คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 142 มหาวิทยาลัยนอร์ตันแย่งตัวเหรอ!

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 142 มหาวิทยาลัยนอร์ตันแย่งตัวเหรอ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“มีอะไรเหรอ” จั่วหลีอึ้ง เขาก็มองไปเช่นกัน

เมฆขาวฟ้าคราม แสงแดดเจิดจ้า

ไม่มีแม้แต่นกสักตัว

มองอะไรน่ะ

ในขณะที่จั่วหลีกำลังสงสัย เขาก็เห็นเด็กสาวหยิบก้อนหินขึ้นมาก้อนหนึ่ง วางไว้ในมือ จากนั้นก็เขวี้ยงออกไปในอากาศ

เพล้ง!

เกิดเสียงที่เบามาก จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงบางอย่างแตก

และเงียบไปในทันที

จั่วหลีจ้องท้องฟ้าอยู่สามสิบวินาทีเต็มๆ ถึงได้สติกลับมา “นักเรียนอิ๋งได้ยินเสียงอะไรไหม”

“หืม?” อิ๋งจื่อจินละสายตากลับมา เช็ดมือ สีหน้าไม่เปลี่ยน “ไม่เห็นมีอะไรนี่คะ”

เพียงแต่เธอนึกไม่ถึงว่า เทคโนโลยีบนโลกมนุษย์จะพัฒนามาถึงระดับนี้แล้ว

แต่นี่ก็ไม่สามารถขัดขวางการใช้ชีวิตเกษียณของเธอได้

“อ่อๆ” จั่วหลีพยักหน้า คิดในใจว่าเขาคงตื่นเต้นเกินไปก็เลยหูแว่ว

ในเวลาเดียวกัน

ณ ที่หนึ่งบนโลก

ทันใดนั้นประตูห้องทดลองก็ถูกเปิดออกจากด้านใน มีเงาของใครคนหนึ่งพุ่งออกมา “คนของแผนกรับสมัครนักเรียนล่ะ เร็วเข้าเร็ว มีเรื่องด่วน!”

นี่คือชายสูงวัย ผมสีเทาขาว แต่กลับเดินได้อย่างกระฉับกระเฉง ดูไม่แก่แม้แต่น้อย

ข้างๆ มีคนเตือน “ศาสตราจารย์ ทางนั้นครับ”

ชายชรารีบวิ่งไปทันที

เมื่อเขามาถึงแผนกรับสมัครนักเรียนก็เอาแฟลชไดร์ฟในมือวางลงตรงหน้าเจ้าหน้าที่เข้าเวร “ค้นพบอัจฉริยะในจุดที่ผมรับผิดชอบ คุณลองดู ดูเสร็จแล้วเอาจดหมายเชิญให้ผม”

“ครับ ผมจะจัดการให้” เจ้าหน้าที่รับไป หนึ่งนาทีต่อมาเขาก็เงยหน้าขึ้นด้วยความสงสัย “ศาสตราจารย์ครับ เข้าใจผิดหรือเปล่าครับ ในนี้ไม่เห็นมีภาพวิดีโออะไรเลย”

“เป็นไปไม่ได้!” ชายชราชะโงกหน้าเข้าไปดู ตอนที่เห็นหน้าจอคอมพิวเตอร์ว่างเปล่าเขาก็ช็อก “ภาพบันทึกของผมล่ะ ใครลบคลิปวิดีโอของผมไป”

มหาวิทยาลัยนอร์ตันปล่อยโดรนล่องหนไว้ตามโรงเรียนแต่ละแห่งทั่วโลก เพื่อเอาไว้ค้นหานักเรียนที่มีพรสวรรค์เหล่านั้น

แน่นอนว่าไม่มีทางจับตาดูกิจกรรมที่เป็นส่วนตัวของนักเรียนได้

บทสนทนาที่เป็นส่วนตัวทั้งหมด กล้องโดรนจะปิดตัวเองโดยอัตโนมัติ

มีเพียงตอนที่จับสัญญาณได้ถึงนักเรียนที่ควรถูกมหาวิทยาลัยนอร์ตันรับเข้ามาเรียน กล้องถึงจะเปิดออกแล้วบันทึกภาพที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งไปที่มหาวิทยาลัย

