Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2918 สามบุตรเจาะชาด!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2918 สามบุตรเจาะชาด! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2918 สามบุตรเจาะชาด!

“ที่แห่งนี้คือป่าสุวิมล สถานที่ที่เหล่าศิษย์โถงวิญญาณนิพพานมาบ่มเพาะ และยังเป็นด่านแรกของการทดสอบ! ตอนนี้ข้านั้นเดินเรื่องสมัครให้เจ้าไปแล้ว ที่เหลือเจ้าก็แค่ต้องผ่านป่าสุวิมล เส้นทางคุมวิญญาณ และเตาหลอมวิญญาณทั้งสามด่านไปให้ได้ เมื่อเจ้าผ่านก็จะได้เข้าเป็นศิษย์โถงวิญญาณนิพพานทันที” เหยียนยูเจินอธิบายคร่าวๆ ถึงการทดสอบที่จะเกิดขึ้น

โถงวิญญาณนิพพานนั้นเป็นเส้นทางสู่ส่วนกลางของเผ่าวิญญาณ แต่ไม่ใช่ว่าเผ่าวิญญาณทุกคน จะเป็นส่วนหนึ่งของโถงวิญญาณนิพพาน โถงวิญญาณนิพพานนั้นเหมือนเป็นค่ายสำนักที่ใหญ่ที่สุด หากคิดอยากจะเข้า มันก็ต้องมีการทดสอบที่หนักหน่วง

การทดสอบนี้มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เพราะหากพลาดไปเพียงนิดมันก็อาจจะถึงชีวิตได้! แน่นอนว่าการเสี่ยงชีวิตนี้ มันย่อมคุ้มค่าหากสามารถเข้าโถงวิญญาณนิพพานได้

การควบคุมทรัพยากรของเผ่าวิญญาณนั้นมันเข้มงวดมาก หากเข้าโถงวิญญาณนิพพานได้ คนผู้นั้นก็จะมีโอกาสบรรลุสู่ระดับต่อไปได้

หากคิดอยากจะเข้าถึงเบื้องบนของเผ่าวิญญาณแล้วมันก็ย่อมจะต้องผ่านโถงวิญญาณนิพพานนี้ไป เพราะฉะนั้นชาวเผ่าวิญญาณมากมายจึงได้มารวมตัวกันเข้าทดสอบนี้

ภายในป่าสุวิมลนั้นมันมีวิญญาณเต๋ามากมาย! วิญญาณเต๋านั้นมันคือความคิดที่ตกค้างของชาววิญญาณ การสร้างเต๋าของตัวเองขึ้นมาท่ามกลางเต๋าอื่นๆ นับหมื่นนั้น มันคือเป้าหมายของป่าสุวิมลนี้ แต่ว่าท่ามกลางเต๋านับหมื่นๆ นั้นย่อมจะไม่ยากเลยที่จะหลงลืมความเป็นตัวเองไป

สำหรับชาววิญญาณทั้งหลายนั้นการเข้าไปสู่ป่าสุวิมลมันอาจจะทำให้พวกเขาหลงทาง

และกลายเป็นหนึ่งในวิญญาณเต๋าที่หลงอยู่ภายในได้ง่ายๆ

แน่นอนว่าแม้จะอันตรายแต่มันก็มีประโยชน์มาก เพราะว่าบางคนที่สร้างยอดเต๋าของตัวเองในป่าสุวิมลนี้ได้ พวกเขาจะกลายเป็นยอดคนขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด เพราะฉะนั้นโถงวิญญาณนิพพานจึงได้ปล่อยให้ศิษย์เข้ามาบ่มเพาะ ศึกษาเต๋าภายใน

“เวลาจำกัดนั้นคือสามวัน! หากเจ้าออกจากป่าสุวิมลมาได้ในสามวันแล้วมันก็ถือว่าผ่าน” เหยียนยูเจินกล่าว

ที่เหลือเขาย่อมจะไม่ต้องบอกอะไรอีก เพราะเขานั้นรู้จักเย่หยวนดี และรู้ว่าแค่ป่าสุวิมลนี้หยุดอะไรเย่หยวนไม่ได้อยู่แล้ว

เพียงแค่ว่าเขาก็อยากจะเห็นเช่นกันว่าเย่หยวนนั้นจะทำได้ขนาดไหน

แท้จริงตัวเหยียนยูเจินเองก็คิดอยากจะโม้ตัวเองให้เย่หยวนฟัง

แต่พอคิดไปอีกครั้งเขาก็ต้องหยุดปากตัวเองไว้ก่อน เพราะเขานั้นไม่อยากโดนเย่หยวนตบหน้าหันอีก

ก่อนนั้นตอนที่เขาเข้าทดสอบในป่าสุวิมล เขาใช้เวลาแค่ยี่สิบชั่วโมงก็ออกมาได้

ผลลัพธ์นั้นมันเรียกได้ว่าติดสิบอันดับแรกของโถงวิญญาณนิพพานได้ เป็นอะไรที่เหนือล้ำอย่างมาก!

เพราะเหตุนี้เองที่ทำให้เขาไปต้องตามหาจักรพรรดิชีหยูเข้า

ซึ่งด่านนี้มันไม่ได้ทดสอบพรสวรรค์แต่ทดสอบจิตเต๋า

มีแต่คนที่จิตเต๋ามั่นคงเท่านั้นที่จะผ่านมาได้!

แต่เหยียนยูเจินนั้นรู้จักเย่หยวน รู้ดีว่าจิตเต๋าของเย่หยวนมันมั่นคงปานใด!

ในตอนนี้ที่ทางเข้าป่าสุวิมลนั้นมันมีผู้คนยืนรอเข้ารับการทดสอบอยู่มากมาย

เย่หยวนนั้นเองก็เข้าไปรอกับกลุ่มคนทั้งหลายเช่นกัน

“ถอยไป!” จู่ๆ ก็เกิดเสียงร้องลั่นขึ้นมาจากด้านหลังก่อนที่คนทั้งหลายจะเปิดทางออกช้าๆ

ชายหนุ่มสามคนเดินผ่านทางแหวกนั้นออกมาด้วยมือไพล่หลังท่าทางเหมือนมิใช่คนเข้าทดสอบแม้แต่น้อย

คนอื่นๆ เองก็ดูจะทำหน้าท่าทางกลัวพวกเขา

เย่หยวนได้ยินเสียงคนคุยกันขึ้นมาจากด้านหลัง

“สามคนนี้ใครกัน? ทำไมถึงได้โอหังเช่นนี้?”

“เจ้าไม่เคยได้ยินนามของสามบุตรเจาะชาดหรือ? ไม่นึกเลยว่าพวกเขานั้นจะมาร่วมทดสอบกับเราในครั้งนี้ด้วย!”

“ฉินซื่อเถียน โจวหยู เหอเฉินพวกเขาทั้งสามนั้นคือยอดคนที่กลับมาจากสนามรบเจาะชาด! และข้ายังได้ยินมาว่าพวกเขานั้นสร้างผลงานไว้ที่สนามรบเจาะชาดอย่างมากมายมหาศาล จนถูกผู้อาวุโสทั้งสามรับเข้าเป็นศิษย์ไป! ซึ่งตอนนี้พวกเขาแค่เข้ามาทดสอบเพื่อให้ได้เป็นศิษย์ของโถงวิญญาณนิพพาน อย่างเป็นทางการเท่านั้น!”

“คนทั้งสามนั้นช่างมีพลังงานเน่ารุนแรงล้ำฟ้าดินนัก ข้าไม่กล้าแม้แต่จะเข้าไปใกล้พวกเขาเลย!

มันรุนแรงเกินไป! พวกเขาทั้งสามจะต้องเป็นสามอันดับแรกแน่ๆ แล้ว!”

“ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพวกเขาถึงได้โอหังนัก ที่แท้ก็มากฝีมือจริง!”

คนทั้งหลายนั้นมองดูหน้าคนทั้งสามที่กำลังเดินผ่านกลุ่มคนไป

ที่ใดที่พวกเขาผ่านนั้นมันจะมีทางเปิดออกเสมอ!

