Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2922 หลอมร่างวิญญาณ!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2922 หลอมร่างวิญญาณ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2922 หลอมร่างวิญญาณ!

“ข้าก็ขอตอบด้วยคำพูดเดิม คิดอยากจะอวดตัวก็ไปผ่านการทดสอบให้ได้ก่อนเถอะ มาพูดจนดอกไม้ร่วงเสียแต่ตอนนี้สุดท้ายมันจะไม่เป็นการหาเรื่องขายหน้าอีกหรือ?” เย่หยวนกล่าวตอบไป

ฉินซื่อเถียนนั้นได้แต่ต้องกัดฟันแน่นทำหน้าดำเครียดตอบกลับไป “เช่นนั้นเราจะได้รู้กันว่าเส้นทางคุมวิญญาณนี้มันจะตบหน้าใครกันแน่!”

มหาจักรพรรดิคนหนึ่งปรากฏขึ้นต่อหน้าคนทั้งหลายและกล่าวขึ้น “เส้นทางคุมวิญญาณนี้มันมีด้วยกันทั้งหมดสิบระดับ ผ่านได้สองระดับจะถือว่าผ่านการทดสอบครั้งนี้ไปได้ เส้นทางคุมวิญญาณนี้มันมีประโยชน์ในเรื่องการช่วยตีหลอมร่างวิญญาณ ถือว่าเป็นประโยชน์ล้ำกับพวกเจ้าทั้งหลายแต่พวกเจ้าต้องประเมินตัวเองให้ดี ไม่เช่นนั้นจะได้ตายลงง่ายๆ! ตอนนี้สถิติที่ดีที่สุดของเส้นทางคุมวิญญาณมันคือปลายสุดของระดับห้า!”

พวกฉินซื่อเถียนทั้งสามนั้นเริ่มตั้งตัวเตรียมรับมือเพราะครั้งนี้พวกเขาจะต้องตบหน้าเย่หยวนให้ได้!

สิ่งที่ได้มาจากสนามรบเจาะชาดนั้นมันมิใช่สิ่งที่คนอื่นๆ จะเลียนแบบได้ชั่วข้ามคืน ร่างกายของพวกเขานั้นหนักแน่นอย่างมาก

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางเองก็เคยกล่าวไว้ว่าความถึกทนของฉินซื่อเถียนนั้นคงพอจะไปถึงระดับหกได้ง่ายๆ! หรือก็คือเขานั้นสามารถที่จะทำลายสถิติที่สุดปลายระดับห้าได้อย่างไม่ต้องสงสัย

เขานั้นไม่เชื่อว่าเย่หยวนนั้นจะยังคงสามารถตามพวกเขามาได้ในรอบนี้!

ภายใต้คำสั่งของผู้ดูแลนั้นคนกว่าสามร้อยก็พุ่งเข้าไปภายในเส้นทาง

เมื่อเข้ามาถึงเส้นทางคุมวิญญาณ มันก็มีการโจมตีวิญญาณมากมายพุ่งออกมาปกปิดฟ้าดินจนทำให้คน

ทั้งหลายหน้าซีดขาว

ชาวเผ่าวิญญาณทั้งหลายนั้นต่างปล่อยวิชาวิญญาณออกมาตั้งรับมันไว้

แต่ว่ามันก็มีผู้เข้าทดสอบหลายคนต้องร้องลั่นขึ้นมาด้วยน้ำตานองหน้า

“แค่ระดับแรกมันก็รุนแรงปานนี้แล้วหรือ นี่กะจะสังหารกันหรืออย่างไร!”

“คนที่เข้าโถงวิญญาณนิพพานได้มันต้องเป็นสัตว์ประหลาดพันธุ์ใดกัน!”

“อ้าก ข้าไม่ไหวแล้ว! ข้าทนไม่ได้แล้ว! ข้าขอถอนตัว!”

คนที่ผ่านด่านแรกมาได้กว่าสามร้อยคนนี้ย่อมจะเป็นหัวกะทิทั้งสิ้น

เพียงแค่ว่าตอนนี้มันเริ่มมีคนที่ทนไม่ได้ขึ้นมาแล้ว

การโจมตีวิญญาณหนักหน่วงเป็นชุดนั้นมันทำให้ผู้เข้าคัดเลือกทั้งหลายไม่อาจต้านทาน

แต่ละวินาทีที่ผ่านไปนั้นมันมีการโจมตีวิญญาณดั่งเดิมเกิดขึ้นมานับสิบๆ ครั้ง

มันเหมือนดั่งว่าพวกเขานั้นกำลังต่อต้านสายลม!

เส้นทางคุมวิญญาณนั้นยาวถึงสิบกิโลเมตร

แต่ละกิโลเมตรนั้นมันนับเป็นหนึ่งระดับ

แต่ตอนนี้ก้าวออกมายังไม่ถึงพันก้าวพวกเขาก็เริ่มมีคนตายลงแล้ว

แน่นอนว่าต่อให้จะเป็นคนที่อ่อนแอที่สุดในกลุ่มนี้มันก็ยังนับว่าเป็นยอดฝีมือ

พวกฉินซื่อเถียนทั้งสามนั้นไม่สนใจการโจมตีเหมือนพายุคลั่งนี้ใดๆ

ตอนนี้พวกเขาไม่ใช้แม้แต่วิชาป้องกันตัว

ระดับแรกนั้นมันง่ายดายสำหรับพวกเขาอย่างมาก

พวกเขาทั้งสามนั้นเดินผ่านระดับแรกขึ้นระดับสองไปด้วยความเร็วที่ไม่อาจมีใครตามทัน

เพราะว่าระดับตรงหน้ามันง่ายดายพวกเขานั้นยังไม่อยากจะเปลืองแรงและเก็บแรงที่เหลือไว้ต่อต้านระดับหลังๆ

ตอนนี้ทั้งสามนั้นหันกลับไปมองด้านหลังอย่างไม่ได้นัดหมาย

ซึ่งพวกเขาก็มองเห็นว่ามีอีกหลายคนที่ตามพวกเขามาได้ไม่ยาก

แต่เย่หยวนนั้นไม่ได้ปรากฏขึ้นในกลุ่มคนที่ตามหลังมานั้นจนทำให้พวกเขาทั้งสามต้องถอนหายใจยาว

มันคงตามมาไม่ได้แน่แล้ว!

ด่านนี้มันคือด่านของพวกเขา!

“หึ ไอ้เด็กเวรนั่นมันดูเก่งกาจจริงแต่ก็ไม่ได้เหนือล้ำอะไรไปกว่านี้! ในรอบนี้สิ่งที่ต้องใช้นั้นคือร่างวิญญาณ! พวกเราทั้งสามนั้นย่อมจะไม่มีทางแพ้ใครในเรื่องนี้ได้!” ฉินซื่อเถียนกล่าวขึ้น

“หลังจากออกไปแล้วเราคงต้องไปสั่งสอนมันเสียหน่อย!” โจวหยูกล่าวขึ้นด้วยใบหน้าดำมืด

“เรื่องนั้นไม่ต้องกังวลเลย! พ่อเจ้านี้ตั้งแต่รอดจากสงครามกลับมาได้ก็ยังไม่เคยเสียหน้าขนาดนี้มาก่อน! ครั้งนี้ข้าอยากจะรู้นักว่าไอ้เด็กนั่นมันจะเอาอะไรมาโอหังได้อีก!” ฉินซื่อเถียนกล่าวขึ้น

ความอับอายจากด่านแรกนั้นพวกเขายังจำมันฝังใจ

นอกจากว่าจะเสียหน้าเองแล้วเขายังทำให้มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางเสียหน้าด้วย!

