คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 42 เธอเข้าใจเหรอว่าอะไรคือการรักษาด้วยเข็มทอง

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 42 เธอเข้าใจเหรอว่าอะไรคือการรักษาด้วยเข็มทอง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เจียงหรานที่ตามมาด้านหลัง “…”

โวะ นี่เขาใช่ลูกแท้ๆ หรือเปล่า

เจียงฮว่าผิงถึงได้สังเกตเห็นว่าเด็กสาวตรงหน้าหน้าตาดีจนน่าตกใจ อดจับใบหน้าขาวนวลละเอียดของเธอไม่ได้ “อุ๊ย น้าตื่นเต้นไปหน่อย ไม่ตกใจใช่ไหมจ๊ะ”

อิ๋งจื่อจินส่ายหน้าเล็กน้อย ตอบอย่างสุภาพ

ซิวอวี่เก็บกระบองหนามของปลอม เธอเองก็รู้สึกเหนือความคาดหมาย “พี่ฮว่าผิงมาด้วยตัวเองเลยเหรอคะ”

“กลับมาพอดีน่ะ” เจียงฮว่าผิงอารมณ์ดี “เสี่ยวอวี่เด็กดี”

เจียงหราน “…”

พอจะรู้แล้วว่าทำไมแม่เขาชอบให้เรียกว่าพี่ ที่แท้ก็ถูกเอาใจมาตลอด

สีหน้าของเจียงหรานบึ้งตึงกว่าเดิม รังสี ‘รมณ์บ่จอย’ แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย

อาจารย์ปกครองทำหน้างง

จงมั่นหวากลับยืนตัวแข็งอยู่ที่เดิม หน้าแดงด้วยความอับอาย ริมฝีปากสั่น

เธอรู้สึกขายหน้าแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ราวกับเลือดในกายไหลย้อนกลับ ทิ่มแทงไปทั่วทั้งแผ่นหลัง

ตระกูลเจียง…ไม่ได้มาเอาเรื่องหรอกเหรอ

ทั้งยังขอบคุณเสียด้วย

เจียงฮว่าผิงถึงได้หันหน้ามา “คุณนายอิ๋งใช่ไหมคะ มีอะไรจะพูดกับฉันเหรอคะ”

จงมั่นหวาย่อมรู้จักเจียงฮว่าผิง

เจียงฮว่าผิงรุ่นเดียวกับเธอ เป็นพี่สาวคนรองของเจียงมั่วหย่วน แต่ไปอยู่ตี้ตูตอนห้าขวบ

หลังจากแต่งงานยิ่งไม่สนใจพวกไฮโซในเมืองฮู่เฉิงอีกต่อไป

แต่ไหนแต่ไรมาจงมั่นหวาทนไม่ได้ถ้ามีคนมองข้ามเธอ เท่ากับเป็นการตบหน้าเธอ

แต่คนคนนี้คือเจียงฮว่าผิง แม้แต่จะโมโหเธอยังไม่มีสิทธิ์

“ก็ไม่ใช่เรื่องอะไรหรอกค่ะ” จงมั่นหวาสูดลมหายใจเข้าลึก ฝืนยิ้ม “แค่ได้ยินว่าเด็กๆ ทะเลาะกันในโรงเรียนก็เลยให้คุณมาที่นี่หน่อย ขายหน้าคุณแล้วจริงๆ ค่ะ”

“โห ป้า เปลี่ยนอารมณ์ไวจังนะ” ซิวอวี่ตกใจ “เมื่อกี้ยังบังคับให้พ่ออิ๋งไปขอโทษตระกูลเจียงอยู่เลยไม่ใช่เหรอ ถึงขนาดที่ลงไม้ลงมือด้วย ตอนนี้กลับกลายเป็นไม่มีเรื่องอะไรแล้วงั้นเหรอ”

ใบหน้าของจงมั่นหวาแดงก่ำ สายตากลับดุดัน “ผู้ใหญ่คุยกัน เด็กอย่ามาสอด!”

