Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2814 ศักดิ์ศรีของหมอ

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2814 ศักดิ์ศรีของหมอ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2814 ศักดิ์ศรีของหมอ!
ในสายตาของเย่หยวนนั้นเซียวชานมีฝีมือแค่พอจะผ่านเท่านั้น

เขาทำได้แค่ร้อยละหกสิบเท่านั้นเอง!

แต่เจ้าบ้านี่กลับอ้างตัวว่าเรียนรู้ไปได้ถึงร้อยละเก้าสิบ?

ส่วนคนอื่นๆ นั้นก็มีแค่เต้าเฉินที่พอจะผ่านครึ่งไปได้ ส่วนที่เหลือเรียนรู้ไปได้ไม่ถึงครึ่งเลยด้วยซ้ำ

เย่หยวนนั้นอดไม่ได้ที่จะสงสัยขึ้นมาในใจ คนทั้งหลายนี้มาจากนิกายระดับเจ้าโลกจริงหรือ?

วิชาฝังเข็มนี้มันมีต้นกำเนิดมาจากหยกมุกเก้าใบก็จริง แต่ว่าเขานั้นลดทอนมันจนกลายเป็นแค่การฝังเข็มอย่างง่ายแล้ว!

ซึ่งหยกมุกเก้าใบของเย่หยวนนั้นมันได้ถูกฝึกฝนจนถึงขั้นกลายเป็นหนึ่งเดียวกับเขาไปแล้ว ถึงแม้จะลดทอนแค่ไหนมันก็จะกลายเป็นวิชาฝังเข็มทั่วๆ ไปได้จริงหรือ?

หากมันเป็นวิชาฝังเข็มทั่วๆ ไป มันจะกดดันความบ้าคลั่งของเลือดกัดกร่อนได้แบบนี้หรือ?

เซียวชานนั้นอาจจะดูทรงพลังอย่างมากแต่ว่าเขานั้นไม่เข้าใจแก่นของวิชาฝังเข็มนี้เลยทั้งๆ ที่ก็ทำตามเย่หยวนทุกอย่าง

เย่หยวนได้แต่ต้องถอนหายใจออกมา เพราะเขาหลงคิดไปว่าศิษย์ของนิกายระดับเจ้าโลกน่าจะเก่งกว่านี้

เขานั้นกลับหลงเชื่อชื่อเสียงของนิกายไปไม่ต่างจากคนอื่นๆ ทั้งๆ ที่ได้เห็นตัวอย่างมาแล้วแท้ๆ และไม่ว่าจะเป็นวิชาที่เหนือล้ำแค่ไหน สุดท้ายจะเก่งกาจหรืออ่อนแอมันก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้เรียน

แต่ดูท่าแล้วตอนนี้มันคงไม่เป็นอย่างที่หวังแน่

แม้ว่าพวกเซียวชานทั้งหลายนั้นจะยังดูเก้ๆ กังๆ อยู่และต่อให้พวกเขาฝึกจนชำนาญมือ

พวกเขาก็คงไม่อาจพัฒนามาถึงระดับของเขาได้แน่

เหล่านักหลอมโอสถสวรรค์ทั้งหลายนั้นต่างลอบหันมามองหน้าเย่หยวน เห็นเย่หยวนส่ายหัวออกมาเช่นนั้น พวกเขาต่างก็ไม่พอใจ

ดูท่าแล้วอาจารย์เย่นั้นจะเป็นคนใจแคบที่ไม่อยากเห็นคนอื่นเก่งเท่าตัวเอง?

“อึก…อ๊าก!”

จู่ๆ คนไข้คนหนึ่งก็กระอักเลือดออกมาอย่างรุนแรง

คลื่นพลังของเขานั้นมันเหือดแห้งลงไปทันที คนที่อยู่ตรงนั้นต่างสะดุ้งตัวขึ้นมาพร้อมๆ กัน

เมื่อกี้ยังไม่เห็นเป็นไร มันเกิดอะไรขึ้น?

