Immortal and Martial Dual Cultivationบทที่ 339 ส่งผล
ตอนที่ 339 ส่งผล
อ่าวเจียวยิ้มขึ้นอย่างมีเสน่ห์และกล่าว “เรื่องมันยาว ขาสามารถเล่ารายละเอียดให้เจ้าฟัง แต่อย่างไรก็ตาม,เขาจะเล่าเพียงครั้งเดียว หากเจ้าไม่เข้าใจ ก็แย่หน่อย อย่าได้ถามข้าซ้ําอีกครั้ง”
อ่าวเจียวบอกว่านางจะเล่าเพียงรอบเดียว นั่นหมายความว่านางจะอธิบายเพียงครั้งเดียวเท่านั้น เซียวเฉินไม่อาจทําอะไรได้นอกจากเอียงหูฟังอย่างระมัดระวัง
“วิธีการหลอมและวัตถุดิบของกระบี่เงาจันทร์ทั้งหมดล้วนคุณภาพสูงสุด อย่างไรก็ตามเงื่อนไขในการก่อเกิดวิญญาณอาวุธมันสาหัสเกินไป เดิมที่ข้าคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่กระบี่เงาจันทร์จะก่อเกิดวิญญาณอาวุธขึ้นมาได้ด้วยตัวของมันเอง ดังนั้นข้าจึงผนึกตัวข้าเองลงไปในกระบี่”
“อย่างไรก็ตาม,สถานการณ์มันเกินกว่าที่ข้าคาดการณ์เอาไว้ ขณะที่ข้ากําลังหลับ ไหล,วิญญาณอาวุธค่อยๆก่อตัวขึ้นมาในกระบี่เงาจันทร์ มันอยู่ในสภาวะการอยู่ร่วมกันกับข้า”
“แม้ว่าข้าจะได้ผนึกตัวเองในตอนนั้น,ข้าก็สามารถแบ่งพลังส่วนหนึ่งของข้ามากดนางเอาไว้ และไม่ให้นางยึดการควบคุมไป แต่อย่างไรก็ตาม,หลังจากที่หลิวหรูเยาฝืนปลุกข้าขึ้นมาในครั้งก่อน,ข้าสูญเสียพลังไปมาก ข้าได้เข้าสู่การหลับลึกและนางก็ยึดการควบคุมไป”
“หากไม่ใช่เพราะการต่อสู้กับเจ้ากับนาง, ที่ทําให้นางจ่ายพลังออกไปอย่างมาก,มันจะต้องใช้เวลายาวนานกว่าข้าจะตื่นขึ้น”
เซียวเฉินรู้แจ้ง,เป็นเช่นนี้นี่เอง เขาก็รู้สึกว่ามันแปลกประหลาด ด้วยความแข็งแกร่งของอ่าวเจียว,นางจะยินยอมให้คนอื่นมากลายเป็นวิญญาณอาวุธของกระบี่เงาจันทร์ได้อย่างไร?
“นั้นเป็นเหตุผลว่าทําไมนางถึงไม่รู้จักข้าในฐานะเจ้านาย? นอกจากนั้น,นางยังเห็นข้าเป็นศัตรู”
อ่าวเจียวอธิบาย “วิญญาณอาวุธทุกตนก็เป็นแบบนั้น นี่เป็นกลไกการป้องกันตัวเองของวิญญาณอาวุธ ในตอนแรกที่ข้าก่อเกิด,จักรพรรดิอัสนี้ก็เป็นขยะในสายตาข้าเช่นกัน หากเจ้าไม่มีพลังที่ยิ่งใหญ่,วิญญาณอาวุธจะจดจําเจ้าในฐานะเจ้านายได้อย่างไร?”
“อย่างไรก็ตาม,เมื่อพวกเขาได้ถูกจดจําในฐานะเจ้านายแล้ว,อาวุธวิญญาณจะภักดีอย่างสมบูรณ์ พวกเขาจะไม่มีทางทรยศเจ้า”
เซี่ยวเฉินรู้สึกงุนงงและกล่าวขึ้น “เมื่อเป็นเช่นนั้น,ความสัมพันธ์ของเจ้ากับข้าเป็นอย่างไรกันแน่? เจ้าแข็งแกร่งกว่าข้ามาก นั้นหมายความว่าข้าจะไม่ใช่เจ้าที่แท้จริงของเจ้าไปอีกนาน?”
เมื่ออ่าวเจียวได้ยินเช่นนั้น,นางกล่าวอย่างเป็นสุข “ถูกต้อง! ดังนั้น,เจ้านายน่าโง่,เจ้าต้องรีบแข็งแกร่งขึ้น หากเจ้าไม่แม้แต่จะปกป้องข้าได้,เจ้าจะกลายมาเป็นเจ้านายของข้าได้อย่างไร?”
เซียวเฉินหมดคําพูด จากความแข็งแกร่งที่อ่าวเจียวแสดงออกมา,นางอยู่ที่ระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธขั้นสูงเป็นอย่างน้อย เซียวเฉินไม่รู้ว่ายาวนานถึงเพียงใดที่เขาจะแข็งแกร่งได้ถึงระดับนั้น
มองดูเซายวเฉินที่กําลังครุ่นคิด,อ่าวเจียวหัวเราะและกล่าวขึ้น “ลุกขึ้น,เจ้านายน่าโง่ ด้วยความทะเยอทะยาน,ไม่จําเป็นต้องเกรงกลัวความสูงของสวรรค์”
“อย่าไปคิดมาก ข้าจะวิญญาณกระบี่กับกระบี่เงาจันทร์ในมือของเจ้าเป็นอันดับแรก จากนั้นเจ้าจะสามารถสําเร็จถึงการฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมัน”
เซี่ยวเฉันลุกขึ้นยืนและจ้องมองไปที่กระบี่เงาจันทร์ในมือของอ่าวเจียว เขาถามขึ้นอย่างไม่เชื่อ “ง่ายดายเช่นนี้?”