แฟลชไดร์ฟอันนี้เชื่อมกับโดรนตัวหนึ่ง

ชายชราก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนคิดค้นโดรนแบบนี้ และเขาก็ไม่มีเวลาสนใจ

ตอนนี้เรื่องที่เขาต้องการทำก็คือขอจดหมายเชิญแล้วส่งไปยังประเทศจีนทันทีเพื่อรับนักเรียนคนนี้เข้ามหาวิทยาลัยนอร์ตันล่วงหน้า

“ศาสตราจารย์คะ มันเป็นไปไม่ได้” ผู้ช่วยสาวกอดเอกสารเดินผ่านมา ได้ยินคำพูดนี้จึงส่ายหน้า “ต่อให้เป็นบอสใหญ่ของสมาพันธ์แฮกเกอร์นิรนามก็ไม่มีทางทำลายกล้องของพวกเราได้ พวกเขาไม่มีทางหาโดรนเจอ”

“แต่มันหายไปแล้วจริงๆ!” ชายชราร้อนใจเดินวนไปมา “เมื่อครู่ผมดูไปแล้วหนึ่งรอบ แล้วมันจะหายไปได้ยังไง”

ผู้ช่วยสาวส่ายหน้าอีกครั้ง “คุณอาจต้องพักผ่อนได้แล้วนะคะ”

นี่ถึงขั้นตาลายแล้ว

ณ คฤหาสน์ตระกูลจง

ถึงแม้วันนี้จะเป็นสุดสัปดาห์ แต่ผู้เฒ่าจงก็ยังคงไปที่บริษัท

ภายในบ้านเหลือเพียงคุณนายจงกับจงจือหว่าน

จงจือหว่านตัวแข็งทื่อ ยืนอยู่หน้าโซฟา มือมีเหงื่อออกตลอดเวลา ไม่กล้าเงยหน้ามองสีหน้าของคุณนายจง

“จงจือหว่าน ผลสอบครั้งนี้มันอะไรกัน” คุณนายจงมองอันดับที่อยู่บนกระดาษ โมโหขั้นสุด ถึงขั้นหัวเราะออกมา “อันดับที่พันหนึ่งเหรอ ล้อแม่เล่นหรือเปล่า”

“แม่คะ ไม่ใช่นะคะ” จงจือหว่านหน้าซีด พูดเสียงเบา “ครั้งนี้ระบบคำนวณของทางโรงเรียนเกิดการผิดพลาด ไม่ได้ทำการใส่สูตรคำนวณเข้าไป อันดับคะแนนของคลาสเราเลยรั้งท้ายกันหมด”

เธอหยุดชั่วขณะแล้วพูดต่อ “แม่คะ ดูนี่ หนูเป็นที่หนึ่งของห้อง ไม่มีทางที่พวกเราจะดูแย่กันทั้งคลาส”

“อย่างนั้นเหรอ” คุณนายจงขมวดคิ้ว พอเห็นอันดับในห้องถึงเข้าใจ “ถ้าใส่สูตรคำนวณเข้าไป ลูกก็จะได้เจ็ดร้อยสามสิบ เป็นที่หนึ่งของชั้นปีเหรอ”

จงจือหว่านกัดริมฝีปาก ไม่ตอบ ถือเป็นการยอมรับโดยปริยาย

“ก็จริง” สีหน้าของคุณนายจงถึงได้ผ่อนคลายลง “ลูกอย่าโทษที่แม่ต้องเข้มงวดขนาดนี้ แม่ทำเพื่อลูกทั้งนั้น”

ขณะพูดเธอก็ถอนหายใจ “หว่านหว่าน ในบรรดาคุณหนูที่รุ่นราวคราวเดียวกับลูก มีแค่ลูกกับเสี่ยวเซวียนที่โดดเด่น ลูกข่มเด็กคนนั้นเรื่องการเรียนได้ แม่ดีใจมาตลอด”

จงจือหว่านยิ่งไม่กล้าพูดเข้าไปใหญ่

เธอกลัวคุณนายจงจะรู้ว่าที่หนึ่งของชั้นปีในครั้งนี้คืออิ๋งจื่อจินลูกเลี้ยงของตระกูลอิ๋ง

โชคดีที่ประชุมผู้ปกครองครั้งนี้อาจารย์ที่ปรึกษาไม่ได้พูดถึงเรื่องที่หนึ่งของชั้นปี

