คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 232 ตระกูลแพทย์แผนโบราณ! พ่ออิ๋งกวาดล้างตัวปลอม

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 232 ตระกูลแพทย์แผนโบราณ! พ่ออิ๋งกวาดล้างตัวปลอม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

พอเขามองไปก็เห็นคนแปลกหน้าสองคน

ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง อยู่ในชุดราตรีหรูหรา บุคลิกโดดเด่น

สายตาของอิ๋งเทียนลี่ว์หยุดนิ่งเล็กน้อย เอาคางชี้ “พวกเขาเป็นใคร”

เขาสังเกตเห็นว่า มู่เฉินโจวที่มาอาศัยอยู่บ้านตระกูลอิ๋งรีบเข้าไปต้อนรับทันที

ที่เขาไม่อยากกลับบ้านก็เพราะเหตุผลนี้

“ตระกูลเมิ่งแห่งตี้ตู เคยได้ยินใช่ไหม” เจียงเหิงถอนหายใจเบาๆ “สองคนนี้เป็นคนของตระกูลเมิ่ง เมื่อกี้ฉันเห็นรูปจากคุณชายมู่”

“ตระกูลนี้ไม่ได้โด่งดังเท่าตระกูลมู่กับตระกูลเนี่ย เพราะพวกเขาเป็นตระกูลแพทย์แผนจีน ไม่ทำธุรกิจ ไม่สนการเมือง”

อิ๋งเทียนลี่ว์ครุ่นคิดเล็กน้อย “พอได้ยินมาบ้าง”

เหมือนเขาจะเคยได้ยินจงมั่นหวาพูดถึง คิดอยู่ว่าอยากใช้ความสัมพันธ์ที่มีกับตระกูลมู่ เชิญหมอแผนจีนของตระกูลเมิ่งมารักษาคุณนายผู้เฒ่าอิ๋ง

“คุณชายมู่บอกว่าคนของตระกูลเมิ่งเพิ่งตัดสินใจมาอย่างกะทันหัน” เจียงเหิงก็จุดบุหรี่ “คาดว่าอาจมีของประมูลชิ้นไหนที่พวกเขาสนใจ”

อิ๋งเทียนลี่ว์ไม่ค่อยสนใจเรื่องพวกนี้ สีหน้าเรียบเฉย เขากำลังคิดเรื่องอื่น

เขาต้องการพิสูจน์สถานะของอิ๋งจื่อจิน ไม่ใช่เพราะอยากผูกมัดเธอไว้กับตระกูลอิ๋ง

จงมั่นหวากับอิ๋งเจิ้นถิงเลือดเย็นไร้เยื่อใยขนาดนั้น กว่าอิ๋งจื่อจินจะออกไปได้ไม่ใช่ง่ายๆ เขาก็ไม่มีทางให้เธอกลับมาอีก

แต่เขาอยากให้แวดวงเศรษฐีในฮู่เฉิงรู้ว่า เธอไม่ใช่ลูกเลี้ยงที่ฐานะต่ำต้อย เธอเป็นคุณหนูใหญ่ตัวจริง”

คำสบประมาทดูถูกเหล่านั้นไม่ควรมาลงที่ตัวเธอ

อิ๋งเทียนลี่ว์จุดบุหรี่อีกมวน พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “พวกเราไปนั่งทางนั้นกัน”

อิ๋งเย่ว์เซวียนก็รู้จักพวกคุณหนูไฮโซอยู่หลายคน

พอเธอออกจากห้องน้ำก็ถูกคุณหนูคนหนึ่งดึงตัวไว้

“เสี่ยวเซวียน เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นกับเทียนลี่ว์เหรอ”

พอได้ยินแบบนี้ นิ้วของอิ๋งเย่ว์เซวียนก็แข็งทื่อ

เธอเม้มริมฝีปาก ไม่รู้ว่าควรตอบอย่างไร

แต่สุดท้ายความผูกพันก็เอาชนะจิตใจ

อิ๋งเย่ว์เซวียนพูดเสียงเบา “เธอก็รู้ไม่ใช่เหรอ อาฉันจ้างคนให้ขับรถชนน้องสาวฉันจนเกือบตาย พี่ชายฉันเป็นคนตรงไปตรงมาแบบนั้น ก็ต้องคอยดูแลอยู่แล้ว”