เจียงฮว่าผิงหุบยิ้ม สีหน้าก็นิ่งลง “คุณนายอิ๋ง คุณไม่รู้เหรอคะว่าวันนี้ลูกชายฉันขวางเด็กคนนี้ไม่ให้เข้าห้องก็เลยถูกอัด”

“เรื่องนี้เดิมทีก็เป็นความผิดของลูกชายฉัน เรื่องใช้กำลังก็ลูกชายฉันที่เป็นคนเสนอ ทำไมคุณต้องให้ลูกสาวคุณขอโทษด้วยคะ”

ทั้งๆ ที่เป็นคำถาม แต่กลับรู้สึกเหมือนถูกประชด

จงมั่นหวาชะงัก ท่าทีอ่อนลงทันที เธออายมาก “จื่อจิน ทำไมไม่รีบบอกแม่แต่แรก”

อิ๋งจื่อจินเงยหน้า พูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ไร้สาระ”

หลังจากหันไปขอบคุณเจียงฮว่าผิงเสร็จเธอก็เปิดประตูเดินออกไป

“ความหมายของพ่ออิ๋งคือ การคุยกับป้าเป็นเรื่องไร้สาระ” ซิวอวี่ทำเสียงหึใส่ “พี่ฮว่าผิง พวกเราไปแล้วนะคะ”

เจียงฮว่าผิงยิ้มตาหยีพลางโบกมือให้แล้วพูดขึ้น “คุณนายอิ๋งคะ ถึงแม้จะไม่เอ็นดูเพราะไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเห็นเป็นศัตรู เห็นด้วยไหมคะ”

จงมั่นหวาใบหน้าร้อนผ่าว “ค่ะ ใช่ค่ะ…”

ในที่สุดเจียงหรานก็เข้าใจแล้ว เขาแสยะยิ้ม “ใครต้องการคำขอโทษกัน ป้าประสาทหรือเปล่า ยุ่งไม่เข้าเรื่อง”

ลูกผู้ชายอกสามศอกอย่างเขาใช่ว่าจะแพ้ไม่เป็น

ถูกเด็กประชดใส่ จงมั่นหวาก็อับอายยิ่งกว่าเดิม รีบเดินออกไปพร้อมใบหน้าแดงก่ำ

เจียงหรานอารมณ์เสีย “แม่ ยังไม่บอกเลยนะว่ากลับมาได้ไง”

“ทางตระกูลเมิ่งวิจัยยาชนิดใหม่ออกมาได้ แม่เลยเอามาให้เราหนึ่งชุด” เจียงฮว่าผิงตบบ่าลูกชาย “ตอนนี้ตี้ตูวุ่นวายมาก เราก็อยู่ฮู่เฉิงไปก่อน”

เจียงหรานตอบอย่างเหม่อลอย ในใจคิดเรื่องอื่น

ดูท่ายัยเด็กย้ายห้องคนนี้จะมีชีวิตที่ลำบาก จึ๊ งั้นเขาจะเห็นแก่ที่เธอดวงดีเอาชนะเขาได้ครั้งหนึ่ง ต่อไปจะทำดีด้วยมากหน่อยแล้วกัน

ด้านนอกโรงเรียน เวลาหกโมง

เนี่ยเฉานั่งอยู่เบาะหลังสะลึมสะลือใกล้จะหลับ

จนกระทั่งประตูรถถูกเปิดออก เขาถึงสะดุ้งตื่น เห็นเด็กสาวเข้ามานั่งเบาะข้างคนขับ “มาแล้วเหรอน้องสาว”

อิ๋งจื่อจินหันหน้าไปมอง ขมวดคิ้ว “แผลหายแล้วเหรอ”

“ลูกพี่ ลูกพี่โคตรเทพเลย” พอพูดถึงเรื่องนี้เนี่ยเฉาก็ตื่นเต้น “เธอดูดวงเป็นจริงเหรอ ดูให้ฉันบ้างสิ เมื่อไรฉันจะเจอรักแท้”

“เนี่ยเฉา”

เสียงเนือยของชายหนุ่มดังมาจากด้านหน้า น้ำเสียงเจือไปด้วยการเตือน

“คุณชายเจ็ด ฉันก็แค่ลองถามดู” เนี่ยเฉาเกาหัว “ก็แค่สงสัย”

“อ๋อ ไม่เป็นหรอก” อิ๋งจื่อจินพิงหน้าต่างเอามือยันหัว สีหน้าไม่สนใจ “พูดไปเล่นๆ แค่ขู่คุณน่ะ”

