Immortal and Martial Dual Cultivation 303 เล่นกับไฟ
ตอนที่ 303 เล่นกับไฟ
ท่าเจ้าเมืองสายลมใสมองไปยังเมฆาอัสนีบน ท้องฟ้าและไตร่ตรองดู เขากล่าวด้วยเสียงนุ่มลึก “เขาแตกต่างจากพวกเรา ไม่ต้องสงสัยทําไมเขาถึงได้มั่นใจนัก คนผู้นี้คือผู้บ่มเพาะพลังที่บรรลุถึงสภาวะ นอกจากนั้น, ความเข้าใจของเขาก็ไม่น้อย ด้วยการแทรกซึมสภาวะเข้าไป,การวาดกระบี่ธรรมดาก็ทรงพลังมากกว่าทักษะต่อสู้ระดับปฐพีขั้นสูง
“ความหนาแน่นของกระบี่ฉีของเขาก็แข็งแกร่งกว่าของพวกเรา มันยอดเยี่ยมกว่าของระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธทั่วไปแล้ว ดูเหมือนเมืองสายลมใสจะพ้นภัยในครั้งนี้!” ท่านเจ้าเมืองอุทานขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มตื่นเต้น
งูเพลิงทมิฬขดตัวของมันขึ้นจากพื้น,เปลี่ยนกลายเป็นภูเขาขนาดย่อม ดวงตาของมันกําลังจ้องมองไปที่เซียวเฉิน,สีแดงเป็นสายเลือด
ลิ้นแฉกสีแดงของมันแลบออกมาไม่หยุด,กําลังตรวจจับตําแหน่งของเซียวเฉิน เจ้างูยักษ์เปิดปากของมันกว้างและพลังงานธาตุไฟที่อยู่โดยรอบเคลื่อนเข้ามาอย่างรวดเร็ว
ลูกบอลเพลิงขนาดมหึมาปรากฏขึ้น,หมุนวนไปอย่างต่อเนื่อง ในตอนที่เปลวเพลิงอันน่าหวาดกลัวพุ่งสูงถึงขีดสุด,ลูกบอลเพลิงก็ถูกยิงไปที่เซียวเฉิน
เชี่ยวเฉินยิ้มเบาบาง “เล่นกับไฟต่อหน้าของ ข้า? ยังห่างไกลนัก ไสหัวไป!”
เปลวเพลิงสีม่วงเผาไหมโชติช่วงในดวงตาขวาของเซียวเฉิน เซียวเฉินไม่ได้บีบอัดมันและยิง ออกไปตรงๆ เปลวเพลิงสีม่วงกลายเป็นสายเชีย วกราดไหลทะลักออกไปในทันที
“บูม!”
สายเปลวเพลิงสีม่วงกลืนกินเพลิงสีดําที่งูเพลิง ทมิฬพ่นออกมาในทันที เปลวเพลิงอันพลุ่งพล่าน เผาไหม้ร่างของงูเพลิงทมิฬจนมันร้องออกมาอย่างน่าสังเวช,ทําให้มันกลิ้งไปมาด้วยความเจ็บปวด
หลังจากที่งเพลิงทมิฬได้สัมผัสถึงความน่ากลัวของเซียวเฉิน,มันรีบหนีออกไปไกล ร่างของมันชนบ้านเรือนล้มระเนระนาดขณะที่มันไหลออกไป
“คิดหนี? สายไปแล้ว!”
“หญ่ขยสะท้านสวรรค์!” เซียวเฉินร้องตะโกน และต้นหวี่ขุยศักดิ์สิทธิ์โลราณก็ปรากฎขึ้นจากความว่างเปล่า มันเริ่มเคลื่อนตรงไปที่งูเพลิงทมิฬ,กดมันลงกับพื้นราวกับขุนเขา;มันแบกพลังของสายฟ้าฉับพลัน
“ยิ้ม.. !”
สภาวะแห่งสายฟ้าที่ผสานเข้ากับพลังศักดิ์สิทธิ์ระเบิดออกมาไม่หยุด ตามมาด้วยเสียงฟ้าคําราม ครึกครื้น,ต้นหรูขุยเติบโตอย่างรวดเร็ว
พลังมหาศาลที่กําลังกดลงบนร่างของงูเพลิงทมิฬเริ่มสั่นสะเทือนแผนดิน
ผ่านไปครู่หนึ่ง ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เปลี่ยนกลาย เป็นแสงกระแสไฟฟ้าอันน่าหวาดกลัวและไหลเข้าไปในงูเพลิงทมิฬ ด้วยการนึกคิดจากเซียวเฉิน,มันระเบิดออกในทันที
งูเพลิงทมิฬ,ที่ถูกเพลิงสีม่วงย่างจนดําเกรียม,ระเบิดกลายเป็นชิ้นโดยแสงสายฟ้านี้ สายโลหิตโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้า
มีพลังแรงดูดออกมาจากฝ่ามือของเซียวเฉิน,ดึงเอางูเพลิงทมิฬเข้ามา จากนั้นเขาก็โยนมันเข้าไปในแหวนห้วงจักรวาล หลังจากนั้นเขาก็รีบเดินตรงไปที่ท่านเจ้าเมืองสายลมใส
“ภารกิจเสร็จสิ้น, ลงลายนิ้วมือของท่านและประทับตราท่าเจ้าเมืองลงตรงนี้ ให้ดีที่สุดคือให้ท่านบงชื่อด้วยตัวเอง” เซียวเฉินกล่าวอย่างเฉยเมย พร้อมกับหยิบเอาสัญญาภารกิจออกมา
เมื่อท่านเจ้าเมืองสายลมใสเห็นว่างเพลิงทมิฬ ที่รุกรานเมืองสายลมใสมาเป็นเวลานานถูกระเบิดเป็นชิ้นโดยเตี๋ยวเฉิน,เขายังล่องลอยอยู่กับความไม่อยากจะเชื่อ ในตอนที่เซียวเฉินกล่าวซ้ําอีกครั้งเขาจึงฟื้นคืนสติ
ท่านเจ้าเมืองยิ้มออกมาพร้อมกับกล่าวขึ้น “ขออภัย,ข้าใจลอยไปหน่อย เจ้าแนะนําตัวเองว่าเป็นศิษย์ยอดเขาฉิงหยุน? ยกโทษให้ข้าที่กล่าวตรงๆ แต่ไม่ใช่ว่ายอดเขาฉิงหยุนกําลังทรุดโทรม?”