พูดจบพวกเขาทั้งสามก็เดินเข้าระดับสองไปอย่างไม่คิดหันกลับไปมองอีก

ในระดับที่สองนั้นนอกจากว่าการโจมตีมันจะเพิ่มมากขึ้นแล้วพลังของมันยังรุนแรงขึ้นอีกหลายเท่า

สำหรับคนอื่นๆ นั้นมันย่อมจะเป็นการทดสอบที่ยากยิ่ง

แต่พวกฉินซื่อเถียนทั้งสามนั้นไม่คิดสนใจใดๆ ใช้วิชาป้องกันตัวออกมาและเดินเข้าไปอย่างไม่หวั่นไหว

นอกเส้นทางคุมวิญญาณนั้นมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นพยักหน้ารับอย่างพึ่งพอใจกับฝีมือของฉินซื่อเถียน

และทั้งสามคน

“หึๆ มาถึงเส้นทางคุมวิญญาณแล้วเย่หยวนนั้นก็เริ่มต้องเผยธาตุแท้ออกมา! ดูสภาพมันแล้วคงจะเป็นเรื่องลำบากที่จะผ่านไปได้แน่!” มหาจักรพรรดิล้ำซีเฉินกล่าวขึ้น

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางเองก็ยิ้มกล่าวขึ้นตาม “หากพูดถึงร่างวิญญาณแล้วในหมู่จักรพรรดิเที่ยงมันคงไม่มีใครเหนือล้ำไปกว่าพวกเขาทั้งสามได้หรอก สนามรบเจาะชาดนั้นมันไม่ต่างอะไรจากนรก พวกเขาทั้งสามนั้นต่อสู้กับหอกดาบของจริงมาสังหารเผ่าเลือดลงไปเป็นภูเขา! แน่นอนว่าร่างวิญญาณของพวกเขานั้นมันย่อมจะอยู่ที่จุดสูงสุดเท่าที่จักรพรรดิเที่ยงจะไปถึงได้”

มหาจักรพรรดิล้ำหลินฟางนั้นกล่าวขึ้นตาม “จิตเต๋าหนักแน่นจริงแต่ว่าไม่มีฝีมือที่มากพอ! เช่นนี้มันก็ไม่ต่างอะไรจากต้นไม้ที่หยั่งรากลึกแต่สูงเท่าต้นหญ้า ไม่อาจจะต่อต้านพลังอะไรได้ หากให้เย่หยวนสู้กับคนทั้งสามนั้นเขาคงได้ตายลงอย่างไม่ต้องสงสัยแน่นอน!”

เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายนั้นพยักหน้ารับตามๆ กัน

ชีหยูได้แต่ทำหน้าเหยเก

เขาเองก็ไม่คิดฝันว่าเย่หยวนจะอ่อนแอปานนี้

ในด่านที่สองนี้เขากลับรั้งท้าย!

ดูท่าแล้วเขาคงไม่อาจจะผ่านระดับแรกไปได้ด้วยซ้ำ

ครั้งนี้แม้แต่เหยียนยูเจินเองก็ยังงง

เขานั้นรู้ว่าร่างวิญญาณของเย่หยวนนั้นมันไม่ได้แข็งแกร่งใดๆ

เพราะสิ่งที่เย่หยวนมีเหนือคนอื่นมันคือวรยุทธวิญญาณ

หรือว่าครั้งนี้เขาจะต้องผิดหวังแล้ว?

ไม่นานนักเหล่ายอดฝีมือทั้งหลายก็ผ่านระดับแรกไปได้เหลือคนในระดับแรกไว้ไม่กี่คน

บ้างนั้นก็บาดเจ็บหนักแต่ฝืนทนไป บ้างนั้นก็ต้องถอนตัวกลับออกไปเพราะไม่อาจจะฝืนต่อไปได้

แต่เย่หยวนนั้นยังอยู่ห่างจากเส้นแบ่งระดับไปอีกหลายพันก้าว

ตอนนี้พวกฉินซื่อเถียนทั้งสามคนนั้นได้ผ่านขึ้นไปจนจะถึงระดับสามแล้ว!

ความเร็วนี้มันทำให้คนทั้งหลายต้องอ้าปากค้าง

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นยิ้มกว้างกล่าวขึ้น “เย่หยวนนั้นมีจิตเต๋าที่หนักแน่นจริง ทำให้เขานั้นหัวรั้นกว่าใครๆ จนทนมาถึงถึงป่านนี้”

มหาจักรพรรดิซีเฉินหัวเราะขึ้น “ไม่ว่าจะหัวรั้นแค่ไหนมันก็เปล่าประโยชน์ ต่อให้จะผ่านระดับแรกมาได้จริงมันก็คงไม่มีทางจะผ่านระดับสองที่พลังเพิ่มพูนขึ้นไปหลายเท่าได้ หากเขาไปถึงระดับสองได้จริงๆ มันอาจจะทำให้ร่างของเขานั้นแตกสลายลงตรงนั้นเลยก็ได้! ข้าว่ามันรนหาที่ตายแล้ว!”

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นไม่คิดสนใจเย่หยวนอีกและหันไปมองพวกฉินซื่อเถียน “ซื่อเถียนนั้นช่างมีพรสวรรค์นัก เขานั้นกลับสามารถทิ้งคนทั้งสองไว้ได้ไกลไม่น้อย ข้าว่าเขาคงเข้าไปถึงระดับหกได้จริงๆ แน่นอน เพียงแค่ว่าไม่รู้ว่าเขาจะเดินในระดับหกได้กี่ก้าว!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นคนทั้งหลายก็ต้องหันมามองมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางเป็นตาเดียว

พวกเขานั้นไม่คิดว่ามหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นจะให้ค่าฉินซื่อเถียนขนาดนั้น

อย่าว่าแต่ระดับหก แค่ระดับห้านั้นมันก็เรียกได้ว่าเป็นนรกแล้ว

เมื่อตอนที่ยอดคนทั้งหลายนั้นยังเป็นแค่จักรพรรดิเที่ยงเองพวกเขานั้นก็ไม่มีปัญญาจะไปถึงระดับหกได้เช่นกัน!

ฉินซื่อเถียนนั้นช่างเป็นสัตว์ประหลาดแท้!

ในเส้นทางคุมวิญญาณนั้นเย่หยวนเดินไปก้าวและหยุดลงพัก ก่อนจะรับการโจมตีวิญญาณจากรอบด้านไว้

ด้วยกำเนิดเทพนั้นหากเขาคิดจะป้องกันการโจมตีวิญญาณทั้งหลายนั้นมันย่อมง่ายดาย

แต่เขาเลือกจะไม่ป้องกัน

เพราะการโจมตีวิญญาณทั้งหลายนี้มันเป็นการช่วยตีหลอมร่างวิญญาณให้เขา!

เขาจึงไม่คิดจะปล่อยโอกาสนี้ผ่านไปอย่างเสียเปล่า

ด่านแรกนั้นมันไม่มีประโยชน์อะไรกับเขา เขาจึงผ่านมาอย่างไม่คิดอะไร

แต่ด่านนี้มันมิใช่

การโจมตีวิญญาณทั้งหลายนั้นเข้ากระแทกร่างวิญญาณของเขาอย่างหนักแน่น!

และมันก็ทำให้ร่างวิญญาณของเขานั้นแข็งแกร่งขึ้นด้วยเช่นกัน…

อย่างที่เหยียนยูเจินคาดเดาไว้ ร่างวิญญาณของเขาในตอนนี้มันสุดแสนธรรมดา

วิญญาณดั่งเดิมของมนุษย์นั้นมันไม่อาจเทียบร่างวิญญาณของเผ่าวิญญาณได้

วิญญาณของเย่หยวนนั้นปกติแล้วมันหลบซ่อนอยู่แต่ในทะเลจิตของเขาเท่านั้น

เขานั้นจึงถือโอกาสนี้ทดสอบดูว่าวิญญาณของเขานั้นจะพัฒนาไปได้ไกลแค่ไหน!