เนี่ยเฉา “…”

ก็จริง น่าจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญ

แต่ทำไมน้องสาวไม่อ่อนโยนกับเขาบ้างเลยล่ะ

ฟู่อวิ๋นเซินเอาถั่วช็อกโกแลตให้อิ๋งจื่อจินหนึ่งถุงแล้วถึงออกรถ

ครึ่งชั่วโมงต่อมารถก็มาหยุดที่หน้าโรงพยาบาลเซ่าเหริน

“ไม่ต้องรอฉันหรอก” อิ๋งจื่อจินลงจากรถ สะพายกระเป๋าหนังสือ “คุณไปทำธุระของคุณ เดี๋ยวฉันกลับเอง”

“อืม” ฟู่อวิ๋นเซินไม่พูดอะไรมาก เขาเอามือลูบศีรษะของเธอ “ระวังตัวด้วย มีอะไรก็โทรหาพี่ชายนะ”

อิ๋งจื่อจินก็ไม่ถือสา เธอจัดผมให้เรียบร้อย พยักหน้าแล้วหมุนตัวเดินเข้าประตูโรงพยาบาล

โรงพยาบาลเซ่าเหรินที่มู่เฮ่อชิงยกให้เธอเป็นโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนโดยเฉพาะ มีประวัติศาสตร์ยี่สิบปี ชื่อเสียงไม่ด้อยไปกว่าโรงพยาบาลอันดับหนึ่ง

แต่เนื่องจากช่วงหลายปีมานี้การรักษาแผนตะวันตกโด่งดังขึ้นมา คนที่มารักษาด้วยแพทย์แผนจีนจึงลดน้อยลงเรื่อยๆ

อิ๋งจื่อจินกวาดตามองห้องตรวจขนาดใหญ่แต่ละห้องภายในโรงพยาบาล แอบนับในใจ

หลังจากที่พอเข้าใจคร่าวๆ แล้วเธอก็เดินตรงไปที่ห้องทำงานของหัวหน้าแผนกอายุรกรรม ยกมือเคาะประตู

“เข้ามา”

น้ำเสียงเข้มงวดแบบคนที่มีตำแหน่งสูง

ประตูเปิดออก หัวหน้าแผนกอายุรกรรมเงยหน้า ขมวดคิ้วทันที

เขาได้รับแจ้งมาแล้ว รู้ว่าเวลานี้จะมีผู้เชี่ยวชาญท่านหนึ่งที่อยู่ๆ ก็โผล่มา

เดิมทีเขาก็เกลียดพฤติกรรมอาศัยเส้นสายมากอยู่แล้ว นึกไม่ถึงว่าคนที่มายังจะเป็นเพียงเด็กวัยรุ่นอีก

คาดว่าแม้แต่สมุนไพรอย่างตังกุยกับตู๋หัวก็ยังจะแยกไม่ออกด้วยซ้ำ ยังจะกล้าอ้างว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญกินเงินเดือนฟรีๆ อีก

หัวหน้าแผนกอายุรกรรมแสยะยิ้ม แม้แต่สีหน้าตามมารยาทก็ยังขี้เกียจจะทำ

เขาหยิบซองเอกสารออกมาโยนบนโต๊ะ “ของเธอ เอาไปสิ”

อิ๋งจื่อจินเปิดออก พลิกดูผ่านๆ อ่านอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็จำได้หมด จากนั้นก็โยนกลับไป

หัวหน้าแผนกอายุรกรรมเห็นแบบนั้นก็รังเกียจยิ่งกว่าเดิม ขณะที่เขากำลังจะพูดว่า ‘ไม่มีอะไรแล้วก็รีบออกไป’ ทันใดนั้นประตูก็ถูกเปิดออก

พยาบาลคนหนึ่งวิ่งเข้ามาด้วยความเหนื่อยหอบ พูดอย่างร้อนใจ “หัวหน้าคะ คนไข้เตียงสิบเจ็ดช็อกหนักไปแล้วค่ะ!”