เซี่ยวเฉินยิ้ม “เย่เฉินจากยอดเขาฉิงหยุนยินดีรับใช้,ไม่ใช่ของแท้ยินดีคืนเงิน! ยอดเขาฉิงหยุนไม่ได้ทรุดโทรม อย่างน้อยที่สุด,พวกเขายังคงมีทักษะต่อสู้ของพวกเขา นอกจากนั้น พวกเขายังมีท่านเจ้ายอดเขาที่ศักยภาพไร้ขีดจํากัด”
มองดูงเพลิงทมิฬที่ตกตายไป,ท่านเจ้าเมือง เห็นชัดว่ากําลังอารมณ์ดี เขายิ้มและกล่าว “ผู้กล้าตัวน้อยอย่างแท้จริง มันก็ยังคงไม่อยากจะเชื่อ ข้าจะลงลายมือตรงนี้”
หลังจากที่ท่านเจ้าเมืองลงลายมือ,เขาหยิบเอาตราประทับท่านเจ้าเมืองออกมาและประทับตราสีแดงลงบนสัญญา หลังจากนั้นเขาก็ลงชื่อของตัวเอง ภารกิจของเซี่ยวเฉินตอนนี้เสร็จสิ้นลงแล้ว
เซี่ยวเฉินรับสัญญาภารกิจมาอย่างพึงพอใจ และเผยรอยยิ้มออกมา เขาได้รับหนึ่งพันแต้มสะสม
ภารกิจนี้ค่อนข้างง่าย,มันไม่เกิดผลใดกับการฝึกฝนทักษะกระบี่ของเซี่ยวเฉิน อย่างไรก็ตาม มันเป็นเรื่องดีที่ได้สร้างชื่อเสียงให้กับยอดเขาฉิงหยุน
ขณะที่ผู้ช่วยมองดูเหี่ยวเฉินจากไป, ทันใดนั้น เขาก็กล่าวขึ้น “ท่าเจ้าเมือง,ข้านึกขึ้นได้ ไม่นานมานี้ มีเรื่องเกี่ยวกับผู้เยาว์จากศาลากระบี่สวรรค์ที่สังหารผู้เชี่ยวชาญจากรุ่นเก่า,เยส่หมิงชาน เป็นไปได้ว่าคือคนผู้นั้น!”
ท่านเจ้าเมืองพึมพํา “มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นเขา แม้ว่างูเพลิงทมิฬจะเป็นหนึ่งในสัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 ที่อ่อนแอที่สุด,ระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุดก็ยังคงต้องพยายามอย่างมากในการสังหารมัน นอกจากนั้น มันก็ยากที่จะกลับมาอย่างไร้รอยขีดข่วน
“ผู้เยาว์ผู้นี้สังหารงูเพลิงทมิฬอย่างง่ายดาย ภายในไม่กี่กระบวณท่า เห็นชัดว่าเขาอยู่คนละระดับกับรูเพลิงทมิฬ มีอัจฉริยะเช่นนี้ไม่เกินสิบภายในอาณาจักรต้าฉิน ดูเหมือนว่ายอดเขาฉิงหยุนจะกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง”
เทือกเขาเมฆาไหลเป็นเทือกเขาที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองในแคว้นซีเหอ, เป็นรองจากเทือกเขาหลิงหยุน ความหนาแน่นของพลังงานจิตวิญญาณของมันเบาบางกว่าเทือกเขาหลิงหยุนอย่างมาก อย่างไรก็ตาม มันมีสมุนไพรและพืชล้ําค่าทุกประเภทในที่แห่งนี้ ไม่น้อยไปกว่าเทือกเขาหลิงหยุนมได้ชื่อว่าเทือกเขายา
สิ่งที่สําคัญที่สุดคือ แม้ว่าจะมีนิกายเล็กมากมายโดยรอบ,แต่ก็ไม่ได้มีนิกายใดที่ แข็งแกร่งเป็นพิเศษ ดังนั้น,มันเป็นดินแดนที่ไม่มีเจ้าของ
มีผู้บ่มเพาะพลังไปที่เทือกเขาเมฆาไหลมากกว่าเทือกเขาหลิงหยุน พวกเขาส่วนใหญ่เป็นผู้บ่มเพาะพลังที่ถูกว่าจ้างโดยชุมอํานาจใหญ่เพื่อปกป้องคนเข้าไปเก็บเกี่ยวสมุนไพร,ป้องกันไม่ให้พวกเขากลายเป็นเหยื่อของสัตว์อสูรวิญญาณบนเทือกเขา
บนยอดเขาที่ไร้ผู้คนในเทือกเขาเมฆาไหล,หญิงสาวในชุดขาวแบกตะกร้ายาไว้บนหลังกําลังปีนหน้าผาที่ดูอันตราย
ด้านข้างของหญิงสาวชุดขาวคือมือกระบี่ใน ชุดคลุมสีฟ้า,กําลังลอยตัวปกป้องนางอยู่ที่ด้านข้าง ไม่ต้องสงสัย,มือกระบี่ผู้นี้คือเซี่ยวเฉิน