เย่หยวนหน้าซีดพุ่งตัวออกไปทันที

“ไสหัวไป!” เขาถีบร่างของศิษย์นิกายยาสุดล้ำปลิวไปติดผนังเต็นท์ก่อนจะรีบแทงเข็มลงไปอย่างรวดเร็วเข้าไปในร่างของคนไข้

เมื่อปราณเทวะของเย่หยวนพุ่งเข้าไปในร่างเลือดกัดกร่อนของคนผู้นั้นมันก็ค่อยๆ สงบลงไปได้ในที่สุด

เว้นเสียแต่ว่าสภาพของเขาตอนนี้มันหนักกว่าก่อนหน้าไปมาก

เย่หยวนนั้นหันไปตวาดใส่คนที่ถูกเตะนั้น “ก็บอกพวกเจ้าแล้วว่ามีปัญญาแค่ไหนก็ให้บอกว่าทำได้แค่นั้น อย่าได้มาอวดอ้างเกินตัว! ฝีมือแค่นี้เจ้าก็กล้าเดินออกมาฝังเข็มหรือ?”

ในความคิดของเย่หยวนนั้น นักหลอมโอสถสวรรค์ย่อมจะไม่ควรทำสิ่งที่ตัวเองไม่มั่นใจ

เขาคนนี้ดูอย่างไรก็ไม่มีฝีมือแต่กลับอวดอ้างมาทำร้ายคน!

เรื่องแบบนี้เป็นสิ่งที่เย่หยวนชิงชังที่สุด!

คนที่ถูกเตะไปนั้นมีนามว่าจางซิ่ว เขาเองก็เป็นหนึ่งในศิษย์หัวกะทิของนิกายยาสุดล้ำ

เมื่อถูกเย่หยวนตวาดด่าเช่นนั้นจางซิ่วก็ต้องเถียงกลับมา “ข้าเพิ่งจะเคยฝังเข็มแบบนี้ครั้งแรกมันย่อมจะต้องมีพลาดกันได้บ้าง! ข้าจะไปมั่นใจเต็มร้อยได้อย่างไร! ดูเหมือนเจ้าจะถือโกรธจากเรื่องก่อนหน้าและมาลงใส่ข้าชัดๆ!”

คนจากนิกายยาสุดล้ำนั้นมีแต่คนเย่อหยิ่งมากศักดิ์ศรี

หากไม่ใช่เพราะเรื่องที่ผ่านมานี้ พวกเขาคงไม่ลงมาเดินบนพื้นดินเสียด้วยซ้ำ

ในความคิดของพวกเขานั้นแค่ทำได้ขนาดนี้ตั้งแต่ครั้งแรกมันก็ถือว่าเก่งกาจมากแล้ว

เพราะแท้จริงตัวจางซิ่วนั้นก็รู้ดีว่าฝีมือของเขายังทำได้แค่ครึ่งๆ กลางๆ

แต่เพื่อกู้หน้านิกายยาสุดล้ำแล้ว เขาจึงก้าวออกมาอย่างไม่ลังเล

เพียงแค่ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะให้มันพลาดลงแบบนี้

เมื่อเย่หยวนได้ยินเขาก็ยิ่งไม่พอใจ “เจ้าจะบอกว่าเพราะนี่เป็นครั้งแรกของเจ้า? เจ้าจึงสามารถใช้ชีวิตพี่น้องร่วมรบเป็นเครื่องมือทดลองได้หรือ? จะเป็นก็ดีไปจะตายก็ช่างหัวมันใช่ไหม?”

จางซิ่วหน้าซีดแต่ยังร้องกลับไป “ข้าไม่ได้พูดเช่นนั้น เจ้าใส่ความข้าแล้ว! เจ้าคนสกุลเย่ข้าจะบอกเจ้าว่า นิกายยาสุดล้ำเรานั้นไม่ได้จะรังแกกันได้ง่ายๆ!”