ด้วยนิสัยของคุณนายจงจึงขี้เกียจจะดูผลการเรียนของคนอื่น

“ดังนั้นลูกต้องขยันให้มากๆ ห้ามรั้งท้าย” น้ำเสียงของคุณนายจงเข้มงวดขึ้น “อีกสามวันคนของตระกูลมู่จากตี้ตูก็จะมาแล้ว หว่านหว่าน ลูกต้องระมัดระวังให้มาก ห้ามสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อตระกูลมู่ เข้าใจไหม”

จงจือหว่านนึกถึงบทลงโทษเมื่อวานของทางโรงเรียน หัวใจหดเกร็ง พูดเสียงเบายิ่งกว่าเดิม “ค่ะแม่ หนูเข้าใจ”

“ศุกร์หน้าจะมีการจัดงานเลี้ยง” คุณนายจงคิดแล้วพูดกำชับ “เรื่องนี้ลูกไม่ต้องสนใจ ตั้งใจเรียนก็พอ”

ณ ร้านฮั่นเก๋อ

เมื่อบริกรจัดวางอุปกรณ์รับประทานอาหารและเสิร์ฟอาหารเสร็จก็ถอยออกไป

ได้มาที่นี่อีกครั้ง อิ๋งจื่อจินหันหน้าไปสังเกตเตาเครื่องหอมที่อยู่ด้านข้าง

เธอย่อมแยกได้ว่าเครื่องหอมที่อยู่ในเตาไม่เหมือนกับครั้งแรก

ไม่เพียงแต่จะช่วยให้จิตใจสงบ ยังช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายอีกด้วย

ขนตาของอิ๋งจื่อจินขยับเล็กน้อย

เตรียมให้เป็นพิเศษสินะ

เธอมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามพลางครุ่นคิด

“อืม เยาเยา คราวก่อนที่รับปากไว้ว่าถ้าเธอสอบได้คะแนนเต็ม พี่ชายจะยกบริษัทเอนเตอร์เทนเมนต์ให้ “ ฟู่อวิ๋นเซินดันโทรศัพท์มือถือไปตรงหน้าเธอ “ตอนนี้ทำตามสัญญาได้พอดี”

อิ๋งจื่อจินขมวดคิ้วเล็กน้อย ราวกับแปลกใจ

“เยาเยา ทำหน้าแบบนี้…” ดวงตาดอกท้อของฟู่อวิ๋นเซินเหลือบขึ้น “คงไม่ได้คิดว่าพี่ชายจะหลอกเด็กน้อยหรอกนะ”

อิ๋งจื่อจินเอามือเท้าคาง ตอบอย่างไร้ความปรานี “อืม”

“เด็กน้อย จะใจดำเกินไปแล้วนะ” แววตาของฟู่อวิ๋นเซินหม่นลงเล็กน้อย “พี่ชายเคยโกหกเธอเมื่อไรกัน”

อิ๋งจื่อจินหันหน้ามอง คล้ายกำลังนึกอะไรอยู่

สามวินาทีต่อมาเธอก็พูดประโยคตอนเจอกันครั้งแรกซ้ำอีกครั้งอย่างไม่รีบร้อน “ฉันไม่มีอำนาจไม่มีอิทธิพล เกิดเขาจับพวกเราไปจะทำยังไง”

ฟู่อวิ๋นเซิน “…”

ดูเหมือนเขาจะเคยพูดแบบนี้

“ได้” ฟู่อวิ๋นเซินพิงโซฟา เงียบไปชั่วครู่แล้วยิ้มพลางพูด “จำจุดอ่อนของพี่ชายได้แม่นจังนะ ของขวัญชิ้นนี้ลบล้างได้หรือเปล่า”

อิ๋งจื่อจินหยิบโทรศัพท์มือถือ

บนหน้าจอเป็นเว็บสืบค้นเทียนเหยี่ยน

นี่คือบริษัทรักษาความปลอดภัยเชิงพาณิชย์ที่สามารถสืบค้นข้อมูลบริษัทได้

ด้านบนสุดของหน้าเว็บปรากฏชื่อ

ชูกวงมีเดีย

สีหน้าของอิ๋งจื่อจินชะงัก

ละครอินเตอร์เน็ตอีกเรื่องที่เธอดูอยู่ นางร้ายเบอร์รองในนั้นก็คือดาราของชูกวงมีเดีย