———————

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2922 หลอมร่างวิญญาณ!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2922 หลอมร่างวิญญาณ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2922 หลอมร่างวิญญาณ!

“ข้าก็ขอตอบด้วยคำพูดเดิม คิดอยากจะอวดตัวก็ไปผ่านการทดสอบให้ได้ก่อนเถอะ มาพูดจนดอกไม้ร่วงเสียแต่ตอนนี้สุดท้ายมันจะไม่เป็นการหาเรื่องขายหน้าอีกหรือ?” เย่หยวนกล่าวตอบไป

ฉินซื่อเถียนนั้นได้แต่ต้องกัดฟันแน่นทำหน้าดำเครียดตอบกลับไป “เช่นนั้นเราจะได้รู้กันว่าเส้นทางคุมวิญญาณนี้มันจะตบหน้าใครกันแน่!”

มหาจักรพรรดิคนหนึ่งปรากฏขึ้นต่อหน้าคนทั้งหลายและกล่าวขึ้น “เส้นทางคุมวิญญาณนี้มันมีด้วยกันทั้งหมดสิบระดับ ผ่านได้สองระดับจะถือว่าผ่านการทดสอบครั้งนี้ไปได้ เส้นทางคุมวิญญาณนี้มันมีประโยชน์ในเรื่องการช่วยตีหลอมร่างวิญญาณ ถือว่าเป็นประโยชน์ล้ำกับพวกเจ้าทั้งหลายแต่พวกเจ้าต้องประเมินตัวเองให้ดี ไม่เช่นนั้นจะได้ตายลงง่ายๆ! ตอนนี้สถิติที่ดีที่สุดของเส้นทางคุมวิญญาณมันคือปลายสุดของระดับห้า!”

พวกฉินซื่อเถียนทั้งสามนั้นเริ่มตั้งตัวเตรียมรับมือเพราะครั้งนี้พวกเขาจะต้องตบหน้าเย่หยวนให้ได้!

สิ่งที่ได้มาจากสนามรบเจาะชาดนั้นมันมิใช่สิ่งที่คนอื่นๆ จะเลียนแบบได้ชั่วข้ามคืน ร่างกายของพวกเขานั้นหนักแน่นอย่างมาก

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางเองก็เคยกล่าวไว้ว่าความถึกทนของฉินซื่อเถียนนั้นคงพอจะไปถึงระดับหกได้ง่ายๆ! หรือก็คือเขานั้นสามารถที่จะทำลายสถิติที่สุดปลายระดับห้าได้อย่างไม่ต้องสงสัย

เขานั้นไม่เชื่อว่าเย่หยวนนั้นจะยังคงสามารถตามพวกเขามาได้ในรอบนี้!

ภายใต้คำสั่งของผู้ดูแลนั้นคนกว่าสามร้อยก็พุ่งเข้าไปภายในเส้นทาง

เมื่อเข้ามาถึงเส้นทางคุมวิญญาณ มันก็มีการโจมตีวิญญาณมากมายพุ่งออกมาปกปิดฟ้าดินจนทำให้คน

ทั้งหลายหน้าซีดขาว

ชาวเผ่าวิญญาณทั้งหลายนั้นต่างปล่อยวิชาวิญญาณออกมาตั้งรับมันไว้

แต่ว่ามันก็มีผู้เข้าทดสอบหลายคนต้องร้องลั่นขึ้นมาด้วยน้ำตานองหน้า

“แค่ระดับแรกมันก็รุนแรงปานนี้แล้วหรือ นี่กะจะสังหารกันหรืออย่างไร!”

“คนที่เข้าโถงวิญญาณนิพพานได้มันต้องเป็นสัตว์ประหลาดพันธุ์ใดกัน!”

“อ้าก ข้าไม่ไหวแล้ว! ข้าทนไม่ได้แล้ว! ข้าขอถอนตัว!”

คนที่ผ่านด่านแรกมาได้กว่าสามร้อยคนนี้ย่อมจะเป็นหัวกะทิทั้งสิ้น

เพียงแค่ว่าตอนนี้มันเริ่มมีคนที่ทนไม่ได้ขึ้นมาแล้ว

การโจมตีวิญญาณหนักหน่วงเป็นชุดนั้นมันทำให้ผู้เข้าคัดเลือกทั้งหลายไม่อาจต้านทาน

แต่ละวินาทีที่ผ่านไปนั้นมันมีการโจมตีวิญญาณดั่งเดิมเกิดขึ้นมานับสิบๆ ครั้ง

มันเหมือนดั่งว่าพวกเขานั้นกำลังต่อต้านสายลม!

เส้นทางคุมวิญญาณนั้นยาวถึงสิบกิโลเมตร

แต่ละกิโลเมตรนั้นมันนับเป็นหนึ่งระดับ

แต่ตอนนี้ก้าวออกมายังไม่ถึงพันก้าวพวกเขาก็เริ่มมีคนตายลงแล้ว

แน่นอนว่าต่อให้จะเป็นคนที่อ่อนแอที่สุดในกลุ่มนี้มันก็ยังนับว่าเป็นยอดฝีมือ

พวกฉินซื่อเถียนทั้งสามนั้นไม่สนใจการโจมตีเหมือนพายุคลั่งนี้ใดๆ

ตอนนี้พวกเขาไม่ใช้แม้แต่วิชาป้องกันตัว

ระดับแรกนั้นมันง่ายดายสำหรับพวกเขาอย่างมาก

พวกเขาทั้งสามนั้นเดินผ่านระดับแรกขึ้นระดับสองไปด้วยความเร็วที่ไม่อาจมีใครตามทัน

เพราะว่าระดับตรงหน้ามันง่ายดายพวกเขานั้นยังไม่อยากจะเปลืองแรงและเก็บแรงที่เหลือไว้ต่อต้านระดับหลังๆ

ตอนนี้ทั้งสามนั้นหันกลับไปมองด้านหลังอย่างไม่ได้นัดหมาย

ซึ่งพวกเขาก็มองเห็นว่ามีอีกหลายคนที่ตามพวกเขามาได้ไม่ยาก

แต่เย่หยวนนั้นไม่ได้ปรากฏขึ้นในกลุ่มคนที่ตามหลังมานั้นจนทำให้พวกเขาทั้งสามต้องถอนหายใจยาว

มันคงตามมาไม่ได้แน่แล้ว!

ด่านนี้มันคือด่านของพวกเขา!

“หึ ไอ้เด็กเวรนั่นมันดูเก่งกาจจริงแต่ก็ไม่ได้เหนือล้ำอะไรไปกว่านี้! ในรอบนี้สิ่งที่ต้องใช้นั้นคือร่างวิญญาณ! พวกเราทั้งสามนั้นย่อมจะไม่มีทางแพ้ใครในเรื่องนี้ได้!” ฉินซื่อเถียนกล่าวขึ้น

“หลังจากออกไปแล้วเราคงต้องไปสั่งสอนมันเสียหน่อย!” โจวหยูกล่าวขึ้นด้วยใบหน้าดำมืด

“เรื่องนั้นไม่ต้องกังวลเลย! พ่อเจ้านี้ตั้งแต่รอดจากสงครามกลับมาได้ก็ยังไม่เคยเสียหน้าขนาดนี้มาก่อน! ครั้งนี้ข้าอยากจะรู้นักว่าไอ้เด็กนั่นมันจะเอาอะไรมาโอหังได้อีก!” ฉินซื่อเถียนกล่าวขึ้น

ความอับอายจากด่านแรกนั้นพวกเขายังจำมันฝังใจ

นอกจากว่าจะเสียหน้าเองแล้วเขายังทำให้มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางเสียหน้าด้วย!

