คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 186 ตบหน้าอย่างจัง นายคู่ควรเหรอ

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 186 ตบหน้าอย่างจัง นายคู่ควรเหรอ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“…”

ชื่อนี้ราวกับหอบเอาเสียงรอบตัวทั้งหมดไปด้วย

สมองของเฮ่อสวินถูกระเบิดจนว่างเปล่าอีกครั้ง ยืนแทบไม่อยู่

มือที่จับสำเนาหนังสือตอบรับก็สั่นไม่หยุด

ถึงแม้เฮ่อสวินจะเป็นนักศึกษาของคณะระดับดี (D) ก็ไม่เคยได้สัมผัสกับส่วนสำคัญของมหาวิทยาลัยนอร์ตัน แต่เขาก็รู้ว่าคณะระดับเอสเอส (SS) ไม่ได้รับนักศึกษามานานมากแล้ว

ดังนั้นเวินทิงหลานเป็นนักเรียนเพียงคนเดียวที่มหาวิทยาลัยนอร์ตันรับเข้าคณะระดับเอสเอส (SS) ในช่วงเวลาเกือบสามปีมานี้!

ศาสตราจารย์เห็นเฮ่อสวินเอาแต่อึ้งจึงดึงสำเนาหนังสือตอบรับออกจากมือของเขา

พอมือว่างเปล่าเฮ่อสวินถึงค่อยๆ ได้สติกลับมา พูดอย่างยากลำบาก “ประธานมหาวิทยาลัย…จะจับใครยัดเข้าคณะระดับเอสเอส (SS) ก็ได้เหรอ”

ถ้าอิ๋งจื่อจินไม่ใช้เส้นให้เวินทิงหลาน เวินทิงหลานจะเข้าคณะระดับเอสเอส (SS) สาขาเครื่องกลได้เหรอ

ต่อให้เขามั่นใจว่าเวินทิงหลานเข้ามหาวิทยาลัยนอร์ตันได้แน่ แต่อย่างมากสุดก็คณะระดับเอ (A)

ระดับเอสเอส (SS) เหรอ

ไม่มีคุณสมบัติเลยด้วยซ้ำ

“คุณเฮ่อ คุณไข้ขึ้นเริ่มเพ้อแล้วหรือเปล่า” พอได้ยินแบบนั้นศาสตราจารย์ก็โมโหจนหัวเราะ สีหน้าเย็นชาลง “อธิการบดีมหาวิทยาลัยเป็นคนตั้งกฎรับนักศึกษา ไม่เคยเปลี่ยนหรือยอมอ่อนให้เพราะใครทั้งนั้น”

เขายกคอมพิวเตอร์มาวางตรงหน้าเฮ่อสวินแล้วชี้ไปที่เอกสารฉบับหนึ่ง

“เวินทิงหลาน ไอคิว 228 เป็นรองก็แค่นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะไม่กี่คนเหล่านั้นในประวัติศาสตร์ เขามีความสามารถในการขยับมือสูง แก้ลูกรูบิกสามคูณสามได้ในสามวินาที”

“ตอนห้าขวบเขาสามารถรื้อซาวด์อะเบาท์ที่พังแล้วดึงอะไหล่ที่พังออกมา จากนั้นก็ประกอบเข้าไปใหม่ ซาวด์อะเบาท์ยังใช้ได้อยู่”

ศาสตราจารย์พูดถึงตอนสุดท้ายอารมณ์ก็สงบลง “คุณเฮ่อ คุณลองพูดมาหน่อยว่า อัจฉริยะแบบนี้จำเป็นต้องใช้เส้นเข้าคณะระดับเอสเอส (SS) ด้วยเหรอ”

ถ้าไม่ใช่เพราะเหมาะสม อิ๋งจื่อจินไม่มีทางให้เวินทิงหลานเข้าคณะระดับเอสเอส (SS)

อย่างไรเสียสาขาเล่นแร่แปรธาตุกับสาขาเหนือธรรมชาติก็ถูกเธอตัดออกไปก่อนแล้ว

สองสาขานี้ต่อให้เป็นคนปกติเข้าไปเรียนก็ได้กลายเป็นบ้ากันหมด

เทคโนโลยีของมหาวิทยาลัยนอร์ตันล้ำกว่าโลกภายนอก บรรดาศาสตราจารย์และนักศึกษาของสาขาเครื่องกลมีบทบาทมากที่สุด

เฮ่อสวินมองบันทึกในแฟ้มเอกสาร ริมฝีปากขยับ พูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว

มีความสามารถในการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ เวินทิงหลานเป็นอัจฉริยะเหนืออัจฉริยะจริงๆ

“จริงสิคุณเฮ่อ” ศาสตราจารย์ดันแว่นตา “ได้ยินว่างานที่คุณเลือกหลังเรียนจบคืออาจารย์มัธยมปลาย ดูเหมือนโรงเรียนที่สอนก็เป็นโรงเรียนที่นักเรียนเวินทิงหลานเรียนอยู่ด้วยหรือเปล่า”

เฮ่อสวินยังคงไม่ตอบ

ความเสียใจแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนได้ปกคลุมหัวใจของเขา อดกลั้นจนแทบระเบิดออกมา

ถึงขนาดที่เขาพอจะคิดได้ว่า ถ้าเขาไม่ยึดสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ของเวินทิงหลานกลับมา แต่พาเวินทิงหลานมาที่มหาวิทยาลัยนอร์ตัน

แบบนั้นเขาก็จะเป็นอาจารย์คนแรกที่ปั้นนักศึกษาคณะระดับเอสเอส (SS) ได้

ไม่เพียงแต่เขาจะไม่ถูกเพิกถอนใบจบการศึกษา อีกทั้งยังจะได้รับโอกาสให้อยู่ในมหาวิทยาลัยต่อ

แต่ตอนนี้ไม่เหลืออะไรแล้ว

ไม่มีใบจบจากมหาวิทยาลัยนอร์ตัน โรงเรียนชั้นแนวหน้าของประเทศจีนอย่างชิงจื้อไม่มีทางจ้างเขา

แทบจะไม่มีที่ให้ไปแล้ว

“ผมพูดไปหมดแล้ว ผมยังต้องไปสอนอีก” ศาสตราจารย์ดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ “คุณเฮ่อ ผมขอเตือนสักหน่อย รถใต้ดินเที่ยวสุดท้ายคืนนี้คือสามทุ่มครึ่ง อย่าตกรถล่ะ”

เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยนอร์ตันที่ปรากฏภายนอกกับที่ใช้ภายในไม่เหมือนกัน

เว็บภายในจะมีแค่นักศึกษากับพวกศาสตราจารย์ที่เข้าไปได้ เว็บภายนอกคือให้โลกภายนอกเยี่ยมชม

ในฐานะที่เป็นมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของโลก เว็บไซต์ทางการของมหาวิทยาลัยนอร์ตันย่อมได้รับความสนใจจากคนภายนอก

ถึงแม้จะเป็นประกาศเพิกถอนใบจบการศึกษาก็ตาม

ปีที่แล้วก็มี แต่ไม่ได้ประกาศชื่อ แค่บอกตัวเลข

ส่วนปีนี้ไม่เหมือนกัน ในประกาศมีประโยคหนึ่งที่เขียนว่า

[ทางมหาวิทยาลัยได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนและได้ตัดสินใจเพิกถอนใบจบการศึกษาของนักศึกษาลำดับที่ 679 ชื่อเฮ่อสวิน]

ชื่อเฮ่อสวินได้ดึงดูดความสนใจของคนจำนวนมากในทันที รวมถึงพวกบอสด้วย

แต่อย่างมากก็แค่พอคุ้นๆ ผ่านไปไม่กี่วันก็ลืมแล้ว

คนที่ถูกมหาวิทยาลัยนอร์ตันเพิกถอนใบจบการศึกษาควรค่าให้พวกเขาเก็บมาคิดด้วยเหรอ

ไม่คู่ควรเลยสักนิด

แต่ทางด้านโรงเรียนมัธยมชิงจื้อกลับให้ความสนใจมากหน่อย เพราะเฮ่อสวินยังได้พานักเรียนสามคนไปสอบสัมภาษณ์ที่มหาวิทยาลัยนอร์ตันด้วย

“ผู้อำนวยการ พวกเราถูกหลอกแล้ว!” อาจารย์ฝ่ายวิชาการตบโต๊ะ โมโหมาก “แถมนี่ยังเป็นเพราะทางมหาวิทยาลัยนอร์ตันให้เวลาผ่อนปรนหลายปี ถ้าไม่มีระยะเวลาผ่อนปรน เฮ่อสวินก็ไม่มีแม้แต่ใบจบการศึกษา”

“แบบนี้เขาก็ไม่ถือว่าเป็นนักศึกษาที่จบจากมหาวิทยาลัยนอร์ตัน”

