Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2845 ขับไล่ไปยังเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2845 ขับไล่ไปยังเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2845 ขับไล่ไปยังเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์!
ไม่นานจากนั้นมันก็เกิดข่าวหนึ่งแพร่กระจายไปทั่วทิศ

ศิษย์ของใหม่ของอาจารย์จั่วเฉิน นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้านามเย่หยวนกลับบอกว่าจะขับไล่ศิษย์นับร้อยๆ ไปยังเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์

เมื่อข่าวนี้มันแพร่ออกไปมันย่อมจะทำให้เกิดเสียงเย้ยหยันทั่วไป

“มันคิดว่ามันเป็นใคร? มันไปเอาความมั่นใจผิดๆ เช่นนี้มาจากที่ไหนกัน?”

“หึๆ เขาได้อาจารย์ดีมันก็ต้องเข้าใจกันหน่อย!”

“พระเจ้าช่วย หากพวกเขาต้องออกไปจริงๆ แล้ววันหน้าเราจะทำอย่างไรกันดี? นี่เราควรไปกราบอาจารย์ปู่ท่านนี้ที่ยอดประกาศตะวันหรือไม่?”

“ผู้อาวุโสจั่วเฉินท่านคิดอย่างไร? ทำไมถึงได้ไปรับเด็กหัวร้อนเช่นนี้เป็นศิษย์กัน?”

ในเวลาในไม่ถึงครึ่งวันนั้นข่าวนี้มันก็ได้แพร่กระจายไปทั้งนิกายยาสุดล้ำแล้ว

ไม่ว่านิกายยาสุดล้ำนั้นจะใหญ่แค่ไหนแต่การแพร่กระจายของข่าวสารมันก็ไปได้รวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ

ในนิกายยาสุดล้ำนั้นการไปยังเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์นั้นถือเป็นเรื่องต้องห้าม

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียคนเบื้องบนทั้งหลายก็ไม่มีใครอยากจะส่งลูกหลานหรือศิษย์ของตัวเองออกไปรนหาที่ตายในสงคราม

แน่นอนว่าตอนนี้ศิษย์กว่าครึ่งของนิกายยาสุดล้ำต่างก็ได้ออกแนวรบด่านหน้าต่อสู้กับเผ่าเลือดอยู่

เพียงแค่ว่าเหล่าศิษย์ทั้งหลายที่อยู่ในสนามรบตอนนี้ต่างก็มีตระกูลและอาจารย์ที่มีแนวคิดสมัยใหม่เห็นถึงปัญหาหากแพ้สงคราม ส่วนคนที่ยังเหลืออยู่ในนิกายจนถึงวันนี้นั้นมันก็มีแต่คนที่มีความคิดล้าหลังไม่สนใจใคร

เหมือนดั่งจั่วเฉินนั้นที่เรียกได้ว่าเป็นแกนนำของคนหัวสมัยใหม่

เขาและศิษย์กว่าเจ็ดในสิบนั้นได้เดินทางไปต่อสู้ยังเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์กันสิ้น

เพราะฉะนั้นแม้ว่ายอดประกาศตะวันมันจะยิ่งใหญ่แค่ไหนแต่ตอนนี้มันก็ช่างดูรกร้างไร้ผู้คน

ฝ่ายหัวโบราณนั้นไม่มีความคิดที่จะลงสนามรบและเอาทรัพยากรทั้งหมดมาใช้ในการบ่มเพาะสร้างยอดฝีมือมากขึ้นในทุกวันส่วนฝ่ายหัวสมัยใหม่นั้นต้องแลกชีวิตในสงครามจนจำนวนลดน้อยลงเรื่อยๆ

เป็นเช่นนี้ไปหลายปีเข้าสุดท้ายแล้วกำลังของนิกายยาสุดล้ำ จึงได้เพิ่มพูนมีมหาจักรพรรดิใหม่ๆ เกิดขึ้นมามากมายและเพราะเช่นนี้มันก็ยิ่งทำให้ฝ่ายหัวโบราณนั้นมีกำลังที่เข้มแข็งมากขึ้นเรื่อยๆ