พูดจบพวกเขาทั้งสามก็เดินเข้าระดับสองไปอย่างไม่คิดหันกลับไปมองอีก

ในระดับที่สองนั้นนอกจากว่าการโจมตีมันจะเพิ่มมากขึ้นแล้วพลังของมันยังรุนแรงขึ้นอีกหลายเท่า

สำหรับคนอื่นๆ นั้นมันย่อมจะเป็นการทดสอบที่ยากยิ่ง

แต่พวกฉินซื่อเถียนทั้งสามนั้นไม่คิดสนใจใดๆ ใช้วิชาป้องกันตัวออกมาและเดินเข้าไปอย่างไม่หวั่นไหว

นอกเส้นทางคุมวิญญาณนั้นมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นพยักหน้ารับอย่างพึ่งพอใจกับฝีมือของฉินซื่อเถียน

และทั้งสามคน

“หึๆ มาถึงเส้นทางคุมวิญญาณแล้วเย่หยวนนั้นก็เริ่มต้องเผยธาตุแท้ออกมา! ดูสภาพมันแล้วคงจะเป็นเรื่องลำบากที่จะผ่านไปได้แน่!” มหาจักรพรรดิล้ำซีเฉินกล่าวขึ้น

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางเองก็ยิ้มกล่าวขึ้นตาม “หากพูดถึงร่างวิญญาณแล้วในหมู่จักรพรรดิเที่ยงมันคงไม่มีใครเหนือล้ำไปกว่าพวกเขาทั้งสามได้หรอก สนามรบเจาะชาดนั้นมันไม่ต่างอะไรจากนรก พวกเขาทั้งสามนั้นต่อสู้กับหอกดาบของจริงมาสังหารเผ่าเลือดลงไปเป็นภูเขา! แน่นอนว่าร่างวิญญาณของพวกเขานั้นมันย่อมจะอยู่ที่จุดสูงสุดเท่าที่จักรพรรดิเที่ยงจะไปถึงได้”

มหาจักรพรรดิล้ำหลินฟางนั้นกล่าวขึ้นตาม “จิตเต๋าหนักแน่นจริงแต่ว่าไม่มีฝีมือที่มากพอ! เช่นนี้มันก็ไม่ต่างอะไรจากต้นไม้ที่หยั่งรากลึกแต่สูงเท่าต้นหญ้า ไม่อาจจะต่อต้านพลังอะไรได้ หากให้เย่หยวนสู้กับคนทั้งสามนั้นเขาคงได้ตายลงอย่างไม่ต้องสงสัยแน่นอน!”

เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายนั้นพยักหน้ารับตามๆ กัน

ชีหยูได้แต่ทำหน้าเหยเก

เขาเองก็ไม่คิดฝันว่าเย่หยวนจะอ่อนแอปานนี้

ในด่านที่สองนี้เขากลับรั้งท้าย!

ดูท่าแล้วเขาคงไม่อาจจะผ่านระดับแรกไปได้ด้วยซ้ำ

ครั้งนี้แม้แต่เหยียนยูเจินเองก็ยังงง

เขานั้นรู้ว่าร่างวิญญาณของเย่หยวนนั้นมันไม่ได้แข็งแกร่งใดๆ

เพราะสิ่งที่เย่หยวนมีเหนือคนอื่นมันคือวรยุทธวิญญาณ

หรือว่าครั้งนี้เขาจะต้องผิดหวังแล้ว?

ไม่นานนักเหล่ายอดฝีมือทั้งหลายก็ผ่านระดับแรกไปได้เหลือคนในระดับแรกไว้ไม่กี่คน

บ้างนั้นก็บาดเจ็บหนักแต่ฝืนทนไป บ้างนั้นก็ต้องถอนตัวกลับออกไปเพราะไม่อาจจะฝืนต่อไปได้

แต่เย่หยวนนั้นยังอยู่ห่างจากเส้นแบ่งระดับไปอีกหลายพันก้าว

ตอนนี้พวกฉินซื่อเถียนทั้งสามคนนั้นได้ผ่านขึ้นไปจนจะถึงระดับสามแล้ว!

ความเร็วนี้มันทำให้คนทั้งหลายต้องอ้าปากค้าง

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นยิ้มกว้างกล่าวขึ้น “เย่หยวนนั้นมีจิตเต๋าที่หนักแน่นจริง ทำให้เขานั้นหัวรั้นกว่าใครๆ จนทนมาถึงถึงป่านนี้”

มหาจักรพรรดิซีเฉินหัวเราะขึ้น “ไม่ว่าจะหัวรั้นแค่ไหนมันก็เปล่าประโยชน์ ต่อให้จะผ่านระดับแรกมาได้จริงมันก็คงไม่มีทางจะผ่านระดับสองที่พลังเพิ่มพูนขึ้นไปหลายเท่าได้ หากเขาไปถึงระดับสองได้จริงๆ มันอาจจะทำให้ร่างของเขานั้นแตกสลายลงตรงนั้นเลยก็ได้! ข้าว่ามันรนหาที่ตายแล้ว!”

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นไม่คิดสนใจเย่หยวนอีกและหันไปมองพวกฉินซื่อเถียน “ซื่อเถียนนั้นช่างมีพรสวรรค์นัก เขานั้นกลับสามารถทิ้งคนทั้งสองไว้ได้ไกลไม่น้อย ข้าว่าเขาคงเข้าไปถึงระดับหกได้จริงๆ แน่นอน เพียงแค่ว่าไม่รู้ว่าเขาจะเดินในระดับหกได้กี่ก้าว!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นคนทั้งหลายก็ต้องหันมามองมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางเป็นตาเดียว

พวกเขานั้นไม่คิดว่ามหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นจะให้ค่าฉินซื่อเถียนขนาดนั้น

อย่าว่าแต่ระดับหก แค่ระดับห้านั้นมันก็เรียกได้ว่าเป็นนรกแล้ว

เมื่อตอนที่ยอดคนทั้งหลายนั้นยังเป็นแค่จักรพรรดิเที่ยงเองพวกเขานั้นก็ไม่มีปัญญาจะไปถึงระดับหกได้เช่นกัน!

ฉินซื่อเถียนนั้นช่างเป็นสัตว์ประหลาดแท้!

ในเส้นทางคุมวิญญาณนั้นเย่หยวนเดินไปก้าวและหยุดลงพัก ก่อนจะรับการโจมตีวิญญาณจากรอบด้านไว้

ด้วยกำเนิดเทพนั้นหากเขาคิดจะป้องกันการโจมตีวิญญาณทั้งหลายนั้นมันย่อมง่ายดาย

แต่เขาเลือกจะไม่ป้องกัน

เพราะการโจมตีวิญญาณทั้งหลายนี้มันเป็นการช่วยตีหลอมร่างวิญญาณให้เขา!

เขาจึงไม่คิดจะปล่อยโอกาสนี้ผ่านไปอย่างเสียเปล่า

ด่านแรกนั้นมันไม่มีประโยชน์อะไรกับเขา เขาจึงผ่านมาอย่างไม่คิดอะไร

แต่ด่านนี้มันมิใช่

การโจมตีวิญญาณทั้งหลายนั้นเข้ากระแทกร่างวิญญาณของเขาอย่างหนักแน่น!

และมันก็ทำให้ร่างวิญญาณของเขานั้นแข็งแกร่งขึ้นด้วยเช่นกัน…

อย่างที่เหยียนยูเจินคาดเดาไว้ ร่างวิญญาณของเขาในตอนนี้มันสุดแสนธรรมดา

วิญญาณดั่งเดิมของมนุษย์นั้นมันไม่อาจเทียบร่างวิญญาณของเผ่าวิญญาณได้

วิญญาณของเย่หยวนนั้นปกติแล้วมันหลบซ่อนอยู่แต่ในทะเลจิตของเขาเท่านั้น

เขานั้นจึงถือโอกาสนี้ทดสอบดูว่าวิญญาณของเขานั้นจะพัฒนาไปได้ไกลแค่ไหน!