หัวหน้าแผนกอายุรกรรมสีหน้าเปลี่ยนไปมากทันที “ผมจะไปเดี๋ยวนี้”

เขาเองก็ไม่มีเวลาสนใจเรื่องที่มู่เฉิงมอบหมายแล้ว ทิ้งเด็กสาวไว้ตรงนั้นแล้วรีบออกไป

ดวงตาของอิ๋งจื่อจินขยับเล็กน้อย เดินออกไปอย่างใจเย็น

ภายในห้องผู้ป่วยตรงหน้า

ตามจุดฝังเข็มบนร่างกายผู้ป่วยเต็มไปด้วยเข็ม แต่ลมหายใจแทบจะไม่หลงเหลืออยู่เลย

แพทย์หลายคนรู้สึกจนปัญญา “ทำไงดีครับหัวหน้า”

“แจ้งญาติก่อน” หัวหน้าแผนกอายุรกรรมเริ่มใจเย็นลง “เดิมทีทนมาได้ถึงตอนนี้ก็ปาฏิหาริย์แล้ว ยื้อชีวิตกลับมาไม่ได้ก็อยู่ในความคาดหมาย”

แต่ทว่ากลับมีเสียงพูดแทรกขึ้นมาราวกับต้องการตบหน้าเขา

“ยื้อได้”

พวกหมอหันไปดู ต่างอึ้งไปตามๆ กัน

เดิมทีหัวหน้าแผนกอายุรกรรมก็ร้อนใจมากอยู่แล้ว พอเห็นว่ามีคนมาก่อกวน ความโกรธก็พลุ่งพล่านทันที “ยื้อได้เหรอ เอาสิ เธอว่ามาจะยื้อยังไง”

อิ๋งจื่อจินแค่เหลือบมองแล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “รักษาด้วยเข็มทอง”

“รักษาด้วยเข็มทองงั้นเหรอ” พอได้ยินแบบนี้หัวหน้าแผนกอายุรกรรมก็แสยะยิ้ม “เธอเข้าใจเหรอว่าอะไรคือการรักษาด้วยเข็มทอง”

นี่เป็นวิธีฝังเข็มที่ถูกบันทึกอยู่ในตำราโบราณ จวบจนปัจจุบันนี้อายุไม่ใช่แค่สองร้อยปี กลายเป็นตำนานไปแล้ว มีคนทำเป็นที่ไหนกัน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 42 เธอเข้าใจเหรอว่าอะไรคือการรักษาด้วยเข็มทอง

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 42 เธอเข้าใจเหรอว่าอะไรคือการรักษาด้วยเข็มทอง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เจียงหรานที่ตามมาด้านหลัง “…”

โวะ นี่เขาใช่ลูกแท้ๆ หรือเปล่า

เจียงฮว่าผิงถึงได้สังเกตเห็นว่าเด็กสาวตรงหน้าหน้าตาดีจนน่าตกใจ อดจับใบหน้าขาวนวลละเอียดของเธอไม่ได้ “อุ๊ย น้าตื่นเต้นไปหน่อย ไม่ตกใจใช่ไหมจ๊ะ”

อิ๋งจื่อจินส่ายหน้าเล็กน้อย ตอบอย่างสุภาพ

ซิวอวี่เก็บกระบองหนามของปลอม เธอเองก็รู้สึกเหนือความคาดหมาย “พี่ฮว่าผิงมาด้วยตัวเองเลยเหรอคะ”

“กลับมาพอดีน่ะ” เจียงฮว่าผิงอารมณ์ดี “เสี่ยวอวี่เด็กดี”

เจียงหราน “…”

พอจะรู้แล้วว่าทำไมแม่เขาชอบให้เรียกว่าพี่ ที่แท้ก็ถูกเอาใจมาตลอด

สีหน้าของเจียงหรานบึ้งตึงกว่าเดิม รังสี ‘รมณ์บ่จอย’ แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย

อาจารย์ปกครองทำหน้างง

จงมั่นหวากลับยืนตัวแข็งอยู่ที่เดิม หน้าแดงด้วยความอับอาย ริมฝีปากสั่น

เธอรู้สึกขายหน้าแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ราวกับเลือดในกายไหลย้อนกลับ ทิ่มแทงไปทั่วทั้งแผ่นหลัง

ตระกูลเจียง…ไม่ได้มาเอาเรื่องหรอกเหรอ

ทั้งยังขอบคุณเสียด้วย

เจียงฮว่าผิงถึงได้หันหน้ามา “คุณนายอิ๋งใช่ไหมคะ มีอะไรจะพูดกับฉันเหรอคะ”