เขาโมโหจะตายอยู่แล้ว

เขาก็เป็นคนดูแลการเงินของโรงเรียน

ตอนนั้นชิงจื้อเชิญเฮ่อสวินมาเป็นอาจารย์ด้วยค่าตอบแทนที่สูงมาก โดยให้เงินเดือนหนึ่งแสนแปดหมื่น

อาจารย์ฝ่ายวิชาการรู้สึกว่าเขาเอาเงินให้หมากินไปแล้ว

“ไม่ใช่สิดี” ผู้อำนวยการพยักหน้า “ถ้าใช่ ผมคงสงสัยในการอบรมสั่งสอนของมหาวิทยาลัยนอร์ตันแล้ว”

หากเรื่องราวไม่เปิดเผยออกมาในตอนท้าย เขาคงไม่รู้ว่าเฮ่อสวินเคยบีบให้เด็กที่เรียนแย่หลายคนต้องย้ายโรงเรียน

อาจารย์ฝ่ายวิชาการยิ่งคิดยิ่งโมโห “ไม่ได้การ ผมจะไปฟ้องเขาข้อหาหลอกลวง!”

พูดจบก็เดินออกจากห้องทำงานผู้อำนวยการไปด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียด

ทางด้านนี้

อิ๋งจื่อจินได้เตาปรุงยามาแล้ว

เตาขนาดไม่ใหญ่ ใส่ลงกระเป๋าเป้ได้พอดี

เธอเอาสมุนไพรจำนวนหนึ่งมาจากสวนของสาขาวิชาสมุนไพร

สาขาสมุนไพรเป็นของคณะระดับเอส (S) แต่นักศึกษาคนไหนก็ตามที่จบจากสาขาสมุนไพร ต่อให้เรียนแย่แค่ไหนก็ยังเป็นหัวหน้าแพทย์ของโรงพยาบาลใหญ่ระดับโลก

วิชาเล่นแร่แปรธาตุก็เป็นวิชาบังคับของสาขาสมุนไพร

หลังจากที่อิ๋งจื่อจินได้สมุนไพรมาในที่สุดก็เงยหน้าขึ้น “เจ็ดวันแล้ว นอร์ตันล่ะ”

โลกภายนอกไม่รู้ว่าชื่อมหาวิทยาลัยนอร์ตันที่ฟังดูยิ่งใหญ่มีเกียรติ แท้จริงแล้วชื่อนี้ก็คือชื่อที่ตอนนั้นอธิการบดีตั้งส่งเดชโดยใช้ชื่อของตัวเอง

“เอ…ผมก็ไม่ได้เจอท่านอธิการมานานแล้วเหมือนกัน” รองอธิการบดีก็เหมือนเพิ่งจะนึกเรื่องนี้ขึ้นมาได้ “ดูเหมือนจะหลายเดือนแล้วครับ”

ที่ไม่ได้รับนักศึกษาระดับเอสเอส (SS) มาตลอดเป็นเพราะนอร์ตันนักเล่นแร่แปรธาตุสติเฟื่องคนนี้ชอบหายตัว ไม่ได้เอาใจจดจ่ออยู่ที่มหาวิทยาลัย

“ดูท่า” อิ๋งจื่อจินพยักหน้าช้าๆ พูดด้วยความเสียดาย “วิชาเล่นแร่แปรธาตุก็รักษาอัลไซเมอร์ไม่ได้”

รองอธิการบดีที่หัวใจถูกมีดทิ่มแทง “…”

“เอ่อคือ โทษผมไม่ได้นะครับ” รองอธิการบดีรู้สึกว่าตัวเองไม่เกี่ยวด้วยเลยจริงๆ “ใช่ว่าคุณจะไม่รู้ว่าพอท่านอธิการเริ่มหมกมุ่นในการเล่นแร่แปรธาตุ เขาก็จะขังตัวเองไว้ในห้องไม่ออกมา”

“บริเวณรอบห้องของเขาวางของมีพิษอยู่จำนวนมาก ผมก็ไม่กล้าเข้าใกล้ นานวันเข้าผมก็เลยลืม”

เรื่องที่เขาศึกษาเป็นวิทยาศาสตร์เหนือธรรมชาติ เขาจึงไม่สันทัดเรื่องเล่นแร่แปรธาตุแม้แต่น้อย

อิ๋งจื่อจินสะพายกระเป๋าเป้ ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ “พาฉันไปดูหน่อย”

