คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 155 คอนเสิร์ต

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 155 คอนเสิร์ต at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

อิ๋งจื่อจินหยิบมาพลิกดู

เธออ่านเร็วมาก ไม่กี่วินาทีต่อมาก็พยักหน้า “ใช้ได้”

ชูกวงมีเดียก็มีแผนกกฎหมายของตัวเอง ได้ยินว่าหัวหน้าแผนกกฎหมายจบการศึกษามาจากสำนักงานทนายความซีเฟิง

ชูกวงมีเดียถึงถูกขนานนามว่าผู้ชนะแห่งวงการบันเทิง

แต่เรื่องพวกนี้ซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์ไม่รู้เลยสักนิด

หลายปีก่อนชูกวงมีเดียช่วยดาราในสังกัดแก้ปัญหาข้อพิพาททางกฎหมาย แต่ต่อมาก็ไม่มีใครกล้ายุ่งกับดาราของชูกวงมีเดียสักเท่าไร

แต่ก่อนหน้านี้ซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์เป็นแค่บริษัทที่ไม่สะดุดตาในวงการบันเทิง ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะได้เผชิญหน้ากับชูกวงมีเดียด้วยซ้ำ

“ค่ะท่านประธาน” เลขาสาวเก็บเอกสารฉบับนั้นกลับมา เธอมองตงอวิ๋นที่ยืนตัวแข็งอยู่ที่เดิม ท่าทีเย็นชาลงในทันที

“ประธานตงคะ อ้อไม่ถูกสิ ตอนนี้เรียกคุณแบบนี้ไม่ได้แล้ว เดี๋ยวคุณก็จะไม่ใช่ประธานของซิงเฉินแล้ว”

ตงอวิ๋นไม่ขยับ เธอรู้สึกแค่ว่ามีฝูผึ้งมาบินหึ่งๆ อยู่รอบหูเธออยู่ตลอด มือเท้าเย็นเฉียบในชั่วขณะ เลือดในร่างกายไหลย้อนกลับ ความหงุดหงิดอารมณ์เสียหน้าพลุ่งพล่านไม่หยุด ราวกับเธอเป็นตัวตลก พูดสิ่งที่น่าขำ ถูกพูดเย้ยหยันโดยไร้เสียง เลขาสาวยังคงยื่นเอกสารให้อย่างสุภาพ แต่พูดด้วยน้ำเสียงที่รังเกียจและประชดสุดๆ “คุณตงคะ ช่วยเซ็นชื่อให้ด้วยค่ะ”

ตงอวิ๋นยังคงยืนอยู่ตรงนั้นไม่ขยับ มือแข็งทื่อ สีหน้าเริ่มซีดลงทีละนิด

“คุณตงคะ คุณจะไม่เซ็นชื่อก็ไม่มีประโยชน์” เลขาสาวไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้ตงอวิ๋นพูดอะไรกับอิ๋งจื่อจิน จึงคิดว่าเธอไม่อยากขายซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์ให้ “เรื่องพวกนั้นที่คุณทำเพียงพอให้ศาลสั่งปิดซิงเฉินเพื่อตรวจสอบ ชูกวงมีเดียให้หนึ่งล้านยังไม่พอใจอีกเหรอคะ”

ในที่สุดคำพูดนี้ก็ทำให้ตงอวิ๋นได้สติกลับมา

ใบหน้าของเธอแดงก่ำแบบที่เวลาโดนดูถูกถึงจะมี กัดฟันพูด “พวกเธอฝันไปเถอะ!”

ซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์เป็นบริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่อันดับสามของประเทศจีน เอาแค่หุ้นก็หลายสิบล้านแล้ว ยังไม่นับรวมมูลค่าของพวกดาราในสังกัดอีก

อาศัยความดังของซังเย่าจือ ซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์ยังมีดาราชายหญิงอีกหลายคนที่ตอนนี้กำลังเป็นดารารุ่นใหม่ที่ดังมากเหมือนกัน

ค่าตัวต่อเรื่องก็เริ่มต้นที่สามสิบล้านแล้ว

ชูกวงมีเดียคิดจะซื้อซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์ด้วยเงินล้านเดียวงั้นเหรอ

ล้อเล่นอะไรน่ะ!

