คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 198 ปล่อยจงจือหว่านขายหน้าให้เต็มที่

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 198 ปล่อยจงจือหว่านขายหน้าให้เต็มที่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

แบบชุดทั้งหมดจะถูกฉายขึ้นจอโปรเจคเตอร์

ขยายรายละเอียดเพื่อให้คณะกรรมการดูได้สะดวก

หลังจากที่แบบชุดนี้ปรากฏ เหล่าคณะกรรมการแค่มองแวบเดียว ยังไม่ทันได้ดูรายละเอียด สีหน้าก็เปลี่ยนกันหมด เงียบไปชั่วขณะ

ก่อนหน้านี้ชูกวงมีเดียส่งแบบชุดเข้ามาหนึ่งเซตมีสี่ชุด โดยออกแบบในคอนเซ็ปต์สัตว์เทพทั้งสี่ในตำนานเทพของฝั่งตะวันออก

การออกแบบในคอนเซ็ปต์สี่สัตว์เทพเคยมีอยู่ไม่น้อย ซึ่งพบได้ในการจัดประกวดออกแบบเครื่องแต่งกายทุกครั้ง อย่างไรเสียนักออกแบบและบริษัทที่มาจากประเทศจีนก็มีค่อนข้างมาก

แต่นับตั้งแต่เริ่มมีการประกวดจวบจนปัจจุบันนี้ก็มีเพียงเซตเมื่อครู่ที่สร้างความประทับใจให้พวกเขามาก

เหล่าคณะกรรมการก็เป็นนักออกแบบชั้นแนวหน้าในวงการออกแบบ สายตาเฉียบคม

ต่อให้แบบชุดที่หวาซิ่วส่งมาจะแตกต่างกับของชูกวงมีเดีย แต่ไม่มีทางที่พวกเขาจะมองไม่ออกว่าหวาซิ่วคัดลอกผลงานของชูกวงมีเดีย แต่ไม่สามารถเลียนแบบจุดแข็งออกมาได้

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ผลงานต้นฉบับมีสี่ชุด แบบชุดของหวาซิ่วมีเพียงชุดเดียว

งานประกวดออกแบบงานใหญ่แบบนี้เคยมีกรณีคัดลอกผลงานอยู่ไม่น้อย แต่ส่วนใหญ่จะลอกผลงานของนักออกแบบที่ไม่มีชื่อเสียง

และยังไม่มีครั้งไหนที่จะคัดลอกผลงานของผู้เข้าร่วมประกวดอีกคน

“หวาซิ่วนี่ใจกล้ามากนะ” หญิงสาวแสยะยิ้ม ตบโต๊ะยืนขึ้น “พวกเขาไม่เกรงกลัวใคร กล้าลอกได้แม้กระทั่งผลงานออกแบบของชูกวงมีเดียเลยเหรอ”

ในครั้งก่อนๆ ถึงแม้ชูกวงมีเดียจะไม่ติดสามอันดับแรก แต่ก็ทิ้งห่างหวาซิ่วที่ได้อันดับต่ำกว่าสิบห้าไปไกลมาก

สองบริษัทนี้คนละระดับกัน

แต่ถ้าครั้งนี้แบบชุดที่ชูกวงมีเดียส่งมาไม่ใช่ภาพเซตนั้น หวาซิ่วก็จะอาศัยแบบชุดนี้เข้าถึงสามอันดับแรกได้อย่างแน่นอน

สีหน้าของคณะกรรมการคนอื่นก็เคร่งเครียด

มีคนหนึ่งถามขึ้น “นักออกแบบของหวาซิ่วเกี่ยวข้องอะไรกับนักออกแบบของชูกวงมีเดียหรือเปล่า เป็นเพื่อนร่วมงานกันไหม”

ไม่อย่างนั้นจะวาดได้เหมือนขนาดนี้ได้อย่างไร

แม้แต่ลวดลายตรงข้อมือก็ยังเหมือนกัน

“ขอดูหน่อย” กรรมการอีกคนก้มหน้า “นักออกแบบของหวาซิ่ว ลงชื่อด้านล่างว่า ‘จงจือหว่าน’ ไม่เคยได้ยิน น่าจะเป็นนักออกแบบหน้าใหม่เหมือนกัน อายุ…”

