Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2805 พัฒนาสายเลือด

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2805 พัฒนาสายเลือด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2805 พัฒนาสายเลือด!
“เพื่อที่จะต่อต้านเผ่าเลือดแล้วสามสิบสองยอดฝีมืออาณาจักรเจ้าโลกได้ร่วมมือกันสร้างเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์ขึ้นมาจนป้องกันเผ่าเลือดไว้ได้ในที่สุด”

“แต่ว่าดินแดนรอบๆ พื้นที่เขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์มันก็ได้กลายเป็นเหมือนเครื่องบดเนื้อที่จะทำลายทุกสิ่งอย่าง ยอดฝีมือมากมายต้องตายลงที่นั่น ศึกนี้มันดำเนินมาแล้วกว่าพันปี! ในเวลาพันกว่าปีมานี้เขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์ได้ถูกทะลวงเข้ามาหลายครั้งหลายคราด้วยกันแต่เราก็ต่อต้านไล่พวกมันกลับออกไปได้ทุกครั้ง เวลาพันกว่าปีมานี้เจ้าโลกของฝ่ายเราตายลงไปถึงเจ็ดคน เหล่ามหาจักรพรรดิที่ตายลงไปนั้นเองก็มีจำนวนถึงสามหลัก! แต่สุดท้ายเราก็ยังป้องกันไว้ได้!”

“แต่ไม่มีใครคิดฝันว่าสุดท้ายแล้วเผ่าเลือดมันจะเปิดเส้นทางมิติขึ้นทางเหนือและลอบโจมตีเราเช่นนี้ หากมิใช่เพราะเจ้าเสี่ยงชีวิตส่งข่าวมาแล้วเมืองทางเหนือเราคงแตกพ่ายกันหมดสิ้นแน่ ถึงตอนนั้นทวีปสวรรค์แรกมันก็คงต้องตกไปอยู่ในมือของเผ่าเลือด”

ซ่งเหมียวนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยความกังวลล้ำเพราะสภาพปัจจุบันมันไม่สู้ดีนัก

การปรากฏตัวขึ้นของเผ่าเลือดจากด้านหลังเช่นนี้มันทำให้เขานั้นต้องเหงื่อตกด้วยความหวาดกลัวอย่างสุดหัวใจ

เย่หยวนเองก็ไม่คิดฝันว่าเมื่อข้ามฝั่งทะเลมาแล้วมันกลับจะเจอสภาพเช่นนี้เข้า

เขานั้นเคยได้ยินหมี่เทียนบอกมาก่อนว่าเผ่าเลือดนั้นไปที่ใดมันก็เหมือนฝูงตั๊กแตนที่บุกไร่นา ไร้ซึ่งชีวิตใดๆ ไว้ในเส้นทางของพวกมัน

พวกมันนั้นอยู่เพื่อกินเลือดของเผ่าอื่นทั่วทั้งสามสิบสามสวรรค์ พัฒนาตัวตนขึ้นมาเรื่อยๆ ระหว่างที่สู้!

ที่สำคัญไปกว่านั้นต้นกำเนิดของพวกมันนั้นยังแตกต่างจากเผ่าพันธุ์อื่นๆ สิ้นเชิง

พวกมันนั้นเหมือนเป็นเชื้อราที่ขยายพันธุ์ด้วยการแตกหน่อออกจากร่างหลัก ทำให้มีความสามารถในการขยายพันธุ์ที่น่ากลัว

ที่สำคัญไปกว่านั้นยิ่งร่างหลักเก่งกาจเท่าไหร่ ลูกหลานของพวกมันก็ยิ่งจะทรงพลังเท่านั้น

พวกมันนั้นจะกลืนดูดเลือดคนไปเรื่อยๆ และพัฒนาตัวตนไปพร้อมขยายพันธุ์อย่างไร้สิ้นสุดทำให้เป็นเผ่าพันธุ์เจ้าปัญหา

จนถึงจุดหนึ่งที่พวกมันนั้นมีจำนวนมากจนเกินไปเหล่าคนเผ่าพันธุ์ทั้งหลายก็เริ่มหวาดกลัวกันขึ้นมา

เหมือนกับสภาพของสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดในตอนนี้ไม่มีผิด!