“ฝันหรือเปล่าคุณตงน่าจะรู้ดีนะคะ” เลขาสาวแสยะยิ้ม “ฉันขอเตือนคุณตงว่ารีบเซ็นจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวจะไม่เหลืออะไรเลย”

ตงอวิ๋นปากสั่น สีหน้าก็ซีดยิ่งกว่าเดิม

เธอหันขวับไปมองเด็กสาวที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานสีดำ “เธอจงใจแก้แค้นฉัน!”

เลขาสาวทำงานมานานขนาดนี้ย่อมเจนจัดในสนามรบแล้ว

เธอย่อมไม่มีทางปล่อยให้บอสถูกด่า จึงพูดประชด “คุณตงคะ อย่าหลงตัวเองให้มากนักเลยค่ะ”

“บอสของเราสามารถหาเงินได้วินาทีละแสน เวลาที่เอาไปล้างแค้นคุณซื้อห้องชุดใจกลางเมืองตี้ตูได้หนึ่งห้องเลยนะคะ”

อิ๋งจื่อจินค่อยๆ เหลือบตาขึ้น

นี่เธอหาเงินได้วินาทีละแสนเลยเหรอ

ตงอวิ๋นเหงื่อแตกท่วมตัว เธอกัดฟันพูด “ได้! ฉันเซ็น”

เธอมือสั่นรับปากกามา คล้ายกับว่าต้องใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีกว่าจะเซ็นชื่อตัวเองได้

หลังจากเขียนเสร็จตงอวิ๋นก็เดินโซเซถอยหลังไปหลายก้าว ยังคงไม่อยากเชื่อ

“นี่คือบอสของชูกวงมีเดียเหรอ”

บอสของชูกวงมีเดียเป็นปริศนาต่อคนภายนอกมาตลอด แม้แต่ดาราในสังกัดเองก็ยังไม่เคยเจอ คนในวงการต่างเคยลองไล่เรียงพวกคนมีอำนาจของตระกูลเศรษฐีในตี้ตู แต่ก็ไม่พบคนที่สอดคล้องกับเงื่อนไข แล้วจะเป็นเด็กสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะได้ยังไง

ตงอวิ๋นรับไม่ได้ที่มีคนเพศเดียวกันกับเธอประสบความสำเร็จยิ่งกว่า

“ไม่งั้นจะใครล่ะคะ” เลขาสาวทำเสียงหึ “งั้นให้เป็นคุณเหรอ ในเมื่อเซ็นสัญญาเรียบร้อยแล้ว ถ้าคุณตงไม่อยากถูกรปภ.ไล่ออกไปก็รีบไปจากที่นี่ดีกว่าค่ะ”

ตงอวิ๋นเดินออกเหมือนร่างไร้วิญญาณ

แต่หลังจากนั้น สิ่งที่รอเธออยู่ยังมีหมายศาลอีก

สูญเสียซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์เป็นแค่จุดเริ่มต้น

“บอสคะ ซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์จากสตูดิโอเล็กๆ กลายเป็นบริษัทใหญ่ได้ วิธีการสกปรกน่าดูเลยล่ะค่ะ” เลขาสาวทำท่ารังเกียจ “ในข้อมูลบอกว่าช่วงสามปีมานี้ดาราแปดคนในสังกัดพวกเขาฆ่าตัวตายเพราะเป็นโรคซึมเศร้า”

สีหน้าของอิ๋งจื่อจินชะงักเล็กน้อย

เมื่อก่อนตอนที่เธออยู่ยุโรปยุคโบราณก็มีพวกนักแสดง นักร้อง อะไรทำนองนี้ แต่ยังไม่มีคำว่าวงการบันเทิง ยิ่งไปกว่านั้นไม่มีพฤติกรรมที่เอาดารามาหาผลประโยชน์ เป็นครั้งแรกที่เธอเจอเรื่องแบบนี้ ทำให้เห็นจิตใจของคนอยู่ไม่น้อย

“อืม” อิ๋งจื่อจินพยักหน้า “พอถึงเวลาก็จัดการให้เรียบร้อยด้วย”

“ค่ะ” เลขาสาวตอบ ครุ่นคิดเล็กน้อย สุดท้ายก็ทนถามออกไปไม่ได้ “บอสคะ จะว่าไปบอสรู้จักหมอเทวดาที่ช่วยชีวิตลูกชายฉันไว้ไหมคะ”

อิ๋งจื่อจินลุกขึ้น ดวงตาหลุบลง “ไม่มีหมอเทวดา”

“หา?” เลขาสาวเสียดาย “ฉันยังคิดอยู่ว่าถ้ามีหมอเทวดาแบบนี้ ฉันจะถามหน่อยว่ามีมาร์คหน้าทางการแพทย์ที่ช่วยเรื่องความงามหรือเปล่า สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าฉันหมดเงินไปกับคลินิกเสริมความงามตั้งหลายหมื่นก็ยังไม่ได้เรื่อง”

พอได้ยินคำพูดนี้ฝีเท้าของอิ๋งจื่อจินก็ชะงัก

เธอหันกลับมาตบบ่าของเลขาสาว “ดีมาก คุณมีหัวธุรกิจนะ”

เลขาสาว “?”

