Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2850 ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเป็นคนเช่นนี้!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2850 ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเป็นคนเช่นนี้! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2850 ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเป็นคนเช่นนี้!

เดิมทีแล้วเย่หยวนไม่ได้อยู่ในบ้านอย่างแน่นอน

คนมากมายขนาดนี้ล้อมไว้รอบด้านหน้าหลังแล้วเย่หยวนโผล่ออกมาได้อย่างไร?

แม้แต่จูหยานมหาจักรพรรดิคนนี้เองก็ยังไม่อาจจะอดสะท้านได้เพราะเขานั้นไม่รู้เลยว่าเย่หยวนผ่านพวกเขาไปตอนไหน

แต่เรื่องนี้มันทำให้พวกหวังหลินทั้งหลายยิ้มกว้างขึ้นมา

คนร้ายออกมาแล้ว!

‘จั่วเฉินเก่งกาจมาหรือ? รักศิษย์คนนี้มากมิใช่หรือ?’

‘วันนี้ข้าจะตบหน้าเจ้าให้คนทั้งนิกายดู!’

หวังหลินนั้นมองหน้าจูหยานด้วยความเย้ยหยัน  เจ้าบอกว่ามันไม่อยู่ไม่ใช่หรือ? เวลานี้จะยังพูดอะไรได้อีกไหม? 

จูหยานนั้นได้แต่ต้องทำหน้าเหยเกมองดูเย่หยวนด้วยความคับแค้นใจที่เขาไม่อาจตอบสนองความหวังของศิษย์พี่ทั้งหลายได้

‘เจ้าไม่รู้จักการซ่อนตัวหรือ?’

ออกมาตอนนี้มันจะไม่เท่ากับยอมรับเรื่องที่เป็นเต่าหัวหดหรือ?

หลู่เต้าอี้นั้นหันไปมองเย่หยวนก่อนจะกล่าวขึ้นด้วยเสียงหัวเราะ  เจ้าคือเย่หยวน? ข้าก็นึกว่าเจ้านั้นจะเป็นยอดอัจฉริยะจากที่ไหน เสียเวลาไปเป็นวันสุดท้ายนั้นกลับเป็นแค่เต่าหัวหด! 

เย่หยวนมองหน้าหลู่เต้าอี้ก่อนจะถามขึ้น  เจ้าเป็นใคร? 

หลู่เต้าอี้ยิ้มตอบกลับไป  เจ้าไม่รู้จักข้า? อย่างนั้นก็ฟังให้ดี ข้านั้นคือหลู่เต้าอี้ นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้าอันดับหนึ่งของนิกายยาสุดล้ำ! ไม่นานจากนี้ข้าจะขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของระดับหกด้วย! ข้านั้นมีเป้าหมายแค่อย่างเดียวคือท่านบรรพบุรุษโจวซ่งฉวน! ข้านั้นจะก้าวขึ้นระดับลึกล้ำก่อนบรรลุมหาจักรพรรดิเป็นคนสองของนิกาย! 

คำแนะนำตัวนี้มันช่างเหนือล้ำฟ้าดินอวดอ้างตัวเองอย่างมาก

เพราะว่าการตั้งโจวซ่งฉวนเป็นเป้าหมายนั้นมันเป็นสิ่งที่เกินมือคนทั้งหลายไปมาก

แต่ว่าหลู่เต้าอี้คนนี้มีค่าพอจะกล่าว

ในตอนนี้เขานั้นเป็นเพียงแค่จักรพรรดิเซียนขั้นสุดและกลับสามารถเอาชนะยอดฝีมืออย่างฮั่วจงลงได้

เมื่อเขาก้าวขึ้นไปถึงอาณาจักรจักรพรรดิเที่ยงขั้นสุดแล้วมันย่อมจะไม่แปลกหากเขาบรรลุระดับลึกล้ำได้

หากให้พูดแล้วหลู่เต้าอี้นั้นคงถูกคนมากมายรังเกียจเพราะความโอหัง

แต่ว่ามันกลับไม่มีเรื่องเช่นนั้น!