มันมิใช่ว่าคนทั้งหลายนั้นอยากจะถอยแต่พวกเขานั้นมีแต่ต้องถอยให้!

เทียบกับคนอื่นๆ แล้วคนทั้งสามนั้นเหมือนจะมิใช่คนรุ่นเดียวกันก็ไม่ปาน

สามอัจฉริยะนี้สังหารรอดชีวิตออกมาจากภูเขาซากศพวิญญาณ

ทำให้พลังงานเน่าที่ออกจากร่างของพวกเขานั้นรุนแรงล้ำฟ้า แถมยังมีร่างกายที่แจ่มชัดอย่างมาก

คนที่อ่อนแอหน่อยอาจจะถูกพลังเน่านี้บดขยี้จนตายได้ง่ายๆ

แต่เผ่าวิญญาณนั้นก็ไม่ได้มีวิญญาณที่อ่อนแอเหมือนเผ่ามนุษย์

โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวฉินซื่อเถียน

และทั้งสามนี้ก็มีคลื่นพลังหนักหน่วงยากจะสังหารได้ลง!

ซึ่งมันก็ย่อมจะยากกว่าการสังหารเผ่าเลือดเสียด้วยซ้ำ!

คนทั้งสามนั้นก้าวเท้าเข้ามาภายในอย่างไม่สนใจใครๆ

“เฮอะ? แค่ขยะก็คิดมาทดสอบเข้าโถงวิญญาณนิพพานด้วย! โอหังหลงตัวเองกันจริงๆ!” ฉินซื่อเถียนกล่าวมาด้วยความเยาะเย้ย

โจวหยูนั้นยิ้มขึ้นตาม “ฝันมันก็ดี! แต่ว่าการเข้ามาทดสอบพร้อมเรานี้ คงทำให้พวกมันหมดความมั่นใจไปทั้งชีวิตแน่แล้ว?”

เหอเฉินยิ้มขึ้น “ลองดูๆ แล้วมันไม่มีใครที่พอสู้ได้เลย! ขยะพวกนี้มันก็ยังกล้าเสนอหน้ามาทดสอบกับเขาด้วย”

โจวหยูนั้นกล่าวขึ้นตาม “หึๆ เป้าหมายของเรานั้นมันมิใช่แค่เข้าโถงวิญญาณนิพพาน! แน่นอนว่าเราจะลดตัวไปเทียบพวกมันไม่ได้!”

ฉินซื่อเถียนหัวเราะขึ้นตาม “เข้ามาทดสอบพร้อมขยะพวกนี้มันทำข้าเสียอารมณ์จริงๆ!”

คนทั้งสามนั้นไม่คิดจะลดเสียงใดๆ แถมพูดจาให้คนทั้งหลายได้ยินเต็มสองรูหู

เมื่อคนรอบๆ ได้ยินพวกเขาก็ต้องกัดฟันด้วยหน้าแดงก่ำขึ้น

คนที่กล้ามาท้าทายโถงวิญญาณนิพพานนั้นล้วนจะมิใช่นักยุทธมือใหม่

อย่างน้อยๆ พวกเขาก็ต้องมีความมั่นใจบ้างถึงกล้ามา

แต่อย่างที่โจวหยูกล่าวนั้น พวกเขาเริ่มจะหมดความมั่นใจลงสิ้นแล้ว

สามบุตรเจาะชาดนั้นแข็งแกร่งเกินไป!

ระหว่างที่สามคนเดินผ่านไปพวกเขาก็มาใกล้ถึงตัวเย่หยวน

คนอื่นๆ รอบตัวเย่หยวนนั้นถอยหลังกลับออกไปและเปิดทางให้

ทว่าเย่หยวนกลับไม่ขยับจนจักรพรรดิเที่ยงขั้นกลางอีกคนข้างๆ ตัวเย่หยวนได้สะกิดเรียกเขา “ยังไม่ถอยมาอีก? เจ้าจะรนหาที่ตายหรือ!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ป่าสุวิมลนี้มีไว้ทดสอบจิตเต๋า หากเจ้าถอยไปตอนนี้ เจ้ายังต้องเข้าป่าสุวิมลอีกหรือ?”

คนผู้นั้นผงะไปทันทีที่ได้ยิน เพราะเมื่อลองได้คิดตามมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ

แต่เวลาเดียวกันนั้นเองเขาก็สัมผัสได้ถึงพลังอันน่ากลัวตรงหน้า

สีหน้าของเขาเปลี่ยนสีไป

และเขาก็รู้สึกเหมือนร่างวิญญาณกำลังแตกสลายจนต้องพุ่งตัวถอยกลับออกไปหลายสิบก้าวทันที

เมื่อเป็นเช่นนั้นตัวเย่หยวนจึงกลายเป็นคนเดียวที่ยังไม่ถอยไป

คนอื่นๆ นั้นเริ่มซุบซิบกล่าวขึ้นมา

“คิดวางตัวใหญ่ปกปิดความหายนะหรือ? แค่ถอยแล้วก็ไม่ต้องเข้าป่าสุวิมล? จะบ้าหรืออย่างไร!”

“นี่มันเรียกว่าวางตัวใหญ่ได้หรือ? นี่มันรนหาที่ตายชัดๆ! อย่าลืมว่าสามบุตรเจาะชาดนั้นแข็งแกร่งมาก

และร่างวิญญาณของมันคงพังทลายลงแน่แล้ว!”

“เฮอะ คนไม่กลัวตายมันมีจริงๆ เว้ย!”

พวกฉินซื่อเถียนทั้งสามนั้นเองก็ย่อมจะเห็นเย่หยวนเช่นกัน

ฉินซื่อเถียนนั้นขมวดคิ้วแน่นอย่างไม่พอใจ

ที่ที่พวกเขาเดินผ่านนั้นมันกลับมีคนไม่เปิดทางให้

ที่สำคัญคำพูดของเย่หยวนนั้นมันยังเข้าหูคนทุกคนอย่างชัดเจน รวมไปถึงพวกเขาทั้งสามด้วย

“เฮอะ! ไอ้เจ้าโง่โอหัง! ไม่มีกำลังแล้วกลับอวดอ้างตัว รนหาที่ตายจริงๆ!”

ฉินซื่อเถียนร้องขึ้นพร้อมเร่งพลังงานเน่าในร่างของตนให้พุ่งสูงขึ้นหลายเท่าตัว!

โจวหยูเองก็หัวเราะขึ้นและปล่อยพลังออกมาตาม!

เหอเฉินเองก็ปล่อยพลังออกมาเช่นกัน!

คนทั้งสามนั้นปล่อยพลังรุนแรงล้นฟ้าออกมาจนทำให้หน้าคนทั้งหลายเปลี่ยนสี

พวกเขานั้นไม่ได้เจาะจงปล่อยคลื่นกดดันใส่ใคร เพียงแค่ปล่อยพลังออกมาจากร่างเท่านั้น

มันจึงทำให้คนรอบๆ ต้องถอยห่างออกไปอีก

ตอนนี้มันเกิดช่องว่างใหญ่ขึ้นตรงกลางกลุ่มคน

นอกจากพวกเขาทั้งสามแล้วมันก็มีแค่เย่หยวนในช่องว่างใหญ่นี้

เย่หยวนนั้นอยู่ในจุดศูนย์กลางของพลังจากร่างคนทั้งสามนี้!

เดิมทีแล้วพวกเขานั้นย่อมจะไม่ได้จงใจปล่อยพลังเน่าออกมา

แต่ตอนนี้พวกเขานั้นคิดจะสั่งสอนเย่หยวนจึงได้ปล่อยพลังออกมาอย่างสุดตัว!

“ถอยไป!” เมื่อฉินซื่อเถียนเดินมาถึงเย่หยวนเขาก็ร้องลั่นขึ้นสั่ง

แต่เย่หยวนนั้นกลับยิ้มตอบกลับไป

ไม่หวั่นไหวราวต้นไม้ใหญ่!