ราวแสนกว่าปีก่อนนั้นเหล่าเจ้าโลกทั้งหลายได้รวมตัวกันไล่ล่ากำจัดเผ่าเลือดและฆ่าล้างเผ่าพันธุ์พวกมันไปรอบหนึ่ง

แต่หมี่เทียนก็ไม่คิดฝันว่าแสนกว่าปีต่อมานี้เผ่าเลือดมันกลับจะลุกขึ้นมาใหม่ได้และยังสร้างความเสียดายที่ใหญ่หลวงขนาดนี้ให้แก่สวรรค์

สวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นเหลือกำลังอยู่ไม่ถึงหนึ่งในสามแล้ว

ไม่รู้ว่าสภาพของสวรรค์อื่นๆ อีกสามสิบสองแห่งนั้นจะเป็นอย่างไร

แน่นอนว่าเรื่องนั้นมันยังอยู่ไกลตัวเย่หยวนไปมาก

เพราะหากทวีปสวรรค์แรกแตกลงแล้วตัวเย่หยวนเองก็คงไม่อาจรอดชีวิตไปได้เช่นกัน

“ผู้อาวุโส สภาพทางเหนือตอนนี้ไม่สู้ดีนักหรือ?” เย่หยวนถามขึ้น

ซ่งเหมียวนั้นส่ายหัวตอบกลับมา “เผ่าเลือดนั้นได้ส่งมหาจักรพรรดิออกมากว่าสิบคนพร้อมกำลังจักรพรรดิเซียนกว่าสองหมื่น แม้ว่าเราจะเตรียมตัวแค่ไหนแต่อีกฝ่ายมันก็ทรงพลังจนเกินไป พวกมันปกป้องเส้นทางมิติไว้อย่างสุดตัว เราบุกเข้าไปสามครั้งแล้วแต่กลับไม่อาจจะชิงชัยมาได้แม้แต่ครั้งเดียว มีแต่ความสูญเสียที่เกิดขึ้นแทน”

“ตอนนี้เส้นทางมิตินั้นมันยังไม่เสถียรดีนักทำให้เหล่าเจ้าโลกฝ่ายเผ่าเลือดนั้นยังผ่านลอดมาไม่ได้ แต่หากมันเริ่มเสถียรขึ้นไปถึงจุดนั้นได้แล้วมันคงสามารถส่งยอดฝีมือเข้ามาได้อย่างไร้จำกัดแน่! หากเจ้าโลกปรากฏตัวขึ้นมาจริงๆ แล้ว…เราคงไม่อาจจะป้องกันอะไรไว้ได้อีก!”

เหล่าเจ้าโลกนั้นต่างเป็นตัวตนที่อยู่เหนือสุดของสวรรค์ แต่ละคนนั้นมีพลังพลิกฟ้าดินสามารถปกครองโลกหล้าได้สิ้น

“แล้วทวีปสวรรค์แรกนั้นส่งเหล่าเจ้าโลกมารับมือบ้างไม่ได้หรือ?” เย่หยวนถามขึ้นด้วยความสงสัย

ซ่งเหมียวนั้นส่ายหัวออกมา “เวลานี้เหล่าเจ้าโลกทั้งหลายท่านนั้นต่างอยู่เฝ้าเขตแดนสิ้น เพราะหากพวกท่านออกมาแล้วมันก็จะเกิดรูขึ้นที่เขตแดนทางใต้ ทั้งเหล่ามหาจักรพรรดิส่วนมากเอง ก็ประจำการดูแลเขตแดนใต้อยู่ด้วยเช่นกัน”

เย่หยวนที่ได้ยินนั้นได้แต่ต้องถอนใจยาวเพราะสองฝ่ายนั้นมันช่างแตกต่างกันสิ้นเชิง

เผ่าเลือดนั้นยิ่งสู้ยิ่งแข็งแกร่งยิ่งขยายเผ่าพันธุ์ได้มากส่วนคนทวีปสวรรค์นี้มีแต่จะอ่อนแอลงเรื่อยๆ สุดท้ายแล้วมันคงเป็นฝ่ายทวีปสวรรค์แรกที่พ่ายแพ้ลงก่อนแน่

“ผู้อาวุโส กว่าที่เส้นทางมิติมันจะเสถียรนั้นต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหน?” เย่หยวนถามขึ้น

ซ่งเหมียวตอบด้วยหน้าเหยเก “อย่างมากสามปี!”

