้นสู่ระดับขอบเขตนักบุญขั้นกลาง,มันไม่น่าแปลกใจนักที่เขาจะฟันเสาน้ํานี้ขาดครึ่งได้เมื่อเขาชักกระบออกมา

มังกรฟ้าเมฆาทะยานหมุนเวียนและเซี่ยวเฉินยืนอยู่บนผิวน้ํา คลื่นมหึมาระเบิดขึ้นและพุ่งตรงไปที่วาฬทูน่าสีดําที่อยู่ไกลออกไป

ยากระยะไกล,เซียวเฉินดูเหมือนมังกรวารี หมอบเลื่อยอยู่บนผิวของแม่น้ํา

“ฟู!”

เมื่อวาฬทูน่าสีดํามองเห็นเซี่ยวเฉินกําลังใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว,มันคํารามอย่างเกรี้ยวกราดอยู่ใต้น้ํา ดาบที่ก่อตัวขึ้นจากน้ํานับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นและบินไปทางเซียวเฉิน

พลังอะนน่ากลัวบรรจุอยู่ในดาบวารี พวกเขาส่งเสียง ซี่ ซี่ ออกมาพร้อมกับเสียดสีกับอากาศ,ความเร็วของมันรวดเร็วเป็นอย่างมาก

เซี่ยวเฉินจับกระบี่เงาจันทร์มันและดีดตัวออกจากผิวน้ํา,กระโดดไปรอบๆอย่างต่อเนื่อง เขาส่งกระบี่ฉีสีม่วงมากมายไปรับดาบวารีพร้อมกับเขากวัดแกว่งกระบี่ป้องกันตัวเอง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+