———————

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2922 หลอมร่างวิญญาณ!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2922 หลอมร่างวิญญาณ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2922 หลอมร่างวิญญาณ!

“ข้าก็ขอตอบด้วยคำพูดเดิม คิดอยากจะอวดตัวก็ไปผ่านการทดสอบให้ได้ก่อนเถอะ มาพูดจนดอกไม้ร่วงเสียแต่ตอนนี้สุดท้ายมันจะไม่เป็นการหาเรื่องขายหน้าอีกหรือ?” เย่หยวนกล่าวตอบไป

ฉินซื่อเถียนนั้นได้แต่ต้องกัดฟันแน่นทำหน้าดำเครียดตอบกลับไป “เช่นนั้นเราจะได้รู้กันว่าเส้นทางคุมวิญญาณนี้มันจะตบหน้าใครกันแน่!”

มหาจักรพรรดิคนหนึ่งปรากฏขึ้นต่อหน้าคนทั้งหลายและกล่าวขึ้น “เส้นทางคุมวิญญาณนี้มันมีด้วยกันทั้งหมดสิบระดับ ผ่านได้สองระดับจะถือว่าผ่านการทดสอบครั้งนี้ไปได้ เส้นทางคุมวิญญาณนี้มันมีประโยชน์ในเรื่องการช่วยตีหลอมร่างวิญญาณ ถือว่าเป็นประโยชน์ล้ำกับพวกเจ้าทั้งหลายแต่พวกเจ้าต้องประเมินตัวเองให้ดี ไม่เช่นนั้นจะได้ตายลงง่ายๆ! ตอนนี้สถิติที่ดีที่สุดของเส้นทางคุมวิญญาณมันคือปลายสุดของระดับห้า!”

พวกฉินซื่อเถียนทั้งสามนั้นเริ่มตั้งตัวเตรียมรับมือเพราะครั้งนี้พวกเขาจะต้องตบหน้าเย่หยวนให้ได้!

สิ่งที่ได้มาจากสนามรบเจาะชาดนั้นมันมิใช่สิ่งที่คนอื่นๆ จะเลียนแบบได้ชั่วข้ามคืน ร่างกายของพวกเขานั้นหนักแน่นอย่างมาก

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางเองก็เคยกล่าวไว้ว่าความถึกทนของฉินซื่อเถียนนั้นคงพอจะไปถึงระดับหกได้ง่ายๆ! หรือก็คือเขานั้นสามารถที่จะทำลายสถิติที่สุดปลายระดับห้าได้อย่างไม่ต้องสงสัย

เขานั้นไม่เชื่อว่าเย่หยวนนั้นจะยังคงสามารถตามพวกเขามาได้ในรอบนี้!

ภายใต้คำสั่งของผู้ดูแลนั้นคนกว่าสามร้อยก็พุ่งเข้าไปภายในเส้นทาง

เมื่อเข้ามาถึงเส้นทางคุมวิญญาณ มันก็มีการโจมตีวิญญาณมากมายพุ่งออกมาปกปิดฟ้าดินจนทำให้คน

ทั้งหลายหน้าซีดขาว

ชาวเผ่าวิญญาณทั้งหลายนั้นต่างปล่อยวิชาวิญญาณออกมาตั้งรับมันไว้

แต่ว่ามันก็มีผู้เข้าทดสอบหลายคนต้องร้องลั่นขึ้นมาด้วยน้ำตานองหน้า

“แค่ระดับแรกมันก็รุนแรงปานนี้แล้วหรือ นี่กะจะสังหารกันหรืออย่างไร!”

“คนที่เข้าโถงวิญญาณนิพพานได้มันต้องเป็นสัตว์ประหลาดพันธุ์ใดกัน!”

“อ้าก ข้าไม่ไหวแล้ว! ข้าทนไม่ได้แล้ว! ข้าขอถอนตัว!”

คนที่ผ่านด่านแรกมาได้กว่าสามร้อยคนนี้ย่อมจะเป็นหัวกะทิทั้งสิ้น

เพียงแค่ว่าตอนนี้มันเริ่มมีคนที่ทนไม่ได้ขึ้นมาแล้ว

การโจมตีวิญญาณหนักหน่วงเป็นชุดนั้นมันทำให้ผู้เข้าคัดเลือกทั้งหลายไม่อาจต้านทาน

แต่ละวินาทีที่ผ่านไปนั้นมันมีการโจมตีวิญญาณดั่งเดิมเกิดขึ้นมานับสิบๆ ครั้ง

มันเหมือนดั่งว่าพวกเขานั้นกำลังต่อต้านสายลม!

เส้นทางคุมวิญญาณนั้นยาวถึงสิบกิโลเมตร

แต่ละกิโลเมตรนั้นมันนับเป็นหนึ่งระดับ

แต่ตอนนี้ก้าวออกมายังไม่ถึงพันก้าวพวกเขาก็เริ่มมีคนตายลงแล้ว

แน่นอนว่าต่อให้จะเป็นคนที่อ่อนแอที่สุดในกลุ่มนี้มันก็ยังนับว่าเป็นยอดฝีมือ

พวกฉินซื่อเถียนทั้งสามนั้นไม่สนใจการโจมตีเหมือนพายุคลั่งนี้ใดๆ

ตอนนี้พวกเขาไม่ใช้แม้แต่วิชาป้องกันตัว

ระดับแรกนั้นมันง่ายดายสำหรับพวกเขาอย่างมาก

พวกเขาทั้งสามนั้นเดินผ่านระดับแรกขึ้นระดับสองไปด้วยความเร็วที่ไม่อาจมีใครตามทัน

เพราะว่าระดับตรงหน้ามันง่ายดายพวกเขานั้นยังไม่อยากจะเปลืองแรงและเก็บแรงที่เหลือไว้ต่อต้านระดับหลังๆ

ตอนนี้ทั้งสามนั้นหันกลับไปมองด้านหลังอย่างไม่ได้นัดหมาย

ซึ่งพวกเขาก็มองเห็นว่ามีอีกหลายคนที่ตามพวกเขามาได้ไม่ยาก

แต่เย่หยวนนั้นไม่ได้ปรากฏขึ้นในกลุ่มคนที่ตามหลังมานั้นจนทำให้พวกเขาทั้งสามต้องถอนหายใจยาว

มันคงตามมาไม่ได้แน่แล้ว!

ด่านนี้มันคือด่านของพวกเขา!

“หึ ไอ้เด็กเวรนั่นมันดูเก่งกาจจริงแต่ก็ไม่ได้เหนือล้ำอะไรไปกว่านี้! ในรอบนี้สิ่งที่ต้องใช้นั้นคือร่างวิญญาณ! พวกเราทั้งสามนั้นย่อมจะไม่มีทางแพ้ใครในเรื่องนี้ได้!” ฉินซื่อเถียนกล่าวขึ้น

“หลังจากออกไปแล้วเราคงต้องไปสั่งสอนมันเสียหน่อย!” โจวหยูกล่าวขึ้นด้วยใบหน้าดำมืด

“เรื่องนั้นไม่ต้องกังวลเลย! พ่อเจ้านี้ตั้งแต่รอดจากสงครามกลับมาได้ก็ยังไม่เคยเสียหน้าขนาดนี้มาก่อน! ครั้งนี้ข้าอยากจะรู้นักว่าไอ้เด็กนั่นมันจะเอาอะไรมาโอหังได้อีก!” ฉินซื่อเถียนกล่าวขึ้น

ความอับอายจากด่านแรกนั้นพวกเขายังจำมันฝังใจ

นอกจากว่าจะเสียหน้าเองแล้วเขายังทำให้มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางเสียหน้าด้วย!

