คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 411 ตกม้าตาย อิ๋งจื่อจินพูด ‘ขยะ’

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 411 ตกม้าตาย อิ๋งจื่อจินพูด ‘ขยะ’ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 411 ตกม้าตาย อิ๋งจื่อจินพูด ‘ขยะ’

เธอไม่ได้พูดคำนี้ออกไป แค่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น แต่แววตาแสดงความรู้สึกทั้งหมด

อิ๋งจื่อจินรูปร่างสูง มองจากไกลๆ ดูผอมบาง

แตกต่างจากพวกผู้เข้าแข่งขันของโรงเรียนเอลาน อิ๋งจื่อจินอยู่ในชุดนักเรียนฟ้าขาวของโรงเรียนมัธยมชิงจื้อ ไม่มีการแต่งแต้มส่วนเกิน

ทว่ากลับเปรียบเสมือนภูเขาสูงที่ตั้งตระหง่านมิอาจข้ามผ่าน ไม่อาจรุกรานได้

เธอใช้วิธีที่ไร้ซุ่มเสียงแบบนี้บอกผู้เข้าแข่งขันของประเทศจีนทุกคน ตัวแทนคณะ และเหล่าศาสตราจารย์ว่า ขอแค่มีเธออยู่ก็ยังมีโอกาสชนะ

แพ้ได้…แต่ห้ามถูกเหยียบย่ำศักดิ์ศรีไม่ว่าใครทั้งนั้น

“ใช่ครับ นี่ก็คืออันดับหนึ่งชาร์ตรวมทั่วโลกของเรา มาจากโรงเรียนที่เป็นหนึ่งในสามโรงเรียนชั้นยอดของประเทศจีน อิ๋งจื่อจินจากโรงเรียนมัธยมชิงจื้อครับ!” พิธีกรพูดเร็วมาก สีหน้าตื่นเต้น

“ปีนี้เธออายุสิบแปดปี โตกว่าไอริน่าหนึ่งปีครับ”

“เชื่อว่าคงมีผู้ชมที่ได้ดูการแข่งแบบทีมในตอนเช้าของวันแรกได้รู้จักชื่อเธอไปแล้ว การแข่งทีมมีทั้งหมดห้าสิบทีม ทีมที่เธอเป็นหัวหน้าไม่เพียงแต่จะเป็นทีมเดียวที่ได้คะแนนเต็ม ยังได้โบนัสเรื่องเวลาด้วยครับ”

“ตอนนี้เธอใช้สิทธิ์ของอันดับหนึ่งชาร์ตรวมทั่วโลกมาลงแข่งประเภทเดี่ยว ทุกท่านช่วยกันต้อนรับเธอด้วยครับ”

คำพูดพวกนี้ของพิธีกรคล้ายระเบิดที่โยนใส่กลุ่มผู้ชม

ไม่ใช่แค่ผู้ชมในสนามแข่งที่ดูอยู่ ยังมีชาวเน็ตที่รับชมถ่ายทอดสดอีกด้วย

[กรี๊ด!]

[อันดับหนึ่งชาร์ตรวมทั่วโลก!]

[อิ๋งจื่อจินจากประเทศจีน!]

[เทพอิ๋งของฉันสุดมาก อื้อหือ เลือดฉันจะหมดตัวแล้ว!]

[เทพอิ๋งเซด อันดับหนึ่งชาร์ตรวมก็ฉันเอง นึกไม่ถึงใช่ไหมล่ะ]

[ขอสงสัยอย่างมีเหตุผลว่า เทพอิ๋งเห็นแก่เงินรางวัลก็เลยเผลอได้อันดับหนึ่งของชาร์ตรวม(อีโมชันหัวหมา)]

เวลานี้ไม่ต้องให้หลังเวทีสั่งการแล้ว

กล้องทุกตัว ทุกตำแหน่ง ต่างจับภาพไปที่อิ๋งจื่อจิน

ชื่อของอิ๋งจื่อจินและใบหน้าของเธอ วินาทีนี้ได้ปรากฏบนหน้าจอของหลายคนที่อยู่ทั่วทุกมุมโลกและได้ถูกจดจำไว้

อิ๋งเย่ว์เซวียนที่กำลังดูถ่ายทอดสดรอบตัดสินของไอเอสซีอยู่ในบ้านตระกูลอิ๋งก็แทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็น