รองอธิการบดีรู้ว่า บอสใหญ่ตรงหน้าเขาคนนี้เป็นทั้งวิชาเล่นแร่แปรธาตุและแพทย์แผนโบราณ

แต่ที่โดดเด่นที่สุดคือการใช้พิษ

ครั้นแล้วรองอธิการบดีก็รีบพาเด็กสาวไปทันทีโดยไม่ต้องคิด

ที่นั่นเป็นหอสูง ถึงแม้จะเป็นยามบ่ายที่แดดร้อนระอุก็ยังให้ความรู้สึกอึมครึม

อิ๋งจื่อจินมองไปรอบๆ “ทางนี้”

รองอธิการบดีรีบตามไป กระโดดเข้าไปในหอนั้นเหมือนเล่นกระโดดข้ามช่อง

แต่ละชั้นเป็นบันไดวนขึ้นไป ทั้งสองคนมาถึงชั้นบนสุด

อิ๋งจื่อจินหยิบถุงมือสีขาวหนึ่งคู่ออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วใส่มัน จากนั้นถึงเอามือจับที่ประตูแล้วเปิดเข้าไป

ลมพัดเข้ามาจากหน้าต่างที่อยู่ด้านบนสุด พาให้กระดาษเหลือใช้บนพื้นปลิวว่อน

ไม่มีใครสักคน

อิ๋งจื่อจินหลับตา ไม่กี่วินาทีก็หันหน้าไป “เขาล่ะ”

เมื่อครู่เธอมองดูเหตุการณ์ในช่วงสิบกว่าวันที่ผ่านมา ที่นี่ไม่มีความเปลี่ยนแปลงอะไร

ซึ่งก็หมายความว่านอร์ตันหายไปนานแล้ว

รองอธิการบดีสาวเท้าเดินเข้ามา พอเห็นสภาพภายในก็ตะลึง “ผมสาบานได้ว่าครั้งก่อนที่ผมเจอท่านอธิการ เขาอยู่ที่นี่ เขาไม่ได้ออกไปไหนแน่นอน”

อิ๋งจื่อจินพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ต่อให้ถ้าเขาออกไป คุณก็ไม่สังเกตเห็นหรอก”

รองอธิการบดีหุบปาก

ก็จริง

ไม่เพียงแต่นอร์ตันจะมีความสามารถสูงในวิชาเล่นแร่แปรธาตุ เขายังแปลงโฉมได้ด้วย

ในเว็บบอร์ดเอ็นโอเคก็มีชาร์ตนักแปลงโฉม ถึงแม้นอร์ตันจะไม่ติดอันดับ แต่ฝีมือแปลงโฉมของเขาไม่ต่ำกว่าห้าอันดับแรกแน่นอน

นักแปลงโฉมระดับนี้สามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ได้อย่างง่ายดาย

อิ๋งจื่อจินหลุบตาลง พูดเสียงขรึม “เอาไพ่ทาโรต์มา”

รองอธิการบดีอึ้ง รีบวิ่งออกไปหยิบไพ่ทาโรต์ที่สาขาดาราศาสตร์

ไพ่ทาโรต์ที่แพร่หลายอยู่ในท้องตลาดเป็นของปลอม แต่ที่อยู่ในมหาวิทยาลัยนอร์ตันเป็นของจริง

ไม่นานรองอธิการบดีก็กลับมา

เขาหอบมาหลายกล่อง “ลองดูครับว่าจะเอาแบบไหน”

“ได้ทั้งนั้น” อิ๋งจื่อจินหยิบมาหนึ่งกล่อง “ไม่มีผล”

ไพ่ทาโรต์มีทั้งหมดเจ็ดสิบแปดใบ สำรับใหญ่ยี่สิบสองใบ สำรับเล็กห้าสิบหกใบ

เธอใช้สำรับใหญ่

หลังจากล้างไพ่เสร็จก็เรียงไพ่ทั้งยี่สิบสองใบบนโต๊ะ

อิ๋งจื่อจินก้มหน้า ค่อยๆ เอามือวาดอยู่เหนือไพ่เหล่านั้นเรียงไป

ไพ่สามใบถูกดูดขึ้นมาติดมือโดยอัตโนมัติ

เธอเอาไพ่สามใบนี้วางไว้ด้านข้างแล้วเปิดเรียงทีละใบ

ตอนที่เห็นไพ่สองใบแรกรองอธิการบดียังใจเย็นอยู่

แต่พอเปิดไพ่ใบที่สาม สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 186 ตบหน้าอย่างจัง นายคู่ควรเหรอ