สายตาของเขาเลื่อนลงด้านล่าง สีหน้าเปลี่ยนไปอีกครั้ง “อายุสิบเจ็ดปี หากว่ากันตามหลักการ พื้นฐานการออกแบบของวัยนี้ไม่มีทางมีฝีมือได้เท่านี้”

แน่นอนว่ายกเว้นคนมีพรสวรรค์

เพียงแต่น่าเสียดายที่แบบชุดนี้ถูกคัดลอกผลงานมา

“ลอกเลียนแบบอย่างไม่ต้องสงสัย” สีหน้าของกรรมการคนก่อนหน้านี้แย่ลง “แบบชุดนี้ไม่มีทางเข้าถึงรอบก่อนชิงชนะเลิศ รู้ถึงไหนอายไปถึงนั่น”

วงการออกแบบถือเรื่องอะไรมากที่สุด

ก็คงหนีไม่พ้นการลอกเลียนแบบผลงาน

ขอเพียงแต่ถูกตราหน้าด้วยคำนี้ นักออกแบบคนนั้นก็หมดอนาคตแล้ว

“ตีกลับไป” กรรมการที่อยู่ด้านขวาก็พยักหน้า “ในเมื่อครั้งนี้หวาซิ่วกล้าใช้ผลงานที่คัดลอกมา ครั้งหน้าก็อาจทำอีก”

“ต้องแบนไม่ให้หวาซิ่วรวมถึงนักออกแบบในสังกัดเข้าร่วมประกวดออกแบบเครื่องแต่งกายหลังจากนี้อีก!”

“ไม่ต้องหรอกค่ะ” หญิงสาวกลับยกมือห้าม เธอพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ในเมื่อพวกเขากล้าส่งผลงานที่ลอกเลียนแบบเข้าประกวด ก็แสดงว่ามั่นใจมาก”

“เวลานี้น่าจะเริ่มตัดชุดแล้ว วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ก็คงเตรียมพร้อมแล้วเช่นกัน จะให้พวกเขาเสียแรงเปล่าไม่ได้”

พอได้ยินเธอพูดแบบนี้คณะกรรมการคนอื่นๆ ก็อดตะลึงไม่ได้ “คุณหมายความว่า…”

ปีนี้หญิงสาวอายุสามสิบหกปี เธอชื่อ มาช่า เมนูอิน

เธอเป็นสตรีอายุน้อยที่สุดที่เคยได้รับรางวัลอันทรงเกียรติสูงสุดในวงการนักออกแบบ และก็เป็นประธานของคณะกรรมการในครั้งนี้

เรื่องใหญ่เธอเป็นคนตัดสินใจ

“ฉันหมายความว่า ให้พวกเขาประกวดต่อ” มาช่าพยักหน้า “แยกผลงานออกมาต่างหากในรอบชิงชนะเลิศ อย่าให้ผลงานลอกเลียนแบบบดบังผลงานยอดเยี่ยมชิ้นอื่น”

“ชอบคัดลอกไม่ใช่เหรอ งั้นก็ปล่อยนักออกแบบที่ชื่อจงจือหว่านคนนี้เชิญคัดลอกให้เต็มที่ เอาให้อายสุดๆ”

มาช่าไม่มีความรู้สึกดีๆ ให้เรื่องการคัดลอกผลงานแม้แต่น้อย เธอเกลียดเข้าไส้

ผลงานของเธอก็เคยถูกเพื่อนนักเรียนคัดลอก

ถ้าไม่ใช่เพราะเธอเก็บแบบร่างก่อนหน้าเอาไว้ ไม่เพียงแต่เธอจะถูกแว้งกัด ยังจะถูกขับไล่ออกจากวงการนักออกแบบอีกด้วย

ทั้งยังต้องทนเห็นคนอื่นขโมยผลงานของตัวเองไปได้รับเกียรติที่หาใดเปรียบไม่ได้

“ก็เป็นวิธีที่ดี” กรรมการคนหนึ่งเห็นด้วย “และก็เป็นการเตือนผู้เข้าประกวดคนอื่นว่าต่อไปห้ามให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกเด็ดขาด”

หลังจากที่คณะกรรมการหารือกันเสร็จก็ตั้งใจแยกแบบชุดของหวาซิ่วออกมาโดยเฉพาะแล้วดูผลงานเข้าประกวดชิ้นอื่นต่อ