อิ๋งจื่อจินก็คืออันดับหนึ่งของชาร์ตรวมทั่วโลกเหรอ

ล้อเล่นอะไรน่ะ…

มือของอิ๋งเย่ว์เซวียนเริ่มสั่น หูอื้อไปหมด เลือดในกายสูบฉีดขึ้นสมอง

พอเธอนึกได้ว่าเธอยังเคยส่งข้อความแสดงความนับถือให้อันดับหนึ่งชาร์ตรวมในแอปฯ ฉลามไลฟ์สด เธอก็แทบสติแตกทันที

อิ๋งจื่อจินอีกแล้ว!

น่าตลกที่ว่าเธอยังแอบคิดมาตลอดว่า อิ๋งจื่อจินเทียบอันดับหนึ่งของชาร์ตรวมไม่ติดสักนิด

อิ๋งเย่ว์เซวียนกัดริมฝีปาก จ้องอิ๋งจื่อจินที่อยู่ในจอเขม็ง

มีเสียงไขกุญแจดังมาจากประตูใหญ่ในเวลานี้

อิ๋งเย่ว์เซวียนสีหน้าเปลี่ยน รีบปิดโทรทัศน์ กลับขึ้นห้องนอนของตัวเองที่อยู่ชั้นบนทันที

เธอกำมือแน่น สายตาคลุมเครือ

ทางยุโรปไล่เธอกลับประเทศ ถึงแม้จะไม่ได้พูดสาเหตุ แต่ช่วงหลายวันมานี้จงมั่นหวาก็ดูไม่พอใจในตัวเธอ

เธอหลบได้ก็หลบดีกว่า หรือไม่ก็คิดหาทางอื่น

อิ๋งเย่ว์เซวียนเม้มริมฝีปาก หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาติดต่อจิ่งหงเจิน

ภายในสนามแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ

พิธีกรพูดขึ้นอีกครั้ง “กติกาตัดสินรอบสุดท้ายของเราพิเศษมากครับ มีโจทย์ทั้งหมดสามสิบข้อ ใครชนะก็จะสามารถขโมยคะแนนทั้งหมดของอีกฝ่ายได้”

“ดังนั้นพวกเราต้องถามไอริน่าก่อนว่าจะรับแข่งนัดพิเศษครั้งนี้หรือไม่”

“ฟึ่บ”

สายตาของผู้ชมกลับไปหาไอริน่าอีกครั้ง กล้องก็เคลื่อนตามไปด้วย

ไอริน่ากัดฟันจนแทบมีเลือดออกมา

เธอแสยะยิ้ม “แข่งค่ะ!”

บอกว่าถามความคิดเห็นของเธอ แท้จริงแล้วคือไม่มีโอกาสให้เธอได้คัดค้าน

นี่เป็นการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก

ไม่ใช่ทางคณะกรรมการถ่ายทอดสดเอง จำนวนผู้ชมของแต่ละประเทศรวมกับผู้ชมในสนามแข่งสูงถึงพันห้าร้อยล้านคน!

ตัวเลขนี้เท่ากับหนึ่งในสามของการแข่งขันโอลิมปิกแล้ว

อย่างไรเสียการแข่งขันทางวิชาการก็เทียบกับการแข่งกีฬาไม่ได้ คนส่วนใหญ่ดูแล้วไม่เข้าใจ สัมผัสไม่ได้ถึงความสุขที่ทีมของฝ่ายตัวเองได้เปรียบ

คนที่ดูการแข่งขันนอกจากครูกับนักเรียนในโรงเรียนมัธยมกับมหาวิทยาลัยแล้ว ที่เหลือก็เป็นผู้ปกครอง

สำหรับคนส่วนใหญ่ มีเวลาดูคนอื่นแข่งฟิสิกส์กับคณิตศาสตร์ยังไม่สู้เอาเวลาไปไถติ๊กตอกดูคลิปต่างๆ

แต่พันห้าร้อยล้านคนก็ถือว่าเยอะมากแล้ว

ไอริน่ารู้ดีว่าถ้าเธอกล้าปฏิเสธก็จะขายหน้าไม่มีเหลือ

“โอเคครับ ไอริน่าของเรารับคำท้าครั้งนี้อย่างสบายๆ” พิธีกรพูด

“ถ้าอย่างนั้นให้ทั้งสองคนพักผ่อนสักเล็กน้อยก่อน อีกเดี๋ยวการตอบคำถามจะเริ่มขึ้นแล้วครับ”