เซียวชานนั้นฝังเข็มเสร็จแล้วก็ต้องขมวดคิ้วแน่น

เขารู้ตัวเองว่าตัวเขานั้นโม้จนเกินตัวไป!

ก่อนหน้านี้เขาบอกไปว่าเรียนรู้ไปได้กว่าร้อยละเก้าสิบแล้ว

แต่เมื่อลองลงมือแล้วเขากลับพบว่าอาการของคนไข้นั้นมันเทียบกับคนไข้ที่เย่หยวนรักษาไม่ได้เลย

มันคงไม่ถึงครึ่งเสียด้วยซ้ำ

เขานั้นเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับหก พลังของเขาย่อมจะเหนือล้ำกว่าเย่หยวนไปมาก

หากให้พูดแล้วแม้เขาจะเรียนรู้ได้แค่ร้อยละแปดสิบแต่ผลลัพธ์ที่ออกมามันก็น่าจะเท่ากับร้อยละเก้าสิบของเย่หยวน แต่นี่มันกลับไม่ถึงครึ่ง

เขานั้นจดจ่ออยู่กับคนไข้ตรงหน้าจนไม่ได้สนใจเรื่องที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัว

แต่ตอนนี้เมื่อเงยหน้ามาเห็นเย่หยวนด่าจางซิ่วเช่นนั้นเขาก็ต้องขมวดคิ้วแน่นกล่าวขึ้น “เย่หยวน ข้าขออภัยแทนจางซิ่วด้วย เขาพึ่งลงเข็มครั้งแรกใครๆ ก็สามารถผิดพลาดกันได้”

เมื่อเย่หยวนได้ยินเขาก็ยิ่งแสดงท่าทีไม่พอใจออกมาและยิ้มเย็นตอบไป “หึๆ เจ้าคิดจะให้มันผ่านไปง่ายๆ ด้วยคำพูดเช่นนี้หรือ? ก่อนหน้านี้ตอนที่ใช้เลือดภูตแท้ก็ครั้งหนึ่งแล้ว เวลานี้ต่อให้พวกเจ้าเรียนหยกมุกเก้าใบจากข้าไปแล้วพวกเจ้าก็ยังจะทำเช่นเดิมอีก! ชีวิตคนมันคงไร้ค่ามากในสายตาของพวกเจ้าใช่ไหม? และหมอก็ไม่ใช่นักสู้ หากไม่มั่นใจจริงก็อย่าได้ลงมือเลยจะดีกว่า!”

“ข้าบอกไปแล้วว่าหากไม่มั่นใจว่าทำได้อย่าก้าวออกมา! แต่พวกเจ้าล่ะ? พวกเจ้ากลับไม่คิดสนใจและก้าวออกมาเพราะศักดิ์ศรีโง่ๆ ของตัวเอง และไม่ว่าจะเป็นเจ้าขยะนี้หรือ พวกเจ้าทั้งหมดก็ฝังเข็มได้อ่อนหัดราวกับจะสังหารคนไข้แทน!”

เพราะแท้จริงตัวเย่หยวนเองก็ไม่พอใจมาตั้งแต่แรกในเรื่องครั้งก่อนแล้ว

นิกายยาสุดล้ำนั้นมันแตกต่างกับตัวเขาอย่างสิ้นเชิง

หากคนที่คิดวิธีฉีดเลือดภูตแท้นั้นคือเย่หยวนแล้วกลับมีเดินมาบอกว่ามันมีปัญหาในวิธีการ ตัวเย่หยวนคงต้องเริ่มศึกษาหาความเป็นไปได้ของปัญหานั้นทันที

แต่คนทั้งหลายนี้มันกลับหัวเราะและไม่คิดลงมือทำอะไร

ต่อให้อีกฝ่ายที่พูดจะเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาไร้ฝีมือใดๆ แต่แล้วมันทำไม?

