Immortal and Martial Dual Cultivation 306 พยัคฆ์เหินมังกรทะยาน
ตอนที่ 306 พยัคฆ์เหินมังกรทะยาน
“เจ้ากล้าโอ้อวดสายฟ้ากระจ้อยร่อยต่อหน้าข้า? ประเมินตนสูงไปแล้ว;สลายไปซะ!”
ซุนเหว่ยร้องตะโกน,และกําปั้นวายุของเขาซัด เข้าที่เพลิงแท้อัสนีม่วงของเซียวเฉิน
“ปัง!”
เปลวเพลิงสีม่วงระเบิด;ก่อเกิดคลื่นกระแทก เคลื่อนไปอย่างวุ่นวายในอากาศ พลังมหาศาล ทําให้ซุนเหว่ยตะลึง
กําปั้นของซุนเหว่ยไม่ได้สลายเปลวเพลิงสีม่วง แม้กระทั่งตอนที่เปลวเพลิงสีม่วงระเบิด,พวกมันจะสร้างแรงออกมามหาศาล
“บุม! บุม! บูม!”
ก่อนที่ซุนเหว่ยจะตอบสนอง,เซี่ยวเฉินสะบัดมือสามครั้ง และลูกบอลเพลิงสามลูกถูกยิงตรงไปที่ซุนเหว่ยจากทั่วทิศทาง
ซุนเหว่ยกลับตัวกลางอากาศและกวาดขาของเขา แสงแตกกราดดังขึ้นในอากาศ,และลูกบอลเพลิงสีม่วงทันใดนั้นก็ระเบิดออก,กลายเป็นคลื่นกระแทกสีม่วง
ใช้ลูกเตะนี้ซื้อเวลา,ซุนเหว่ยเร่งเปลี่ยนตําแหน่งและหลบเลี่ยงลูกบอลเพลิงอีกสองลูกที่กําลังบินมาทางเขา
“บูม! บูม! บูม!”
สีหน้าของเซี่ยวเฉินไม่เปลี่ยนแปลง;เขาเพียงส่งลูฏบอลเพลิงสีม่วงออกไปอีกสี่ลูก,เล็งตรงไปที่ซุนเหว่ย
ซุนเหว่ยหน้าซีด เขาได้เตรียมตัวที่จะจู่โจมเซียวเฉินอยู่เมื่อครู่ แต่กลับถูกกดดันให้ถอยกลับอย่างต่อเนื่อง,รับมือกับลูกบอลเพลิงเหล่านี้
ตามกระบวณท่าสบายๆของเซียวเฉิน,ซุนเหว่ยเคลื่อนที่ไปในอากาศตามมาด้วยระเบิดเกิดเป็นสาย
ซันเหว่ยไม่อาจเข้าไปใกล้เซียวเฉิน เขาถูกลูกบอลเพลิงสรม่วงกดดันให้ถอยกลับไปไกลกว่าเดิม
“เพลิงแท้อัสนีม่วง,ผสาน!”
เซี่ยวเฉินร้องตะโกน,และสายฟ้าสีม่วงที่หลงเหลืออยู่ในอากาศทั้งหมดผสานรวมเป็นลูกบอลเพลิงสีม่วงขนาดมหึมา
บอลเพลิงสายฟ้าลูกนี้ดุร้ายอย่างไม่น่าเชื่อ ในวินาทีที่มันปรากฏขึ้น,อุณหภูมิภายในลานหน้า เพิ่มขึ้นหนึ่งพันองศา พืชพรรณในลานถูกเผากรอบสลายเป็นถ่าน
“ปัง!”
ซุนเหว่ย,ผู้ที่ลอยอยู่ในอากาศ,ไม่ทันได้ตั้งตัว เขาทําได้เพียงสร้างเกราะปราณขึ้นมาอย่างรวด
เร็ว
จากนั้น,ลูกไฟอันดุร้ายซัดเข้าที่ซุนเหว่ย เกิดเป็นเสียงดัง,และร่างของเขาถูกระเบิดลอยกลับไป ราวกับกระสอบทราย เขาร่วงหล่นลงมาอย่า.น่าสังเวชก่อนที่จะม้วนกลิ้งไปไกล
มองดูซุนที่กําลังกลิ้งไปเช่นนั้น,ทุกคนล้วน สีหน้าเปลี่ยน สายตาของพวกเขาไม่ได้ดูถูกเหยียดหยามอีกต่อไป
เกินทุกคนสูดหายใจเข้าลึก ระดับความแข็งแกร่งของซุนเหว่ย, อย่างน้อยที่สุด ก็อยู่ในสามสิบอันดับแรกจากหนึ่งร้อยกง่าคนตรงนี้
อย่างไรก็ตาม เซียวเฉินยืนนิ่งไม่ได้ขยับและทําเพียงสะบัดมือไปมาสองสามครั้ง กระนั้น,เขาซัดซุนเหว่ยลอยกระเด็น ความแข็งแกร่งระดับนี้ ทําให้พวกเขาเกรงกลัว
หลายคนจินตนาการถึงตัวเอง ข้อสรุปของพวกเขาคือ,พวกเขาสามารถซัดซุนเหว่ยลอยกลับไปได้,แต่พวกเขาไม่อาจทําได้ง่ายดายอย่างเซียว เฉิน
“ถอนกลับ!”