เพราะฉะนั้นการที่เย่หยวนคิดอยากจะไล่คนทั้งหลายไปยังสนามรบนั้นมันย่อมจะไปสะกิดเหล่าคนหัวโบราณทั้งหลายและย่อมจะไม่ปล่อยให้เย่หยวนได้ทำตามใจชอบ

ทำให้จักรพรรดิหลายคนนั้นต่างหัวเราะขึ้นมาเมื่อได้ยินเรื่องนี้

เด็กน้อยที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมนั้นมันกลับคิดว่าฝ่ามือของมันนั้นปิดฟ้าดินลงได้?

น่าขันนัก!

ทำไมจั่วเฉินถึงไปรับคนโง่ๆ เช่นนี้มาเป็นศิษย์กัน?

ข่าวนี้มันแพร่ออกไปอย่างรวดเร็วด้วยความช่วยเหลือจากหวู่เจียงและโจวชุน

“อาจารย์ลุงโจวช่างเก่งกาจสมชื่อจริง! นี่ผ่านไปแค่ครึ่งวันอาจารย์ปู่คนนั้นของเรามันก็กลายเป็นที่หัวเราะของคนทั้งนิกายไปแล้ว!” เฉียนหนานกล่าวขึ้นมาด้วยท่าทางสะใจ

โจวชุนนั้นยิ้มขึ้นมาอย่างภาคภูมิ “เรื่องเล็กน้อยน่า! แต่ข่าวนี้มันก็ไปเร็วกว่าที่ข้าคาดไว้มาก! ดูท่ามันคงมีใครคอยช่วยสุมไฟให้แน่นอน!”

หวู่เจียงนั้นหัวเราะขึ้นพร้อมพยักหน้า “ผีเฒ่าจั่วเฉินมันพูดกล่าวอยู่ทุกวันอยากให้ศิษย์นิกายไปตายในสงคราม มันช่างหัวรั้นนัก! ดูท่าไอ้เด็กนี่จะได้นิสัยมันมาเต็มๆ! แต่มันก็ต้องขอบคุณไอ้เด็กนี่นะ เท่านี้ผีเฒ่าจั่วเฉินมันก็คงเสียหน้ากู่ไม่กลับแล้ว!”

พูดไปหวู่เจียงนั้นก็ยิ้มหัวเราะลั่นขึ้น

คำพูดของคนทั้งหลายนั้นมันไม่มีความเคารพต่อจั่วเฉินเลยแม้แต่น้อย

หากให้พูดจริงๆ แล้วพวกเขาเองก็เกลียดชังจั่วเฉินอยู่มาตั้งแต่ต้น

ลับหลังนั้นพวกเขาย่อมจะหาเรื่องนินทาพวกหัวสมัยใหม่กันไม่ขาดปาก

ที่สำคัญไปกว่านั้นข่าวนี้ที่แพร่ออกไปได้รวดเร็วปานนี้ย่อมจะเกินมือโจวชุนคนเดียว ดูอย่างไรก็ต้องมีมหาจักรพรรดิมาร่วมวงด้วยแน่

คนที่ไม่ชอบหน้าจั่วเฉินนั้นไม่ได้มีน้อยๆ

“สมน้ำหน้ามัน! ผีเฒ่าจั่วเฉินนั้นมันเอาแต่บอกให้เราไปตายที่เขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์กันทุกวัน คนมากมายแค่ไหนแล้วที่หลงเชื่อมันจนไปตายลงที่เขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์! ครั้งนี้แหละมันเป็นการแก้แค้นที่เหมาะสมนัก!” โจวชุนนั้นกล่าวขึ้นอย่างเย้ยหยัน

หวู่เจียงนั้นยิ้มตอบกลับไป “ที่น่าขันคือไอ้เด็กคนนั้นมันคิดว่าแค่มีอาวุโสสูงส่งแล้วตัวเองจะเก่งกาจเหนือล้ำฟ้าดิน! คนที่เหนือกว่าจั่วเฉินในนิกายยาสุดล้ำนี้มันไม่ได้มีแค่คนสองคน! จริงด้วยสิ โจวชุนเจ้าคิดว่าใครกันที่ช่วยเหลือเราในเรื่องนี้?”