สามวันต่อมา

เคอฮุ่ยจูก็ได้รับบัตรเชิญรอบชิงชนะเลิศ

ถึงแม้นี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่หวาซิ่วได้บัตรเชิญ แต่เธอก็ยังคงตื่นเต้นมาก

เธอมั่นใจได้ว่าแบบชุดที่ส่งเข้าประกวดครั้งนี้จะทำให้หวาซิ่วสามารถยืนได้อย่างมั่นคงในวงการออกแบบระดับนานาชาติ ต่อไปจะมีการเชื้อเชิญอย่างไม่ขาดสาย

“ประธานเคอคะ ประธานไม่รู้สึกเหรอคะว่านักเรียนมอปลายจะออกแบบชุดแบบนี้ออกมาได้ยังไง” ผู้ช่วยพิเศษที่อยู่ข้างๆ สุดท้ายก็ทนไม่ไหว “อีกอย่าง อันที่จริงชุดนี้ก็มีจุดบกพร่อง”

เป็นต้นว่า ตรงช่วงเอว ลวดลายมันไม่ต่อเนื่องกัน

“เอาล่ะ ฉันสืบมาแล้ว ชุดหงส์แดงนี้ไม่ได้เป็นของนักออกแบบที่มีชื่อเสียงคนไหนทั้งนั้น” เคอฮุ่ยจูส่ายมือ “หากเป็นของนักออกแบบที่ไม่มีชื่อเสียง เธอว่าเขาจะมีปัญญาสู้กับหวาซิ่วไหม แม้แต่ทุนทำชุดแบบนี้ออกมาก็ยังไม่มีด้วยซ้ำ”

ให้ค่าปิดปากไปก็จบแล้ว

ถึงแม้หวาซิ่วจะไม่ใช่บริษัทใหญ่ชั้นแนวหน้า แต่เรื่องปิดกั้นเส้นทางอนาคตในวงการออกแบบของนักออกแบบเล็กๆ คนหนึ่งก็พอทำได้

ผู้ช่วยพิเศษไม่กล้าพูดต่อ

“ต่อให้เกิดเรื่องอะไรขึ้นจริงก็ยังมีนักออกแบบรับหน้า” เคอฮุ่ยจูไม่คิดแบบนั้น “เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่พวกเราจะต้องกังวล”

เธอถือบัตรเชิญรอบตัดสิน ครุ่นคิดแล้วถามขึ้น “ตัดชุดไปถึงไหนแล้ว”

“เร่งทำได้ครึ่งหนึ่งแล้วค่ะ” ผู้ช่วยพิเศษรีบรายงาน “จากที่ท่านประธานสั่ง ใช้วัสดุชั้นดีทั้งนั้น ลำพังแค่ค่าวัสดุก็มีมูลค่าสามล้านแล้วค่ะ”

หลังจากที่ตัดชุดเสร็จพวกเขายังต้องเชิญนางแบบ

เคอฮุ่ยจูถึงได้ผ่อนคลายลง เธอพยักหน้า “พาฉันไปดูหน่อย”

หวาซิ่วเป็นบริษัทที่ตัดชุดให้ตระกูลขนาดกลางและขนาดเล็กของตี้ตู ย่อมมีโรงงานขนาดใหญ่

หลังจากที่เคอฮุ่ยจูเข้าไปแล้วก็ตรงไปด้านในสุด

ภายในห้องมีนักออกแบบและช่างตัดเย็บถึงสิบสองคนกำลังตัดชุดนี้อยู่

หนึ่งในนักออกแบบหน้านิ่วมองแขนขวาของชุด ท่าทางลำบากใจ

“มีอะไรเหรอ” เคอฮุ่ยจูเดินเข้าไป “มีเวลาไม่มากแล้ว อย่าเสียเวลา”

“ประธานเคอคะ ฉันรู้สึกว่าลายกลุ่มนี้มันแปลกไปหน่อย” นักออกแบบพูด “ถ้าตัดทิ้งก็ไม่ได้ส่งผลต่อภาพรวม แต่ถ้าตัดทิ้งกลับทำให้ชุดนี้ดูไม่มีอะไรน่าสนใจแล้ว”

“งั้นก็ไม่ต้องตัดทิ้ง” เคอฮุ่ยจูมองเธอด้วยความแปลกใจ “แบบชุดถูกส่งไปแล้วพวกคุณยังจะแก้ได้อีกเหรอ”