เซี่ยวเฉินร้องตะโกน,และสองนิ้วบนมือขวาของเขาแนบกัน คลื่นกระแทกสีมีวงในอากาศลอยกลับมาที่ปลายนิ้วของเซียวเฉินอย่างรวดเร็ว ภายในพริบตา,พวกมันเปลี่ยนกลายเป็นวังวนเปลวเพลิงขนาดใหญ่
เปลวเพลิงสีม่วงบีบอัดอย่างต่อเนื่อง, ในที่สุดมันก็กลายเป็นเม็ดไฟเม็ดเล็กๆกําลังร่ายรําอยู่บนนิ้วของเซี่ยวเฉิน
หลังจากที่ซุนเหว่ยม้วนกลิ้งเป็นรอบสุดท้าย,เขาดีดตัวออกจากพื้นแลกลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว สีหน้าของเขามืดมัวอย่างไม่น่าเชื่อพร้อมกับเขาเผยเจตนาสังหารขึ้นในดวงตาของเขา
ซุนเหว่ยคว้าดาบที่ห้อยตรงเอวของเขาอย่าง รวดเร็ว การต่อสู้มือเปล่าเป็นจุดด้อยของเขา เป็น เพราะเซียวเฉินไม่ได้ใช้อาวุธออกมาเมื่อครู่,เขา จึงไม่ได้ชักอาวุธของเขาออกมา เขาไม่คาดคิด ว่าจะถูกตบหน้าต่อสายตาของคนมากมาย
ซุนเหว่ยไม่คิดว่าความแข็งแกร่งของเขาจะอ่อนด้อยไปกว่าเซี่ยวเฉิน,ที่อยู่ระดับขอบเขตนักบุญขั้นกลาง นอกจากนั้น เขายังเป็นผู้บ่มเพาะพลังที่มีจิตวิญญาณยุทธสืบทอด เขาเชื่อว่า,หากเขาปล่อยพลังเต็มพิกัด เซียวเฉินจะไม่ใช่คู่มือ ของเขา
“ไม่มีใครที่จะช่วยเจ้าได้ในวันนี้ ตายซะ! ระเบิดสุริยะ!”
ซุนเหว่ยร้องตะโกนและวาดดาบของเขา ดวงตะวันปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าและเปลี่ยน กลายเป็นดาบแสงรุ่งโรจน์, บินไปที่เซียวเฉิน
เซี่ยวเฉินยิ้มบางเบาและกล่าวเสียงนุ่ม “ปลดปล่อย!”
เมล็ดเปลวเพลิงบนปลายนิ้วของเซียวเฉินพลันเปลี่ยนกลายเป็นมังกรไฟคําราม มันบรรจุแสงสายฟ้าและคลื่นรวามร้อนนับไม่ถ้วนพร้อมกับมัน ทะยานขึ้นไปในอากาศ
น้วนมู่ฉิงสีหน้ากลายเป็นสีเทา นางรู้ว่า หากเป็นเช่นนี้ต่อไปจะน้องมีสักคนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส นี่เป็นไม่เป็นผลดีในภารกิจครั้งนี้
มือสีขาวของนางยื่นขึ้นไปในอากาศ, และกําแพงอากาศลอยขึ้นมาจากพื้น มันก่อตัวขึ้นกั้นกลางระหว่างมังกรไฟและดาบนี้
อุณหภูมิในอากาศลดต่ําลง แม้จะมีแสงอาทิตย์ที่สาดส่องจากท้องฟ้า,ทุกคนล้วนรู้สึกราวกับอยู่ในถ้ําน้ําแข็ง ชั้นน้ําแข็งปกคลุมในลาน
พลังงานเยือกเย็นแปลกประหลาดโจมตีทั้งดาบฉีและมังกรไฟสีม่วง ผู้ที่มองดูอยู่ในขณะนี้ตัวแข็งที่อ
“ปัง!”
ในตอนที่ดาบฉีและมังกรไฟห่างจากกําแพงน้ําแข็งไปห้าเมตร,พวกมันก็แข็งตัว จากนั้นพวกมันก็ชนเข้ากับกําแพงน้ําแข็งและแตกสลายเป็นเกล็ดน้ําแข็งนับไม่ถ้วนในทันที
ตัวนมู่ฉิงทําลายกระบวษท่าของทั้งสองลงพร้อมกัน กระบวณท่านี้เป็นที่ตกตะลึงของผู้ที่อยู่โดยรอบ
เซียวเฉินประหลาดใจเล็กน้อย หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมากว่าหนึ่งปี ความแข็งแกร่งของตัวนมู่ฉิงก็ขึ้นไปถึงระดับที่น่ากลัว
ต้วนมู่ฉิงถอนกลับและสลายกําแพงน้ําแข็ง อุณหภูมิในลานหน้ากลับมาเป็นปกติในทันที ความหนาวเย็นจางหายไป
“ซุนเหว่ย,หากเจ้าอยากที่จะมีส่วนร่วมในภารกิจนี้,เจ้าควรหุบปากให้แน่นและถอนดาบของเจ้ากลับไป” ต้วนมู่ฉิงกล่าวเต่อนอย่างไร้สีหน้า
ซุนเหว่ยเก็บดสบเข้าฝักและสูดจมูกเย็นชา ความแข็งแกร่งที่ตัวนมาฉิงแสดงออกมาทําให้เขาไม่กล้าที่จะบ้าบินเหมือนเมื่อครู่ เขามองไปที่เซียวเฉินอย่างเย็นชาและกล่าว “ขยะศาลากระบี่สวรรค์,เจ้าควรภาวนาไม่ให้เจอข้าหลังจากที่ภารกิจจบลง”
“บูม!”