 หลู่เต้าอี้นั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงหลังออกจากการเก็บตัวมา! ข้าไม่นึกเลยว่าเขาจะเอาท่านโจวซ่งฉวนเป็นเป้าหมายเช่นนี้! 

 แม้มันจะฟังดูโอหังอย่างมากล้นแต่ว่ามันก็ไม่เกินจริงเลย! ข้าได้ยินมาว่าบรรพบุรุษโจวซ่งฉวนท่านเองก็สามารถเอาชนะนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับหกได้ตั้งแต่ตอนยังเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้าเช่นกัน! 

 อาจารย์ลุงฉินชานนั้นได้ศิษย์ที่ดีมาเข้าสำนักจริงๆ! แม้ว่าตอนนี้เราจะอยู่ระดับเจ็ดแต่หากไม่ระวังเราก็อาจจะถูกเขาไล่ทันได้จริงๆ! 

ในศึกก่อนหน้านั้นหลู่เต้าอี้ได้แสดงฝีมือออกมาอย่างเหนือล้ำ

หลังจากเก็บตัวไปนานถึงสิบปีนั้นเขาก็ได้เปลี่ยนแปลงราวกับกลายเป็นคนละคนทำให้คนทั้งนิกายต้องอ้าปาก ค้าง!

ต่อให้จะเป็นตัวโจวซ่งฉวนในตอนหนุ่มๆ นั้นก็คงไม่ได้เก่งกว่าหลู่เต้าอี้ไปมากมาย

บางทีแล้วเมื่อหลู่เต้าอี้บ่มเพาะถึงอาณาจักรจักรพรรดิเที่ยงขั้นสุดแล้วเขาอาจจะบรรลุระดับลึกล้ำได้จริงๆ ก็ได้

เมื่อเย่หยวนได้ยินเช่นนั้นเขาก็อดหัวเราะขึ้นในใจไม่ได้

ระดับลึกล้ำมันยากมาก?

เขากล่าวตอบไป  เก่งปานนั้น? ในเมื่อเจ้าเป็นอันดับหนึ่งแล้วเจ้าจะมาหาข้าเพื่อ? 

หลู่เต้าอี้ตอบกลับไป  ข้านั้นเพิ่งออกมาจากการเก็บตัวเมื่อไม่กี่วันก่อนและได้ยินว่ามียอดอัจฉริยะไร้เปรียบเข้านิกายมา ข้าย่อมจะต้องมาเพื่อเอาชนะเจ้าด้วย! ไม่เช่นนั้นแล้วตำแหน่งอันดับหนึ่งของข้ามันจะไม่มีใครยอมรับกันพอดี! แต่ได้เห็นเจ้าแล้วข้าก็ผิดหวังนัก! เจ้าไม่มีค่าพอจะเป็นคู่ปรับของข้าเลย! 

คำพูดนี้มันมีทั้งที่เขาคิดจริงๆ และที่พูดเพื่อท้าทาย

เขานั้นดูถูกเย่หยวนจริงๆ คิดว่าเย่หยวนไม่มีค่าพอจะเป็นศัตรูของเขาเลย

แต่คำพูดอีกส่วนนั้นก็กล่าวขึ้นมาเพื่อท้าทายเย่หยวนจะได้ตบหน้าเขาต่อหน้าคนได้อย่างถนัด

ทำเช่นนั้นได้มันคงสะใจอย่างมาก!

แต่ใครจะคิดว่าเย่หยวนนั้นกลับยิ้มตอบไปง่ายๆ  คิดอย่างนั้นแล้วจะมายืนอยู่หน้าบ้านข้าทำไมอีก? ไสหัวไปได้แล้ว 

ได้ยินเช่นนั้นคนทั้งหลายก็ต้องหันมามองหน้าเย่หยวนพร้อมๆ กัน

ขี้ขลาดปานนี้?

แม้แต่จูหยานนั้นเองก็ยังผงะไป

จากนั้นมันก็ตามมาด้วยความอับอาย

ทำไมอาจารย์ของเขาถึงไปรับคนเช่นนี้มาเป็นศิษย์? ช่างเป็นคนที่ขี้ขลาดนัก

หากหลู่เต้าอี้นั้นเป็นจักรพรรดิเที่ยงนั้นยังพอว่าแต่หลู่เต้าอี้นั้นเป็นแค่จักรพรรดิเซียนเช่นกัน!