เซียวเฉินมองดูหญิงสาวชุดขาวกําลังปืนหน้าผาขึ้นไปด้วยความยากลําบาก เขาส่ายหัวและกล่าวขึ้น “แม่นางซุน,ทําไมถึงได้มากปัญหาเช่นนี้? เจ้าเพียงต้องบอกข้าว่าสมุนไพรที่เจ้ามองหาหน้าตาเป็นเช่นไร ข้าไปเก็บมาให้เจ้าได้”
หญิงสาวผู้นี้คือบุตรสาวของเจ้าของที่ดินแห่งหนึ่ง,ที่ดินแห่งนั้นมีชื่อเสียงในเรื่องของการสกัดยา ชื่อชองนางคือซุนเชียน,และนางคือผู้ที่จ่ายภารกิจให้กับเซี่ยวเฉินในครั้งนี้
โดยการช่วยให้นางเก็บสมุนไพรวิญญาณให้สํา เร็จ,เขาจะได้รับหนึ่งพันแต้มสะสม เซียวเฉินไม่ อยากที่จะเสียเวลา,ดังนั้น,เขาอยากที่จะลงมือ ด้วยตัวเองเพื่อที่จะเสร็จภารกิจให้รวดเร็วขึ้น
ใบหน้างามประณีตของซุนเชียนเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ,นางปาดเหงื่อบนใบหน้าและยิ้มขึ้น “นายน้อยเย่,มันไม่ใช่ว่าข้าหัวรั้น สมุนไพรวิญญาณต้นนี้มันเก็บเกี่ยวได้ยุ่งยากเป็นอย่างมาก จะต้องดึงรากของมันออกมาให้ได้อย่างสมบูรณ์,ไม่อาจให้บอบช้ําแม้แต่น้อย”
“มิฉะนั้น,พลังงานจิตวิญญาณภายในจะรั่วไหลออกมาอย่างและสมุนไพรวิญญาณจะเหี่ยวแห้งอย่างรวดเร็ว:สรรพคุณยาของมันจะหายไป ผู้ที่ไม่มีความรู้เพียงพอจะไม่เข้าใจถึงวิธีเก็บเกี่ยวมัน”
เซียวเฉินเพียงยิ้มออกมาบางๆ ในเมื่อซุนเชียนกล่าวมาอย่างนี้ เขาทําได้เพียงทําตามคําแนะนําของนาง เขาขยายสัมผัสวิญญาณของเขาออกไป และตรวจสอบสถานการณ์โดบรอบ
เซียวเฉินรู้วิธีสกัดยาเช่นกัน เขารู้ว่าที่ซุนเชียน กล่าวมันออกจะเกินจริงไปเล็กน้อย หากเก็บรักษาอย่างเหมาะสม,แม้ว่ามันจะเสียหายเล็กน้อย,สรรพคุณยาของสมุนไพรวิญญาณจะไม่จางหายไปรวดเร็วนัก
อย่างไรก็ตาม,เชี่ยวเฉินก็ไม่อาจไปต่อปากกับซุนเชียน คําขอของนางก็ใช่ว่าจะไร้เหตุผล เขาจะเล่นไปตามที่ได้ฟังและลงมือไปตามสถานการณ์
หน้าผาที่ทั้งสองคนอยู่ในตอนนี้เป็นหน้าผาที่มีชื่อเสียงอย่างมากในเทือกเขาเมฆาไหล มันมีชื่อที่น่าสนใจอย่างยิ่ง “บ้าก่อนปืน” หรือเรียกได้อีกชื่อว่ายอดเขาสมุนไพรอมตะ
TL เป็นคําพ้องเสียงกันครับ CSRIX (Xian Yao Feng) เป็นบ้าเสียก่อน full (Xian Yao Feng) ยอดเขาสมุนไพรอมตะ
ยอดเขาสมุนไพรอมตะอยู่ที่ใจกลางของเทือกเขาเมฆาไหล มันเป็นที่พลังงานของทั่วทั้งเทือกเขามารวมกัน บนยอดเขานี้ สามารถพบสมุนไพรคุณภาพเยี่ยมอย่างง่ายดาย
ที่ด้านล่างของยอดเขามีสมุนไพรอายุประมาณห้าสิบปี ที่กึ่งกลางยอดเขา,สามารถพบสมุนไพรอายุหนึ่งร้อยปี ยิ่งขึ้นไปสูง,สมุนไพรยิ่งมีอายุ
หากสามารถขึ้นไปถึงยอดบนสุด,พวกเขาสามารถพบได้แม้กระทั่งสมุนไพรอายุมากกว่าพันปี กลายได้ว่านี่คือยอดเขาสมุนไพรอมตะอย่างแท้จริง
สําหรับอีกชื่อหนึ่งของมัน บ้าก่อนปีน” มันเป็นเรื่องเล่าจากเหล่าผู้รวบรวมสมุนไพร มีเพียงคนบ้าที่จะกล้าปืนยอดเขานี้
เป็นเพราะมันอันตรายเกินไป มันเต็มไปด้วยสัตว์อสูรวิญญาณประเภทปีกอันดุร้าย พวกมันถูกบํารุงด้วยสมุนไพรวิญญาณชั้นยอดอยู่เสมอ ดังนั้น พวกมันจึงแข็งแกร่งกว่าสัตว์อสูรวิญญาณทั่วไปเป็นอย่างยิ่ง
นอกจากนั้น เป็นเพราะยอดเขาที่สูงเสียดฟ้า,แม้แต่ระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุดที่มี ทักษะเหาะเหินก็ไม่กล้าขึ้นไปถึงกึ่งกลางของยอดเขา อย่างดีที่สุด,พวกเขาจะเก็บสมุนไพรวิญญาณที่ตีนเขาก่อนที่จะจากไป
