ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi 50 สงครามอาร์คแลนด์ ⑦ จุดจบของสิ่งหนึ่ง
50 สงครามอาร์คแลนด์ ⑦ จุดจบของสิ่งหนึ่ง
เวอร์ชั่นไม่เซ็นเซอร์อ่านได้ที่ tunwalai หรือ readAwrite
—————————————————————
【–มุมมอง เอเกอร์–】
อาณาจักรอาร์คแลนด์ เมืองหลวงของอาร์คแลนด์ ที่ตั้งแคมป์ของกองกำลังลงโทษ
「ผู้บัญชาการกองพันได้กลับมาแล้ว!」
「นายพลอมตะผู้กล้าหาญ!」
「เค้าเป็นพระเจ้าแห่งการต้อสู้ที่สังหาร 200 คน!」
「เค้าคือนักชื่นชมผู้หญิงที่ไม่ย่อท้อ!」
ซีเลียและผมอยู่ที่มุมของเมืองหลวงที่ถูกล้อมเมืองอยู่ และเราได้ถูกต้อนรับกลับมาจากพวกกองทัพกลางด้วยเสียงเชียร์ ก่อนผมจะรู้มัน ข่าวลือเกี่ยวกับผมได้แพร่กระจายไปแล้ว
「นายทำได้ดีที่กลับมา ผู้บัญชาการกองพัน」
「ลอร์ดฮาร์ดเลตต์ นายกลับมาแล้ว」
อากอร์ คนอื่นและอีริชได้มาเพื่อทักทายผม
「ซีเลีย-โดโนะ เธอทำได้ดีในการดูแลผู้บัญชาการ」
「ไม่มันเป็นบางอย่างที่ธรรมชาติ」
「…บางทีบรรยากาศของรอบนายได้เปลี่ยน」
「มันไม่มีอะไรเลยซักนิด! ทุกอย่างได้เหมือนปรกติ!」
อีริชและผมพูดเกี่ยวกับว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป
「กองพันของนายจะเหมือนเดิม ชั้นจะคืนการบัญชาการให้นาย」
「รับทราบ อะไรจะเกิดกับทหารอาสา?」
จนถึงเรามาตอนนี้ รวมถึงทหารศัตรูที่หนี จำนวนของเขาได้เพิ่มขึ้น เราปฏิบัตกับพวกเขาอย่างเป็นกองทัพเดียวกัน และมีตัวแทนรับมือมัน
จำนวนได้เข้าไปถึง 20,000 แล้ว มันเป็นหนึ่งในสิบของพลเมืองของอาร์คแลนด์ ด้วยนี่ พวกเขาไม่ควรจะสามารถดูแลชาติได้อย่างถูกต้อง แต่ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องของเวลาก่อนที่ปราสาทจะล่มสลาย…
「ศัตรูได้คงอยู่ตลอดเวลานี้เหรอ?」
「ตรงกันข้าม การกบฏอย่างต่อเนื่องที่ก่อโดยพวกนั้นที่ภักดีอย่างลึกซึ้ง มีส่วนร่วมในการป้องกันการล้อมเมือง; ชั้นจิตนาการไม่ได้ว่าจะมีคนแปรพักตร์มากกว่านี้ เมืองเองแข็งแกร่งเหมือนป้อมปราการ」
ทหารของอาร์คแลนด์ที่หลบหลังสิ่งกีดขวางมีจำนวน 10,000 แต่ด้วยจำนวนพลเมือง 20,000 อยู่บนฝั่งเรา เราส่งพวกเขาบางรูปแบบได้ กองกำลังลงโทษรวมกันมีจำนวน 40,000 แต่ใส่จำนวนทหารอาสาเข้าไปมันจะเพิ่มเป็น 60,000
แม้ว่าเมืองหลวงไม่เหมือนเมืองสีขาวในสหพันธรัฐก่อนหน้า มันเป็นปราสาทที่หนาและค่อนข้างสูงปกป้องพวกเขาเองอย่างดี เพื่อที่จะทำลายกำแพงแบบนั้น มันต้องใช้เวลาจำนวนมาก และมันได้แค่เมื่อศัตรูไม่ต่อต้านด้วย
แต่ถึงอย่างไร พึ่งทหาร 60,000 คนและโจมตีอย่างจริงจัง กำแพงจะถูกพังทลายลง ยกเว้นมันจะใช้เวลา ถ้ามีผู้เสียสละมากเกินไปจะทำให้ทหารอาสารู้สึกว่าตำแห่งของพวกเขาไม่สบายใจ และพวกเขาอาจจะตื่นตกใจ
「ในการต่อสู้ระยะสั้น เราใช้ทีมชั้นสูงเพื่อที่จะทำลายจุดเดียว และถ้าส่วนหนึ่งของประตูเมืองได้ถูกทำลาย จากนั้นมันจะพังทลายเหมือนหิมะ และจำนวนจะทำที่เหลือ」
「ชั้นเห็นด้วย แต่เส้นนั้นได้ถูกทดลองหลายครั้งแล้ว ประตูเมืองหนาและทำมาจากเหล็ก; เครื่องกระแทกประตูและธนูยาวไม่มีผลเลย」
เมื่อเสียงที่เฉพาะของบาริสต้าได้ครวญ น้ำมันได้ถูกเผา และหินถูกโยน
「เราจะรบกวนแล้วโยนหินติดไฟใส่พวกเค้าต่อ แต่มันจะมีผลมากขนาดไหน?」
ดูจากระยะไกล มันไม่ได้ดูเหมือนอัคคีภัยใหญ่เกิดขึ้น ประตูเมืองต้องอยู่ไกลจากบ้าน และทีมดับไฟได้ทำหน้าที่