“ไม่ต้องค่ะ” อิ๋งจื่อจินเหลือบตาขึ้น “มีเวลาไม่มากแล้ว เริ่มเลยค่ะ”

พิธีกรอึ้ง ตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว “งั้นไอริน่า…”

“แข่งเลยก็ได้ค่ะ” ไอริน่าแสยะยิ้ม

“ฉันก็ไม่ต้องการพักเหมือนกัน”

เมื่อทั้งสองคนพูดแบบนี้ พิธีกรก็ไหลไปตามน้ำ

“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็ขอให้ผู้เข้าแข่งขันทั้งสองคนมองที่จอใหญ่ครับ”

บนจอใหญ่ปรากฏคำถามข้อแรกอย่างรวดเร็ว

ผู้ชมและชาวเน็ตก็จ้องอย่างไม่วางตา

[โจทย์ข้อนี้เป็นการพิสูจน์การคาดการณ์ของฮอดจ์ กรุณาเติมคำในช่องว่าง]

โจทย์ที่ขึ้นมาเป็นหนึ่งในเจ็ดโจทย์คณิตศาสตร์ที่ยากระดับโลก

เจ็ดโจทย์คณิตศาสตร์ที่ยากระดับโลกเป็นปริศนาที่ยังไม่ได้รับการไขมาตลอดสำหรับวงการคณิตศาสตร์

ด้วยเหตุนี้ศูนย์คณิตศาสตร์สากลถึงตั้งเงินรางวัลในการแก้เจ็ดโจทย์ที่ยากระดับโลกนี้ โดยให้ข้อละหนึ่งล้านดอลลาร์

การคาดการณ์ของฮอดจ์ นักคณิตศาสตร์คนหนึ่งของประเทศสหรัฐอเมริกาเพิ่งพิสูจน์ออกมาได้เมื่อต้นปีนี้ ก็แค่ยังไม่เปิดเผยสู่สาธารณชน นี่ก็คือกระบวนการพิสูจน์ที่นักคณิตศาสตร์คนนี้ทำได้

แม้จะเว้นช่องว่างไว้แค่ไม่กี่ช่อง แต่ก็ยังคงยากมาก

คนออกโจทย์จึงไม่ได้คิดว่าจะมีคนทำโจทย์ข้อนี้ได้

เขารินชาร้อนให้ตัวเองอย่างมีความสุข ดูการแข่งขันต่อ

อิ๋งจื่อจินหรี่ตาลงเล็กน้อย ในขณะที่ไอริน่าเพิ่งจะหยิบกระดาษกับปากกาบนโต๊ะขึ้นมาเริ่มคำนวณ เธอก็บอกคำตอบออกมา

“อันดับหนึ่งของชาร์ตรวมมีความรู้ที่แน่นมากทางด้านคณิตศาสตร์” พิธีกรก็ตะลึง แต่เขาเป็นคนมีไหวพริบดี

“ต่อไปเป็นโจทย์ข้อที่สอง ทดสอบความจำครับ”

[จุดทศนิยมหลักที่หนึ่งร้อยเอ็ดของค่าพายคือเท่าไร]

อิ๋งจื่อจินพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ครั้งนี้ตอบในเสี้ยววินาที “แปดค่ะ”

“ดูท่านักเรียนอิ๋งจื่อจินของเราก็ความจำดีด้วยเช่นกันนะครับ คนทั่วไปจำได้ถึงหลักสิบก็เก่งมากแล้ว” พิธีกรพูดพลางแสดงภาพบนหน้าจอ “และนี่คือโจทย์ข้อที่สามครับ”

ระยะเวลาในการแข่งขันเร็วกว่าที่ทุกคนคิดไว้มากทีเดียว

โจทย์แต่ละข้อ ไม่ว่าจะเป็นของสายวิทย์หรือสายศิลป์ หรือแม้กระทั่งมีโจทย์หลายข้อที่ใช้ศัพท์เฉพาะจำนวนมากหลายคนไม่เคยได้ยิน