ต่อให้เขาจะรู้ว่าฝีมือสู้ไม่ได้มันก็ไม่ควรถึงขั้นยอมแพ้ตั้งแต่ไม่ทันสู้เช่นนี้ไม่ใช่หรือ?

ไม่เช่นนั้นแล้วคนทั้งหลายจะมองอาจารย์เป็นอย่างไร?

จะมองเจ้าเป็นคนอย่างไร?

ที่สำคัญไปกว่านั้นเย่หยวนยังเพิ่งเข้านิกายมาได้ไม่กี่วัน ต่อให้จะแพ้มันก็ยังมีข้ออ้างมากมายให้ใช้ได้

แต่เย่หยวนกลับไม่คิดเล่นลูกไม้ใดๆ เลย!

พวกเขานั้นผิดหวังอย่างมาก!

หลู่เต้าอี้มองหน้าเย่หยวนก่อนจะหัวเราะขึ้น  เช่นนั้นเจ้ายอมแพ้ข้าแล้ว? 

เย่หยวนส่ายหัวตอบกลับไป  ข้าไม่ได้พูดเช่นนั้น 

หลู่เต้าอี้ผงะไปเมื่อได้ยิน  ในเมื่อเจ้าไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ก็มาประลองกันสิ! 

เย่หยวนส่ายหัวต่อพร้อมกล่าว  ไปเถอะ ข้าไม่ประลองกับเจ้าเพราะมันไม่มีค่าอะไรเลย 

หลู่เต้าอี้อดหัวเราะขึ้นไม่ได้  เช่นนั้นเจ้าจะหนีไปหน้าด้านๆ เช่นนี้? 

 คิดอย่างไรก็เรื่องของเจ้าเถอะ  เย่หยวนนั้นเดินกลับเข้าบ้านไปอย่างไม่สนใจ แต่ภาพนั้นมันช่างดูขี้ขลาดตาขาวในสายตาคนทั้งหลาย

หลู่เต้าอี้นั้นไม่อาจจะทำให้เขาสนใจได้เลย เย่หยวนนั้นไม่แม้แต่จะอยากตบหน้าหลู่เต้าอี้ แค่เอาชนะฮั่วจงได้มันก็เก่งแล้วหรือ?

ตั้งโจวซ่งฉวนเป็นเป้าหมายนั้นเหนือล้ำมาก?

เพียงแค่ว่าท่าทางของเย่หยวนนั้นมันเป็นได้แค่ท่าทางของคนขี้ขลาดในสายตาคน!

ดูอย่างไรก็ไม่กล้ารับคำท้าแต่กลับไม่ยอมรับความพ่ายแพ้

คนเช่นนี้มันย่อมจะไม่มีทางกลายเป็นคนใหญ่คนโตได้แน่!

 ข้าก็คิดไปว่าศิษย์ใหม่ของอาจารย์ลุงจั่วเฉินมันจะเป็นคนเก่งกาจแค่ไหน! ที่แท้ดูสภาพน่าสมเพชเสียจริง! 

 ต่อให้มันจะประลองแพ้เราก็คงไม่ดูถูกมันมากมาย อย่างน้อยๆ มันก็กล้าแสดงฝีมือ! แต่นี่มันไม่มีปัญญาสู้แท้ๆ แต่กลับไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ หน้าไม่อายจริง หึๆ! 

 อะไรวะเนี่ย! อาจารย์ลุงจั่วเฉินนั้นตาบอดแล้วจริงๆ พาคนขี้ขลาดเช่นนี้แต่กลับปกป้องมันเหมือนเป็นสมบัติ! 

การเดินหายไปของเย่หยวนนั้นมันทำให้เกิดเสียงร้องด่าขึ้นตาม

จูหยานและศิษย์น้องทั้งหลายนั้นแทบอยากจะมุดดินหนีไป

นี่มันความอับอายอย่างถึงที่สุด!

