Immortal and Martial Dual Cultivationบทที่ 367 ความขุ่นเคือง
ตอนที่ 367 ความขุ่นเคือง
เซี่ยวเฉินประหลาดใจที่อซ่างเฉียนเคยไปที่เกาะอร่งนั้นมาแล้สสองครั้ง สําหรับที่เขาสามารถกลับออกมาได้อย่างปลอดภัย,เขาจะต้องมีความแข็งแกร่งมากกว่าที่เซี่ยวเฉันคิดเอาไว้
“ในครั้งแรกที่ผู้เฒ่าไปที่เกาะแห่งนั้น,ข้าได้รับหินวิญญาณระดับกลางมาสามพันก้อน, สมบัติลับสองชิ้น,และเม็ดยาระดับ 7 สองขวด ในครั้งที่สอง,เขากลับออกมาพร้อมกับห้าพันหินวิญญาณระดับกลาง,สมบัติลับสามชิ้นและเม็ดยาระดับ 8 หนึ่งขวดก่อนที่ข้าจะบ่มเพาะพลังมาถึงปัจจุบัน
เซี่ยวเฉินยิ้มบางๆและกล่าวขึ้น “ดูเหมือนว่าผู้เฒ่าอจะได้เตรียมการเอาไว้อย่างดีแล้วท่านน่าจะเก็บเกี่ยวได้มหาศาล”
“ยาก!” อูช่างเฉียนถอนหายใจ “ข้าไม่รู้ว่าเป็นไอ้หมูตอนตัวไหนที่แจกจ่ายแผนที่ออกไป ตอนนี้,ไม่เพียงแต่ผู้บ่มเพาะพลังจากอาณาจักรต้าจิน,ผู้บ่มเพาะพลังจากอีกสอาณาจักรที่พอมีคแข็งแกร่งก็จะมุ่งมาที่เกาะอห่งนี้”
การเผชิญโชคน้อยนักที่จะมีผ่านมา สมบัติที่ราชาทุ่งหญ้ามารอสูรได้ทิ้งเอาไว้จะต้องเป็นการเผชิญโชคครั้งใหญ่อย่างแน่นอน;มันนาาดึงดูดเป็นอย่างยิ่ง ไม่ต้องสงสัยว่าจะต้องมีหลายคนที่กำลังมุ่งหน้ามาเช่นกัน
ดูเหมือนว่าผู้บ่มเพาะพลังส่วนใหญ่หรือไม่ก็ทั้งหมดบนเรือล่านี้ ก็มาเพื่อล่าสมบัติของราชาทุ่งหญ้าเหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม,จากสีหน้าของอูซ่างเฉียน,ดูเหมือนว่าเขายังมีอะไรที่อยากจะกล่าว เซี่ยวเฉินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและกล่าว “ผู้อาวุโส,เพียงบอกข้ามาว่าท่านมีอะไรอยู่ในใจ”
อูซ่างเฉียนหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินเช่นนั้น “ผู้เยาว์สมัยนี้ช่างตรงไปตรงมา ผู้เฒ่าผู้นี้ก็ได้กล่าวไปเยอะแล้ว ที่จริง,ข้าอยากจะร่วมมือกับเจ้าเพื่อพบายามตามหาสมบัติที่ราชาทุ่งหญ้าเอาไว้”
สําหรับเซียวเฉิน,การทํางานร่วมกับอูซ่างเฉียนจะเป็นการช่วยได้มาก อูซ่างเฉียนได้ไปยังเกาะสมบัตินั้นแล้วสองครั้ง เขามีความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมบนเกาะมากกว่าคนอื่น เขาสามารถช่วยร่นเวลาในตอนที่เผชิญหน้ากับสิ่งท้าทาย
อย่างไรก็ตาม,คนผู้นี้คือคนที่เซียวเฉินไม่รู้จัก นอกจากนั้นอีกฝ่ายแข็งแกร่งกว่าเขาอูช่างเฉียน อยู่ในตําแหน่งที่ได้เปรียบ หากเขาได้ของดีๆมา,และอูซ่างเฉียนอยากจะสังหารเขาแล้ว แย่งเอามันไป,เขาก็ไม่อาจทําอะไรได้
“ขออภัย; ข้าทํางานคนเดียว ข้าเกรงว่าข้าไม่อาจรับความตั้งใจของท่านได้
แม้ว่ามันจะเป็นประโยชน์มากกว่า แต่เซียวเฉินก็ไม่เห็นด้วย; มันมีความเสี่ยงมากเกินไป
จากนั้น,อซ่างเฉียนก็สัญญาถึงผลประโยชน์มากมาย,พยายามอย่างที่สุดเพื่อโน้มน้าวเซี่ยวเฉินให้ร่วมมือกับเขา แต่อย่างไรก็ตาม,เซี่ยวเฉินก็ไม่หวั่นไหว:เขาไม่ยินยอมไม่ว่าจะได้รับข้อเสนออะไรก็ตาม
“ฮ่าฮ่า! ในเมื่อน้องชายไม่เห็นด้วย,เช่นนั้นก็ไม่เป็นไร ในตอนที่พวกเราพบกันอีกครั้งในอนาคต.พวกเราก็ยังคงเป็นสหายกัน ผู้เฒ่าผู้นี้ขอตัวก่อน” ความขุ่นเคืองใจวบไหวในดวงตาของอูซ่างเฉียนขณะที่เขายิ้มอย่างอ่อนโยน
ดวงตาของเซี่ยวเฉินเฉียบคม, เขาสังเกตเห็นความไม่พอใจนี้ ทําให้เขาตัดสินใจได้อย่างแน่วแน่ ชายชราผู้นี้จะต้องไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม,หากอซ่างอยากจะเล่นลูกไม้,เซียวเฉินก็ไม่ใช่คนดีที่ชอบถูกรังแก แม้ว่าเซียวเฉินจะไม่สามารถสังหารเขาลงได้, เซียวเฉินก็ยังสามารถทําให้เขาบาดเจ็บหนัก
“พี่ใหญ่เซียวเฉิน,บุคคลเมื่อก่อนครู่นี้เจ้าเล่ห์เป็นอย่างมาก เสี่ยวไปสามารถสัมผัสถึงฉีฆ่าฟันของเขาได้ แต่กระนั้นเขาก็ยังมีใบหน้าเปื้อนยิ้ม” เสี่ยวไป๋กล่าวเบาๆขณะที่นางเดินเข้ามา
เซี่ยวเฉินยิ้มเบาๆและกล่าว “เมินเฉยเขาไปซะ ไม่ต้องออกมาจากห้องในช่วงสองสามวันนี้ คนผู้นี้รับมือด้วยไม่ง่าย
“บูม! บูม! บูม!”