นักออกแบบกลืนคำพูด ‘ฉันรู้สึกว่าลายกลุ่มนี้มันเหมือนอักษรตัวหนึ่ง’ กลับไป

“ทำงานให้ดี ฉันให้เวลาพวกคุณอีกแปดวัน” เคอฮุ่ยจูตบมือ “อีกแปดวันจะเอาให้นางแบบลองใส่แล้ว”

เมืองฮู่เฉิง

ชูกวงมีเดียสาขาย่อย

“บอสคะ ชุดทั้งสี่ที่บอสออกแบบตัดเสร็จหมดแล้วนะคะ” เลขาสาวเอาเอกสารวางลงบนโต๊ะ พูดด้วยความอิจฉา “ถ้าไม่ติดว่าแพงมากนะคะ ฉันก็อยากจะลองใส่ดู”

“ชอบเหรอ” อิ๋งจื่อจินหยิบเอกสารมาเปิด “ไว้เดินแบบเสร็จคุณก็เลือกเอาไปสักชุดแล้วกัน”

เลขาสาวกำลังดีใจอย่างบ้าคลั่ง แต่พอได้ยินประโยคถัดมา

“หักค่าวัสดุออกจากเงินเดือนคุณ”

“…”

“งั้นก็ช่างเถอะค่ะ” เลขาสาวปวดใจสุดๆ “เงินเดือนของฉันหนึ่งเดือนยังไม่พอซื้อแขนเสื้อเลยค่ะ”

ลำพังแค่แบบชุดยังไม่พอ วัสดุที่ทำชุดก็ถูกให้ความสำคัญยิ่งกว่า

มิฉะนั้นไม่เพียงแต่จะไม่ชวนให้รู้สึกถึงความสวยของแบบชุด กลับจะยิ่งทำให้ดูเชยด้วยซ้ำ

“สองชุดนี้ให้เซี่ยมั่นอวี่” อิ๋งจื่อจินพูด “เธอรับงานนี้ไหว ส่วนอีกสองชุดให้ซังเย่าจือ”

เซตชุดตำนานเทพนี้ประกอบไปด้วยหงส์แดงกับเสือขาวที่เป็นของผู้หญิง มังกรเขียวกับเต่าดำเป็นของผู้ชาย

เซี่ยมั่นอวี่เป็นราชินีภาพยนตร์สองรางวัลตุ๊กตาทองที่สังกัดชูกวงมีเดีย ปีนี้อายุสามสิบสองปี กำลังอยู่ในช่วงรุ่งโรจน์ของดาราหญิง

ถึงแม้ดาราสาวที่เกิดหลังปี 95 และปีสองพันจะเป็นที่นิยมมากกว่า แต่บุคลิกเอาไม่อยู่

“ได้ค่ะ วันมะรืนราชินีภาพยนตร์เซี่ยจะบินกลับมาจากเมืองนอก” เลขาสาวพยักหน้า “ราชาภาพยนตร์ซังก็เพิ่งเสร็จจากงานโปรโมตละครเรื่องสปายเลอโฉม”

ละครสปายเลอโฉมเป็นละครเรื่องสุดท้ายที่ซังเย่าจือถ่ายตอนอยู่ซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์

ดูจากชื่อก็รู้ได้ว่าเป็นละครที่เน้นนางเอกเป็นหลัก แสดงให้เห็นว่าซิงเฉินสูบเลือดโหดขนาดไหน

แต่สูบเลือดก็ส่วนสูบเลือด บทและตัวละครของเรื่องนี้ก็สนุกพอสมควร ไม่อย่างนั้นคงไม่ติดอันดับ

เลขาสาวเดินออกไปพร้อมไอแพด ยังคงให้ความสนใจข่าวเด่น

“บอสคะ ชุดนี้…” ทันใดนั้นเธอก็หยุดลง “ทำไมเหมือนของพวกเราเลยล่ะคะ”

เธอเดินกลับมาที่โต๊ะอีกครั้งแล้วยื่นไอแพดในมือให้ดู บนหน้าจอเป็นโพสต์เวยปั๋ว

แอทลั่วจื่อเย่ว์ : [ไม่ได้ออกมาตั้งนาน แอบเอาอะไรมาให้ทุกคนดูด้วยล่ะ]