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 186 ตบหน้าอย่างจัง นายคู่ควรเหรอ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“…”

ชื่อนี้ราวกับหอบเอาเสียงรอบตัวทั้งหมดไปด้วย

สมองของเฮ่อสวินถูกระเบิดจนว่างเปล่าอีกครั้ง ยืนแทบไม่อยู่

มือที่จับสำเนาหนังสือตอบรับก็สั่นไม่หยุด

ถึงแม้เฮ่อสวินจะเป็นนักศึกษาของคณะระดับดี (D) ก็ไม่เคยได้สัมผัสกับส่วนสำคัญของมหาวิทยาลัยนอร์ตัน แต่เขาก็รู้ว่าคณะระดับเอสเอส (SS) ไม่ได้รับนักศึกษามานานมากแล้ว

ดังนั้นเวินทิงหลานเป็นนักเรียนเพียงคนเดียวที่มหาวิทยาลัยนอร์ตันรับเข้าคณะระดับเอสเอส (SS) ในช่วงเวลาเกือบสามปีมานี้!

ศาสตราจารย์เห็นเฮ่อสวินเอาแต่อึ้งจึงดึงสำเนาหนังสือตอบรับออกจากมือของเขา

พอมือว่างเปล่าเฮ่อสวินถึงค่อยๆ ได้สติกลับมา พูดอย่างยากลำบาก “ประธานมหาวิทยาลัย…จะจับใครยัดเข้าคณะระดับเอสเอส (SS) ก็ได้เหรอ”

ถ้าอิ๋งจื่อจินไม่ใช้เส้นให้เวินทิงหลาน เวินทิงหลานจะเข้าคณะระดับเอสเอส (SS) สาขาเครื่องกลได้เหรอ

ต่อให้เขามั่นใจว่าเวินทิงหลานเข้ามหาวิทยาลัยนอร์ตันได้แน่ แต่อย่างมากสุดก็คณะระดับเอ (A)

ระดับเอสเอส (SS) เหรอ

ไม่มีคุณสมบัติเลยด้วยซ้ำ

“คุณเฮ่อ คุณไข้ขึ้นเริ่มเพ้อแล้วหรือเปล่า” พอได้ยินแบบนั้นศาสตราจารย์ก็โมโหจนหัวเราะ สีหน้าเย็นชาลง “อธิการบดีมหาวิทยาลัยเป็นคนตั้งกฎรับนักศึกษา ไม่เคยเปลี่ยนหรือยอมอ่อนให้เพราะใครทั้งนั้น”

เขายกคอมพิวเตอร์มาวางตรงหน้าเฮ่อสวินแล้วชี้ไปที่เอกสารฉบับหนึ่ง

“เวินทิงหลาน ไอคิว 228 เป็นรองก็แค่นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะไม่กี่คนเหล่านั้นในประวัติศาสตร์ เขามีความสามารถในการขยับมือสูง แก้ลูกรูบิกสามคูณสามได้ในสามวินาที”

“ตอนห้าขวบเขาสามารถรื้อซาวด์อะเบาท์ที่พังแล้วดึงอะไหล่ที่พังออกมา จากนั้นก็ประกอบเข้าไปใหม่ ซาวด์อะเบาท์ยังใช้ได้อยู่”

ศาสตราจารย์พูดถึงตอนสุดท้ายอารมณ์ก็สงบลง “คุณเฮ่อ คุณลองพูดมาหน่อยว่า อัจฉริยะแบบนี้จำเป็นต้องใช้เส้นเข้าคณะระดับเอสเอส (SS) ด้วยเหรอ”

ถ้าไม่ใช่เพราะเหมาะสม อิ๋งจื่อจินไม่มีทางให้เวินทิงหลานเข้าคณะระดับเอสเอส (SS)

อย่างไรเสียสาขาเล่นแร่แปรธาตุกับสาขาเหนือธรรมชาติก็ถูกเธอตัดออกไปก่อนแล้ว

สองสาขานี้ต่อให้เป็นคนปกติเข้าไปเรียนก็ได้กลายเป็นบ้ากันหมด

เทคโนโลยีของมหาวิทยาลัยนอร์ตันล้ำกว่าโลกภายนอก บรรดาศาสตราจารย์และนักศึกษาของสาขาเครื่องกลมีบทบาทมากที่สุด

เฮ่อสวินมองบันทึกในแฟ้มเอกสาร ริมฝีปากขยับ พูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว

มีความสามารถในการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ เวินทิงหลานเป็นอัจฉริยะเหนืออัจฉริยะจริงๆ

“จริงสิคุณเฮ่อ” ศาสตราจารย์ดันแว่นตา “ได้ยินว่างานที่คุณเลือกหลังเรียนจบคืออาจารย์มัธยมปลาย ดูเหมือนโรงเรียนที่สอนก็เป็นโรงเรียนที่นักเรียนเวินทิงหลานเรียนอยู่ด้วยหรือเปล่า”

เฮ่อสวินยังคงไม่ตอบ

ความเสียใจแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนได้ปกคลุมหัวใจของเขา อดกลั้นจนแทบระเบิดออกมา

ถึงขนาดที่เขาพอจะคิดได้ว่า ถ้าเขาไม่ยึดสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ของเวินทิงหลานกลับมา แต่พาเวินทิงหลานมาที่มหาวิทยาลัยนอร์ตัน

แบบนั้นเขาก็จะเป็นอาจารย์คนแรกที่ปั้นนักศึกษาคณะระดับเอสเอส (SS) ได้

ไม่เพียงแต่เขาจะไม่ถูกเพิกถอนใบจบการศึกษา อีกทั้งยังจะได้รับโอกาสให้อยู่ในมหาวิทยาลัยต่อ

แต่ตอนนี้ไม่เหลืออะไรแล้ว

ไม่มีใบจบจากมหาวิทยาลัยนอร์ตัน โรงเรียนชั้นแนวหน้าของประเทศจีนอย่างชิงจื้อไม่มีทางจ้างเขา

แทบจะไม่มีที่ให้ไปแล้ว

“ผมพูดไปหมดแล้ว ผมยังต้องไปสอนอีก” ศาสตราจารย์ดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ “คุณเฮ่อ ผมขอเตือนสักหน่อย รถใต้ดินเที่ยวสุดท้ายคืนนี้คือสามทุ่มครึ่ง อย่าตกรถล่ะ”

เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยนอร์ตันที่ปรากฏภายนอกกับที่ใช้ภายในไม่เหมือนกัน

เว็บภายในจะมีแค่นักศึกษากับพวกศาสตราจารย์ที่เข้าไปได้ เว็บภายนอกคือให้โลกภายนอกเยี่ยมชม

ในฐานะที่เป็นมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของโลก เว็บไซต์ทางการของมหาวิทยาลัยนอร์ตันย่อมได้รับความสนใจจากคนภายนอก

ถึงแม้จะเป็นประกาศเพิกถอนใบจบการศึกษาก็ตาม

ปีที่แล้วก็มี แต่ไม่ได้ประกาศชื่อ แค่บอกตัวเลข

ส่วนปีนี้ไม่เหมือนกัน ในประกาศมีประโยคหนึ่งที่เขียนว่า

[ทางมหาวิทยาลัยได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนและได้ตัดสินใจเพิกถอนใบจบการศึกษาของนักศึกษาลำดับที่ 679 ชื่อเฮ่อสวิน]

ชื่อเฮ่อสวินได้ดึงดูดความสนใจของคนจำนวนมากในทันที รวมถึงพวกบอสด้วย

แต่อย่างมากก็แค่พอคุ้นๆ ผ่านไปไม่กี่วันก็ลืมแล้ว

คนที่ถูกมหาวิทยาลัยนอร์ตันเพิกถอนใบจบการศึกษาควรค่าให้พวกเขาเก็บมาคิดด้วยเหรอ

ไม่คู่ควรเลยสักนิด

แต่ทางด้านโรงเรียนมัธยมชิงจื้อกลับให้ความสนใจมากหน่อย เพราะเฮ่อสวินยังได้พานักเรียนสามคนไปสอบสัมภาษณ์ที่มหาวิทยาลัยนอร์ตันด้วย

“ผู้อำนวยการ พวกเราถูกหลอกแล้ว!” อาจารย์ฝ่ายวิชาการตบโต๊ะ โมโหมาก “แถมนี่ยังเป็นเพราะทางมหาวิทยาลัยนอร์ตันให้เวลาผ่อนปรนหลายปี ถ้าไม่มีระยะเวลาผ่อนปรน เฮ่อสวินก็ไม่มีแม้แต่ใบจบการศึกษา”

“แบบนี้เขาก็ไม่ถือว่าเป็นนักศึกษาที่จบจากมหาวิทยาลัยนอร์ตัน”