ทุกคนรู้ว่าหลิวหรูเยว่ได้ทุ่มเทอย่างมาเพื่อช่วยให้เซียวเฉินเข้าใจถึงฟังเสียงของดาบและสี่สารกับมัน อย่างไรก็ตาม หลังจากทุ่มเทไปทั้งหมด,เขาสามารถจับจุดได้เพียงเล็กน้อยและไม่อาจเข้าใจมันได้อย่างสมบูรณ์
อ่าวเจียวยิ้มและกล่าว “วิธีการของสาวน้อยผู้นั้นถูกต้องแล้ว อย่างไรก็ตาม,นางไม่ได้คาดคิดว่าจะมีวิญญาณอาวุธอีกตนอยู่ตรงนี้ วิญญาณอาวุธมีกลไกการป้องกันตัวเองตามธรรมชาติ ดังนั้น,นางจึงได้ปฏิเสธเสียงเรียกของเจ้าและทําให้เจ้าไม่อาจเข้าใจถึงการฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมัน”
ไม่สงสัยว่าทําไมข้าถึงได้รู้สึกถึงการฟังเสียงของดาบและสี่สารกับมัน,แต่ไม่อาจทะลวงผ่านไปได้ นั้นเป็นเพราะข้าถูกปิดกั้นไม่ให้ทําเช่นนั้นได้
“ฟุฟื้ว!”
อ่าวเจียวเหวี่ยงมือของนางและกระบี่เงาจันทร์ก็ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าอันไร้ขอบเขตอย่างรวดเร็ว จดแสงสีม่วงห่อหุ้มรอบๆตัวมัน ภายใต้แสงจันทร์,มันดูสวยงามอย่างยิ่ง
กระบี่เล่มนั้นลอยไปสูงขึ้นและสูงขึ้นอีก ในไม่ช้า, ทั้งหมดที่เซี่ยวเฉินมองเห็นก็มีเพียงจืดสีดําเลือนลาง
เซี่ยวเฉินมองขึ้นไปและกล่าว “มันกําลังลอยไปที่ไหน? มันจะผสานรวมกันแบบนั้น?”
อ่าวเจียวกล่าว “แน่นอนมันกําลังลอยไปที่โลกแห่งความจริง มิฉะนั้น,มันจะผสานรวมกันได้เช่นไร? ในมิติภายในของกระบี่เงาจันทร์? เอาล่ะ,ในตอนที่เจ้าออกไป,เจ้าจะเข้าใจความลึกลับที่อยู่เบื้องหลังของมันในทันที ถึงเวลาที่เจ้าต้องบอกข้าเกี่ยวกับบัลลังก์ฆ่าล้าง
เซี่ยวเฉินถอนสายตากลับมาและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตัดสินใจเล่าความเป็นมา ไม่มีความจําเป็นที่จะต้องปิดซ่อนอะไรจากอ่าวเจียว
หลังจากที่เซี่ยวเฉินเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นภายในป่าน้ําหมึกให้อ่าวเจียวฟัง,เขาถามขึ้น “อ่าวเจียว,บัลลังก์สีแดงอันนี้มันมีปีญหาอะไร?”
หลังจากที่อ่าวเจียวได้ฟังทุกอย่าง,นางไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตอบ “มันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรจริงจัง บัลลังก์ฆ่าล้างเป็นสิ่งที่ราชามารโบราณหลอมขึ้นมาด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตาม,ก่อนที่เขาจะถูกสังหาร,เขาได้แบ่งบัลลังก์นี่ออกเป็นหกส่วน”
“แต่ละบัลลังก์เป็นตัวแทนของสภาวะ พวกมันมีสภาวะแห่งการฆ่าล้าง,ทําลาย,วิบัติ,โทสะ,บ้าคลั่ง,และความตาย ตํานานว่าเอาไว้หากบัลลังก์ทั้งหกกลับมารวมตัวกัน,ราชามารโลราณจะกลับมาอีกครั้ง”
เซี่ยวเฉินพึมพํา “เช่นนั้นเจ้าจะบอกว่ายังมีบัลลังก์แบบนี้อีกห้า,และข้าได้มาเพียงหนึ่ง? ข้าควรทําอย่างไรหากข้าพบบุคคลอื่นที่มีหนึ่งในบัลลังก์พวกนั้น?”