เย่หยวนพยักหน้ารับก่อนจะหยิบโอสถสวรรค์หลายเม็ดขึ้นมากลืนลงคอไป

ซ่งเหมียวนั้นต้องเบิกตากว้าง เพราะนี่มันกลับเป็นโอสถสวรรค์ระดับแท้สามเม็ดด้วยกัน!

จากนั้นร่างกายของเย่หยวนก็ค่อยๆ ฟื้นฟูกลับมาอย่างทันตาเห็น

ซ่งเหมียวนั้นถึงกับต้องอ้าปากค้างเพราะมันช่างวิเศษเกินคาดฝัน!

“ผู้อาวุโส ข้าขอดูอาการท่านได้หรือไม่?” เย่หยวนถามขึ้น

ซ่งเหมียวที่ได้ยินนั้นต้องผงะไปก่อนจะกล่าวขึ้น “ไม่ได้หรอก หากเม็ดเลือดของเผ่าเลือดมัน เข้าร่างคนแล้วมันก็ไม่มีทางรักษาได้! แม้แต่ยอดหมอของทวีปสวรรค์แรกเราเอง ก็ยังศึกษาพลังงานเลือดของเผ่าเลือดมานับพันๆ ปีแต่กลับไม่อาจจะแก้ไขมันได้จนทุกวันนี้ หากติดมันเข้าแล้วก็มีแต่ต้องรอความตายเท่านั้น”

ซ่งเหมียวนั้นยอมจะไม่ได้คิดดูถูกเย่หยวนที่มีโอสถสวรรค์ระดับแท้กินนี้ แต่ว่าเลือดของเผ่าเลือดนั้นมันยุ่งยากจนเกินรักษาไป

หากมันเข้าร่วงแล้วมันจะผสานเข้าเป็นหนึ่งกับเลือดของเจ้าของร่าง ไม่อาจจะแยกออกมาได้อีก

จากนั้นมันก็จะค่อยๆ กัดกร่อนร่างของคนผู้นั้นจนตาย

พลังชีวิตของยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์นั้นมันเหนือล้ำ อาการบาดเจ็บใดๆ ย่อมจะรักษาได้

แต่การทำลายล้างของเลือดเผ่าเลือดนี้มันเกินเยียวยา ไม่ว่าจะเป็นโอสถสวรรค์ที่ดีแค่ไหนมันก็ไม่อาจช่วยเหลือได้

แต่เย่หยวนยังไม่ยอมแพ้และกล่าวขึ้นอีกครั้ง “ผู้อาวุโส ให้ข้าลองเสียหน่อยนะ?”

ซ่งเหมียวนั้นส่ายหัวออกมาอีกครั้ง “เม็ดเลือดนี้มันจะกัดกร่อนเจ้าไปด้วยหากเจ้าสัมผัสถึงมัน”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ไม่เป็นไรหรอก เรื่องแค่นั้นข้ามั่นใจว่าดูแลตัวเองได้”

ซ่งเหมียวนั้นขมวดคิ้วแน่น “น้องชาย เจ้านั้นมาจากบ้านนอกคงไม่ได้รู้ถึงความน่ากลัวของเผ่าเลือดมันหรอก! ต่อให้จะเป็นเหล่าเจ้าโลกเองแต่หากถูกเลือดนี้กัดกร่อนเข้าแล้วพวกเขาก็ไม่อาจรักษาได้เช่นกัน ข้ารู้ดีว่าเจ้านั้นมีสายเลือดภูติแท้โกลาหลระดับภูติศึก แต่…มันยังไม่พอหรอก!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไปก่อนจะปล่อยพลังชีพสายเลือดของตนออกมา

ซ่งเหมียวนั้นต้องอ้าปากค้างเมื่อได้เห็น “ระดับวิญญาณศึก! เจ้า…สายเลือดของเจ้าพัฒนาขึ้นมา?”