ขณะที่สิ้นเสียงของซุนเหว่ย,อัสนีร้องคํารามบนท้องฟ้าอย่างไร้เหตุผลมันเสียงดังกึกก้อง
แสงวูบไหวในดวงตาของเซี่ยวเฉินที่นิ่งสงบ เจตนารมณ์ฆ่าฟันพลุ่งพล่านในทันทีที่มือขวาของเขาจับไปที่ด้ามกระบี่
“รองเท้าก้าววายุทํางาน! มังกรฟ้าเมฆาทะยานระดับสูงสุด,เก้าร่างมังกรสัญจร! ทักษะลับยอดเขาฉิงหยุน,สับวายุใส!”
ทันใดนั้น,สายลมเก้าสายพัดผ่านในลาน ขณะที่สายลมเย็นพัดผ่าน,ทุกคนรู้สึกเย็นสบาย ร่างของเซี่ยวเฉินแยกออกเป็นเก้าอย่างไม่คาดคิด
เชี่ยวเฉินวาดกระบี่ของเขา และกระบี่แสงรุ่งโรจน์เก้าเล่มถูกจัดขึ้น อย่างไรก็ตาม ไม่มีผู้ใดรู้สึกถึงเจตนาฆ่าฟัน ภายใต้การช่วยเหลือของรองเท้าก้าววายุ,ความเร็วของเซียวเฉินทะลวงกําแพงเสียงในทันที
กระบี่แสงลอยไปรอบๆอย่างอลหม่าน,เคลื่อนไหวรวดเร็วดั่งสายฟ้า ร่างทั้งเก้าดุจดั่งสายลม,เป็นที่ตื่นตาของทุกคน;พวกมันไม่อาจแยกแยะความแตกต่างระหว่างของจริงหรือร่างลอม
“บูม!”
ในตอนที่สายลมหยุดลง,ร่างทั้งเก้าผสานกัน,และเก้าบาดแผลปรากฏขึ้นบนร่างของซุนเหว่ย เขาไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะชักดาบของเขาออกมา
คมกระบี่ของเงาจันทร์กดลงบนคอของซุนเหว่ย เขาไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ เลือดโลหิตไหลออกมาจากบาดแผลของเขา
สีหน้าของซุนเหว่ยซีดเซียวในทันที คมกระบี่ที่คอของเขาทําให้เขาได้สัมผัสความตายอย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรก แม้แต่บาดแผลทั้งหมดของเขาก็กลายเป็นด้านชา;เขาสูญเสียประสาทสัมผัสทั้งหมด
มือของเซียวเฉินขยับเล็กน้อยกรีดลงบนผิวที่คอของซุนเหว่ย,มีหยดเลือดไหลออกมา เขากล่าวอย่างเฉยเมย “ตอนนี้ข้ามาเจอเจ้าแล้ว,เจ้าคิดว่าไง?”
ซุนเหว่ยหน้าซีดจัด;เขาเกรี้ยวโกรธเป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม ในตอนที่เขามองเห็นดวงตาอันเย็นชาของเซียวเฉิน,เขาไม่กล้าที่จะตอบโต้ เขารู้สึกได้ว่า,หากว่าเขาแสดงท่าทีขัดขืนแม้แต่น้อย,คนผู้นี้จะลงมือสังหารเขาโดยปราศจากความลังเล
หากไม่มีมู่เฉิงเสวี่ย,บุคคลที่เป็นผู้นําความสามารถที่โดดเด่นของแคว้นหนานหลิงก็คือจีชางคง
ตอนนี้เซี่ยวเฉินหันคมกระบี่เข้าหาซุนเหว่ย มันคงไม่เหมาะสมที่ผู้นําแคว้นหนานหลิง,จีชางคงจะไม่พูดอะไรเลย
จีชางคงยืนขึ้นและค่อยๆตรงเข้ามา ดวงดาวถูกทําลายและก่อเกิดใหม่ในดวงตาของเขา,ก่อเกิดเป็นทะเลดาวอันไร้ขอบเขต
นี่ทําให้ดวงตาของจีชางคงดูไร้ที่สิ้นสุด มันดูเหมือน,หากไม่ทันระวัง,พวกเขานะถูกดูดเข้าไป
จีชางคงเดินมาที่ระยะสิบเมตรจากเซี่ยวเฉิน จากนั้นเขาก็กล่าวเสียงมืดมัว “สหาย,ข้าคิดว่าเจ้าทําเกินเลยไปหน่อย”
เซี่ยวเฉินหันมาและพบกับสายตาของจีชางคง เขากล่าวอย่างไม่แยแส “เกินเลยเช่นไร? เขามีสิทธิ์ที่จะมาตบหน้าข้าโดยที่ไม่อาจตอบโต้?”