“ถึงจะพูดแบบนั้น แต่จะไม่สนใจความรู้สึกของเธอก็ไม่ได้หรือเปล่า” คุณหนูส่ายหน้า “คนอยู่กันเยอะแยะแต่กลับไปหาลูกเลี้ยงของตระกูลอิ๋ง แบบนี้มันใช้ได้เหรอ”

“นี่ไม่เท่ากับเห็นคนอื่นดีกว่าเหรอ เธอทนได้ยังไง”

อิ๋งเย่ว์เซวียนอึ้ง “เธอก็คิดว่าลูกแท้ๆ สำคัญกว่าลูกเลี้ยงเหรอ”

“แน่สิ” คุณหนูตอบ “ความสัมพันธ์ทางสายเลือดสำคัญขนาดไหน คงไม่มีใครอยากให้คนที่ไม่มีแม้แต่ความสัมพันธ์ทางสายเลือดสืบทอดทรัพย์สมบัติของตัวเองหรือเปล่า”

“คราวก่อนที่ฉันโทรหาเธอก็เคยเล่าแล้วไม่ใช่เหรอ อาสะใภ้รองของฉันมีลูกไม่ได้ พวกเขาก็เลยรับเลี้ยงเด็กคนนึง”

“แต่ต่อมาอารองก็ไปรับลูกนอกสมรสกลับมาอย่างเปิดเผย แถมยังให้เขาเข้าบริษัท อาสะใภ้รองก็ว่าอะไรไม่ได้”

อิ๋งเย่ว์เซวียนก้มหน้า ไม่พูดอะไร

แต่เห็นได้ชัดว่าจงมั่นหวากับอิ๋งเจิ้นถิงลำเอียงมาทางเธอ

แต่วันนี้เธอถึงรู้สึกได้ว่า ท่าทีของอิ๋งเทียนลี่ว์ที่มีต่อเธอต่างหากที่ปกติ

“ฉันขอเตือนเธอหน่อยนะ” คุณหนูคนนั้นตบบ่าของอิ๋งเย่ว์เซวียนเบาๆ ถอนหายใจ “ฉันรู้ว่าเธอไม่ชอบแย่งชิงอะไรกับใคร แต่อะไรที่เป็นของเรา จะปล่อยให้คนอื่นมาครอบครองไม่ได้ ไม่อย่างนั้นพอถึงเวลาแล้วเธอจะเสียใจ”

ราวกับอิ๋งเย่ว์เซวียนกำลังอึ้งอยู่ เธอไม่ตอบ

พอคุณหนูเห็นเธอเป็นแบบนี้จึงพูดต่อ “อีกทั้งมนุษย์เป็นสัตว์ที่มีประสาทรับรู้การมองเห็น เธอดูความสวยของยัยนั่นสิ มีใครในที่นี้สู้ได้เหรอ”

ฟังถึงตรงนี้อิ๋งเย่ว์เซวียนถึงหันหน้าไปมองทางนั้น

อิ๋งจื่อจินยังคงอยู่ในชุดกางเกงลำลองกับเสื้อแขนสั้นสีขาว มีหมวกเบสบอลสีดำอยู่บนหัว

คนที่เดินผ่านไปผ่านมารอบตัวเธอล้วนเป็นคุณหนูมีสกุลที่อยู่ในชุดราตรี แม้แต่บริกรของโรงแรมก็ยังอยู่ในชุดทักซิโด้หางนกนางแอ่นที่รีดเรียบกริบ

แต่ถึงจะเป็นแบบนี้ความงดงามของเธอก็ยังเหมือนภาพวาด

อิ๋งเย่ว์เซวียนเป็นคนเพศเดียวกันก็ยังต้องยอมรับว่า นี่เป็นความงดงามที่อยู่เหนือความงามอื่นใด

“สรุปว่าเธอต้องเก็บเอามาคิดบ้างแล้วนะ” คุณหนูอดกำชับไม่ได้ “อ้อนพี่ใหญ่ของเธอหน่อย ดึงความสนใจของเขากลับมา”

“เข้าใจแล้ว” อิ๋งเย่ว์เซวียนดึงมือของตัวเองกลับมา สีหน้าเรียบเฉย “แม่ฉันอยู่ตรงนั้นคนเดียวฉันไม่วางใจ ฉันไปก่อนนะ”

คุณหนูพยักหน้าแล้วรับแก้วค็อกเทลมาจากบริกรที่เดินผ่าน

ทันใดนั้นคล้ายนึกอะไรออก

เธอมองอิ๋งเย่ว์เซวียน จากนั้นก็หันไปมองอิ๋งเทียนลี่ว์กับอิ๋งจื่อจิน คิ้วเริ่มขมวดเข้าหากัน