ระหว่างทัณฑ์สวรรค์นั้นเย่หยวนได้ใช้พลังของสายเลือดภูติแท้โกลาหลระดับภูติศึกออกมารับสายฟ้าตัวซ่งเหมียวจึงรู้ว่าเขามีสายเลือดที่สูงส่งแค่ไหน

เหล่าภูติแท้โกลาหลนั้นคือตัวตนที่เกิดจากความโกลาหล มันย่อมจะเป็นสายเลือดที่สูงส่ง

พลังสายเลือดของพวกเผ่าเลือดนั้นมันสามารถกัดกร่อนได้ทุกเผ่าพันธุ์แต่ไม่อาจจะทำอันตรายสายเลือด

ภูติแท้โกลาหลได้

แต่แน่นอนว่ามันมีขีดจำกัดอยู่

ซ่งเหมียวนั้นถูกทำร้ายโดยจักรพรรดิเที่ยงเผ่าเลือด พลังของสายเลือดภูติแท้โกลาหลระดับภูติศึกมันย่อมจะไม่อาจต้านทานพลังเลือดของเผ่าเลือดจักรพรรดิเที่ยงได้

สายเลือดภูติแท้โกลาหลนั้นมันถูกแบ่งออกเป็นห้าระดับ ระดับภูติศึก ระดับวิญญาณศึก ระดับเทพศึก ระดับขยายปฐพีและระดับสวรรค์แห้ง!

เหล่าคนที่มีสายเลือดระดับสวรรค์แห้งนั้นต่างล้วนเป็นเจ้าโลกกันสิ้น!

ไม่แปลกหรอกที่ซ่งเหมียวนั้นจะตกตะลึงกับการพัฒนาสายเลือดของเย่หยวนนี้

เพราะว่าปกติแล้วสายเลือดของภูติแท้โกลาหลนั้นมันจะเป็นสิ่งที่ติดตัวมาแต่กำเนิด

คิดอยากพัฒนามันขึ้นมานั้นเรียกได้ว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้ทีเดียว

แต่หลังจากเย่หยวนผ่านทัณฑ์สวรรค์อันรุนแรงนั้นมาแล้วสายเลือดของเขามันกลับพัฒนาขึ้นไปได้อย่างมากล้น

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ทัณฑ์สวรรค์นั้นมันเป็นหายนะแต่ก็เป็นโอกาสทองด้วย ในฐานะผู้บ่มเพาะนอกรีตแล้วข้าย่อมจะถือเต๋าทุกข์เป็นบททดสอบชีวิต ในเมื่อข้าผ่านบททดสอบมาได้ ข้าก็ย่อมจะได้ประโยชน์อะไรกลับมาด้วย”

ซ่งเหมียวนั้นยิ้มแห้งๆ ขึ้นมา “แม้จะเป็นเช่นนั้นแต่ใครกันบ้างที่จะพัฒนาสายเลือดภูติแท้โกลาหลได้ง่ายๆ เช่นนี้? สหายหนุ่มเย่นั้นช่างน่าประหลาดเสียจริง ก่อนนั้นตอนที่ข้าได้เห็นทัณฑ์สวรรค์นั้น ข้าก็คิดไปว่าเจ้าเป็นสหายเต๋าจักรพรรดิเที่ยงเสียด้วยซ้ำ ไม่นึกฝันเลยว่า มันกลับจะเป็นจักรพรรดิเซียนขั้นกลางคนหนึ่งเช่นนี้”

เย่หยวนนั้นพูดถูก เต๋าทุกข์นั้นมันคือหายนะและโอกาสทองจริงๆ

แต่หากมันพัฒนาได้ง่ายปานนั้นคนทวีปสวรรค์แรกก็คงไม่ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้หรอก

จากนั้นเย่หยวนก็ค่อยๆ ตรวจร่างกายของซ่งเหมียว

เมื่อเขาปล่อยปราณเทวะของตนเข้าร่างกายซ่างเหมียวไปเย่หยวนก็สัมผัสได้ถึงแรงกัดกร่อนที่รุนแรงทันที

แรงกันกร่อนนี้มันคิดกัดกินปราณเทวะของเย่หยวนลงสิ้น พร้อมๆ กันนั้นมันก็คิดจะบุกเข้ามาในร่างกายของเย่หยวนไปด้วย

แต่ไม่นานพลังสายเลือดระดับวิญญาณศึกของเย่หยวนมันก็ปะทุขึ้นมากดดันพลังกัดกร่อนนั้นไว้ได้อย่างอยู่หมัด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2805 พัฒนาสายเลือด