หวังจากที่พวกหวู่เจียงทั้งหลายถูกขับไล่ออกไปแล้วพวกเขาก็มองเย่หยวนดีขึ้นมาหน่อยแต่ตอนนี้มันกลับไปเป็นการดูถูกเหมือนเดิมแล้ว

ไม่สิ มันแย่เสียยิ่งกว่าตอนแรกอีก!

เพราะนี่มันมิใช่แค่หน้าเจ้าที่เสียหาย แต่ชื่อเสียงของอาจารย์ด้วย!

หลู่เต้าอี้หัวเราะขึ้น  ศิษย์พี่จูหยาน อาจารย์ลุงจั่วเฉินนั้นฉลาดมาทั้งชีวิตไม่นึกเลยว่าจะมีเวลาที่เขาตามืดบอดเช่นนี้ด้วย! ขยะเช่นนี้ข้าหลู่เต้าอี้ไม่สนใจที่จะตบหน้ามันแล้ว! ศิษย์พี่หวัง ไปเถอะ! 

หวังหลินนั้นยิ้มตอบ  ก็จริง คนเช่นนี้ให้ศิษย์น้องลงมือมันคงมีแต่เสียชื่อเปล่าๆ ไปเถอะ! 

พูดจบพวกหวังหลินก็พาคนสำนักฉินชานจากไป

ตอนนี้มันไม่ต้องแข่งขันใดๆ แล้ว

เพราะนี่มันดีเสียยิ่งกว่าการเอาชนะเย่หยวน

สำนักจั่วเฉินนั้นจะต้องก้มหน้ารับคำเย้ยหยันไปอีกนานหลายปีแน่นอน

ที่สำคัญไปกว่านั้นหลู่เต้าอี้ยังเอาชนะฮั่วจงมาได้จนสะท้านนิกายแล้วด้วย!

เป้าหมายของพวกเขานั้นมันลุล่วงลงอย่างสวยงาม

ในที่พักนั้นจูหยานอดไม่ไหวต้องร้องขึ้นมา  ศิษย์น้องเย่ เจ้าทำเช่นนี้ได้อย่างไร? เจ้านั้นต้องรู้นะว่าเจ้าไม่ได้ตัวคนเดียวอีกแล้ว ชื่อเสียงของอาจารย์ท่านนั้นอยู่บนบ่าของเจ้าด้วย! หากเจ้ายอมแพ้มันก็ยังพอว่าแต่นี่เจ้าไม่ยอมแพ้แล้วกลับไม่รับคำท้าด้วย ชื่อเสียงของอาจารย์ต้องมาเสื่อมเสียเพราะเจ้าแล้ว! 

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไปด้วยใบหน้าเรียบเฉย  ศิษย์พี่สาม ข้านั้นไม่สนใจจะประลองกับหลู่เต้าอี้จริงๆ แข่งกันไปก็เสียเวลาเปล่าๆ! 

จูหยานที่ได้ยินนั้นต้องหัวเราะลั่นขึ้นมา  ฮ่าๆๆ เช่นนั้นแล้วจะบอกว่าตัวเองเก่งกาจกว่ามันมาก? 

เย่หยวนพยักหน้ารับ  แน่นอน 

จูหยานนั้นหัวเราะเย้ยหยันขึ้นมาต่อ  ในเมื่อเจ้าเก่งกว่ามันแล้วทำไมไม่ประลองกับมันให้คนได้เห็นเล่า?! 

เย่หยวนตอบกลับไป  เพราะมันอ่อนแอเกินไป! 

จูหยานนั้นอดหัวเราะขึ้นไม่ได้  ฮ่าๆๆ แม้แต่ข้าที่เป็นศิษย์พี่ของเจ้านี้ก็ยังไม่กล้าบอกว่าหลู่เต้าอี้มันอ่อนแอเลย! เจ้ากลับบอกว่ามันอ่อนแอเกินไป? ศิษย์น้อง เจ้าทำให้ข้าผิดหวังมากจนเกินไปแล้ว! ข้าไม่นึกเลยว่าเจ้าจะเป็นคนเช่นนี้! 