ในวินาทีที่เซียวเฉินเดินเข้ามาในลาน,ซุนเหว่ยเหยียดหยามเซียวเฉิน แม้ว่าเซี่ยวเฉินไม่อาจจะไปใส่ใจ แต่เขาก็ไม่ใช่พ่อพระมาจากไหน ที่จะถูกใครเหยียดหยามโดยไม่ตอบโต้
ครั้งที่สอง,หลังจบการโจมตีของซุนเหว่ย,เขาก็คุกคามเซียวเฉินอีกในทันที นี่มันก้าวผ่านขีดจํากัดสุดท้ายของเซียวเฉิน
แม้ว่าเซี่ยวเฉินจะให้โทษประหารกับคนผู้นี้แล้ว,เขาก็ไม่ได้คิดจะสังหารคนผู้นี้ลงตรงนี้
ภารกิจครั้งนี้ไม่ใช่ธรรมดา ปราศจากการแสดงพลังออกมาสักเล็กน้อย,เขาอาจจะไม่รับคุณสมบัติให้เข้าร่วม
เซียวเฉินจัดกระบวณท่าใหญ่ให้เป็นการเตือน ในขณะเดียวกัน,เขายังพิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งของตัวเขาเอง,ดังนั้นซุนเหว่ยไม่กล้าที่จะซื้อ
นี่เป็นวิถีของโลกใบนี้ หากเซียวเฉินแสดงพลังตั้งแต่ต้น,จะไม่มีคําถามมากมายถึงคุณสมบัติของเขา
จีชางคงมองไปที่บาดแผลของซุนเหว่ยและกล่าว “ปล่อยเขาลงก่อน ข้า,จีชางคง,รับประกันว่าซุนเหว่ยจะไม่ก่อปัญหาให้กับเจ้าระหว่างภารกิจ เจ้าสามารถเข้ารวมการเผชิญโชคในครั้งนี้”
เขาจะไม่สร้างปัญหาระหว่างภารกิจ,แต่หลังจากนั้นก็ไม่ใช่ธุระของจีชางคงอีกต่อไป เซียวเฉินครุ่นคิดกับตัวเองและยิ้มขึ้น จีชางคงรู้วิธีการใช้คํา
อย่างไรก็ตาม,เซี่ยวเฉินก็บรรลุจุดประสงค์ของเขาแล้ว มันเป็นเรื่องดีที่เขาจะถอย หากอีกฝ่ายอยากจะมาหาเรื่องหลังจากจบภารกิจ:เซี่ยวเฉิน เพียงสังหารซุนเหว่ยไปซะ
“ปะ ปะ!”
เซี่ยวเฉินเก็บกระบี่ของเขาและกล่าวอย่างเฉยเมย “ข้าหวังว่าคําของเจ้าจะมีน้ําหนัก”
ซุนเหว่ยรู้สึกได้ปลดปล่อย เขารีบกดจุดปราณที่หน้าอกของเขาเพื่อหยุดเลือด สานุศิษย์ตระกูลซุนสองคนตามเข้ามาช่วยเหลือเขาในทันที
“ฟุ ฟิว!”
ในทันทีที่เซียวเฉินหันกลับ,จีชางคงลงมือ ดวง ดาวบนท้องฟ้าสั่นไหว,และเขาส่งฝ่ามือยู่โจม ออกมา แสงดาวฉายไปทั่วทุกที่ พื้นที่ในระยะ หนึ่งร้อยเมตรรอบตัวจีชางคงดูเหนือนกับเปลี่ยน ไปเป็นธารดารารุ่งโรจน์
“ข้ารับรองว่าซุนเหว่ยจะไม่สร้างปัญหาให้กับเจ้า,แต่ข้าไม่ได้รับประกันตัวข้าเอง อย่าคิดว่าไม่มีคนอื่นในแคว้นหนานหลิงของพวกเราและเจ้าจะทําอะไรก็ได้” จีชางคงกล่าวด้วยท่าทางที่โหดเหี้ยม
เซียวเฉินหมุนตัวกลับและพยัคฆ์กับมังกรหมื่นวนไปรอบตัวของเขา สลักร่างพยัคฆ์มังกรโคจรอย่างรวดเร็ว เขาชกหมัดออกไปด้วยพยัคฆ์เหินมังกรทะยาน,ต้อนรับฝ่ามือของจีชางคง
“ปัง!”
ในตอนที่กําปั้นและฝ่ามือปะทะกัน, เกิดเสียงอันดังขึ้น คลื่นกระแทกรุนแรงขยายออก,เปลี่ยนกลายเป็นสายลมแข็งแกร่ง สายลมพัดปลิวเสื้อผ้าหน้าผมของทุกคน
ดวงดาวที่อยู่ด้านหลังของจีชางคงซึมซับเข้าไปในฝ่ามือของเขาคงามแข็งแกร่งของธารดาราทั้งหมดรวมเข้าด้วยกัน
อย่างไรก็ตามเชี่ยวเฉินได้ใช้กระบวณท่าสุดท้ายของหมัดพยัคฆ์มังกร พยัคฆ์เห็นมังกรทะยาน นี่เป็นครั้งแรกที่เซี่ยวเฉินใช้กระบวณท่านี้หลังจากที่เขาขึ้นมาถึงชั้นที่ห้าของสลักร่างพยัคฆ์มังกร
ความแข็งแกร่งของเซียวเฉินขึ้นมาถึงห้าหมื่นกิโลกรัม ด้านกระแสพลังและคงามแข็งแกร่ง,เขาไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่าฝ่ายตรงข้ามของเขา
Comments
Immortal and Martial Dual Cultivation 306 พยัคฆ์เหินมังกรทะยาน
ตอนที่ 306 พยัคฆ์เหินมังกรทะยาน
“เจ้ากล้าโอ้อวดสายฟ้ากระจ้อยร่อยต่อหน้าข้า? ประเมินตนสูงไปแล้ว;สลายไปซะ!”
