บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 28 เสี่ยวหลิงเซียนผู้ขุ่นเคือง

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 28 เสี่ยวหลิงเซียนผู้ขุ่นเคือง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 28 เสี่ยวหลิงเซียนผู้ขุ่นเคือง
“ท่านเซียนอะไร! ในสวนหมื่นวิญญาณมีเสี่ยวหลิงเซียนอยู่ เจ้าหมอนี่ยังกล้าอวดดีอ้างตนว่าเป็นท่านเซียน”

“ข้าว่าเจ้าหมอนี่คิดจะเกาะกระแสเสี่ยวหลิงเซียนดันตัวเองขึ้นมาเสียมากกว่า ไร้ยางอายสิ้นดี”

“ใช่แล้ว ยังจะเรียกพี่เซียนอะไรอีก! ไม่ใช่ว่าจะเป็นหน้าม้าที่ร้านหินวิญญาณหามากระมัง!”

“บอกว่าความสามารถในการค้นวิญญาณประเมินแร่ทั่วหล้าไร้เทียมทาน ใครจะไปรู้ว่าคือการแสดงหรือไม่”

“แม้กระทั่งเสี่ยวหลิงเซียนก็เปิดหินแค่วันละก้อน แต่เจ้าหมอนี่กลับเปิดอย่างต่อเนื่องมากมายเช่นนี้”

“โลภมากไม่รู้จักพอ ข้าว่าเป็นนักต้มตุ๋นเสียมากกว่า!”

“ใช่แล้ว ใช่แล้ว!”

……

“ห้ามพวกเจ้าใส่ร้ายพี่เซียน”

“แม่นางเสี่ยวหลิงเซียนเนี่ยนะ จะคู่ควรที่เทียบกับพี่เซียนหรือ”

“พี่เซียนช่วยผู้มีวาสนาเปิดหินโดยไม่เสียดายพลังปราณ และยังไม่บังคับเรียกเก็บผลตอบแทน”

“เขาจิตใจดีเช่นนี้ ทุ่มเทเช่นนี้ พวกเจ้ากล้าดียังไงมาว่าเขา!”

……

เสิ่นเทียนชงักไปสักพัก จากนั้นครุ่นคิด

หมายความว่าผู้ชายเหล่านี้เป็นแฟนคลับของเสี่ยวหลิงเซียน?

เป็นเพราะข้าก็มีแฟนคลับเพิ่มขึ้นในสวนหมื่นวิญญาณ ดังนั้นคนเหล่านี้จึงไม่พอใจ?

มองดูผู้ชายเหล่านี้ที่กำลังตำหนิตนเองด้วยความโกรธเคือง

ในใจของเสิ่นเทียนกลับไม่ได้รู้สึกอะไร

ก็แค่พวกคนที่ไม่เข้าใจสถานการณ์ กล่าวหาผู้อื่นอย่างไร้สมองตามมุมมองของตนเอง

บนโลกอินเทอร์เน็ตในภพที่แล้ว เสิ่นเทียนเจอคนประเภทจอมยุทธ์คีย์บอร์ดและแฟนคลับไร้สมองมามากแล้ว

พูดอย่างไม่น่าฟังหน่อย แม้กระทั่งไอดอลที่คนเหล่านี้กำลังติดตาม

ก็มีความเป็นไปได้ที่จะรู้สึกว่าคนเหล่านี้ไร้สมอง

มันไม่คุ้มค่าที่จะมาโกรธเคืองคนเหล่านี้

……

นึกถึงตรงนี้ เสิ่นเทียนยิ้มเล็กน้อย เตรียมตัวเดินออกห่างจากที่นี่

อย่างไรเสีย การอยู่ห่างจากพวกคนมีสติปัญญาต่ำเป็นความเคยชินที่ดี

ทว่าแฟนคลับเหล่านั้นเหมือนจะสังเกตเห็นเสิ่นเทียนแล้ว

พวกเขากรูกันเข้ามาหาเสิ่นเทียนทั้งหมด

แต่ละคนกล่าวกับเสิ่นเทียนด้วยความโกรธ “เจ้าก็คือเสิ่นเอ้าเทียนใช่หรือไม่! ได้ยินมาว่าเจ้าอ้างตนว่าเป็นท่านเซียน เจ้าคิดว่าเจ้าคู่ควรกับชื่อนี้หรือ”