พูดจบจูหยานก็เชิดหน้าเดินออกไปอย่างผิดหวัง

……

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2850 ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเป็นคนเช่นนี้!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2850 ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเป็นคนเช่นนี้! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2850 ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเป็นคนเช่นนี้!

เดิมทีแล้วเย่หยวนไม่ได้อยู่ในบ้านอย่างแน่นอน

คนมากมายขนาดนี้ล้อมไว้รอบด้านหน้าหลังแล้วเย่หยวนโผล่ออกมาได้อย่างไร?

แม้แต่จูหยานมหาจักรพรรดิคนนี้เองก็ยังไม่อาจจะอดสะท้านได้เพราะเขานั้นไม่รู้เลยว่าเย่หยวนผ่านพวกเขาไปตอนไหน

แต่เรื่องนี้มันทำให้พวกหวังหลินทั้งหลายยิ้มกว้างขึ้นมา

คนร้ายออกมาแล้ว!

‘จั่วเฉินเก่งกาจมาหรือ? รักศิษย์คนนี้มากมิใช่หรือ?’

‘วันนี้ข้าจะตบหน้าเจ้าให้คนทั้งนิกายดู!’

หวังหลินนั้นมองหน้าจูหยานด้วยความเย้ยหยัน  เจ้าบอกว่ามันไม่อยู่ไม่ใช่หรือ? เวลานี้จะยังพูดอะไรได้อีกไหม? 

จูหยานนั้นได้แต่ต้องทำหน้าเหยเกมองดูเย่หยวนด้วยความคับแค้นใจที่เขาไม่อาจตอบสนองความหวังของศิษย์พี่ทั้งหลายได้

‘เจ้าไม่รู้จักการซ่อนตัวหรือ?’

ออกมาตอนนี้มันจะไม่เท่ากับยอมรับเรื่องที่เป็นเต่าหัวหดหรือ?

หลู่เต้าอี้นั้นหันไปมองเย่หยวนก่อนจะกล่าวขึ้นด้วยเสียงหัวเราะ  เจ้าคือเย่หยวน? ข้าก็นึกว่าเจ้านั้นจะเป็นยอดอัจฉริยะจากที่ไหน เสียเวลาไปเป็นวันสุดท้ายนั้นกลับเป็นแค่เต่าหัวหด! 

เย่หยวนมองหน้าหลู่เต้าอี้ก่อนจะถามขึ้น  เจ้าเป็นใคร? 

หลู่เต้าอี้ยิ้มตอบกลับไป  เจ้าไม่รู้จักข้า? อย่างนั้นก็ฟังให้ดี ข้านั้นคือหลู่เต้าอี้ นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้าอันดับหนึ่งของนิกายยาสุดล้ำ! ไม่นานจากนี้ข้าจะขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของระดับหกด้วย! ข้านั้นมีเป้าหมายแค่อย่างเดียวคือท่านบรรพบุรุษโจวซ่งฉวน! ข้านั้นจะก้าวขึ้นระดับลึกล้ำก่อนบรรลุมหาจักรพรรดิเป็นคนสองของนิกาย! 

คำแนะนำตัวนี้มันช่างเหนือล้ำฟ้าดินอวดอ้างตัวเองอย่างมาก

เพราะว่าการตั้งโจวซ่งฉวนเป็นเป้าหมายนั้นมันเป็นสิ่งที่เกินมือคนทั้งหลายไปมาก

แต่ว่าหลู่เต้าอี้คนนี้มีค่าพอจะกล่าว

ในตอนนี้เขานั้นเป็นเพียงแค่จักรพรรดิเซียนขั้นสุดและกลับสามารถเอาชนะยอดฝีมืออย่างฮั่วจงลงได้

เมื่อเขาก้าวขึ้นไปถึงอาณาจักรจักรพรรดิเที่ยงขั้นสุดแล้วมันย่อมจะไม่แปลกหากเขาบรรลุระดับลึกล้ำได้

หากให้พูดแล้วหลู่เต้าอี้นั้นคงถูกคนมากมายรังเกียจเพราะความโอหัง

แต่ว่ามันกลับไม่มีเรื่องเช่นนั้น!