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2805 พัฒนาสายเลือด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2805 พัฒนาสายเลือด!
“เพื่อที่จะต่อต้านเผ่าเลือดแล้วสามสิบสองยอดฝีมืออาณาจักรเจ้าโลกได้ร่วมมือกันสร้างเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์ขึ้นมาจนป้องกันเผ่าเลือดไว้ได้ในที่สุด”

“แต่ว่าดินแดนรอบๆ พื้นที่เขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์มันก็ได้กลายเป็นเหมือนเครื่องบดเนื้อที่จะทำลายทุกสิ่งอย่าง ยอดฝีมือมากมายต้องตายลงที่นั่น ศึกนี้มันดำเนินมาแล้วกว่าพันปี! ในเวลาพันกว่าปีมานี้เขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์ได้ถูกทะลวงเข้ามาหลายครั้งหลายคราด้วยกันแต่เราก็ต่อต้านไล่พวกมันกลับออกไปได้ทุกครั้ง เวลาพันกว่าปีมานี้เจ้าโลกของฝ่ายเราตายลงไปถึงเจ็ดคน เหล่ามหาจักรพรรดิที่ตายลงไปนั้นเองก็มีจำนวนถึงสามหลัก! แต่สุดท้ายเราก็ยังป้องกันไว้ได้!”

“แต่ไม่มีใครคิดฝันว่าสุดท้ายแล้วเผ่าเลือดมันจะเปิดเส้นทางมิติขึ้นทางเหนือและลอบโจมตีเราเช่นนี้ หากมิใช่เพราะเจ้าเสี่ยงชีวิตส่งข่าวมาแล้วเมืองทางเหนือเราคงแตกพ่ายกันหมดสิ้นแน่ ถึงตอนนั้นทวีปสวรรค์แรกมันก็คงต้องตกไปอยู่ในมือของเผ่าเลือด”

ซ่งเหมียวนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยความกังวลล้ำเพราะสภาพปัจจุบันมันไม่สู้ดีนัก

การปรากฏตัวขึ้นของเผ่าเลือดจากด้านหลังเช่นนี้มันทำให้เขานั้นต้องเหงื่อตกด้วยความหวาดกลัวอย่างสุดหัวใจ

เย่หยวนเองก็ไม่คิดฝันว่าเมื่อข้ามฝั่งทะเลมาแล้วมันกลับจะเจอสภาพเช่นนี้เข้า

เขานั้นเคยได้ยินหมี่เทียนบอกมาก่อนว่าเผ่าเลือดนั้นไปที่ใดมันก็เหมือนฝูงตั๊กแตนที่บุกไร่นา ไร้ซึ่งชีวิตใดๆ ไว้ในเส้นทางของพวกมัน

พวกมันนั้นอยู่เพื่อกินเลือดของเผ่าอื่นทั่วทั้งสามสิบสามสวรรค์ พัฒนาตัวตนขึ้นมาเรื่อยๆ ระหว่างที่สู้!

ที่สำคัญไปกว่านั้นต้นกำเนิดของพวกมันนั้นยังแตกต่างจากเผ่าพันธุ์อื่นๆ สิ้นเชิง

พวกมันนั้นเหมือนเป็นเชื้อราที่ขยายพันธุ์ด้วยการแตกหน่อออกจากร่างหลัก ทำให้มีความสามารถในการขยายพันธุ์ที่น่ากลัว

ที่สำคัญไปกว่านั้นยิ่งร่างหลักเก่งกาจเท่าไหร่ ลูกหลานของพวกมันก็ยิ่งจะทรงพลังเท่านั้น

พวกมันนั้นจะกลืนดูดเลือดคนไปเรื่อยๆ และพัฒนาตัวตนไปพร้อมขยายพันธุ์อย่างไร้สิ้นสุดทำให้เป็นเผ่าพันธุ์เจ้าปัญหา

จนถึงจุดหนึ่งที่พวกมันนั้นมีจำนวนมากจนเกินไปเหล่าคนเผ่าพันธุ์ทั้งหลายก็เริ่มหวาดกลัวกันขึ้นมา

เหมือนกับสภาพของสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดในตอนนี้ไม่มีผิด!