ซุนเหว่ยร้องตะโกน,และกําปั้นวายุของเขาซัด เข้าที่เพลิงแท้อัสนีม่วงของเซียวเฉิน
“ปัง!”
เปลวเพลิงสีม่วงระเบิด;ก่อเกิดคลื่นกระแทก เคลื่อนไปอย่างวุ่นวายในอากาศ พลังมหาศาล ทําให้ซุนเหว่ยตะลึง
กําปั้นของซุนเหว่ยไม่ได้สลายเปลวเพลิงสีม่วง แม้กระทั่งตอนที่เปลวเพลิงสีม่วงระเบิด,พวกมันจะสร้างแรงออกมามหาศาล
“บุม! บุม! บูม!”
ก่อนที่ซุนเหว่ยจะตอบสนอง,เซี่ยวเฉินสะบัดมือสามครั้ง และลูกบอลเพลิงสามลูกถูกยิงตรงไปที่ซุนเหว่ยจากทั่วทิศทาง
ซุนเหว่ยกลับตัวกลางอากาศและกวาดขาของเขา แสงแตกกราดดังขึ้นในอากาศ,และลูกบอลเพลิงสีม่วงทันใดนั้นก็ระเบิดออก,กลายเป็นคลื่นกระแทกสีม่วง
ใช้ลูกเตะนี้ซื้อเวลา,ซุนเหว่ยเร่งเปลี่ยนตําแหน่งและหลบเลี่ยงลูกบอลเพลิงอีกสองลูกที่กําลังบินมาทางเขา
“บูม! บูม! บูม!”
สีหน้าของเซี่ยวเฉินไม่เปลี่ยนแปลง;เขาเพียงส่งลูฏบอลเพลิงสีม่วงออกไปอีกสี่ลูก,เล็งตรงไปที่ซุนเหว่ย
ซุนเหว่ยหน้าซีด เขาได้เตรียมตัวที่จะจู่โจมเซียวเฉินอยู่เมื่อครู่ แต่กลับถูกกดดันให้ถอยกลับอย่างต่อเนื่อง,รับมือกับลูกบอลเพลิงเหล่านี้
ตามกระบวณท่าสบายๆของเซียวเฉิน,ซุนเหว่ยเคลื่อนที่ไปในอากาศตามมาด้วยระเบิดเกิดเป็นสาย
ซันเหว่ยไม่อาจเข้าไปใกล้เซียวเฉิน เขาถูกลูกบอลเพลิงสรม่วงกดดันให้ถอยกลับไปไกลกว่าเดิม
“เพลิงแท้อัสนีม่วง,ผสาน!”
เซี่ยวเฉินร้องตะโกน,และสายฟ้าสีม่วงที่หลงเหลืออยู่ในอากาศทั้งหมดผสานรวมเป็นลูกบอลเพลิงสีม่วงขนาดมหึมา
บอลเพลิงสายฟ้าลูกนี้ดุร้ายอย่างไม่น่าเชื่อ ในวินาทีที่มันปรากฏขึ้น,อุณหภูมิภายในลานหน้า เพิ่มขึ้นหนึ่งพันองศา พืชพรรณในลานถูกเผากรอบสลายเป็นถ่าน
“ปัง!”
ซุนเหว่ย,ผู้ที่ลอยอยู่ในอากาศ,ไม่ทันได้ตั้งตัว เขาทําได้เพียงสร้างเกราะปราณขึ้นมาอย่างรวด
เร็ว
จากนั้น,ลูกไฟอันดุร้ายซัดเข้าที่ซุนเหว่ย เกิดเป็นเสียงดัง,และร่างของเขาถูกระเบิดลอยกลับไป ราวกับกระสอบทราย เขาร่วงหล่นลงมาอย่า.น่าสังเวชก่อนที่จะม้วนกลิ้งไปไกล
มองดูซุนที่กําลังกลิ้งไปเช่นนั้น,ทุกคนล้วน สีหน้าเปลี่ยน สายตาของพวกเขาไม่ได้ดูถูกเหยียดหยามอีกต่อไป
เกินทุกคนสูดหายใจเข้าลึก ระดับความแข็งแกร่งของซุนเหว่ย, อย่างน้อยที่สุด ก็อยู่ในสามสิบอันดับแรกจากหนึ่งร้อยกง่าคนตรงนี้
อย่างไรก็ตาม เซียวเฉินยืนนิ่งไม่ได้ขยับและทําเพียงสะบัดมือไปมาสองสามครั้ง กระนั้น,เขาซัดซุนเหว่ยลอยกระเด็น ความแข็งแกร่งระดับนี้ ทําให้พวกเขาเกรงกลัว
หลายคนจินตนาการถึงตัวเอง ข้อสรุปของพวกเขาคือ,พวกเขาสามารถซัดซุนเหว่ยลอยกลับไปได้,แต่พวกเขาไม่อาจทําได้ง่ายดายอย่างเซียว เฉิน
“ถอนกลับ!”