แม้เขาจะแสดงฝีมือไปแล้วแต่คนพวกนี้มันก็ยังวางท่าเช่นนี้อยู่

เย่หยวนนั้นย่อมจะไม่พอใจคนเหล่านี้อย่างถึงที่สุด เพราะฉะนั้นคำพูดของเขามันก็ยิ่งดุร้ายขึ้นเรื่อยๆ

เซียวชานนั้นหรี่ตาแล้วถาม “จางซิ่วนั้นเป็นคนนิกายยาสุดล้ำ เจ้าต้องการอะไรจากเขากันเล่า?”

คำพูดนี้มันคือการพูดโดยใช้อำนาจของนิกายยาสุดล้ำเข้าข่มคน

นิกายยาสุดล้ำนั้นมีตัวตนที่สูงล้ำเหนือสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดและเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในสงครามทวีปสวรรค์แรกนี้

เย่หยวนนั้นเป็นแค่คนผู้เดียว ย่อมจะไม่มีทางลุกขึ้นต่อสู้กับยักษ์ใหญ่เช่นนั้นได้

เย่หยวนแค่นหัวเราะขึ้นมา “ข้าก็บอกไปก่อนแล้วว่าให้ลงโทษตามกฎกองทัพ! ดูท่าพวกเจ้านั้น คิดว่าข้าแค่สั่งน้ำมูกหรือ?”

จางซิ่วนั้นไม่คิดกลัวคำพูดนั้นและตอบกลับไปด้วยความเย้ยหยัน “น่าขันนัก! นิกายยาสุดล้ำของข้าช่วยคนไว้แค่ไหนในสงครามครั้งนี้? สร้างคุณประโยชน์ให้โลกหล้าไว้เท่าไหร่! เวลานี้เจ้ากลับคิดจะโยนข้าไปรับโทษตามกฎกองทัพ?”

เซียวชานนั้นเองก็ตอบกลับไป “ไม่มีใครแตะต้องคนจากนิกายยาสุดล้ำของข้าได้ทั้งนั้น!”

สภาพในเต็นท์นั้นมันดูดุเดือดขึ้นมาทันที!

เหล่าศิษย์นิกายยาสุดล้ำแต่ละคนนั้นต่างไม่สนใจคำพูดของเย่หยวน

ความเย่อหยิ่งจองหองของพวกเขานั้นมันไม่สนใจฝีมือใดๆ ของเย่หยวน เมื่อเกิดเรื่องขัดแย้งขึ้นมา พวกเขาย่อมจะไม่เห็นหัวเย่หยวน

ไม่ว่าจะมากฝีมือแค่ไหนมันก็แค่มดตัวเดียว! ต่อหน้ายักษ์ใหญ่อย่างนิกายยาสุดล้ำแล้วมันย่อมจะไม่มีค่าใด! แต่จู่ๆ เย่หยวนก็ดึงพลังของตัวเองกลับเข้าร่างและหันไปฝังเข็มรักษาคนไข้แทน

คนไข้คนนี้ได้รับการรักษาจากศิษย์นิกายยาสุดล้ำไปก่อนหน้า ผลลัพธ์นั้น…มันแค่พอกดเลือดกัดกร่อนไว้ได้ ที่สำคัญมันยังไร้ความเสถียร

เย่หยวนนั้นช่วยชีวิตคนไข้รายต่อไปอย่างสุดกำลัง เขาไม่พูดอะไรต่อและไปรักษาคนไข้ที่ได้รับการฝังเข็มจากคนนิกายยาสุดล้ำ รวมถึงคนไข้ของเซียวชานด้วย เมื่อจางซิ่วได้เห็นเช่นนั้นเขาก็อดหัวเราะขึ้นไม่ได้ “ก็นึกว่ายอดอัจฉริยะเย่มันจะแน่สักแค่ไหน ที่แท้ก็เท่านี้!”