「ในกรณีที่แย่ที่สุด เรามีเสบียงอาหารจากบ้านเกิดของเรา ถ้าเราล้อมพวกเขา ในท้ายที่สุดพวกนั้นจะหิวและออกมา」
แต่ถ้าเราทำอย่างนั้น คนพวกนั้นจะออกมาจริงๆก่าอนที่จะหิวเพื่อต่อต้านเรา และถ้าทหารของศัตรูหิว นั่นหมายถึงชาวเมืองจะเริ่มตายไปแล้ว… ถ้านั่นเกิดขึ้น เมืองหลวงจะเป็นเมืองของคนตายและกำไรจากการได้เมืองจะหายไป
「เราต้องคิดมันด้วยฝั่งของเราไม่วิธีได้ก็วิธีหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่มันเป็นลีโอโพลต์นะ แต่」
อีริชหัวเราะ
「นั่นใช่แล้ว ชายคนนั้นมีทักษะแม้ว่าเค้าขาดความน่าคบ」
เขาได้มองอยู่ใกล้ๆ
「งั้นมันเป็นอย่างนั้น มีความคิดดีๆรึเปล่าล่ะ?」
หลังจากเวลานานที่ได้เจอลีโอโพลต์อีกครั้ง นอกจากการทักทายที่สุภาพของเขา ไม่มีอะไรเปลี่ยน
「ผมมีความคิด แต่จากตำแหน่งของผม คำขอผมจะไม่ผ่าน ดังนั้นผมเลยรอคุณกลับมาอยู่ ลอร์ดฮาร์ดเลตต์」
พวกเขาไม่ได้มอบอำนาจให้ ผู้ติดตาม/นักวางกลยุทธ์เพื่อแนะนำความคิดกับผู้บัญชาการสูงสุด อีริชน่าจะอนุญาตมัน แต่เราไม่เคารพที่เหลือไม่ได้ แม้ว่ามันเป็นบางอย่างที่คิดมาอย่างหยาบๆ ถ้ามันไม่ได้มาจากผม มันจะไม่ถูกอนุญาต
「วัตถุประสงค์มันเป็นแบบเดิมที่เราทำมาจนถึงตอนนี้ เราจะเน้นไปที่การโจมตีประตูเมืองและฝ่าเข้าไป จากนั้นจากตรงนั้น เราจะรีบเข้าไปเหมือนหิมะถล่มแล้วสรุปทุกสิ่ง」
แต่จากที่ผมได้ยิน ทั้งหมดที่เราทำจนถึงตอนนี้เหมือนการโจมตีตอนกลางคืน การยิงธนูไปเป็นห่าฝน และแม้แต่การจู่โจมพวกเขา – ความพยายามทั้งหมดของเราล้มเหลวและทหารล้มตายอย่างไม่มีจุดหมาย
「มีสองปัญหา: ไม่มีที่ให้ซ่อนรอบประตูเมือง ดังนั้นเราจะรับการโจมตีที่เน้นมา และตัวประตูเมืองเองที่เครื่องกระแทกไม่มีผล」
มันเจ็บแม้ว่าเรามองข้ามจำนวนผู้สูญเสีย เราจะได้รับความเสียหายจากการเน้นการโจมตีเพื่อที่จะฝ่าประตูเมือง และยังไม่สามารถที่จะทำลายประตูเมือง อย่างที่คาด มันไม่เหมือนแอ่งคู่ของผมที่ตัดผ่านเหล็กได้เหมือนเนย
…หรือผมมันทำได้มั้ย? ผมควรจะลองมันมั้ย?
「ได้โปรดหยุด ครั้งนี้ท่านจะตาย」
ดั่งเธอได้อ่านใจผม ซีเลียได้คัดค้าน ยังไงซะไม่ใช่ว่าเธอกลิ่นดีมากตอนนี้เหรอ ตั้งแต่ที่เธอเสียความบริสุทธิ์ไป เธอได้เป็นผู้หญิงมากขึ้นทันที
「ในเวลานี้ วันที่แดดออกจะมีลมพัดจากทิศจะวันตกไปที่ทิศตะวันออก เราจะจุดไฟที่ฝั่งจะวันตกและให้ควันลอยไป」
「เข้าใจแล้ว ใช้มันเป็นม่านควันจากนั้นโจมตี และจากนั้นไม่ใช่ว่ามันจะบอกพวกเขาถึงการโจมตีของเราก่อนหน้าเหรอ?」
「ผมก็เดาว่าอย่างนั้น แต่เราเป็นกองทัพที่ไม่เชี่ยวชาญในการร่วมมือ ดังนั้นการโจมตีซึ่งหน้านั้นดีที่สุด」
「มันจะมีควันมากพอที่จะทำให้ศัตรูบอดมั้ย?」
「ไม่มีทาง นั่นทำไมเราจะใช้สิ่งนี้」
ลีโอโพลต์ชี้ไปที่ตระกร้า ข้างในเป็นไม้ฟืนสีแดงดำและ…หนอนผีเสื้อยักษ์
「ฮฮฮิ้ห์!」
แม้แต่ซีเลียที่ปรกติจะไม่ตื่นเต้นกับแมลงหรือหนูยังถอยให้กับสิ่งนี้ ขนาดมันเกือบจะเท่าแมว และเข็มจำนวนมากได้ดิ้นอยู่บนมัน
「…เราจะโยนแมลงที่น่าเกลียดนี้ไปใส่ศัตรูเหรอ?」
「ฟืนทำจากต้นโนโรว มันเป็นต้นไม้มีพิษที่ทำให้คันเมื่อจับมัน แมลงเรียกว่ากูกริลยังไงซะ เท่าที่เห็นได้มันมีพิษด้วย และมันเป็นพิษที่ค่อนข้างแรงด้วย」
ก่อนผมจะรู้ตัว ซีเลียได้ออกจากห้องไปแล้ว ถ้าเป็นไปได้ผมไม่อยากจะอยู่ใกล้มันด้วย