แต่อิ๋งจื่อจินใช้เวลาในการตอบโจทย์ไม่เกินสิบวินาทีเลยสักครั้ง

คนออกโจทย์นั่งอยู่ตรงที่นั่งของศาสตราจารย์ เขาได้ยินเสียงชวนให้ใจสลายอย่างชัดเจน

[โอ้โห งงตาแตกอีกแล้วครับท่าน นี่ก็คือผู้แข็งแกร่งที่แท้จริงใช่ไหม]

[ฉันเพิ่งอ่านโจทย์เสร็จแต่เทพอิ๋งตอบออกมาแล้ว]

[ไม่พูดเรื่องอื่น แต่ฉันสะใจมาก ตอนนั้นไอริน่ารังแกผู้เข้าแข่งขันของพวกเรายังไง ตอนนี้โดนเอาคืนเป็นสิบเท่าร้อยเท่า! ฮ่าๆ เห็นหรือยัง นางได้ศูนย์คะแนน!]

โจทย์ข้อที่สิบเจ็ดก็ยังคงเป็นอิ๋งจื่อจินที่พูดคำตอบออกมาก่อน ในที่สุดไอริน่าก็หน้าบึ้ง

เธอกำมือแน่น หน้าผากมีเหงื่อผุด

โจทย์พวกนี้ไม่ได้ยาก เธอมั่นใจว่าคำนวณออกมาได้ภายในยี่สิบวินาที แต่อิ๋งจื่อจินเร็วกว่าเธอ

เด็กมัธยมปลายคนเดียวทำไมถึงได้หัวไวขนาดนี้!

อันที่จริงสำหรับผู้เข้าแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของไอเอสซี ความยากของโจทย์เป็นเรื่องรอง สิ่งสำคัญที่สุดคือเวลา

โดยทั่วไปโจทย์เก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์พวกเขาทำได้ แค่แพ้ให้กันเรื่องเวลา

โจทย์แข่งเดี่ยวความยากเป็นเพียงหนึ่งในสิบของการแข่งทีม

ไอริน่าใช้ประโยชน์ในเรื่องเวลาถึงได้กดคะแนนของผู้เข้าแข่งขันชาวจีนได้หลายสิบคน

แต่เธอนึกไม่ถึงจริงๆ ว่า ตอนนี้คนที่ถูกกดคะแนนกลับเป็นเธอ

“นักเรียนอิ๋งจื่อจินได้ไปอีกหนึ่งคะแนน” พิธีกรยกมือขวา

“ตอนนี้คะแนนของเราคือสิบเจ็ดต่อศูนย์ นักเรียนไอริน่าต้องพยายามแล้วนะครับ”

ไอริน่าเม้มริมฝีปากแน่น ไม่มีความอวดดีแบบเมื่อก่อนแล้ว เธอมองเครื่องจับเวลาของตัวเอง ใบหน้าเริ่มซีด

ศูนย์คะแนน

ราวกับกำลังยิ้มประชด

ใช่ว่าเธอจะทำไม่ได้ แต่ไวไม่เท่าอิ๋งจื่อจิน

บนหน้าจอถ่ายทอดสดเต็มไปด้วยข้อความเยาะเย้ยถากถาง

[ดูซิใครกันแน่ที่ขยะ]

[เด็กเทพไอริน่า เธอก็ได้แค่นี้แหละ แข่งความเร็วใช่ไหม เอาสิ!]

เวลานี้อิ๋งจื่อจินได้ยกมือขึ้น

พิธีกรเห็นจึงรีบถามทันที “นักเรียนอิ๋งมีเรื่องอะไรเหรอครับ”

อิ๋งจื่อจินสีหน้าเรียบเฉย “ขอหยุดชั่วคราวค่ะ”

“ได้ครับ” พิธีกรก็ไม่ได้ถามถึงสาเหตุ ตะโกนขึ้น “หยุดพักชั่วคราวครับ”

ไอริน่าก็เอากระดาษทิชชู่มาเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก เตรียมดื่มน้ำพักสักหน่อย แต่อิ๋งจื่อจินกลับหยิบไมโครโฟนขึ้นมา

เธอปรับความดังขึ้นสูงที่สุด หันหน้าเล็กน้อยไปมองไอริน่าที่กำลังเปิดฝาขวดน้ำ

พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาอย่างสิ้นเชิง

“ขยะ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 411 ตกม้าตาย อิ๋งจื่อจินพูด ‘ขยะ’