………………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2814 ศักดิ์ศรีของหมอ

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2814 ศักดิ์ศรีของหมอ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2814 ศักดิ์ศรีของหมอ!
ในสายตาของเย่หยวนนั้นเซียวชานมีฝีมือแค่พอจะผ่านเท่านั้น

เขาทำได้แค่ร้อยละหกสิบเท่านั้นเอง!

แต่เจ้าบ้านี่กลับอ้างตัวว่าเรียนรู้ไปได้ถึงร้อยละเก้าสิบ?

ส่วนคนอื่นๆ นั้นก็มีแค่เต้าเฉินที่พอจะผ่านครึ่งไปได้ ส่วนที่เหลือเรียนรู้ไปได้ไม่ถึงครึ่งเลยด้วยซ้ำ

เย่หยวนนั้นอดไม่ได้ที่จะสงสัยขึ้นมาในใจ คนทั้งหลายนี้มาจากนิกายระดับเจ้าโลกจริงหรือ?

วิชาฝังเข็มนี้มันมีต้นกำเนิดมาจากหยกมุกเก้าใบก็จริง แต่ว่าเขานั้นลดทอนมันจนกลายเป็นแค่การฝังเข็มอย่างง่ายแล้ว!

ซึ่งหยกมุกเก้าใบของเย่หยวนนั้นมันได้ถูกฝึกฝนจนถึงขั้นกลายเป็นหนึ่งเดียวกับเขาไปแล้ว ถึงแม้จะลดทอนแค่ไหนมันก็จะกลายเป็นวิชาฝังเข็มทั่วๆ ไปได้จริงหรือ?

หากมันเป็นวิชาฝังเข็มทั่วๆ ไป มันจะกดดันความบ้าคลั่งของเลือดกัดกร่อนได้แบบนี้หรือ?

เซียวชานนั้นอาจจะดูทรงพลังอย่างมากแต่ว่าเขานั้นไม่เข้าใจแก่นของวิชาฝังเข็มนี้เลยทั้งๆ ที่ก็ทำตามเย่หยวนทุกอย่าง

เย่หยวนได้แต่ต้องถอนหายใจออกมา เพราะเขาหลงคิดไปว่าศิษย์ของนิกายระดับเจ้าโลกน่าจะเก่งกว่านี้

เขานั้นกลับหลงเชื่อชื่อเสียงของนิกายไปไม่ต่างจากคนอื่นๆ ทั้งๆ ที่ได้เห็นตัวอย่างมาแล้วแท้ๆ และไม่ว่าจะเป็นวิชาที่เหนือล้ำแค่ไหน สุดท้ายจะเก่งกาจหรืออ่อนแอมันก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้เรียน

แต่ดูท่าแล้วตอนนี้มันคงไม่เป็นอย่างที่หวังแน่

แม้ว่าพวกเซียวชานทั้งหลายนั้นจะยังดูเก้ๆ กังๆ อยู่และต่อให้พวกเขาฝึกจนชำนาญมือ

พวกเขาก็คงไม่อาจพัฒนามาถึงระดับของเขาได้แน่

เหล่านักหลอมโอสถสวรรค์ทั้งหลายนั้นต่างลอบหันมามองหน้าเย่หยวน เห็นเย่หยวนส่ายหัวออกมาเช่นนั้น พวกเขาต่างก็ไม่พอใจ

ดูท่าแล้วอาจารย์เย่นั้นจะเป็นคนใจแคบที่ไม่อยากเห็นคนอื่นเก่งเท่าตัวเอง?

“อึก…อ๊าก!”

จู่ๆ คนไข้คนหนึ่งก็กระอักเลือดออกมาอย่างรุนแรง

คลื่นพลังของเขานั้นมันเหือดแห้งลงไปทันที คนที่อยู่ตรงนั้นต่างสะดุ้งตัวขึ้นมาพร้อมๆ กัน

เมื่อกี้ยังไม่เห็นเป็นไร มันเกิดอะไรขึ้น?