โจวชุนยิ้มกว้างขึ้น “ถามข้านี้เจ้าจะทำเป็นไม่รู้? นอกจากท่านผู้นั้นแล้วจะมีใครได้?”

หวู่เจียงนั้นยิ้มกว้างขึ้นตอบ “ผีเฒ่าจั่วเฉินนั้นมันคิดจะลากมหาจักรพรรดิฉินชานลงตำแหน่งมาหลายที มหาจักรพรรดิฉินชานท่านเองก็คงเกลียดชังมันสุดใจเช่นกัน! นอกจากท่านแล้วมันก็คงไม่มีใครจริงๆ!”

“หลังจากเรื่องครั้งนี้แล้วเย่หยวนมันก็คงไม่มีที่จะอยู่ในนิกายได้อีกต่อไป บางทีหลังจากนี้มหาจักรพรรดิฉินชานอาจจะหาเรื่องส่งมันไปยังเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์เองเสียก็ได้”

ตึง!

คนทั้งหลายนั้นกำลังคุยกันอย่างสนุกสนานแต่จู่ๆ มันก็มีคนถีบประตูห้องส่วนตัวเข้ามาอย่างไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม

หวู่เจียงนั้นหันกลับไปอย่างไม่พอใจแต่เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นใครนั้นเขาก็ต้องยั้งปากลงทันที

เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกไม่ดีขึ้นในใจ

“ศ…ศิษย์พี่หลิงมาหาเรานี้มีคำสั่งอะไรให้เรารับใช้หรือไม่?” หวู่เจียงกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าเหยเก

คนที่มาถึงนั้นคือหลิงเจียง ศิษย์จากโถงบังคับกฎ

ศิษย์ของโถงบังคับกฎนั้นมีอำนาจเหนือกว่าศิษย์ทั่วไปในระดับเดียวกันมาก หลิงเจียงคนนี้เป็นคนที่ดูแลจักรพรรดิเที่ยงและจักรพรรดิเซียนทั้งหลายในบริเวณ

หลิงเจียงนั้นบุกเข้ามาด้วยท่าทางเช่นนี้มันต้องไม่ได้มาดีแล้ว!

หรือว่าเจ้าเด็กเย่หยวนนั้นจะจนตรอกจนไปขอให้โถงบังคับกฎออกมาจัดการพวกเขา?

เพราะจนถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่เชื่อว่าเย่หยวนจะสามารถขับไล่พวกเขาทั้งร้อยกว่าคนไปยังเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์ได้

จำนวนคนมากมายขนาดนี้มันย่อมจะเกี่ยวพันกับหลายตระกูล

เดิมทีแล้วฝ่ายหัวสมัยใหม่นั้นก็เคยคิดทำเรื่องเช่นนี้แต่สุดท้ายก็ถูกปัดตกไป

หลิงเจียงนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าเรียบเฉย “หวู่เจียง เจ้าพาคนในหน่วยไปรวมทัพที่ยอดใจสงบและออกเดินทางไปเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์ในทันที!”

สีหน้าของคนทั้งสามที่คุยกันอยู่นั้นซีดขาวลงอย่างไม่อยากเชื่อหู

นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?

ไอ้เด็กนั่นมันทำได้จริง?

หรือว่ามหาจักรพรรดิทั้งหลายนั้นจะไม่สนใจพวกเขาเลย?

หรือว่าฝ่ายอนุรักษ์ของพวกเขานั้นจะปล่อยให้ฝ่ายสมัยใหม่ทำอะไรตามใจชอบ?

“ข้า…ข้าขอพบอาจารย์ลุงหยุนไห่ก่อน!” หวู่เจียงนั้นกัดฟันร้องตอบกลับไป

มหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์เจิ้งหยุนไห่นั้นคือคนที่หนุนหลังหวู่เจียงอยู่

เขาย่อมจะไม่ปล่อยให้หวู่เจียงต้องไปเสี่ยงตายง่ายๆ เช่นนี้!