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 198 ปล่อยจงจือหว่านขายหน้าให้เต็มที่

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 198 ปล่อยจงจือหว่านขายหน้าให้เต็มที่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

แบบชุดทั้งหมดจะถูกฉายขึ้นจอโปรเจคเตอร์

ขยายรายละเอียดเพื่อให้คณะกรรมการดูได้สะดวก

หลังจากที่แบบชุดนี้ปรากฏ เหล่าคณะกรรมการแค่มองแวบเดียว ยังไม่ทันได้ดูรายละเอียด สีหน้าก็เปลี่ยนกันหมด เงียบไปชั่วขณะ

ก่อนหน้านี้ชูกวงมีเดียส่งแบบชุดเข้ามาหนึ่งเซตมีสี่ชุด โดยออกแบบในคอนเซ็ปต์สัตว์เทพทั้งสี่ในตำนานเทพของฝั่งตะวันออก

การออกแบบในคอนเซ็ปต์สี่สัตว์เทพเคยมีอยู่ไม่น้อย ซึ่งพบได้ในการจัดประกวดออกแบบเครื่องแต่งกายทุกครั้ง อย่างไรเสียนักออกแบบและบริษัทที่มาจากประเทศจีนก็มีค่อนข้างมาก

แต่นับตั้งแต่เริ่มมีการประกวดจวบจนปัจจุบันนี้ก็มีเพียงเซตเมื่อครู่ที่สร้างความประทับใจให้พวกเขามาก

เหล่าคณะกรรมการก็เป็นนักออกแบบชั้นแนวหน้าในวงการออกแบบ สายตาเฉียบคม

ต่อให้แบบชุดที่หวาซิ่วส่งมาจะแตกต่างกับของชูกวงมีเดีย แต่ไม่มีทางที่พวกเขาจะมองไม่ออกว่าหวาซิ่วคัดลอกผลงานของชูกวงมีเดีย แต่ไม่สามารถเลียนแบบจุดแข็งออกมาได้

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ผลงานต้นฉบับมีสี่ชุด แบบชุดของหวาซิ่วมีเพียงชุดเดียว

งานประกวดออกแบบงานใหญ่แบบนี้เคยมีกรณีคัดลอกผลงานอยู่ไม่น้อย แต่ส่วนใหญ่จะลอกผลงานของนักออกแบบที่ไม่มีชื่อเสียง

และยังไม่มีครั้งไหนที่จะคัดลอกผลงานของผู้เข้าร่วมประกวดอีกคน

“หวาซิ่วนี่ใจกล้ามากนะ” หญิงสาวแสยะยิ้ม ตบโต๊ะยืนขึ้น “พวกเขาไม่เกรงกลัวใคร กล้าลอกได้แม้กระทั่งผลงานออกแบบของชูกวงมีเดียเลยเหรอ”

ในครั้งก่อนๆ ถึงแม้ชูกวงมีเดียจะไม่ติดสามอันดับแรก แต่ก็ทิ้งห่างหวาซิ่วที่ได้อันดับต่ำกว่าสิบห้าไปไกลมาก

สองบริษัทนี้คนละระดับกัน

แต่ถ้าครั้งนี้แบบชุดที่ชูกวงมีเดียส่งมาไม่ใช่ภาพเซตนั้น หวาซิ่วก็จะอาศัยแบบชุดนี้เข้าถึงสามอันดับแรกได้อย่างแน่นอน

สีหน้าของคณะกรรมการคนอื่นก็เคร่งเครียด

มีคนหนึ่งถามขึ้น “นักออกแบบของหวาซิ่วเกี่ยวข้องอะไรกับนักออกแบบของชูกวงมีเดียหรือเปล่า เป็นเพื่อนร่วมงานกันไหม”

ไม่อย่างนั้นจะวาดได้เหมือนขนาดนี้ได้อย่างไร

แม้แต่ลวดลายตรงข้อมือก็ยังเหมือนกัน

“ขอดูหน่อย” กรรมการอีกคนก้มหน้า “นักออกแบบของหวาซิ่ว ลงชื่อด้านล่างว่า ‘จงจือหว่าน’ ไม่เคยได้ยิน น่าจะเป็นนักออกแบบหน้าใหม่เหมือนกัน อายุ…”