เซี่ยวเฉินร้องตะโกน,และสองนิ้วบนมือขวาของเขาแนบกัน คลื่นกระแทกสีมีวงในอากาศลอยกลับมาที่ปลายนิ้วของเซียวเฉินอย่างรวดเร็ว ภายในพริบตา,พวกมันเปลี่ยนกลายเป็นวังวนเปลวเพลิงขนาดใหญ่
เปลวเพลิงสีม่วงบีบอัดอย่างต่อเนื่อง, ในที่สุดมันก็กลายเป็นเม็ดไฟเม็ดเล็กๆกําลังร่ายรําอยู่บนนิ้วของเซี่ยวเฉิน
หลังจากที่ซุนเหว่ยม้วนกลิ้งเป็นรอบสุดท้าย,เขาดีดตัวออกจากพื้นแลกลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว สีหน้าของเขามืดมัวอย่างไม่น่าเชื่อพร้อมกับเขาเผยเจตนาสังหารขึ้นในดวงตาของเขา
ซุนเหว่ยคว้าดาบที่ห้อยตรงเอวของเขาอย่าง รวดเร็ว การต่อสู้มือเปล่าเป็นจุดด้อยของเขา เป็น เพราะเซียวเฉินไม่ได้ใช้อาวุธออกมาเมื่อครู่,เขา จึงไม่ได้ชักอาวุธของเขาออกมา เขาไม่คาดคิด ว่าจะถูกตบหน้าต่อสายตาของคนมากมาย
ซุนเหว่ยไม่คิดว่าความแข็งแกร่งของเขาจะอ่อนด้อยไปกว่าเซี่ยวเฉิน,ที่อยู่ระดับขอบเขตนักบุญขั้นกลาง นอกจากนั้น เขายังเป็นผู้บ่มเพาะพลังที่มีจิตวิญญาณยุทธสืบทอด เขาเชื่อว่า,หากเขาปล่อยพลังเต็มพิกัด เซียวเฉินจะไม่ใช่คู่มือ ของเขา
“ไม่มีใครที่จะช่วยเจ้าได้ในวันนี้ ตายซะ! ระเบิดสุริยะ!”
ซุนเหว่ยร้องตะโกนและวาดดาบของเขา ดวงตะวันปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าและเปลี่ยน กลายเป็นดาบแสงรุ่งโรจน์, บินไปที่เซียวเฉิน
เซี่ยวเฉินยิ้มบางเบาและกล่าวเสียงนุ่ม “ปลดปล่อย!”
เมล็ดเปลวเพลิงบนปลายนิ้วของเซียวเฉินพลันเปลี่ยนกลายเป็นมังกรไฟคําราม มันบรรจุแสงสายฟ้าและคลื่นรวามร้อนนับไม่ถ้วนพร้อมกับมัน ทะยานขึ้นไปในอากาศ
น้วนมู่ฉิงสีหน้ากลายเป็นสีเทา นางรู้ว่า หากเป็นเช่นนี้ต่อไปจะน้องมีสักคนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส นี่เป็นไม่เป็นผลดีในภารกิจครั้งนี้
มือสีขาวของนางยื่นขึ้นไปในอากาศ, และกําแพงอากาศลอยขึ้นมาจากพื้น มันก่อตัวขึ้นกั้นกลางระหว่างมังกรไฟและดาบนี้
อุณหภูมิในอากาศลดต่ําลง แม้จะมีแสงอาทิตย์ที่สาดส่องจากท้องฟ้า,ทุกคนล้วนรู้สึกราวกับอยู่ในถ้ําน้ําแข็ง ชั้นน้ําแข็งปกคลุมในลาน
พลังงานเยือกเย็นแปลกประหลาดโจมตีทั้งดาบฉีและมังกรไฟสีม่วง ผู้ที่มองดูอยู่ในขณะนี้ตัวแข็งที่อ
“ปัง!”
ในตอนที่ดาบฉีและมังกรไฟห่างจากกําแพงน้ําแข็งไปห้าเมตร,พวกมันก็แข็งตัว จากนั้นพวกมันก็ชนเข้ากับกําแพงน้ําแข็งและแตกสลายเป็นเกล็ดน้ําแข็งนับไม่ถ้วนในทันที
ตัวนมู่ฉิงทําลายกระบวษท่าของทั้งสองลงพร้อมกัน กระบวณท่านี้เป็นที่ตกตะลึงของผู้ที่อยู่โดยรอบ
เซียวเฉินประหลาดใจเล็กน้อย หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมากว่าหนึ่งปี ความแข็งแกร่งของตัวนมู่ฉิงก็ขึ้นไปถึงระดับที่น่ากลัว
ต้วนมู่ฉิงถอนกลับและสลายกําแพงน้ําแข็ง อุณหภูมิในลานหน้ากลับมาเป็นปกติในทันที ความหนาวเย็นจางหายไป
“ซุนเหว่ย,หากเจ้าอยากที่จะมีส่วนร่วมในภารกิจนี้,เจ้าควรหุบปากให้แน่นและถอนดาบของเจ้ากลับไป” ต้วนมู่ฉิงกล่าวเต่อนอย่างไร้สีหน้า
ซุนเหว่ยเก็บดสบเข้าฝักและสูดจมูกเย็นชา ความแข็งแกร่งที่ตัวนมาฉิงแสดงออกมาทําให้เขาไม่กล้าที่จะบ้าบินเหมือนเมื่อครู่ เขามองไปที่เซียวเฉินอย่างเย็นชาและกล่าว “ขยะศาลากระบี่สวรรค์,เจ้าควรภาวนาไม่ให้เจอข้าหลังจากที่ภารกิจจบลง”
“บูม!”