อ่าวเจียวพยักหน้า “มันจะต้องเป็นปัญหายุ่งยาก ตราบใดที่ผู้บ่มเพาะพลังสองคนที่มีบัลลังก์อยู่ในระยะห้าพันกิโลเมตรของกันและกัน,พวกเขาจะสามารถสัมผัสได้ถึงตัวตนของอีกฝ่าย บัลลังก์พวกนี้เดิมที่มันเคยเป็นหนึ่งและพวกมันสามารถกลืนกินกันและกันได้ หลังจากกลืนกิน, อํานาจของมันจะแข็งแกร่งขึ้น”
แม้ว่าอ่าวเจียวไม่ได้อธิบายมากนัก,เซี่ยวเฉินก็สามารถเข้าใจว่าบัลลังก์นี้จะแข็งแกร่งขึ้นถึงเพียงใด หนึ่งบัลลังก์แทนหนึ่งสภาวะ การบรรลุถึงสองสภาวะในเวลาเดียวกัน พลังอํานาจจะเพิ่มขึ้นโดยไม่บอกกล่าว
เซี่ยวเฉันไม่ได้เกรงกลัวที่จะประมือกับคนอื่น เขาเพียงกังวลเกี่ยวกับที่อ่าวเจียวบอกว่าราชามารจะกลับมาเขาคิดว่ามันค่อนข้างแปลกประหลาด
“ตํานานนั้นมันเป็นจริงแค่ไหน? มันผ่านมาอย่างน้อยสามหมื่นปีแล้วนับตั้งแต่ยุคโบราณ มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะกลับมา,ใช่ไหม?” เซี่ยวเฉินถามขึ้นอย่างสงสัย
ยุคสมัยเทียนหวี่ถูกก่อนั้งขึ้นเมื่อสองหมื่นปีก่อนและถูกทําลายลงเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน,ทําให้ ถูกแบ่งออกเป็นห้าอาณาจักร แน่นอน,อาณาจักรต้าจินแข็งแกร่งที่สุด
ก่อนหน้ายุคเทียนหวี่คือยุคโกลาหล ไม่มีการบันทึกอย่างถูกต้องของยุคโกลาหลในตาราประวัติศาสตร์ ยุคโบราณที่แท้จริงเกิดขึ้นก่อนยุคโกลาหลเสียอีก”
นี่มันยากที่จะจินตนาการ แม้แต่มหาสมุทรกว้างใหญ่ก็สามารถกลายเป็นที่แห่งได้ภายในสามพันปี มนุษย์จะสามารถหวนกลับมามีชีวิตได้อย่างไร?”
อ่าวเจียวกล่าว “ตํานานนี้มาความเป็นไปได้,แต่เจ้าไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับมันมาเกินไปนัก ในหนึ่งหมื่นปีที่ผ่านมา,ข้าไม่เคยได้ยินว่าบัลลังก์ทั้งหกปรากฏขึ้นในเวลาเดียวกัน ไม่มีทางที่มันจะบังเอิญเกิดขึ้นกับเจ้
า”
“บั้ม…!”
เสียงดังแผดออกมาจากท้องฟ้าด้านบน เมื่อเซี่ยวเฉินมองขึ้นไป,เขาเห็นว่ากระบี่เงาจันทร์บินไปจนถึงขอบสุดของมิติแห่งนี้,ซัดเข้าที่ม่านพลังอย่างต่อเนื่อง
อ่าวเขียวกล่าวเสียงนุ่ม “กระบี่เงาจันทร์กําลังจะออกไปแล้ว เจ้าก็ควรไปด้วย ทําความเข้าใจถึงการฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมันอยู่เสมอหลังจากที่เจ้าออกไป นี่มันเป็นเพียงระดับเริ่มแรก”
เซียวเฉินรู้สึกว่ายังมีอีกหลายสิ่งที่เขายังไม่ได้กล่าว เขารีบครี่บคิดอยู่ครู่หนึ่งและกล่าวเพียงสิ่งที่เขาคิดว่าสําคัญที่สุด “ข้าสามารถเรียกเจ้าออกมาได้ดั่งใจหรือไม่ในอนาคต?”
อ่าวเจียวส่ายหัวของนางและกล่าว “ไม่,ข้าจะต้องใช้โอกาสนี้เพื่อกลืนกินวิญญาณอาวุธชุดขาวนั้นอย่างสมบูรณ์,ปล่อยไงมันจะสร้างปัญหาขึ้นอีกในอนาคต อย่าได้ลืม,เป้าหมายของข้าคือ อาวุธกึ่งเทพเจ้า ตัวข้าในตอนนี้ยังห่างไกลจากคําว่าเข้าใกล้
กลับมาในโลกแห่งความจริง,ภายในลานฝึกฝน,ค่ายกลกระบี่ไม่หยุดสั่นไหว-
กระบี่เงาจันทร์ที่อยู่ด้านข้างของเซี่ยวเฉินเด้งขึ้นและดิ้นรนเพื่อที่จะหลุดออกมาจากฝักของมัน จากนั้น,มันก็บินขึ้นไปในอากาศและลอยอยู่เหนือหัวของเซี่ยวเฉินหนึ่งพันเมตร มันกําลังส่องแสงเจิดจ้า,และมองดูสวยงาม
หลิวสุยเฟิงถามอย่างตกตะลึง “พี่,เกิดอะไรขึ้น? ทําไมกระบี่เงาจันทร์ถึงได้บินออกมาด้วยตัว มันเอง?”
หลิวหรูเยว่ก็เผยสีหน้างุนงงเช่นกัน นางส่ายหัวและกล่าว “ข้าก็ไม่แน่ใจ อย่างไรก็ตาม,ข้าสามารถรู้สึกได้ว่ามันเป็นเรื่องดี ข้ารู้สึกได้ถึงความตื่นเต้นจากกระบี่เงาจันทร?ลราวกับว่ามันกําลังมุ่งหวังอะไรบางอย่าง”
ขณะที่ทั้งสองพูดคุย,เรืองแสงส่องออกมานากหัวของเซี่ยวเฉิน, มันหลอมรวมเข้าไปในกระบี่เงาจันทร์อย่างรวดเร็ว
“ซิว!”
ทันใดนั้น,เซี่ยวเฉินลืมตาขึ้นและกระโดดขึ้นไป เขาเคลื่อนที่ไปราวกับมังกรหลากและคว้าด้ามกระบี่เงาจันทร์เอาไว้ด้วยมือข้างเดียว
“ฟังเสียงของดาบและสี่สารกับมัน!” เซี่ยวเฉินนร้องตะโกนและกวัดแกว่งกระบี่ของเขา กระบี่เงาจันทร์สีขาวหิมะส่งเสียงดึงออกมาในทันที
กระบี่สั่นไหวไม่หยุดและเรืองแสงวูบไหว กระบี่สรขาวหิมะกลายเป็นสีดําเข้ม มันพัฒนาจากอาวุธวิญญาณระดับปฐพี่มาเป็นอาวุธวิญญาณระดับสวรรค์ขั้นต่ํา
เซี่ยวเฉินกุมกระบี่เงาจันทร์เอาไว้พร้อมกับดิ่งลงมาที่พื้น เขาเผยสีหน้ายินดี กระบี่เงาจันทร์ในที่สุดก็พบเสียงของมัน
เซี่ยวเฉินไม่คาดคิดว่าหลังจากที่ใช้ฟังเสียงของดาบและสี่สารกับมัน,เขาจะสามารถฟื้นระดับของกระบีเงาจันทร์กลับมา
“ฟ ฟื้ว!”