ทำไมเธอรู้สึกว่าสองคนนี้เหมือนพี่น้องกันมากกว่าอีก

แน่นอนว่าระดับหน้าตาอย่างอิ๋งจื่อจิน ต่อให้เป็นอิ๋งเทียนลี่ว์ก็ยังได้แต่มองอยู่ห่างๆ เช่นกัน

เวลาหกโมงครึ่ง แขกที่มาร่วมงานก็มากันครบ

งานประมูลจะเริ่มหลังจากการเต้นรำ

เมื่อเต้นรำเปิดงานเสร็จ การประมูลก็จะเริ่มขึ้น

อิ๋งจื่อจินไม่ได้ลงไป เธอพักอยู่ในห้องห้องเพรซซิเดนสวีทที่จองไว้ นั่งอยู่บนเตียง วางคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กไว้บนตัก

เธอไม่สนใจที่จะเข้าร่วมงานเต้นรำ

เมื่อก่อนสมัยยุโรปโบราณเธอเคยอาศัยอยู่ในวังของแต่ละประเทศระยะหนึ่ง

เรื่องที่เหล่าสมาชิกราชวงศ์ชอบมากที่สุดก็คือจัดงานเต้นรำน้อยใหญ่

แม้แต่จะดูเธอยังไม่อยากดู

วันนี้ที่เธอมาที่นี่เพราะมู่เฮ่อชิง รายการอื่นเธอไม่จำเป็นต้องเข้าร่วม

อิ๋งจื่อจินเอามือเท้าศีรษะ

บนหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นข้อความที่ริต้าส่งหาเธอ

พวกเธอใช้โปรแกรมแชทแบบสากล

อันที่จริงโปรแกรมแชทนี้ก็คิดค้นโดยเว็บบอร์ดเอ็นโอเค

แต่ไม่เหมือนเว็บบอร์ดเอ็นโอเคตรงที่ นี่เป็นโปรแกรมที่วางในตลาด หาโหลดได้ในร้านค้าแอปพลิเคชัน

สิ่งที่เหมือนกันคือ หลังจากที่ปรับภาษาการใช้งานเสร็จ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะใช้ภาษาไหน ระบบก็จะแปลงมาเป็นภาษาที่เราใช้ให้

นี่ก็เป็นสาเหตุที่ว่าทำไมพวกบอสในเว็บบอร์ดเอ็นโอเคถึงสื่อสารในคอมเมนต์กันอย่างออกอรรถรสได้ทั้งๆ ที่มาจากคนละประเทศ

อย่างไรเสียก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีพรสวรรค์ทางภาษาที่จะใช้ทุกภาษาได้อย่างคล่องแคล่ว

เนื่องจากไม่ได้มาโลกมนุษย์นานแล้ว เว้นไปสองร้อยกว่าปี สิ่งที่เมื่อก่อนเคยทำได้ อิ๋งจื่อจินก็มีจุดที่หลงลืมไปบ้างเหมือนกัน

ด้วยเหตุนี้เธอจึงตั้งค่าภาษาในระบบเป็นภาษาละติน

เดิมทีไม่มีในโปรแกรมแชท แต่เธอไปบอกให้ 10 เพิ่มเข้าไป

[ฉันสืบหาคนทั่วฮู่เฉิงแล้ว ทำไมไม่ว่ายังไงก็สืบหาเธอไม่พบ]

อิ๋งจื่อจินไม่ตอบคำถามนี้ แต่ถามกลับ

[เย็นนี้พวกเธอเจอกันกี่โมง]

ริต้าตอบกลับทันที

[อย่าให้พูดเลย คืนนี้ยังเจอไม่ได้ ลองคำนวณเวลาก็คงเป็นพรุ่งนี้แล้ว แถมยังตอนตีสอง]

[ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆ เธอว่าพวกนักปรุงยาพิษเป็นค้างคาวหรือเปล่า ชอบออกมาตอนกลางคืน คราวก่อนนักปรุงยาพิษอันดับสามที่ฉันเชิญไปเธอรู้จักใช่ไหม คนละเรื่องกับที่ดูกระตือรือร้นในเว็บบอร์ดเลย]

อิ๋งจื่อจินนึกออกแล้ว ไอดีที่ชื่อว่า ‘เชิญมากินยา’ เธอขมวดคิ้ว

[รู้จัก ร่าเริงพอสมควร ขายครีมกันแดดไม่ใช่เหรอ]