พูดจบพวกเขาทั้งสามก็เดินเข้าระดับสองไปอย่างไม่คิดหันกลับไปมองอีก

ในระดับที่สองนั้นนอกจากว่าการโจมตีมันจะเพิ่มมากขึ้นแล้วพลังของมันยังรุนแรงขึ้นอีกหลายเท่า

สำหรับคนอื่นๆ นั้นมันย่อมจะเป็นการทดสอบที่ยากยิ่ง

แต่พวกฉินซื่อเถียนทั้งสามนั้นไม่คิดสนใจใดๆ ใช้วิชาป้องกันตัวออกมาและเดินเข้าไปอย่างไม่หวั่นไหว

นอกเส้นทางคุมวิญญาณนั้นมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นพยักหน้ารับอย่างพึ่งพอใจกับฝีมือของฉินซื่อเถียน

และทั้งสามคน

“หึๆ มาถึงเส้นทางคุมวิญญาณแล้วเย่หยวนนั้นก็เริ่มต้องเผยธาตุแท้ออกมา! ดูสภาพมันแล้วคงจะเป็นเรื่องลำบากที่จะผ่านไปได้แน่!” มหาจักรพรรดิล้ำซีเฉินกล่าวขึ้น

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางเองก็ยิ้มกล่าวขึ้นตาม “หากพูดถึงร่างวิญญาณแล้วในหมู่จักรพรรดิเที่ยงมันคงไม่มีใครเหนือล้ำไปกว่าพวกเขาทั้งสามได้หรอก สนามรบเจาะชาดนั้นมันไม่ต่างอะไรจากนรก พวกเขาทั้งสามนั้นต่อสู้กับหอกดาบของจริงมาสังหารเผ่าเลือดลงไปเป็นภูเขา! แน่นอนว่าร่างวิญญาณของพวกเขานั้นมันย่อมจะอยู่ที่จุดสูงสุดเท่าที่จักรพรรดิเที่ยงจะไปถึงได้”

มหาจักรพรรดิล้ำหลินฟางนั้นกล่าวขึ้นตาม “จิตเต๋าหนักแน่นจริงแต่ว่าไม่มีฝีมือที่มากพอ! เช่นนี้มันก็ไม่ต่างอะไรจากต้นไม้ที่หยั่งรากลึกแต่สูงเท่าต้นหญ้า ไม่อาจจะต่อต้านพลังอะไรได้ หากให้เย่หยวนสู้กับคนทั้งสามนั้นเขาคงได้ตายลงอย่างไม่ต้องสงสัยแน่นอน!”

เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายนั้นพยักหน้ารับตามๆ กัน

ชีหยูได้แต่ทำหน้าเหยเก

เขาเองก็ไม่คิดฝันว่าเย่หยวนจะอ่อนแอปานนี้

ในด่านที่สองนี้เขากลับรั้งท้าย!

ดูท่าแล้วเขาคงไม่อาจจะผ่านระดับแรกไปได้ด้วยซ้ำ

ครั้งนี้แม้แต่เหยียนยูเจินเองก็ยังงง

เขานั้นรู้ว่าร่างวิญญาณของเย่หยวนนั้นมันไม่ได้แข็งแกร่งใดๆ

เพราะสิ่งที่เย่หยวนมีเหนือคนอื่นมันคือวรยุทธวิญญาณ

หรือว่าครั้งนี้เขาจะต้องผิดหวังแล้ว?

ไม่นานนักเหล่ายอดฝีมือทั้งหลายก็ผ่านระดับแรกไปได้เหลือคนในระดับแรกไว้ไม่กี่คน

บ้างนั้นก็บาดเจ็บหนักแต่ฝืนทนไป บ้างนั้นก็ต้องถอนตัวกลับออกไปเพราะไม่อาจจะฝืนต่อไปได้

แต่เย่หยวนนั้นยังอยู่ห่างจากเส้นแบ่งระดับไปอีกหลายพันก้าว

ตอนนี้พวกฉินซื่อเถียนทั้งสามคนนั้นได้ผ่านขึ้นไปจนจะถึงระดับสามแล้ว!

ความเร็วนี้มันทำให้คนทั้งหลายต้องอ้าปากค้าง

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นยิ้มกว้างกล่าวขึ้น “เย่หยวนนั้นมีจิตเต๋าที่หนักแน่นจริง ทำให้เขานั้นหัวรั้นกว่าใครๆ จนทนมาถึงถึงป่านนี้”

มหาจักรพรรดิซีเฉินหัวเราะขึ้น “ไม่ว่าจะหัวรั้นแค่ไหนมันก็เปล่าประโยชน์ ต่อให้จะผ่านระดับแรกมาได้จริงมันก็คงไม่มีทางจะผ่านระดับสองที่พลังเพิ่มพูนขึ้นไปหลายเท่าได้ หากเขาไปถึงระดับสองได้จริงๆ มันอาจจะทำให้ร่างของเขานั้นแตกสลายลงตรงนั้นเลยก็ได้! ข้าว่ามันรนหาที่ตายแล้ว!”

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นไม่คิดสนใจเย่หยวนอีกและหันไปมองพวกฉินซื่อเถียน “ซื่อเถียนนั้นช่างมีพรสวรรค์นัก เขานั้นกลับสามารถทิ้งคนทั้งสองไว้ได้ไกลไม่น้อย ข้าว่าเขาคงเข้าไปถึงระดับหกได้จริงๆ แน่นอน เพียงแค่ว่าไม่รู้ว่าเขาจะเดินในระดับหกได้กี่ก้าว!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นคนทั้งหลายก็ต้องหันมามองมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางเป็นตาเดียว

พวกเขานั้นไม่คิดว่ามหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นจะให้ค่าฉินซื่อเถียนขนาดนั้น

อย่าว่าแต่ระดับหก แค่ระดับห้านั้นมันก็เรียกได้ว่าเป็นนรกแล้ว

เมื่อตอนที่ยอดคนทั้งหลายนั้นยังเป็นแค่จักรพรรดิเที่ยงเองพวกเขานั้นก็ไม่มีปัญญาจะไปถึงระดับหกได้เช่นกัน!

ฉินซื่อเถียนนั้นช่างเป็นสัตว์ประหลาดแท้!

ในเส้นทางคุมวิญญาณนั้นเย่หยวนเดินไปก้าวและหยุดลงพัก ก่อนจะรับการโจมตีวิญญาณจากรอบด้านไว้

ด้วยกำเนิดเทพนั้นหากเขาคิดจะป้องกันการโจมตีวิญญาณทั้งหลายนั้นมันย่อมง่ายดาย

แต่เขาเลือกจะไม่ป้องกัน

เพราะการโจมตีวิญญาณทั้งหลายนี้มันเป็นการช่วยตีหลอมร่างวิญญาณให้เขา!

เขาจึงไม่คิดจะปล่อยโอกาสนี้ผ่านไปอย่างเสียเปล่า

ด่านแรกนั้นมันไม่มีประโยชน์อะไรกับเขา เขาจึงผ่านมาอย่างไม่คิดอะไร

แต่ด่านนี้มันมิใช่

การโจมตีวิญญาณทั้งหลายนั้นเข้ากระแทกร่างวิญญาณของเขาอย่างหนักแน่น!

และมันก็ทำให้ร่างวิญญาณของเขานั้นแข็งแกร่งขึ้นด้วยเช่นกัน…

อย่างที่เหยียนยูเจินคาดเดาไว้ ร่างวิญญาณของเขาในตอนนี้มันสุดแสนธรรมดา

วิญญาณดั่งเดิมของมนุษย์นั้นมันไม่อาจเทียบร่างวิญญาณของเผ่าวิญญาณได้

วิญญาณของเย่หยวนนั้นปกติแล้วมันหลบซ่อนอยู่แต่ในทะเลจิตของเขาเท่านั้น

เขานั้นจึงถือโอกาสนี้ทดสอบดูว่าวิญญาณของเขานั้นจะพัฒนาไปได้ไกลแค่ไหน!