เนื่องจากนักแสดงคนนี้หน้าตาดี เธอถึงได้ให้ความสนใจไม่น้อย และลองค้นหาข้อมูลบริษัทนี้ดู

ชูกวงมีเดียเป็นบริษัทเอนเตอร์เทนเมนต์อันดับหนึ่งของจีน

ผลิตราชาราชินีภาพยนตร์ออกมามากมาย รวมถึงดวงดาวที่เจิดจรัสในระดับสากล

เรียกได้ว่าเป็นแดนสวรรค์ของวงการบันเทิง นักเรียนของสถาบันภาพยนตร์ตี้ตูไม่มีใครไม่อยากเข้าชูกวงมีเดีย

ชูกวงมีเดียไม่ปั้นดารา ปั้นแต่นักแสดง

ไม่ว่าใครที่ถูกชูกวงมีเดียหมายตา นั่นก็แสดงว่าอนาคตบนเส้นทางแห่งดวงดาวรุ่งโรจน์แน่นอน

เงินหมุนเวียนในหนึ่งปีของชูกวงมีเดียเป็นตัวเลขที่น่าตกใจมาก

แล้วนี่อยู่ดีๆ ก็จะมายกให้

สายตาของอิ๋งจื่อจินเลื่อนลง

หยุดตรงตำแหน่งตัวแทนทางกฎหมาย

ชื่อ เป็นชื่อของเธอ

ด้านล่างยังมีเอกสารการจดทะเบียน ตัวเลขยาวมาก

“คิดๆ แล้วบริษัทนี้ดีที่สุด” ฟู่อวิ๋นเซินรินน้ำชา สีหน้าเรื่อยเปื่อย “มีดาราผู้หญิงเยอะ พี่ชายไม่ได้สังเกต แต่เยาเยาน่าจะชอบ”

“ถ้าไม่ชอบก็รับเพิ่มได้”

“ฉันจะปรุงยาให้” อิ๋งจื่อจินชะงักเล็กน้อย “คราวนี้ไม่บำรุงไตแล้ว เอาแบบยืดอายุขัย”

“อืม ได้” ฟู่อวิ๋นเซินขมวดคิ้ว พูดลากเสียง “บำรุงไตก็ใช่ว่าจะไม่ได้”

เขาไม่ใช้ก็เอาไปให้เนี่ยอี้ได้

วันจันทร์

หลังจากที่เฮ่อสวินให้คลาสนานาชาติแก้โจทย์ด้วยตัวเองแล้วก็ไปที่ห้องทำงานของผู้อำนวยการโรงเรียน

ผู้อำนวยการรออยู่ก่อนแล้ว พอเห็นเขามาก็ดันแว่นตา “อาจารย์เฮ่อเชิญนั่งครับ”

นับตั้งแต่วันที่จัดงานถามตอบนั้น เฮ่อสวินก็พบว่าพวกนักเรียนในโรงเรียนมองเขาด้วยสายตาที่แปลกไปจากเดิม

ไม่มีความชื่นชมและนับถือแบบเมื่อก่อน สิ่งที่เข้ามาแทนที่คือการมองเหยียด

เฮ่อสวินไม่เคยได้รับสายตาแบบนี้มาก่อน

ช่วงไม่กี่วันมานี้เขากังวลเรื่องจะได้รับสายจากทางมหาวิทยาลัยนอร์ตันอีกครั้งมากกว่า แต่ว่าไม่มี

เฮ่อสวินกังวล เขาถามขึ้นว่า “ผู้อำนวยการมีเรื่องอะไรเหรอครับ”

“อาจารย์เฮ่อ ตอนนั้นพูดแล้วว่าการที่ยังจะดึงดันร้องเรียนการทุจริตของนักเรียนโดยที่ไม่มีหลักฐานก็ต้องยอมรับการลงโทษ” ผู้อำนวยการหยิบเอกสารออกมาฉบับหนึ่ง น้ำเสียงยังถือว่าใจเย็น “หลังจากหารือกันแล้ว นี่คือบทลงโทษจากทางโรงเรียนครับ”

เฮ่อสวินเม้มริมฝีปาก ข่มความกระวนกระวายภายในจิตใจไว้

เขารับเอกสารฉบับนั้นมาเปิดดู

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 142 มหาวิทยาลัยนอร์ตันแย่งตัวเหรอ!