——————————-

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2918 สามบุตรเจาะชาด!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2918 สามบุตรเจาะชาด! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2918 สามบุตรเจาะชาด!

“ที่แห่งนี้คือป่าสุวิมล สถานที่ที่เหล่าศิษย์โถงวิญญาณนิพพานมาบ่มเพาะ และยังเป็นด่านแรกของการทดสอบ! ตอนนี้ข้านั้นเดินเรื่องสมัครให้เจ้าไปแล้ว ที่เหลือเจ้าก็แค่ต้องผ่านป่าสุวิมล เส้นทางคุมวิญญาณ และเตาหลอมวิญญาณทั้งสามด่านไปให้ได้ เมื่อเจ้าผ่านก็จะได้เข้าเป็นศิษย์โถงวิญญาณนิพพานทันที” เหยียนยูเจินอธิบายคร่าวๆ ถึงการทดสอบที่จะเกิดขึ้น

โถงวิญญาณนิพพานนั้นเป็นเส้นทางสู่ส่วนกลางของเผ่าวิญญาณ แต่ไม่ใช่ว่าเผ่าวิญญาณทุกคน จะเป็นส่วนหนึ่งของโถงวิญญาณนิพพาน โถงวิญญาณนิพพานนั้นเหมือนเป็นค่ายสำนักที่ใหญ่ที่สุด หากคิดอยากจะเข้า มันก็ต้องมีการทดสอบที่หนักหน่วง

การทดสอบนี้มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เพราะหากพลาดไปเพียงนิดมันก็อาจจะถึงชีวิตได้! แน่นอนว่าการเสี่ยงชีวิตนี้ มันย่อมคุ้มค่าหากสามารถเข้าโถงวิญญาณนิพพานได้

การควบคุมทรัพยากรของเผ่าวิญญาณนั้นมันเข้มงวดมาก หากเข้าโถงวิญญาณนิพพานได้ คนผู้นั้นก็จะมีโอกาสบรรลุสู่ระดับต่อไปได้

หากคิดอยากจะเข้าถึงเบื้องบนของเผ่าวิญญาณแล้วมันก็ย่อมจะต้องผ่านโถงวิญญาณนิพพานนี้ไป เพราะฉะนั้นชาวเผ่าวิญญาณมากมายจึงได้มารวมตัวกันเข้าทดสอบนี้

ภายในป่าสุวิมลนั้นมันมีวิญญาณเต๋ามากมาย! วิญญาณเต๋านั้นมันคือความคิดที่ตกค้างของชาววิญญาณ การสร้างเต๋าของตัวเองขึ้นมาท่ามกลางเต๋าอื่นๆ นับหมื่นนั้น มันคือเป้าหมายของป่าสุวิมลนี้ แต่ว่าท่ามกลางเต๋านับหมื่นๆ นั้นย่อมจะไม่ยากเลยที่จะหลงลืมความเป็นตัวเองไป

สำหรับชาววิญญาณทั้งหลายนั้นการเข้าไปสู่ป่าสุวิมลมันอาจจะทำให้พวกเขาหลงทาง

และกลายเป็นหนึ่งในวิญญาณเต๋าที่หลงอยู่ภายในได้ง่ายๆ

แน่นอนว่าแม้จะอันตรายแต่มันก็มีประโยชน์มาก เพราะว่าบางคนที่สร้างยอดเต๋าของตัวเองในป่าสุวิมลนี้ได้ พวกเขาจะกลายเป็นยอดคนขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด เพราะฉะนั้นโถงวิญญาณนิพพานจึงได้ปล่อยให้ศิษย์เข้ามาบ่มเพาะ ศึกษาเต๋าภายใน

“เวลาจำกัดนั้นคือสามวัน! หากเจ้าออกจากป่าสุวิมลมาได้ในสามวันแล้วมันก็ถือว่าผ่าน” เหยียนยูเจินกล่าว

ที่เหลือเขาย่อมจะไม่ต้องบอกอะไรอีก เพราะเขานั้นรู้จักเย่หยวนดี และรู้ว่าแค่ป่าสุวิมลนี้หยุดอะไรเย่หยวนไม่ได้อยู่แล้ว

เพียงแค่ว่าเขาก็อยากจะเห็นเช่นกันว่าเย่หยวนนั้นจะทำได้ขนาดไหน

แท้จริงตัวเหยียนยูเจินเองก็คิดอยากจะโม้ตัวเองให้เย่หยวนฟัง

แต่พอคิดไปอีกครั้งเขาก็ต้องหยุดปากตัวเองไว้ก่อน เพราะเขานั้นไม่อยากโดนเย่หยวนตบหน้าหันอีก

ก่อนนั้นตอนที่เขาเข้าทดสอบในป่าสุวิมล เขาใช้เวลาแค่ยี่สิบชั่วโมงก็ออกมาได้

ผลลัพธ์นั้นมันเรียกได้ว่าติดสิบอันดับแรกของโถงวิญญาณนิพพานได้ เป็นอะไรที่เหนือล้ำอย่างมาก!

เพราะเหตุนี้เองที่ทำให้เขาไปต้องตามหาจักรพรรดิชีหยูเข้า

ซึ่งด่านนี้มันไม่ได้ทดสอบพรสวรรค์แต่ทดสอบจิตเต๋า

มีแต่คนที่จิตเต๋ามั่นคงเท่านั้นที่จะผ่านมาได้!

แต่เหยียนยูเจินนั้นรู้จักเย่หยวน รู้ดีว่าจิตเต๋าของเย่หยวนมันมั่นคงปานใด!

ในตอนนี้ที่ทางเข้าป่าสุวิมลนั้นมันมีผู้คนยืนรอเข้ารับการทดสอบอยู่มากมาย

เย่หยวนนั้นเองก็เข้าไปรอกับกลุ่มคนทั้งหลายเช่นกัน

“ถอยไป!” จู่ๆ ก็เกิดเสียงร้องลั่นขึ้นมาจากด้านหลังก่อนที่คนทั้งหลายจะเปิดทางออกช้าๆ

ชายหนุ่มสามคนเดินผ่านทางแหวกนั้นออกมาด้วยมือไพล่หลังท่าทางเหมือนมิใช่คนเข้าทดสอบแม้แต่น้อย

คนอื่นๆ เองก็ดูจะทำหน้าท่าทางกลัวพวกเขา

เย่หยวนได้ยินเสียงคนคุยกันขึ้นมาจากด้านหลัง

“สามคนนี้ใครกัน? ทำไมถึงได้โอหังเช่นนี้?”

“เจ้าไม่เคยได้ยินนามของสามบุตรเจาะชาดหรือ? ไม่นึกเลยว่าพวกเขานั้นจะมาร่วมทดสอบกับเราในครั้งนี้ด้วย!”

“ฉินซื่อเถียน โจวหยู เหอเฉินพวกเขาทั้งสามนั้นคือยอดคนที่กลับมาจากสนามรบเจาะชาด! และข้ายังได้ยินมาว่าพวกเขานั้นสร้างผลงานไว้ที่สนามรบเจาะชาดอย่างมากมายมหาศาล จนถูกผู้อาวุโสทั้งสามรับเข้าเป็นศิษย์ไป! ซึ่งตอนนี้พวกเขาแค่เข้ามาทดสอบเพื่อให้ได้เป็นศิษย์ของโถงวิญญาณนิพพาน อย่างเป็นทางการเท่านั้น!”

“คนทั้งสามนั้นช่างมีพลังงานเน่ารุนแรงล้ำฟ้าดินนัก ข้าไม่กล้าแม้แต่จะเข้าไปใกล้พวกเขาเลย!

มันรุนแรงเกินไป! พวกเขาทั้งสามจะต้องเป็นสามอันดับแรกแน่ๆ แล้ว!”

“ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพวกเขาถึงได้โอหังนัก ที่แท้ก็มากฝีมือจริง!”

คนทั้งหลายนั้นมองดูหน้าคนทั้งสามที่กำลังเดินผ่านกลุ่มคนไป

ที่ใดที่พวกเขาผ่านนั้นมันจะมีทางเปิดออกเสมอ!