“ในสวนหมื่นวิญญาณมีเสี่ยวหลิงเซียน ฉายา ‘ท่านเซียน’ ของเจ้านี้จงใจจะเป็นคู่แข่งใช่หรือไม่”

“เสิ่นเอ้าเทียน เจ้าคิดว่าทักษะค้นวิญญาณประเมินแร่ของเจ้ากับเสี่ยวหลิงเซียน ใครเหนือกว่ากัน”

……

เผชิญหน้ากับข้อสงสัยและคำถามของผู้คน เสิ่นเทียนไม่ได้ตอบอะไร

เพราะเขารู้ดีว่าเผชิญหน้ากับคนเช่นนี้ ถึงจะอธิบายอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์

วิธีการเอาชนะคนโง่เขลาที่ดีที่สุดก็คือเผชิญหน้ากับคนโง่เขลา

หลังจากนั้นมองข้ามคนโง่เขลาไปอย่างสวยงาม

“หลบหน่อย หลบหน่อย พวกเราต้องรีบไปร้านหินวิญญาณร้านต่อไป!”

กุ้ยกงกงและฉินเกาเข้ามาคุ้มกันเสิ่นเทียน ช่วยเขาขวางคนที่พุ่งเข้ามา

ส่วนผู้มีวาสนาทั้งยี่สิบคนก็ยืนเรียงตัวเป็นกำแพงมนุษย์เพื่อเสิ่นเทียน

อย่างไรก็ดี พวกเขายังหวังท่านเซียนพาพวกเขาไปสู่ความมั่งคั่ง!

ในตอนนั้นเอง มีเสียงตะโกนดังขึ้นจากฝูงชนอย่างกะทันหัน

“เสี่ยวหลิงเซียนมาแล้ว!”

“ว้าว ในที่สุดเสี่ยวหลิงเซียนของข้าก็มาแล้ว ดูเหมือนวันนี้แต่งตัวสวยยิ่งกว่าเมื่อวานเสียอีก!”

“เสี่ยวหลิงเซียน ที่นี่มีคนอ้างตัวว่าเป็นท่านเซียนมาเอาเปรียบเจ้า รีบมาเปิดโปงเขาเร็ว!”

“คนแซ่เสิ่น กล้าแข่งกับเสี่ยวหลิงเซียนหรือไม่ ใครแพ้ไสหัวออกจากสวนหมื่นวิญญาณ!”

“ใช่ ไสหัวออกจากสวนหมื่นวิญญาณ!”

……

ฝูงชนถอยแยกเปิดทาง เสี่ยวหลิงเซียนในชุดกระโปรงยาวเดินเข้ามา

นางโดดเด่นแตกต่างจากคนธรรมดา เยื้องกรายเข้ามาราวกับเทพธิดา ยังมีเสน่ห์งดงามล้มชาติล้มเมืองเฉกเช่นครั้งแรกที่เจอนางเมื่อวาน

แต่ทว่า มองเสี่ยวหลิงเซียนในตอนนี้ จิตใจของเสิ่นเทียนนิ่งสงบ

เหตุผลง่ายมาก เพราะเขารู้ตื้นลึกหนาบางของเสี่ยวหลิงเซียนหมดแล้ว

แม่นางผู้นี้ไม่ใช่เทพธิดาที่เชี่ยวชาญทักษะวิญญาณอะไรทั้งสิ้น

แต่เป็นหน้าม้าขายแร่ตัวจริงเสียงจริงที่ปลอมยิ่งกว่าเสิ่นเทียนเสียอีก!

ใครจะเป็นคนเปิดโปงใครกันแน่!