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 142 มหาวิทยาลัยนอร์ตันแย่งตัวเหรอ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“มีอะไรเหรอ” จั่วหลีอึ้ง เขาก็มองไปเช่นกัน

เมฆขาวฟ้าคราม แสงแดดเจิดจ้า

ไม่มีแม้แต่นกสักตัว

มองอะไรน่ะ

ในขณะที่จั่วหลีกำลังสงสัย เขาก็เห็นเด็กสาวหยิบก้อนหินขึ้นมาก้อนหนึ่ง วางไว้ในมือ จากนั้นก็เขวี้ยงออกไปในอากาศ

เพล้ง!

เกิดเสียงที่เบามาก จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงบางอย่างแตก

และเงียบไปในทันที

จั่วหลีจ้องท้องฟ้าอยู่สามสิบวินาทีเต็มๆ ถึงได้สติกลับมา “นักเรียนอิ๋งได้ยินเสียงอะไรไหม”

“หืม?” อิ๋งจื่อจินละสายตากลับมา เช็ดมือ สีหน้าไม่เปลี่ยน “ไม่เห็นมีอะไรนี่คะ”

เพียงแต่เธอนึกไม่ถึงว่า เทคโนโลยีบนโลกมนุษย์จะพัฒนามาถึงระดับนี้แล้ว

แต่นี่ก็ไม่สามารถขัดขวางการใช้ชีวิตเกษียณของเธอได้

“อ่อๆ” จั่วหลีพยักหน้า คิดในใจว่าเขาคงตื่นเต้นเกินไปก็เลยหูแว่ว

ในเวลาเดียวกัน

ณ ที่หนึ่งบนโลก

ทันใดนั้นประตูห้องทดลองก็ถูกเปิดออกจากด้านใน มีเงาของใครคนหนึ่งพุ่งออกมา “คนของแผนกรับสมัครนักเรียนล่ะ เร็วเข้าเร็ว มีเรื่องด่วน!”

นี่คือชายสูงวัย ผมสีเทาขาว แต่กลับเดินได้อย่างกระฉับกระเฉง ดูไม่แก่แม้แต่น้อย

ข้างๆ มีคนเตือน “ศาสตราจารย์ ทางนั้นครับ”

ชายชรารีบวิ่งไปทันที

เมื่อเขามาถึงแผนกรับสมัครนักเรียนก็เอาแฟลชไดร์ฟในมือวางลงตรงหน้าเจ้าหน้าที่เข้าเวร “ค้นพบอัจฉริยะในจุดที่ผมรับผิดชอบ คุณลองดู ดูเสร็จแล้วเอาจดหมายเชิญให้ผม”

“ครับ ผมจะจัดการให้” เจ้าหน้าที่รับไป หนึ่งนาทีต่อมาเขาก็เงยหน้าขึ้นด้วยความสงสัย “ศาสตราจารย์ครับ เข้าใจผิดหรือเปล่าครับ ในนี้ไม่เห็นมีภาพวิดีโออะไรเลย”

“เป็นไปไม่ได้!” ชายชราชะโงกหน้าเข้าไปดู ตอนที่เห็นหน้าจอคอมพิวเตอร์ว่างเปล่าเขาก็ช็อก “ภาพบันทึกของผมล่ะ ใครลบคลิปวิดีโอของผมไป”

มหาวิทยาลัยนอร์ตันปล่อยโดรนล่องหนไว้ตามโรงเรียนแต่ละแห่งทั่วโลก เพื่อเอาไว้ค้นหานักเรียนที่มีพรสวรรค์เหล่านั้น

แน่นอนว่าไม่มีทางจับตาดูกิจกรรมที่เป็นส่วนตัวของนักเรียนได้

บทสนทนาที่เป็นส่วนตัวทั้งหมด กล้องโดรนจะปิดตัวเองโดยอัตโนมัติ

มีเพียงตอนที่จับสัญญาณได้ถึงนักเรียนที่ควรถูกมหาวิทยาลัยนอร์ตันรับเข้ามาเรียน กล้องถึงจะเปิดออกแล้วบันทึกภาพที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งไปที่มหาวิทยาลัย