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 411 ตกม้าตาย อิ๋งจื่อจินพูด ‘ขยะ’ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 411 ตกม้าตาย อิ๋งจื่อจินพูด ‘ขยะ’

เธอไม่ได้พูดคำนี้ออกไป แค่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น แต่แววตาแสดงความรู้สึกทั้งหมด

อิ๋งจื่อจินรูปร่างสูง มองจากไกลๆ ดูผอมบาง

แตกต่างจากพวกผู้เข้าแข่งขันของโรงเรียนเอลาน อิ๋งจื่อจินอยู่ในชุดนักเรียนฟ้าขาวของโรงเรียนมัธยมชิงจื้อ ไม่มีการแต่งแต้มส่วนเกิน

ทว่ากลับเปรียบเสมือนภูเขาสูงที่ตั้งตระหง่านมิอาจข้ามผ่าน ไม่อาจรุกรานได้

เธอใช้วิธีที่ไร้ซุ่มเสียงแบบนี้บอกผู้เข้าแข่งขันของประเทศจีนทุกคน ตัวแทนคณะ และเหล่าศาสตราจารย์ว่า ขอแค่มีเธออยู่ก็ยังมีโอกาสชนะ

แพ้ได้…แต่ห้ามถูกเหยียบย่ำศักดิ์ศรีไม่ว่าใครทั้งนั้น

“ใช่ครับ นี่ก็คืออันดับหนึ่งชาร์ตรวมทั่วโลกของเรา มาจากโรงเรียนที่เป็นหนึ่งในสามโรงเรียนชั้นยอดของประเทศจีน อิ๋งจื่อจินจากโรงเรียนมัธยมชิงจื้อครับ!” พิธีกรพูดเร็วมาก สีหน้าตื่นเต้น

“ปีนี้เธออายุสิบแปดปี โตกว่าไอริน่าหนึ่งปีครับ”

“เชื่อว่าคงมีผู้ชมที่ได้ดูการแข่งแบบทีมในตอนเช้าของวันแรกได้รู้จักชื่อเธอไปแล้ว การแข่งทีมมีทั้งหมดห้าสิบทีม ทีมที่เธอเป็นหัวหน้าไม่เพียงแต่จะเป็นทีมเดียวที่ได้คะแนนเต็ม ยังได้โบนัสเรื่องเวลาด้วยครับ”

“ตอนนี้เธอใช้สิทธิ์ของอันดับหนึ่งชาร์ตรวมทั่วโลกมาลงแข่งประเภทเดี่ยว ทุกท่านช่วยกันต้อนรับเธอด้วยครับ”

คำพูดพวกนี้ของพิธีกรคล้ายระเบิดที่โยนใส่กลุ่มผู้ชม

ไม่ใช่แค่ผู้ชมในสนามแข่งที่ดูอยู่ ยังมีชาวเน็ตที่รับชมถ่ายทอดสดอีกด้วย

[กรี๊ด!]

[อันดับหนึ่งชาร์ตรวมทั่วโลก!]

[อิ๋งจื่อจินจากประเทศจีน!]

[เทพอิ๋งของฉันสุดมาก อื้อหือ เลือดฉันจะหมดตัวแล้ว!]

[เทพอิ๋งเซด อันดับหนึ่งชาร์ตรวมก็ฉันเอง นึกไม่ถึงใช่ไหมล่ะ]

[ขอสงสัยอย่างมีเหตุผลว่า เทพอิ๋งเห็นแก่เงินรางวัลก็เลยเผลอได้อันดับหนึ่งของชาร์ตรวม(อีโมชันหัวหมา)]

เวลานี้ไม่ต้องให้หลังเวทีสั่งการแล้ว

กล้องทุกตัว ทุกตำแหน่ง ต่างจับภาพไปที่อิ๋งจื่อจิน

ชื่อของอิ๋งจื่อจินและใบหน้าของเธอ วินาทีนี้ได้ปรากฏบนหน้าจอของหลายคนที่อยู่ทั่วทุกมุมโลกและได้ถูกจดจำไว้

อิ๋งเย่ว์เซวียนที่กำลังดูถ่ายทอดสดรอบตัดสินของไอเอสซีอยู่ในบ้านตระกูลอิ๋งก็แทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็น