จงมั่นหวาย่อมรู้จักเจียงฮว่าผิง

เจียงฮว่าผิงรุ่นเดียวกับเธอ เป็นพี่สาวคนรองของเจียงมั่วหย่วน แต่ไปอยู่ตี้ตูตอนห้าขวบ

หลังจากแต่งงานยิ่งไม่สนใจพวกไฮโซในเมืองฮู่เฉิงอีกต่อไป

แต่ไหนแต่ไรมาจงมั่นหวาทนไม่ได้ถ้ามีคนมองข้ามเธอ เท่ากับเป็นการตบหน้าเธอ

แต่คนคนนี้คือเจียงฮว่าผิง แม้แต่จะโมโหเธอยังไม่มีสิทธิ์

“ก็ไม่ใช่เรื่องอะไรหรอกค่ะ” จงมั่นหวาสูดลมหายใจเข้าลึก ฝืนยิ้ม “แค่ได้ยินว่าเด็กๆ ทะเลาะกันในโรงเรียนก็เลยให้คุณมาที่นี่หน่อย ขายหน้าคุณแล้วจริงๆ ค่ะ”

“โห ป้า เปลี่ยนอารมณ์ไวจังนะ” ซิวอวี่ตกใจ “เมื่อกี้ยังบังคับให้พ่ออิ๋งไปขอโทษตระกูลเจียงอยู่เลยไม่ใช่เหรอ ถึงขนาดที่ลงไม้ลงมือด้วย ตอนนี้กลับกลายเป็นไม่มีเรื่องอะไรแล้วงั้นเหรอ”

ใบหน้าของจงมั่นหวาแดงก่ำ สายตากลับดุดัน “ผู้ใหญ่คุยกัน เด็กอย่ามาสอด!”

เจียงฮว่าผิงหุบยิ้ม สีหน้าก็นิ่งลง “คุณนายอิ๋ง คุณไม่รู้เหรอคะว่าวันนี้ลูกชายฉันขวางเด็กคนนี้ไม่ให้เข้าห้องก็เลยถูกอัด”

“เรื่องนี้เดิมทีก็เป็นความผิดของลูกชายฉัน เรื่องใช้กำลังก็ลูกชายฉันที่เป็นคนเสนอ ทำไมคุณต้องให้ลูกสาวคุณขอโทษด้วยคะ”

ทั้งๆ ที่เป็นคำถาม แต่กลับรู้สึกเหมือนถูกประชด

จงมั่นหวาชะงัก ท่าทีอ่อนลงทันที เธออายมาก “จื่อจิน ทำไมไม่รีบบอกแม่แต่แรก”

อิ๋งจื่อจินเงยหน้า พูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ไร้สาระ”

หลังจากหันไปขอบคุณเจียงฮว่าผิงเสร็จเธอก็เปิดประตูเดินออกไป

“ความหมายของพ่ออิ๋งคือ การคุยกับป้าเป็นเรื่องไร้สาระ” ซิวอวี่ทำเสียงหึใส่ “พี่ฮว่าผิง พวกเราไปแล้วนะคะ”

เจียงฮว่าผิงยิ้มตาหยีพลางโบกมือให้แล้วพูดขึ้น “คุณนายอิ๋งคะ ถึงแม้จะไม่เอ็นดูเพราะไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเห็นเป็นศัตรู เห็นด้วยไหมคะ”

จงมั่นหวาใบหน้าร้อนผ่าว “ค่ะ ใช่ค่ะ…”

ในที่สุดเจียงหรานก็เข้าใจแล้ว เขาแสยะยิ้ม “ใครต้องการคำขอโทษกัน ป้าประสาทหรือเปล่า ยุ่งไม่เข้าเรื่อง”

ลูกผู้ชายอกสามศอกอย่างเขาใช่ว่าจะแพ้ไม่เป็น

ถูกเด็กประชดใส่ จงมั่นหวาก็อับอายยิ่งกว่าเดิม รีบเดินออกไปพร้อมใบหน้าแดงก่ำ

เจียงหรานอารมณ์เสีย “แม่ ยังไม่บอกเลยนะว่ากลับมาได้ไง”