ราวแสนกว่าปีก่อนนั้นเหล่าเจ้าโลกทั้งหลายได้รวมตัวกันไล่ล่ากำจัดเผ่าเลือดและฆ่าล้างเผ่าพันธุ์พวกมันไปรอบหนึ่ง

แต่หมี่เทียนก็ไม่คิดฝันว่าแสนกว่าปีต่อมานี้เผ่าเลือดมันกลับจะลุกขึ้นมาใหม่ได้และยังสร้างความเสียดายที่ใหญ่หลวงขนาดนี้ให้แก่สวรรค์

สวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นเหลือกำลังอยู่ไม่ถึงหนึ่งในสามแล้ว

ไม่รู้ว่าสภาพของสวรรค์อื่นๆ อีกสามสิบสองแห่งนั้นจะเป็นอย่างไร

แน่นอนว่าเรื่องนั้นมันยังอยู่ไกลตัวเย่หยวนไปมาก

เพราะหากทวีปสวรรค์แรกแตกลงแล้วตัวเย่หยวนเองก็คงไม่อาจรอดชีวิตไปได้เช่นกัน

“ผู้อาวุโส สภาพทางเหนือตอนนี้ไม่สู้ดีนักหรือ?” เย่หยวนถามขึ้น

ซ่งเหมียวนั้นส่ายหัวตอบกลับมา “เผ่าเลือดนั้นได้ส่งมหาจักรพรรดิออกมากว่าสิบคนพร้อมกำลังจักรพรรดิเซียนกว่าสองหมื่น แม้ว่าเราจะเตรียมตัวแค่ไหนแต่อีกฝ่ายมันก็ทรงพลังจนเกินไป พวกมันปกป้องเส้นทางมิติไว้อย่างสุดตัว เราบุกเข้าไปสามครั้งแล้วแต่กลับไม่อาจจะชิงชัยมาได้แม้แต่ครั้งเดียว มีแต่ความสูญเสียที่เกิดขึ้นแทน”

“ตอนนี้เส้นทางมิตินั้นมันยังไม่เสถียรดีนักทำให้เหล่าเจ้าโลกฝ่ายเผ่าเลือดนั้นยังผ่านลอดมาไม่ได้ แต่หากมันเริ่มเสถียรขึ้นไปถึงจุดนั้นได้แล้วมันคงสามารถส่งยอดฝีมือเข้ามาได้อย่างไร้จำกัดแน่! หากเจ้าโลกปรากฏตัวขึ้นมาจริงๆ แล้ว…เราคงไม่อาจจะป้องกันอะไรไว้ได้อีก!”

เหล่าเจ้าโลกนั้นต่างเป็นตัวตนที่อยู่เหนือสุดของสวรรค์ แต่ละคนนั้นมีพลังพลิกฟ้าดินสามารถปกครองโลกหล้าได้สิ้น

“แล้วทวีปสวรรค์แรกนั้นส่งเหล่าเจ้าโลกมารับมือบ้างไม่ได้หรือ?” เย่หยวนถามขึ้นด้วยความสงสัย

ซ่งเหมียวนั้นส่ายหัวออกมา “เวลานี้เหล่าเจ้าโลกทั้งหลายท่านนั้นต่างอยู่เฝ้าเขตแดนสิ้น เพราะหากพวกท่านออกมาแล้วมันก็จะเกิดรูขึ้นที่เขตแดนทางใต้ ทั้งเหล่ามหาจักรพรรดิส่วนมากเอง ก็ประจำการดูแลเขตแดนใต้อยู่ด้วยเช่นกัน”

เย่หยวนที่ได้ยินนั้นได้แต่ต้องถอนใจยาวเพราะสองฝ่ายนั้นมันช่างแตกต่างกันสิ้นเชิง

เผ่าเลือดนั้นยิ่งสู้ยิ่งแข็งแกร่งยิ่งขยายเผ่าพันธุ์ได้มากส่วนคนทวีปสวรรค์นี้มีแต่จะอ่อนแอลงเรื่อยๆ สุดท้ายแล้วมันคงเป็นฝ่ายทวีปสวรรค์แรกที่พ่ายแพ้ลงก่อนแน่

“ผู้อาวุโส กว่าที่เส้นทางมิติมันจะเสถียรนั้นต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหน?” เย่หยวนถามขึ้น

ซ่งเหมียวตอบด้วยหน้าเหยเก “อย่างมากสามปี!”