———————

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2922 หลอมร่างวิญญาณ!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2922 หลอมร่างวิญญาณ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2922 หลอมร่างวิญญาณ!

“ข้าก็ขอตอบด้วยคำพูดเดิม คิดอยากจะอวดตัวก็ไปผ่านการทดสอบให้ได้ก่อนเถอะ มาพูดจนดอกไม้ร่วงเสียแต่ตอนนี้สุดท้ายมันจะไม่เป็นการหาเรื่องขายหน้าอีกหรือ?” เย่หยวนกล่าวตอบไป

ฉินซื่อเถียนนั้นได้แต่ต้องกัดฟันแน่นทำหน้าดำเครียดตอบกลับไป “เช่นนั้นเราจะได้รู้กันว่าเส้นทางคุมวิญญาณนี้มันจะตบหน้าใครกันแน่!”

มหาจักรพรรดิคนหนึ่งปรากฏขึ้นต่อหน้าคนทั้งหลายและกล่าวขึ้น “เส้นทางคุมวิญญาณนี้มันมีด้วยกันทั้งหมดสิบระดับ ผ่านได้สองระดับจะถือว่าผ่านการทดสอบครั้งนี้ไปได้ เส้นทางคุมวิญญาณนี้มันมีประโยชน์ในเรื่องการช่วยตีหลอมร่างวิญญาณ ถือว่าเป็นประโยชน์ล้ำกับพวกเจ้าทั้งหลายแต่พวกเจ้าต้องประเมินตัวเองให้ดี ไม่เช่นนั้นจะได้ตายลงง่ายๆ! ตอนนี้สถิติที่ดีที่สุดของเส้นทางคุมวิญญาณมันคือปลายสุดของระดับห้า!”

พวกฉินซื่อเถียนทั้งสามนั้นเริ่มตั้งตัวเตรียมรับมือเพราะครั้งนี้พวกเขาจะต้องตบหน้าเย่หยวนให้ได้!

สิ่งที่ได้มาจากสนามรบเจาะชาดนั้นมันมิใช่สิ่งที่คนอื่นๆ จะเลียนแบบได้ชั่วข้ามคืน ร่างกายของพวกเขานั้นหนักแน่นอย่างมาก

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางเองก็เคยกล่าวไว้ว่าความถึกทนของฉินซื่อเถียนนั้นคงพอจะไปถึงระดับหกได้ง่ายๆ! หรือก็คือเขานั้นสามารถที่จะทำลายสถิติที่สุดปลายระดับห้าได้อย่างไม่ต้องสงสัย

เขานั้นไม่เชื่อว่าเย่หยวนนั้นจะยังคงสามารถตามพวกเขามาได้ในรอบนี้!

ภายใต้คำสั่งของผู้ดูแลนั้นคนกว่าสามร้อยก็พุ่งเข้าไปภายในเส้นทาง

เมื่อเข้ามาถึงเส้นทางคุมวิญญาณ มันก็มีการโจมตีวิญญาณมากมายพุ่งออกมาปกปิดฟ้าดินจนทำให้คน

ทั้งหลายหน้าซีดขาว

ชาวเผ่าวิญญาณทั้งหลายนั้นต่างปล่อยวิชาวิญญาณออกมาตั้งรับมันไว้

แต่ว่ามันก็มีผู้เข้าทดสอบหลายคนต้องร้องลั่นขึ้นมาด้วยน้ำตานองหน้า

“แค่ระดับแรกมันก็รุนแรงปานนี้แล้วหรือ นี่กะจะสังหารกันหรืออย่างไร!”

“คนที่เข้าโถงวิญญาณนิพพานได้มันต้องเป็นสัตว์ประหลาดพันธุ์ใดกัน!”

“อ้าก ข้าไม่ไหวแล้ว! ข้าทนไม่ได้แล้ว! ข้าขอถอนตัว!”

คนที่ผ่านด่านแรกมาได้กว่าสามร้อยคนนี้ย่อมจะเป็นหัวกะทิทั้งสิ้น

เพียงแค่ว่าตอนนี้มันเริ่มมีคนที่ทนไม่ได้ขึ้นมาแล้ว

การโจมตีวิญญาณหนักหน่วงเป็นชุดนั้นมันทำให้ผู้เข้าคัดเลือกทั้งหลายไม่อาจต้านทาน

แต่ละวินาทีที่ผ่านไปนั้นมันมีการโจมตีวิญญาณดั่งเดิมเกิดขึ้นมานับสิบๆ ครั้ง

มันเหมือนดั่งว่าพวกเขานั้นกำลังต่อต้านสายลม!

เส้นทางคุมวิญญาณนั้นยาวถึงสิบกิโลเมตร

แต่ละกิโลเมตรนั้นมันนับเป็นหนึ่งระดับ

แต่ตอนนี้ก้าวออกมายังไม่ถึงพันก้าวพวกเขาก็เริ่มมีคนตายลงแล้ว

แน่นอนว่าต่อให้จะเป็นคนที่อ่อนแอที่สุดในกลุ่มนี้มันก็ยังนับว่าเป็นยอดฝีมือ

พวกฉินซื่อเถียนทั้งสามนั้นไม่สนใจการโจมตีเหมือนพายุคลั่งนี้ใดๆ

ตอนนี้พวกเขาไม่ใช้แม้แต่วิชาป้องกันตัว

ระดับแรกนั้นมันง่ายดายสำหรับพวกเขาอย่างมาก

พวกเขาทั้งสามนั้นเดินผ่านระดับแรกขึ้นระดับสองไปด้วยความเร็วที่ไม่อาจมีใครตามทัน

เพราะว่าระดับตรงหน้ามันง่ายดายพวกเขานั้นยังไม่อยากจะเปลืองแรงและเก็บแรงที่เหลือไว้ต่อต้านระดับหลังๆ

ตอนนี้ทั้งสามนั้นหันกลับไปมองด้านหลังอย่างไม่ได้นัดหมาย

ซึ่งพวกเขาก็มองเห็นว่ามีอีกหลายคนที่ตามพวกเขามาได้ไม่ยาก

แต่เย่หยวนนั้นไม่ได้ปรากฏขึ้นในกลุ่มคนที่ตามหลังมานั้นจนทำให้พวกเขาทั้งสามต้องถอนหายใจยาว

มันคงตามมาไม่ได้แน่แล้ว!

ด่านนี้มันคือด่านของพวกเขา!

“หึ ไอ้เด็กเวรนั่นมันดูเก่งกาจจริงแต่ก็ไม่ได้เหนือล้ำอะไรไปกว่านี้! ในรอบนี้สิ่งที่ต้องใช้นั้นคือร่างวิญญาณ! พวกเราทั้งสามนั้นย่อมจะไม่มีทางแพ้ใครในเรื่องนี้ได้!” ฉินซื่อเถียนกล่าวขึ้น

“หลังจากออกไปแล้วเราคงต้องไปสั่งสอนมันเสียหน่อย!” โจวหยูกล่าวขึ้นด้วยใบหน้าดำมืด

“เรื่องนั้นไม่ต้องกังวลเลย! พ่อเจ้านี้ตั้งแต่รอดจากสงครามกลับมาได้ก็ยังไม่เคยเสียหน้าขนาดนี้มาก่อน! ครั้งนี้ข้าอยากจะรู้นักว่าไอ้เด็กนั่นมันจะเอาอะไรมาโอหังได้อีก!” ฉินซื่อเถียนกล่าวขึ้น

ความอับอายจากด่านแรกนั้นพวกเขายังจำมันฝังใจ

นอกจากว่าจะเสียหน้าเองแล้วเขายังทำให้มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางเสียหน้าด้วย!