พูดถึงเรื่องนี้ริต้าก็โมโหพอสมควร

[ก็ใช่น่ะสิ ไปขายครีมกันแดดแล้ว อยู่แถวชายทะเลใกล้บ้านฉัน ฉันเลยเชิญเขาสะดวกหน่อย แต่ปรากฏว่าตอนนั้นเขามากลางดึก ถ้าไม่ติดว่าเขาให้มาร์คหน้าชุ่มชื่นฉันมาลังนึงนะ ฉันไม่มีทางปล่อยเขาไปง่ายๆ หรอก]

แต่นี่ก็แค่บ่นให้ฟัง

เพราะเอาเข้าจริง ถ้าคิดจะควานหาตัวนักปรุงยาพิษก็ยากเสียยิ่งกว่าปีนขึ้นสวรรค์

อย่าว่าแต่อันดับสามเลย เลือกนักปรุงยาพิษสักคนจากสิบอันดับแรกก็มีแต่พิษทั้งตัวเหมือนกันหมด

หากแตะถูกตัวพวกเขาโดยไม่ตั้งใจก็อาจถูกพิษได้โดยไม่รู้ตัว

อิ๋งจื่อจินเงียบไปชั่วครู่

[อืม ฉันจะไปถึงตรงเวลา]

[โอเค ฉันจะรอ แต่จะว่าไปนะ เธอจะมาเจอนักปรุงยาพิษอันดับหนึ่งทำไมเหรอ]

[กวาดล้างตัวปลอม]

[???]

หลังจากอิ๋งจื่อจินตอบเสร็จก็เปลี่ยนสถานะออนไลน์เป็นซ่อนตัว

เสียงเคาะประตูดังขึ้นในเวลานี้

ตามด้วยเสียงทุ้มต่ำลุ่มลึกดุจมหาสมุทรของชายหนุ่ม

“เยาเยา เข้าไปได้ไหม”

อิ๋งจื่อจินยังคงนั่งอยู่บนเตียง พอได้ยินเสียงก็เหลือบตาขึ้น ไม่ลงไป แต่กดสวิตซ์ที่ข้างหัวเตียง

ประตูห้องก็เปิดออก

โรงแรมควีนมีจุดดีที่ว่า สวิตซ์เปิดปิดมีเยอะมากพอ ทุ่นแรงได้เยอะ

ฟู่อวิ๋นเซินเดินเข้ามาแล้วปิดประตู

แต่สองตาของเขาหลุบลง ไม่ได้มองไปที่เตียง

อิ๋งจื่อจินมองเขาอยู่สองวินาทีพลางครุ่นคิด “ฉันไม่ได้ใส่ชุดนอน”

“…”

ฟู่อวิ๋นเซินค่อยๆ หันมา สายตาขรึมเล็กน้อย

สายตาของอิ๋งจื่อจินกลับไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์อีกครั้ง ไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรไม่เหมาะ พูดอย่างเป็นธรรมชาติ “ฉันก็เชื่อฟังคำพูดของคุณแล้วไม่ใช่เหรอ”

“…”

เงียบไปอีกหลายวินาที

“เมื่อกี้พี่ชายลงไปมาแล้ว” ผ่านไปสักพักฟู่อวิ๋นเซินก็พูดขึ้น “เห็นคนของตระกูลมู่”

“ตระกูลมู่เหรอ” อิ๋งจื่อจินนึกแล้วพยักหน้าเล็กน้อย “เหมือนฉันจะเคยได้ยินผู้เฒ่ามู่พูดถึง”

“ตระกูลแพทย์แผนโบราณที่แท้จริง สมาชิกสายตรงในครอบครัวเป็นแพทย์แผนโบราณทั้งหมด” ฟู่อวิ๋นเซินนั่งที่โซฟา ขายาวไขว่ห้าง ยิ้มมุมปาก “แต่ภายนอกพวกเขาเรียกตัวเองว่าแพทย์แผนจีน”

แพทย์แผนโบราณไม่เหมือนกับแพทย์แผนจีน

แพทย์แผนจีนมีต้นกำเนิดมาจากแพทย์แผนโบราณ

ก็เหมือนกับศิลปะการต่อสู้ด้วยมือเปล่าหลายรูปแบบในประเทศจีนยุคปัจจุบัน แท้จริงแล้วก็เป็นการต่อสู้ที่หลงเหลือมาจากวิชาจอมยุทธ์