เย่หยวนพยักหน้ารับก่อนจะหยิบโอสถสวรรค์หลายเม็ดขึ้นมากลืนลงคอไป

ซ่งเหมียวนั้นต้องเบิกตากว้าง เพราะนี่มันกลับเป็นโอสถสวรรค์ระดับแท้สามเม็ดด้วยกัน!

จากนั้นร่างกายของเย่หยวนก็ค่อยๆ ฟื้นฟูกลับมาอย่างทันตาเห็น

ซ่งเหมียวนั้นถึงกับต้องอ้าปากค้างเพราะมันช่างวิเศษเกินคาดฝัน!

“ผู้อาวุโส ข้าขอดูอาการท่านได้หรือไม่?” เย่หยวนถามขึ้น

ซ่งเหมียวที่ได้ยินนั้นต้องผงะไปก่อนจะกล่าวขึ้น “ไม่ได้หรอก หากเม็ดเลือดของเผ่าเลือดมัน เข้าร่างคนแล้วมันก็ไม่มีทางรักษาได้! แม้แต่ยอดหมอของทวีปสวรรค์แรกเราเอง ก็ยังศึกษาพลังงานเลือดของเผ่าเลือดมานับพันๆ ปีแต่กลับไม่อาจจะแก้ไขมันได้จนทุกวันนี้ หากติดมันเข้าแล้วก็มีแต่ต้องรอความตายเท่านั้น”

ซ่งเหมียวนั้นยอมจะไม่ได้คิดดูถูกเย่หยวนที่มีโอสถสวรรค์ระดับแท้กินนี้ แต่ว่าเลือดของเผ่าเลือดนั้นมันยุ่งยากจนเกินรักษาไป

หากมันเข้าร่วงแล้วมันจะผสานเข้าเป็นหนึ่งกับเลือดของเจ้าของร่าง ไม่อาจจะแยกออกมาได้อีก

จากนั้นมันก็จะค่อยๆ กัดกร่อนร่างของคนผู้นั้นจนตาย

พลังชีวิตของยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์นั้นมันเหนือล้ำ อาการบาดเจ็บใดๆ ย่อมจะรักษาได้

แต่การทำลายล้างของเลือดเผ่าเลือดนี้มันเกินเยียวยา ไม่ว่าจะเป็นโอสถสวรรค์ที่ดีแค่ไหนมันก็ไม่อาจช่วยเหลือได้

แต่เย่หยวนยังไม่ยอมแพ้และกล่าวขึ้นอีกครั้ง “ผู้อาวุโส ให้ข้าลองเสียหน่อยนะ?”

ซ่งเหมียวนั้นส่ายหัวออกมาอีกครั้ง “เม็ดเลือดนี้มันจะกัดกร่อนเจ้าไปด้วยหากเจ้าสัมผัสถึงมัน”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ไม่เป็นไรหรอก เรื่องแค่นั้นข้ามั่นใจว่าดูแลตัวเองได้”

ซ่งเหมียวนั้นขมวดคิ้วแน่น “น้องชาย เจ้านั้นมาจากบ้านนอกคงไม่ได้รู้ถึงความน่ากลัวของเผ่าเลือดมันหรอก! ต่อให้จะเป็นเหล่าเจ้าโลกเองแต่หากถูกเลือดนี้กัดกร่อนเข้าแล้วพวกเขาก็ไม่อาจรักษาได้เช่นกัน ข้ารู้ดีว่าเจ้านั้นมีสายเลือดภูติแท้โกลาหลระดับภูติศึก แต่…มันยังไม่พอหรอก!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไปก่อนจะปล่อยพลังชีพสายเลือดของตนออกมา

ซ่งเหมียวนั้นต้องอ้าปากค้างเมื่อได้เห็น “ระดับวิญญาณศึก! เจ้า…สายเลือดของเจ้าพัฒนาขึ้นมา?”

