ท้าทายลิขิตสวรรค์ 66 คนที่ทําเธอแขนหัก
นิยาย ท้าทายลิขิตสวรรค์ ตอนที่ 66 คนที่ทําเธอแขนหัก
ตอนที่ 66 คนที่ทําเธอแขนหัก
“หยางซื่อเหมยไปกับฉัน!”
เฉินไคเหวินกล่าวพร้อมกําลังจะดึงหยางซื่อเหมยออกไป เนื่องจากเขาไม่ต้องการปล่อยให้ลูกศิษย์ของตนเองตกอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้
ในทันใดหยางเจี้ยนหมิงก็ลุกขึ้นยืนด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่านและเดินตรงไปที่ประตูพร้อมกับจ้องไปที่ฉินไคเหวิน
“เอามือของแกออกไปจากเธอเดี๋ยวนี้ผู้หญิงคนนี้เป็นของฉัน!”
“เธอเป็นลูกศิษย์ของผมและมีอายุแค่สิบห้าเองนะ!”
เฉินไคเหวินซ่อนร่างของหยางซื่อเหม่ยไว้ด้านหลังเขาพลางกล่าวว่า
“คุณทําแบบนี้มันผิดกฎหมาย รู้ตัวหรือเปล่า?”
“อ๊ะ! ผิดกฎหมายเหรอ?!” หยางเจี้ยนหมิงพ่นใส่ฉินไคเหวินทันที
“ผมทําผิดกฎหมาย! แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณด้วย?”
“ผมเป็นครูของเธอ ดังนั้นจึงมีสิทธิ์ที่จะปกป้องนักเรียนของผม!”
ฉันไคเหวินทราบดีว่าหยางเจี้ยนหมิงเป็นผู้มีอิทธิพลในเมืองนี้ แต่เขาก็ยังกล้าหาญด้วยจิตวิญญาณของความเป็น ครู และหยางซื่อเหมยสามารถสัมผัสได้ถึงอารมณ์นี้เมื่อเธอยืนอยู่ที่ด้านหลังคุณ
ครู
“เป็นคุณครูเหรอ? เป็นคุณครูแล้วยุ่งเรื่องของคนอื่นได้ยังไง?”
หลังจากที่หยางเจี้ยนหมิงกล่าวแล้วซิการ์ในมือของเขาก็ยื่นออกมาทันทีทําให้ไฟของมันจไปที่แขนของฉันไคเห วินซึ่งยังไม่ทันตั้งตัว
“ถ้าคุณเป็นครูก็ไปอยู่ที่โรงเรียนสิมาอยู่ทําไมแถวนี้?!”
แขนของฉันไคเหวินถูกไฟซิการ์ทําให้เขากรีดร้องเล็กน้อยด้วยความตกใจแต่ก็ยังไม่ยอมขยับร่างกายเนื่องจากเขามีความตั้งใจว่าจะปกป้องหยาง ซื้อเหมยให้ถึงที่สุด
“คุณกลับไปเสียดีกว่า นี่เป็นเรื่องระหว่างผมกับเธอซึ่งมันไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับคุณเลย”
“ซีเหมย ครูจะไม่ยอมให้เธอตกเป็นเหยื่อของคนพวกนี้เด็ดขาด” ฉินไคเหวินกล่าวเสียงแข็งกร้าว
“คุณครูกลับไปเถอะค่ะ หนูดูแลตัวเองได้”
เมื่อฉันไคเหวินเห็นหยางซื่อเหมยกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉยขณะที่เขารู้สึกว่าเธอมีความมั่นใจมากเป็นพิเศษ ทําให้เขาไม่เข้าใจว่าหยางซื่อเหมยไปเอาความมั่นใจแบบนี้มาจากไหน
และในฐานะครูประจําชั้น ก่อนที่เด็กสาวจะเข้ามาเรียนในโรงเรียนนี้เขาได้ทราบพื้นฐานทางครอบครัวของเธอแล้วว่าเธอย้ายจากชนบทเข้ามาอยู่ในเมืองส่วนบิดาของเธอนั้นเป็นคุณครูในโรงเรียนประถมสําหรับมารดาของเธอก็เป็นเพียงแม่บ้านธรรมดา
โดยตอนนี้เธอกําลังเผชิญหน้ากับบุต รชายของเลขาธิการคณะกรรมการพรรคเทศบาลซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องการเอาแต่ใจอย่างร้ายกาจและชั่วช้าในเมืองนี้
นี่เธอโง่หรือไร้เดียงสากันแน่?