ไม่ต้องใช้กำลังภายในก็มีความสามารถในระดับหนึ่งได้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 232 ตระกูลแพทย์แผนโบราณ! พ่ออิ๋งกวาดล้างตัวปลอม

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 232 ตระกูลแพทย์แผนโบราณ! พ่ออิ๋งกวาดล้างตัวปลอม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

พอเขามองไปก็เห็นคนแปลกหน้าสองคน

ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง อยู่ในชุดราตรีหรูหรา บุคลิกโดดเด่น

สายตาของอิ๋งเทียนลี่ว์หยุดนิ่งเล็กน้อย เอาคางชี้ “พวกเขาเป็นใคร”

เขาสังเกตเห็นว่า มู่เฉินโจวที่มาอาศัยอยู่บ้านตระกูลอิ๋งรีบเข้าไปต้อนรับทันที

ที่เขาไม่อยากกลับบ้านก็เพราะเหตุผลนี้

“ตระกูลเมิ่งแห่งตี้ตู เคยได้ยินใช่ไหม” เจียงเหิงถอนหายใจเบาๆ “สองคนนี้เป็นคนของตระกูลเมิ่ง เมื่อกี้ฉันเห็นรูปจากคุณชายมู่”

“ตระกูลนี้ไม่ได้โด่งดังเท่าตระกูลมู่กับตระกูลเนี่ย เพราะพวกเขาเป็นตระกูลแพทย์แผนจีน ไม่ทำธุรกิจ ไม่สนการเมือง”

อิ๋งเทียนลี่ว์ครุ่นคิดเล็กน้อย “พอได้ยินมาบ้าง”

เหมือนเขาจะเคยได้ยินจงมั่นหวาพูดถึง คิดอยู่ว่าอยากใช้ความสัมพันธ์ที่มีกับตระกูลมู่ เชิญหมอแผนจีนของตระกูลเมิ่งมารักษาคุณนายผู้เฒ่าอิ๋ง

“คุณชายมู่บอกว่าคนของตระกูลเมิ่งเพิ่งตัดสินใจมาอย่างกะทันหัน” เจียงเหิงก็จุดบุหรี่ “คาดว่าอาจมีของประมูลชิ้นไหนที่พวกเขาสนใจ”

อิ๋งเทียนลี่ว์ไม่ค่อยสนใจเรื่องพวกนี้ สีหน้าเรียบเฉย เขากำลังคิดเรื่องอื่น

เขาต้องการพิสูจน์สถานะของอิ๋งจื่อจิน ไม่ใช่เพราะอยากผูกมัดเธอไว้กับตระกูลอิ๋ง

จงมั่นหวากับอิ๋งเจิ้นถิงเลือดเย็นไร้เยื่อใยขนาดนั้น กว่าอิ๋งจื่อจินจะออกไปได้ไม่ใช่ง่ายๆ เขาก็ไม่มีทางให้เธอกลับมาอีก

แต่เขาอยากให้แวดวงเศรษฐีในฮู่เฉิงรู้ว่า เธอไม่ใช่ลูกเลี้ยงที่ฐานะต่ำต้อย เธอเป็นคุณหนูใหญ่ตัวจริง”

คำสบประมาทดูถูกเหล่านั้นไม่ควรมาลงที่ตัวเธอ

อิ๋งเทียนลี่ว์จุดบุหรี่อีกมวน พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “พวกเราไปนั่งทางนั้นกัน”

อิ๋งเย่ว์เซวียนก็รู้จักพวกคุณหนูไฮโซอยู่หลายคน

พอเธอออกจากห้องน้ำก็ถูกคุณหนูคนหนึ่งดึงตัวไว้

“เสี่ยวเซวียน เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นกับเทียนลี่ว์เหรอ”

พอได้ยินแบบนี้ นิ้วของอิ๋งเย่ว์เซวียนก็แข็งทื่อ

เธอเม้มริมฝีปาก ไม่รู้ว่าควรตอบอย่างไร

แต่สุดท้ายความผูกพันก็เอาชนะจิตใจ

อิ๋งเย่ว์เซวียนพูดเสียงเบา “เธอก็รู้ไม่ใช่เหรอ อาฉันจ้างคนให้ขับรถชนน้องสาวฉันจนเกือบตาย พี่ชายฉันเป็นคนตรงไปตรงมาแบบนั้น ก็ต้องคอยดูแลอยู่แล้ว”

“ถึงจะพูดแบบนั้น แต่จะไม่สนใจความรู้สึกของเธอก็ไม่ได้หรือเปล่า” คุณหนูส่ายหน้า “คนอยู่กันเยอะแยะแต่กลับไปหาลูกเลี้ยงของตระกูลอิ๋ง แบบนี้มันใช้ได้เหรอ”