「ถ้าเราเผาของเหล่านี้ไปในไฟ จากนั้นไฟพิษจะถูกสร้าง เราจะรวมพวกมันมาเป็นจำนวนมากและเผามัน เราจะไม่สามารถฆ่าอะไรได้ แต่เราจะสามารถสร้างผลกับตาและคอได้ ดังนั้นพวกเค้าจะไม่สามารถยิงธนูและหินมาที่เราได้ตามต้องการ」
มันเป็นความคิดที่ดี แต่ถ้าควันได้มาถึงที่ที่ผมอยู่ ผมจะให้คนพวกนี้สูดหายใจของพวกนี้เข้าไปลึกๆ
「นี่จะเป็นม่านควันที่เพียงพอ ผมเดาว่า…สู่ปัญหาต่อไป」
「ลอร์ดฮาร์ดเลตต์จะให้ความได้เปรียบจากช่องเปิดที่ศัตรูเปิดให้เรา ฝ่าเข้าไปและฟันประตูเมืองให้ขาดครึ่ง」
「……」
「มันเป็นมุขตลกครับ ผมได้รวบรวมข้อมูลจากทหารที่เข้าหาประตูได้จากการพุ่งเข้าตีก่อนหน้านี้ มันเป็นประตูเมืองที่ทำมาอย่างแน่นหนา ไม่ว่าจะใช้เครื่องกระแทกแค่ไหน มันจะไม่แม้แต่กระดิก」
เขาพูดเรื่องตลกและเรื่องจริงจังด้วยหน้าตรงๆเหมือนเดิมของเขา ดังนั้นผมไม่รู้เมื่อเขาบอกมุขตลก
「แต่ผมได้ดึงหินปูพื้นที่พื้นทำมาเพราะหินติดไฟไหม้พื้นดินถูกเปิดเผย พูดอีกอย่างถ้าดึงหินปูพื้นออก ข้างใต้จะเป็นดิน ความลึก 1 เมตร ถ้าเราขุด 2-3 เมตรลงไป เราลงไปข้างล่างประตูเมืองแล้วเรามุดดินไปได้」
ถ้าจะขุดดินตรงหน้าศัตรู… ถ้าพวกเขาถือโล่หรืออะไรบางอย่างเหนือหัว พวกเขาอาจจะไม่สามารถบอกได้ว่าเราจะตีเขาด้วยเครื่องกระแทกหรือจะขุดดิน ถ้ามันสำเร็จเราผ่านประตูเมืองไปได้ด้วยหลายคนและเปิดมันได้
「แน่นอนว่ากลุ่มเล็กๆจะฝ่าเส้นของศัตรูเข้าไป และพวกเค้าจะโดนรุม อย่างไรก็ตามถ้าเรามีความกล้าที่จะเอาชนะพวกศัตรูและเปิดประตูเมืองได้ เราจะยึดเมืองหลวงได้ในทีเดียว」
มันค่อนข้างน่าจะเป็นผมที่จะทำมัน แม้ว่าผมเพิ่งรักษาจากอาการบาดเจ็บ ผมจะฝ่าไปยังดินแดนแห่งความตายอีกแล้ว
「ดีคมาก ชั้นจะสื่อสารมันกับอีริช สถานการณ์ปัจจุบันมันค่อนข้างกินกันไม่ลงยังไงก็ตาม เรามาลองแผนของนายได้」
「การเตียมการเกือบจะเสร็จแล้ว แต่ออกคำสั่งแล้วเราจะออกไปได้ทุกเวลา」
เขาเป็นชายที่ฉลาดจริงๆ ดังนั้นนั่นหมายถึงเขารวบรวมไม้และแมลงที่น่าขยะแขยงนั่นแล้ว…
「คย้าาาาาา!!」
เสียงผู้หญิงกรีดร้อง เพียงแค่คนเดียวที่อยู่ใกล้คือซีเลีย เมืองผมรีบไป ซีเลียได้คลานอยู่ที่พื้น
ต้นเหตุมาจากแมลงมีพิษที่เราพูดถึง มันได้รวมกัน อัดอยู่ในกล่องและปล่อยไว้ที่มุมของแคมป์เป็นจำนวนมาก เพื่อที่จะเลี่ยงการแสดงสิ่งที่แยกๆ พวกเขาปิดมันด้วยผ้า แต่มันดูเหมือนซีเลียขึ้นไปนั่งบนมัน
「อ-เอเกอร์-ซามะะ! หนูทับไอ้ดิ้นๆนั่นอ่า! มันเผละเลย!」
เธอคลานและกอดเท้าของผม ซีเลียเกาะผมระหว่างที่ร้องไห้ แม้ว่ามันไม่ใช่เรื่องที่แย่ แม้ว่าต้นเหตุมันมาจากแมลง มันทำให้ผมมีอารมณ์นิดหน่อย
「ซีเลยมีขนติดก้นของเธอน่ะ」
「ท่านโกหก! มันอยู่ไหน?! ได้โปรดนำมันออก!」
เธอจับก้นเธออย่างสิ้นหวังแต่เข็มจากแมลงไม่ได้ดูเหมือนจะทะลุผ่านเสื้อผ้าที่ปิดมัน ไม่มีอะไรติดกับก้นของเธอ
「ชั้นจะเอาเต็นท์นี้」
ซีเลีย ที่ตามมาอย่างเชื่อฟังตอนแรก ถอดทุกอย่างทั้งหมดแม้แต่ครึ่งบนของเธอเมื่อในที่สุดเธอก็รู้
「เอเกอร์-ซามะ ท่านหลอกหนู! ท่านไม่ควรทำแบบนี้เพราะท่านเพิ่งมาถึง และอะไรบางอย่างแบบนี้」
ไม่มีอะไรจะเกิดขึ้นแม้ว่าผมจะบอกอีริชช้า
ความเจ็บจากการเปิดซิงควรจะหายไปในไม่นานนี้
「อ๊าาาาาาาา–!!」
ระหว่างที่เธอยังยืน ผมแทงเอ็นเข้าไปที่ก้นเล็กๆของเธอจากข้างหลัง ภาพที่ผิดศีลธรรมของเอ็นที่ใหญ่ฝังลงไปในสาวน้อยได้เกิดขึ้น แต่ในทางตรงกันข้าม เธอครางด้วยความรู้สึกดี ที่ยืดไปเป็นเวลานาน