เย่หยวนหน้าซีดพุ่งตัวออกไปทันที

“ไสหัวไป!” เขาถีบร่างของศิษย์นิกายยาสุดล้ำปลิวไปติดผนังเต็นท์ก่อนจะรีบแทงเข็มลงไปอย่างรวดเร็วเข้าไปในร่างของคนไข้

เมื่อปราณเทวะของเย่หยวนพุ่งเข้าไปในร่างเลือดกัดกร่อนของคนผู้นั้นมันก็ค่อยๆ สงบลงไปได้ในที่สุด

เว้นเสียแต่ว่าสภาพของเขาตอนนี้มันหนักกว่าก่อนหน้าไปมาก

เย่หยวนนั้นหันไปตวาดใส่คนที่ถูกเตะนั้น “ก็บอกพวกเจ้าแล้วว่ามีปัญญาแค่ไหนก็ให้บอกว่าทำได้แค่นั้น อย่าได้มาอวดอ้างเกินตัว! ฝีมือแค่นี้เจ้าก็กล้าเดินออกมาฝังเข็มหรือ?”

ในความคิดของเย่หยวนนั้น นักหลอมโอสถสวรรค์ย่อมจะไม่ควรทำสิ่งที่ตัวเองไม่มั่นใจ

เขาคนนี้ดูอย่างไรก็ไม่มีฝีมือแต่กลับอวดอ้างมาทำร้ายคน!

เรื่องแบบนี้เป็นสิ่งที่เย่หยวนชิงชังที่สุด!

คนที่ถูกเตะไปนั้นมีนามว่าจางซิ่ว เขาเองก็เป็นหนึ่งในศิษย์หัวกะทิของนิกายยาสุดล้ำ

เมื่อถูกเย่หยวนตวาดด่าเช่นนั้นจางซิ่วก็ต้องเถียงกลับมา “ข้าเพิ่งจะเคยฝังเข็มแบบนี้ครั้งแรกมันย่อมจะต้องมีพลาดกันได้บ้าง! ข้าจะไปมั่นใจเต็มร้อยได้อย่างไร! ดูเหมือนเจ้าจะถือโกรธจากเรื่องก่อนหน้าและมาลงใส่ข้าชัดๆ!”

คนจากนิกายยาสุดล้ำนั้นมีแต่คนเย่อหยิ่งมากศักดิ์ศรี

หากไม่ใช่เพราะเรื่องที่ผ่านมานี้ พวกเขาคงไม่ลงมาเดินบนพื้นดินเสียด้วยซ้ำ

ในความคิดของพวกเขานั้นแค่ทำได้ขนาดนี้ตั้งแต่ครั้งแรกมันก็ถือว่าเก่งกาจมากแล้ว

เพราะแท้จริงตัวจางซิ่วนั้นก็รู้ดีว่าฝีมือของเขายังทำได้แค่ครึ่งๆ กลางๆ

แต่เพื่อกู้หน้านิกายยาสุดล้ำแล้ว เขาจึงก้าวออกมาอย่างไม่ลังเล

เพียงแค่ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะให้มันพลาดลงแบบนี้

เมื่อเย่หยวนได้ยินเขาก็ยิ่งไม่พอใจ “เจ้าจะบอกว่าเพราะนี่เป็นครั้งแรกของเจ้า? เจ้าจึงสามารถใช้ชีวิตพี่น้องร่วมรบเป็นเครื่องมือทดลองได้หรือ? จะเป็นก็ดีไปจะตายก็ช่างหัวมันใช่ไหม?”

จางซิ่วหน้าซีดแต่ยังร้องกลับไป “ข้าไม่ได้พูดเช่นนั้น เจ้าใส่ความข้าแล้ว! เจ้าคนสกุลเย่ข้าจะบอกเจ้าว่า นิกายยาสุดล้ำเรานั้นไม่ได้จะรังแกกันได้ง่ายๆ!”