สําหรับยอดเขาสูงสี่พันเมตร,ครั้งหนึ่งเคยมีระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูงที่พึ่งพาพลังของเขาฝืนบินขึ้นไป ท้ายที่สุด,เขาถูกสัตว์อสูรวิญญาณที่กําลังปกป้องสมุนไพรบนยอดเขาสังหารอย่างโหดเหี้ยมภายในครึ่งนาที
เซี่ยวเฉินรู้ชัดถึงพลังของตัวเองดี ภารกิจนี้ต้องการให้เขาปีนขึ้นเหนือกึ่งกลางยอดเขาไปอีกหนึ่งร้อยเมตรเท่านั้น นี่เป็นสิ่งที่ยังอยู่ภายในความสามารถของเขา
หากเขาต้องขึ้นไปสูงกว่านั้น เขาจะต้องยอมปล่อยภารกิจนี้ไป ก่อนที่จะขึ้นไปถึงระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ,เขาจะไม่ไปเดินแกว่งเท้าหาความตาย เขาปีนขึ้นมาเพียงห้าร้อยเมตรจากตีนเขา และเขาก็พบเข้ากับสัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 ที่ดุร้ายหลายตัวแล้ว
สัมผัสวิญญาณของเซี่ยวเฉินตรวจจับได้ถึงจุดสีดําหลายจุดกําลังบินมาจากทางตะวันตกเฉียงเหนืออย่างรวดเร็ว เซียวเฉินหยิบเอาธนูล่าวิญญาณออกมาและกล่าวขึ้น “แม่นางซุน,โปรดระวังมีสัตว์อสูรวิญญาณกําลังบินมาทางนี้อีกแล้ว”
เมื่อซุนเชียนได้ยินดังนั้น,สีหน้าของนางเปลี่ยนเล็กน้อย นางหยุดปีนป่ายและมุ่งหน้าไปหาหินยื่นที่ดูมั่นคงกว่า,นางค่อยๆขยับเข้าไปหามัน
จุดสีดําค่อยๆใกล้เข้ามาพวกมันเป็นสัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 ขั้นกลาง – แร้งเมฆาคะนอง พวกมันตัวยาวประมาณสามเมตรและกางปีกกว่ายี่สิบเมตร
ขนของแร้งเมฆาคะนองเป็นสีแดงเพลิง เมื่อมองดูจากระยะไกล มันดูราวกับเปลวเพลิงโชติช่วง มีขนเก้าอันเรียงอยู่ที่ห่างของมัน พวกมันเรียงตรง,แข็งแรง ทนทาน,ราวกับคมดาบ:มีเปลวเพลิงที่กําลังลุกไหม้อยู่ที่ปลายขน
แม้ว่าสัตว์อสูรวิญญาณพวกนี้จะอยู่ระดับ 6 ขั้นกลาง แต่พวกมันก็ยากที่จะรับมือเมื่ออยู่ในอากาศ หากประมาทเลินเล่อ,พวกเขาจะตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ํา
“ซิ่ว!”
เซียวเฉินประทับลูกศรปราณแสงและดึงสายธนู เขาจับจ้องไปที่แร้งเมฆาคะนองด้วยสัมผัสวิญญาณของเขาและปล่อยสายธนู ลูกศรลอยออกไปอย่างรวดเร็ว. เกิดเป็นเสียงเสียดแทงทะลวงไปในอากาศ
มันทะลวงผ่านแร้งเมฆาคะนองตัวหนึ่งและเกิดเป็นรูขนาดใหญ่ แร้งตัวนั้นร้องออกมาอย่างน่าสังเวชและร่วงหล่นลงไปที่พื้น
“ชี! ชี!”
มือของเซียวเฉินยังไม่หยุดเคลื่อนไหว,ยิงออกไปอีกหนึ่งดอก ยิ่งผู้ใช้ทรงพลัง พลังของธนูล่าวิญญาณยิ่งแข็งแกร่ง ทุกสองสามเดือน เมื่อใดก็ตามที่เชี่ยวเฉินหยิบมันออกมาใช้,พลังของมันจะเพิ่มขึ้นมหาศาล
แร้งเมฆาคะนองอีกตัวที่เขาเล็งพยายามจะหลบหลีก อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่อาจหลีกหนีโชคชะตา เกิดรูเลือดทะลักปรากฏขึ้นพร้อมกับเสียง ปัง
“แม่นางซุน, โปรดระวังตัว ข้าจะออกไปสักครู่ และจะรีบกลับมา”
แร้งเมฆาคะนองที่เหลือกสองตัวเข้ามาอยู่ในระยะต่ํากว่าห้าร้อยเมตรจากตัวของเซี่ยวเฉิน หากระยะมันใกล้เกินไป,ผลของธนูล่าวิญญาณจะลดต่ําลง เซี่ยวเฉินสับเปลี่ยนเป็นกระบรรเงาจันทร์และพุ่งออกไปข้างหน้า,ล่อพวกมันให้ห่างออกไป
ซุนเชียนกล่าวอย่างกังวล “ผู้กล้าเย่, โปรดระวังตัว!”
“ซิ่ว!”