ในจังหวะนั้นเอง, คลื่นอันรุนแรงพลันปรากฏขึ้นในทะเลอันเงียบสงบ คลื่นทะเลสูงมากกว่า 100 เมตร เรือสินค้าขนาดใหญ่ส่ายไปมาท่ามกลางคลื่นที่โหมกระหน่ํา
สถานการณ์ที่เปลี่ยนอย่างฉับพลันทําให้ผู้บ่มเพาะพลังบนดาดฟ้าเรือตกใจพวกเขาเกือบจะล้มลงไปกับพื้น
“เกิดอะไรขึ้น? พวกเรายังคงอยู่ใกล้กับแผ่นดินทวีป มันมีคลื่นพายุไม่มากในช่วงฤดูนี้ ทําไมคลื่นเช่นนี้ถึงได้ปรากฏขึ้นอย่างฉับพลัน” ผู้บ่มเพาะพลังหลายคนที่ที่มักจะเดินทางข้ามทะเลเป็นประจํากล่าวขึ้นอย่างสงสัย
เรือสินค้ายังคงสันไหว,แต่เหล่าผู้บ่มเพาะพลังได้สติขึ้นมาแล้ว หลังจากหมุนเวียนพลังปราณของพวกเขา,พวกเขาก็สามารถยืนได้อย่างสมดุล
เซียวเฉินยืนนิ่งราวกับเสาอยู่บนดาดฟ้า แม้ว่าเรือสินค้าจะสั่นไหวรุนแรงถึงเพียงใด,เขาก็ไม่ขยับ เขาช่วยพยุงเสี่ยวไปและขยายสัมผัสวิญญาณของเขาไกลออกไป
ในไม่ช้า,เซี่ยวเฉินก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น มีเรือสงครามสองล่ากําลังสู้รบกันอย่างดุเดือดห่างออกไปประมาณแปดพันเมตรตรงหน้า
ปืนใหญ่พลังงานปีศาจโบราณยิงใส่กันและกันส่งกระสุนพลังงานลอยออกไป แสงรุ่งโรจน์เติมเต็มในท้องฟ้า
ผลกระทบจากสมรภูมิรบทําให้เกิดพายุรุนแรงขนาดใหญ่,เกิดคลื่นยักษ์เคลื่อนผ่านไปในทะเล
“ผลกระทบจากสมรภูมิช่างรุนแรง เรือสงครามแต่ละลําติดปืนใหญ่พลังงานปีศาจโบราณอย่างน้อยเป็นร้อยกระบอก ไม่สงสัยว่าทําไมผลกระทบถึงยังรุนแรงถึงเพียงนี้”
เซียวเฉินถอนสัมผัสวิญญาณของเขากลับมา เขาคิดกับตัวเองอย่างตกตะลึง,เรือสงครามลําสีน้ําเงินดูเหมือนจะมีธงของสมาคมการค้าวิหคทองค่า
สมาคมการค้าวิหคทองคํา…ไม่ใช่ว่านั้นคือสมาคมการค้าจากตระกูลของจินต้าเป่า?
เรือสงครามอีกล่ามีสีดําสนิทและมีธงอยู่ที่หัวเรือ มีสัญลักษณ์ไฮดรากําลังเปิดปากกว้างปักอยู่
บนธง
มีโล่แสงทรงกลมล้อมรอบเรือสงครามทั้งสองลํา;พวกมันป้องกันกระสุนพลังงานที่มาจากอีกฝ่าย พวกมันสู้รบกันได้อย่างสูสี หากยืดเยื้อไป,เรือสงครามทั้งสองอาจจะจมลงในเวลาเดียวกัน
“ตุบ!ตุบ!ตุบ!”