อิ๋งจื่อจินก็คืออันดับหนึ่งของชาร์ตรวมทั่วโลกเหรอ

ล้อเล่นอะไรน่ะ…

มือของอิ๋งเย่ว์เซวียนเริ่มสั่น หูอื้อไปหมด เลือดในกายสูบฉีดขึ้นสมอง

พอเธอนึกได้ว่าเธอยังเคยส่งข้อความแสดงความนับถือให้อันดับหนึ่งชาร์ตรวมในแอปฯ ฉลามไลฟ์สด เธอก็แทบสติแตกทันที

อิ๋งจื่อจินอีกแล้ว!

น่าตลกที่ว่าเธอยังแอบคิดมาตลอดว่า อิ๋งจื่อจินเทียบอันดับหนึ่งของชาร์ตรวมไม่ติดสักนิด

อิ๋งเย่ว์เซวียนกัดริมฝีปาก จ้องอิ๋งจื่อจินที่อยู่ในจอเขม็ง

มีเสียงไขกุญแจดังมาจากประตูใหญ่ในเวลานี้

อิ๋งเย่ว์เซวียนสีหน้าเปลี่ยน รีบปิดโทรทัศน์ กลับขึ้นห้องนอนของตัวเองที่อยู่ชั้นบนทันที

เธอกำมือแน่น สายตาคลุมเครือ

ทางยุโรปไล่เธอกลับประเทศ ถึงแม้จะไม่ได้พูดสาเหตุ แต่ช่วงหลายวันมานี้จงมั่นหวาก็ดูไม่พอใจในตัวเธอ

เธอหลบได้ก็หลบดีกว่า หรือไม่ก็คิดหาทางอื่น

อิ๋งเย่ว์เซวียนเม้มริมฝีปาก หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาติดต่อจิ่งหงเจิน

ภายในสนามแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ

พิธีกรพูดขึ้นอีกครั้ง “กติกาตัดสินรอบสุดท้ายของเราพิเศษมากครับ มีโจทย์ทั้งหมดสามสิบข้อ ใครชนะก็จะสามารถขโมยคะแนนทั้งหมดของอีกฝ่ายได้”

“ดังนั้นพวกเราต้องถามไอริน่าก่อนว่าจะรับแข่งนัดพิเศษครั้งนี้หรือไม่”

“ฟึ่บ”

สายตาของผู้ชมกลับไปหาไอริน่าอีกครั้ง กล้องก็เคลื่อนตามไปด้วย

ไอริน่ากัดฟันจนแทบมีเลือดออกมา

เธอแสยะยิ้ม “แข่งค่ะ!”

บอกว่าถามความคิดเห็นของเธอ แท้จริงแล้วคือไม่มีโอกาสให้เธอได้คัดค้าน

นี่เป็นการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก

ไม่ใช่ทางคณะกรรมการถ่ายทอดสดเอง จำนวนผู้ชมของแต่ละประเทศรวมกับผู้ชมในสนามแข่งสูงถึงพันห้าร้อยล้านคน!

ตัวเลขนี้เท่ากับหนึ่งในสามของการแข่งขันโอลิมปิกแล้ว

อย่างไรเสียการแข่งขันทางวิชาการก็เทียบกับการแข่งกีฬาไม่ได้ คนส่วนใหญ่ดูแล้วไม่เข้าใจ สัมผัสไม่ได้ถึงความสุขที่ทีมของฝ่ายตัวเองได้เปรียบ

คนที่ดูการแข่งขันนอกจากครูกับนักเรียนในโรงเรียนมัธยมกับมหาวิทยาลัยแล้ว ที่เหลือก็เป็นผู้ปกครอง

สำหรับคนส่วนใหญ่ มีเวลาดูคนอื่นแข่งฟิสิกส์กับคณิตศาสตร์ยังไม่สู้เอาเวลาไปไถติ๊กตอกดูคลิปต่างๆ

แต่พันห้าร้อยล้านคนก็ถือว่าเยอะมากแล้ว

ไอริน่ารู้ดีว่าถ้าเธอกล้าปฏิเสธก็จะขายหน้าไม่มีเหลือ

“โอเคครับ ไอริน่าของเรารับคำท้าครั้งนี้อย่างสบายๆ” พิธีกรพูด

“ถ้าอย่างนั้นให้ทั้งสองคนพักผ่อนสักเล็กน้อยก่อน อีกเดี๋ยวการตอบคำถามจะเริ่มขึ้นแล้วครับ”