แฟลชไดร์ฟอันนี้เชื่อมกับโดรนตัวหนึ่ง

ชายชราก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนคิดค้นโดรนแบบนี้ และเขาก็ไม่มีเวลาสนใจ

ตอนนี้เรื่องที่เขาต้องการทำก็คือขอจดหมายเชิญแล้วส่งไปยังประเทศจีนทันทีเพื่อรับนักเรียนคนนี้เข้ามหาวิทยาลัยนอร์ตันล่วงหน้า

“ศาสตราจารย์คะ มันเป็นไปไม่ได้” ผู้ช่วยสาวกอดเอกสารเดินผ่านมา ได้ยินคำพูดนี้จึงส่ายหน้า “ต่อให้เป็นบอสใหญ่ของสมาพันธ์แฮกเกอร์นิรนามก็ไม่มีทางทำลายกล้องของพวกเราได้ พวกเขาไม่มีทางหาโดรนเจอ”

“แต่มันหายไปแล้วจริงๆ!” ชายชราร้อนใจเดินวนไปมา “เมื่อครู่ผมดูไปแล้วหนึ่งรอบ แล้วมันจะหายไปได้ยังไง”

ผู้ช่วยสาวส่ายหน้าอีกครั้ง “คุณอาจต้องพักผ่อนได้แล้วนะคะ”

นี่ถึงขั้นตาลายแล้ว

ณ คฤหาสน์ตระกูลจง

ถึงแม้วันนี้จะเป็นสุดสัปดาห์ แต่ผู้เฒ่าจงก็ยังคงไปที่บริษัท

ภายในบ้านเหลือเพียงคุณนายจงกับจงจือหว่าน

จงจือหว่านตัวแข็งทื่อ ยืนอยู่หน้าโซฟา มือมีเหงื่อออกตลอดเวลา ไม่กล้าเงยหน้ามองสีหน้าของคุณนายจง

“จงจือหว่าน ผลสอบครั้งนี้มันอะไรกัน” คุณนายจงมองอันดับที่อยู่บนกระดาษ โมโหขั้นสุด ถึงขั้นหัวเราะออกมา “อันดับที่พันหนึ่งเหรอ ล้อแม่เล่นหรือเปล่า”

“แม่คะ ไม่ใช่นะคะ” จงจือหว่านหน้าซีด พูดเสียงเบา “ครั้งนี้ระบบคำนวณของทางโรงเรียนเกิดการผิดพลาด ไม่ได้ทำการใส่สูตรคำนวณเข้าไป อันดับคะแนนของคลาสเราเลยรั้งท้ายกันหมด”

เธอหยุดชั่วขณะแล้วพูดต่อ “แม่คะ ดูนี่ หนูเป็นที่หนึ่งของห้อง ไม่มีทางที่พวกเราจะดูแย่กันทั้งคลาส”

“อย่างนั้นเหรอ” คุณนายจงขมวดคิ้ว พอเห็นอันดับในห้องถึงเข้าใจ “ถ้าใส่สูตรคำนวณเข้าไป ลูกก็จะได้เจ็ดร้อยสามสิบ เป็นที่หนึ่งของชั้นปีเหรอ”

จงจือหว่านกัดริมฝีปาก ไม่ตอบ ถือเป็นการยอมรับโดยปริยาย

“ก็จริง” สีหน้าของคุณนายจงถึงได้ผ่อนคลายลง “ลูกอย่าโทษที่แม่ต้องเข้มงวดขนาดนี้ แม่ทำเพื่อลูกทั้งนั้น”

ขณะพูดเธอก็ถอนหายใจ “หว่านหว่าน ในบรรดาคุณหนูที่รุ่นราวคราวเดียวกับลูก มีแค่ลูกกับเสี่ยวเซวียนที่โดดเด่น ลูกข่มเด็กคนนั้นเรื่องการเรียนได้ แม่ดีใจมาตลอด”

จงจือหว่านยิ่งไม่กล้าพูดเข้าไปใหญ่

เธอกลัวคุณนายจงจะรู้ว่าที่หนึ่งของชั้นปีในครั้งนี้คืออิ๋งจื่อจินลูกเลี้ยงของตระกูลอิ๋ง

โชคดีที่ประชุมผู้ปกครองครั้งนี้อาจารย์ที่ปรึกษาไม่ได้พูดถึงเรื่องที่หนึ่งของชั้นปี