มีกลุ่มคนออกมาจากห้องเรือสินค้า นั่นคือกัปตันเรือและยามประจําเรือ เห็นได้ชัดว่าคลื่นแปลกประหลาดทําให้พวกเขาตกใจ
กัปตันเรือสินค้าลํานี้เป็นชายวัยกลางคน เขาตัวสูงและมีรูปร่างที่น่าประทับใจ เขาสวมชุดคลุมสีเหลืองเย็บด้วยด้ายสีทอง กระแสพลังของเขารุ่งโรจน์;เขาอยู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูง
มียามประจําเรือ 8 คนอยู่ใกล้กับกัปตัน พวกเขาทั้งหมดอยู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธแล้วแต่ละคนอายุไม่เกินสี่สิบปี นี่คือจุดยอดสุดของชีวิตมนุษย์ แรงขับดันและความเฉียบคมแข็งแกร่งกว่าระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธสูงอายุที่อยู่บนดาดฟ้า
หากพวกเขาแต่ละคนต่อสู้กัน,พลังปราณของผู้สูงอายุจะอยู่ได้ไม่นาน มันเป็นเพราะพลังฉี และโลหิตของรุ่นเยาว์มีเหลือล้นมากกว่า; ความเฉียบคมของพวกเขายังชัดเจน ดังนั้น,โอกาสชนะของพวกเขาจึงสูงกว่า
กัปตันเรือมองไปยังทะเลที่เกรี้ยวกราดและคิ้วขมวด เขากล่าวกับคนที่อยู่ด้านข้างของเขา “หลิวเซิง,การรับรู้ของเจ้าเทียบเท่ากับครึ่งก้าวสู่ระดับขอบเขตปราชญ์ยุทธ ช่วยข้าดูว่าเกิดอะไรขึ้น?”
ผู้บ่มเพาะพลังที่ชื่อหลิวเซิงพยักหน้า เขาเดินไปที่หัวเรือและหลับตาลง เขาปลดปล่อยระลอกคลื่นแสงสีฟ้าออกมาแสงสีฟ้าหลอมรวมเข้ากับน้ําและขยายออกไปข้างหน้า
จิตวิญญาณยุทธของคนผู้นี้น่าจะมีความพิเศษ นอกจากนั้น,เขายังได้สําเร็จถึงสภาวะแห่งน้ํา ดังนั้น การรับรู้ของเขาเทียบเท่ากับครึ่งก้าวสู่ระดับขอบเขตปราญช์ยุทธ,เซียวเฉินครุ่นคิด
“กัปตัน, มีเรือสงครามไฮดราของกลุ่มมังกรทมิฬกําลังสู้รบกับเรือสงครามใต้สายวารีของสมาคมการค้าวิหคทองคํา” หลิวเซิงกล่าวพร้อมกับลืมตาขึ้น
“นี่มันพื้นที่ชายฝั่งทะเลทําไมถึงได้มีเรือของกลุ่มมังกรทมิฬ? หรือพวกเขาจะเข้ามาผิดที่?” มีกษัตริย์ยุทธสูงอายุผู้หนึ่งบนดาดฟ้าเรืออุทานขึ้นอย่างตกตะลึง
หลิวเซิงเดินตรงเข้ามาและกล่าว “กัปตัน,พวกเราควรทําอย่างไร?”
กัปตันเรือคิ้วขมวดแน่นและพึมพํากับตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้น,เขาถามขึ้น “เจ้าแน่ใจว่ามีเรือสงครามเพียงสองล่า? มีเรือสินค้าหรือเรือโดยสารล่าอื่นอีกหรือไม่?”
หลิวเซิงพยักหน้าและกล่าว “ถ้าไม่เห็นเรือสินค้าของสมาคมการค้าวิหคทองคําหรือเรือโดยสารภายในระยะห้าสิบกิโลเมตร มีเพียงเดือนสงครามสองล่ากําลังต่อสู้กัน”
สีหน้าของกัปตันผ่อนคลายลง เขากล่าว “เมื่อเป็นเช่นนั้น,เมินเฉยพวกเขาไปเสีย ขึ้นธงของสมาคมการค้าและเดินทางต่อไป!”
“โดยปกติกลุ่มมังกรทมิฬจะทําการอยู่ในทะเลน้ําตื้นของภูมิภาคทั้งสี่ ทําไมพวกเขาถึงได้มาที่ชายฝั่งทะเล? มันน่าแปลก”
“เรือสงครามของสมาคมการค้าวิหคทองคําก็ด้วยเช่นกัน ไม่ใช่ปกติพวกเขาจะปฏิบัติการอยู่ที่ทะเลตื่นของทะเลเหนือ? ทําไมพวกเขาถึงได้มาทางตะวันตก?”