ขณะที่สิ้นเสียงของซุนเหว่ย,อัสนีร้องคํารามบนท้องฟ้าอย่างไร้เหตุผลมันเสียงดังกึกก้อง
แสงวูบไหวในดวงตาของเซี่ยวเฉินที่นิ่งสงบ เจตนารมณ์ฆ่าฟันพลุ่งพล่านในทันทีที่มือขวาของเขาจับไปที่ด้ามกระบี่
“รองเท้าก้าววายุทํางาน! มังกรฟ้าเมฆาทะยานระดับสูงสุด,เก้าร่างมังกรสัญจร! ทักษะลับยอดเขาฉิงหยุน,สับวายุใส!”
ทันใดนั้น,สายลมเก้าสายพัดผ่านในลาน ขณะที่สายลมเย็นพัดผ่าน,ทุกคนรู้สึกเย็นสบาย ร่างของเซี่ยวเฉินแยกออกเป็นเก้าอย่างไม่คาดคิด
เชี่ยวเฉินวาดกระบี่ของเขา และกระบี่แสงรุ่งโรจน์เก้าเล่มถูกจัดขึ้น อย่างไรก็ตาม ไม่มีผู้ใดรู้สึกถึงเจตนาฆ่าฟัน ภายใต้การช่วยเหลือของรองเท้าก้าววายุ,ความเร็วของเซียวเฉินทะลวงกําแพงเสียงในทันที
กระบี่แสงลอยไปรอบๆอย่างอลหม่าน,เคลื่อนไหวรวดเร็วดั่งสายฟ้า ร่างทั้งเก้าดุจดั่งสายลม,เป็นที่ตื่นตาของทุกคน;พวกมันไม่อาจแยกแยะความแตกต่างระหว่างของจริงหรือร่างลอม
“บูม!”
ในตอนที่สายลมหยุดลง,ร่างทั้งเก้าผสานกัน,และเก้าบาดแผลปรากฏขึ้นบนร่างของซุนเหว่ย เขาไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะชักดาบของเขาออกมา
คมกระบี่ของเงาจันทร์กดลงบนคอของซุนเหว่ย เขาไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ เลือดโลหิตไหลออกมาจากบาดแผลของเขา
สีหน้าของซุนเหว่ยซีดเซียวในทันที คมกระบี่ที่คอของเขาทําให้เขาได้สัมผัสความตายอย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรก แม้แต่บาดแผลทั้งหมดของเขาก็กลายเป็นด้านชา;เขาสูญเสียประสาทสัมผัสทั้งหมด
มือของเซียวเฉินขยับเล็กน้อยกรีดลงบนผิวที่คอของซุนเหว่ย,มีหยดเลือดไหลออกมา เขากล่าวอย่างเฉยเมย “ตอนนี้ข้ามาเจอเจ้าแล้ว,เจ้าคิดว่าไง?”
ซุนเหว่ยหน้าซีดจัด;เขาเกรี้ยวโกรธเป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม ในตอนที่เขามองเห็นดวงตาอันเย็นชาของเซียวเฉิน,เขาไม่กล้าที่จะตอบโต้ เขารู้สึกได้ว่า,หากว่าเขาแสดงท่าทีขัดขืนแม้แต่น้อย,คนผู้นี้จะลงมือสังหารเขาโดยปราศจากความลังเล
หากไม่มีมู่เฉิงเสวี่ย,บุคคลที่เป็นผู้นําความสามารถที่โดดเด่นของแคว้นหนานหลิงก็คือจีชางคง
ตอนนี้เซี่ยวเฉินหันคมกระบี่เข้าหาซุนเหว่ย มันคงไม่เหมาะสมที่ผู้นําแคว้นหนานหลิง,จีชางคงจะไม่พูดอะไรเลย
จีชางคงยืนขึ้นและค่อยๆตรงเข้ามา ดวงดาวถูกทําลายและก่อเกิดใหม่ในดวงตาของเขา,ก่อเกิดเป็นทะเลดาวอันไร้ขอบเขต
นี่ทําให้ดวงตาของจีชางคงดูไร้ที่สิ้นสุด มันดูเหมือน,หากไม่ทันระวัง,พวกเขานะถูกดูดเข้าไป
จีชางคงเดินมาที่ระยะสิบเมตรจากเซี่ยวเฉิน จากนั้นเขาก็กล่าวเสียงมืดมัว “สหาย,ข้าคิดว่าเจ้าทําเกินเลยไปหน่อย”
เซี่ยวเฉินหันมาและพบกับสายตาของจีชางคง เขากล่าวอย่างไม่แยแส “เกินเลยเช่นไร? เขามีสิทธิ์ที่จะมาตบหน้าข้าโดยที่ไม่อาจตอบโต้?”