สายตาของเขาเลื่อนลงด้านล่าง สีหน้าเปลี่ยนไปอีกครั้ง “อายุสิบเจ็ดปี หากว่ากันตามหลักการ พื้นฐานการออกแบบของวัยนี้ไม่มีทางมีฝีมือได้เท่านี้”

แน่นอนว่ายกเว้นคนมีพรสวรรค์

เพียงแต่น่าเสียดายที่แบบชุดนี้ถูกคัดลอกผลงานมา

“ลอกเลียนแบบอย่างไม่ต้องสงสัย” สีหน้าของกรรมการคนก่อนหน้านี้แย่ลง “แบบชุดนี้ไม่มีทางเข้าถึงรอบก่อนชิงชนะเลิศ รู้ถึงไหนอายไปถึงนั่น”

วงการออกแบบถือเรื่องอะไรมากที่สุด

ก็คงหนีไม่พ้นการลอกเลียนแบบผลงาน

ขอเพียงแต่ถูกตราหน้าด้วยคำนี้ นักออกแบบคนนั้นก็หมดอนาคตแล้ว

“ตีกลับไป” กรรมการที่อยู่ด้านขวาก็พยักหน้า “ในเมื่อครั้งนี้หวาซิ่วกล้าใช้ผลงานที่คัดลอกมา ครั้งหน้าก็อาจทำอีก”

“ต้องแบนไม่ให้หวาซิ่วรวมถึงนักออกแบบในสังกัดเข้าร่วมประกวดออกแบบเครื่องแต่งกายหลังจากนี้อีก!”

“ไม่ต้องหรอกค่ะ” หญิงสาวกลับยกมือห้าม เธอพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ในเมื่อพวกเขากล้าส่งผลงานที่ลอกเลียนแบบเข้าประกวด ก็แสดงว่ามั่นใจมาก”

“เวลานี้น่าจะเริ่มตัดชุดแล้ว วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ก็คงเตรียมพร้อมแล้วเช่นกัน จะให้พวกเขาเสียแรงเปล่าไม่ได้”

พอได้ยินเธอพูดแบบนี้คณะกรรมการคนอื่นๆ ก็อดตะลึงไม่ได้ “คุณหมายความว่า…”

ปีนี้หญิงสาวอายุสามสิบหกปี เธอชื่อ มาช่า เมนูอิน

เธอเป็นสตรีอายุน้อยที่สุดที่เคยได้รับรางวัลอันทรงเกียรติสูงสุดในวงการนักออกแบบ และก็เป็นประธานของคณะกรรมการในครั้งนี้

เรื่องใหญ่เธอเป็นคนตัดสินใจ

“ฉันหมายความว่า ให้พวกเขาประกวดต่อ” มาช่าพยักหน้า “แยกผลงานออกมาต่างหากในรอบชิงชนะเลิศ อย่าให้ผลงานลอกเลียนแบบบดบังผลงานยอดเยี่ยมชิ้นอื่น”

“ชอบคัดลอกไม่ใช่เหรอ งั้นก็ปล่อยนักออกแบบที่ชื่อจงจือหว่านคนนี้เชิญคัดลอกให้เต็มที่ เอาให้อายสุดๆ”

มาช่าไม่มีความรู้สึกดีๆ ให้เรื่องการคัดลอกผลงานแม้แต่น้อย เธอเกลียดเข้าไส้

ผลงานของเธอก็เคยถูกเพื่อนนักเรียนคัดลอก

ถ้าไม่ใช่เพราะเธอเก็บแบบร่างก่อนหน้าเอาไว้ ไม่เพียงแต่เธอจะถูกแว้งกัด ยังจะถูกขับไล่ออกจากวงการนักออกแบบอีกด้วย

ทั้งยังต้องทนเห็นคนอื่นขโมยผลงานของตัวเองไปได้รับเกียรติที่หาใดเปรียบไม่ได้

“ก็เป็นวิธีที่ดี” กรรมการคนหนึ่งเห็นด้วย “และก็เป็นการเตือนผู้เข้าประกวดคนอื่นว่าต่อไปห้ามให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกเด็ดขาด”

หลังจากที่คณะกรรมการหารือกันเสร็จก็ตั้งใจแยกแบบชุดของหวาซิ่วออกมาโดยเฉพาะแล้วดูผลงานเข้าประกวดชิ้นอื่นต่อ