“บางที่พวกเขาอาจจะเข้ามาเพื่อสมบัติที่ราชาทุ่งหญ้าทิ้งเอาไว้ หากเป็นเช่นนั้นจริง, โอกาสของพวกเราก็ยิ่งลดน้อยลงไปอีก”
เมื่อผู้บ่มเพาะพลังหลายคนบนดาดฟ้าคิดถึงความเป็นไปได้นี้ สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยน
สมบัติของราชาทุ่งหญ้าได้ดึงดูดผู้บ่มเพราะพลังมากมายจากทั้งสี่อาณาจักรใหญ่ ตอนนี้ยังมีสมาคมการค้าวิหคทองคําและกลุ่มมังกรทมิฬเข้ามามีส่วนร่วม,โอกาสของพวกเขาในการเผชิญโชคครั้งนี้ได้ลดน้อยลงไปอีก
สีหน้าของอูซ่างเฉียนกลายเป็นยิ่งน่าเกลียดเช่นกัน เขาเหลือบมองไปที่เซียวเฉิน,และมีแสงแปลกประหลาดปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา มันราวกับเป็นงูพิษที่กาลังแลบลิ้นของมันออกมา
เรือสินค้าขึ้นธงสมาคมการค้าของพวกเขาและเคลื่อนที่เต็มกําลัง หลังจากผ่านไปสองชั่วโมง,พวกเขาก็เข้าไปใกล้กับใจกลางสมรภูมิ
คลื่นทะเลกลายเป็นยิ่งรุนแรง ตอนนี้พวกมันสูงมากกว่าสองร้อยเมตร;มันน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง
ในตอนที่กระสุนพลังงานรุ่งโรจน์เคลื่อนผ่านผิวน้ําทะเล,พวกมันก่อให้เกิดกําแพงน้ําสูงขึ้นทั้งสองฝั่ง
“ช่างสิ้นเปลือง ปืนใหญ่พลังงานปีศาจโบราณหนึ่งนัดจะใช้หินวิญญาณระดับต่ําถึงหนึ่งพันก่อน พวกเขายิงออกมาราวกับเป็นกระสุนหิน” มีผู้บ่มเพาะพลังคนหนึ่งบนดาดฟ้าเรือถอนหายใจ
ในตอนที่เรือสงครามทั้งสองล่าเห็นธงของเรือสินค้า,พวกเขาก็หยุดยิงลงในเวลาเดียวกัน ท้องทะเลที่เกรี้ยวกราดค่อยๆกลับมาสงบลง
เรือสินค้าแล่นอย่างสงบผ่านเรือสงครามทั้งสองล่า
นี่มันช่างน่าแปลกอาวุธของและสินค้าลํานี้ไม่รุนแรงเท่ากับเรือสงคราม แต่กระนั้น,เรือสงครามทั้งสองลากลับปล่อยพวกเขาผ่านไปอย่างสงบ,เซียวเฉินครุ่นคิดอย่างงุนงงในใจของเขา
นี่อาจจะเป็นหนึ่งในกฎของท้องทะเล บางทีเรือสงครามไม่สามารถโจมตีเรือสินค้าได้ มี ฉะนั้น,หากพวกเขาแหกกฎ,ขุมอํานาจทั้งหมดจะหันกระบอกปืนเข้าใส่พวกเขา
“เซี่ยวเฉิน! ตรงนี้!”
ขณะที่เซี่ยวเฉินกําลังคิดเพลินๆ, มีเสียงดังขึ้นจากข้างบน ในตอนที่เซี่ยวเฉินเงยหน้าของเขาขึ้นไปมองที่หัวเรือใต้สายวารีที่อยู่สูงขึ้นไปสองร้อยเมตร, เจ้าหมูจินกําลังโบกมือมาทางเขาอย่างบ้าคลั่ง
เซี่ยวเฉินลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะกล่าวกับเสี่ยวไป์ “มา;ไปกันเถอะ”
ทั้งสองดีดตัวออกจากเรือและกระโดดขึ้นไปบนหัวเรือสงครามใต้สายวารีขณะที่ผู้บ่มเพาะพลังบนดาดฟ้าเรือจ้องมองไปที่เขายังตกตะลึง
“จินต้าเป่าเรียกเขาว่าอะไรเมื่อครู่นี้? ข้าไม่ได้ยินผิดไปใช่ไหม? เขาเรียก “เซี่ยวเฉิน?”
“น่าจะเป็นอย่างนั้น ข้าไม่คาดคิดว่าคนผู้นั้นจะเป็นมือกระบี่ชุดขาว,เซี่ยวเฉิน เขาเก็บตัวเงียบเกินไปแล้ว”
“มันจบแล้ว:ข้าเยาะเย้ยที่เขาแต่งตัวเลียนแบบมือกระบี่ชุดขาวเมื่อครู่นี้ ช่างน่าอับอาย”
ในตอนที่ผู้คนบนดาดฟ้าเรือยืนยันได้ถึงตัวตนของเซี่ยวเฉิน,พวกเขาทั้งหมดพูดคุยกันอย่างหลงใหล พวกเขาไม่คาดคิดว่ามือกระบี่ในตํานานแห่งศาลากระบีสวรรค์จะมาปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขา”
เมื่ออูซ่างเฉียนจ้องมองเซียวเฉินที่กระโดดขึ้นไปบนเรือสงครามใต้สายวารี,ความผิดหวังวูบไหวในดวงตาของเขา เขาพึมพํา “ช่างน่าเสียดาย ข้าวางแผนเอาไว้ว่าจะลงมือในคืนนี้ เจ้าหมอนี่มีสมบัติลับติดตัวอย่างน้อยสามชิ้น หากข้าได้พวกมันมา,ถือว่าเก็บเกี่ยวได้มากแล้ว”
“อย่างไรก็ตาม, หากเขาไปที่เกาะเชียนเหลิ่น,ข้าก็ยังมีโอกาส มันไม่ง่ายที่จะได้สมบัติของราชาทุ่งหญ้ามา”
ขณะที่เรือสินค้ากําลังเคลื่อนหน้าต่อไป,อซ่างเฉียนยังจ้องมองไปที่เซียวเฉิน ความโลภในดวงตาของเขาค่อยๆจางหายไป
“ฮ่าฮ่า,มือกระบี่ชุดขาว,เซี่ยวเฉิน,ตอนนี้เจ้าดังใหญ่แล้ว ตํานานของเจ้าถึงกับเริ่มแผ่ขยายไปในอาณาจักรต้าถังของข้า พี่หมูผู้นี้ต้องขอไปกับเจ้านับตั้งแต่นี้” จินต้าเป่ากล่าวขึ้นพร้อมกับตาที่กับรอยยิ้มของเขาและตบลงไปที่หลังของเซียวเฉิน