แร้งเมฆาคะนองบินอย่างรวดเร็วไปที่หัวของเซียวเฉิน สองกรงเล็บแหลมคมที่สามารถลดขยี้ก้อนหินได้อย่างง่ายดายจับไปที่หัวของเซียวเฉิน
Comments
Immortal and Martial Dual Cultivation 303 เล่นกับไฟ
ตอนที่ 303 เล่นกับไฟ
ท่าเจ้าเมืองสายลมใสมองไปยังเมฆาอัสนีบน ท้องฟ้าและไตร่ตรองดู เขากล่าวด้วยเสียงนุ่มลึก “เขาแตกต่างจากพวกเรา ไม่ต้องสงสัยทําไมเขาถึงได้มั่นใจนัก คนผู้นี้คือผู้บ่มเพาะพลังที่บรรลุถึงสภาวะ นอกจากนั้น, ความเข้าใจของเขาก็ไม่น้อย ด้วยการแทรกซึมสภาวะเข้าไป,การวาดกระบี่ธรรมดาก็ทรงพลังมากกว่าทักษะต่อสู้ระดับปฐพีขั้นสูง
“ความหนาแน่นของกระบี่ฉีของเขาก็แข็งแกร่งกว่าของพวกเรา มันยอดเยี่ยมกว่าของระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธทั่วไปแล้ว ดูเหมือนเมืองสายลมใสจะพ้นภัยในครั้งนี้!” ท่านเจ้าเมืองอุทานขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มตื่นเต้น
งูเพลิงทมิฬขดตัวของมันขึ้นจากพื้น,เปลี่ยนกลายเป็นภูเขาขนาดย่อม ดวงตาของมันกําลังจ้องมองไปที่เซียวเฉิน,สีแดงเป็นสายเลือด
ลิ้นแฉกสีแดงของมันแลบออกมาไม่หยุด,กําลังตรวจจับตําแหน่งของเซียวเฉิน เจ้างูยักษ์เปิดปากของมันกว้างและพลังงานธาตุไฟที่อยู่โดยรอบเคลื่อนเข้ามาอย่างรวดเร็ว
ลูกบอลเพลิงขนาดมหึมาปรากฏขึ้น,หมุนวนไปอย่างต่อเนื่อง ในตอนที่เปลวเพลิงอันน่าหวาดกลัวพุ่งสูงถึงขีดสุด,ลูกบอลเพลิงก็ถูกยิงไปที่เซียวเฉิน
เชี่ยวเฉินยิ้มเบาบาง “เล่นกับไฟต่อหน้าของ ข้า? ยังห่างไกลนัก ไสหัวไป!”
เปลวเพลิงสีม่วงเผาไหมโชติช่วงในดวงตาขวาของเซียวเฉิน เซียวเฉินไม่ได้บีบอัดมันและยิง ออกไปตรงๆ เปลวเพลิงสีม่วงกลายเป็นสายเชีย วกราดไหลทะลักออกไปในทันที
“บูม!”
สายเปลวเพลิงสีม่วงกลืนกินเพลิงสีดําที่งูเพลิง ทมิฬพ่นออกมาในทันที เปลวเพลิงอันพลุ่งพล่าน เผาไหม้ร่างของงูเพลิงทมิฬจนมันร้องออกมาอย่างน่าสังเวช,ทําให้มันกลิ้งไปมาด้วยความเจ็บปวด
หลังจากที่งเพลิงทมิฬได้สัมผัสถึงความน่ากลัวของเซียวเฉิน,มันรีบหนีออกไปไกล ร่างของมันชนบ้านเรือนล้มระเนระนาดขณะที่มันไหลออกไป
“คิดหนี? สายไปแล้ว!”
“หญ่ขยสะท้านสวรรค์!” เซียวเฉินร้องตะโกน และต้นหวี่ขุยศักดิ์สิทธิ์โลราณก็ปรากฎขึ้นจากความว่างเปล่า มันเริ่มเคลื่อนตรงไปที่งูเพลิงทมิฬ,กดมันลงกับพื้นราวกับขุนเขา;มันแบกพลังของสายฟ้าฉับพลัน
“ยิ้ม.. !”
สภาวะแห่งสายฟ้าที่ผสานเข้ากับพลังศักดิ์สิทธิ์ระเบิดออกมาไม่หยุด ตามมาด้วยเสียงฟ้าคําราม ครึกครื้น,ต้นหรูขุยเติบโตอย่างรวดเร็ว
พลังมหาศาลที่กําลังกดลงบนร่างของงูเพลิงทมิฬเริ่มสั่นสะเทือนแผนดิน
ผ่านไปครู่หนึ่ง ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เปลี่ยนกลาย เป็นแสงกระแสไฟฟ้าอันน่าหวาดกลัวและไหลเข้าไปในงูเพลิงทมิฬ ด้วยการนึกคิดจากเซียวเฉิน,มันระเบิดออกในทันที
งูเพลิงทมิฬ,ที่ถูกเพลิงสีม่วงย่างจนดําเกรียม,ระเบิดกลายเป็นชิ้นโดยแสงสายฟ้านี้ สายโลหิตโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้า
มีพลังแรงดูดออกมาจากฝ่ามือของเซียวเฉิน,ดึงเอางูเพลิงทมิฬเข้ามา จากนั้นเขาก็โยนมันเข้าไปในแหวนห้วงจักรวาล หลังจากนั้นเขาก็รีบเดินตรงไปที่ท่านเจ้าเมืองสายลมใส
“ภารกิจเสร็จสิ้น, ลงลายนิ้วมือของท่านและประทับตราท่าเจ้าเมืองลงตรงนี้ ให้ดีที่สุดคือให้ท่านบงชื่อด้วยตัวเอง” เซียวเฉินกล่าวอย่างเฉยเมย พร้อมกับหยิบเอาสัญญาภารกิจออกมา
เมื่อท่านเจ้าเมืองสายลมใสเห็นว่างเพลิงทมิฬ ที่รุกรานเมืองสายลมใสมาเป็นเวลานานถูกระเบิดเป็นชิ้นโดยเตี๋ยวเฉิน,เขายังล่องลอยอยู่กับความไม่อยากจะเชื่อ ในตอนที่เซียวเฉินกล่าวซ้ําอีกครั้งเขาจึงฟื้นคืนสติ
ท่านเจ้าเมืองยิ้มออกมาพร้อมกับกล่าวขึ้น “ขออภัย,ข้าใจลอยไปหน่อย เจ้าแนะนําตัวเองว่าเป็นศิษย์ยอดเขาฉิงหยุน? ยกโทษให้ข้าที่กล่าวตรงๆ แต่ไม่ใช่ว่ายอดเขาฉิงหยุนกําลังทรุดโทรม?”