……

เสี่ยวหลิงเซียนเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเสิ่นเทียนอย่างเชื่องช้าทีละก้าว

นางจ้องเสิ่นเทียน ในแววตาเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง

ใช่แล้ว เต็มไปด้วยความขุ่นเคือง

เพราะนางจำเสิ่นเทียนได้!

เปลี่ยนชุดนักพรต ติดหนวดสองเส้น ไม่สามารถบดบังรูปลักษณ์ที่หล่อเหลาของเสิ่นเทียนได้หมด

“เป็นเจ้าเอง?”

เสี่ยวหลิงเซียนสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วถาม

เสิ่นเทียนอึ้งเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าข้าอุตส่าห์เปลี่ยนโฉมแล้ว แต่เจ้ากลับจำข้าได้

หรือว่านี่คือสัญชาตญาณของผู้หญิง?

ครุ่นคิดสักพัก เสิ่นเทียนก็ไม่ได้ยอมรับ ยิ้มเล็กน้อยแล้วกล่าว “ข้าเอง พบกันอีกแล้ว”

สารภาพตามตรง เสิ่นเทียนไม่ได้รู้สึกต่อต้านเสี่ยวหลิงเซียน

อย่างไรก็ตามในฐานะที่เป็นผู้หญิงไร้ที่พึ่ง การใช้ชีวิตอยู่ในโลกบำเพ็ญเซียนไม่ใช่เรื่องง่าย

เป็นหน้าม้าไอดอลขายแร่ ที่สามารถปฏิเสธที่จะทำตามความคิดไร้ยางอายของเถ้าแก่ที่ไร้มโนธรรมได้ เช่นนี้ก็ถือเป็นเรื่องยากมากแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น ที่เสิ่นเทียนมีธุรกิจบริหารผู้มีวาสนาในปัจจุบัน ก็ยืมความคิดมาจากเสี่ยวหลิงเซียน

ในฐานะที่เขาก็เป็นคนรู้จักตอบแทนบุญคุณ แท้จริงแล้วเสิ่นเทียนก็รู้สึกประทับใจในตัวเสี่ยวหลิงเซียนไม่น้อย

แน่นอนว่าปัจจัยด้านรูปลักษณ์ก็มีอิทธิพลมากในเรื่องนี้เช่นกัน

……

เสิ่นเทียนประทับใจในตัวของเสี่ยวหลิงเซียน แต่ความประทับใจที่เสี่ยวหลิงเซียนมีต่อเสิ่นเทียนค่อนข้างแย่

เรื่องที่เสิ่นเทียนกระทืบคุณชายซ่งเมื่อวาน ทำให้เสี่ยวหลิงเซียนตกใจจนหัวใจจะวาย

ถึงแม้ต่อมาเสิ่นเทียนได้สำแดงชื่อเสียงของเสิ่นเอ้าจนสามารถขู่คุณชายซ่งได้อยู่หมัดแล้ว

แต่เสี่ยวหลิงเซียนก็ชดเชยศิลาวิญญาณไปห้าสิบก้อน เพื่อเป็นค่ายาให้ตระกูลซ่ง

อย่างไรก็ดี เมื่อวานหลังจากที่เสิ่นเทียนสวมบท ‘วีรบุรุษช่วยหญิงงาม’ เสร็จก็ไปทันที

ใครจะไปรู้ว่า ‘ข้าปกป้องเจ้า’ เป็นจริงหรือเท็จ

ถ้าหากเจ้าหมอนี่แค่พูดไปเช่นนั้น ไม่ได้จริงจังอะไรเลย

เช่นนั้นไม่เท่ากับว่านางล่วงเกินตระกูลซ่งอย่างสมบูรณ์แล้วหรอกหรือ แล้วต่อไปจะอยู่ในวงการนี้ต่ออย่างไร

เมื่อวานหลังจากกลับบ้าน เสี่ยวหลิงเซียนนอนไม่หลับทั้งคืนเพราะเรื่องนี้

และวันนี้ เสี่ยวหลิงเซียนเพิ่งจะมาถึงสวนหมื่นวิญญาณ ก็ได้ยินแฟนคลับทะเลาะกับคนอื่นแล้ว