—————————————————————
เช้าตรู่วันต่อมา
「พระอาทิตย์จะขึ้นในไม่นาน」
「ใช่ ลมก็เหมือนที่คาดการณ์ไว้ มาจุดไฟทันทีที่พระอาทิตย์ขึ้นเถอะ」
อีริชและผม ด้วยกันกับผู้บัญชาการกองพันอื่นได้เฝ้ามองหลายๆสิ่ง; แผนของลีโอโพลต์จะถูกใช้งานจริงๆในท้ายที่สุด ผมก็จะมีส่วนร่วมในการบุกประตูเมืองด้วย มันดูเหมือนว่าแต่ละประเทศ ได้นำกองกำลังออกมาที่เก่งในการต่อสู้
เมื่อเราสำเร็จในการเปิดประตูเมือง จากนั้นทหารเป็นหมื่นจะท่วมเข้าไป; ถ้าเราทำอย่างนั้น อาร์คแลนด์ในทางปฏิบัติแล้วจะไม่มีตัวเลือกในการป้องกัน
「จุดไฟ!!」
ควันเริ่มขึ้นมาจากทิศตะวันตกของเมือง ศัตรูก็รู้ถึงม่านควันและมีนักธนูจำนวนพอสมควรยืนอยู่ที่กำแพงทิศตะวันตก มันจะเป็นอะไรที่ชัดเจนว่าเรามาจากทิศตะวันตก ดังนั้นแผนของลีโอโพลต์มีชั้นซ้อนของความมุ่งร้ายที่จะจัดการกับการตอบโต้ที่ถูก
「ระหว่างที่เราทำมันอยู่ ใช้บาริสต้าเพื่อโยนคุไฟเข้าไปข้างในด้วย」
「แต่ชั้นไม่ชอบที่จะทำมันระหว่างที่ยังมีคนที่มีชีวิตอยู่ที่นั่นนะ」
ซีเลียได้มีแผลทางใจกับแมลง เธอเลยซ่อนอยู่ในผ้าคลุมของผมและปิดตาของเธอ ผมคิดว่าเธอได้กลายเป็นผู้หญิง แต่มันดูเหมือนเธอได้กลับไปเป็นเด็ก
「กลิ่นมันย่ำแย่…」
แม้ว่าเราจะอยู่เหนือลม กลิ่นมันแรงจนเราต้องปิดหน้าด้วยผ้า แต่ตอนนี้ พวกนั้นที่อยู่ข้างบนกำแพงได้คิดยาวและมาก ผมไม่เห็นสีหน้าของพวกเขาจากตรงนี้ แต่มันดูเหมือนพวกเขาเคลื่อนไหวกันอย่างไม่เป็นธรรมชาติ
「มาให้ควันขึ้นไปซักพักเถอะ มาทำนี่จนพวกเค้าไม่อยากจะดูกำแพงเถอะ」
หลังจากก่อกวนพวกเขาอย่างมากด้วยควันมาเป็น 2 ชั่วโมง กองทัพใหญ่ที่มีเครื่องกระแทกได้เดินหน้าไปที่ประตูเมือง
ในเวลานี้ เครื่องกระแทกจะไม่ได้เล่นบทบาท แต่ผมให้พวกเขาอ่านแผนผมจากขั้นตอนเปิดแผนไม่ได้
ทหารบ่นเกี่ยวกับกลิ่นที่เข้มข้น ทุกคนได้ถูกแนะนำให้นำผ้ามาปิดหน้า และพวกเขาทำอะไรไม่ได้สำหรับตาที่เจ็บ แต่แม้อย่างนั้น ถ้าเราหยุดควันอย่างสมบูรณ์ มันจะเหมือนกันก่อนเราจะโดนชำระบาปด้วยลูกธนูและหิน
ไม่เหมือนศัตรูที่ต้องเพ่งเมืองเล็งมาที่เรา เราแค่ต้องก้มหน้าลงระหว่างที่เดินไปข้างหน้า ดังนั้นเราควรจะสามารถทนได้
เมื่อเราได้เข้าใกล้ประตูเมือง อย่างที่คาด ลูกธนูและหินที่บินมาหาเราเข้มข้นขึ้นอีก แม้อย่างนั้น มันดูเหมือนจะดีกว่าก่อนหน้านี้ ด้วยโล่ที่ใหญ่ยกเหนือหัว เหล่าทหารช่างและเครื่องกระแทกได้เข้าหาประตูเมือง
ยังไงซะ จนกว่าหลุมจะถูกขุด มันไม่มีอะไรให้ผมทำ ผมกอดซีเลียเพื่อที่จะปกป้องเธอจากลูกธนูและหินที่โยนมา
「เอเกอร์-ซามะ! ท่านไม่ได้จริงจังที่จะทำนี่ระหว่างอยู่ที่สนามรบนะ ท่านคิดอะไรอยู่น่ะ?!」
ผมควรจะถามว่าเธอคิดอะไรอยู่ เธอเพียงแค่ถูกปกป้องโดยผม
ด้วยเสียงเชียร์และเสียงกรีดร้อง และการตะโกนด้วยความโมโห รูดูเหมือนจะถูกขุดเปิดแล้ว ขณะที่ผาเข้าหาประตูเมือง นักรบผู้กล้า(?) บางคนจากแต่ละประเทศ ที่ได้พูดว่าเป็นพลหอกที่เก่งที่สุด ได้มาท่วมทีละคนทุีละคน ระหว่างที่เรารอแถวที่รู
เหล่าทหารช่างเป็นที่สอง รูที่สามได้ถูกขุดแต่มีแถวของทหารที่จะไปเผชิญกับความตาย? ไม่ว่าจะคิดเกี่ยวกับมันอย่างไร ไม่กี่คนแรกจะเป็นคนที่ถูกฆ่า คนที่ฝ่าไปได้คือคนที่กระโดดเข้าไปเมื่อศัตรูได้ช้าลงไป