“ไม่ต้องค่ะ” อิ๋งจื่อจินเหลือบตาขึ้น “มีเวลาไม่มากแล้ว เริ่มเลยค่ะ”

พิธีกรอึ้ง ตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว “งั้นไอริน่า…”

“แข่งเลยก็ได้ค่ะ” ไอริน่าแสยะยิ้ม

“ฉันก็ไม่ต้องการพักเหมือนกัน”

เมื่อทั้งสองคนพูดแบบนี้ พิธีกรก็ไหลไปตามน้ำ

“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็ขอให้ผู้เข้าแข่งขันทั้งสองคนมองที่จอใหญ่ครับ”

บนจอใหญ่ปรากฏคำถามข้อแรกอย่างรวดเร็ว

ผู้ชมและชาวเน็ตก็จ้องอย่างไม่วางตา

[โจทย์ข้อนี้เป็นการพิสูจน์การคาดการณ์ของฮอดจ์ กรุณาเติมคำในช่องว่าง]

โจทย์ที่ขึ้นมาเป็นหนึ่งในเจ็ดโจทย์คณิตศาสตร์ที่ยากระดับโลก

เจ็ดโจทย์คณิตศาสตร์ที่ยากระดับโลกเป็นปริศนาที่ยังไม่ได้รับการไขมาตลอดสำหรับวงการคณิตศาสตร์

ด้วยเหตุนี้ศูนย์คณิตศาสตร์สากลถึงตั้งเงินรางวัลในการแก้เจ็ดโจทย์ที่ยากระดับโลกนี้ โดยให้ข้อละหนึ่งล้านดอลลาร์

การคาดการณ์ของฮอดจ์ นักคณิตศาสตร์คนหนึ่งของประเทศสหรัฐอเมริกาเพิ่งพิสูจน์ออกมาได้เมื่อต้นปีนี้ ก็แค่ยังไม่เปิดเผยสู่สาธารณชน นี่ก็คือกระบวนการพิสูจน์ที่นักคณิตศาสตร์คนนี้ทำได้

แม้จะเว้นช่องว่างไว้แค่ไม่กี่ช่อง แต่ก็ยังคงยากมาก

คนออกโจทย์จึงไม่ได้คิดว่าจะมีคนทำโจทย์ข้อนี้ได้

เขารินชาร้อนให้ตัวเองอย่างมีความสุข ดูการแข่งขันต่อ

อิ๋งจื่อจินหรี่ตาลงเล็กน้อย ในขณะที่ไอริน่าเพิ่งจะหยิบกระดาษกับปากกาบนโต๊ะขึ้นมาเริ่มคำนวณ เธอก็บอกคำตอบออกมา

“อันดับหนึ่งของชาร์ตรวมมีความรู้ที่แน่นมากทางด้านคณิตศาสตร์” พิธีกรก็ตะลึง แต่เขาเป็นคนมีไหวพริบดี

“ต่อไปเป็นโจทย์ข้อที่สอง ทดสอบความจำครับ”

[จุดทศนิยมหลักที่หนึ่งร้อยเอ็ดของค่าพายคือเท่าไร]

อิ๋งจื่อจินพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ครั้งนี้ตอบในเสี้ยววินาที “แปดค่ะ”

“ดูท่านักเรียนอิ๋งจื่อจินของเราก็ความจำดีด้วยเช่นกันนะครับ คนทั่วไปจำได้ถึงหลักสิบก็เก่งมากแล้ว” พิธีกรพูดพลางแสดงภาพบนหน้าจอ “และนี่คือโจทย์ข้อที่สามครับ”

ระยะเวลาในการแข่งขันเร็วกว่าที่ทุกคนคิดไว้มากทีเดียว

โจทย์แต่ละข้อ ไม่ว่าจะเป็นของสายวิทย์หรือสายศิลป์ หรือแม้กระทั่งมีโจทย์หลายข้อที่ใช้ศัพท์เฉพาะจำนวนมากหลายคนไม่เคยได้ยิน