ตอนแรกตั้งใจเอาไว้ว่าจะมาเชิญชวนให้ซื้อสินค้าตามปกติ และเดิมทีเสี่ยวหลิงเซียนก็เตรียมตัวเข้าไปห้ามปรามกลุ่มแฟนคลับที่กำลังทะเลาะกัน

แต่ตอนที่ไปถึงหน้าหอวิญญาณหงส์ นางสังเกตเห็นเสิ่นเทียนที่เหมือนกับนักต้มตุ๋นในชุดนักพรต

ยิ่งไปกว่านั้นข้างกายของเสิ่นเทียน ยังรายล้อมไปด้วยกลุ่มแฟนคลับหญิงสาว

ทันใดนั้น จิตใจของเสี่ยวหลิงเซียนเดือดพล่านขึ้นมาทันที

……

เจ้าหมอนี่น่ารังเกียจมาก!

เมื่อวานลงมือทำร้ายคุณชายซ่งจนน่าเวทนาเช่นนั้น ทำให้ข้าต้องเสียรายได้ทั้งเดือน!

เห็นแก่ที่ข้าก็อยากกระทืบคุณชายซ่ง ข้าจะไม่ถือสาก็แล้วกัน!

แค่นี้ก็ถือว่าใจกว้างพอแล้วกระมัง!

แต่เจ้าหมอนี่ล่ะ!

เมื่อวานข้าเพิ่งบอกกับเขาว่าข้าจัดการดูแลแฟนคลับเพื่อขายสินค้าอย่างไร

แต่ปรากฏว่าพอวันที่สองเขาก็ไปหาแฟนคลับหญิงมากลุ่มหนึ่ง แล้วก็เริ่มแย่งกิจการของข้า

ขาดจรรยาบรรณในยุทธภพมากเกินไปแล้วกระมัง!

หน้าตาดีแล้วแน่มากหรือ!

……

ถึงเสิ่นเทียนจะร่วมมือกับร้านหินวิญญาณเหล่านี้จริง ช่วยขายสินค้าเพื่อหาศิลาวิญญาณเป็นรายได้เล็กน้อย

อันที่จริงเสี่ยวหลิงเซียนก็ไม่ได้มีความเห็นอะไรแต่อย่างใด

เพราะเป้าหมายหลักในการขายสินค้าของนางคือกลุ่มผู้ชาย ส่วนเสิ่นเทียนล้วนแต่เป็นแฟนคลับผู้หญิง

ระดับการทับซ้อนกันของทั้งสองคนถือว่าไม่ได้สูงมาก สามารถแบ่งปันร่วมกันได้อย่างสบาย

อย่างไรก็ดี ทั้งคู่ก็รู้ตื้นลึกหนาบางของอีกฝ่าย

ไม่จำเป็นต้องทำให้ทุกคนถึงขั้นเสียรายได้

ปัญหาคือ เจ้าเสิ่นเทียนหากคิดจะขายสินค้า ช่วยไปที่ร้านหินวิญญาณอื่นได้หรือไม่?

หอวิญญาณหงส์เป็นเพื่อนร่วมงานของข้านะ!

ข้านัดกับเถ้าแก่หอวิญญาณหงส์จะมาแสดงขายสินค้าที่นี่ตั้งแต่เมื่อหลายวันก่อนแล้ว

ตอนนี้เจ้ามาเปิดหินที่นี่ แล้วข้าจะทำอย่างไร!

อย่างนี้มันเป็นการตอบแทนบุญคุณด้วยความแค้นไม่ใช่หรอกหรือ!

นึกถึงตรงนี้ เสี่ยวหลิงเซียนรู้สึกโมโหจนหน้าแดง

ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองของนางเหมือนกับเด็กผู้หญิงที่ถูกทอดทิ้งมาก!

“คนแซ่เสิ่น เจ้าสารเลว!”