เซียวชานนั้นฝังเข็มเสร็จแล้วก็ต้องขมวดคิ้วแน่น

เขารู้ตัวเองว่าตัวเขานั้นโม้จนเกินตัวไป!

ก่อนหน้านี้เขาบอกไปว่าเรียนรู้ไปได้กว่าร้อยละเก้าสิบแล้ว

แต่เมื่อลองลงมือแล้วเขากลับพบว่าอาการของคนไข้นั้นมันเทียบกับคนไข้ที่เย่หยวนรักษาไม่ได้เลย

มันคงไม่ถึงครึ่งเสียด้วยซ้ำ

เขานั้นเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับหก พลังของเขาย่อมจะเหนือล้ำกว่าเย่หยวนไปมาก

หากให้พูดแล้วแม้เขาจะเรียนรู้ได้แค่ร้อยละแปดสิบแต่ผลลัพธ์ที่ออกมามันก็น่าจะเท่ากับร้อยละเก้าสิบของเย่หยวน แต่นี่มันกลับไม่ถึงครึ่ง

เขานั้นจดจ่ออยู่กับคนไข้ตรงหน้าจนไม่ได้สนใจเรื่องที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัว

แต่ตอนนี้เมื่อเงยหน้ามาเห็นเย่หยวนด่าจางซิ่วเช่นนั้นเขาก็ต้องขมวดคิ้วแน่นกล่าวขึ้น “เย่หยวน ข้าขออภัยแทนจางซิ่วด้วย เขาพึ่งลงเข็มครั้งแรกใครๆ ก็สามารถผิดพลาดกันได้”

เมื่อเย่หยวนได้ยินเขาก็ยิ่งแสดงท่าทีไม่พอใจออกมาและยิ้มเย็นตอบไป “หึๆ เจ้าคิดจะให้มันผ่านไปง่ายๆ ด้วยคำพูดเช่นนี้หรือ? ก่อนหน้านี้ตอนที่ใช้เลือดภูตแท้ก็ครั้งหนึ่งแล้ว เวลานี้ต่อให้พวกเจ้าเรียนหยกมุกเก้าใบจากข้าไปแล้วพวกเจ้าก็ยังจะทำเช่นเดิมอีก! ชีวิตคนมันคงไร้ค่ามากในสายตาของพวกเจ้าใช่ไหม? และหมอก็ไม่ใช่นักสู้ หากไม่มั่นใจจริงก็อย่าได้ลงมือเลยจะดีกว่า!”

“ข้าบอกไปแล้วว่าหากไม่มั่นใจว่าทำได้อย่าก้าวออกมา! แต่พวกเจ้าล่ะ? พวกเจ้ากลับไม่คิดสนใจและก้าวออกมาเพราะศักดิ์ศรีโง่ๆ ของตัวเอง และไม่ว่าจะเป็นเจ้าขยะนี้หรือ พวกเจ้าทั้งหมดก็ฝังเข็มได้อ่อนหัดราวกับจะสังหารคนไข้แทน!”

เพราะแท้จริงตัวเย่หยวนเองก็ไม่พอใจมาตั้งแต่แรกในเรื่องครั้งก่อนแล้ว

นิกายยาสุดล้ำนั้นมันแตกต่างกับตัวเขาอย่างสิ้นเชิง

หากคนที่คิดวิธีฉีดเลือดภูตแท้นั้นคือเย่หยวนแล้วกลับมีเดินมาบอกว่ามันมีปัญหาในวิธีการ ตัวเย่หยวนคงต้องเริ่มศึกษาหาความเป็นไปได้ของปัญหานั้นทันที

แต่คนทั้งหลายนี้มันกลับหัวเราะและไม่คิดลงมือทำอะไร

ต่อให้อีกฝ่ายที่พูดจะเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาไร้ฝีมือใดๆ แต่แล้วมันทำไม?