“น้องซื้อเหมยคงไม่สนใจอาจารย์แก่ๆอย่างคุณหรอกรีบกลับไปซะ!ผมไม่อยากจะทําร้ายคนแก่!”
หยางเจี้ยนหมิงเอื้อมมือไปหาฉินไคเหวินพร้อมกับหัวเราะชอบใจและพยายามดึงมือของเด็กสาวตรงหน้าแต่เมื่อนิ้ว ของหยางซื่อเหมยขยับเธอก็ดึงดูดพลังหยินจากมุมห้องเพื่อตีที่ข้อมือของหยาง เจี้ยนหมิง
ส่งผลให้หยางเจี้ยนหมิงเกิดความรู้สึกว่ามือของเขาเย็นเฉียบในทันทีอย่างไม่มีเหตุผลจากนั้นมือทั้งสองข้างก็เป็นอัมพาตโดยไม่สามารถขยับเขยื้อนได้เลย
อย่างไรก็ตามท่านอาจารย์เคยกล่าวว่า ถ้าเธอใช้คาถาทําร้ายคนที่เป็นญาติร่วมสายโลหิตเธอจะต้องได้รับผลกระทบเช่ นกัน ดังนั้นจึงทําเพียงแค่ยับยั้งหยางเจี้ยนหมิงซึ่งการกระตุ้นวิญญาณชั่วร้าย ทําให้มือของเขาเป็นอัมพาตและทําให้เขาตื่นตระหนก
และนับว่าโชคดีที่การดึงพลังหยินฉีในครั้งนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อเด็กสาวมากนักโดยเธอเพียงแค่รู้สึกว่าที่ข้อมือของเธ อมีความเย็นยะเยือกเข้าครอบงําเพียงใคร่เดียว จากนั้นเธอก็กลับมาเป็นปกติเห มือนเดิม
ส่วนหยางเจี้ยนหมิงที่มือของเขาเป็นอัมพาตอย่างเฉียบพลันกําลังคิดว่ามือของตนเองเป็นตะคริวดังนั้นเขาจึงไม่สนใจอะไรและทําเพียงแค่พยายามเหวี่ยงมือของตนเองไปมาตลอดเวลาแต่เขาก็ไม่สามารถขยับไปทางใดได้เลย
ขณะที่ในเวลานี้มีคนกลุ่มหนึ่งออกมาจากห้องอีกฝั่งหนึ่ง และมีชายหนุ่มผมสีเหลืองคนหนึ่งที่มีส่วนสูงเกือบสองเมตรเดินตรงมา แต่เมื่อเขาได้เห็นหยาง
ซื้อเหมย ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นอํามหิตทันที
“นั่นไงเธอ!เธอคนนี้ไงที่ดีเรา!”
จากนั้นคนที่ชื่อหลินตงหนานกับลูกน้องอีกหลายคนก็เดินตามทิศทางที่คุนซีชี้และเห็นเพียงเด็กผู้หญิงในชุดขาวอายุประมาณสิบห้าปีโดยเธอเป็นคนที่ละเอียดอ่อนและน่าทะนุถนอมมากจ นทําให้รู้สึกสงสัยว่าเธอดูเหมือนผู้ หญิงที่ดุร้ายตรงไหนกัน?
“คุนซี! แกแน่ใจหรือว่าผู้หญิงคนนั้นคือตอนที่ตีแก” หลินตงหนานเอ่ยถามผู้ชายสูงโย่งที่มีฉายาว่าลิงผอม
คุนซีที่หน้าแดงกําด้วยความโกรธแค้นพยักหน้าทันที
“เห็นอย่างนี้เธอไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดานะ! เธอเป็นปรมาจารย์เทควันโดเชียวนะจะบอกให้!”
“ระดับปรมาจารย์เลยเหรอ? โม่เปล่า?”
ลิงผอมสั่นกําปั้นด้วยความประหม่า
“งั้นก็ลองดูสิ! แต่เธอกําลังทําอะไรอยู่ตรงนั้น! ผู้ชายคนนั้นเป็นลูกชายของเลขาธิการพรรคไม่ใช่เหรอ?”