 หลู่เต้าอี้นั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงหลังออกจากการเก็บตัวมา! ข้าไม่นึกเลยว่าเขาจะเอาท่านโจวซ่งฉวนเป็นเป้าหมายเช่นนี้! 

 แม้มันจะฟังดูโอหังอย่างมากล้นแต่ว่ามันก็ไม่เกินจริงเลย! ข้าได้ยินมาว่าบรรพบุรุษโจวซ่งฉวนท่านเองก็สามารถเอาชนะนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับหกได้ตั้งแต่ตอนยังเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้าเช่นกัน! 

 อาจารย์ลุงฉินชานนั้นได้ศิษย์ที่ดีมาเข้าสำนักจริงๆ! แม้ว่าตอนนี้เราจะอยู่ระดับเจ็ดแต่หากไม่ระวังเราก็อาจจะถูกเขาไล่ทันได้จริงๆ! 

ในศึกก่อนหน้านั้นหลู่เต้าอี้ได้แสดงฝีมือออกมาอย่างเหนือล้ำ

หลังจากเก็บตัวไปนานถึงสิบปีนั้นเขาก็ได้เปลี่ยนแปลงราวกับกลายเป็นคนละคนทำให้คนทั้งนิกายต้องอ้าปาก ค้าง!

ต่อให้จะเป็นตัวโจวซ่งฉวนในตอนหนุ่มๆ นั้นก็คงไม่ได้เก่งกว่าหลู่เต้าอี้ไปมากมาย

บางทีแล้วเมื่อหลู่เต้าอี้บ่มเพาะถึงอาณาจักรจักรพรรดิเที่ยงขั้นสุดแล้วเขาอาจจะบรรลุระดับลึกล้ำได้จริงๆ ก็ได้

เมื่อเย่หยวนได้ยินเช่นนั้นเขาก็อดหัวเราะขึ้นในใจไม่ได้

ระดับลึกล้ำมันยากมาก?

เขากล่าวตอบไป  เก่งปานนั้น? ในเมื่อเจ้าเป็นอันดับหนึ่งแล้วเจ้าจะมาหาข้าเพื่อ? 

หลู่เต้าอี้ตอบกลับไป  ข้านั้นเพิ่งออกมาจากการเก็บตัวเมื่อไม่กี่วันก่อนและได้ยินว่ามียอดอัจฉริยะไร้เปรียบเข้านิกายมา ข้าย่อมจะต้องมาเพื่อเอาชนะเจ้าด้วย! ไม่เช่นนั้นแล้วตำแหน่งอันดับหนึ่งของข้ามันจะไม่มีใครยอมรับกันพอดี! แต่ได้เห็นเจ้าแล้วข้าก็ผิดหวังนัก! เจ้าไม่มีค่าพอจะเป็นคู่ปรับของข้าเลย! 

คำพูดนี้มันมีทั้งที่เขาคิดจริงๆ และที่พูดเพื่อท้าทาย

เขานั้นดูถูกเย่หยวนจริงๆ คิดว่าเย่หยวนไม่มีค่าพอจะเป็นศัตรูของเขาเลย

แต่คำพูดอีกส่วนนั้นก็กล่าวขึ้นมาเพื่อท้าทายเย่หยวนจะได้ตบหน้าเขาต่อหน้าคนได้อย่างถนัด

ทำเช่นนั้นได้มันคงสะใจอย่างมาก!

แต่ใครจะคิดว่าเย่หยวนนั้นกลับยิ้มตอบไปง่ายๆ  คิดอย่างนั้นแล้วจะมายืนอยู่หน้าบ้านข้าทำไมอีก? ไสหัวไปได้แล้ว 

ได้ยินเช่นนั้นคนทั้งหลายก็ต้องหันมามองหน้าเย่หยวนพร้อมๆ กัน

ขี้ขลาดปานนี้?

แม้แต่จูหยานนั้นเองก็ยังผงะไป

จากนั้นมันก็ตามมาด้วยความอับอาย

ทำไมอาจารย์ของเขาถึงไปรับคนเช่นนี้มาเป็นศิษย์? ช่างเป็นคนที่ขี้ขลาดนัก

หากหลู่เต้าอี้นั้นเป็นจักรพรรดิเที่ยงนั้นยังพอว่าแต่หลู่เต้าอี้นั้นเป็นแค่จักรพรรดิเซียนเช่นกัน!