“ทางตระกูลเมิ่งวิจัยยาชนิดใหม่ออกมาได้ แม่เลยเอามาให้เราหนึ่งชุด” เจียงฮว่าผิงตบบ่าลูกชาย “ตอนนี้ตี้ตูวุ่นวายมาก เราก็อยู่ฮู่เฉิงไปก่อน”

เจียงหรานตอบอย่างเหม่อลอย ในใจคิดเรื่องอื่น

ดูท่ายัยเด็กย้ายห้องคนนี้จะมีชีวิตที่ลำบาก จึ๊ งั้นเขาจะเห็นแก่ที่เธอดวงดีเอาชนะเขาได้ครั้งหนึ่ง ต่อไปจะทำดีด้วยมากหน่อยแล้วกัน

ด้านนอกโรงเรียน เวลาหกโมง

เนี่ยเฉานั่งอยู่เบาะหลังสะลึมสะลือใกล้จะหลับ

จนกระทั่งประตูรถถูกเปิดออก เขาถึงสะดุ้งตื่น เห็นเด็กสาวเข้ามานั่งเบาะข้างคนขับ “มาแล้วเหรอน้องสาว”

อิ๋งจื่อจินหันหน้าไปมอง ขมวดคิ้ว “แผลหายแล้วเหรอ”

“ลูกพี่ ลูกพี่โคตรเทพเลย” พอพูดถึงเรื่องนี้เนี่ยเฉาก็ตื่นเต้น “เธอดูดวงเป็นจริงเหรอ ดูให้ฉันบ้างสิ เมื่อไรฉันจะเจอรักแท้”

“เนี่ยเฉา”

เสียงเนือยของชายหนุ่มดังมาจากด้านหน้า น้ำเสียงเจือไปด้วยการเตือน

“คุณชายเจ็ด ฉันก็แค่ลองถามดู” เนี่ยเฉาเกาหัว “ก็แค่สงสัย”

“อ๋อ ไม่เป็นหรอก” อิ๋งจื่อจินพิงหน้าต่างเอามือยันหัว สีหน้าไม่สนใจ “พูดไปเล่นๆ แค่ขู่คุณน่ะ”

เนี่ยเฉา “…”

ก็จริง น่าจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญ

แต่ทำไมน้องสาวไม่อ่อนโยนกับเขาบ้างเลยล่ะ

ฟู่อวิ๋นเซินเอาถั่วช็อกโกแลตให้อิ๋งจื่อจินหนึ่งถุงแล้วถึงออกรถ

ครึ่งชั่วโมงต่อมารถก็มาหยุดที่หน้าโรงพยาบาลเซ่าเหริน

“ไม่ต้องรอฉันหรอก” อิ๋งจื่อจินลงจากรถ สะพายกระเป๋าหนังสือ “คุณไปทำธุระของคุณ เดี๋ยวฉันกลับเอง”

“อืม” ฟู่อวิ๋นเซินไม่พูดอะไรมาก เขาเอามือลูบศีรษะของเธอ “ระวังตัวด้วย มีอะไรก็โทรหาพี่ชายนะ”

อิ๋งจื่อจินก็ไม่ถือสา เธอจัดผมให้เรียบร้อย พยักหน้าแล้วหมุนตัวเดินเข้าประตูโรงพยาบาล

โรงพยาบาลเซ่าเหรินที่มู่เฮ่อชิงยกให้เธอเป็นโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนโดยเฉพาะ มีประวัติศาสตร์ยี่สิบปี ชื่อเสียงไม่ด้อยไปกว่าโรงพยาบาลอันดับหนึ่ง

แต่เนื่องจากช่วงหลายปีมานี้การรักษาแผนตะวันตกโด่งดังขึ้นมา คนที่มารักษาด้วยแพทย์แผนจีนจึงลดน้อยลงเรื่อยๆ

อิ๋งจื่อจินกวาดตามองห้องตรวจขนาดใหญ่แต่ละห้องภายในโรงพยาบาล แอบนับในใจ

หลังจากที่พอเข้าใจคร่าวๆ แล้วเธอก็เดินตรงไปที่ห้องทำงานของหัวหน้าแผนกอายุรกรรม ยกมือเคาะประตู

“เข้ามา”