ด้วยนิสัยของคุณนายจงจึงขี้เกียจจะดูผลการเรียนของคนอื่น

“ดังนั้นลูกต้องขยันให้มากๆ ห้ามรั้งท้าย” น้ำเสียงของคุณนายจงเข้มงวดขึ้น “อีกสามวันคนของตระกูลมู่จากตี้ตูก็จะมาแล้ว หว่านหว่าน ลูกต้องระมัดระวังให้มาก ห้ามสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อตระกูลมู่ เข้าใจไหม”

จงจือหว่านนึกถึงบทลงโทษเมื่อวานของทางโรงเรียน หัวใจหดเกร็ง พูดเสียงเบายิ่งกว่าเดิม “ค่ะแม่ หนูเข้าใจ”

“ศุกร์หน้าจะมีการจัดงานเลี้ยง” คุณนายจงคิดแล้วพูดกำชับ “เรื่องนี้ลูกไม่ต้องสนใจ ตั้งใจเรียนก็พอ”

ณ ร้านฮั่นเก๋อ

เมื่อบริกรจัดวางอุปกรณ์รับประทานอาหารและเสิร์ฟอาหารเสร็จก็ถอยออกไป

ได้มาที่นี่อีกครั้ง อิ๋งจื่อจินหันหน้าไปสังเกตเตาเครื่องหอมที่อยู่ด้านข้าง

เธอย่อมแยกได้ว่าเครื่องหอมที่อยู่ในเตาไม่เหมือนกับครั้งแรก

ไม่เพียงแต่จะช่วยให้จิตใจสงบ ยังช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายอีกด้วย

ขนตาของอิ๋งจื่อจินขยับเล็กน้อย

เตรียมให้เป็นพิเศษสินะ

เธอมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามพลางครุ่นคิด

“อืม เยาเยา คราวก่อนที่รับปากไว้ว่าถ้าเธอสอบได้คะแนนเต็ม พี่ชายจะยกบริษัทเอนเตอร์เทนเมนต์ให้ “ ฟู่อวิ๋นเซินดันโทรศัพท์มือถือไปตรงหน้าเธอ “ตอนนี้ทำตามสัญญาได้พอดี”

อิ๋งจื่อจินขมวดคิ้วเล็กน้อย ราวกับแปลกใจ

“เยาเยา ทำหน้าแบบนี้…” ดวงตาดอกท้อของฟู่อวิ๋นเซินเหลือบขึ้น “คงไม่ได้คิดว่าพี่ชายจะหลอกเด็กน้อยหรอกนะ”

อิ๋งจื่อจินเอามือเท้าคาง ตอบอย่างไร้ความปรานี “อืม”

“เด็กน้อย จะใจดำเกินไปแล้วนะ” แววตาของฟู่อวิ๋นเซินหม่นลงเล็กน้อย “พี่ชายเคยโกหกเธอเมื่อไรกัน”

อิ๋งจื่อจินหันหน้ามอง คล้ายกำลังนึกอะไรอยู่

สามวินาทีต่อมาเธอก็พูดประโยคตอนเจอกันครั้งแรกซ้ำอีกครั้งอย่างไม่รีบร้อน “ฉันไม่มีอำนาจไม่มีอิทธิพล เกิดเขาจับพวกเราไปจะทำยังไง”

ฟู่อวิ๋นเซิน “…”

ดูเหมือนเขาจะเคยพูดแบบนี้

“ได้” ฟู่อวิ๋นเซินพิงโซฟา เงียบไปชั่วครู่แล้วยิ้มพลางพูด “จำจุดอ่อนของพี่ชายได้แม่นจังนะ ของขวัญชิ้นนี้ลบล้างได้หรือเปล่า”

อิ๋งจื่อจินหยิบโทรศัพท์มือถือ

บนหน้าจอเป็นเว็บสืบค้นเทียนเหยี่ยน

นี่คือบริษัทรักษาความปลอดภัยเชิงพาณิชย์ที่สามารถสืบค้นข้อมูลบริษัทได้

ด้านบนสุดของหน้าเว็บปรากฏชื่อ

ชูกวงมีเดีย

สีหน้าของอิ๋งจื่อจินชะงัก

ละครอินเตอร์เน็ตอีกเรื่องที่เธอดูอยู่ นางร้ายเบอร์รองในนั้นก็คือดาราของชูกวงมีเดีย