มันมิใช่ว่าคนทั้งหลายนั้นอยากจะถอยแต่พวกเขานั้นมีแต่ต้องถอยให้!

เทียบกับคนอื่นๆ แล้วคนทั้งสามนั้นเหมือนจะมิใช่คนรุ่นเดียวกันก็ไม่ปาน

สามอัจฉริยะนี้สังหารรอดชีวิตออกมาจากภูเขาซากศพวิญญาณ

ทำให้พลังงานเน่าที่ออกจากร่างของพวกเขานั้นรุนแรงล้ำฟ้า แถมยังมีร่างกายที่แจ่มชัดอย่างมาก

คนที่อ่อนแอหน่อยอาจจะถูกพลังเน่านี้บดขยี้จนตายได้ง่ายๆ

แต่เผ่าวิญญาณนั้นก็ไม่ได้มีวิญญาณที่อ่อนแอเหมือนเผ่ามนุษย์

โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวฉินซื่อเถียน

และทั้งสามนี้ก็มีคลื่นพลังหนักหน่วงยากจะสังหารได้ลง!

ซึ่งมันก็ย่อมจะยากกว่าการสังหารเผ่าเลือดเสียด้วยซ้ำ!

คนทั้งสามนั้นก้าวเท้าเข้ามาภายในอย่างไม่สนใจใครๆ

“เฮอะ? แค่ขยะก็คิดมาทดสอบเข้าโถงวิญญาณนิพพานด้วย! โอหังหลงตัวเองกันจริงๆ!” ฉินซื่อเถียนกล่าวมาด้วยความเยาะเย้ย

โจวหยูนั้นยิ้มขึ้นตาม “ฝันมันก็ดี! แต่ว่าการเข้ามาทดสอบพร้อมเรานี้ คงทำให้พวกมันหมดความมั่นใจไปทั้งชีวิตแน่แล้ว?”

เหอเฉินยิ้มขึ้น “ลองดูๆ แล้วมันไม่มีใครที่พอสู้ได้เลย! ขยะพวกนี้มันก็ยังกล้าเสนอหน้ามาทดสอบกับเขาด้วย”

โจวหยูนั้นกล่าวขึ้นตาม “หึๆ เป้าหมายของเรานั้นมันมิใช่แค่เข้าโถงวิญญาณนิพพาน! แน่นอนว่าเราจะลดตัวไปเทียบพวกมันไม่ได้!”

ฉินซื่อเถียนหัวเราะขึ้นตาม “เข้ามาทดสอบพร้อมขยะพวกนี้มันทำข้าเสียอารมณ์จริงๆ!”

คนทั้งสามนั้นไม่คิดจะลดเสียงใดๆ แถมพูดจาให้คนทั้งหลายได้ยินเต็มสองรูหู

เมื่อคนรอบๆ ได้ยินพวกเขาก็ต้องกัดฟันด้วยหน้าแดงก่ำขึ้น

คนที่กล้ามาท้าทายโถงวิญญาณนิพพานนั้นล้วนจะมิใช่นักยุทธมือใหม่

อย่างน้อยๆ พวกเขาก็ต้องมีความมั่นใจบ้างถึงกล้ามา

แต่อย่างที่โจวหยูกล่าวนั้น พวกเขาเริ่มจะหมดความมั่นใจลงสิ้นแล้ว

สามบุตรเจาะชาดนั้นแข็งแกร่งเกินไป!

ระหว่างที่สามคนเดินผ่านไปพวกเขาก็มาใกล้ถึงตัวเย่หยวน

คนอื่นๆ รอบตัวเย่หยวนนั้นถอยหลังกลับออกไปและเปิดทางให้

ทว่าเย่หยวนกลับไม่ขยับจนจักรพรรดิเที่ยงขั้นกลางอีกคนข้างๆ ตัวเย่หยวนได้สะกิดเรียกเขา “ยังไม่ถอยมาอีก? เจ้าจะรนหาที่ตายหรือ!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ป่าสุวิมลนี้มีไว้ทดสอบจิตเต๋า หากเจ้าถอยไปตอนนี้ เจ้ายังต้องเข้าป่าสุวิมลอีกหรือ?”

คนผู้นั้นผงะไปทันทีที่ได้ยิน เพราะเมื่อลองได้คิดตามมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ

แต่เวลาเดียวกันนั้นเองเขาก็สัมผัสได้ถึงพลังอันน่ากลัวตรงหน้า

สีหน้าของเขาเปลี่ยนสีไป

และเขาก็รู้สึกเหมือนร่างวิญญาณกำลังแตกสลายจนต้องพุ่งตัวถอยกลับออกไปหลายสิบก้าวทันที

เมื่อเป็นเช่นนั้นตัวเย่หยวนจึงกลายเป็นคนเดียวที่ยังไม่ถอยไป

คนอื่นๆ นั้นเริ่มซุบซิบกล่าวขึ้นมา

“คิดวางตัวใหญ่ปกปิดความหายนะหรือ? แค่ถอยแล้วก็ไม่ต้องเข้าป่าสุวิมล? จะบ้าหรืออย่างไร!”

“นี่มันเรียกว่าวางตัวใหญ่ได้หรือ? นี่มันรนหาที่ตายชัดๆ! อย่าลืมว่าสามบุตรเจาะชาดนั้นแข็งแกร่งมาก

และร่างวิญญาณของมันคงพังทลายลงแน่แล้ว!”

“เฮอะ คนไม่กลัวตายมันมีจริงๆ เว้ย!”

พวกฉินซื่อเถียนทั้งสามนั้นเองก็ย่อมจะเห็นเย่หยวนเช่นกัน

ฉินซื่อเถียนนั้นขมวดคิ้วแน่นอย่างไม่พอใจ

ที่ที่พวกเขาเดินผ่านนั้นมันกลับมีคนไม่เปิดทางให้

ที่สำคัญคำพูดของเย่หยวนนั้นมันยังเข้าหูคนทุกคนอย่างชัดเจน รวมไปถึงพวกเขาทั้งสามด้วย

“เฮอะ! ไอ้เจ้าโง่โอหัง! ไม่มีกำลังแล้วกลับอวดอ้างตัว รนหาที่ตายจริงๆ!”

ฉินซื่อเถียนร้องขึ้นพร้อมเร่งพลังงานเน่าในร่างของตนให้พุ่งสูงขึ้นหลายเท่าตัว!

โจวหยูเองก็หัวเราะขึ้นและปล่อยพลังออกมาตาม!

เหอเฉินเองก็ปล่อยพลังออกมาเช่นกัน!

คนทั้งสามนั้นปล่อยพลังรุนแรงล้นฟ้าออกมาจนทำให้หน้าคนทั้งหลายเปลี่ยนสี

พวกเขานั้นไม่ได้เจาะจงปล่อยคลื่นกดดันใส่ใคร เพียงแค่ปล่อยพลังออกมาจากร่างเท่านั้น

มันจึงทำให้คนรอบๆ ต้องถอยห่างออกไปอีก

ตอนนี้มันเกิดช่องว่างใหญ่ขึ้นตรงกลางกลุ่มคน

นอกจากพวกเขาทั้งสามแล้วมันก็มีแค่เย่หยวนในช่องว่างใหญ่นี้

เย่หยวนนั้นอยู่ในจุดศูนย์กลางของพลังจากร่างคนทั้งสามนี้!

เดิมทีแล้วพวกเขานั้นย่อมจะไม่ได้จงใจปล่อยพลังเน่าออกมา

แต่ตอนนี้พวกเขานั้นคิดจะสั่งสอนเย่หยวนจึงได้ปล่อยพลังออกมาอย่างสุดตัว!

“ถอยไป!” เมื่อฉินซื่อเถียนเดินมาถึงเย่หยวนเขาก็ร้องลั่นขึ้นสั่ง

แต่เย่หยวนนั้นกลับยิ้มตอบกลับไป

ไม่หวั่นไหวราวต้นไม้ใหญ่!