…………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 28 เสี่ยวหลิงเซียนผู้ขุ่นเคือง

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 28 เสี่ยวหลิงเซียนผู้ขุ่นเคือง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 28 เสี่ยวหลิงเซียนผู้ขุ่นเคือง
“ท่านเซียนอะไร! ในสวนหมื่นวิญญาณมีเสี่ยวหลิงเซียนอยู่ เจ้าหมอนี่ยังกล้าอวดดีอ้างตนว่าเป็นท่านเซียน”

“ข้าว่าเจ้าหมอนี่คิดจะเกาะกระแสเสี่ยวหลิงเซียนดันตัวเองขึ้นมาเสียมากกว่า ไร้ยางอายสิ้นดี”

“ใช่แล้ว ยังจะเรียกพี่เซียนอะไรอีก! ไม่ใช่ว่าจะเป็นหน้าม้าที่ร้านหินวิญญาณหามากระมัง!”

“บอกว่าความสามารถในการค้นวิญญาณประเมินแร่ทั่วหล้าไร้เทียมทาน ใครจะไปรู้ว่าคือการแสดงหรือไม่”

“แม้กระทั่งเสี่ยวหลิงเซียนก็เปิดหินแค่วันละก้อน แต่เจ้าหมอนี่กลับเปิดอย่างต่อเนื่องมากมายเช่นนี้”

“โลภมากไม่รู้จักพอ ข้าว่าเป็นนักต้มตุ๋นเสียมากกว่า!”

“ใช่แล้ว ใช่แล้ว!”

……

“ห้ามพวกเจ้าใส่ร้ายพี่เซียน”

“แม่นางเสี่ยวหลิงเซียนเนี่ยนะ จะคู่ควรที่เทียบกับพี่เซียนหรือ”

“พี่เซียนช่วยผู้มีวาสนาเปิดหินโดยไม่เสียดายพลังปราณ และยังไม่บังคับเรียกเก็บผลตอบแทน”

“เขาจิตใจดีเช่นนี้ ทุ่มเทเช่นนี้ พวกเจ้ากล้าดียังไงมาว่าเขา!”

……

เสิ่นเทียนชงักไปสักพัก จากนั้นครุ่นคิด

หมายความว่าผู้ชายเหล่านี้เป็นแฟนคลับของเสี่ยวหลิงเซียน?

เป็นเพราะข้าก็มีแฟนคลับเพิ่มขึ้นในสวนหมื่นวิญญาณ ดังนั้นคนเหล่านี้จึงไม่พอใจ?

มองดูผู้ชายเหล่านี้ที่กำลังตำหนิตนเองด้วยความโกรธเคือง

ในใจของเสิ่นเทียนกลับไม่ได้รู้สึกอะไร

ก็แค่พวกคนที่ไม่เข้าใจสถานการณ์ กล่าวหาผู้อื่นอย่างไร้สมองตามมุมมองของตนเอง

บนโลกอินเทอร์เน็ตในภพที่แล้ว เสิ่นเทียนเจอคนประเภทจอมยุทธ์คีย์บอร์ดและแฟนคลับไร้สมองมามากแล้ว

พูดอย่างไม่น่าฟังหน่อย แม้กระทั่งไอดอลที่คนเหล่านี้กำลังติดตาม

ก็มีความเป็นไปได้ที่จะรู้สึกว่าคนเหล่านี้ไร้สมอง

มันไม่คุ้มค่าที่จะมาโกรธเคืองคนเหล่านี้

……

นึกถึงตรงนี้ เสิ่นเทียนยิ้มเล็กน้อย เตรียมตัวเดินออกห่างจากที่นี่

อย่างไรเสีย การอยู่ห่างจากพวกคนมีสติปัญญาต่ำเป็นความเคยชินที่ดี

ทว่าแฟนคลับเหล่านั้นเหมือนจะสังเกตเห็นเสิ่นเทียนแล้ว

พวกเขากรูกันเข้ามาหาเสิ่นเทียนทั้งหมด

แต่ละคนกล่าวกับเสิ่นเทียนด้วยความโกรธ “เจ้าก็คือเสิ่นเอ้าเทียนใช่หรือไม่! ได้ยินมาว่าเจ้าอ้างตนว่าเป็นท่านเซียน เจ้าคิดว่าเจ้าคู่ควรกับชื่อนี้หรือ”