ตอนนั้นฉันไคเหวินต้องการที่จะดึงหยางซื่อเหมยออกไป แต่เด็กสาวไม่สามารถจากไปได้เนื่องจากเธอมองเห็นห ลินดงหนาน ผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในฆาตกรที่ฆ่าเธอในชาติที่แล้ว
และแม้ว่าเธอจะเกิดใหม่มาสิบปีแล้วแต่เธอก็ไม่สามารถลืมความเจ็บปวดที่ไม่อาจอธิบายได้จากการถูกต่อยและ เตะในครั้งนั้น!
“ครูกลับไปก่อนเถอะค่ะ!”
จากนั้นเธอก็ผลักฉันไคเหวินออกไปด้านข้างและเดินไปตรงเข้าไปหาพวก เขาขณะที่ภาพความทรงจําในวันนั้นผุด ขึ้นมามโนนึกของเด็กสาวโดยแต่ละภาพที่ปรากฏนั้นมันช่างชัดเจนจนทําให้ เธอรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่กล้ามเนื้อและกระดูกในร่างกาย
ซึ่งในวันนั้นในบรรดาผู้ที่ทุบตีเธอคือหลินตงหนานผู้ซึ่งทําให้เธอแขนหัก! และเธอต้องการให้เขาตอบแทนเป็นสองเท่า
“อืม! เธอเดินตรงมานี่แล้ว!” ลิงผอมมองไปที่หยางซื่อเหมยด้วยสายตาที่มีความแค้นครอบงํา
“เดี๋ยวจะซัดให้ร้องขอชีวิตเลย!”
“พี่ลิงระวังนะ! เธอมีพลังมาก”
ชายหนุ่มหลายคนที่มองตรงมายังเธอต่างก็รู้สึกได้ถึงอากาศเย็นยะเยือกที่ส่งผ่านออกมาจากร่างกายของหยางซื่อเหมยเหมือนกับดวงจันทร์ในฤดูหนาวที่หนาวเย็นไปจนกระดูกสันหลังเมื่อนึก ถึงตอนที่พวกเขาถูกเธอโยนทิ้งข้างถนนเหมือนขยะเปียก
หลังจากลิงผอมได้ยินดังนั้นจึงหัวเราะเยาะและกล่าวว่า
“พวกแกไปเตรียมเตียงเอาไว้ได้เลยฉันจะสั่งสอนเธอเอง!”
Comments
ท้าทายลิขิตสวรรค์ 66 คนที่ทําเธอแขนหัก
นิยาย ท้าทายลิขิตสวรรค์ ตอนที่ 66 คนที่ทําเธอแขนหัก
ตอนที่ 66 คนที่ทําเธอแขนหัก
“หยางซื่อเหมยไปกับฉัน!”
เฉินไคเหวินกล่าวพร้อมกําลังจะดึงหยางซื่อเหมยออกไป เนื่องจากเขาไม่ต้องการปล่อยให้ลูกศิษย์ของตนเองตกอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้
ในทันใดหยางเจี้ยนหมิงก็ลุกขึ้นยืนด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่านและเดินตรงไปที่ประตูพร้อมกับจ้องไปที่ฉินไคเหวิน
“เอามือของแกออกไปจากเธอเดี๋ยวนี้ผู้หญิงคนนี้เป็นของฉัน!”
“เธอเป็นลูกศิษย์ของผมและมีอายุแค่สิบห้าเองนะ!”
เฉินไคเหวินซ่อนร่างของหยางซื่อเหม่ยไว้ด้านหลังเขาพลางกล่าวว่า
“คุณทําแบบนี้มันผิดกฎหมาย รู้ตัวหรือเปล่า?”
“อ๊ะ! ผิดกฎหมายเหรอ?!” หยางเจี้ยนหมิงพ่นใส่ฉินไคเหวินทันที
“ผมทําผิดกฎหมาย! แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณด้วย?”
“ผมเป็นครูของเธอ ดังนั้นจึงมีสิทธิ์ที่จะปกป้องนักเรียนของผม!”
ฉันไคเหวินทราบดีว่าหยางเจี้ยนหมิงเป็นผู้มีอิทธิพลในเมืองนี้ แต่เขาก็ยังกล้าหาญด้วยจิตวิญญาณของความเป็น ครู และหยางซื่อเหมยสามารถสัมผัสได้ถึงอารมณ์นี้เมื่อเธอยืนอยู่ที่ด้านหลังคุณ
ครู
“เป็นคุณครูเหรอ? เป็นคุณครูแล้วยุ่งเรื่องของคนอื่นได้ยังไง?”