น้ำเสียงเข้มงวดแบบคนที่มีตำแหน่งสูง

ประตูเปิดออก หัวหน้าแผนกอายุรกรรมเงยหน้า ขมวดคิ้วทันที

เขาได้รับแจ้งมาแล้ว รู้ว่าเวลานี้จะมีผู้เชี่ยวชาญท่านหนึ่งที่อยู่ๆ ก็โผล่มา

เดิมทีเขาก็เกลียดพฤติกรรมอาศัยเส้นสายมากอยู่แล้ว นึกไม่ถึงว่าคนที่มายังจะเป็นเพียงเด็กวัยรุ่นอีก

คาดว่าแม้แต่สมุนไพรอย่างตังกุยกับตู๋หัวก็ยังจะแยกไม่ออกด้วยซ้ำ ยังจะกล้าอ้างว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญกินเงินเดือนฟรีๆ อีก

หัวหน้าแผนกอายุรกรรมแสยะยิ้ม แม้แต่สีหน้าตามมารยาทก็ยังขี้เกียจจะทำ

เขาหยิบซองเอกสารออกมาโยนบนโต๊ะ “ของเธอ เอาไปสิ”

อิ๋งจื่อจินเปิดออก พลิกดูผ่านๆ อ่านอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็จำได้หมด จากนั้นก็โยนกลับไป

หัวหน้าแผนกอายุรกรรมเห็นแบบนั้นก็รังเกียจยิ่งกว่าเดิม ขณะที่เขากำลังจะพูดว่า ‘ไม่มีอะไรแล้วก็รีบออกไป’ ทันใดนั้นประตูก็ถูกเปิดออก

พยาบาลคนหนึ่งวิ่งเข้ามาด้วยความเหนื่อยหอบ พูดอย่างร้อนใจ “หัวหน้าคะ คนไข้เตียงสิบเจ็ดช็อกหนักไปแล้วค่ะ!”

หัวหน้าแผนกอายุรกรรมสีหน้าเปลี่ยนไปมากทันที “ผมจะไปเดี๋ยวนี้”

เขาเองก็ไม่มีเวลาสนใจเรื่องที่มู่เฉิงมอบหมายแล้ว ทิ้งเด็กสาวไว้ตรงนั้นแล้วรีบออกไป

ดวงตาของอิ๋งจื่อจินขยับเล็กน้อย เดินออกไปอย่างใจเย็น

ภายในห้องผู้ป่วยตรงหน้า

ตามจุดฝังเข็มบนร่างกายผู้ป่วยเต็มไปด้วยเข็ม แต่ลมหายใจแทบจะไม่หลงเหลืออยู่เลย

แพทย์หลายคนรู้สึกจนปัญญา “ทำไงดีครับหัวหน้า”

“แจ้งญาติก่อน” หัวหน้าแผนกอายุรกรรมเริ่มใจเย็นลง “เดิมทีทนมาได้ถึงตอนนี้ก็ปาฏิหาริย์แล้ว ยื้อชีวิตกลับมาไม่ได้ก็อยู่ในความคาดหมาย”

แต่ทว่ากลับมีเสียงพูดแทรกขึ้นมาราวกับต้องการตบหน้าเขา

“ยื้อได้”

พวกหมอหันไปดู ต่างอึ้งไปตามๆ กัน

เดิมทีหัวหน้าแผนกอายุรกรรมก็ร้อนใจมากอยู่แล้ว พอเห็นว่ามีคนมาก่อกวน ความโกรธก็พลุ่งพล่านทันที “ยื้อได้เหรอ เอาสิ เธอว่ามาจะยื้อยังไง”

อิ๋งจื่อจินแค่เหลือบมองแล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “รักษาด้วยเข็มทอง”

“รักษาด้วยเข็มทองงั้นเหรอ” พอได้ยินแบบนี้หัวหน้าแผนกอายุรกรรมก็แสยะยิ้ม “เธอเข้าใจเหรอว่าอะไรคือการรักษาด้วยเข็มทอง”

นี่เป็นวิธีฝังเข็มที่ถูกบันทึกอยู่ในตำราโบราณ จวบจนปัจจุบันนี้อายุไม่ใช่แค่สองร้อยปี กลายเป็นตำนานไปแล้ว มีคนทำเป็นที่ไหนกัน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+