ต่อให้เขาจะรู้ว่าฝีมือสู้ไม่ได้มันก็ไม่ควรถึงขั้นยอมแพ้ตั้งแต่ไม่ทันสู้เช่นนี้ไม่ใช่หรือ?

ไม่เช่นนั้นแล้วคนทั้งหลายจะมองอาจารย์เป็นอย่างไร?

จะมองเจ้าเป็นคนอย่างไร?

ที่สำคัญไปกว่านั้นเย่หยวนยังเพิ่งเข้านิกายมาได้ไม่กี่วัน ต่อให้จะแพ้มันก็ยังมีข้ออ้างมากมายให้ใช้ได้

แต่เย่หยวนกลับไม่คิดเล่นลูกไม้ใดๆ เลย!

พวกเขานั้นผิดหวังอย่างมาก!

หลู่เต้าอี้มองหน้าเย่หยวนก่อนจะหัวเราะขึ้น  เช่นนั้นเจ้ายอมแพ้ข้าแล้ว? 

เย่หยวนส่ายหัวตอบกลับไป  ข้าไม่ได้พูดเช่นนั้น 

หลู่เต้าอี้ผงะไปเมื่อได้ยิน  ในเมื่อเจ้าไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ก็มาประลองกันสิ! 

เย่หยวนส่ายหัวต่อพร้อมกล่าว  ไปเถอะ ข้าไม่ประลองกับเจ้าเพราะมันไม่มีค่าอะไรเลย 

หลู่เต้าอี้อดหัวเราะขึ้นไม่ได้  เช่นนั้นเจ้าจะหนีไปหน้าด้านๆ เช่นนี้? 

 คิดอย่างไรก็เรื่องของเจ้าเถอะ  เย่หยวนนั้นเดินกลับเข้าบ้านไปอย่างไม่สนใจ แต่ภาพนั้นมันช่างดูขี้ขลาดตาขาวในสายตาคนทั้งหลาย

หลู่เต้าอี้นั้นไม่อาจจะทำให้เขาสนใจได้เลย เย่หยวนนั้นไม่แม้แต่จะอยากตบหน้าหลู่เต้าอี้ แค่เอาชนะฮั่วจงได้มันก็เก่งแล้วหรือ?

ตั้งโจวซ่งฉวนเป็นเป้าหมายนั้นเหนือล้ำมาก?

เพียงแค่ว่าท่าทางของเย่หยวนนั้นมันเป็นได้แค่ท่าทางของคนขี้ขลาดในสายตาคน!

ดูอย่างไรก็ไม่กล้ารับคำท้าแต่กลับไม่ยอมรับความพ่ายแพ้

คนเช่นนี้มันย่อมจะไม่มีทางกลายเป็นคนใหญ่คนโตได้แน่!

 ข้าก็คิดไปว่าศิษย์ใหม่ของอาจารย์ลุงจั่วเฉินมันจะเป็นคนเก่งกาจแค่ไหน! ที่แท้ดูสภาพน่าสมเพชเสียจริง! 

 ต่อให้มันจะประลองแพ้เราก็คงไม่ดูถูกมันมากมาย อย่างน้อยๆ มันก็กล้าแสดงฝีมือ! แต่นี่มันไม่มีปัญญาสู้แท้ๆ แต่กลับไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ หน้าไม่อายจริง หึๆ! 

 อะไรวะเนี่ย! อาจารย์ลุงจั่วเฉินนั้นตาบอดแล้วจริงๆ พาคนขี้ขลาดเช่นนี้แต่กลับปกป้องมันเหมือนเป็นสมบัติ! 

การเดินหายไปของเย่หยวนนั้นมันทำให้เกิดเสียงร้องด่าขึ้นตาม

จูหยานและศิษย์น้องทั้งหลายนั้นแทบอยากจะมุดดินหนีไป

นี่มันความอับอายอย่างถึงที่สุด!