“ในสวนหมื่นวิญญาณมีเสี่ยวหลิงเซียน ฉายา ‘ท่านเซียน’ ของเจ้านี้จงใจจะเป็นคู่แข่งใช่หรือไม่”

“เสิ่นเอ้าเทียน เจ้าคิดว่าทักษะค้นวิญญาณประเมินแร่ของเจ้ากับเสี่ยวหลิงเซียน ใครเหนือกว่ากัน”

……

เผชิญหน้ากับข้อสงสัยและคำถามของผู้คน เสิ่นเทียนไม่ได้ตอบอะไร

เพราะเขารู้ดีว่าเผชิญหน้ากับคนเช่นนี้ ถึงจะอธิบายอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์

วิธีการเอาชนะคนโง่เขลาที่ดีที่สุดก็คือเผชิญหน้ากับคนโง่เขลา

หลังจากนั้นมองข้ามคนโง่เขลาไปอย่างสวยงาม

“หลบหน่อย หลบหน่อย พวกเราต้องรีบไปร้านหินวิญญาณร้านต่อไป!”

กุ้ยกงกงและฉินเกาเข้ามาคุ้มกันเสิ่นเทียน ช่วยเขาขวางคนที่พุ่งเข้ามา

ส่วนผู้มีวาสนาทั้งยี่สิบคนก็ยืนเรียงตัวเป็นกำแพงมนุษย์เพื่อเสิ่นเทียน

อย่างไรก็ดี พวกเขายังหวังท่านเซียนพาพวกเขาไปสู่ความมั่งคั่ง!

ในตอนนั้นเอง มีเสียงตะโกนดังขึ้นจากฝูงชนอย่างกะทันหัน

“เสี่ยวหลิงเซียนมาแล้ว!”

“ว้าว ในที่สุดเสี่ยวหลิงเซียนของข้าก็มาแล้ว ดูเหมือนวันนี้แต่งตัวสวยยิ่งกว่าเมื่อวานเสียอีก!”

“เสี่ยวหลิงเซียน ที่นี่มีคนอ้างตัวว่าเป็นท่านเซียนมาเอาเปรียบเจ้า รีบมาเปิดโปงเขาเร็ว!”

“คนแซ่เสิ่น กล้าแข่งกับเสี่ยวหลิงเซียนหรือไม่ ใครแพ้ไสหัวออกจากสวนหมื่นวิญญาณ!”

“ใช่ ไสหัวออกจากสวนหมื่นวิญญาณ!”

……

ฝูงชนถอยแยกเปิดทาง เสี่ยวหลิงเซียนในชุดกระโปรงยาวเดินเข้ามา

นางโดดเด่นแตกต่างจากคนธรรมดา เยื้องกรายเข้ามาราวกับเทพธิดา ยังมีเสน่ห์งดงามล้มชาติล้มเมืองเฉกเช่นครั้งแรกที่เจอนางเมื่อวาน

แต่ทว่า มองเสี่ยวหลิงเซียนในตอนนี้ จิตใจของเสิ่นเทียนนิ่งสงบ

เหตุผลง่ายมาก เพราะเขารู้ตื้นลึกหนาบางของเสี่ยวหลิงเซียนหมดแล้ว

แม่นางผู้นี้ไม่ใช่เทพธิดาที่เชี่ยวชาญทักษะวิญญาณอะไรทั้งสิ้น

แต่เป็นหน้าม้าขายแร่ตัวจริงเสียงจริงที่ปลอมยิ่งกว่าเสิ่นเทียนเสียอีก!

ใครจะเป็นคนเปิดโปงใครกันแน่!