ในวินาทีที่เซียวเฉินเดินเข้ามาในลาน,ซุนเหว่ยเหยียดหยามเซียวเฉิน แม้ว่าเซี่ยวเฉินไม่อาจจะไปใส่ใจ แต่เขาก็ไม่ใช่พ่อพระมาจากไหน ที่จะถูกใครเหยียดหยามโดยไม่ตอบโต้
ครั้งที่สอง,หลังจบการโจมตีของซุนเหว่ย,เขาก็คุกคามเซียวเฉินอีกในทันที นี่มันก้าวผ่านขีดจํากัดสุดท้ายของเซียวเฉิน
แม้ว่าเซี่ยวเฉินจะให้โทษประหารกับคนผู้นี้แล้ว,เขาก็ไม่ได้คิดจะสังหารคนผู้นี้ลงตรงนี้
ภารกิจครั้งนี้ไม่ใช่ธรรมดา ปราศจากการแสดงพลังออกมาสักเล็กน้อย,เขาอาจจะไม่รับคุณสมบัติให้เข้าร่วม
เซียวเฉินจัดกระบวณท่าใหญ่ให้เป็นการเตือน ในขณะเดียวกัน,เขายังพิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งของตัวเขาเอง,ดังนั้นซุนเหว่ยไม่กล้าที่จะซื้อ
นี่เป็นวิถีของโลกใบนี้ หากเซียวเฉินแสดงพลังตั้งแต่ต้น,จะไม่มีคําถามมากมายถึงคุณสมบัติของเขา
จีชางคงมองไปที่บาดแผลของซุนเหว่ยและกล่าว “ปล่อยเขาลงก่อน ข้า,จีชางคง,รับประกันว่าซุนเหว่ยจะไม่ก่อปัญหาให้กับเจ้าระหว่างภารกิจ เจ้าสามารถเข้ารวมการเผชิญโชคในครั้งนี้”
เขาจะไม่สร้างปัญหาระหว่างภารกิจ,แต่หลังจากนั้นก็ไม่ใช่ธุระของจีชางคงอีกต่อไป เซียวเฉินครุ่นคิดกับตัวเองและยิ้มขึ้น จีชางคงรู้วิธีการใช้คํา
อย่างไรก็ตาม,เซี่ยวเฉินก็บรรลุจุดประสงค์ของเขาแล้ว มันเป็นเรื่องดีที่เขาจะถอย หากอีกฝ่ายอยากจะมาหาเรื่องหลังจากจบภารกิจ:เซี่ยวเฉิน เพียงสังหารซุนเหว่ยไปซะ
“ปะ ปะ!”
เซี่ยวเฉินเก็บกระบี่ของเขาและกล่าวอย่างเฉยเมย “ข้าหวังว่าคําของเจ้าจะมีน้ําหนัก”
ซุนเหว่ยรู้สึกได้ปลดปล่อย เขารีบกดจุดปราณที่หน้าอกของเขาเพื่อหยุดเลือด สานุศิษย์ตระกูลซุนสองคนตามเข้ามาช่วยเหลือเขาในทันที
“ฟุ ฟิว!”
ในทันทีที่เซียวเฉินหันกลับ,จีชางคงลงมือ ดวง ดาวบนท้องฟ้าสั่นไหว,และเขาส่งฝ่ามือยู่โจม ออกมา แสงดาวฉายไปทั่วทุกที่ พื้นที่ในระยะ หนึ่งร้อยเมตรรอบตัวจีชางคงดูเหนือนกับเปลี่ยน ไปเป็นธารดารารุ่งโรจน์
“ข้ารับรองว่าซุนเหว่ยจะไม่สร้างปัญหาให้กับเจ้า,แต่ข้าไม่ได้รับประกันตัวข้าเอง อย่าคิดว่าไม่มีคนอื่นในแคว้นหนานหลิงของพวกเราและเจ้าจะทําอะไรก็ได้” จีชางคงกล่าวด้วยท่าทางที่โหดเหี้ยม
เซียวเฉินหมุนตัวกลับและพยัคฆ์กับมังกรหมื่นวนไปรอบตัวของเขา สลักร่างพยัคฆ์มังกรโคจรอย่างรวดเร็ว เขาชกหมัดออกไปด้วยพยัคฆ์เหินมังกรทะยาน,ต้อนรับฝ่ามือของจีชางคง
“ปัง!”
ในตอนที่กําปั้นและฝ่ามือปะทะกัน, เกิดเสียงอันดังขึ้น คลื่นกระแทกรุนแรงขยายออก,เปลี่ยนกลายเป็นสายลมแข็งแกร่ง สายลมพัดปลิวเสื้อผ้าหน้าผมของทุกคน
ดวงดาวที่อยู่ด้านหลังของจีชางคงซึมซับเข้าไปในฝ่ามือของเขาคงามแข็งแกร่งของธารดาราทั้งหมดรวมเข้าด้วยกัน
อย่างไรก็ตามเชี่ยวเฉินได้ใช้กระบวณท่าสุดท้ายของหมัดพยัคฆ์มังกร พยัคฆ์เห็นมังกรทะยาน นี่เป็นครั้งแรกที่เซี่ยวเฉินใช้กระบวณท่านี้หลังจากที่เขาขึ้นมาถึงชั้นที่ห้าของสลักร่างพยัคฆ์มังกร
ความแข็งแกร่งของเซียวเฉินขึ้นมาถึงห้าหมื่นกิโลกรัม ด้านกระแสพลังและคงามแข็งแกร่ง,เขาไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่าฝ่ายตรงข้ามของเขา
Comments