แม้เขาจะแสดงฝีมือไปแล้วแต่คนพวกนี้มันก็ยังวางท่าเช่นนี้อยู่

เย่หยวนนั้นย่อมจะไม่พอใจคนเหล่านี้อย่างถึงที่สุด เพราะฉะนั้นคำพูดของเขามันก็ยิ่งดุร้ายขึ้นเรื่อยๆ

เซียวชานนั้นหรี่ตาแล้วถาม “จางซิ่วนั้นเป็นคนนิกายยาสุดล้ำ เจ้าต้องการอะไรจากเขากันเล่า?”

คำพูดนี้มันคือการพูดโดยใช้อำนาจของนิกายยาสุดล้ำเข้าข่มคน

นิกายยาสุดล้ำนั้นมีตัวตนที่สูงล้ำเหนือสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดและเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในสงครามทวีปสวรรค์แรกนี้

เย่หยวนนั้นเป็นแค่คนผู้เดียว ย่อมจะไม่มีทางลุกขึ้นต่อสู้กับยักษ์ใหญ่เช่นนั้นได้

เย่หยวนแค่นหัวเราะขึ้นมา “ข้าก็บอกไปก่อนแล้วว่าให้ลงโทษตามกฎกองทัพ! ดูท่าพวกเจ้านั้น คิดว่าข้าแค่สั่งน้ำมูกหรือ?”

จางซิ่วนั้นไม่คิดกลัวคำพูดนั้นและตอบกลับไปด้วยความเย้ยหยัน “น่าขันนัก! นิกายยาสุดล้ำของข้าช่วยคนไว้แค่ไหนในสงครามครั้งนี้? สร้างคุณประโยชน์ให้โลกหล้าไว้เท่าไหร่! เวลานี้เจ้ากลับคิดจะโยนข้าไปรับโทษตามกฎกองทัพ?”

เซียวชานนั้นเองก็ตอบกลับไป “ไม่มีใครแตะต้องคนจากนิกายยาสุดล้ำของข้าได้ทั้งนั้น!”

สภาพในเต็นท์นั้นมันดูดุเดือดขึ้นมาทันที!

เหล่าศิษย์นิกายยาสุดล้ำแต่ละคนนั้นต่างไม่สนใจคำพูดของเย่หยวน

ความเย่อหยิ่งจองหองของพวกเขานั้นมันไม่สนใจฝีมือใดๆ ของเย่หยวน เมื่อเกิดเรื่องขัดแย้งขึ้นมา พวกเขาย่อมจะไม่เห็นหัวเย่หยวน

ไม่ว่าจะมากฝีมือแค่ไหนมันก็แค่มดตัวเดียว! ต่อหน้ายักษ์ใหญ่อย่างนิกายยาสุดล้ำแล้วมันย่อมจะไม่มีค่าใด! แต่จู่ๆ เย่หยวนก็ดึงพลังของตัวเองกลับเข้าร่างและหันไปฝังเข็มรักษาคนไข้แทน

คนไข้คนนี้ได้รับการรักษาจากศิษย์นิกายยาสุดล้ำไปก่อนหน้า ผลลัพธ์นั้น…มันแค่พอกดเลือดกัดกร่อนไว้ได้ ที่สำคัญมันยังไร้ความเสถียร

เย่หยวนนั้นช่วยชีวิตคนไข้รายต่อไปอย่างสุดกำลัง เขาไม่พูดอะไรต่อและไปรักษาคนไข้ที่ได้รับการฝังเข็มจากคนนิกายยาสุดล้ำ รวมถึงคนไข้ของเซียวชานด้วย เมื่อจางซิ่วได้เห็นเช่นนั้นเขาก็อดหัวเราะขึ้นไม่ได้ “ก็นึกว่ายอดอัจฉริยะเย่มันจะแน่สักแค่ไหน ที่แท้ก็เท่านี้!”

………………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+