เซี่ยวเฉินรู้สึกถึงไหล่ของเขาจมลงและรู้สึกละอายในใจ ตอนนี้เขาได้บ่มเพาะสลักร่างพยัคฆ์มังกร โดยไม่ต้องพยายามอะไร,เขาสามารถรับแรงได้ถึงห้าร้อยกิโลกรัม
Comments
Immortal and Martial Dual Cultivationบทที่ 367 ความขุ่นเคือง
ตอนที่ 367 ความขุ่นเคือง
เซี่ยวเฉินประหลาดใจที่อซ่างเฉียนเคยไปที่เกาะอร่งนั้นมาแล้สสองครั้ง สําหรับที่เขาสามารถกลับออกมาได้อย่างปลอดภัย,เขาจะต้องมีความแข็งแกร่งมากกว่าที่เซี่ยวเฉันคิดเอาไว้
“ในครั้งแรกที่ผู้เฒ่าไปที่เกาะแห่งนั้น,ข้าได้รับหินวิญญาณระดับกลางมาสามพันก้อน, สมบัติลับสองชิ้น,และเม็ดยาระดับ 7 สองขวด ในครั้งที่สอง,เขากลับออกมาพร้อมกับห้าพันหินวิญญาณระดับกลาง,สมบัติลับสามชิ้นและเม็ดยาระดับ 8 หนึ่งขวดก่อนที่ข้าจะบ่มเพาะพลังมาถึงปัจจุบัน
เซี่ยวเฉินยิ้มบางๆและกล่าวขึ้น “ดูเหมือนว่าผู้เฒ่าอจะได้เตรียมการเอาไว้อย่างดีแล้วท่านน่าจะเก็บเกี่ยวได้มหาศาล”
“ยาก!” อูช่างเฉียนถอนหายใจ “ข้าไม่รู้ว่าเป็นไอ้หมูตอนตัวไหนที่แจกจ่ายแผนที่ออกไป ตอนนี้,ไม่เพียงแต่ผู้บ่มเพาะพลังจากอาณาจักรต้าจิน,ผู้บ่มเพาะพลังจากอีกสอาณาจักรที่พอมีคแข็งแกร่งก็จะมุ่งมาที่เกาะอห่งนี้”
การเผชิญโชคน้อยนักที่จะมีผ่านมา สมบัติที่ราชาทุ่งหญ้ามารอสูรได้ทิ้งเอาไว้จะต้องเป็นการเผชิญโชคครั้งใหญ่อย่างแน่นอน;มันนาาดึงดูดเป็นอย่างยิ่ง ไม่ต้องสงสัยว่าจะต้องมีหลายคนที่กำลังมุ่งหน้ามาเช่นกัน
ดูเหมือนว่าผู้บ่มเพาะพลังส่วนใหญ่หรือไม่ก็ทั้งหมดบนเรือล่านี้ ก็มาเพื่อล่าสมบัติของราชาทุ่งหญ้าเหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม,จากสีหน้าของอูซ่างเฉียน,ดูเหมือนว่าเขายังมีอะไรที่อยากจะกล่าว เซี่ยวเฉินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและกล่าว “ผู้อาวุโส,เพียงบอกข้ามาว่าท่านมีอะไรอยู่ในใจ”
อูซ่างเฉียนหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินเช่นนั้น “ผู้เยาว์สมัยนี้ช่างตรงไปตรงมา ผู้เฒ่าผู้นี้ก็ได้กล่าวไปเยอะแล้ว ที่จริง,ข้าอยากจะร่วมมือกับเจ้าเพื่อพบายามตามหาสมบัติที่ราชาทุ่งหญ้าเอาไว้”
สําหรับเซียวเฉิน,การทํางานร่วมกับอูซ่างเฉียนจะเป็นการช่วยได้มาก อูซ่างเฉียนได้ไปยังเกาะสมบัตินั้นแล้วสองครั้ง เขามีความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมบนเกาะมากกว่าคนอื่น เขาสามารถช่วยร่นเวลาในตอนที่เผชิญหน้ากับสิ่งท้าทาย
อย่างไรก็ตาม,คนผู้นี้คือคนที่เซียวเฉินไม่รู้จัก นอกจากนั้นอีกฝ่ายแข็งแกร่งกว่าเขาอูช่างเฉียน อยู่ในตําแหน่งที่ได้เปรียบ หากเขาได้ของดีๆมา,และอูซ่างเฉียนอยากจะสังหารเขาแล้ว แย่งเอามันไป,เขาก็ไม่อาจทําอะไรได้
“ขออภัย; ข้าทํางานคนเดียว ข้าเกรงว่าข้าไม่อาจรับความตั้งใจของท่านได้
แม้ว่ามันจะเป็นประโยชน์มากกว่า แต่เซียวเฉินก็ไม่เห็นด้วย; มันมีความเสี่ยงมากเกินไป
จากนั้น,อซ่างเฉียนก็สัญญาถึงผลประโยชน์มากมาย,พยายามอย่างที่สุดเพื่อโน้มน้าวเซี่ยวเฉินให้ร่วมมือกับเขา แต่อย่างไรก็ตาม,เซี่ยวเฉินก็ไม่หวั่นไหว:เขาไม่ยินยอมไม่ว่าจะได้รับข้อเสนออะไรก็ตาม
“ฮ่าฮ่า! ในเมื่อน้องชายไม่เห็นด้วย,เช่นนั้นก็ไม่เป็นไร ในตอนที่พวกเราพบกันอีกครั้งในอนาคต.พวกเราก็ยังคงเป็นสหายกัน ผู้เฒ่าผู้นี้ขอตัวก่อน” ความขุ่นเคืองใจวบไหวในดวงตาของอูซ่างเฉียนขณะที่เขายิ้มอย่างอ่อนโยน
ดวงตาของเซี่ยวเฉินเฉียบคม, เขาสังเกตเห็นความไม่พอใจนี้ ทําให้เขาตัดสินใจได้อย่างแน่วแน่ ชายชราผู้นี้จะต้องไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม,หากอซ่างอยากจะเล่นลูกไม้,เซียวเฉินก็ไม่ใช่คนดีที่ชอบถูกรังแก แม้ว่าเซียวเฉินจะไม่สามารถสังหารเขาลงได้, เซียวเฉินก็ยังสามารถทําให้เขาบาดเจ็บหนัก
“พี่ใหญ่เซียวเฉิน,บุคคลเมื่อก่อนครู่นี้เจ้าเล่ห์เป็นอย่างมาก เสี่ยวไปสามารถสัมผัสถึงฉีฆ่าฟันของเขาได้ แต่กระนั้นเขาก็ยังมีใบหน้าเปื้อนยิ้ม” เสี่ยวไป๋กล่าวเบาๆขณะที่นางเดินเข้ามา
เซี่ยวเฉินยิ้มเบาๆและกล่าว “เมินเฉยเขาไปซะ ไม่ต้องออกมาจากห้องในช่วงสองสามวันนี้ คนผู้นี้รับมือด้วยไม่ง่าย
“บูม! บูม! บูม!”