หลังจากที่หยางเจี้ยนหมิงกล่าวแล้วซิการ์ในมือของเขาก็ยื่นออกมาทันทีทําให้ไฟของมันจไปที่แขนของฉันไคเห วินซึ่งยังไม่ทันตั้งตัว
“ถ้าคุณเป็นครูก็ไปอยู่ที่โรงเรียนสิมาอยู่ทําไมแถวนี้?!”
แขนของฉันไคเหวินถูกไฟซิการ์ทําให้เขากรีดร้องเล็กน้อยด้วยความตกใจแต่ก็ยังไม่ยอมขยับร่างกายเนื่องจากเขามีความตั้งใจว่าจะปกป้องหยาง ซื้อเหมยให้ถึงที่สุด
“คุณกลับไปเสียดีกว่า นี่เป็นเรื่องระหว่างผมกับเธอซึ่งมันไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับคุณเลย”
“ซีเหมย ครูจะไม่ยอมให้เธอตกเป็นเหยื่อของคนพวกนี้เด็ดขาด” ฉินไคเหวินกล่าวเสียงแข็งกร้าว
“คุณครูกลับไปเถอะค่ะ หนูดูแลตัวเองได้”
เมื่อฉันไคเหวินเห็นหยางซื่อเหมยกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉยขณะที่เขารู้สึกว่าเธอมีความมั่นใจมากเป็นพิเศษ ทําให้เขาไม่เข้าใจว่าหยางซื่อเหมยไปเอาความมั่นใจแบบนี้มาจากไหน
และในฐานะครูประจําชั้น ก่อนที่เด็กสาวจะเข้ามาเรียนในโรงเรียนนี้เขาได้ทราบพื้นฐานทางครอบครัวของเธอแล้วว่าเธอย้ายจากชนบทเข้ามาอยู่ในเมืองส่วนบิดาของเธอนั้นเป็นคุณครูในโรงเรียนประถมสําหรับมารดาของเธอก็เป็นเพียงแม่บ้านธรรมดา
โดยตอนนี้เธอกําลังเผชิญหน้ากับบุต รชายของเลขาธิการคณะกรรมการพรรคเทศบาลซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องการเอาแต่ใจอย่างร้ายกาจและชั่วช้าในเมืองนี้
นี่เธอโง่หรือไร้เดียงสากันแน่?
“น้องซื้อเหมยคงไม่สนใจอาจารย์แก่ๆอย่างคุณหรอกรีบกลับไปซะ!ผมไม่อยากจะทําร้ายคนแก่!”
หยางเจี้ยนหมิงเอื้อมมือไปหาฉินไคเหวินพร้อมกับหัวเราะชอบใจและพยายามดึงมือของเด็กสาวตรงหน้าแต่เมื่อนิ้ว ของหยางซื่อเหมยขยับเธอก็ดึงดูดพลังหยินจากมุมห้องเพื่อตีที่ข้อมือของหยาง เจี้ยนหมิง
ส่งผลให้หยางเจี้ยนหมิงเกิดความรู้สึกว่ามือของเขาเย็นเฉียบในทันทีอย่างไม่มีเหตุผลจากนั้นมือทั้งสองข้างก็เป็นอัมพาตโดยไม่สามารถขยับเขยื้อนได้เลย
อย่างไรก็ตามท่านอาจารย์เคยกล่าวว่า ถ้าเธอใช้คาถาทําร้ายคนที่เป็นญาติร่วมสายโลหิตเธอจะต้องได้รับผลกระทบเช่ นกัน ดังนั้นจึงทําเพียงแค่ยับยั้งหยางเจี้ยนหมิงซึ่งการกระตุ้นวิญญาณชั่วร้าย ทําให้มือของเขาเป็นอัมพาตและทําให้เขาตื่นตระหนก
และนับว่าโชคดีที่การดึงพลังหยินฉีในครั้งนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อเด็กสาวมากนักโดยเธอเพียงแค่รู้สึกว่าที่ข้อมือของเธ อมีความเย็นยะเยือกเข้าครอบงําเพียงใคร่เดียว จากนั้นเธอก็กลับมาเป็นปกติเห มือนเดิม
ส่วนหยางเจี้ยนหมิงที่มือของเขาเป็นอัมพาตอย่างเฉียบพลันกําลังคิดว่ามือของตนเองเป็นตะคริวดังนั้นเขาจึงไม่สนใจอะไรและทําเพียงแค่พยายามเหวี่ยงมือของตนเองไปมาตลอดเวลาแต่เขาก็ไม่สามารถขยับไปทางใดได้เลย
ขณะที่ในเวลานี้มีคนกลุ่มหนึ่งออกมาจากห้องอีกฝั่งหนึ่ง และมีชายหนุ่มผมสีเหลืองคนหนึ่งที่มีส่วนสูงเกือบสองเมตรเดินตรงมา แต่เมื่อเขาได้เห็นหยาง
ซื้อเหมย ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นอํามหิตทันที
“นั่นไงเธอ!เธอคนนี้ไงที่ดีเรา!”