……

เสี่ยวหลิงเซียนเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเสิ่นเทียนอย่างเชื่องช้าทีละก้าว

นางจ้องเสิ่นเทียน ในแววตาเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง

ใช่แล้ว เต็มไปด้วยความขุ่นเคือง

เพราะนางจำเสิ่นเทียนได้!

เปลี่ยนชุดนักพรต ติดหนวดสองเส้น ไม่สามารถบดบังรูปลักษณ์ที่หล่อเหลาของเสิ่นเทียนได้หมด

“เป็นเจ้าเอง?”

เสี่ยวหลิงเซียนสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วถาม

เสิ่นเทียนอึ้งเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าข้าอุตส่าห์เปลี่ยนโฉมแล้ว แต่เจ้ากลับจำข้าได้

หรือว่านี่คือสัญชาตญาณของผู้หญิง?

ครุ่นคิดสักพัก เสิ่นเทียนก็ไม่ได้ยอมรับ ยิ้มเล็กน้อยแล้วกล่าว “ข้าเอง พบกันอีกแล้ว”

สารภาพตามตรง เสิ่นเทียนไม่ได้รู้สึกต่อต้านเสี่ยวหลิงเซียน

อย่างไรก็ตามในฐานะที่เป็นผู้หญิงไร้ที่พึ่ง การใช้ชีวิตอยู่ในโลกบำเพ็ญเซียนไม่ใช่เรื่องง่าย

เป็นหน้าม้าไอดอลขายแร่ ที่สามารถปฏิเสธที่จะทำตามความคิดไร้ยางอายของเถ้าแก่ที่ไร้มโนธรรมได้ เช่นนี้ก็ถือเป็นเรื่องยากมากแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น ที่เสิ่นเทียนมีธุรกิจบริหารผู้มีวาสนาในปัจจุบัน ก็ยืมความคิดมาจากเสี่ยวหลิงเซียน

ในฐานะที่เขาก็เป็นคนรู้จักตอบแทนบุญคุณ แท้จริงแล้วเสิ่นเทียนก็รู้สึกประทับใจในตัวเสี่ยวหลิงเซียนไม่น้อย

แน่นอนว่าปัจจัยด้านรูปลักษณ์ก็มีอิทธิพลมากในเรื่องนี้เช่นกัน

……

เสิ่นเทียนประทับใจในตัวของเสี่ยวหลิงเซียน แต่ความประทับใจที่เสี่ยวหลิงเซียนมีต่อเสิ่นเทียนค่อนข้างแย่

เรื่องที่เสิ่นเทียนกระทืบคุณชายซ่งเมื่อวาน ทำให้เสี่ยวหลิงเซียนตกใจจนหัวใจจะวาย

ถึงแม้ต่อมาเสิ่นเทียนได้สำแดงชื่อเสียงของเสิ่นเอ้าจนสามารถขู่คุณชายซ่งได้อยู่หมัดแล้ว

แต่เสี่ยวหลิงเซียนก็ชดเชยศิลาวิญญาณไปห้าสิบก้อน เพื่อเป็นค่ายาให้ตระกูลซ่ง

อย่างไรก็ดี เมื่อวานหลังจากที่เสิ่นเทียนสวมบท ‘วีรบุรุษช่วยหญิงงาม’ เสร็จก็ไปทันที

ใครจะไปรู้ว่า ‘ข้าปกป้องเจ้า’ เป็นจริงหรือเท็จ

ถ้าหากเจ้าหมอนี่แค่พูดไปเช่นนั้น ไม่ได้จริงจังอะไรเลย

เช่นนั้นไม่เท่ากับว่านางล่วงเกินตระกูลซ่งอย่างสมบูรณ์แล้วหรอกหรือ แล้วต่อไปจะอยู่ในวงการนี้ต่ออย่างไร

เมื่อวานหลังจากกลับบ้าน เสี่ยวหลิงเซียนนอนไม่หลับทั้งคืนเพราะเรื่องนี้

และวันนี้ เสี่ยวหลิงเซียนเพิ่งจะมาถึงสวนหมื่นวิญญาณ ก็ได้ยินแฟนคลับทะเลาะกับคนอื่นแล้ว