แต่อิ๋งจื่อจินใช้เวลาในการตอบโจทย์ไม่เกินสิบวินาทีเลยสักครั้ง

คนออกโจทย์นั่งอยู่ตรงที่นั่งของศาสตราจารย์ เขาได้ยินเสียงชวนให้ใจสลายอย่างชัดเจน

[โอ้โห งงตาแตกอีกแล้วครับท่าน นี่ก็คือผู้แข็งแกร่งที่แท้จริงใช่ไหม]

[ฉันเพิ่งอ่านโจทย์เสร็จแต่เทพอิ๋งตอบออกมาแล้ว]

[ไม่พูดเรื่องอื่น แต่ฉันสะใจมาก ตอนนั้นไอริน่ารังแกผู้เข้าแข่งขันของพวกเรายังไง ตอนนี้โดนเอาคืนเป็นสิบเท่าร้อยเท่า! ฮ่าๆ เห็นหรือยัง นางได้ศูนย์คะแนน!]

โจทย์ข้อที่สิบเจ็ดก็ยังคงเป็นอิ๋งจื่อจินที่พูดคำตอบออกมาก่อน ในที่สุดไอริน่าก็หน้าบึ้ง

เธอกำมือแน่น หน้าผากมีเหงื่อผุด

โจทย์พวกนี้ไม่ได้ยาก เธอมั่นใจว่าคำนวณออกมาได้ภายในยี่สิบวินาที แต่อิ๋งจื่อจินเร็วกว่าเธอ

เด็กมัธยมปลายคนเดียวทำไมถึงได้หัวไวขนาดนี้!

อันที่จริงสำหรับผู้เข้าแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของไอเอสซี ความยากของโจทย์เป็นเรื่องรอง สิ่งสำคัญที่สุดคือเวลา

โดยทั่วไปโจทย์เก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์พวกเขาทำได้ แค่แพ้ให้กันเรื่องเวลา

โจทย์แข่งเดี่ยวความยากเป็นเพียงหนึ่งในสิบของการแข่งทีม

ไอริน่าใช้ประโยชน์ในเรื่องเวลาถึงได้กดคะแนนของผู้เข้าแข่งขันชาวจีนได้หลายสิบคน

แต่เธอนึกไม่ถึงจริงๆ ว่า ตอนนี้คนที่ถูกกดคะแนนกลับเป็นเธอ

“นักเรียนอิ๋งจื่อจินได้ไปอีกหนึ่งคะแนน” พิธีกรยกมือขวา

“ตอนนี้คะแนนของเราคือสิบเจ็ดต่อศูนย์ นักเรียนไอริน่าต้องพยายามแล้วนะครับ”

ไอริน่าเม้มริมฝีปากแน่น ไม่มีความอวดดีแบบเมื่อก่อนแล้ว เธอมองเครื่องจับเวลาของตัวเอง ใบหน้าเริ่มซีด

ศูนย์คะแนน

ราวกับกำลังยิ้มประชด

ใช่ว่าเธอจะทำไม่ได้ แต่ไวไม่เท่าอิ๋งจื่อจิน

บนหน้าจอถ่ายทอดสดเต็มไปด้วยข้อความเยาะเย้ยถากถาง

[ดูซิใครกันแน่ที่ขยะ]

[เด็กเทพไอริน่า เธอก็ได้แค่นี้แหละ แข่งความเร็วใช่ไหม เอาสิ!]

เวลานี้อิ๋งจื่อจินได้ยกมือขึ้น

พิธีกรเห็นจึงรีบถามทันที “นักเรียนอิ๋งมีเรื่องอะไรเหรอครับ”

อิ๋งจื่อจินสีหน้าเรียบเฉย “ขอหยุดชั่วคราวค่ะ”

“ได้ครับ” พิธีกรก็ไม่ได้ถามถึงสาเหตุ ตะโกนขึ้น “หยุดพักชั่วคราวครับ”

ไอริน่าก็เอากระดาษทิชชู่มาเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก เตรียมดื่มน้ำพักสักหน่อย แต่อิ๋งจื่อจินกลับหยิบไมโครโฟนขึ้นมา

เธอปรับความดังขึ้นสูงที่สุด หันหน้าเล็กน้อยไปมองไอริน่าที่กำลังเปิดฝาขวดน้ำ

พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาอย่างสิ้นเชิง

“ขยะ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+