หลังจากที่โพสต์คลิปไลฟ์สดเสร็จ พอตกเย็นซังเย่าจือก็โพสต์ข้อความยาวขอบคุณชาวเน็ต แฟนคลับ รวมถึงชูกวงมีเดีย

อันที่จริงเขาเองก็สงสัย ต่อให้ร่างกายของเขาจะเปิดโหมดป้องกันตัวเองจนเป็นการตายหลอก แต่เขาก็ฟื้นฟูได้เร็วเกินไปหรือเปล่า

ตอนเช้าเพิ่งลืมตาตื่น ตอนนี้ก็ลุกลงจากเตียงไปเดินได้แล้ว

ถึงขนาดที่ซังเย่าจือรู้สึกว่า ร่างกายของเขาแข็งแรงกว่าเมื่อก่อนด้วยซ้ำ สามารถถ่ายหนังได้รวดเดียวยี่สิบสี่ชั่วโมง

แต่แม่ยกของเขากลับไม่คิดแบบนี้

“ลูก บอกแล้วว่าอย่าขยับ ทำไมยังจะลงจากเตียงอีก” ซิวอวี่ขนเก้าอี้รถเข็นอย่างหรูที่เจียงหรานเคยใช้มาที่นี่ “นั่งนี่สิ เดี๋ยวให้คนเข็นไป”

ซังเย่าจือจนปัญญาเหลือเกิน โดยเฉพาะการถูกเรียกว่า ‘ลูก’ ที่เขายังไม่ชิน

เขาพูด “อันที่จริงผมไม่ได้…”

ยังไม่ทันพูดจบเขาก็ถูกจับกดให้นั่งบนเก้าอี้รถเข็น

“…”

“ลูกต้องเชื่อฟังนะ พวกแม่ๆ ถึงจะวางใจ” ซิวอวี่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา “ลูก แม่จะถ่ายรูปให้ เป็นหลักฐานบอกคนอื่นว่าลูกได้รับการดูแลอย่างดี”

ถ่ายเสร็จซิวอวี่ก็โพสต์ลงในกลุ่มแฟนคลับ

กลุ่มแฟนคลับนี้เป็นสมาชิกทั้งหมด ทุกคนเป็นแม่ยก

พอเห็นรูปถ่ายก็ฮือฮาขึ้นมาทันที

ซังเย่าจือหันไปมองก็เห็นข้อความนี้

[ลูกจ๋าๆ ลูกตัวเป็นๆ ลูกจ๋าไม่เป็นไรแล้ว เยี่ยมไปเลย]

“…”

ซิวอวี่เก็บโทรศัพท์มือถือเข้ากระเป๋าเสื้อ กวักมือเรียกผู้จัดการส่วนตัว “อย่าให้เขาลุกจากเก้าอี้รถเข็นนะคะ” พอซิวอวี่ออกไปแล้วผู้จัดการส่วนตัวก็เห็นสีหน้าของซังเย่าจือดูแปลกไป

เขายกมือวัดอุณหภูมิที่หน้าผาก “เย่าจือ ไม่สบายเหรอ”

ซังเย่าจือสูดลมหายใจเข้าลึก “ไม่เป็นไร”

เขาไม่สามารถเผชิญหน้ากับแฟนคลับตัวเองได้อีกแล้ว

อีกด้านหนึ่ง

หลังจากอิ๋งจื่อจินกลับถึงบ้านเธอก็เปิดคอมพิวเตอร์

ใส่รหัสผ่านของแอคเคาท์เสร็จก็ล็อกอินเข้าเว็บบอร์ดเอ็นโอเค

เธอสังเกตเห็นว่าหน้าแรกของพื้นที่ปิดมีกระทู้แบบนี้

แอทฉันเป็นแค่คนมุง : [มีใครได้ตามข่าวดาราจีนที่ตายแล้วฟื้นบ้างไหม ถามหน่อยคนลงมือคือนักปรุงยาพิษคนไหนในชาร์ตเหรอ]