เซี่ยวเฉินบิดข้อมือของเขาเบาๆและหมุนเวียนพลังปราณเล็กน้อย,ส่งพลังงานเข้าไปในคมกระบี่ทันที
เส้นกระบี่สีม่วงที่หนาแน่นอย่างไม่น่าเชื่อยิงออกไปจากกระบี่ มันเกิดเป็นระลอกคลื่นใน อากาศพร้อมกับตัดผ่านมันไป หลังจากที่มันลงไปถึงพื้น,มันทิ้งแผลเป็นรอยยาว
“ปัง! ปัง! ปัง!” หลังจากที่กระบี่ฉีหยุดลง,แผ่นตามแนวของรอยแผลถูกดีดขึ้นไปในอากาศ และระเบิดออกเป็นผงในทันที
หลิวสุยเฟิงร้องขึ้นอย่างตกตะลึง “ช่างแข็งแกร่ง! นี่คือพลังที่แท้จริงของกระบี่เงาจันทร์? มันเหมือจแข็งแกร่งยิ่งกว่าอาวุธวิญญาณระดับสวรรค์ทั่วไป! นอกจากนั้น นี่ยังเป็นเพียงแค่การกวาดกระบี่เบาๆ!”
เซียวเฉินสะบัดมือและฝักกระบี่เงาจันทร์ที่นอนอยู่ภายในค่ายกลกระบี่ก็บินกลับเข้ามาในมือของเขา จากนั้นเขากระจายสภาวะของการฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมัน กระบี่สีดําเข้มกลายเป็นสีขาวหิมะอีกครั้ง,กลับไปเป็นอาวุธวิญญาณระดับปฐพี”
เซี่ยวเฉินเพิ่งจะบรรลุการฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมัน เขาไม่สามารถรักษาสภาวะนี่เอาไว้ได้เป็นเวลานาน อย่างไรก็ตาม,ตอนนี้เขาได้เข้าใจมันแล้ว เขาเชื่อว่าพัฒนากมรของเขาจะรวดเร็ว
เซี่ยวเฉินเก็บกระบกลับเข้าฝักและมองไปที่หลิวหรูเยว,ผู้ที่กําลังเดินตรงเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้ม เซี่ยวเฉินกล่าวอย่างจริงใจ “หรูเยว่,ขอบคุณ”
หลิวหรูเยวรู้สึกดีใจกับเซียวเฉินจากกันบึงหัวใจของนาง นางกล่าวอย่างจริงจัง “ยินดีด้วย ในที่สุดเจ้าก็เข้าใจถึงการฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมัน”
กลับมาที่ยอดเขาฉิงหยุน,ลานบ้านของเซี่ยวเฉิน
สายลมเย็นพัดผ่านภายในลาน,กวาดเอาใบไม้ร่วงบางส่วนไป
เซี่ยวเฉินหลับตาและดื่มด่กับสภาวะลึกซึ้ง เขามีสีหน้านิ่งสงบขณะที่เขาวางมือขวาบงบนกระบี่เงาจันทร์ เขาเมินเฉยกระแสพลังร่างกายของเขาโดยสิ้นเชิง
เซี่ยวเฉินเพียงปล่อยให้สายลมเย็นและกระแสพลังของเขาไหลไปอย่างอิสระ พวกมันไหลขึ้น,เคลื่อนลง, เลี้ยวซ้ายกลับขวา,เคลื่อนไหวไปตามที่มันต้องการ
ทันใดนั้น,เซี่ยวเฉินลืมตาขึ้นและมีแสงเจิดจ้าพุ่งออกมา พวกมันราวกับกระบี่ที่เฉียบ คม,ทะลวงผ่านทุกสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าของเขา
“ปะ ปะ!”