เนื่องจากนักแสดงคนนี้หน้าตาดี เธอถึงได้ให้ความสนใจไม่น้อย และลองค้นหาข้อมูลบริษัทนี้ดู

ชูกวงมีเดียเป็นบริษัทเอนเตอร์เทนเมนต์อันดับหนึ่งของจีน

ผลิตราชาราชินีภาพยนตร์ออกมามากมาย รวมถึงดวงดาวที่เจิดจรัสในระดับสากล

เรียกได้ว่าเป็นแดนสวรรค์ของวงการบันเทิง นักเรียนของสถาบันภาพยนตร์ตี้ตูไม่มีใครไม่อยากเข้าชูกวงมีเดีย

ชูกวงมีเดียไม่ปั้นดารา ปั้นแต่นักแสดง

ไม่ว่าใครที่ถูกชูกวงมีเดียหมายตา นั่นก็แสดงว่าอนาคตบนเส้นทางแห่งดวงดาวรุ่งโรจน์แน่นอน

เงินหมุนเวียนในหนึ่งปีของชูกวงมีเดียเป็นตัวเลขที่น่าตกใจมาก

แล้วนี่อยู่ดีๆ ก็จะมายกให้

สายตาของอิ๋งจื่อจินเลื่อนลง

หยุดตรงตำแหน่งตัวแทนทางกฎหมาย

ชื่อ เป็นชื่อของเธอ

ด้านล่างยังมีเอกสารการจดทะเบียน ตัวเลขยาวมาก

“คิดๆ แล้วบริษัทนี้ดีที่สุด” ฟู่อวิ๋นเซินรินน้ำชา สีหน้าเรื่อยเปื่อย “มีดาราผู้หญิงเยอะ พี่ชายไม่ได้สังเกต แต่เยาเยาน่าจะชอบ”

“ถ้าไม่ชอบก็รับเพิ่มได้”

“ฉันจะปรุงยาให้” อิ๋งจื่อจินชะงักเล็กน้อย “คราวนี้ไม่บำรุงไตแล้ว เอาแบบยืดอายุขัย”

“อืม ได้” ฟู่อวิ๋นเซินขมวดคิ้ว พูดลากเสียง “บำรุงไตก็ใช่ว่าจะไม่ได้”

เขาไม่ใช้ก็เอาไปให้เนี่ยอี้ได้

วันจันทร์

หลังจากที่เฮ่อสวินให้คลาสนานาชาติแก้โจทย์ด้วยตัวเองแล้วก็ไปที่ห้องทำงานของผู้อำนวยการโรงเรียน

ผู้อำนวยการรออยู่ก่อนแล้ว พอเห็นเขามาก็ดันแว่นตา “อาจารย์เฮ่อเชิญนั่งครับ”

นับตั้งแต่วันที่จัดงานถามตอบนั้น เฮ่อสวินก็พบว่าพวกนักเรียนในโรงเรียนมองเขาด้วยสายตาที่แปลกไปจากเดิม

ไม่มีความชื่นชมและนับถือแบบเมื่อก่อน สิ่งที่เข้ามาแทนที่คือการมองเหยียด

เฮ่อสวินไม่เคยได้รับสายตาแบบนี้มาก่อน

ช่วงไม่กี่วันมานี้เขากังวลเรื่องจะได้รับสายจากทางมหาวิทยาลัยนอร์ตันอีกครั้งมากกว่า แต่ว่าไม่มี

เฮ่อสวินกังวล เขาถามขึ้นว่า “ผู้อำนวยการมีเรื่องอะไรเหรอครับ”

“อาจารย์เฮ่อ ตอนนั้นพูดแล้วว่าการที่ยังจะดึงดันร้องเรียนการทุจริตของนักเรียนโดยที่ไม่มีหลักฐานก็ต้องยอมรับการลงโทษ” ผู้อำนวยการหยิบเอกสารออกมาฉบับหนึ่ง น้ำเสียงยังถือว่าใจเย็น “หลังจากหารือกันแล้ว นี่คือบทลงโทษจากทางโรงเรียนครับ”

เฮ่อสวินเม้มริมฝีปาก ข่มความกระวนกระวายภายในจิตใจไว้

เขารับเอกสารฉบับนั้นมาเปิดดู

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+