ตอนนี้ข้างใต้กระทู้มีคนมาตอบไม่กี่คน

[ดาราจีนอะไร บอสติดชาร์ตคนไหนไปยุ่งเรื่องในวงการบันเทิงแล้วเหรอ]

[อ๋อๆ ฉันได้ยินเรื่องนี้อยู่นะ ฉันว่าน่าจะเป็นคนของวงการแพทย์แผนโบราณประเทศจีนหรือเปล่า]

[ไม่ใช่คนในวงการแพทย์แผนโบราณหรอก เรื่องนี้ฉันแน่ใจ ส่วนเพราะอะไรขอไม่พูด]

[ฉันสืบแล้วแต่สืบไม่พบ ปิดบังมิดชิดเป็นบ้า จะต้องเป็นบอสในชาร์ตแน่นอน]

[เวลาแบบนี้ต้องถาม แอทเชิญมากินยา ลูกพี่ มองออกไหมว่าเป็นฝีมือของเพื่อนลูกพี่คนไหน]

อิ๋งจื่อจินเลื่อนเม้าส์ขึ้นกดปิดกระทู้นี้

มือข้างหนึ่งเท้าศีรษะ มืออีกข้างเคาะโต๊ะเบาๆ พลางครุ่นคิด

เว็บบอร์ดเอ็นโอเคสมกับได้รับขนานนามว่าเป็นเว็บข่าวกรองที่ข่าวล่ามาไวกว่าหน่วยข่าวกรองสากล สืบได้เร็วขนาดนี้

แถมยังแน่ใจด้วยว่าเป็นฝีมือของนักปรุงยาพิษ

จึ๊

อิ๋งจื่อจินเลื่อนดูกระทู้ใหม่อื่นๆ จากนั้นก็เตรียมออก

ทันใดนั้นตรงกล่องข้อความส่วนตัวของเธอก็มีจุดสีแดง

มีคนแปลกหน้าส่งข้อความมาหาเธอ

อิ๋งจื่อจินนิ่งไปชั่วครู่ คิดว่าวันนี้ไม่มีอะไรทำจึงจะเปิดดู

แต่ยังไม่ทันกดเปิด ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือก็สั่น

อิ๋งจื่อจินก้มมอง

มาจากเวยปั๋ว

ไอดีเกษียณแล้วอย่ากวนถูกคนรู้ไปทั่วตั้งแต่ตอนฟ้องแฟนคลับของอิ๋งลู่เวย ไม่ใช่ความลับอะไร

แอทสตูดิโออิ๋งลู่เวย : [ทุกท่านรอนานแล้วใช่ไหมคะ วันมะรืนนี้ก็คือคอนเสิร์ตของลู่เวย]

เนื่องจากมีแฟนคลับหลายท่านยังหาซื้อบัตรไม่ได้ และก็มีหลายท่านที่อยู่ไกลมาไม่ได้ ทางสตูดิโอกับลู่เวยเลยปรึกษากัน ตัดสินใจจะถ่ายทอดสดออนไลน์ด้วยค่ะ

ตอนนี้จะเปิดลิงก์จำหน่ายตั๋วคอนเสิร์ตออนไลน์นะคะ (ลิงก์) ขณะเดียวกันก็จะปล่อยรายชื่อเพลงและเวลาที่ลู่เวยจะเล่นด้วยค่ะ (รูปภาพ)]

คอมเมนต์กระหน่ำมาทันที

[กรี๊ดดด ลู่เวยเอาใจใส่ดีจัง ฉันแย่งซื้อบัตรไม่ทัน แฟนคลับคนอื่นๆ ไวมากเลย คอนเสิร์ตออนไลน์ ดันๆ]

[ซื้อบัตรแล้ว ดูก่อน ครั้งนี้ลู่เวยเล่นหลายเพลงขนาดนี้ อย่าเหนื่อยจนป่วยนะ]

[ฉันก็ซื้อบัตรแล้ว แต่อยากถามหน่อยว่า แอทเกษียณแล้วอย่ากวน จะเล่นตอนกี่โมง ฉันไม่อยากให้คนที่เล่นได้ไม่ดีแม้กระทั่งเพลงขั้นพื้นฐานมายึดเวลาในคอนเสิร์ต พอถึงตอนนั้นฉันจะกดข้าม เพื่อไม่ให้หูต้องมัวหมอง(อีโมชันยิ้ม)(อีโมชันยิ้ม)]