ทันทีที่กระบี่เงาจันทร์ถูกชักออกมา,การฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมันถูกใช้ออก กระบี่สี่ขาวหิมะเปลี่ยนกลายเป็นสีดําเข้ม ลักษณะพิเศษของอาวุธวิญญาณระดับสวรรค์ถูกใช้
ทันทีที่กระบี่ถูกดึงออกมา แม้ว่าจะไม่มีการหมุนเวียนพลังปราณ,คมกระบี่ที่เฉียบคมก็ส่งกระบี่ฉีออกมาโดยอัตโนมัติ พร้อมกับเสียง ซิ่ว มันเปลี่ยนใบไม้ร่วงมากมายในสายลมกลายเป็นผุยผง
การฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมันมีทั้งหมดสี่ชั้น: การฟังเสียงของดาบ,การควบคุมดาบ,จิตใจดาบ,และการสี่สารกับดาบ เซี่ยวเฉินในตอนนี้อยู่ที่ชั้นการฟังเสียวของดาบ
นี้ทําให้เขาเข้าใจถึงอาวุธของเขาได้อย่างสมบูรณ์ ที่เป็นความรู้ที่น่าอัศจรรย์ เซี่ยวเฉินรู้สึกราวกับกระบี่เงาจันทร์ในมือของเขาเป็นส่วนที่งอกออกมาจากแขนของเขา
Comments
Immortal and Martial Dual Cultivationบทที่ 339 ส่งผล
ตอนที่ 339 ส่งผล
อ่าวเจียวยิ้มขึ้นอย่างมีเสน่ห์และกล่าว “เรื่องมันยาว ขาสามารถเล่ารายละเอียดให้เจ้าฟัง แต่อย่างไรก็ตาม,เขาจะเล่าเพียงครั้งเดียว หากเจ้าไม่เข้าใจ ก็แย่หน่อย อย่าได้ถามข้าซ้ําอีกครั้ง”
อ่าวเจียวบอกว่านางจะเล่าเพียงรอบเดียว นั่นหมายความว่านางจะอธิบายเพียงครั้งเดียวเท่านั้น เซียวเฉินไม่อาจทําอะไรได้นอกจากเอียงหูฟังอย่างระมัดระวัง
“วิธีการหลอมและวัตถุดิบของกระบี่เงาจันทร์ทั้งหมดล้วนคุณภาพสูงสุด อย่างไรก็ตามเงื่อนไขในการก่อเกิดวิญญาณอาวุธมันสาหัสเกินไป เดิมที่ข้าคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่กระบี่เงาจันทร์จะก่อเกิดวิญญาณอาวุธขึ้นมาได้ด้วยตัวของมันเอง ดังนั้นข้าจึงผนึกตัวข้าเองลงไปในกระบี่”
“อย่างไรก็ตาม,สถานการณ์มันเกินกว่าที่ข้าคาดการณ์เอาไว้ ขณะที่ข้ากําลังหลับ ไหล,วิญญาณอาวุธค่อยๆก่อตัวขึ้นมาในกระบี่เงาจันทร์ มันอยู่ในสภาวะการอยู่ร่วมกันกับข้า”
“แม้ว่าข้าจะได้ผนึกตัวเองในตอนนั้น,ข้าก็สามารถแบ่งพลังส่วนหนึ่งของข้ามากดนางเอาไว้ และไม่ให้นางยึดการควบคุมไป แต่อย่างไรก็ตาม,หลังจากที่หลิวหรูเยาฝืนปลุกข้าขึ้นมาในครั้งก่อน,ข้าสูญเสียพลังไปมาก ข้าได้เข้าสู่การหลับลึกและนางก็ยึดการควบคุมไป”
“หากไม่ใช่เพราะการต่อสู้กับเจ้ากับนาง, ที่ทําให้นางจ่ายพลังออกไปอย่างมาก,มันจะต้องใช้เวลายาวนานกว่าข้าจะตื่นขึ้น”
เซียวเฉินรู้แจ้ง,เป็นเช่นนี้นี่เอง เขาก็รู้สึกว่ามันแปลกประหลาด ด้วยความแข็งแกร่งของอ่าวเจียว,นางจะยินยอมให้คนอื่นมากลายเป็นวิญญาณอาวุธของกระบี่เงาจันทร์ได้อย่างไร?
“นั้นเป็นเหตุผลว่าทําไมนางถึงไม่รู้จักข้าในฐานะเจ้านาย? นอกจากนั้น,นางยังเห็นข้าเป็นศัตรู”
อ่าวเจียวอธิบาย “วิญญาณอาวุธทุกตนก็เป็นแบบนั้น นี่เป็นกลไกการป้องกันตัวเองของวิญญาณอาวุธ ในตอนแรกที่ข้าก่อเกิด,จักรพรรดิอัสนี้ก็เป็นขยะในสายตาข้าเช่นกัน หากเจ้าไม่มีพลังที่ยิ่งใหญ่,วิญญาณอาวุธจะจดจําเจ้าในฐานะเจ้านายได้อย่างไร?”
“อย่างไรก็ตาม,เมื่อพวกเขาได้ถูกจดจําในฐานะเจ้านายแล้ว,อาวุธวิญญาณจะภักดีอย่างสมบูรณ์ พวกเขาจะไม่มีทางทรยศเจ้า”
เซี่ยวเฉินรู้สึกงุนงงและกล่าวขึ้น “เมื่อเป็นเช่นนั้น,ความสัมพันธ์ของเจ้ากับข้าเป็นอย่างไรกันแน่? เจ้าแข็งแกร่งกว่าข้ามาก นั้นหมายความว่าข้าจะไม่ใช่เจ้าที่แท้จริงของเจ้าไปอีกนาน?”
เมื่ออ่าวเจียวได้ยินเช่นนั้น,นางกล่าวอย่างเป็นสุข “ถูกต้อง! ดังนั้น,เจ้านายน่าโง่,เจ้าต้องรีบแข็งแกร่งขึ้น หากเจ้าไม่แม้แต่จะปกป้องข้าได้,เจ้าจะกลายมาเป็นเจ้านายของข้าได้อย่างไร?”
เซียวเฉินหมดคําพูด จากความแข็งแกร่งที่อ่าวเจียวแสดงออกมา,นางอยู่ที่ระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธขั้นสูงเป็นอย่างน้อย เซียวเฉินไม่รู้ว่ายาวนานถึงเพียงใดที่เขาจะแข็งแกร่งได้ถึงระดับนั้น
มองดูเซายวเฉินที่กําลังครุ่นคิด,อ่าวเจียวหัวเราะและกล่าวขึ้น “ลุกขึ้น,เจ้านายน่าโง่ ด้วยความทะเยอทะยาน,ไม่จําเป็นต้องเกรงกลัวความสูงของสวรรค์”
“อย่าไปคิดมาก ข้าจะวิญญาณกระบี่กับกระบี่เงาจันทร์ในมือของเจ้าเป็นอันดับแรก จากนั้นเจ้าจะสามารถสําเร็จถึงการฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมัน”
เซี่ยวเฉันลุกขึ้นยืนและจ้องมองไปที่กระบี่เงาจันทร์ในมือของอ่าวเจียว เขาถามขึ้นอย่างไม่เชื่อ “ง่ายดายเช่นนี้?”