แต่ว่าหลิงเจียงนั้นกลับไม่คิดสนใจ “ไม่ต้อง เจ้าไม่มีหวังจะเปลี่ยนเรื่องนี้ได้แล้ว คำสั่งนี้มันมาจากท่านเจ้านิกายเอง ไม่มีใครจะปกป้องเจ้าได้!”

“หือ?! ท…ท่านเจ้านิกาย?” หวู่เจียงนั้นแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเอง

ทำไมเจ้านิกายผู้สูงส่งถึงได้มาสนใจเรื่องระหว่างจักรพรรดิเที่ยงกัน?

นี่มันไม่มีทางเป็นไปได้เลย!

แต่หวู่เจียงนั้นรู้ดีว่าหลิงเจียงมิใช่คนที่จะล้อเล่นในหน้าที่

ไม่มีใครกล้าเอาเรื่องนี้มาล้อเล่น!

แม้ว่าเจ้านิกายนั้นจะไม่ได้มีอำนาจเด็ดขาดในนิกายแต่ว่าเหล่าเจ้าโลกและผู้อาวุโสในหอสุดแสงนั้นต่างก็ไม่คิดสนใจเรื่องภายในนิกายมากมาย

หากไม่ได้เป็นเรื่องระหว่างนิกายยาสุดล้ำและนิกายภายนอกแล้ว คนที่มีอำนาจภายในนิกายสูงสุดมันก็ยังเป็นเจ้านิกาย!

ไม่มีกล้าขัดนายท่านผู้นี้!

หลิงเจียงนั้นกล่าวขึ้นเสริม “หวู่เจียง รีบๆ หน่อยก็ดี คำสั่งนั้นมีเวลาให้เจ้าแค่ชั่วโมง! หากช้าไปกว่านั้นเจ้าก็ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้นแล้ว!”

พูดจบหลิงเจียงก็เดินหายไป

เขานั้นไม่ต้องคอยควบคุมหวู่เจียงใดๆ เพราะมันไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งจากโถงบังคับกฎอยู่แล้ว

ไม่เช่นนั้นแล้วผลลัพธ์ที่ตามมามันจะยิ่งเสียกว่าไปเสี่ยงตายที่เขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์

หวู่เจียงนั้นแทบลืมหายใจ อีกฝ่ายนั้นไม่เปิดโอกาสใดๆ ให้เขาเลย!

แต่ทำไมมันถึงเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้?

“มัน…มันกลับทำได้จริง? ทำไมท่านเจ้านิกายถึงได้ทำเช่นนี้?” หวู่เจียงนั้นกล่าวขึ้นด้วยหน้าซีดขาวเป็นกระดาษ

เขานั้นบอกเล่าเรื่องราวนี้แก่ทุกคนด้วยตัวเองเพื่อหวังว่าจะเป็นการตบหน้าเย่หยวนและจั่วเฉิน

การตบหน้ามหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์นั้นมันย่อมจะเป็นอะไรที่น่าภาคภูมิ

แต่ตอนนี้เรื่องราวใหญ่โตขึ้นปานนั้นแล้ว ใครกันเล่าที่ถูกตบแทน?

โจวชุนที่ด้านข้างนั้นเองก็ต้องทำหน้าเหยเกขึ้นมาเช่นกัน

ขนทั้งร่างของเขาลุกตั้ง เพราะดูท่าเขาจะหาเรื่องผิดคนแล้ว

การที่เขาไม่ถูกเรียกไปด้วยนั้นไม่ได้หมายความว่าเขาจะรอดจากหายนะ

เพราะข่าวนี้มันถูกปล่อยออกไปจากปากของเขา หากมีใครคิดตามสืบมันก็คงสาวถึงเจตนาของเขาได้ในเวลาแค่พริบตา

ตอนนี้เขาอยากจะหนีหายออกจากนิกายไปให้พ้นๆ!