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 155 คอนเสิร์ต

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 155 คอนเสิร์ต at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

อิ๋งจื่อจินหยิบมาพลิกดู

เธออ่านเร็วมาก ไม่กี่วินาทีต่อมาก็พยักหน้า “ใช้ได้”

ชูกวงมีเดียก็มีแผนกกฎหมายของตัวเอง ได้ยินว่าหัวหน้าแผนกกฎหมายจบการศึกษามาจากสำนักงานทนายความซีเฟิง

ชูกวงมีเดียถึงถูกขนานนามว่าผู้ชนะแห่งวงการบันเทิง

แต่เรื่องพวกนี้ซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์ไม่รู้เลยสักนิด

หลายปีก่อนชูกวงมีเดียช่วยดาราในสังกัดแก้ปัญหาข้อพิพาททางกฎหมาย แต่ต่อมาก็ไม่มีใครกล้ายุ่งกับดาราของชูกวงมีเดียสักเท่าไร

แต่ก่อนหน้านี้ซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์เป็นแค่บริษัทที่ไม่สะดุดตาในวงการบันเทิง ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะได้เผชิญหน้ากับชูกวงมีเดียด้วยซ้ำ

“ค่ะท่านประธาน” เลขาสาวเก็บเอกสารฉบับนั้นกลับมา เธอมองตงอวิ๋นที่ยืนตัวแข็งอยู่ที่เดิม ท่าทีเย็นชาลงในทันที

“ประธานตงคะ อ้อไม่ถูกสิ ตอนนี้เรียกคุณแบบนี้ไม่ได้แล้ว เดี๋ยวคุณก็จะไม่ใช่ประธานของซิงเฉินแล้ว”

ตงอวิ๋นไม่ขยับ เธอรู้สึกแค่ว่ามีฝูผึ้งมาบินหึ่งๆ อยู่รอบหูเธออยู่ตลอด มือเท้าเย็นเฉียบในชั่วขณะ เลือดในร่างกายไหลย้อนกลับ ความหงุดหงิดอารมณ์เสียหน้าพลุ่งพล่านไม่หยุด ราวกับเธอเป็นตัวตลก พูดสิ่งที่น่าขำ ถูกพูดเย้ยหยันโดยไร้เสียง เลขาสาวยังคงยื่นเอกสารให้อย่างสุภาพ แต่พูดด้วยน้ำเสียงที่รังเกียจและประชดสุดๆ “คุณตงคะ ช่วยเซ็นชื่อให้ด้วยค่ะ”

ตงอวิ๋นยังคงยืนอยู่ตรงนั้นไม่ขยับ มือแข็งทื่อ สีหน้าเริ่มซีดลงทีละนิด

“คุณตงคะ คุณจะไม่เซ็นชื่อก็ไม่มีประโยชน์” เลขาสาวไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้ตงอวิ๋นพูดอะไรกับอิ๋งจื่อจิน จึงคิดว่าเธอไม่อยากขายซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์ให้ “เรื่องพวกนั้นที่คุณทำเพียงพอให้ศาลสั่งปิดซิงเฉินเพื่อตรวจสอบ ชูกวงมีเดียให้หนึ่งล้านยังไม่พอใจอีกเหรอคะ”

ในที่สุดคำพูดนี้ก็ทำให้ตงอวิ๋นได้สติกลับมา

ใบหน้าของเธอแดงก่ำแบบที่เวลาโดนดูถูกถึงจะมี กัดฟันพูด “พวกเธอฝันไปเถอะ!”

ซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์เป็นบริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่อันดับสามของประเทศจีน เอาแค่หุ้นก็หลายสิบล้านแล้ว ยังไม่นับรวมมูลค่าของพวกดาราในสังกัดอีก

อาศัยความดังของซังเย่าจือ ซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์ยังมีดาราชายหญิงอีกหลายคนที่ตอนนี้กำลังเป็นดารารุ่นใหม่ที่ดังมากเหมือนกัน

ค่าตัวต่อเรื่องก็เริ่มต้นที่สามสิบล้านแล้ว

ชูกวงมีเดียคิดจะซื้อซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์ด้วยเงินล้านเดียวงั้นเหรอ

ล้อเล่นอะไรน่ะ!