ตอนแรกตั้งใจเอาไว้ว่าจะมาเชิญชวนให้ซื้อสินค้าตามปกติ และเดิมทีเสี่ยวหลิงเซียนก็เตรียมตัวเข้าไปห้ามปรามกลุ่มแฟนคลับที่กำลังทะเลาะกัน

แต่ตอนที่ไปถึงหน้าหอวิญญาณหงส์ นางสังเกตเห็นเสิ่นเทียนที่เหมือนกับนักต้มตุ๋นในชุดนักพรต

ยิ่งไปกว่านั้นข้างกายของเสิ่นเทียน ยังรายล้อมไปด้วยกลุ่มแฟนคลับหญิงสาว

ทันใดนั้น จิตใจของเสี่ยวหลิงเซียนเดือดพล่านขึ้นมาทันที

……

เจ้าหมอนี่น่ารังเกียจมาก!

เมื่อวานลงมือทำร้ายคุณชายซ่งจนน่าเวทนาเช่นนั้น ทำให้ข้าต้องเสียรายได้ทั้งเดือน!

เห็นแก่ที่ข้าก็อยากกระทืบคุณชายซ่ง ข้าจะไม่ถือสาก็แล้วกัน!

แค่นี้ก็ถือว่าใจกว้างพอแล้วกระมัง!

แต่เจ้าหมอนี่ล่ะ!

เมื่อวานข้าเพิ่งบอกกับเขาว่าข้าจัดการดูแลแฟนคลับเพื่อขายสินค้าอย่างไร

แต่ปรากฏว่าพอวันที่สองเขาก็ไปหาแฟนคลับหญิงมากลุ่มหนึ่ง แล้วก็เริ่มแย่งกิจการของข้า

ขาดจรรยาบรรณในยุทธภพมากเกินไปแล้วกระมัง!

หน้าตาดีแล้วแน่มากหรือ!

……

ถึงเสิ่นเทียนจะร่วมมือกับร้านหินวิญญาณเหล่านี้จริง ช่วยขายสินค้าเพื่อหาศิลาวิญญาณเป็นรายได้เล็กน้อย

อันที่จริงเสี่ยวหลิงเซียนก็ไม่ได้มีความเห็นอะไรแต่อย่างใด

เพราะเป้าหมายหลักในการขายสินค้าของนางคือกลุ่มผู้ชาย ส่วนเสิ่นเทียนล้วนแต่เป็นแฟนคลับผู้หญิง

ระดับการทับซ้อนกันของทั้งสองคนถือว่าไม่ได้สูงมาก สามารถแบ่งปันร่วมกันได้อย่างสบาย

อย่างไรก็ดี ทั้งคู่ก็รู้ตื้นลึกหนาบางของอีกฝ่าย

ไม่จำเป็นต้องทำให้ทุกคนถึงขั้นเสียรายได้

ปัญหาคือ เจ้าเสิ่นเทียนหากคิดจะขายสินค้า ช่วยไปที่ร้านหินวิญญาณอื่นได้หรือไม่?

หอวิญญาณหงส์เป็นเพื่อนร่วมงานของข้านะ!

ข้านัดกับเถ้าแก่หอวิญญาณหงส์จะมาแสดงขายสินค้าที่นี่ตั้งแต่เมื่อหลายวันก่อนแล้ว

ตอนนี้เจ้ามาเปิดหินที่นี่ แล้วข้าจะทำอย่างไร!

อย่างนี้มันเป็นการตอบแทนบุญคุณด้วยความแค้นไม่ใช่หรอกหรือ!

นึกถึงตรงนี้ เสี่ยวหลิงเซียนรู้สึกโมโหจนหน้าแดง

ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองของนางเหมือนกับเด็กผู้หญิงที่ถูกทอดทิ้งมาก!

“คนแซ่เสิ่น เจ้าสารเลว!”

…………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+