……………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2845 ขับไล่ไปยังเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2845 ขับไล่ไปยังเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2845 ขับไล่ไปยังเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์!
ไม่นานจากนั้นมันก็เกิดข่าวหนึ่งแพร่กระจายไปทั่วทิศ

ศิษย์ของใหม่ของอาจารย์จั่วเฉิน นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้านามเย่หยวนกลับบอกว่าจะขับไล่ศิษย์นับร้อยๆ ไปยังเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์

เมื่อข่าวนี้มันแพร่ออกไปมันย่อมจะทำให้เกิดเสียงเย้ยหยันทั่วไป

“มันคิดว่ามันเป็นใคร? มันไปเอาความมั่นใจผิดๆ เช่นนี้มาจากที่ไหนกัน?”

“หึๆ เขาได้อาจารย์ดีมันก็ต้องเข้าใจกันหน่อย!”

“พระเจ้าช่วย หากพวกเขาต้องออกไปจริงๆ แล้ววันหน้าเราจะทำอย่างไรกันดี? นี่เราควรไปกราบอาจารย์ปู่ท่านนี้ที่ยอดประกาศตะวันหรือไม่?”

“ผู้อาวุโสจั่วเฉินท่านคิดอย่างไร? ทำไมถึงได้ไปรับเด็กหัวร้อนเช่นนี้เป็นศิษย์กัน?”

ในเวลาในไม่ถึงครึ่งวันนั้นข่าวนี้มันก็ได้แพร่กระจายไปทั้งนิกายยาสุดล้ำแล้ว

ไม่ว่านิกายยาสุดล้ำนั้นจะใหญ่แค่ไหนแต่การแพร่กระจายของข่าวสารมันก็ไปได้รวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ

ในนิกายยาสุดล้ำนั้นการไปยังเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์นั้นถือเป็นเรื่องต้องห้าม

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียคนเบื้องบนทั้งหลายก็ไม่มีใครอยากจะส่งลูกหลานหรือศิษย์ของตัวเองออกไปรนหาที่ตายในสงคราม

แน่นอนว่าตอนนี้ศิษย์กว่าครึ่งของนิกายยาสุดล้ำต่างก็ได้ออกแนวรบด่านหน้าต่อสู้กับเผ่าเลือดอยู่

เพียงแค่ว่าเหล่าศิษย์ทั้งหลายที่อยู่ในสนามรบตอนนี้ต่างก็มีตระกูลและอาจารย์ที่มีแนวคิดสมัยใหม่เห็นถึงปัญหาหากแพ้สงคราม ส่วนคนที่ยังเหลืออยู่ในนิกายจนถึงวันนี้นั้นมันก็มีแต่คนที่มีความคิดล้าหลังไม่สนใจใคร

เหมือนดั่งจั่วเฉินนั้นที่เรียกได้ว่าเป็นแกนนำของคนหัวสมัยใหม่

เขาและศิษย์กว่าเจ็ดในสิบนั้นได้เดินทางไปต่อสู้ยังเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์กันสิ้น

เพราะฉะนั้นแม้ว่ายอดประกาศตะวันมันจะยิ่งใหญ่แค่ไหนแต่ตอนนี้มันก็ช่างดูรกร้างไร้ผู้คน

ฝ่ายหัวโบราณนั้นไม่มีความคิดที่จะลงสนามรบและเอาทรัพยากรทั้งหมดมาใช้ในการบ่มเพาะสร้างยอดฝีมือมากขึ้นในทุกวันส่วนฝ่ายหัวสมัยใหม่นั้นต้องแลกชีวิตในสงครามจนจำนวนลดน้อยลงเรื่อยๆ

เป็นเช่นนี้ไปหลายปีเข้าสุดท้ายแล้วกำลังของนิกายยาสุดล้ำ จึงได้เพิ่มพูนมีมหาจักรพรรดิใหม่ๆ เกิดขึ้นมามากมายและเพราะเช่นนี้มันก็ยิ่งทำให้ฝ่ายหัวโบราณนั้นมีกำลังที่เข้มแข็งมากขึ้นเรื่อยๆ