เขาโมโหจะตายอยู่แล้ว

เขาก็เป็นคนดูแลการเงินของโรงเรียน

ตอนนั้นชิงจื้อเชิญเฮ่อสวินมาเป็นอาจารย์ด้วยค่าตอบแทนที่สูงมาก โดยให้เงินเดือนหนึ่งแสนแปดหมื่น

อาจารย์ฝ่ายวิชาการรู้สึกว่าเขาเอาเงินให้หมากินไปแล้ว

“ไม่ใช่สิดี” ผู้อำนวยการพยักหน้า “ถ้าใช่ ผมคงสงสัยในการอบรมสั่งสอนของมหาวิทยาลัยนอร์ตันแล้ว”

หากเรื่องราวไม่เปิดเผยออกมาในตอนท้าย เขาคงไม่รู้ว่าเฮ่อสวินเคยบีบให้เด็กที่เรียนแย่หลายคนต้องย้ายโรงเรียน

อาจารย์ฝ่ายวิชาการยิ่งคิดยิ่งโมโห “ไม่ได้การ ผมจะไปฟ้องเขาข้อหาหลอกลวง!”

พูดจบก็เดินออกจากห้องทำงานผู้อำนวยการไปด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียด

ทางด้านนี้

อิ๋งจื่อจินได้เตาปรุงยามาแล้ว

เตาขนาดไม่ใหญ่ ใส่ลงกระเป๋าเป้ได้พอดี

เธอเอาสมุนไพรจำนวนหนึ่งมาจากสวนของสาขาวิชาสมุนไพร

สาขาสมุนไพรเป็นของคณะระดับเอส (S) แต่นักศึกษาคนไหนก็ตามที่จบจากสาขาสมุนไพร ต่อให้เรียนแย่แค่ไหนก็ยังเป็นหัวหน้าแพทย์ของโรงพยาบาลใหญ่ระดับโลก

วิชาเล่นแร่แปรธาตุก็เป็นวิชาบังคับของสาขาสมุนไพร

หลังจากที่อิ๋งจื่อจินได้สมุนไพรมาในที่สุดก็เงยหน้าขึ้น “เจ็ดวันแล้ว นอร์ตันล่ะ”

โลกภายนอกไม่รู้ว่าชื่อมหาวิทยาลัยนอร์ตันที่ฟังดูยิ่งใหญ่มีเกียรติ แท้จริงแล้วชื่อนี้ก็คือชื่อที่ตอนนั้นอธิการบดีตั้งส่งเดชโดยใช้ชื่อของตัวเอง

“เอ…ผมก็ไม่ได้เจอท่านอธิการมานานแล้วเหมือนกัน” รองอธิการบดีก็เหมือนเพิ่งจะนึกเรื่องนี้ขึ้นมาได้ “ดูเหมือนจะหลายเดือนแล้วครับ”

ที่ไม่ได้รับนักศึกษาระดับเอสเอส (SS) มาตลอดเป็นเพราะนอร์ตันนักเล่นแร่แปรธาตุสติเฟื่องคนนี้ชอบหายตัว ไม่ได้เอาใจจดจ่ออยู่ที่มหาวิทยาลัย

“ดูท่า” อิ๋งจื่อจินพยักหน้าช้าๆ พูดด้วยความเสียดาย “วิชาเล่นแร่แปรธาตุก็รักษาอัลไซเมอร์ไม่ได้”

รองอธิการบดีที่หัวใจถูกมีดทิ่มแทง “…”

“เอ่อคือ โทษผมไม่ได้นะครับ” รองอธิการบดีรู้สึกว่าตัวเองไม่เกี่ยวด้วยเลยจริงๆ “ใช่ว่าคุณจะไม่รู้ว่าพอท่านอธิการเริ่มหมกมุ่นในการเล่นแร่แปรธาตุ เขาก็จะขังตัวเองไว้ในห้องไม่ออกมา”

“บริเวณรอบห้องของเขาวางของมีพิษอยู่จำนวนมาก ผมก็ไม่กล้าเข้าใกล้ นานวันเข้าผมก็เลยลืม”

เรื่องที่เขาศึกษาเป็นวิทยาศาสตร์เหนือธรรมชาติ เขาจึงไม่สันทัดเรื่องเล่นแร่แปรธาตุแม้แต่น้อย

อิ๋งจื่อจินสะพายกระเป๋าเป้ ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ “พาฉันไปดูหน่อย”