ระหว่างทัณฑ์สวรรค์นั้นเย่หยวนได้ใช้พลังของสายเลือดภูติแท้โกลาหลระดับภูติศึกออกมารับสายฟ้าตัวซ่งเหมียวจึงรู้ว่าเขามีสายเลือดที่สูงส่งแค่ไหน

เหล่าภูติแท้โกลาหลนั้นคือตัวตนที่เกิดจากความโกลาหล มันย่อมจะเป็นสายเลือดที่สูงส่ง

พลังสายเลือดของพวกเผ่าเลือดนั้นมันสามารถกัดกร่อนได้ทุกเผ่าพันธุ์แต่ไม่อาจจะทำอันตรายสายเลือด

ภูติแท้โกลาหลได้

แต่แน่นอนว่ามันมีขีดจำกัดอยู่

ซ่งเหมียวนั้นถูกทำร้ายโดยจักรพรรดิเที่ยงเผ่าเลือด พลังของสายเลือดภูติแท้โกลาหลระดับภูติศึกมันย่อมจะไม่อาจต้านทานพลังเลือดของเผ่าเลือดจักรพรรดิเที่ยงได้

สายเลือดภูติแท้โกลาหลนั้นมันถูกแบ่งออกเป็นห้าระดับ ระดับภูติศึก ระดับวิญญาณศึก ระดับเทพศึก ระดับขยายปฐพีและระดับสวรรค์แห้ง!

เหล่าคนที่มีสายเลือดระดับสวรรค์แห้งนั้นต่างล้วนเป็นเจ้าโลกกันสิ้น!

ไม่แปลกหรอกที่ซ่งเหมียวนั้นจะตกตะลึงกับการพัฒนาสายเลือดของเย่หยวนนี้

เพราะว่าปกติแล้วสายเลือดของภูติแท้โกลาหลนั้นมันจะเป็นสิ่งที่ติดตัวมาแต่กำเนิด

คิดอยากพัฒนามันขึ้นมานั้นเรียกได้ว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้ทีเดียว

แต่หลังจากเย่หยวนผ่านทัณฑ์สวรรค์อันรุนแรงนั้นมาแล้วสายเลือดของเขามันกลับพัฒนาขึ้นไปได้อย่างมากล้น

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ทัณฑ์สวรรค์นั้นมันเป็นหายนะแต่ก็เป็นโอกาสทองด้วย ในฐานะผู้บ่มเพาะนอกรีตแล้วข้าย่อมจะถือเต๋าทุกข์เป็นบททดสอบชีวิต ในเมื่อข้าผ่านบททดสอบมาได้ ข้าก็ย่อมจะได้ประโยชน์อะไรกลับมาด้วย”

ซ่งเหมียวนั้นยิ้มแห้งๆ ขึ้นมา “แม้จะเป็นเช่นนั้นแต่ใครกันบ้างที่จะพัฒนาสายเลือดภูติแท้โกลาหลได้ง่ายๆ เช่นนี้? สหายหนุ่มเย่นั้นช่างน่าประหลาดเสียจริง ก่อนนั้นตอนที่ข้าได้เห็นทัณฑ์สวรรค์นั้น ข้าก็คิดไปว่าเจ้าเป็นสหายเต๋าจักรพรรดิเที่ยงเสียด้วยซ้ำ ไม่นึกฝันเลยว่า มันกลับจะเป็นจักรพรรดิเซียนขั้นกลางคนหนึ่งเช่นนี้”

เย่หยวนนั้นพูดถูก เต๋าทุกข์นั้นมันคือหายนะและโอกาสทองจริงๆ

แต่หากมันพัฒนาได้ง่ายปานนั้นคนทวีปสวรรค์แรกก็คงไม่ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้หรอก

จากนั้นเย่หยวนก็ค่อยๆ ตรวจร่างกายของซ่งเหมียว

เมื่อเขาปล่อยปราณเทวะของตนเข้าร่างกายซ่างเหมียวไปเย่หยวนก็สัมผัสได้ถึงแรงกัดกร่อนที่รุนแรงทันที

แรงกันกร่อนนี้มันคิดกัดกินปราณเทวะของเย่หยวนลงสิ้น พร้อมๆ กันนั้นมันก็คิดจะบุกเข้ามาในร่างกายของเย่หยวนไปด้วย

แต่ไม่นานพลังสายเลือดระดับวิญญาณศึกของเย่หยวนมันก็ปะทุขึ้นมากดดันพลังกัดกร่อนนั้นไว้ได้อย่างอยู่หมัด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+