แน่นอนว่า ผมได้ยินแต่เสียงกรีดร้องมาจากรูเท่านั้น อย่างที่คาด ถ้าเราไม่ฝ่าไปโดยเร็ว จำนวนหินที่ลงมาหาเราจากข้างบนจะเพิ่มขึ้น
「ขยับ」
ผมจับหม้อน้ำมันที่ใช้สำหรับไฟที่เราจุด และโยนมันลึกเข้าไปในรู ครั้งนี้เสียงกรีดร้องมาจากศัตรู
ผมใช้ผ้าคลุมที่ทรงพลังที่เป็นสัญลักษณ์ของลูซี่ปิดตัวผมและกระโดดเข้าไปในรู และฝ่าไฟไป เพราะทหารบางคนติดไฟ ศัตรูได้สร้างระยะของพวกเขาไป ขณะที่ผมออกไปตรงหน้าพวกเขา
「เค้ามาจากข้างในไฟ!?」
「เฮ้ ไม่ใช่ว่าชั้นเห็นพวกนายมาก่อนเหรอ?」
「มันเป็นไปไม่ได้…ปีศาจของดาโทรห์น」
ทีมของศัตรูได้ถอยทันที่ ผมเดาว่าเรื่องราวที่กล้าหาญมีประโยชน์นอกจากจะไว้คุยโอ้อวดในบาร์ ซีเลียได้ตามมาข้างหลังผม ที่ดับไฟอย่างมีทักษะ และไกลออกไป พวกเราก็ตามมาด้วย
「ยิงธนู!」
「กัปตัน ธนูไม่ได้ผลกับคนนี้! ในดาโทรห์น พวกเขายิงเค้าเป็นห่าฝนจนเค้าเหมือนเม่น แต่เค้ายังมีชีวิตชีวา」
นั่นเข้าใจผิดแล้ว มันเจ็บมากจนผมเกือบตาย
「พอแล้ว ศัตรูเป็นแค่คนเดียว! ล้อมเขาในทันทีแล้วมันจะไม่มีปัญหา ไป!!」
ทหารติดอาวุธหนัก 6 คนรีบมาหาผม
และด้วยการเหวี่ยงสี่ครั้ง ดาบล้ำค่าที่ทำจากมิธริล แอ่งคู่ ฟันแยกอัศวินหกคน
ผมกำลังจะต่อ แต่สี่คนข้างหลังผมแข็งไป มันจะทำให้ง่ายกว่าถ้านายมาหาผม
ผมเดินไปด้านข้างและเปลี่ยนสี่คนเป็นหุ่นกระบอกไร้หัว ความคมของแอ่งคู่มันคนละระดับกับดาบอ่อน ผมฟันวัตถุที่มีชุดเกราะขาดได้ง่ายๆ แม้ว่าผมจะเหวี่ยงโดยไม่ใส่กำลังไป
「มันจบแล้วเหรอ? ใครต่อ?」
「สะ-สัตว์ประหลาด…」
「มันเป็นปีศาจแห่งสงครามของจริง….」
ระหว่างที่ศัตรูตื่นตกใจ ซีเลียดับไฟโดยสำเร็จ และพวกของเราออกมาจากรูทีละคนทีละคน ผมเดาว่าหน้าที่ผมเสร็จกับเรื่องนี้แล้ว
「ทุกคน ตามเค้ามา! ขโมยอุปกรณ์แล้วเปิดประตูเมือง」
ผู้บัญชาการจากบางประเทศได้ออกคำสั่งอย่างกล้าหาญ
ผมไม่ชอบเวลาที่คนตะโกนเสียงดังแบบนั้นจริงๆ
ผมไม่ได้วิ่งไปที่เครื่องเปิดประตูเมือง แต่ผมวิ่งไปหาผู้บัญชาการของกองกำลังที่แข็งอยู่ ผมฟันผู้บัญชาการตายที่หน้าเป็นเป็นสามสภาวะ ตื่นตกใจ กลัว สิ้นหวัง และดังนั้น การต่อต้านของประตูเมืองฝั่งตะวันตกหมดไป ในไม่นาน ประตูถูกเปิดและทหารท่วมเข้ามา
「ผู้บัญชาการกองพัน นั่นทำได้ดีมาก」
อากอร์จับบังเหียนของชวาร์ซมา ชวาร์ซหายใจแรงออกมาและเขาไปเพื่อซบซีเลีย มันดูเหมือนยังไม่มีชายคนไหนที่ขี่ได้ยกเว้นผม
จากนั้น ข้างในเมืองหลวงของอาร์คแลนด์ ได้เป็นนรก
ระหว่างทั้งหมดของมัน กองกำลังลงโทษได้ปล้นสะดม บ้านต่อบ้าน ทหารอาละวาดและเสียงกรีดร้องของผู้หญิงได้ยินได้ พวกคนเหล่านั้นที่พยายามจะปกป้องของมีค่าและผู้หญิงถูกฆ่าอย่างไร้ปราณี
「นี่มันปรกติเมื่อสงครามจบ ชั้นเดาว่า」
「ระหว่างกบฏขุนนางฝ่ายใต้ มันเป็นเหตุการภายใน ดังนั้นมันถูกห้าม แต่ครั้งนี้…」
อีริชและผมขมวดคิ้ว ผมคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เยอะ แต่ทหารต้องการรางวัลบ่างอย่างเมื่อพวกเขาชนะ สำหรับกองทัพกลางของโกลโดเนีย เราได้รับอนุญาติให้ยึดทรัพย์สิน แต่การลงโทษได้ถูกกำหนดไว้สำหรับการข่มขืนและการฆาตกรรม อย่างไรก็ตาม เราออกคำสั่งกองกำลังจากประเทศต่างๆไม่ได้ แต่ละประเทศมีสามัญสำนึกว่าหลังจากสงคราม คุณได้รับอนุญาตให้หาผู้หญิง และมันธรรมดาที่จะได้รับอนุญาติให้ฆ่าคนเหล่านั้นที่ต่อต้าน มอบผู้รอดชีวิตช่องว่างที่เอาเปรียบได้ มันเรื่องปรกติของแต่ละประเทศ ที่ห้ามให้จุดไฟใส่ทุกอย่าง