——————————-

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2918 สามบุตรเจาะชาด!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2918 สามบุตรเจาะชาด! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2918 สามบุตรเจาะชาด!

“ที่แห่งนี้คือป่าสุวิมล สถานที่ที่เหล่าศิษย์โถงวิญญาณนิพพานมาบ่มเพาะ และยังเป็นด่านแรกของการทดสอบ! ตอนนี้ข้านั้นเดินเรื่องสมัครให้เจ้าไปแล้ว ที่เหลือเจ้าก็แค่ต้องผ่านป่าสุวิมล เส้นทางคุมวิญญาณ และเตาหลอมวิญญาณทั้งสามด่านไปให้ได้ เมื่อเจ้าผ่านก็จะได้เข้าเป็นศิษย์โถงวิญญาณนิพพานทันที” เหยียนยูเจินอธิบายคร่าวๆ ถึงการทดสอบที่จะเกิดขึ้น

โถงวิญญาณนิพพานนั้นเป็นเส้นทางสู่ส่วนกลางของเผ่าวิญญาณ แต่ไม่ใช่ว่าเผ่าวิญญาณทุกคน จะเป็นส่วนหนึ่งของโถงวิญญาณนิพพาน โถงวิญญาณนิพพานนั้นเหมือนเป็นค่ายสำนักที่ใหญ่ที่สุด หากคิดอยากจะเข้า มันก็ต้องมีการทดสอบที่หนักหน่วง

การทดสอบนี้มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เพราะหากพลาดไปเพียงนิดมันก็อาจจะถึงชีวิตได้! แน่นอนว่าการเสี่ยงชีวิตนี้ มันย่อมคุ้มค่าหากสามารถเข้าโถงวิญญาณนิพพานได้

การควบคุมทรัพยากรของเผ่าวิญญาณนั้นมันเข้มงวดมาก หากเข้าโถงวิญญาณนิพพานได้ คนผู้นั้นก็จะมีโอกาสบรรลุสู่ระดับต่อไปได้

หากคิดอยากจะเข้าถึงเบื้องบนของเผ่าวิญญาณแล้วมันก็ย่อมจะต้องผ่านโถงวิญญาณนิพพานนี้ไป เพราะฉะนั้นชาวเผ่าวิญญาณมากมายจึงได้มารวมตัวกันเข้าทดสอบนี้

ภายในป่าสุวิมลนั้นมันมีวิญญาณเต๋ามากมาย! วิญญาณเต๋านั้นมันคือความคิดที่ตกค้างของชาววิญญาณ การสร้างเต๋าของตัวเองขึ้นมาท่ามกลางเต๋าอื่นๆ นับหมื่นนั้น มันคือเป้าหมายของป่าสุวิมลนี้ แต่ว่าท่ามกลางเต๋านับหมื่นๆ นั้นย่อมจะไม่ยากเลยที่จะหลงลืมความเป็นตัวเองไป

สำหรับชาววิญญาณทั้งหลายนั้นการเข้าไปสู่ป่าสุวิมลมันอาจจะทำให้พวกเขาหลงทาง

และกลายเป็นหนึ่งในวิญญาณเต๋าที่หลงอยู่ภายในได้ง่ายๆ

แน่นอนว่าแม้จะอันตรายแต่มันก็มีประโยชน์มาก เพราะว่าบางคนที่สร้างยอดเต๋าของตัวเองในป่าสุวิมลนี้ได้ พวกเขาจะกลายเป็นยอดคนขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด เพราะฉะนั้นโถงวิญญาณนิพพานจึงได้ปล่อยให้ศิษย์เข้ามาบ่มเพาะ ศึกษาเต๋าภายใน

“เวลาจำกัดนั้นคือสามวัน! หากเจ้าออกจากป่าสุวิมลมาได้ในสามวันแล้วมันก็ถือว่าผ่าน” เหยียนยูเจินกล่าว

ที่เหลือเขาย่อมจะไม่ต้องบอกอะไรอีก เพราะเขานั้นรู้จักเย่หยวนดี และรู้ว่าแค่ป่าสุวิมลนี้หยุดอะไรเย่หยวนไม่ได้อยู่แล้ว

เพียงแค่ว่าเขาก็อยากจะเห็นเช่นกันว่าเย่หยวนนั้นจะทำได้ขนาดไหน

แท้จริงตัวเหยียนยูเจินเองก็คิดอยากจะโม้ตัวเองให้เย่หยวนฟัง

แต่พอคิดไปอีกครั้งเขาก็ต้องหยุดปากตัวเองไว้ก่อน เพราะเขานั้นไม่อยากโดนเย่หยวนตบหน้าหันอีก

ก่อนนั้นตอนที่เขาเข้าทดสอบในป่าสุวิมล เขาใช้เวลาแค่ยี่สิบชั่วโมงก็ออกมาได้

ผลลัพธ์นั้นมันเรียกได้ว่าติดสิบอันดับแรกของโถงวิญญาณนิพพานได้ เป็นอะไรที่เหนือล้ำอย่างมาก!

เพราะเหตุนี้เองที่ทำให้เขาไปต้องตามหาจักรพรรดิชีหยูเข้า

ซึ่งด่านนี้มันไม่ได้ทดสอบพรสวรรค์แต่ทดสอบจิตเต๋า

มีแต่คนที่จิตเต๋ามั่นคงเท่านั้นที่จะผ่านมาได้!

แต่เหยียนยูเจินนั้นรู้จักเย่หยวน รู้ดีว่าจิตเต๋าของเย่หยวนมันมั่นคงปานใด!

ในตอนนี้ที่ทางเข้าป่าสุวิมลนั้นมันมีผู้คนยืนรอเข้ารับการทดสอบอยู่มากมาย

เย่หยวนนั้นเองก็เข้าไปรอกับกลุ่มคนทั้งหลายเช่นกัน

“ถอยไป!” จู่ๆ ก็เกิดเสียงร้องลั่นขึ้นมาจากด้านหลังก่อนที่คนทั้งหลายจะเปิดทางออกช้าๆ

ชายหนุ่มสามคนเดินผ่านทางแหวกนั้นออกมาด้วยมือไพล่หลังท่าทางเหมือนมิใช่คนเข้าทดสอบแม้แต่น้อย

คนอื่นๆ เองก็ดูจะทำหน้าท่าทางกลัวพวกเขา

เย่หยวนได้ยินเสียงคนคุยกันขึ้นมาจากด้านหลัง

“สามคนนี้ใครกัน? ทำไมถึงได้โอหังเช่นนี้?”

“เจ้าไม่เคยได้ยินนามของสามบุตรเจาะชาดหรือ? ไม่นึกเลยว่าพวกเขานั้นจะมาร่วมทดสอบกับเราในครั้งนี้ด้วย!”

“ฉินซื่อเถียน โจวหยู เหอเฉินพวกเขาทั้งสามนั้นคือยอดคนที่กลับมาจากสนามรบเจาะชาด! และข้ายังได้ยินมาว่าพวกเขานั้นสร้างผลงานไว้ที่สนามรบเจาะชาดอย่างมากมายมหาศาล จนถูกผู้อาวุโสทั้งสามรับเข้าเป็นศิษย์ไป! ซึ่งตอนนี้พวกเขาแค่เข้ามาทดสอบเพื่อให้ได้เป็นศิษย์ของโถงวิญญาณนิพพาน อย่างเป็นทางการเท่านั้น!”

“คนทั้งสามนั้นช่างมีพลังงานเน่ารุนแรงล้ำฟ้าดินนัก ข้าไม่กล้าแม้แต่จะเข้าไปใกล้พวกเขาเลย!

มันรุนแรงเกินไป! พวกเขาทั้งสามจะต้องเป็นสามอันดับแรกแน่ๆ แล้ว!”

“ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพวกเขาถึงได้โอหังนัก ที่แท้ก็มากฝีมือจริง!”

คนทั้งหลายนั้นมองดูหน้าคนทั้งสามที่กำลังเดินผ่านกลุ่มคนไป

ที่ใดที่พวกเขาผ่านนั้นมันจะมีทางเปิดออกเสมอ!