“นี่ไม่เท่ากับเห็นคนอื่นดีกว่าเหรอ เธอทนได้ยังไง”

อิ๋งเย่ว์เซวียนอึ้ง “เธอก็คิดว่าลูกแท้ๆ สำคัญกว่าลูกเลี้ยงเหรอ”

“แน่สิ” คุณหนูตอบ “ความสัมพันธ์ทางสายเลือดสำคัญขนาดไหน คงไม่มีใครอยากให้คนที่ไม่มีแม้แต่ความสัมพันธ์ทางสายเลือดสืบทอดทรัพย์สมบัติของตัวเองหรือเปล่า”

“คราวก่อนที่ฉันโทรหาเธอก็เคยเล่าแล้วไม่ใช่เหรอ อาสะใภ้รองของฉันมีลูกไม่ได้ พวกเขาก็เลยรับเลี้ยงเด็กคนนึง”

“แต่ต่อมาอารองก็ไปรับลูกนอกสมรสกลับมาอย่างเปิดเผย แถมยังให้เขาเข้าบริษัท อาสะใภ้รองก็ว่าอะไรไม่ได้”

อิ๋งเย่ว์เซวียนก้มหน้า ไม่พูดอะไร

แต่เห็นได้ชัดว่าจงมั่นหวากับอิ๋งเจิ้นถิงลำเอียงมาทางเธอ

แต่วันนี้เธอถึงรู้สึกได้ว่า ท่าทีของอิ๋งเทียนลี่ว์ที่มีต่อเธอต่างหากที่ปกติ

“ฉันขอเตือนเธอหน่อยนะ” คุณหนูคนนั้นตบบ่าของอิ๋งเย่ว์เซวียนเบาๆ ถอนหายใจ “ฉันรู้ว่าเธอไม่ชอบแย่งชิงอะไรกับใคร แต่อะไรที่เป็นของเรา จะปล่อยให้คนอื่นมาครอบครองไม่ได้ ไม่อย่างนั้นพอถึงเวลาแล้วเธอจะเสียใจ”

ราวกับอิ๋งเย่ว์เซวียนกำลังอึ้งอยู่ เธอไม่ตอบ

พอคุณหนูเห็นเธอเป็นแบบนี้จึงพูดต่อ “อีกทั้งมนุษย์เป็นสัตว์ที่มีประสาทรับรู้การมองเห็น เธอดูความสวยของยัยนั่นสิ มีใครในที่นี้สู้ได้เหรอ”

ฟังถึงตรงนี้อิ๋งเย่ว์เซวียนถึงหันหน้าไปมองทางนั้น

อิ๋งจื่อจินยังคงอยู่ในชุดกางเกงลำลองกับเสื้อแขนสั้นสีขาว มีหมวกเบสบอลสีดำอยู่บนหัว

คนที่เดินผ่านไปผ่านมารอบตัวเธอล้วนเป็นคุณหนูมีสกุลที่อยู่ในชุดราตรี แม้แต่บริกรของโรงแรมก็ยังอยู่ในชุดทักซิโด้หางนกนางแอ่นที่รีดเรียบกริบ

แต่ถึงจะเป็นแบบนี้ความงดงามของเธอก็ยังเหมือนภาพวาด

อิ๋งเย่ว์เซวียนเป็นคนเพศเดียวกันก็ยังต้องยอมรับว่า นี่เป็นความงดงามที่อยู่เหนือความงามอื่นใด

“สรุปว่าเธอต้องเก็บเอามาคิดบ้างแล้วนะ” คุณหนูอดกำชับไม่ได้ “อ้อนพี่ใหญ่ของเธอหน่อย ดึงความสนใจของเขากลับมา”

“เข้าใจแล้ว” อิ๋งเย่ว์เซวียนดึงมือของตัวเองกลับมา สีหน้าเรียบเฉย “แม่ฉันอยู่ตรงนั้นคนเดียวฉันไม่วางใจ ฉันไปก่อนนะ”

คุณหนูพยักหน้าแล้วรับแก้วค็อกเทลมาจากบริกรที่เดินผ่าน

ทันใดนั้นคล้ายนึกอะไรออก

เธอมองอิ๋งเย่ว์เซวียน จากนั้นก็หันไปมองอิ๋งเทียนลี่ว์กับอิ๋งจื่อจิน คิ้วเริ่มขมวดเข้าหากัน