「มารีบแล้วไปล้มวังราชวงศ์เถอะ และหยุดเล่นไปทั่ว」
ในหลายที่ของเมือง ทหารที่รอดชีวิตของอาร์คแลนด์ถูกซ้อมจนตาย โดยไม่แสดงสัญญานของการยอมแพ้ วังราชวงศ์ปิดประตูของมัน และทหารบางคนยังแสดงเจตนาที่จะต่อต้าน แต่บาริสต้ายิงจากทุกทิศทางและธนูยาวยิงน้ำมัน พวกเขาถูกเผา
「เซอร์อัศวิน! ได้โปรดช่วยชั้น!」
ผู้หญิงเปลือยครึ่งหนึ่งวิ่งออกมาหน้าชวาร์ซ เสื่อผ้าของเธอถูกฉีกขาด ดังนั้นคุณเห็นหน้าอกเธอได้ มันโชคดีสำหรับเธอ ถ้าคนที่กระโดดออกมาคือผู้ชายงั้นชวาร์ซควรจะกระทืบเค้าโดยไม่หยุด
พวกเขาไล่ผู้หญิงลงหรืออะบางอย่างเหรอ? ทหารหลายคนวิ่งออกมาจากบ้าน
「ผู้หญิงคนนั้น นายคืนเธอให้เราได้มั้ย? เธอวิ่งหนีระหว่างที่ถูกถอดเสื้อน่ะ」
ผมกำลังจะยืนยันว่าพวกนี้มาจากกองทัพไหน แต่ผมหยุด เรื่องอย่างเดียวกันเกิดขึ้นในเมืองตอนนี้ มันจะสร้างความต่างอะไร
「ขอโทษแต่ชั้นจะเอาผู้หญิงคนนี้ คัดค้านอะไรมั้ย?」
ทหารดูเพื่อจะตะโกนอย่างโกรธ แต่มันดูเหมือนพวกเขาตัดสินว่าผมเป็นขุนนางจากม้าของผม เกราะและผู้ติดตามของผม ดังนั้นระหว่างที่บ่น พวกเขาไปหาเหยื่ออื่น ผมจะต้องฆ่าพวกเขาถ้าพวกเขาชี้ดาบมาที่ผม
「ออออออุ….」
ผู้หญิงฟังสิ่งที่ผมพูดแล้วเริ่มร้องไห้ ขณะที่เธอรู้ว่าเธอจะโดนผมทำ
「ชั้นไม่ทำผู้หญิงที่ไม่ชอบชั้น คริสตอฟ ไปส่งผู้หญิงที่ฐาน ถ้านายพยายามจะโอบกอดเธอด้วยกำลัง นายจะถูกแขวนคอ」
ผมปล่อนมันให้คริสตอฟ ผู้ที่บางที่อยู่ข้างผม เขาจะช่วยอะไรไม่ได้แม้ว่าจะพาเขาไปกับผม แต่เขาน่าจะปกป้องเธอได้ด้วยเสียงดวงและรูปลักษน์กายที่ดูแกร่ง
「รับทราบ…แต่มันโอเคถ้าเธอยอมใช่มั้ย? เธอเลดี้ ชั้นจะทำให้เธอรู้สึกดี เอายังไง」
「ไม่ล่ะขอบคุณ」
คริสตอฟบอกพวกทหารที่มีเป้าที่ผู้หญิงว่า ‘มันเป็นเพราะเธอเป็นผู้หญิงของกัปตัน’ ด้วยเสียงที่ดังและพวกเขาถอย ข่าวลือแปลกๆจะเริ่มแพร่ไปอีกผมพนันเลย
「อย่างที่คาด」
「ช่างมหัศจรรย์」
อากอร์และซีเลียชมผม ผมใจดีกับผู้หญิงและชายที่ผมติดค้าง แต่ตอนนี้ มาล้มวังให้เร็วและจบสงครามนี้เถอะ
—————————————————————
【—มุมมอง อิริจิน่า—】
ในเวลาเดียวกัน – ข้างในวังราชวงศ์
「ดับไฟ!」
「ไม่ดีเลย ที่นั่นไฟและน้ำมันมัน-!」
「มันช่วยอะไรไม่ได้แ้ลว! พระองค์ ได้โปรดหนี!」
หนูกอดหอกที่เป็นมรดกตกทอดระหว่างที่แข็งเป็นหิน ใครจะคิดว่าวันนี้จะมาถึง ศัตรูได้บุกเข้ามาในวังและเผามัน
「อิริจิน่า! มาแล้วช่วยดับไฟด้วย!」
「พอแล้วกับไฟน่ะ! ได้โปรดดูแลพระองค์」
「พระองค์เป็นลมจากก่อนหน้านี้!」
ทุกอย่างจบแล้ว ตระกูลราชวงศ์ของอาร์คแลนด์ด้วยกันกับกองทัพ และชีวิตหนูด้วย
มันเพิ่งจะไม่กี่วันที่การถูกขังอยู่ที่บ้านจบ และแทนที่จะถูกให้อภัย พวกเขาไม่มีกำลังพอจะดึงหนูออก ดังนั้น หนูได้เข้าเมืองหลวงและเตรียมตัวจะโจมตีสวน แต่มันไม่มีโอกาสแบบนั้น และเราได้มาถึงเวลานี้
ก่อนหน้านี้ พระองค์จอมพลได้รับธนูไฟและตายต่อหน้าต่อตาหนู ปรกติแล้วมันจะเป็นเรื่องใหญ่ แต่ตอนนี้ ไม่มีใครสนใจจอมพลที่ไฟไหม้
มาคิดกันอย่างใจเย็นในฐานะทหารเถอะ หนูควรจะวิ่งนี…แต่ถ้าหนูหนีจะไปที่ไหน? อาร์คแลนด์ย่อยยับแล้วตอนนี้ หนูเป็นแค่อิริจิน่าคนเก่า
หนูควรจะพึ่งพาการขโมยตอนกลางคืนเพื่อหาค่าใช้จ่ายรายวันมั้ย?