มันมิใช่ว่าคนทั้งหลายนั้นอยากจะถอยแต่พวกเขานั้นมีแต่ต้องถอยให้!

เทียบกับคนอื่นๆ แล้วคนทั้งสามนั้นเหมือนจะมิใช่คนรุ่นเดียวกันก็ไม่ปาน

สามอัจฉริยะนี้สังหารรอดชีวิตออกมาจากภูเขาซากศพวิญญาณ

ทำให้พลังงานเน่าที่ออกจากร่างของพวกเขานั้นรุนแรงล้ำฟ้า แถมยังมีร่างกายที่แจ่มชัดอย่างมาก

คนที่อ่อนแอหน่อยอาจจะถูกพลังเน่านี้บดขยี้จนตายได้ง่ายๆ

แต่เผ่าวิญญาณนั้นก็ไม่ได้มีวิญญาณที่อ่อนแอเหมือนเผ่ามนุษย์

โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวฉินซื่อเถียน

และทั้งสามนี้ก็มีคลื่นพลังหนักหน่วงยากจะสังหารได้ลง!

ซึ่งมันก็ย่อมจะยากกว่าการสังหารเผ่าเลือดเสียด้วยซ้ำ!

คนทั้งสามนั้นก้าวเท้าเข้ามาภายในอย่างไม่สนใจใครๆ

“เฮอะ? แค่ขยะก็คิดมาทดสอบเข้าโถงวิญญาณนิพพานด้วย! โอหังหลงตัวเองกันจริงๆ!” ฉินซื่อเถียนกล่าวมาด้วยความเยาะเย้ย

โจวหยูนั้นยิ้มขึ้นตาม “ฝันมันก็ดี! แต่ว่าการเข้ามาทดสอบพร้อมเรานี้ คงทำให้พวกมันหมดความมั่นใจไปทั้งชีวิตแน่แล้ว?”

เหอเฉินยิ้มขึ้น “ลองดูๆ แล้วมันไม่มีใครที่พอสู้ได้เลย! ขยะพวกนี้มันก็ยังกล้าเสนอหน้ามาทดสอบกับเขาด้วย”

โจวหยูนั้นกล่าวขึ้นตาม “หึๆ เป้าหมายของเรานั้นมันมิใช่แค่เข้าโถงวิญญาณนิพพาน! แน่นอนว่าเราจะลดตัวไปเทียบพวกมันไม่ได้!”

ฉินซื่อเถียนหัวเราะขึ้นตาม “เข้ามาทดสอบพร้อมขยะพวกนี้มันทำข้าเสียอารมณ์จริงๆ!”

คนทั้งสามนั้นไม่คิดจะลดเสียงใดๆ แถมพูดจาให้คนทั้งหลายได้ยินเต็มสองรูหู

เมื่อคนรอบๆ ได้ยินพวกเขาก็ต้องกัดฟันด้วยหน้าแดงก่ำขึ้น

คนที่กล้ามาท้าทายโถงวิญญาณนิพพานนั้นล้วนจะมิใช่นักยุทธมือใหม่

อย่างน้อยๆ พวกเขาก็ต้องมีความมั่นใจบ้างถึงกล้ามา

แต่อย่างที่โจวหยูกล่าวนั้น พวกเขาเริ่มจะหมดความมั่นใจลงสิ้นแล้ว

สามบุตรเจาะชาดนั้นแข็งแกร่งเกินไป!

ระหว่างที่สามคนเดินผ่านไปพวกเขาก็มาใกล้ถึงตัวเย่หยวน

คนอื่นๆ รอบตัวเย่หยวนนั้นถอยหลังกลับออกไปและเปิดทางให้

ทว่าเย่หยวนกลับไม่ขยับจนจักรพรรดิเที่ยงขั้นกลางอีกคนข้างๆ ตัวเย่หยวนได้สะกิดเรียกเขา “ยังไม่ถอยมาอีก? เจ้าจะรนหาที่ตายหรือ!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ป่าสุวิมลนี้มีไว้ทดสอบจิตเต๋า หากเจ้าถอยไปตอนนี้ เจ้ายังต้องเข้าป่าสุวิมลอีกหรือ?”

คนผู้นั้นผงะไปทันทีที่ได้ยิน เพราะเมื่อลองได้คิดตามมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ

แต่เวลาเดียวกันนั้นเองเขาก็สัมผัสได้ถึงพลังอันน่ากลัวตรงหน้า

สีหน้าของเขาเปลี่ยนสีไป

และเขาก็รู้สึกเหมือนร่างวิญญาณกำลังแตกสลายจนต้องพุ่งตัวถอยกลับออกไปหลายสิบก้าวทันที

เมื่อเป็นเช่นนั้นตัวเย่หยวนจึงกลายเป็นคนเดียวที่ยังไม่ถอยไป

คนอื่นๆ นั้นเริ่มซุบซิบกล่าวขึ้นมา

“คิดวางตัวใหญ่ปกปิดความหายนะหรือ? แค่ถอยแล้วก็ไม่ต้องเข้าป่าสุวิมล? จะบ้าหรืออย่างไร!”

“นี่มันเรียกว่าวางตัวใหญ่ได้หรือ? นี่มันรนหาที่ตายชัดๆ! อย่าลืมว่าสามบุตรเจาะชาดนั้นแข็งแกร่งมาก

และร่างวิญญาณของมันคงพังทลายลงแน่แล้ว!”

“เฮอะ คนไม่กลัวตายมันมีจริงๆ เว้ย!”

พวกฉินซื่อเถียนทั้งสามนั้นเองก็ย่อมจะเห็นเย่หยวนเช่นกัน

ฉินซื่อเถียนนั้นขมวดคิ้วแน่นอย่างไม่พอใจ

ที่ที่พวกเขาเดินผ่านนั้นมันกลับมีคนไม่เปิดทางให้

ที่สำคัญคำพูดของเย่หยวนนั้นมันยังเข้าหูคนทุกคนอย่างชัดเจน รวมไปถึงพวกเขาทั้งสามด้วย

“เฮอะ! ไอ้เจ้าโง่โอหัง! ไม่มีกำลังแล้วกลับอวดอ้างตัว รนหาที่ตายจริงๆ!”

ฉินซื่อเถียนร้องขึ้นพร้อมเร่งพลังงานเน่าในร่างของตนให้พุ่งสูงขึ้นหลายเท่าตัว!

โจวหยูเองก็หัวเราะขึ้นและปล่อยพลังออกมาตาม!

เหอเฉินเองก็ปล่อยพลังออกมาเช่นกัน!

คนทั้งสามนั้นปล่อยพลังรุนแรงล้นฟ้าออกมาจนทำให้หน้าคนทั้งหลายเปลี่ยนสี

พวกเขานั้นไม่ได้เจาะจงปล่อยคลื่นกดดันใส่ใคร เพียงแค่ปล่อยพลังออกมาจากร่างเท่านั้น

มันจึงทำให้คนรอบๆ ต้องถอยห่างออกไปอีก

ตอนนี้มันเกิดช่องว่างใหญ่ขึ้นตรงกลางกลุ่มคน

นอกจากพวกเขาทั้งสามแล้วมันก็มีแค่เย่หยวนในช่องว่างใหญ่นี้

เย่หยวนนั้นอยู่ในจุดศูนย์กลางของพลังจากร่างคนทั้งสามนี้!

เดิมทีแล้วพวกเขานั้นย่อมจะไม่ได้จงใจปล่อยพลังเน่าออกมา

แต่ตอนนี้พวกเขานั้นคิดจะสั่งสอนเย่หยวนจึงได้ปล่อยพลังออกมาอย่างสุดตัว!

“ถอยไป!” เมื่อฉินซื่อเถียนเดินมาถึงเย่หยวนเขาก็ร้องลั่นขึ้นสั่ง

แต่เย่หยวนนั้นกลับยิ้มตอบกลับไป

ไม่หวั่นไหวราวต้นไม้ใหญ่!