ในจังหวะนั้นเอง, คลื่นอันรุนแรงพลันปรากฏขึ้นในทะเลอันเงียบสงบ คลื่นทะเลสูงมากกว่า 100 เมตร เรือสินค้าขนาดใหญ่ส่ายไปมาท่ามกลางคลื่นที่โหมกระหน่ํา
สถานการณ์ที่เปลี่ยนอย่างฉับพลันทําให้ผู้บ่มเพาะพลังบนดาดฟ้าเรือตกใจพวกเขาเกือบจะล้มลงไปกับพื้น
“เกิดอะไรขึ้น? พวกเรายังคงอยู่ใกล้กับแผ่นดินทวีป มันมีคลื่นพายุไม่มากในช่วงฤดูนี้ ทําไมคลื่นเช่นนี้ถึงได้ปรากฏขึ้นอย่างฉับพลัน” ผู้บ่มเพาะพลังหลายคนที่ที่มักจะเดินทางข้ามทะเลเป็นประจํากล่าวขึ้นอย่างสงสัย
เรือสินค้ายังคงสันไหว,แต่เหล่าผู้บ่มเพาะพลังได้สติขึ้นมาแล้ว หลังจากหมุนเวียนพลังปราณของพวกเขา,พวกเขาก็สามารถยืนได้อย่างสมดุล
เซียวเฉินยืนนิ่งราวกับเสาอยู่บนดาดฟ้า แม้ว่าเรือสินค้าจะสั่นไหวรุนแรงถึงเพียงใด,เขาก็ไม่ขยับ เขาช่วยพยุงเสี่ยวไปและขยายสัมผัสวิญญาณของเขาไกลออกไป
ในไม่ช้า,เซี่ยวเฉินก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น มีเรือสงครามสองล่ากําลังสู้รบกันอย่างดุเดือดห่างออกไปประมาณแปดพันเมตรตรงหน้า
ปืนใหญ่พลังงานปีศาจโบราณยิงใส่กันและกันส่งกระสุนพลังงานลอยออกไป แสงรุ่งโรจน์เติมเต็มในท้องฟ้า
ผลกระทบจากสมรภูมิรบทําให้เกิดพายุรุนแรงขนาดใหญ่,เกิดคลื่นยักษ์เคลื่อนผ่านไปในทะเล
“ผลกระทบจากสมรภูมิช่างรุนแรง เรือสงครามแต่ละลําติดปืนใหญ่พลังงานปีศาจโบราณอย่างน้อยเป็นร้อยกระบอก ไม่สงสัยว่าทําไมผลกระทบถึงยังรุนแรงถึงเพียงนี้”
เซียวเฉินถอนสัมผัสวิญญาณของเขากลับมา เขาคิดกับตัวเองอย่างตกตะลึง,เรือสงครามลําสีน้ําเงินดูเหมือนจะมีธงของสมาคมการค้าวิหคทองค่า
สมาคมการค้าวิหคทองคํา…ไม่ใช่ว่านั้นคือสมาคมการค้าจากตระกูลของจินต้าเป่า?
เรือสงครามอีกล่ามีสีดําสนิทและมีธงอยู่ที่หัวเรือ มีสัญลักษณ์ไฮดรากําลังเปิดปากกว้างปักอยู่
บนธง
มีโล่แสงทรงกลมล้อมรอบเรือสงครามทั้งสองลํา;พวกมันป้องกันกระสุนพลังงานที่มาจากอีกฝ่าย พวกมันสู้รบกันได้อย่างสูสี หากยืดเยื้อไป,เรือสงครามทั้งสองอาจจะจมลงในเวลาเดียวกัน
“ตุบ!ตุบ!ตุบ!”