ทำไมเธอรู้สึกว่าสองคนนี้เหมือนพี่น้องกันมากกว่าอีก

แน่นอนว่าระดับหน้าตาอย่างอิ๋งจื่อจิน ต่อให้เป็นอิ๋งเทียนลี่ว์ก็ยังได้แต่มองอยู่ห่างๆ เช่นกัน

เวลาหกโมงครึ่ง แขกที่มาร่วมงานก็มากันครบ

งานประมูลจะเริ่มหลังจากการเต้นรำ

เมื่อเต้นรำเปิดงานเสร็จ การประมูลก็จะเริ่มขึ้น

อิ๋งจื่อจินไม่ได้ลงไป เธอพักอยู่ในห้องห้องเพรซซิเดนสวีทที่จองไว้ นั่งอยู่บนเตียง วางคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กไว้บนตัก

เธอไม่สนใจที่จะเข้าร่วมงานเต้นรำ

เมื่อก่อนสมัยยุโรปโบราณเธอเคยอาศัยอยู่ในวังของแต่ละประเทศระยะหนึ่ง

เรื่องที่เหล่าสมาชิกราชวงศ์ชอบมากที่สุดก็คือจัดงานเต้นรำน้อยใหญ่

แม้แต่จะดูเธอยังไม่อยากดู

วันนี้ที่เธอมาที่นี่เพราะมู่เฮ่อชิง รายการอื่นเธอไม่จำเป็นต้องเข้าร่วม

อิ๋งจื่อจินเอามือเท้าศีรษะ

บนหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นข้อความที่ริต้าส่งหาเธอ

พวกเธอใช้โปรแกรมแชทแบบสากล

อันที่จริงโปรแกรมแชทนี้ก็คิดค้นโดยเว็บบอร์ดเอ็นโอเค

แต่ไม่เหมือนเว็บบอร์ดเอ็นโอเคตรงที่ นี่เป็นโปรแกรมที่วางในตลาด หาโหลดได้ในร้านค้าแอปพลิเคชัน

สิ่งที่เหมือนกันคือ หลังจากที่ปรับภาษาการใช้งานเสร็จ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะใช้ภาษาไหน ระบบก็จะแปลงมาเป็นภาษาที่เราใช้ให้

นี่ก็เป็นสาเหตุที่ว่าทำไมพวกบอสในเว็บบอร์ดเอ็นโอเคถึงสื่อสารในคอมเมนต์กันอย่างออกอรรถรสได้ทั้งๆ ที่มาจากคนละประเทศ

อย่างไรเสียก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีพรสวรรค์ทางภาษาที่จะใช้ทุกภาษาได้อย่างคล่องแคล่ว

เนื่องจากไม่ได้มาโลกมนุษย์นานแล้ว เว้นไปสองร้อยกว่าปี สิ่งที่เมื่อก่อนเคยทำได้ อิ๋งจื่อจินก็มีจุดที่หลงลืมไปบ้างเหมือนกัน

ด้วยเหตุนี้เธอจึงตั้งค่าภาษาในระบบเป็นภาษาละติน

เดิมทีไม่มีในโปรแกรมแชท แต่เธอไปบอกให้ 10 เพิ่มเข้าไป

[ฉันสืบหาคนทั่วฮู่เฉิงแล้ว ทำไมไม่ว่ายังไงก็สืบหาเธอไม่พบ]

อิ๋งจื่อจินไม่ตอบคำถามนี้ แต่ถามกลับ

[เย็นนี้พวกเธอเจอกันกี่โมง]

ริต้าตอบกลับทันที

[อย่าให้พูดเลย คืนนี้ยังเจอไม่ได้ ลองคำนวณเวลาก็คงเป็นพรุ่งนี้แล้ว แถมยังตอนตีสอง]

[ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆ เธอว่าพวกนักปรุงยาพิษเป็นค้างคาวหรือเปล่า ชอบออกมาตอนกลางคืน คราวก่อนนักปรุงยาพิษอันดับสามที่ฉันเชิญไปเธอรู้จักใช่ไหม คนละเรื่องกับที่ดูกระตือรือร้นในเว็บบอร์ดเลย]

อิ๋งจื่อจินนึกออกแล้ว ไอดีที่ชื่อว่า ‘เชิญมากินยา’ เธอขมวดคิ้ว

[รู้จัก ร่าเริงพอสมควร ขายครีมกันแดดไม่ใช่เหรอ]