“ฝันหรือเปล่าคุณตงน่าจะรู้ดีนะคะ” เลขาสาวแสยะยิ้ม “ฉันขอเตือนคุณตงว่ารีบเซ็นจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวจะไม่เหลืออะไรเลย”

ตงอวิ๋นปากสั่น สีหน้าก็ซีดยิ่งกว่าเดิม

เธอหันขวับไปมองเด็กสาวที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานสีดำ “เธอจงใจแก้แค้นฉัน!”

เลขาสาวทำงานมานานขนาดนี้ย่อมเจนจัดในสนามรบแล้ว

เธอย่อมไม่มีทางปล่อยให้บอสถูกด่า จึงพูดประชด “คุณตงคะ อย่าหลงตัวเองให้มากนักเลยค่ะ”

“บอสของเราสามารถหาเงินได้วินาทีละแสน เวลาที่เอาไปล้างแค้นคุณซื้อห้องชุดใจกลางเมืองตี้ตูได้หนึ่งห้องเลยนะคะ”

อิ๋งจื่อจินค่อยๆ เหลือบตาขึ้น

นี่เธอหาเงินได้วินาทีละแสนเลยเหรอ

ตงอวิ๋นเหงื่อแตกท่วมตัว เธอกัดฟันพูด “ได้! ฉันเซ็น”

เธอมือสั่นรับปากกามา คล้ายกับว่าต้องใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีกว่าจะเซ็นชื่อตัวเองได้

หลังจากเขียนเสร็จตงอวิ๋นก็เดินโซเซถอยหลังไปหลายก้าว ยังคงไม่อยากเชื่อ

“นี่คือบอสของชูกวงมีเดียเหรอ”

บอสของชูกวงมีเดียเป็นปริศนาต่อคนภายนอกมาตลอด แม้แต่ดาราในสังกัดเองก็ยังไม่เคยเจอ คนในวงการต่างเคยลองไล่เรียงพวกคนมีอำนาจของตระกูลเศรษฐีในตี้ตู แต่ก็ไม่พบคนที่สอดคล้องกับเงื่อนไข แล้วจะเป็นเด็กสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะได้ยังไง

ตงอวิ๋นรับไม่ได้ที่มีคนเพศเดียวกันกับเธอประสบความสำเร็จยิ่งกว่า

“ไม่งั้นจะใครล่ะคะ” เลขาสาวทำเสียงหึ “งั้นให้เป็นคุณเหรอ ในเมื่อเซ็นสัญญาเรียบร้อยแล้ว ถ้าคุณตงไม่อยากถูกรปภ.ไล่ออกไปก็รีบไปจากที่นี่ดีกว่าค่ะ”

ตงอวิ๋นเดินออกเหมือนร่างไร้วิญญาณ

แต่หลังจากนั้น สิ่งที่รอเธออยู่ยังมีหมายศาลอีก

สูญเสียซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์เป็นแค่จุดเริ่มต้น

“บอสคะ ซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์จากสตูดิโอเล็กๆ กลายเป็นบริษัทใหญ่ได้ วิธีการสกปรกน่าดูเลยล่ะค่ะ” เลขาสาวทำท่ารังเกียจ “ในข้อมูลบอกว่าช่วงสามปีมานี้ดาราแปดคนในสังกัดพวกเขาฆ่าตัวตายเพราะเป็นโรคซึมเศร้า”

สีหน้าของอิ๋งจื่อจินชะงักเล็กน้อย

เมื่อก่อนตอนที่เธออยู่ยุโรปยุคโบราณก็มีพวกนักแสดง นักร้อง อะไรทำนองนี้ แต่ยังไม่มีคำว่าวงการบันเทิง ยิ่งไปกว่านั้นไม่มีพฤติกรรมที่เอาดารามาหาผลประโยชน์ เป็นครั้งแรกที่เธอเจอเรื่องแบบนี้ ทำให้เห็นจิตใจของคนอยู่ไม่น้อย

“อืม” อิ๋งจื่อจินพยักหน้า “พอถึงเวลาก็จัดการให้เรียบร้อยด้วย”

“ค่ะ” เลขาสาวตอบ ครุ่นคิดเล็กน้อย สุดท้ายก็ทนถามออกไปไม่ได้ “บอสคะ จะว่าไปบอสรู้จักหมอเทวดาที่ช่วยชีวิตลูกชายฉันไว้ไหมคะ”

อิ๋งจื่อจินลุกขึ้น ดวงตาหลุบลง “ไม่มีหมอเทวดา”

“หา?” เลขาสาวเสียดาย “ฉันยังคิดอยู่ว่าถ้ามีหมอเทวดาแบบนี้ ฉันจะถามหน่อยว่ามีมาร์คหน้าทางการแพทย์ที่ช่วยเรื่องความงามหรือเปล่า สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าฉันหมดเงินไปกับคลินิกเสริมความงามตั้งหลายหมื่นก็ยังไม่ได้เรื่อง”

พอได้ยินคำพูดนี้ฝีเท้าของอิ๋งจื่อจินก็ชะงัก

เธอหันกลับมาตบบ่าของเลขาสาว “ดีมาก คุณมีหัวธุรกิจนะ”

เลขาสาว “?”