ทุกคนรู้ว่าหลิวหรูเยว่ได้ทุ่มเทอย่างมาเพื่อช่วยให้เซียวเฉินเข้าใจถึงฟังเสียงของดาบและสี่สารกับมัน อย่างไรก็ตาม หลังจากทุ่มเทไปทั้งหมด,เขาสามารถจับจุดได้เพียงเล็กน้อยและไม่อาจเข้าใจมันได้อย่างสมบูรณ์
อ่าวเจียวยิ้มและกล่าว “วิธีการของสาวน้อยผู้นั้นถูกต้องแล้ว อย่างไรก็ตาม,นางไม่ได้คาดคิดว่าจะมีวิญญาณอาวุธอีกตนอยู่ตรงนี้ วิญญาณอาวุธมีกลไกการป้องกันตัวเองตามธรรมชาติ ดังนั้น,นางจึงได้ปฏิเสธเสียงเรียกของเจ้าและทําให้เจ้าไม่อาจเข้าใจถึงการฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมัน”
ไม่สงสัยว่าทําไมข้าถึงได้รู้สึกถึงการฟังเสียงของดาบและสี่สารกับมัน,แต่ไม่อาจทะลวงผ่านไปได้ นั้นเป็นเพราะข้าถูกปิดกั้นไม่ให้ทําเช่นนั้นได้
“ฟุฟื้ว!”
อ่าวเจียวเหวี่ยงมือของนางและกระบี่เงาจันทร์ก็ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าอันไร้ขอบเขตอย่างรวดเร็ว จดแสงสีม่วงห่อหุ้มรอบๆตัวมัน ภายใต้แสงจันทร์,มันดูสวยงามอย่างยิ่ง
กระบี่เล่มนั้นลอยไปสูงขึ้นและสูงขึ้นอีก ในไม่ช้า, ทั้งหมดที่เซี่ยวเฉินมองเห็นก็มีเพียงจืดสีดําเลือนลาง
เซี่ยวเฉินมองขึ้นไปและกล่าว “มันกําลังลอยไปที่ไหน? มันจะผสานรวมกันแบบนั้น?”
อ่าวเจียวกล่าว “แน่นอนมันกําลังลอยไปที่โลกแห่งความจริง มิฉะนั้น,มันจะผสานรวมกันได้เช่นไร? ในมิติภายในของกระบี่เงาจันทร์? เอาล่ะ,ในตอนที่เจ้าออกไป,เจ้าจะเข้าใจความลึกลับที่อยู่เบื้องหลังของมันในทันที ถึงเวลาที่เจ้าต้องบอกข้าเกี่ยวกับบัลลังก์ฆ่าล้าง
เซี่ยวเฉินถอนสายตากลับมาและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตัดสินใจเล่าความเป็นมา ไม่มีความจําเป็นที่จะต้องปิดซ่อนอะไรจากอ่าวเจียว
หลังจากที่เซี่ยวเฉินเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นภายในป่าน้ําหมึกให้อ่าวเจียวฟัง,เขาถามขึ้น “อ่าวเจียว,บัลลังก์สีแดงอันนี้มันมีปีญหาอะไร?”
หลังจากที่อ่าวเจียวได้ฟังทุกอย่าง,นางไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตอบ “มันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรจริงจัง บัลลังก์ฆ่าล้างเป็นสิ่งที่ราชามารโบราณหลอมขึ้นมาด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตาม,ก่อนที่เขาจะถูกสังหาร,เขาได้แบ่งบัลลังก์นี่ออกเป็นหกส่วน”
“แต่ละบัลลังก์เป็นตัวแทนของสภาวะ พวกมันมีสภาวะแห่งการฆ่าล้าง,ทําลาย,วิบัติ,โทสะ,บ้าคลั่ง,และความตาย ตํานานว่าเอาไว้หากบัลลังก์ทั้งหกกลับมารวมตัวกัน,ราชามารโลราณจะกลับมาอีกครั้ง”
เซี่ยวเฉินพึมพํา “เช่นนั้นเจ้าจะบอกว่ายังมีบัลลังก์แบบนี้อีกห้า,และข้าได้มาเพียงหนึ่ง? ข้าควรทําอย่างไรหากข้าพบบุคคลอื่นที่มีหนึ่งในบัลลังก์พวกนั้น?”