เซี่ยวเฉินยิ้ม “เย่เฉินจากยอดเขาฉิงหยุนยินดีรับใช้,ไม่ใช่ของแท้ยินดีคืนเงิน! ยอดเขาฉิงหยุนไม่ได้ทรุดโทรม อย่างน้อยที่สุด,พวกเขายังคงมีทักษะต่อสู้ของพวกเขา นอกจากนั้น พวกเขายังมีท่านเจ้ายอดเขาที่ศักยภาพไร้ขีดจํากัด”
มองดูงเพลิงทมิฬที่ตกตายไป,ท่านเจ้าเมือง เห็นชัดว่ากําลังอารมณ์ดี เขายิ้มและกล่าว “ผู้กล้าตัวน้อยอย่างแท้จริง มันก็ยังคงไม่อยากจะเชื่อ ข้าจะลงลายมือตรงนี้”
หลังจากที่ท่านเจ้าเมืองลงลายมือ,เขาหยิบเอาตราประทับท่านเจ้าเมืองออกมาและประทับตราสีแดงลงบนสัญญา หลังจากนั้นเขาก็ลงชื่อของตัวเอง ภารกิจของเซี่ยวเฉินตอนนี้เสร็จสิ้นลงแล้ว
เซี่ยวเฉินรับสัญญาภารกิจมาอย่างพึงพอใจ และเผยรอยยิ้มออกมา เขาได้รับหนึ่งพันแต้มสะสม
ภารกิจนี้ค่อนข้างง่าย,มันไม่เกิดผลใดกับการฝึกฝนทักษะกระบี่ของเซี่ยวเฉิน อย่างไรก็ตาม มันเป็นเรื่องดีที่ได้สร้างชื่อเสียงให้กับยอดเขาฉิงหยุน
ขณะที่ผู้ช่วยมองดูเหี่ยวเฉินจากไป, ทันใดนั้น เขาก็กล่าวขึ้น “ท่าเจ้าเมือง,ข้านึกขึ้นได้ ไม่นานมานี้ มีเรื่องเกี่ยวกับผู้เยาว์จากศาลากระบี่สวรรค์ที่สังหารผู้เชี่ยวชาญจากรุ่นเก่า,เยส่หมิงชาน เป็นไปได้ว่าคือคนผู้นั้น!”
ท่านเจ้าเมืองพึมพํา “มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นเขา แม้ว่างูเพลิงทมิฬจะเป็นหนึ่งในสัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 ที่อ่อนแอที่สุด,ระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุดก็ยังคงต้องพยายามอย่างมากในการสังหารมัน นอกจากนั้น มันก็ยากที่จะกลับมาอย่างไร้รอยขีดข่วน
“ผู้เยาว์ผู้นี้สังหารงูเพลิงทมิฬอย่างง่ายดาย ภายในไม่กี่กระบวณท่า เห็นชัดว่าเขาอยู่คนละระดับกับรูเพลิงทมิฬ มีอัจฉริยะเช่นนี้ไม่เกินสิบภายในอาณาจักรต้าฉิน ดูเหมือนว่ายอดเขาฉิงหยุนจะกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง”
เทือกเขาเมฆาไหลเป็นเทือกเขาที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองในแคว้นซีเหอ, เป็นรองจากเทือกเขาหลิงหยุน ความหนาแน่นของพลังงานจิตวิญญาณของมันเบาบางกว่าเทือกเขาหลิงหยุนอย่างมาก อย่างไรก็ตาม มันมีสมุนไพรและพืชล้ําค่าทุกประเภทในที่แห่งนี้ ไม่น้อยไปกว่าเทือกเขาหลิงหยุนมได้ชื่อว่าเทือกเขายา
สิ่งที่สําคัญที่สุดคือ แม้ว่าจะมีนิกายเล็กมากมายโดยรอบ,แต่ก็ไม่ได้มีนิกายใดที่ แข็งแกร่งเป็นพิเศษ ดังนั้น,มันเป็นดินแดนที่ไม่มีเจ้าของ
มีผู้บ่มเพาะพลังไปที่เทือกเขาเมฆาไหลมากกว่าเทือกเขาหลิงหยุน พวกเขาส่วนใหญ่เป็นผู้บ่มเพาะพลังที่ถูกว่าจ้างโดยชุมอํานาจใหญ่เพื่อปกป้องคนเข้าไปเก็บเกี่ยวสมุนไพร,ป้องกันไม่ให้พวกเขากลายเป็นเหยื่อของสัตว์อสูรวิญญาณบนเทือกเขา
บนยอดเขาที่ไร้ผู้คนในเทือกเขาเมฆาไหล,หญิงสาวในชุดขาวแบกตะกร้ายาไว้บนหลังกําลังปีนหน้าผาที่ดูอันตราย
ด้านข้างของหญิงสาวชุดขาวคือมือกระบี่ใน ชุดคลุมสีฟ้า,กําลังลอยตัวปกป้องนางอยู่ที่ด้านข้าง ไม่ต้องสงสัย,มือกระบี่ผู้นี้คือเซี่ยวเฉิน
เซียวเฉินมองดูหญิงสาวชุดขาวกําลังปืนหน้าผาขึ้นไปด้วยความยากลําบาก เขาส่ายหัวและกล่าวขึ้น “แม่นางซุน,ทําไมถึงได้มากปัญหาเช่นนี้? เจ้าเพียงต้องบอกข้าว่าสมุนไพรที่เจ้ามองหาหน้าตาเป็นเช่นไร ข้าไปเก็บมาให้เจ้าได้”