——————————-

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2918 สามบุตรเจาะชาด!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2918 สามบุตรเจาะชาด! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2918 สามบุตรเจาะชาด!

“ที่แห่งนี้คือป่าสุวิมล สถานที่ที่เหล่าศิษย์โถงวิญญาณนิพพานมาบ่มเพาะ และยังเป็นด่านแรกของการทดสอบ! ตอนนี้ข้านั้นเดินเรื่องสมัครให้เจ้าไปแล้ว ที่เหลือเจ้าก็แค่ต้องผ่านป่าสุวิมล เส้นทางคุมวิญญาณ และเตาหลอมวิญญาณทั้งสามด่านไปให้ได้ เมื่อเจ้าผ่านก็จะได้เข้าเป็นศิษย์โถงวิญญาณนิพพานทันที” เหยียนยูเจินอธิบายคร่าวๆ ถึงการทดสอบที่จะเกิดขึ้น

โถงวิญญาณนิพพานนั้นเป็นเส้นทางสู่ส่วนกลางของเผ่าวิญญาณ แต่ไม่ใช่ว่าเผ่าวิญญาณทุกคน จะเป็นส่วนหนึ่งของโถงวิญญาณนิพพาน โถงวิญญาณนิพพานนั้นเหมือนเป็นค่ายสำนักที่ใหญ่ที่สุด หากคิดอยากจะเข้า มันก็ต้องมีการทดสอบที่หนักหน่วง

การทดสอบนี้มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เพราะหากพลาดไปเพียงนิดมันก็อาจจะถึงชีวิตได้! แน่นอนว่าการเสี่ยงชีวิตนี้ มันย่อมคุ้มค่าหากสามารถเข้าโถงวิญญาณนิพพานได้

การควบคุมทรัพยากรของเผ่าวิญญาณนั้นมันเข้มงวดมาก หากเข้าโถงวิญญาณนิพพานได้ คนผู้นั้นก็จะมีโอกาสบรรลุสู่ระดับต่อไปได้

หากคิดอยากจะเข้าถึงเบื้องบนของเผ่าวิญญาณแล้วมันก็ย่อมจะต้องผ่านโถงวิญญาณนิพพานนี้ไป เพราะฉะนั้นชาวเผ่าวิญญาณมากมายจึงได้มารวมตัวกันเข้าทดสอบนี้

ภายในป่าสุวิมลนั้นมันมีวิญญาณเต๋ามากมาย! วิญญาณเต๋านั้นมันคือความคิดที่ตกค้างของชาววิญญาณ การสร้างเต๋าของตัวเองขึ้นมาท่ามกลางเต๋าอื่นๆ นับหมื่นนั้น มันคือเป้าหมายของป่าสุวิมลนี้ แต่ว่าท่ามกลางเต๋านับหมื่นๆ นั้นย่อมจะไม่ยากเลยที่จะหลงลืมความเป็นตัวเองไป

สำหรับชาววิญญาณทั้งหลายนั้นการเข้าไปสู่ป่าสุวิมลมันอาจจะทำให้พวกเขาหลงทาง

และกลายเป็นหนึ่งในวิญญาณเต๋าที่หลงอยู่ภายในได้ง่ายๆ

แน่นอนว่าแม้จะอันตรายแต่มันก็มีประโยชน์มาก เพราะว่าบางคนที่สร้างยอดเต๋าของตัวเองในป่าสุวิมลนี้ได้ พวกเขาจะกลายเป็นยอดคนขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด เพราะฉะนั้นโถงวิญญาณนิพพานจึงได้ปล่อยให้ศิษย์เข้ามาบ่มเพาะ ศึกษาเต๋าภายใน

“เวลาจำกัดนั้นคือสามวัน! หากเจ้าออกจากป่าสุวิมลมาได้ในสามวันแล้วมันก็ถือว่าผ่าน” เหยียนยูเจินกล่าว

ที่เหลือเขาย่อมจะไม่ต้องบอกอะไรอีก เพราะเขานั้นรู้จักเย่หยวนดี และรู้ว่าแค่ป่าสุวิมลนี้หยุดอะไรเย่หยวนไม่ได้อยู่แล้ว

เพียงแค่ว่าเขาก็อยากจะเห็นเช่นกันว่าเย่หยวนนั้นจะทำได้ขนาดไหน

แท้จริงตัวเหยียนยูเจินเองก็คิดอยากจะโม้ตัวเองให้เย่หยวนฟัง

แต่พอคิดไปอีกครั้งเขาก็ต้องหยุดปากตัวเองไว้ก่อน เพราะเขานั้นไม่อยากโดนเย่หยวนตบหน้าหันอีก

ก่อนนั้นตอนที่เขาเข้าทดสอบในป่าสุวิมล เขาใช้เวลาแค่ยี่สิบชั่วโมงก็ออกมาได้

ผลลัพธ์นั้นมันเรียกได้ว่าติดสิบอันดับแรกของโถงวิญญาณนิพพานได้ เป็นอะไรที่เหนือล้ำอย่างมาก!

เพราะเหตุนี้เองที่ทำให้เขาไปต้องตามหาจักรพรรดิชีหยูเข้า

ซึ่งด่านนี้มันไม่ได้ทดสอบพรสวรรค์แต่ทดสอบจิตเต๋า

มีแต่คนที่จิตเต๋ามั่นคงเท่านั้นที่จะผ่านมาได้!

แต่เหยียนยูเจินนั้นรู้จักเย่หยวน รู้ดีว่าจิตเต๋าของเย่หยวนมันมั่นคงปานใด!

ในตอนนี้ที่ทางเข้าป่าสุวิมลนั้นมันมีผู้คนยืนรอเข้ารับการทดสอบอยู่มากมาย

เย่หยวนนั้นเองก็เข้าไปรอกับกลุ่มคนทั้งหลายเช่นกัน

“ถอยไป!” จู่ๆ ก็เกิดเสียงร้องลั่นขึ้นมาจากด้านหลังก่อนที่คนทั้งหลายจะเปิดทางออกช้าๆ

ชายหนุ่มสามคนเดินผ่านทางแหวกนั้นออกมาด้วยมือไพล่หลังท่าทางเหมือนมิใช่คนเข้าทดสอบแม้แต่น้อย

คนอื่นๆ เองก็ดูจะทำหน้าท่าทางกลัวพวกเขา

เย่หยวนได้ยินเสียงคนคุยกันขึ้นมาจากด้านหลัง

“สามคนนี้ใครกัน? ทำไมถึงได้โอหังเช่นนี้?”

“เจ้าไม่เคยได้ยินนามของสามบุตรเจาะชาดหรือ? ไม่นึกเลยว่าพวกเขานั้นจะมาร่วมทดสอบกับเราในครั้งนี้ด้วย!”

“ฉินซื่อเถียน โจวหยู เหอเฉินพวกเขาทั้งสามนั้นคือยอดคนที่กลับมาจากสนามรบเจาะชาด! และข้ายังได้ยินมาว่าพวกเขานั้นสร้างผลงานไว้ที่สนามรบเจาะชาดอย่างมากมายมหาศาล จนถูกผู้อาวุโสทั้งสามรับเข้าเป็นศิษย์ไป! ซึ่งตอนนี้พวกเขาแค่เข้ามาทดสอบเพื่อให้ได้เป็นศิษย์ของโถงวิญญาณนิพพาน อย่างเป็นทางการเท่านั้น!”

“คนทั้งสามนั้นช่างมีพลังงานเน่ารุนแรงล้ำฟ้าดินนัก ข้าไม่กล้าแม้แต่จะเข้าไปใกล้พวกเขาเลย!

มันรุนแรงเกินไป! พวกเขาทั้งสามจะต้องเป็นสามอันดับแรกแน่ๆ แล้ว!”

“ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพวกเขาถึงได้โอหังนัก ที่แท้ก็มากฝีมือจริง!”

คนทั้งหลายนั้นมองดูหน้าคนทั้งสามที่กำลังเดินผ่านกลุ่มคนไป

ที่ใดที่พวกเขาผ่านนั้นมันจะมีทางเปิดออกเสมอ!