หลังจากที่โพสต์คลิปไลฟ์สดเสร็จ พอตกเย็นซังเย่าจือก็โพสต์ข้อความยาวขอบคุณชาวเน็ต แฟนคลับ รวมถึงชูกวงมีเดีย

อันที่จริงเขาเองก็สงสัย ต่อให้ร่างกายของเขาจะเปิดโหมดป้องกันตัวเองจนเป็นการตายหลอก แต่เขาก็ฟื้นฟูได้เร็วเกินไปหรือเปล่า

ตอนเช้าเพิ่งลืมตาตื่น ตอนนี้ก็ลุกลงจากเตียงไปเดินได้แล้ว

ถึงขนาดที่ซังเย่าจือรู้สึกว่า ร่างกายของเขาแข็งแรงกว่าเมื่อก่อนด้วยซ้ำ สามารถถ่ายหนังได้รวดเดียวยี่สิบสี่ชั่วโมง

แต่แม่ยกของเขากลับไม่คิดแบบนี้

“ลูก บอกแล้วว่าอย่าขยับ ทำไมยังจะลงจากเตียงอีก” ซิวอวี่ขนเก้าอี้รถเข็นอย่างหรูที่เจียงหรานเคยใช้มาที่นี่ “นั่งนี่สิ เดี๋ยวให้คนเข็นไป”

ซังเย่าจือจนปัญญาเหลือเกิน โดยเฉพาะการถูกเรียกว่า ‘ลูก’ ที่เขายังไม่ชิน

เขาพูด “อันที่จริงผมไม่ได้…”

ยังไม่ทันพูดจบเขาก็ถูกจับกดให้นั่งบนเก้าอี้รถเข็น

“…”

“ลูกต้องเชื่อฟังนะ พวกแม่ๆ ถึงจะวางใจ” ซิวอวี่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา “ลูก แม่จะถ่ายรูปให้ เป็นหลักฐานบอกคนอื่นว่าลูกได้รับการดูแลอย่างดี”

ถ่ายเสร็จซิวอวี่ก็โพสต์ลงในกลุ่มแฟนคลับ

กลุ่มแฟนคลับนี้เป็นสมาชิกทั้งหมด ทุกคนเป็นแม่ยก

พอเห็นรูปถ่ายก็ฮือฮาขึ้นมาทันที

ซังเย่าจือหันไปมองก็เห็นข้อความนี้

[ลูกจ๋าๆ ลูกตัวเป็นๆ ลูกจ๋าไม่เป็นไรแล้ว เยี่ยมไปเลย]

“…”

ซิวอวี่เก็บโทรศัพท์มือถือเข้ากระเป๋าเสื้อ กวักมือเรียกผู้จัดการส่วนตัว “อย่าให้เขาลุกจากเก้าอี้รถเข็นนะคะ” พอซิวอวี่ออกไปแล้วผู้จัดการส่วนตัวก็เห็นสีหน้าของซังเย่าจือดูแปลกไป

เขายกมือวัดอุณหภูมิที่หน้าผาก “เย่าจือ ไม่สบายเหรอ”

ซังเย่าจือสูดลมหายใจเข้าลึก “ไม่เป็นไร”

เขาไม่สามารถเผชิญหน้ากับแฟนคลับตัวเองได้อีกแล้ว

อีกด้านหนึ่ง

หลังจากอิ๋งจื่อจินกลับถึงบ้านเธอก็เปิดคอมพิวเตอร์

ใส่รหัสผ่านของแอคเคาท์เสร็จก็ล็อกอินเข้าเว็บบอร์ดเอ็นโอเค

เธอสังเกตเห็นว่าหน้าแรกของพื้นที่ปิดมีกระทู้แบบนี้

แอทฉันเป็นแค่คนมุง : [มีใครได้ตามข่าวดาราจีนที่ตายแล้วฟื้นบ้างไหม ถามหน่อยคนลงมือคือนักปรุงยาพิษคนไหนในชาร์ตเหรอ]