รองอธิการบดีรู้ว่า บอสใหญ่ตรงหน้าเขาคนนี้เป็นทั้งวิชาเล่นแร่แปรธาตุและแพทย์แผนโบราณ

แต่ที่โดดเด่นที่สุดคือการใช้พิษ

ครั้นแล้วรองอธิการบดีก็รีบพาเด็กสาวไปทันทีโดยไม่ต้องคิด

ที่นั่นเป็นหอสูง ถึงแม้จะเป็นยามบ่ายที่แดดร้อนระอุก็ยังให้ความรู้สึกอึมครึม

อิ๋งจื่อจินมองไปรอบๆ “ทางนี้”

รองอธิการบดีรีบตามไป กระโดดเข้าไปในหอนั้นเหมือนเล่นกระโดดข้ามช่อง

แต่ละชั้นเป็นบันไดวนขึ้นไป ทั้งสองคนมาถึงชั้นบนสุด

อิ๋งจื่อจินหยิบถุงมือสีขาวหนึ่งคู่ออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วใส่มัน จากนั้นถึงเอามือจับที่ประตูแล้วเปิดเข้าไป

ลมพัดเข้ามาจากหน้าต่างที่อยู่ด้านบนสุด พาให้กระดาษเหลือใช้บนพื้นปลิวว่อน

ไม่มีใครสักคน

อิ๋งจื่อจินหลับตา ไม่กี่วินาทีก็หันหน้าไป “เขาล่ะ”

เมื่อครู่เธอมองดูเหตุการณ์ในช่วงสิบกว่าวันที่ผ่านมา ที่นี่ไม่มีความเปลี่ยนแปลงอะไร

ซึ่งก็หมายความว่านอร์ตันหายไปนานแล้ว

รองอธิการบดีสาวเท้าเดินเข้ามา พอเห็นสภาพภายในก็ตะลึง “ผมสาบานได้ว่าครั้งก่อนที่ผมเจอท่านอธิการ เขาอยู่ที่นี่ เขาไม่ได้ออกไปไหนแน่นอน”

อิ๋งจื่อจินพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ต่อให้ถ้าเขาออกไป คุณก็ไม่สังเกตเห็นหรอก”

รองอธิการบดีหุบปาก

ก็จริง

ไม่เพียงแต่นอร์ตันจะมีความสามารถสูงในวิชาเล่นแร่แปรธาตุ เขายังแปลงโฉมได้ด้วย

ในเว็บบอร์ดเอ็นโอเคก็มีชาร์ตนักแปลงโฉม ถึงแม้นอร์ตันจะไม่ติดอันดับ แต่ฝีมือแปลงโฉมของเขาไม่ต่ำกว่าห้าอันดับแรกแน่นอน

นักแปลงโฉมระดับนี้สามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ได้อย่างง่ายดาย

อิ๋งจื่อจินหลุบตาลง พูดเสียงขรึม “เอาไพ่ทาโรต์มา”

รองอธิการบดีอึ้ง รีบวิ่งออกไปหยิบไพ่ทาโรต์ที่สาขาดาราศาสตร์

ไพ่ทาโรต์ที่แพร่หลายอยู่ในท้องตลาดเป็นของปลอม แต่ที่อยู่ในมหาวิทยาลัยนอร์ตันเป็นของจริง

ไม่นานรองอธิการบดีก็กลับมา

เขาหอบมาหลายกล่อง “ลองดูครับว่าจะเอาแบบไหน”

“ได้ทั้งนั้น” อิ๋งจื่อจินหยิบมาหนึ่งกล่อง “ไม่มีผล”

ไพ่ทาโรต์มีทั้งหมดเจ็ดสิบแปดใบ สำรับใหญ่ยี่สิบสองใบ สำรับเล็กห้าสิบหกใบ

เธอใช้สำรับใหญ่

หลังจากล้างไพ่เสร็จก็เรียงไพ่ทั้งยี่สิบสองใบบนโต๊ะ

อิ๋งจื่อจินก้มหน้า ค่อยๆ เอามือวาดอยู่เหนือไพ่เหล่านั้นเรียงไป

ไพ่สามใบถูกดูดขึ้นมาติดมือโดยอัตโนมัติ

เธอเอาไพ่สามใบนี้วางไว้ด้านข้างแล้วเปิดเรียงทีละใบ

ตอนที่เห็นไพ่สองใบแรกรองอธิการบดียังใจเย็นอยู่

แต่พอเปิดไพ่ใบที่สาม สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+