มีกลุ่มคนออกมาจากห้องเรือสินค้า นั่นคือกัปตันเรือและยามประจําเรือ เห็นได้ชัดว่าคลื่นแปลกประหลาดทําให้พวกเขาตกใจ
กัปตันเรือสินค้าลํานี้เป็นชายวัยกลางคน เขาตัวสูงและมีรูปร่างที่น่าประทับใจ เขาสวมชุดคลุมสีเหลืองเย็บด้วยด้ายสีทอง กระแสพลังของเขารุ่งโรจน์;เขาอยู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูง
มียามประจําเรือ 8 คนอยู่ใกล้กับกัปตัน พวกเขาทั้งหมดอยู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธแล้วแต่ละคนอายุไม่เกินสี่สิบปี นี่คือจุดยอดสุดของชีวิตมนุษย์ แรงขับดันและความเฉียบคมแข็งแกร่งกว่าระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธสูงอายุที่อยู่บนดาดฟ้า
หากพวกเขาแต่ละคนต่อสู้กัน,พลังปราณของผู้สูงอายุจะอยู่ได้ไม่นาน มันเป็นเพราะพลังฉี และโลหิตของรุ่นเยาว์มีเหลือล้นมากกว่า; ความเฉียบคมของพวกเขายังชัดเจน ดังนั้น,โอกาสชนะของพวกเขาจึงสูงกว่า
กัปตันเรือมองไปยังทะเลที่เกรี้ยวกราดและคิ้วขมวด เขากล่าวกับคนที่อยู่ด้านข้างของเขา “หลิวเซิง,การรับรู้ของเจ้าเทียบเท่ากับครึ่งก้าวสู่ระดับขอบเขตปราชญ์ยุทธ ช่วยข้าดูว่าเกิดอะไรขึ้น?”
ผู้บ่มเพาะพลังที่ชื่อหลิวเซิงพยักหน้า เขาเดินไปที่หัวเรือและหลับตาลง เขาปลดปล่อยระลอกคลื่นแสงสีฟ้าออกมาแสงสีฟ้าหลอมรวมเข้ากับน้ําและขยายออกไปข้างหน้า
จิตวิญญาณยุทธของคนผู้นี้น่าจะมีความพิเศษ นอกจากนั้น,เขายังได้สําเร็จถึงสภาวะแห่งน้ํา ดังนั้น การรับรู้ของเขาเทียบเท่ากับครึ่งก้าวสู่ระดับขอบเขตปราญช์ยุทธ,เซียวเฉินครุ่นคิด
“กัปตัน, มีเรือสงครามไฮดราของกลุ่มมังกรทมิฬกําลังสู้รบกับเรือสงครามใต้สายวารีของสมาคมการค้าวิหคทองคํา” หลิวเซิงกล่าวพร้อมกับลืมตาขึ้น
“นี่มันพื้นที่ชายฝั่งทะเลทําไมถึงได้มีเรือของกลุ่มมังกรทมิฬ? หรือพวกเขาจะเข้ามาผิดที่?” มีกษัตริย์ยุทธสูงอายุผู้หนึ่งบนดาดฟ้าเรืออุทานขึ้นอย่างตกตะลึง
หลิวเซิงเดินตรงเข้ามาและกล่าว “กัปตัน,พวกเราควรทําอย่างไร?”
กัปตันเรือคิ้วขมวดแน่นและพึมพํากับตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้น,เขาถามขึ้น “เจ้าแน่ใจว่ามีเรือสงครามเพียงสองล่า? มีเรือสินค้าหรือเรือโดยสารล่าอื่นอีกหรือไม่?”
หลิวเซิงพยักหน้าและกล่าว “ถ้าไม่เห็นเรือสินค้าของสมาคมการค้าวิหคทองคําหรือเรือโดยสารภายในระยะห้าสิบกิโลเมตร มีเพียงเดือนสงครามสองล่ากําลังต่อสู้กัน”
สีหน้าของกัปตันผ่อนคลายลง เขากล่าว “เมื่อเป็นเช่นนั้น,เมินเฉยพวกเขาไปเสีย ขึ้นธงของสมาคมการค้าและเดินทางต่อไป!”
“โดยปกติกลุ่มมังกรทมิฬจะทําการอยู่ในทะเลน้ําตื้นของภูมิภาคทั้งสี่ ทําไมพวกเขาถึงได้มาที่ชายฝั่งทะเล? มันน่าแปลก”
“เรือสงครามของสมาคมการค้าวิหคทองคําก็ด้วยเช่นกัน ไม่ใช่ปกติพวกเขาจะปฏิบัติการอยู่ที่ทะเลตื่นของทะเลเหนือ? ทําไมพวกเขาถึงได้มาทางตะวันตก?”