หญิงสาวผู้นี้คือบุตรสาวของเจ้าของที่ดินแห่งหนึ่ง,ที่ดินแห่งนั้นมีชื่อเสียงในเรื่องของการสกัดยา ชื่อชองนางคือซุนเชียน,และนางคือผู้ที่จ่ายภารกิจให้กับเซี่ยวเฉินในครั้งนี้
โดยการช่วยให้นางเก็บสมุนไพรวิญญาณให้สํา เร็จ,เขาจะได้รับหนึ่งพันแต้มสะสม เซียวเฉินไม่ อยากที่จะเสียเวลา,ดังนั้น,เขาอยากที่จะลงมือ ด้วยตัวเองเพื่อที่จะเสร็จภารกิจให้รวดเร็วขึ้น
ใบหน้างามประณีตของซุนเชียนเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ,นางปาดเหงื่อบนใบหน้าและยิ้มขึ้น “นายน้อยเย่,มันไม่ใช่ว่าข้าหัวรั้น สมุนไพรวิญญาณต้นนี้มันเก็บเกี่ยวได้ยุ่งยากเป็นอย่างมาก จะต้องดึงรากของมันออกมาให้ได้อย่างสมบูรณ์,ไม่อาจให้บอบช้ําแม้แต่น้อย”
“มิฉะนั้น,พลังงานจิตวิญญาณภายในจะรั่วไหลออกมาอย่างและสมุนไพรวิญญาณจะเหี่ยวแห้งอย่างรวดเร็ว:สรรพคุณยาของมันจะหายไป ผู้ที่ไม่มีความรู้เพียงพอจะไม่เข้าใจถึงวิธีเก็บเกี่ยวมัน”
เซียวเฉินเพียงยิ้มออกมาบางๆ ในเมื่อซุนเชียนกล่าวมาอย่างนี้ เขาทําได้เพียงทําตามคําแนะนําของนาง เขาขยายสัมผัสวิญญาณของเขาออกไป และตรวจสอบสถานการณ์โดบรอบ
เซียวเฉินรู้วิธีสกัดยาเช่นกัน เขารู้ว่าที่ซุนเชียน กล่าวมันออกจะเกินจริงไปเล็กน้อย หากเก็บรักษาอย่างเหมาะสม,แม้ว่ามันจะเสียหายเล็กน้อย,สรรพคุณยาของสมุนไพรวิญญาณจะไม่จางหายไปรวดเร็วนัก
อย่างไรก็ตาม,เชี่ยวเฉินก็ไม่อาจไปต่อปากกับซุนเชียน คําขอของนางก็ใช่ว่าจะไร้เหตุผล เขาจะเล่นไปตามที่ได้ฟังและลงมือไปตามสถานการณ์
หน้าผาที่ทั้งสองคนอยู่ในตอนนี้เป็นหน้าผาที่มีชื่อเสียงอย่างมากในเทือกเขาเมฆาไหล มันมีชื่อที่น่าสนใจอย่างยิ่ง “บ้าก่อนปืน” หรือเรียกได้อีกชื่อว่ายอดเขาสมุนไพรอมตะ
TL เป็นคําพ้องเสียงกันครับ CSRIX (Xian Yao Feng) เป็นบ้าเสียก่อน full (Xian Yao Feng) ยอดเขาสมุนไพรอมตะ
ยอดเขาสมุนไพรอมตะอยู่ที่ใจกลางของเทือกเขาเมฆาไหล มันเป็นที่พลังงานของทั่วทั้งเทือกเขามารวมกัน บนยอดเขานี้ สามารถพบสมุนไพรคุณภาพเยี่ยมอย่างง่ายดาย
ที่ด้านล่างของยอดเขามีสมุนไพรอายุประมาณห้าสิบปี ที่กึ่งกลางยอดเขา,สามารถพบสมุนไพรอายุหนึ่งร้อยปี ยิ่งขึ้นไปสูง,สมุนไพรยิ่งมีอายุ
หากสามารถขึ้นไปถึงยอดบนสุด,พวกเขาสามารถพบได้แม้กระทั่งสมุนไพรอายุมากกว่าพันปี กลายได้ว่านี่คือยอดเขาสมุนไพรอมตะอย่างแท้จริง
สําหรับอีกชื่อหนึ่งของมัน บ้าก่อนปีน” มันเป็นเรื่องเล่าจากเหล่าผู้รวบรวมสมุนไพร มีเพียงคนบ้าที่จะกล้าปืนยอดเขานี้
เป็นเพราะมันอันตรายเกินไป มันเต็มไปด้วยสัตว์อสูรวิญญาณประเภทปีกอันดุร้าย พวกมันถูกบํารุงด้วยสมุนไพรวิญญาณชั้นยอดอยู่เสมอ ดังนั้น พวกมันจึงแข็งแกร่งกว่าสัตว์อสูรวิญญาณทั่วไปเป็นอย่างยิ่ง
นอกจากนั้น เป็นเพราะยอดเขาที่สูงเสียดฟ้า,แม้แต่ระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุดที่มี ทักษะเหาะเหินก็ไม่กล้าขึ้นไปถึงกึ่งกลางของยอดเขา อย่างดีที่สุด,พวกเขาจะเก็บสมุนไพรวิญญาณที่ตีนเขาก่อนที่จะจากไป