เพราะฉะนั้นการที่เย่หยวนคิดอยากจะไล่คนทั้งหลายไปยังสนามรบนั้นมันย่อมจะไปสะกิดเหล่าคนหัวโบราณทั้งหลายและย่อมจะไม่ปล่อยให้เย่หยวนได้ทำตามใจชอบ

ทำให้จักรพรรดิหลายคนนั้นต่างหัวเราะขึ้นมาเมื่อได้ยินเรื่องนี้

เด็กน้อยที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมนั้นมันกลับคิดว่าฝ่ามือของมันนั้นปิดฟ้าดินลงได้?

น่าขันนัก!

ทำไมจั่วเฉินถึงไปรับคนโง่ๆ เช่นนี้มาเป็นศิษย์กัน?

ข่าวนี้มันแพร่ออกไปอย่างรวดเร็วด้วยความช่วยเหลือจากหวู่เจียงและโจวชุน

“อาจารย์ลุงโจวช่างเก่งกาจสมชื่อจริง! นี่ผ่านไปแค่ครึ่งวันอาจารย์ปู่คนนั้นของเรามันก็กลายเป็นที่หัวเราะของคนทั้งนิกายไปแล้ว!” เฉียนหนานกล่าวขึ้นมาด้วยท่าทางสะใจ

โจวชุนนั้นยิ้มขึ้นมาอย่างภาคภูมิ “เรื่องเล็กน้อยน่า! แต่ข่าวนี้มันก็ไปเร็วกว่าที่ข้าคาดไว้มาก! ดูท่ามันคงมีใครคอยช่วยสุมไฟให้แน่นอน!”

หวู่เจียงนั้นหัวเราะขึ้นพร้อมพยักหน้า “ผีเฒ่าจั่วเฉินมันพูดกล่าวอยู่ทุกวันอยากให้ศิษย์นิกายไปตายในสงคราม มันช่างหัวรั้นนัก! ดูท่าไอ้เด็กนี่จะได้นิสัยมันมาเต็มๆ! แต่มันก็ต้องขอบคุณไอ้เด็กนี่นะ เท่านี้ผีเฒ่าจั่วเฉินมันก็คงเสียหน้ากู่ไม่กลับแล้ว!”

พูดไปหวู่เจียงนั้นก็ยิ้มหัวเราะลั่นขึ้น

คำพูดของคนทั้งหลายนั้นมันไม่มีความเคารพต่อจั่วเฉินเลยแม้แต่น้อย

หากให้พูดจริงๆ แล้วพวกเขาเองก็เกลียดชังจั่วเฉินอยู่มาตั้งแต่ต้น

ลับหลังนั้นพวกเขาย่อมจะหาเรื่องนินทาพวกหัวสมัยใหม่กันไม่ขาดปาก

ที่สำคัญไปกว่านั้นข่าวนี้ที่แพร่ออกไปได้รวดเร็วปานนี้ย่อมจะเกินมือโจวชุนคนเดียว ดูอย่างไรก็ต้องมีมหาจักรพรรดิมาร่วมวงด้วยแน่

คนที่ไม่ชอบหน้าจั่วเฉินนั้นไม่ได้มีน้อยๆ

“สมน้ำหน้ามัน! ผีเฒ่าจั่วเฉินนั้นมันเอาแต่บอกให้เราไปตายที่เขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์กันทุกวัน คนมากมายแค่ไหนแล้วที่หลงเชื่อมันจนไปตายลงที่เขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์! ครั้งนี้แหละมันเป็นการแก้แค้นที่เหมาะสมนัก!” โจวชุนนั้นกล่าวขึ้นอย่างเย้ยหยัน

หวู่เจียงนั้นยิ้มตอบกลับไป “ที่น่าขันคือไอ้เด็กคนนั้นมันคิดว่าแค่มีอาวุโสสูงส่งแล้วตัวเองจะเก่งกาจเหนือล้ำฟ้าดิน! คนที่เหนือกว่าจั่วเฉินในนิกายยาสุดล้ำนี้มันไม่ได้มีแค่คนสองคน! จริงด้วยสิ โจวชุนเจ้าคิดว่าใครกันที่ช่วยเหลือเราในเรื่องนี้?”