มันมิใช่ว่าคนทั้งหลายนั้นอยากจะถอยแต่พวกเขานั้นมีแต่ต้องถอยให้!

เทียบกับคนอื่นๆ แล้วคนทั้งสามนั้นเหมือนจะมิใช่คนรุ่นเดียวกันก็ไม่ปาน

สามอัจฉริยะนี้สังหารรอดชีวิตออกมาจากภูเขาซากศพวิญญาณ

ทำให้พลังงานเน่าที่ออกจากร่างของพวกเขานั้นรุนแรงล้ำฟ้า แถมยังมีร่างกายที่แจ่มชัดอย่างมาก

คนที่อ่อนแอหน่อยอาจจะถูกพลังเน่านี้บดขยี้จนตายได้ง่ายๆ

แต่เผ่าวิญญาณนั้นก็ไม่ได้มีวิญญาณที่อ่อนแอเหมือนเผ่ามนุษย์

โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวฉินซื่อเถียน

และทั้งสามนี้ก็มีคลื่นพลังหนักหน่วงยากจะสังหารได้ลง!

ซึ่งมันก็ย่อมจะยากกว่าการสังหารเผ่าเลือดเสียด้วยซ้ำ!

คนทั้งสามนั้นก้าวเท้าเข้ามาภายในอย่างไม่สนใจใครๆ

“เฮอะ? แค่ขยะก็คิดมาทดสอบเข้าโถงวิญญาณนิพพานด้วย! โอหังหลงตัวเองกันจริงๆ!” ฉินซื่อเถียนกล่าวมาด้วยความเยาะเย้ย

โจวหยูนั้นยิ้มขึ้นตาม “ฝันมันก็ดี! แต่ว่าการเข้ามาทดสอบพร้อมเรานี้ คงทำให้พวกมันหมดความมั่นใจไปทั้งชีวิตแน่แล้ว?”

เหอเฉินยิ้มขึ้น “ลองดูๆ แล้วมันไม่มีใครที่พอสู้ได้เลย! ขยะพวกนี้มันก็ยังกล้าเสนอหน้ามาทดสอบกับเขาด้วย”

โจวหยูนั้นกล่าวขึ้นตาม “หึๆ เป้าหมายของเรานั้นมันมิใช่แค่เข้าโถงวิญญาณนิพพาน! แน่นอนว่าเราจะลดตัวไปเทียบพวกมันไม่ได้!”

ฉินซื่อเถียนหัวเราะขึ้นตาม “เข้ามาทดสอบพร้อมขยะพวกนี้มันทำข้าเสียอารมณ์จริงๆ!”

คนทั้งสามนั้นไม่คิดจะลดเสียงใดๆ แถมพูดจาให้คนทั้งหลายได้ยินเต็มสองรูหู

เมื่อคนรอบๆ ได้ยินพวกเขาก็ต้องกัดฟันด้วยหน้าแดงก่ำขึ้น

คนที่กล้ามาท้าทายโถงวิญญาณนิพพานนั้นล้วนจะมิใช่นักยุทธมือใหม่

อย่างน้อยๆ พวกเขาก็ต้องมีความมั่นใจบ้างถึงกล้ามา

แต่อย่างที่โจวหยูกล่าวนั้น พวกเขาเริ่มจะหมดความมั่นใจลงสิ้นแล้ว

สามบุตรเจาะชาดนั้นแข็งแกร่งเกินไป!

ระหว่างที่สามคนเดินผ่านไปพวกเขาก็มาใกล้ถึงตัวเย่หยวน

คนอื่นๆ รอบตัวเย่หยวนนั้นถอยหลังกลับออกไปและเปิดทางให้

ทว่าเย่หยวนกลับไม่ขยับจนจักรพรรดิเที่ยงขั้นกลางอีกคนข้างๆ ตัวเย่หยวนได้สะกิดเรียกเขา “ยังไม่ถอยมาอีก? เจ้าจะรนหาที่ตายหรือ!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ป่าสุวิมลนี้มีไว้ทดสอบจิตเต๋า หากเจ้าถอยไปตอนนี้ เจ้ายังต้องเข้าป่าสุวิมลอีกหรือ?”

คนผู้นั้นผงะไปทันทีที่ได้ยิน เพราะเมื่อลองได้คิดตามมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ

แต่เวลาเดียวกันนั้นเองเขาก็สัมผัสได้ถึงพลังอันน่ากลัวตรงหน้า

สีหน้าของเขาเปลี่ยนสีไป

และเขาก็รู้สึกเหมือนร่างวิญญาณกำลังแตกสลายจนต้องพุ่งตัวถอยกลับออกไปหลายสิบก้าวทันที

เมื่อเป็นเช่นนั้นตัวเย่หยวนจึงกลายเป็นคนเดียวที่ยังไม่ถอยไป

คนอื่นๆ นั้นเริ่มซุบซิบกล่าวขึ้นมา

“คิดวางตัวใหญ่ปกปิดความหายนะหรือ? แค่ถอยแล้วก็ไม่ต้องเข้าป่าสุวิมล? จะบ้าหรืออย่างไร!”

“นี่มันเรียกว่าวางตัวใหญ่ได้หรือ? นี่มันรนหาที่ตายชัดๆ! อย่าลืมว่าสามบุตรเจาะชาดนั้นแข็งแกร่งมาก

และร่างวิญญาณของมันคงพังทลายลงแน่แล้ว!”

“เฮอะ คนไม่กลัวตายมันมีจริงๆ เว้ย!”

พวกฉินซื่อเถียนทั้งสามนั้นเองก็ย่อมจะเห็นเย่หยวนเช่นกัน

ฉินซื่อเถียนนั้นขมวดคิ้วแน่นอย่างไม่พอใจ

ที่ที่พวกเขาเดินผ่านนั้นมันกลับมีคนไม่เปิดทางให้

ที่สำคัญคำพูดของเย่หยวนนั้นมันยังเข้าหูคนทุกคนอย่างชัดเจน รวมไปถึงพวกเขาทั้งสามด้วย

“เฮอะ! ไอ้เจ้าโง่โอหัง! ไม่มีกำลังแล้วกลับอวดอ้างตัว รนหาที่ตายจริงๆ!”

ฉินซื่อเถียนร้องขึ้นพร้อมเร่งพลังงานเน่าในร่างของตนให้พุ่งสูงขึ้นหลายเท่าตัว!

โจวหยูเองก็หัวเราะขึ้นและปล่อยพลังออกมาตาม!

เหอเฉินเองก็ปล่อยพลังออกมาเช่นกัน!

คนทั้งสามนั้นปล่อยพลังรุนแรงล้นฟ้าออกมาจนทำให้หน้าคนทั้งหลายเปลี่ยนสี

พวกเขานั้นไม่ได้เจาะจงปล่อยคลื่นกดดันใส่ใคร เพียงแค่ปล่อยพลังออกมาจากร่างเท่านั้น

มันจึงทำให้คนรอบๆ ต้องถอยห่างออกไปอีก

ตอนนี้มันเกิดช่องว่างใหญ่ขึ้นตรงกลางกลุ่มคน

นอกจากพวกเขาทั้งสามแล้วมันก็มีแค่เย่หยวนในช่องว่างใหญ่นี้

เย่หยวนนั้นอยู่ในจุดศูนย์กลางของพลังจากร่างคนทั้งสามนี้!

เดิมทีแล้วพวกเขานั้นย่อมจะไม่ได้จงใจปล่อยพลังเน่าออกมา

แต่ตอนนี้พวกเขานั้นคิดจะสั่งสอนเย่หยวนจึงได้ปล่อยพลังออกมาอย่างสุดตัว!

“ถอยไป!” เมื่อฉินซื่อเถียนเดินมาถึงเย่หยวนเขาก็ร้องลั่นขึ้นสั่ง

แต่เย่หยวนนั้นกลับยิ้มตอบกลับไป

ไม่หวั่นไหวราวต้นไม้ใหญ่!

——————————-

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+