“บางที่พวกเขาอาจจะเข้ามาเพื่อสมบัติที่ราชาทุ่งหญ้าทิ้งเอาไว้ หากเป็นเช่นนั้นจริง, โอกาสของพวกเราก็ยิ่งลดน้อยลงไปอีก”
เมื่อผู้บ่มเพาะพลังหลายคนบนดาดฟ้าคิดถึงความเป็นไปได้นี้ สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยน
สมบัติของราชาทุ่งหญ้าได้ดึงดูดผู้บ่มเพราะพลังมากมายจากทั้งสี่อาณาจักรใหญ่ ตอนนี้ยังมีสมาคมการค้าวิหคทองคําและกลุ่มมังกรทมิฬเข้ามามีส่วนร่วม,โอกาสของพวกเขาในการเผชิญโชคครั้งนี้ได้ลดน้อยลงไปอีก
สีหน้าของอูซ่างเฉียนกลายเป็นยิ่งน่าเกลียดเช่นกัน เขาเหลือบมองไปที่เซียวเฉิน,และมีแสงแปลกประหลาดปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา มันราวกับเป็นงูพิษที่กาลังแลบลิ้นของมันออกมา
เรือสินค้าขึ้นธงสมาคมการค้าของพวกเขาและเคลื่อนที่เต็มกําลัง หลังจากผ่านไปสองชั่วโมง,พวกเขาก็เข้าไปใกล้กับใจกลางสมรภูมิ
คลื่นทะเลกลายเป็นยิ่งรุนแรง ตอนนี้พวกมันสูงมากกว่าสองร้อยเมตร;มันน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง
ในตอนที่กระสุนพลังงานรุ่งโรจน์เคลื่อนผ่านผิวน้ําทะเล,พวกมันก่อให้เกิดกําแพงน้ําสูงขึ้นทั้งสองฝั่ง
“ช่างสิ้นเปลือง ปืนใหญ่พลังงานปีศาจโบราณหนึ่งนัดจะใช้หินวิญญาณระดับต่ําถึงหนึ่งพันก่อน พวกเขายิงออกมาราวกับเป็นกระสุนหิน” มีผู้บ่มเพาะพลังคนหนึ่งบนดาดฟ้าเรือถอนหายใจ
ในตอนที่เรือสงครามทั้งสองล่าเห็นธงของเรือสินค้า,พวกเขาก็หยุดยิงลงในเวลาเดียวกัน ท้องทะเลที่เกรี้ยวกราดค่อยๆกลับมาสงบลง
เรือสินค้าแล่นอย่างสงบผ่านเรือสงครามทั้งสองล่า
นี่มันช่างน่าแปลกอาวุธของและสินค้าลํานี้ไม่รุนแรงเท่ากับเรือสงคราม แต่กระนั้น,เรือสงครามทั้งสองลากลับปล่อยพวกเขาผ่านไปอย่างสงบ,เซียวเฉินครุ่นคิดอย่างงุนงงในใจของเขา
นี่อาจจะเป็นหนึ่งในกฎของท้องทะเล บางทีเรือสงครามไม่สามารถโจมตีเรือสินค้าได้ มี ฉะนั้น,หากพวกเขาแหกกฎ,ขุมอํานาจทั้งหมดจะหันกระบอกปืนเข้าใส่พวกเขา
“เซี่ยวเฉิน! ตรงนี้!”
ขณะที่เซี่ยวเฉินกําลังคิดเพลินๆ, มีเสียงดังขึ้นจากข้างบน ในตอนที่เซี่ยวเฉินเงยหน้าของเขาขึ้นไปมองที่หัวเรือใต้สายวารีที่อยู่สูงขึ้นไปสองร้อยเมตร, เจ้าหมูจินกําลังโบกมือมาทางเขาอย่างบ้าคลั่ง
เซี่ยวเฉินลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะกล่าวกับเสี่ยวไป์ “มา;ไปกันเถอะ”
ทั้งสองดีดตัวออกจากเรือและกระโดดขึ้นไปบนหัวเรือสงครามใต้สายวารีขณะที่ผู้บ่มเพาะพลังบนดาดฟ้าเรือจ้องมองไปที่เขายังตกตะลึง
“จินต้าเป่าเรียกเขาว่าอะไรเมื่อครู่นี้? ข้าไม่ได้ยินผิดไปใช่ไหม? เขาเรียก “เซี่ยวเฉิน?”
“น่าจะเป็นอย่างนั้น ข้าไม่คาดคิดว่าคนผู้นั้นจะเป็นมือกระบี่ชุดขาว,เซี่ยวเฉิน เขาเก็บตัวเงียบเกินไปแล้ว”
“มันจบแล้ว:ข้าเยาะเย้ยที่เขาแต่งตัวเลียนแบบมือกระบี่ชุดขาวเมื่อครู่นี้ ช่างน่าอับอาย”
ในตอนที่ผู้คนบนดาดฟ้าเรือยืนยันได้ถึงตัวตนของเซี่ยวเฉิน,พวกเขาทั้งหมดพูดคุยกันอย่างหลงใหล พวกเขาไม่คาดคิดว่ามือกระบี่ในตํานานแห่งศาลากระบีสวรรค์จะมาปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขา”
เมื่ออูซ่างเฉียนจ้องมองเซียวเฉินที่กระโดดขึ้นไปบนเรือสงครามใต้สายวารี,ความผิดหวังวูบไหวในดวงตาของเขา เขาพึมพํา “ช่างน่าเสียดาย ข้าวางแผนเอาไว้ว่าจะลงมือในคืนนี้ เจ้าหมอนี่มีสมบัติลับติดตัวอย่างน้อยสามชิ้น หากข้าได้พวกมันมา,ถือว่าเก็บเกี่ยวได้มากแล้ว”
“อย่างไรก็ตาม, หากเขาไปที่เกาะเชียนเหลิ่น,ข้าก็ยังมีโอกาส มันไม่ง่ายที่จะได้สมบัติของราชาทุ่งหญ้ามา”
ขณะที่เรือสินค้ากําลังเคลื่อนหน้าต่อไป,อซ่างเฉียนยังจ้องมองไปที่เซียวเฉิน ความโลภในดวงตาของเขาค่อยๆจางหายไป
“ฮ่าฮ่า,มือกระบี่ชุดขาว,เซี่ยวเฉิน,ตอนนี้เจ้าดังใหญ่แล้ว ตํานานของเจ้าถึงกับเริ่มแผ่ขยายไปในอาณาจักรต้าถังของข้า พี่หมูผู้นี้ต้องขอไปกับเจ้านับตั้งแต่นี้” จินต้าเป่ากล่าวขึ้นพร้อมกับตาที่กับรอยยิ้มของเขาและตบลงไปที่หลังของเซียวเฉิน
เซี่ยวเฉินรู้สึกถึงไหล่ของเขาจมลงและรู้สึกละอายในใจ ตอนนี้เขาได้บ่มเพาะสลักร่างพยัคฆ์มังกร โดยไม่ต้องพยายามอะไร,เขาสามารถรับแรงได้ถึงห้าร้อยกิโลกรัม
Comments