โจวชุนยิ้มกว้างขึ้น “ถามข้านี้เจ้าจะทำเป็นไม่รู้? นอกจากท่านผู้นั้นแล้วจะมีใครได้?”

หวู่เจียงนั้นยิ้มกว้างขึ้นตอบ “ผีเฒ่าจั่วเฉินนั้นมันคิดจะลากมหาจักรพรรดิฉินชานลงตำแหน่งมาหลายที มหาจักรพรรดิฉินชานท่านเองก็คงเกลียดชังมันสุดใจเช่นกัน! นอกจากท่านแล้วมันก็คงไม่มีใครจริงๆ!”

“หลังจากเรื่องครั้งนี้แล้วเย่หยวนมันก็คงไม่มีที่จะอยู่ในนิกายได้อีกต่อไป บางทีหลังจากนี้มหาจักรพรรดิฉินชานอาจจะหาเรื่องส่งมันไปยังเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์เองเสียก็ได้”

ตึง!

คนทั้งหลายนั้นกำลังคุยกันอย่างสนุกสนานแต่จู่ๆ มันก็มีคนถีบประตูห้องส่วนตัวเข้ามาอย่างไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม

หวู่เจียงนั้นหันกลับไปอย่างไม่พอใจแต่เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นใครนั้นเขาก็ต้องยั้งปากลงทันที

เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกไม่ดีขึ้นในใจ

“ศ…ศิษย์พี่หลิงมาหาเรานี้มีคำสั่งอะไรให้เรารับใช้หรือไม่?” หวู่เจียงกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าเหยเก

คนที่มาถึงนั้นคือหลิงเจียง ศิษย์จากโถงบังคับกฎ

ศิษย์ของโถงบังคับกฎนั้นมีอำนาจเหนือกว่าศิษย์ทั่วไปในระดับเดียวกันมาก หลิงเจียงคนนี้เป็นคนที่ดูแลจักรพรรดิเที่ยงและจักรพรรดิเซียนทั้งหลายในบริเวณ

หลิงเจียงนั้นบุกเข้ามาด้วยท่าทางเช่นนี้มันต้องไม่ได้มาดีแล้ว!

หรือว่าเจ้าเด็กเย่หยวนนั้นจะจนตรอกจนไปขอให้โถงบังคับกฎออกมาจัดการพวกเขา?

เพราะจนถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่เชื่อว่าเย่หยวนจะสามารถขับไล่พวกเขาทั้งร้อยกว่าคนไปยังเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์ได้

จำนวนคนมากมายขนาดนี้มันย่อมจะเกี่ยวพันกับหลายตระกูล

เดิมทีแล้วฝ่ายหัวสมัยใหม่นั้นก็เคยคิดทำเรื่องเช่นนี้แต่สุดท้ายก็ถูกปัดตกไป

หลิงเจียงนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าเรียบเฉย “หวู่เจียง เจ้าพาคนในหน่วยไปรวมทัพที่ยอดใจสงบและออกเดินทางไปเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์ในทันที!”

สีหน้าของคนทั้งสามที่คุยกันอยู่นั้นซีดขาวลงอย่างไม่อยากเชื่อหู

นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?

ไอ้เด็กนั่นมันทำได้จริง?

หรือว่ามหาจักรพรรดิทั้งหลายนั้นจะไม่สนใจพวกเขาเลย?

หรือว่าฝ่ายอนุรักษ์ของพวกเขานั้นจะปล่อยให้ฝ่ายสมัยใหม่ทำอะไรตามใจชอบ?

“ข้า…ข้าขอพบอาจารย์ลุงหยุนไห่ก่อน!” หวู่เจียงนั้นกัดฟันร้องตอบกลับไป

มหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์เจิ้งหยุนไห่นั้นคือคนที่หนุนหลังหวู่เจียงอยู่

เขาย่อมจะไม่ปล่อยให้หวู่เจียงต้องไปเสี่ยงตายง่ายๆ เช่นนี้!