ตอนนี้ข้างใต้กระทู้มีคนมาตอบไม่กี่คน

[ดาราจีนอะไร บอสติดชาร์ตคนไหนไปยุ่งเรื่องในวงการบันเทิงแล้วเหรอ]

[อ๋อๆ ฉันได้ยินเรื่องนี้อยู่นะ ฉันว่าน่าจะเป็นคนของวงการแพทย์แผนโบราณประเทศจีนหรือเปล่า]

[ไม่ใช่คนในวงการแพทย์แผนโบราณหรอก เรื่องนี้ฉันแน่ใจ ส่วนเพราะอะไรขอไม่พูด]

[ฉันสืบแล้วแต่สืบไม่พบ ปิดบังมิดชิดเป็นบ้า จะต้องเป็นบอสในชาร์ตแน่นอน]

[เวลาแบบนี้ต้องถาม แอทเชิญมากินยา ลูกพี่ มองออกไหมว่าเป็นฝีมือของเพื่อนลูกพี่คนไหน]

อิ๋งจื่อจินเลื่อนเม้าส์ขึ้นกดปิดกระทู้นี้

มือข้างหนึ่งเท้าศีรษะ มืออีกข้างเคาะโต๊ะเบาๆ พลางครุ่นคิด

เว็บบอร์ดเอ็นโอเคสมกับได้รับขนานนามว่าเป็นเว็บข่าวกรองที่ข่าวล่ามาไวกว่าหน่วยข่าวกรองสากล สืบได้เร็วขนาดนี้

แถมยังแน่ใจด้วยว่าเป็นฝีมือของนักปรุงยาพิษ

จึ๊

อิ๋งจื่อจินเลื่อนดูกระทู้ใหม่อื่นๆ จากนั้นก็เตรียมออก

ทันใดนั้นตรงกล่องข้อความส่วนตัวของเธอก็มีจุดสีแดง

มีคนแปลกหน้าส่งข้อความมาหาเธอ

อิ๋งจื่อจินนิ่งไปชั่วครู่ คิดว่าวันนี้ไม่มีอะไรทำจึงจะเปิดดู

แต่ยังไม่ทันกดเปิด ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือก็สั่น

อิ๋งจื่อจินก้มมอง

มาจากเวยปั๋ว

ไอดีเกษียณแล้วอย่ากวนถูกคนรู้ไปทั่วตั้งแต่ตอนฟ้องแฟนคลับของอิ๋งลู่เวย ไม่ใช่ความลับอะไร

แอทสตูดิโออิ๋งลู่เวย : [ทุกท่านรอนานแล้วใช่ไหมคะ วันมะรืนนี้ก็คือคอนเสิร์ตของลู่เวย]

เนื่องจากมีแฟนคลับหลายท่านยังหาซื้อบัตรไม่ได้ และก็มีหลายท่านที่อยู่ไกลมาไม่ได้ ทางสตูดิโอกับลู่เวยเลยปรึกษากัน ตัดสินใจจะถ่ายทอดสดออนไลน์ด้วยค่ะ

ตอนนี้จะเปิดลิงก์จำหน่ายตั๋วคอนเสิร์ตออนไลน์นะคะ (ลิงก์) ขณะเดียวกันก็จะปล่อยรายชื่อเพลงและเวลาที่ลู่เวยจะเล่นด้วยค่ะ (รูปภาพ)]

คอมเมนต์กระหน่ำมาทันที

[กรี๊ดดด ลู่เวยเอาใจใส่ดีจัง ฉันแย่งซื้อบัตรไม่ทัน แฟนคลับคนอื่นๆ ไวมากเลย คอนเสิร์ตออนไลน์ ดันๆ]

[ซื้อบัตรแล้ว ดูก่อน ครั้งนี้ลู่เวยเล่นหลายเพลงขนาดนี้ อย่าเหนื่อยจนป่วยนะ]

[ฉันก็ซื้อบัตรแล้ว แต่อยากถามหน่อยว่า แอทเกษียณแล้วอย่ากวน จะเล่นตอนกี่โมง ฉันไม่อยากให้คนที่เล่นได้ไม่ดีแม้กระทั่งเพลงขั้นพื้นฐานมายึดเวลาในคอนเสิร์ต พอถึงตอนนั้นฉันจะกดข้าม เพื่อไม่ให้หูต้องมัวหมอง(อีโมชันยิ้ม)(อีโมชันยิ้ม)]

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+