อ่าวเจียวพยักหน้า “มันจะต้องเป็นปัญหายุ่งยาก ตราบใดที่ผู้บ่มเพาะพลังสองคนที่มีบัลลังก์อยู่ในระยะห้าพันกิโลเมตรของกันและกัน,พวกเขาจะสามารถสัมผัสได้ถึงตัวตนของอีกฝ่าย บัลลังก์พวกนี้เดิมที่มันเคยเป็นหนึ่งและพวกมันสามารถกลืนกินกันและกันได้ หลังจากกลืนกิน, อํานาจของมันจะแข็งแกร่งขึ้น”
แม้ว่าอ่าวเจียวไม่ได้อธิบายมากนัก,เซี่ยวเฉินก็สามารถเข้าใจว่าบัลลังก์นี้จะแข็งแกร่งขึ้นถึงเพียงใด หนึ่งบัลลังก์แทนหนึ่งสภาวะ การบรรลุถึงสองสภาวะในเวลาเดียวกัน พลังอํานาจจะเพิ่มขึ้นโดยไม่บอกกล่าว
เซี่ยวเฉันไม่ได้เกรงกลัวที่จะประมือกับคนอื่น เขาเพียงกังวลเกี่ยวกับที่อ่าวเจียวบอกว่าราชามารจะกลับมาเขาคิดว่ามันค่อนข้างแปลกประหลาด
“ตํานานนั้นมันเป็นจริงแค่ไหน? มันผ่านมาอย่างน้อยสามหมื่นปีแล้วนับตั้งแต่ยุคโบราณ มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะกลับมา,ใช่ไหม?” เซี่ยวเฉินถามขึ้นอย่างสงสัย
ยุคสมัยเทียนหวี่ถูกก่อนั้งขึ้นเมื่อสองหมื่นปีก่อนและถูกทําลายลงเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน,ทําให้ ถูกแบ่งออกเป็นห้าอาณาจักร แน่นอน,อาณาจักรต้าจินแข็งแกร่งที่สุด
ก่อนหน้ายุคเทียนหวี่คือยุคโกลาหล ไม่มีการบันทึกอย่างถูกต้องของยุคโกลาหลในตาราประวัติศาสตร์ ยุคโบราณที่แท้จริงเกิดขึ้นก่อนยุคโกลาหลเสียอีก”
นี่มันยากที่จะจินตนาการ แม้แต่มหาสมุทรกว้างใหญ่ก็สามารถกลายเป็นที่แห่งได้ภายในสามพันปี มนุษย์จะสามารถหวนกลับมามีชีวิตได้อย่างไร?”
อ่าวเจียวกล่าว “ตํานานนี้มาความเป็นไปได้,แต่เจ้าไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับมันมาเกินไปนัก ในหนึ่งหมื่นปีที่ผ่านมา,ข้าไม่เคยได้ยินว่าบัลลังก์ทั้งหกปรากฏขึ้นในเวลาเดียวกัน ไม่มีทางที่มันจะบังเอิญเกิดขึ้นกับเจ้
า”
“บั้ม…!”
เสียงดังแผดออกมาจากท้องฟ้าด้านบน เมื่อเซี่ยวเฉินมองขึ้นไป,เขาเห็นว่ากระบี่เงาจันทร์บินไปจนถึงขอบสุดของมิติแห่งนี้,ซัดเข้าที่ม่านพลังอย่างต่อเนื่อง
อ่าวเขียวกล่าวเสียงนุ่ม “กระบี่เงาจันทร์กําลังจะออกไปแล้ว เจ้าก็ควรไปด้วย ทําความเข้าใจถึงการฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมันอยู่เสมอหลังจากที่เจ้าออกไป นี่มันเป็นเพียงระดับเริ่มแรก”
เซียวเฉินรู้สึกว่ายังมีอีกหลายสิ่งที่เขายังไม่ได้กล่าว เขารีบครี่บคิดอยู่ครู่หนึ่งและกล่าวเพียงสิ่งที่เขาคิดว่าสําคัญที่สุด “ข้าสามารถเรียกเจ้าออกมาได้ดั่งใจหรือไม่ในอนาคต?”
อ่าวเจียวส่ายหัวของนางและกล่าว “ไม่,ข้าจะต้องใช้โอกาสนี้เพื่อกลืนกินวิญญาณอาวุธชุดขาวนั้นอย่างสมบูรณ์,ปล่อยไงมันจะสร้างปัญหาขึ้นอีกในอนาคต อย่าได้ลืม,เป้าหมายของข้าคือ อาวุธกึ่งเทพเจ้า ตัวข้าในตอนนี้ยังห่างไกลจากคําว่าเข้าใกล้
กลับมาในโลกแห่งความจริง,ภายในลานฝึกฝน,ค่ายกลกระบี่ไม่หยุดสั่นไหว-
กระบี่เงาจันทร์ที่อยู่ด้านข้างของเซี่ยวเฉินเด้งขึ้นและดิ้นรนเพื่อที่จะหลุดออกมาจากฝักของมัน จากนั้น,มันก็บินขึ้นไปในอากาศและลอยอยู่เหนือหัวของเซี่ยวเฉินหนึ่งพันเมตร มันกําลังส่องแสงเจิดจ้า,และมองดูสวยงาม
หลิวสุยเฟิงถามอย่างตกตะลึง “พี่,เกิดอะไรขึ้น? ทําไมกระบี่เงาจันทร์ถึงได้บินออกมาด้วยตัว มันเอง?”
หลิวหรูเยว่ก็เผยสีหน้างุนงงเช่นกัน นางส่ายหัวและกล่าว “ข้าก็ไม่แน่ใจ อย่างไรก็ตาม,ข้าสามารถรู้สึกได้ว่ามันเป็นเรื่องดี ข้ารู้สึกได้ถึงความตื่นเต้นจากกระบี่เงาจันทร?ลราวกับว่ามันกําลังมุ่งหวังอะไรบางอย่าง”
ขณะที่ทั้งสองพูดคุย,เรืองแสงส่องออกมานากหัวของเซี่ยวเฉิน, มันหลอมรวมเข้าไปในกระบี่เงาจันทร์อย่างรวดเร็ว
“ซิว!”
ทันใดนั้น,เซี่ยวเฉินลืมตาขึ้นและกระโดดขึ้นไป เขาเคลื่อนที่ไปราวกับมังกรหลากและคว้าด้ามกระบี่เงาจันทร์เอาไว้ด้วยมือข้างเดียว
“ฟังเสียงของดาบและสี่สารกับมัน!” เซี่ยวเฉินนร้องตะโกนและกวัดแกว่งกระบี่ของเขา กระบี่เงาจันทร์สีขาวหิมะส่งเสียงดึงออกมาในทันที
กระบี่สั่นไหวไม่หยุดและเรืองแสงวูบไหว กระบี่สรขาวหิมะกลายเป็นสีดําเข้ม มันพัฒนาจากอาวุธวิญญาณระดับปฐพี่มาเป็นอาวุธวิญญาณระดับสวรรค์ขั้นต่ํา
เซี่ยวเฉินกุมกระบี่เงาจันทร์เอาไว้พร้อมกับดิ่งลงมาที่พื้น เขาเผยสีหน้ายินดี กระบี่เงาจันทร์ในที่สุดก็พบเสียงของมัน
เซี่ยวเฉินไม่คาดคิดว่าหลังจากที่ใช้ฟังเสียงของดาบและสี่สารกับมัน,เขาจะสามารถฟื้นระดับของกระบีเงาจันทร์กลับมา
“ฟ ฟื้ว!”