พูดถึงเรื่องนี้ริต้าก็โมโหพอสมควร

[ก็ใช่น่ะสิ ไปขายครีมกันแดดแล้ว อยู่แถวชายทะเลใกล้บ้านฉัน ฉันเลยเชิญเขาสะดวกหน่อย แต่ปรากฏว่าตอนนั้นเขามากลางดึก ถ้าไม่ติดว่าเขาให้มาร์คหน้าชุ่มชื่นฉันมาลังนึงนะ ฉันไม่มีทางปล่อยเขาไปง่ายๆ หรอก]

แต่นี่ก็แค่บ่นให้ฟัง

เพราะเอาเข้าจริง ถ้าคิดจะควานหาตัวนักปรุงยาพิษก็ยากเสียยิ่งกว่าปีนขึ้นสวรรค์

อย่าว่าแต่อันดับสามเลย เลือกนักปรุงยาพิษสักคนจากสิบอันดับแรกก็มีแต่พิษทั้งตัวเหมือนกันหมด

หากแตะถูกตัวพวกเขาโดยไม่ตั้งใจก็อาจถูกพิษได้โดยไม่รู้ตัว

อิ๋งจื่อจินเงียบไปชั่วครู่

[อืม ฉันจะไปถึงตรงเวลา]

[โอเค ฉันจะรอ แต่จะว่าไปนะ เธอจะมาเจอนักปรุงยาพิษอันดับหนึ่งทำไมเหรอ]

[กวาดล้างตัวปลอม]

[???]

หลังจากอิ๋งจื่อจินตอบเสร็จก็เปลี่ยนสถานะออนไลน์เป็นซ่อนตัว

เสียงเคาะประตูดังขึ้นในเวลานี้

ตามด้วยเสียงทุ้มต่ำลุ่มลึกดุจมหาสมุทรของชายหนุ่ม

“เยาเยา เข้าไปได้ไหม”

อิ๋งจื่อจินยังคงนั่งอยู่บนเตียง พอได้ยินเสียงก็เหลือบตาขึ้น ไม่ลงไป แต่กดสวิตซ์ที่ข้างหัวเตียง

ประตูห้องก็เปิดออก

โรงแรมควีนมีจุดดีที่ว่า สวิตซ์เปิดปิดมีเยอะมากพอ ทุ่นแรงได้เยอะ

ฟู่อวิ๋นเซินเดินเข้ามาแล้วปิดประตู

แต่สองตาของเขาหลุบลง ไม่ได้มองไปที่เตียง

อิ๋งจื่อจินมองเขาอยู่สองวินาทีพลางครุ่นคิด “ฉันไม่ได้ใส่ชุดนอน”

“…”

ฟู่อวิ๋นเซินค่อยๆ หันมา สายตาขรึมเล็กน้อย

สายตาของอิ๋งจื่อจินกลับไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์อีกครั้ง ไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรไม่เหมาะ พูดอย่างเป็นธรรมชาติ “ฉันก็เชื่อฟังคำพูดของคุณแล้วไม่ใช่เหรอ”

“…”

เงียบไปอีกหลายวินาที

“เมื่อกี้พี่ชายลงไปมาแล้ว” ผ่านไปสักพักฟู่อวิ๋นเซินก็พูดขึ้น “เห็นคนของตระกูลมู่”

“ตระกูลมู่เหรอ” อิ๋งจื่อจินนึกแล้วพยักหน้าเล็กน้อย “เหมือนฉันจะเคยได้ยินผู้เฒ่ามู่พูดถึง”

“ตระกูลแพทย์แผนโบราณที่แท้จริง สมาชิกสายตรงในครอบครัวเป็นแพทย์แผนโบราณทั้งหมด” ฟู่อวิ๋นเซินนั่งที่โซฟา ขายาวไขว่ห้าง ยิ้มมุมปาก “แต่ภายนอกพวกเขาเรียกตัวเองว่าแพทย์แผนจีน”

แพทย์แผนโบราณไม่เหมือนกับแพทย์แผนจีน

แพทย์แผนจีนมีต้นกำเนิดมาจากแพทย์แผนโบราณ

ก็เหมือนกับศิลปะการต่อสู้ด้วยมือเปล่าหลายรูปแบบในประเทศจีนยุคปัจจุบัน แท้จริงแล้วก็เป็นการต่อสู้ที่หลงเหลือมาจากวิชาจอมยุทธ์

ไม่ต้องใช้กำลังภายในก็มีความสามารถในระดับหนึ่งได้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+