แต่ว่าหลิงเจียงนั้นกลับไม่คิดสนใจ “ไม่ต้อง เจ้าไม่มีหวังจะเปลี่ยนเรื่องนี้ได้แล้ว คำสั่งนี้มันมาจากท่านเจ้านิกายเอง ไม่มีใครจะปกป้องเจ้าได้!”

“หือ?! ท…ท่านเจ้านิกาย?” หวู่เจียงนั้นแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเอง

ทำไมเจ้านิกายผู้สูงส่งถึงได้มาสนใจเรื่องระหว่างจักรพรรดิเที่ยงกัน?

นี่มันไม่มีทางเป็นไปได้เลย!

แต่หวู่เจียงนั้นรู้ดีว่าหลิงเจียงมิใช่คนที่จะล้อเล่นในหน้าที่

ไม่มีใครกล้าเอาเรื่องนี้มาล้อเล่น!

แม้ว่าเจ้านิกายนั้นจะไม่ได้มีอำนาจเด็ดขาดในนิกายแต่ว่าเหล่าเจ้าโลกและผู้อาวุโสในหอสุดแสงนั้นต่างก็ไม่คิดสนใจเรื่องภายในนิกายมากมาย

หากไม่ได้เป็นเรื่องระหว่างนิกายยาสุดล้ำและนิกายภายนอกแล้ว คนที่มีอำนาจภายในนิกายสูงสุดมันก็ยังเป็นเจ้านิกาย!

ไม่มีกล้าขัดนายท่านผู้นี้!

หลิงเจียงนั้นกล่าวขึ้นเสริม “หวู่เจียง รีบๆ หน่อยก็ดี คำสั่งนั้นมีเวลาให้เจ้าแค่ชั่วโมง! หากช้าไปกว่านั้นเจ้าก็ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้นแล้ว!”

พูดจบหลิงเจียงก็เดินหายไป

เขานั้นไม่ต้องคอยควบคุมหวู่เจียงใดๆ เพราะมันไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งจากโถงบังคับกฎอยู่แล้ว

ไม่เช่นนั้นแล้วผลลัพธ์ที่ตามมามันจะยิ่งเสียกว่าไปเสี่ยงตายที่เขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์

หวู่เจียงนั้นแทบลืมหายใจ อีกฝ่ายนั้นไม่เปิดโอกาสใดๆ ให้เขาเลย!

แต่ทำไมมันถึงเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้?

“มัน…มันกลับทำได้จริง? ทำไมท่านเจ้านิกายถึงได้ทำเช่นนี้?” หวู่เจียงนั้นกล่าวขึ้นด้วยหน้าซีดขาวเป็นกระดาษ

เขานั้นบอกเล่าเรื่องราวนี้แก่ทุกคนด้วยตัวเองเพื่อหวังว่าจะเป็นการตบหน้าเย่หยวนและจั่วเฉิน

การตบหน้ามหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์นั้นมันย่อมจะเป็นอะไรที่น่าภาคภูมิ

แต่ตอนนี้เรื่องราวใหญ่โตขึ้นปานนั้นแล้ว ใครกันเล่าที่ถูกตบแทน?

โจวชุนที่ด้านข้างนั้นเองก็ต้องทำหน้าเหยเกขึ้นมาเช่นกัน

ขนทั้งร่างของเขาลุกตั้ง เพราะดูท่าเขาจะหาเรื่องผิดคนแล้ว

การที่เขาไม่ถูกเรียกไปด้วยนั้นไม่ได้หมายความว่าเขาจะรอดจากหายนะ

เพราะข่าวนี้มันถูกปล่อยออกไปจากปากของเขา หากมีใครคิดตามสืบมันก็คงสาวถึงเจตนาของเขาได้ในเวลาแค่พริบตา

ตอนนี้เขาอยากจะหนีหายออกจากนิกายไปให้พ้นๆ!

……………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+