เซี่ยวเฉินบิดข้อมือของเขาเบาๆและหมุนเวียนพลังปราณเล็กน้อย,ส่งพลังงานเข้าไปในคมกระบี่ทันที
เส้นกระบี่สีม่วงที่หนาแน่นอย่างไม่น่าเชื่อยิงออกไปจากกระบี่ มันเกิดเป็นระลอกคลื่นใน อากาศพร้อมกับตัดผ่านมันไป หลังจากที่มันลงไปถึงพื้น,มันทิ้งแผลเป็นรอยยาว
“ปัง! ปัง! ปัง!” หลังจากที่กระบี่ฉีหยุดลง,แผ่นตามแนวของรอยแผลถูกดีดขึ้นไปในอากาศ และระเบิดออกเป็นผงในทันที
หลิวสุยเฟิงร้องขึ้นอย่างตกตะลึง “ช่างแข็งแกร่ง! นี่คือพลังที่แท้จริงของกระบี่เงาจันทร์? มันเหมือจแข็งแกร่งยิ่งกว่าอาวุธวิญญาณระดับสวรรค์ทั่วไป! นอกจากนั้น นี่ยังเป็นเพียงแค่การกวาดกระบี่เบาๆ!”
เซียวเฉินสะบัดมือและฝักกระบี่เงาจันทร์ที่นอนอยู่ภายในค่ายกลกระบี่ก็บินกลับเข้ามาในมือของเขา จากนั้นเขากระจายสภาวะของการฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมัน กระบี่สีดําเข้มกลายเป็นสีขาวหิมะอีกครั้ง,กลับไปเป็นอาวุธวิญญาณระดับปฐพี”
เซี่ยวเฉินเพิ่งจะบรรลุการฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมัน เขาไม่สามารถรักษาสภาวะนี่เอาไว้ได้เป็นเวลานาน อย่างไรก็ตาม,ตอนนี้เขาได้เข้าใจมันแล้ว เขาเชื่อว่าพัฒนากมรของเขาจะรวดเร็ว
เซี่ยวเฉินเก็บกระบกลับเข้าฝักและมองไปที่หลิวหรูเยว,ผู้ที่กําลังเดินตรงเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้ม เซี่ยวเฉินกล่าวอย่างจริงใจ “หรูเยว่,ขอบคุณ”
หลิวหรูเยวรู้สึกดีใจกับเซียวเฉินจากกันบึงหัวใจของนาง นางกล่าวอย่างจริงจัง “ยินดีด้วย ในที่สุดเจ้าก็เข้าใจถึงการฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมัน”
กลับมาที่ยอดเขาฉิงหยุน,ลานบ้านของเซี่ยวเฉิน
สายลมเย็นพัดผ่านภายในลาน,กวาดเอาใบไม้ร่วงบางส่วนไป
เซี่ยวเฉินหลับตาและดื่มด่กับสภาวะลึกซึ้ง เขามีสีหน้านิ่งสงบขณะที่เขาวางมือขวาบงบนกระบี่เงาจันทร์ เขาเมินเฉยกระแสพลังร่างกายของเขาโดยสิ้นเชิง
เซี่ยวเฉินเพียงปล่อยให้สายลมเย็นและกระแสพลังของเขาไหลไปอย่างอิสระ พวกมันไหลขึ้น,เคลื่อนลง, เลี้ยวซ้ายกลับขวา,เคลื่อนไหวไปตามที่มันต้องการ
ทันใดนั้น,เซี่ยวเฉินลืมตาขึ้นและมีแสงเจิดจ้าพุ่งออกมา พวกมันราวกับกระบี่ที่เฉียบ คม,ทะลวงผ่านทุกสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าของเขา
“ปะ ปะ!”
ทันทีที่กระบี่เงาจันทร์ถูกชักออกมา,การฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมันถูกใช้ออก กระบี่สี่ขาวหิมะเปลี่ยนกลายเป็นสีดําเข้ม ลักษณะพิเศษของอาวุธวิญญาณระดับสวรรค์ถูกใช้
ทันทีที่กระบี่ถูกดึงออกมา แม้ว่าจะไม่มีการหมุนเวียนพลังปราณ,คมกระบี่ที่เฉียบคมก็ส่งกระบี่ฉีออกมาโดยอัตโนมัติ พร้อมกับเสียง ซิ่ว มันเปลี่ยนใบไม้ร่วงมากมายในสายลมกลายเป็นผุยผง
การฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมันมีทั้งหมดสี่ชั้น: การฟังเสียงของดาบ,การควบคุมดาบ,จิตใจดาบ,และการสี่สารกับดาบ เซี่ยวเฉินในตอนนี้อยู่ที่ชั้นการฟังเสียวของดาบ
นี้ทําให้เขาเข้าใจถึงอาวุธของเขาได้อย่างสมบูรณ์ ที่เป็นความรู้ที่น่าอัศจรรย์ เซี่ยวเฉินรู้สึกราวกับกระบี่เงาจันทร์ในมือของเขาเป็นส่วนที่งอกออกมาจากแขนของเขา
Comments