สามวันต่อมา

เคอฮุ่ยจูก็ได้รับบัตรเชิญรอบชิงชนะเลิศ

ถึงแม้นี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่หวาซิ่วได้บัตรเชิญ แต่เธอก็ยังคงตื่นเต้นมาก

เธอมั่นใจได้ว่าแบบชุดที่ส่งเข้าประกวดครั้งนี้จะทำให้หวาซิ่วสามารถยืนได้อย่างมั่นคงในวงการออกแบบระดับนานาชาติ ต่อไปจะมีการเชื้อเชิญอย่างไม่ขาดสาย

“ประธานเคอคะ ประธานไม่รู้สึกเหรอคะว่านักเรียนมอปลายจะออกแบบชุดแบบนี้ออกมาได้ยังไง” ผู้ช่วยพิเศษที่อยู่ข้างๆ สุดท้ายก็ทนไม่ไหว “อีกอย่าง อันที่จริงชุดนี้ก็มีจุดบกพร่อง”

เป็นต้นว่า ตรงช่วงเอว ลวดลายมันไม่ต่อเนื่องกัน

“เอาล่ะ ฉันสืบมาแล้ว ชุดหงส์แดงนี้ไม่ได้เป็นของนักออกแบบที่มีชื่อเสียงคนไหนทั้งนั้น” เคอฮุ่ยจูส่ายมือ “หากเป็นของนักออกแบบที่ไม่มีชื่อเสียง เธอว่าเขาจะมีปัญญาสู้กับหวาซิ่วไหม แม้แต่ทุนทำชุดแบบนี้ออกมาก็ยังไม่มีด้วยซ้ำ”

ให้ค่าปิดปากไปก็จบแล้ว

ถึงแม้หวาซิ่วจะไม่ใช่บริษัทใหญ่ชั้นแนวหน้า แต่เรื่องปิดกั้นเส้นทางอนาคตในวงการออกแบบของนักออกแบบเล็กๆ คนหนึ่งก็พอทำได้

ผู้ช่วยพิเศษไม่กล้าพูดต่อ

“ต่อให้เกิดเรื่องอะไรขึ้นจริงก็ยังมีนักออกแบบรับหน้า” เคอฮุ่ยจูไม่คิดแบบนั้น “เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่พวกเราจะต้องกังวล”

เธอถือบัตรเชิญรอบตัดสิน ครุ่นคิดแล้วถามขึ้น “ตัดชุดไปถึงไหนแล้ว”

“เร่งทำได้ครึ่งหนึ่งแล้วค่ะ” ผู้ช่วยพิเศษรีบรายงาน “จากที่ท่านประธานสั่ง ใช้วัสดุชั้นดีทั้งนั้น ลำพังแค่ค่าวัสดุก็มีมูลค่าสามล้านแล้วค่ะ”

หลังจากที่ตัดชุดเสร็จพวกเขายังต้องเชิญนางแบบ

เคอฮุ่ยจูถึงได้ผ่อนคลายลง เธอพยักหน้า “พาฉันไปดูหน่อย”

หวาซิ่วเป็นบริษัทที่ตัดชุดให้ตระกูลขนาดกลางและขนาดเล็กของตี้ตู ย่อมมีโรงงานขนาดใหญ่

หลังจากที่เคอฮุ่ยจูเข้าไปแล้วก็ตรงไปด้านในสุด

ภายในห้องมีนักออกแบบและช่างตัดเย็บถึงสิบสองคนกำลังตัดชุดนี้อยู่

หนึ่งในนักออกแบบหน้านิ่วมองแขนขวาของชุด ท่าทางลำบากใจ

“มีอะไรเหรอ” เคอฮุ่ยจูเดินเข้าไป “มีเวลาไม่มากแล้ว อย่าเสียเวลา”

“ประธานเคอคะ ฉันรู้สึกว่าลายกลุ่มนี้มันแปลกไปหน่อย” นักออกแบบพูด “ถ้าตัดทิ้งก็ไม่ได้ส่งผลต่อภาพรวม แต่ถ้าตัดทิ้งกลับทำให้ชุดนี้ดูไม่มีอะไรน่าสนใจแล้ว”

“งั้นก็ไม่ต้องตัดทิ้ง” เคอฮุ่ยจูมองเธอด้วยความแปลกใจ “แบบชุดถูกส่งไปแล้วพวกคุณยังจะแก้ได้อีกเหรอ”