พูดจบพวกเขาทั้งสามก็เดินเข้าระดับสองไปอย่างไม่คิดหันกลับไปมองอีก

ในระดับที่สองนั้นนอกจากว่าการโจมตีมันจะเพิ่มมากขึ้นแล้วพลังของมันยังรุนแรงขึ้นอีกหลายเท่า

สำหรับคนอื่นๆ นั้นมันย่อมจะเป็นการทดสอบที่ยากยิ่ง

แต่พวกฉินซื่อเถียนทั้งสามนั้นไม่คิดสนใจใดๆ ใช้วิชาป้องกันตัวออกมาและเดินเข้าไปอย่างไม่หวั่นไหว

นอกเส้นทางคุมวิญญาณนั้นมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นพยักหน้ารับอย่างพึ่งพอใจกับฝีมือของฉินซื่อเถียน

และทั้งสามคน

“หึๆ มาถึงเส้นทางคุมวิญญาณแล้วเย่หยวนนั้นก็เริ่มต้องเผยธาตุแท้ออกมา! ดูสภาพมันแล้วคงจะเป็นเรื่องลำบากที่จะผ่านไปได้แน่!” มหาจักรพรรดิล้ำซีเฉินกล่าวขึ้น

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางเองก็ยิ้มกล่าวขึ้นตาม “หากพูดถึงร่างวิญญาณแล้วในหมู่จักรพรรดิเที่ยงมันคงไม่มีใครเหนือล้ำไปกว่าพวกเขาทั้งสามได้หรอก สนามรบเจาะชาดนั้นมันไม่ต่างอะไรจากนรก พวกเขาทั้งสามนั้นต่อสู้กับหอกดาบของจริงมาสังหารเผ่าเลือดลงไปเป็นภูเขา! แน่นอนว่าร่างวิญญาณของพวกเขานั้นมันย่อมจะอยู่ที่จุดสูงสุดเท่าที่จักรพรรดิเที่ยงจะไปถึงได้”

มหาจักรพรรดิล้ำหลินฟางนั้นกล่าวขึ้นตาม “จิตเต๋าหนักแน่นจริงแต่ว่าไม่มีฝีมือที่มากพอ! เช่นนี้มันก็ไม่ต่างอะไรจากต้นไม้ที่หยั่งรากลึกแต่สูงเท่าต้นหญ้า ไม่อาจจะต่อต้านพลังอะไรได้ หากให้เย่หยวนสู้กับคนทั้งสามนั้นเขาคงได้ตายลงอย่างไม่ต้องสงสัยแน่นอน!”

เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายนั้นพยักหน้ารับตามๆ กัน

ชีหยูได้แต่ทำหน้าเหยเก

เขาเองก็ไม่คิดฝันว่าเย่หยวนจะอ่อนแอปานนี้

ในด่านที่สองนี้เขากลับรั้งท้าย!

ดูท่าแล้วเขาคงไม่อาจจะผ่านระดับแรกไปได้ด้วยซ้ำ

ครั้งนี้แม้แต่เหยียนยูเจินเองก็ยังงง

เขานั้นรู้ว่าร่างวิญญาณของเย่หยวนนั้นมันไม่ได้แข็งแกร่งใดๆ

เพราะสิ่งที่เย่หยวนมีเหนือคนอื่นมันคือวรยุทธวิญญาณ

หรือว่าครั้งนี้เขาจะต้องผิดหวังแล้ว?

ไม่นานนักเหล่ายอดฝีมือทั้งหลายก็ผ่านระดับแรกไปได้เหลือคนในระดับแรกไว้ไม่กี่คน

บ้างนั้นก็บาดเจ็บหนักแต่ฝืนทนไป บ้างนั้นก็ต้องถอนตัวกลับออกไปเพราะไม่อาจจะฝืนต่อไปได้

แต่เย่หยวนนั้นยังอยู่ห่างจากเส้นแบ่งระดับไปอีกหลายพันก้าว

ตอนนี้พวกฉินซื่อเถียนทั้งสามคนนั้นได้ผ่านขึ้นไปจนจะถึงระดับสามแล้ว!

ความเร็วนี้มันทำให้คนทั้งหลายต้องอ้าปากค้าง

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นยิ้มกว้างกล่าวขึ้น “เย่หยวนนั้นมีจิตเต๋าที่หนักแน่นจริง ทำให้เขานั้นหัวรั้นกว่าใครๆ จนทนมาถึงถึงป่านนี้”

มหาจักรพรรดิซีเฉินหัวเราะขึ้น “ไม่ว่าจะหัวรั้นแค่ไหนมันก็เปล่าประโยชน์ ต่อให้จะผ่านระดับแรกมาได้จริงมันก็คงไม่มีทางจะผ่านระดับสองที่พลังเพิ่มพูนขึ้นไปหลายเท่าได้ หากเขาไปถึงระดับสองได้จริงๆ มันอาจจะทำให้ร่างของเขานั้นแตกสลายลงตรงนั้นเลยก็ได้! ข้าว่ามันรนหาที่ตายแล้ว!”

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นไม่คิดสนใจเย่หยวนอีกและหันไปมองพวกฉินซื่อเถียน “ซื่อเถียนนั้นช่างมีพรสวรรค์นัก เขานั้นกลับสามารถทิ้งคนทั้งสองไว้ได้ไกลไม่น้อย ข้าว่าเขาคงเข้าไปถึงระดับหกได้จริงๆ แน่นอน เพียงแค่ว่าไม่รู้ว่าเขาจะเดินในระดับหกได้กี่ก้าว!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นคนทั้งหลายก็ต้องหันมามองมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางเป็นตาเดียว

พวกเขานั้นไม่คิดว่ามหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นจะให้ค่าฉินซื่อเถียนขนาดนั้น

อย่าว่าแต่ระดับหก แค่ระดับห้านั้นมันก็เรียกได้ว่าเป็นนรกแล้ว

เมื่อตอนที่ยอดคนทั้งหลายนั้นยังเป็นแค่จักรพรรดิเที่ยงเองพวกเขานั้นก็ไม่มีปัญญาจะไปถึงระดับหกได้เช่นกัน!

ฉินซื่อเถียนนั้นช่างเป็นสัตว์ประหลาดแท้!

ในเส้นทางคุมวิญญาณนั้นเย่หยวนเดินไปก้าวและหยุดลงพัก ก่อนจะรับการโจมตีวิญญาณจากรอบด้านไว้

ด้วยกำเนิดเทพนั้นหากเขาคิดจะป้องกันการโจมตีวิญญาณทั้งหลายนั้นมันย่อมง่ายดาย

แต่เขาเลือกจะไม่ป้องกัน

เพราะการโจมตีวิญญาณทั้งหลายนี้มันเป็นการช่วยตีหลอมร่างวิญญาณให้เขา!

เขาจึงไม่คิดจะปล่อยโอกาสนี้ผ่านไปอย่างเสียเปล่า

ด่านแรกนั้นมันไม่มีประโยชน์อะไรกับเขา เขาจึงผ่านมาอย่างไม่คิดอะไร

แต่ด่านนี้มันมิใช่

การโจมตีวิญญาณทั้งหลายนั้นเข้ากระแทกร่างวิญญาณของเขาอย่างหนักแน่น!

และมันก็ทำให้ร่างวิญญาณของเขานั้นแข็งแกร่งขึ้นด้วยเช่นกัน…

อย่างที่เหยียนยูเจินคาดเดาไว้ ร่างวิญญาณของเขาในตอนนี้มันสุดแสนธรรมดา

วิญญาณดั่งเดิมของมนุษย์นั้นมันไม่อาจเทียบร่างวิญญาณของเผ่าวิญญาณได้

วิญญาณของเย่หยวนนั้นปกติแล้วมันหลบซ่อนอยู่แต่ในทะเลจิตของเขาเท่านั้น

เขานั้นจึงถือโอกาสนี้ทดสอบดูว่าวิญญาณของเขานั้นจะพัฒนาไปได้ไกลแค่ไหน!

———————

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+