หวังจากที่พวกหวู่เจียงทั้งหลายถูกขับไล่ออกไปแล้วพวกเขาก็มองเย่หยวนดีขึ้นมาหน่อยแต่ตอนนี้มันกลับไปเป็นการดูถูกเหมือนเดิมแล้ว

ไม่สิ มันแย่เสียยิ่งกว่าตอนแรกอีก!

เพราะนี่มันมิใช่แค่หน้าเจ้าที่เสียหาย แต่ชื่อเสียงของอาจารย์ด้วย!

หลู่เต้าอี้หัวเราะขึ้น  ศิษย์พี่จูหยาน อาจารย์ลุงจั่วเฉินนั้นฉลาดมาทั้งชีวิตไม่นึกเลยว่าจะมีเวลาที่เขาตามืดบอดเช่นนี้ด้วย! ขยะเช่นนี้ข้าหลู่เต้าอี้ไม่สนใจที่จะตบหน้ามันแล้ว! ศิษย์พี่หวัง ไปเถอะ! 

หวังหลินนั้นยิ้มตอบ  ก็จริง คนเช่นนี้ให้ศิษย์น้องลงมือมันคงมีแต่เสียชื่อเปล่าๆ ไปเถอะ! 

พูดจบพวกหวังหลินก็พาคนสำนักฉินชานจากไป

ตอนนี้มันไม่ต้องแข่งขันใดๆ แล้ว

เพราะนี่มันดีเสียยิ่งกว่าการเอาชนะเย่หยวน

สำนักจั่วเฉินนั้นจะต้องก้มหน้ารับคำเย้ยหยันไปอีกนานหลายปีแน่นอน

ที่สำคัญไปกว่านั้นหลู่เต้าอี้ยังเอาชนะฮั่วจงมาได้จนสะท้านนิกายแล้วด้วย!

เป้าหมายของพวกเขานั้นมันลุล่วงลงอย่างสวยงาม

ในที่พักนั้นจูหยานอดไม่ไหวต้องร้องขึ้นมา  ศิษย์น้องเย่ เจ้าทำเช่นนี้ได้อย่างไร? เจ้านั้นต้องรู้นะว่าเจ้าไม่ได้ตัวคนเดียวอีกแล้ว ชื่อเสียงของอาจารย์ท่านนั้นอยู่บนบ่าของเจ้าด้วย! หากเจ้ายอมแพ้มันก็ยังพอว่าแต่นี่เจ้าไม่ยอมแพ้แล้วกลับไม่รับคำท้าด้วย ชื่อเสียงของอาจารย์ต้องมาเสื่อมเสียเพราะเจ้าแล้ว! 

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไปด้วยใบหน้าเรียบเฉย  ศิษย์พี่สาม ข้านั้นไม่สนใจจะประลองกับหลู่เต้าอี้จริงๆ แข่งกันไปก็เสียเวลาเปล่าๆ! 

จูหยานที่ได้ยินนั้นต้องหัวเราะลั่นขึ้นมา  ฮ่าๆๆ เช่นนั้นแล้วจะบอกว่าตัวเองเก่งกาจกว่ามันมาก? 

เย่หยวนพยักหน้ารับ  แน่นอน 

จูหยานนั้นหัวเราะเย้ยหยันขึ้นมาต่อ  ในเมื่อเจ้าเก่งกว่ามันแล้วทำไมไม่ประลองกับมันให้คนได้เห็นเล่า?! 

เย่หยวนตอบกลับไป  เพราะมันอ่อนแอเกินไป! 

จูหยานนั้นอดหัวเราะขึ้นไม่ได้  ฮ่าๆๆ แม้แต่ข้าที่เป็นศิษย์พี่ของเจ้านี้ก็ยังไม่กล้าบอกว่าหลู่เต้าอี้มันอ่อนแอเลย! เจ้ากลับบอกว่ามันอ่อนแอเกินไป? ศิษย์น้อง เจ้าทำให้ข้าผิดหวังมากจนเกินไปแล้ว! ข้าไม่นึกเลยว่าเจ้าจะเป็นคนเช่นนี้! 

พูดจบจูหยานก็เชิดหน้าเดินออกไปอย่างผิดหวัง

……

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+