จากนั้นคนที่ชื่อหลินตงหนานกับลูกน้องอีกหลายคนก็เดินตามทิศทางที่คุนซีชี้และเห็นเพียงเด็กผู้หญิงในชุดขาวอายุประมาณสิบห้าปีโดยเธอเป็นคนที่ละเอียดอ่อนและน่าทะนุถนอมมากจ นทําให้รู้สึกสงสัยว่าเธอดูเหมือนผู้ หญิงที่ดุร้ายตรงไหนกัน?
“คุนซี! แกแน่ใจหรือว่าผู้หญิงคนนั้นคือตอนที่ตีแก” หลินตงหนานเอ่ยถามผู้ชายสูงโย่งที่มีฉายาว่าลิงผอม
คุนซีที่หน้าแดงกําด้วยความโกรธแค้นพยักหน้าทันที
“เห็นอย่างนี้เธอไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดานะ! เธอเป็นปรมาจารย์เทควันโดเชียวนะจะบอกให้!”
“ระดับปรมาจารย์เลยเหรอ? โม่เปล่า?”
ลิงผอมสั่นกําปั้นด้วยความประหม่า
“งั้นก็ลองดูสิ! แต่เธอกําลังทําอะไรอยู่ตรงนั้น! ผู้ชายคนนั้นเป็นลูกชายของเลขาธิการพรรคไม่ใช่เหรอ?”
ตอนนั้นฉันไคเหวินต้องการที่จะดึงหยางซื่อเหมยออกไป แต่เด็กสาวไม่สามารถจากไปได้เนื่องจากเธอมองเห็นห ลินดงหนาน ผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในฆาตกรที่ฆ่าเธอในชาติที่แล้ว
และแม้ว่าเธอจะเกิดใหม่มาสิบปีแล้วแต่เธอก็ไม่สามารถลืมความเจ็บปวดที่ไม่อาจอธิบายได้จากการถูกต่อยและ เตะในครั้งนั้น!
“ครูกลับไปก่อนเถอะค่ะ!”
จากนั้นเธอก็ผลักฉันไคเหวินออกไปด้านข้างและเดินไปตรงเข้าไปหาพวก เขาขณะที่ภาพความทรงจําในวันนั้นผุด ขึ้นมามโนนึกของเด็กสาวโดยแต่ละภาพที่ปรากฏนั้นมันช่างชัดเจนจนทําให้ เธอรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่กล้ามเนื้อและกระดูกในร่างกาย
ซึ่งในวันนั้นในบรรดาผู้ที่ทุบตีเธอคือหลินตงหนานผู้ซึ่งทําให้เธอแขนหัก! และเธอต้องการให้เขาตอบแทนเป็นสองเท่า
“อืม! เธอเดินตรงมานี่แล้ว!” ลิงผอมมองไปที่หยางซื่อเหมยด้วยสายตาที่มีความแค้นครอบงํา
“เดี๋ยวจะซัดให้ร้องขอชีวิตเลย!”
“พี่ลิงระวังนะ! เธอมีพลังมาก”
ชายหนุ่มหลายคนที่มองตรงมายังเธอต่างก็รู้สึกได้ถึงอากาศเย็นยะเยือกที่ส่งผ่านออกมาจากร่างกายของหยางซื่อเหมยเหมือนกับดวงจันทร์ในฤดูหนาวที่หนาวเย็นไปจนกระดูกสันหลังเมื่อนึก ถึงตอนที่พวกเขาถูกเธอโยนทิ้งข้างถนนเหมือนขยะเปียก
หลังจากลิงผอมได้ยินดังนั้นจึงหัวเราะเยาะและกล่าวว่า
“พวกแกไปเตรียมเตียงเอาไว้ได้เลยฉันจะสั่งสอนเธอเอง!”
Comments