โชคดีที่หนูเป็นผู้หญิง แต่หนูก็มั่นใจในศิลปะการต่อสู้ด้วย
มาหยุดความคิดที่ไม่มีประโยชน์นั่นเถอะ ความเป็นไปได้ที่จะหนีจากที่นี้ที่ถูกล้อมโดยหลายสิ่งนั้นใกล้กับศูนย์ หนูเดาว่ามันไม่มีทางเลือกนอกจากตายอย่างสง่า ในการต่อสู้จะดีที่สุดที่หนูทำได้…ถ้าเป็นไปได้ หนูอยากจะหายยไปกับไฟนี้ ถ้าหนูถูกเอาชนะปรกติ แม้ว่าหนูเป็นผู้หญิงตัวใหญ่ กายหนูยังใช้ได้
「อิริจิน่า เธอยังมีชีวิต! รวมราชวงศ์ที่เหลือและม้า และเปิดทางออก เธอก็มาด้วย」
นายจะฝ่า ณ จุดนี้เหรอ?
「นายจะฝ่าไปที่ไหน?」
「พวกนั้นหมกมุ่นอยู่กับการปล้นสะดมและข่มขืนในเมือง! มาฝ่าไปทางประตูเมืองทิศตะวันออกอย่างเร็วเถอะ มีทหารอาสาอยู่ข้างนอก เราหนีได้ถ้ามีแค่พวกเราไม่กี่คน」
ด้วยสถานะทางสังคมของหนูที่เป็นราชวงศ์ หนูคงจะพูดอะไรไม่ได้ แต่ผู้คนที่เด่นที่หนูไม่รู้ชื่อได้ถูกนำและปรากฏมาทีละคนทีละคน
「หลังจากออกจากเมือง เธอซ่อนแล้วหาโอกาสได้! ก่อนอื่นเราต้องหนี…กุห์!!」
มันดูเหมือนหนูจะสายเกินไป ประตูถูกทำลาย ศัตรู…ทหารของโกลโดเนียมาทีละคนทีละคน
「ทุกคน! ยืนอยู่ข้างหลัง!」
ถ้ามันเป็นอย่างนี้ หนูไม่มีทางเลือกนอกจากจะสู้ มันโอกาส 1 ใน 10,000 แต่มันดีกว่าแค่ตายไปเฉยๆ
「ชื่อของชั้นคืออิริจิน่า! ทหารอาร์คแลนด์ที่รุ่งโรจน์ สู้!」
ได้ยินเสียงของหนู พวกเขาดูถูกหนูเพราะหนูเป็นผู้หญิง แต่หนูแทงทหารที่เข้ามาอย่างไม่ระวัง และหนูพลิกตัวเขา ตอนนี้ หนูต้องหาทางออกไป ที่นี่จะถูกเผาในไม่นานจริงๆ
วินาทีที่ตามมา คนที่สามมาหาหนูในเวลาต่อมา แต่หนูแทงพวกเขาและพลิกตัวเขา คนที่สี่กระเด็นไปเมื่อหนูหมุนหอก การระทำของหนูสร้างลมหายใจให้เข้าไปในหมู่อัศวินรอบข้าง หนูจบชีวิตศัตรูทีละคนทีละคนที่มีเป้าหมายที่ราชวงศ์
「คนนี้เก่ง!」
「อย่าลดการป้องกันลงต่อผู้หญิง!」
ทหารของศัตรูเว้นระยะระหว่างที่หันหน้าหาหนู แต่นี่ยังอยู่ในระยะของหอกหนู พูดอีกอย่างนี่คือระยะของหนู ทหารที่อ่อนแอของโกลโดเนียตามหนูไม่ไหว
หนูแทงหอกด้วยความเร็วดั่งพระเจ้า และศัตรูไม่มีแม้แต่เวลาที่จะรับรู้ถึงหอกขณะที่คอของพวกเขาถูกแทง
ด้วยนี้ หนูสามารถฝ่าไปได้จริง!?
「รองกัปตัวอากอร์! เธอเก่งนะระวัง!」
ลูกกระจ๊อกของศัตรูถอยไป ชายคนหนึ่งที่มีดาบในมือเดินออกมาข้างหน้า อุปกรณ์และบรรยากาศของเขาต่างออกไป หนูมั่นใจว่าเขาเก่ง แต่สำหรับหนูตอนนี้ ไม่มีทางที่หนูจะตามการสู้ 1 ต่อ 1 ไม่ทัน
การปะทะเกิดขึ้นโดยไม่มีอะไรพูด ชายที่ชื่ออากอร์มีความเร็วและกำลังที่ตางไปจากลูกกระจ๊อกคนอื่นหลายระดับ เขาปะทะกับหนู มันพูดได้ว่า ความสามารถของเขาเท่าเทียมกับหนู นั่นคือที่หนูรู้สึกหลังจากที่ปะทะกับเขาหลายครั้ง แต่ถ้ามันนั่น หนูเอาชนะได้ ของเขาเป็นระดับสูงแต่เป็นแค่ดาบธรรมดา ระหว่างที่หนูถือหอกชื่อดังที่เปนมรดกตกทอด และมันเป็นหอกมันได้เปรียบดาบ
「เซ้~!」
「กุห์!」
หอกของหนูเฉี่ยวแก้มของผู้ชาย เลือดบินออกมา ชายหยุดเคลื่อนไหวไปไม่กี่วินาที นั่นเพียงพอแล้ว หอกของหนูแทงเข้าไปในเกราะของผู้ชายและแทงข้างเขา
「กุฮ่ะ-!」
ชายล้มลง มันไม่ใช่แผลถึงตาย แต่มันไม่ใช่สถานการณ์ที่หนูจำเป็นต้องจบชีวิตเขา
「ทุกคน ทางนี้! ออกข้างนอก!」
ขณะที่หนูกำลังจะนำขุนนางชายออกไป เงาเล็กๆวิ่งมาจากข้างนอก หนูป้องกันตัวเองทันที เสียงเหล็กที่คมดังขึ้นและประกายไฟบิน เงากระโดดมาที่ข้างหลังหนูอีกครั้งและพุ่งเข้ามาหาหนู