นักออกแบบกลืนคำพูด ‘ฉันรู้สึกว่าลายกลุ่มนี้มันเหมือนอักษรตัวหนึ่ง’ กลับไป

“ทำงานให้ดี ฉันให้เวลาพวกคุณอีกแปดวัน” เคอฮุ่ยจูตบมือ “อีกแปดวันจะเอาให้นางแบบลองใส่แล้ว”

เมืองฮู่เฉิง

ชูกวงมีเดียสาขาย่อย

“บอสคะ ชุดทั้งสี่ที่บอสออกแบบตัดเสร็จหมดแล้วนะคะ” เลขาสาวเอาเอกสารวางลงบนโต๊ะ พูดด้วยความอิจฉา “ถ้าไม่ติดว่าแพงมากนะคะ ฉันก็อยากจะลองใส่ดู”

“ชอบเหรอ” อิ๋งจื่อจินหยิบเอกสารมาเปิด “ไว้เดินแบบเสร็จคุณก็เลือกเอาไปสักชุดแล้วกัน”

เลขาสาวกำลังดีใจอย่างบ้าคลั่ง แต่พอได้ยินประโยคถัดมา

“หักค่าวัสดุออกจากเงินเดือนคุณ”

“…”

“งั้นก็ช่างเถอะค่ะ” เลขาสาวปวดใจสุดๆ “เงินเดือนของฉันหนึ่งเดือนยังไม่พอซื้อแขนเสื้อเลยค่ะ”

ลำพังแค่แบบชุดยังไม่พอ วัสดุที่ทำชุดก็ถูกให้ความสำคัญยิ่งกว่า

มิฉะนั้นไม่เพียงแต่จะไม่ชวนให้รู้สึกถึงความสวยของแบบชุด กลับจะยิ่งทำให้ดูเชยด้วยซ้ำ

“สองชุดนี้ให้เซี่ยมั่นอวี่” อิ๋งจื่อจินพูด “เธอรับงานนี้ไหว ส่วนอีกสองชุดให้ซังเย่าจือ”

เซตชุดตำนานเทพนี้ประกอบไปด้วยหงส์แดงกับเสือขาวที่เป็นของผู้หญิง มังกรเขียวกับเต่าดำเป็นของผู้ชาย

เซี่ยมั่นอวี่เป็นราชินีภาพยนตร์สองรางวัลตุ๊กตาทองที่สังกัดชูกวงมีเดีย ปีนี้อายุสามสิบสองปี กำลังอยู่ในช่วงรุ่งโรจน์ของดาราหญิง

ถึงแม้ดาราสาวที่เกิดหลังปี 95 และปีสองพันจะเป็นที่นิยมมากกว่า แต่บุคลิกเอาไม่อยู่

“ได้ค่ะ วันมะรืนราชินีภาพยนตร์เซี่ยจะบินกลับมาจากเมืองนอก” เลขาสาวพยักหน้า “ราชาภาพยนตร์ซังก็เพิ่งเสร็จจากงานโปรโมตละครเรื่องสปายเลอโฉม”

ละครสปายเลอโฉมเป็นละครเรื่องสุดท้ายที่ซังเย่าจือถ่ายตอนอยู่ซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์

ดูจากชื่อก็รู้ได้ว่าเป็นละครที่เน้นนางเอกเป็นหลัก แสดงให้เห็นว่าซิงเฉินสูบเลือดโหดขนาดไหน

แต่สูบเลือดก็ส่วนสูบเลือด บทและตัวละครของเรื่องนี้ก็สนุกพอสมควร ไม่อย่างนั้นคงไม่ติดอันดับ

เลขาสาวเดินออกไปพร้อมไอแพด ยังคงให้ความสนใจข่าวเด่น

“บอสคะ ชุดนี้…” ทันใดนั้นเธอก็หยุดลง “ทำไมเหมือนของพวกเราเลยล่ะคะ”

เธอเดินกลับมาที่โต๊ะอีกครั้งแล้วยื่นไอแพดในมือให้ดู บนหน้าจอเป็นโพสต์เวยปั๋ว

แอทลั่วจื่อเย่ว์ : [ไม่ได้ออกมาตั้งนาน แอบเอาอะไรมาให้ทุกคนดูด้วยล่ะ]

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+