สําหรับยอดเขาสูงสี่พันเมตร,ครั้งหนึ่งเคยมีระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูงที่พึ่งพาพลังของเขาฝืนบินขึ้นไป ท้ายที่สุด,เขาถูกสัตว์อสูรวิญญาณที่กําลังปกป้องสมุนไพรบนยอดเขาสังหารอย่างโหดเหี้ยมภายในครึ่งนาที
เซี่ยวเฉินรู้ชัดถึงพลังของตัวเองดี ภารกิจนี้ต้องการให้เขาปีนขึ้นเหนือกึ่งกลางยอดเขาไปอีกหนึ่งร้อยเมตรเท่านั้น นี่เป็นสิ่งที่ยังอยู่ภายในความสามารถของเขา
หากเขาต้องขึ้นไปสูงกว่านั้น เขาจะต้องยอมปล่อยภารกิจนี้ไป ก่อนที่จะขึ้นไปถึงระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ,เขาจะไม่ไปเดินแกว่งเท้าหาความตาย เขาปีนขึ้นมาเพียงห้าร้อยเมตรจากตีนเขา และเขาก็พบเข้ากับสัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 ที่ดุร้ายหลายตัวแล้ว
สัมผัสวิญญาณของเซี่ยวเฉินตรวจจับได้ถึงจุดสีดําหลายจุดกําลังบินมาจากทางตะวันตกเฉียงเหนืออย่างรวดเร็ว เซียวเฉินหยิบเอาธนูล่าวิญญาณออกมาและกล่าวขึ้น “แม่นางซุน,โปรดระวังมีสัตว์อสูรวิญญาณกําลังบินมาทางนี้อีกแล้ว”
เมื่อซุนเชียนได้ยินดังนั้น,สีหน้าของนางเปลี่ยนเล็กน้อย นางหยุดปีนป่ายและมุ่งหน้าไปหาหินยื่นที่ดูมั่นคงกว่า,นางค่อยๆขยับเข้าไปหามัน
จุดสีดําค่อยๆใกล้เข้ามาพวกมันเป็นสัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 ขั้นกลาง – แร้งเมฆาคะนอง พวกมันตัวยาวประมาณสามเมตรและกางปีกกว่ายี่สิบเมตร
ขนของแร้งเมฆาคะนองเป็นสีแดงเพลิง เมื่อมองดูจากระยะไกล มันดูราวกับเปลวเพลิงโชติช่วง มีขนเก้าอันเรียงอยู่ที่ห่างของมัน พวกมันเรียงตรง,แข็งแรง ทนทาน,ราวกับคมดาบ:มีเปลวเพลิงที่กําลังลุกไหม้อยู่ที่ปลายขน
แม้ว่าสัตว์อสูรวิญญาณพวกนี้จะอยู่ระดับ 6 ขั้นกลาง แต่พวกมันก็ยากที่จะรับมือเมื่ออยู่ในอากาศ หากประมาทเลินเล่อ,พวกเขาจะตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ํา
“ซิ่ว!”
เซียวเฉินประทับลูกศรปราณแสงและดึงสายธนู เขาจับจ้องไปที่แร้งเมฆาคะนองด้วยสัมผัสวิญญาณของเขาและปล่อยสายธนู ลูกศรลอยออกไปอย่างรวดเร็ว. เกิดเป็นเสียงเสียดแทงทะลวงไปในอากาศ
มันทะลวงผ่านแร้งเมฆาคะนองตัวหนึ่งและเกิดเป็นรูขนาดใหญ่ แร้งตัวนั้นร้องออกมาอย่างน่าสังเวชและร่วงหล่นลงไปที่พื้น
“ชี! ชี!”
มือของเซียวเฉินยังไม่หยุดเคลื่อนไหว,ยิงออกไปอีกหนึ่งดอก ยิ่งผู้ใช้ทรงพลัง พลังของธนูล่าวิญญาณยิ่งแข็งแกร่ง ทุกสองสามเดือน เมื่อใดก็ตามที่เชี่ยวเฉินหยิบมันออกมาใช้,พลังของมันจะเพิ่มขึ้นมหาศาล
แร้งเมฆาคะนองอีกตัวที่เขาเล็งพยายามจะหลบหลีก อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่อาจหลีกหนีโชคชะตา เกิดรูเลือดทะลักปรากฏขึ้นพร้อมกับเสียง ปัง
“แม่นางซุน, โปรดระวังตัว ข้าจะออกไปสักครู่ และจะรีบกลับมา”
แร้งเมฆาคะนองที่เหลือกสองตัวเข้ามาอยู่ในระยะต่ํากว่าห้าร้อยเมตรจากตัวของเซี่ยวเฉิน หากระยะมันใกล้เกินไป,ผลของธนูล่าวิญญาณจะลดต่ําลง เซี่ยวเฉินสับเปลี่ยนเป็นกระบรรเงาจันทร์และพุ่งออกไปข้างหน้า,ล่อพวกมันให้ห่างออกไป
ซุนเชียนกล่าวอย่างกังวล “ผู้กล้าเย่, โปรดระวังตัว!”
“ซิ่ว!”
แร้งเมฆาคะนองบินอย่างรวดเร็วไปที่หัวของเซียวเฉิน สองกรงเล็บแหลมคมที่สามารถลดขยี้ก้อนหินได้อย่างง่ายดายจับไปที่หัวของเซียวเฉิน
Comments