「จึ-!」
หนูแทงหอก แต่มันไม่โดน เงาเล็กแต่รวดเร็ว มันวิ่งอย่างเร็วเหมือนคลานอยู่ที่พื้น มือถือดาบ! หนูอยากจะหมุนหอกเพื่อให้ก้นหอกตีดาบทิ้งไป แต่นั่นก็ถูกหลบด้วย
ช่างว่องไว! เงาแทงออกมา เจตนาที่จะแทงหนูจากด้านล่าง
「เออ้! แล้วนี่ล่ะ!」
หนูหมุนหอกกว้างๆเพื่อให้เงาจงใจหลบ เห็นช่องเปิดเงาได้พุ่งเข้ามาเพื่อจบสิ่งต่างๆในระยะใกล้
และจากนั้นหนูเตะมันกลับไปด้วยกำลังทั้งหมด
「กย้าน!?」
หนูจะไม่แพ้ชายธรรมดาในพลังกาย การที่ฝึกมาของหนูมีกล้ามเนื้อที่ถูกพัฒนาด้วยกันกับความสูงของหนูที่ประมาณ 180 เงาได้รับลูกเตะหนูไปอย่างดี มันบินไปถึงกำแพง แต่ดูเหมือนจะหมดสติ
ถ้าหนูดูใกล้ๆ มันเป็นสาวน้อย หนูตกใจ แต่หนูไม่มีเวลาจะจ้องเธอ
「ไปกันเถอะ!!」
ขี่คลื่นบรรยากาศ อัศวินที่พุ่งเข้าตีไปข้างหน้ากลับมา แต่แค่หัวนะ…
และจากนั้น มันได้แสดงรูปลักษณ์ของมัน มันเป็นตัวตนที่พาหนูไปก้นของความกลัว และแม้แต่ทำลายหนูในฐานะทหาร การหายใจของหนูหยาบ และหนูเริ่มสั่น หนูตั้งท่ายืนด้วยหอก แต่ปลายหอกเลื่อนขึ้นเลื่อนลง ซ้ายและขวา เหมือนหนูเล่นไปทั่วอยู่ แม้แต่หนูก็บอกได้
ในวันที่หนูเจอมัน มันเป็นครั้งแรกในชีวิตหนูฉี่ราด และไม่กี่วันต่อจากนั้นหลังจากที่หนูหนี หนูหยุดการสั่นไม่ได้ แค่คิดเกี่ยวกับมันทำให้หนูกลัวบนสนามรบ แม้ว่าหนูมาคิดไม่นานมานี้ว่าหนูจะไม่คิดเกี่ยวกับมันอีกแล้ว ของจริงได้โผล่มา
「ขออภัย ผู้บัญชาการกองพัน ชั้นไม่ทัน…」
「นายจะรอดมั้ย」
「ใช่ ไม่วิธีใดก็วิธีหนึ่ง ผู้หญิงคนนั้นเก่ง ระวังตัว」
ชายที่เผชิญหน้ากับหอก และมอบให้หนู ที่ยังแข็งเป็นหิน การชำเลืองมองข้าง และมุ่งหน้าไปที่สาวน้อย เขาหยิบสาวที่สลบอยู่ ตรวจว่าเธอยังหายใจอยู่มั้ย และนำเธอไปข้างนอก
「ขอโทษที่ทำให้รอ มาเถอะ」
หลังจากพูดอย่างนั้น ตาของชายเต็มไปด้วยความหลงใหลที่มันไม่เคยอยู่ที่นั่นมาก่อน
「อิริจิน่า! เธอทำอะไร? รีบแล้วไป」
「เดินพวกไพร่」
อัศวินผ่านข้างหนูและพุ่งไปที่ชายเพื่อที่จะกำจัดเขา
「อย่า! เค้า-!」
ท่อนบนของอัศวินหมุนรอบและตกลงไปที่พื้น มีเพียงครึ่งล่างที่ยังอยู่กับที่และในท้ายที่สุดมันล้มลง
การทำลายล้างที่ท่วมท้น ไม่มีอะไรเปลี่ยน
อัศวินพุ่งเข้าตีเขาอย่างต่อเนื่อง และพวกเขาถูกฟันเป็นชิ้นด้วยความเร็วเดียวกัน พวกที่สู้มาอย่างดีจนถึงตอนนี้ ตอนนี้ได้ไปหมดแล้ว และมีแค่ขุนนางและหนูยังเหลืออยู่
「เธอจะยอมแพ้มั้ย?」
ชายถามหนูระหว่างที่ดูไม่สนใจ แต่หนูจะตอบเสียงนั้น เหมือนหนูจะยอมแพ้ได้
「นายพูดว่าอะไรน่ะ! ย่าาาา!!」
หนูตะโกนอย่างผิดธรรมชาติในท่าทางที่จะหลอกตัวเองให้เชื่อว่าหนูไม่กลัว หนูแทงหอกออกไป บางอย่างที่หนูพูดบ่อยมากคือพวกผู้แพ้คือคนที่เห่าดังที่สุด
แม้ว่าหนูกลัว ถ้ามันเป็นทหารทั่วไป มันจะถูกแทงและถูกฆ่าทันที แต่มันถูกหลบอย่างง่ายดาย ถ้าอย่างนั้น งั้นหนูจะรวมกำลังจากทั้งตัวของหนู และเล็งไปที่ที่เขาหลบไม่ได้: กลางตัว หนูมีเจตนาจะแทงเกราะของเขาและทุกอย่าง แต่ชายไม่หลบการแทงนั่น หอกไม่ขยับ ชายก็ไม่ขยับ
หัวหอกถูกจับโดยชาย
เข้ามองทะลุหออกสังหารที่เร็วที่สุดของหนูไปได้อย่างไร? แม้ว่าหนูฝึกกับผู้ชาย ทำไมการที่ทรงพลังของหนูทำให้เขากระดิกไม่ได้เลยไม่ว่าจะพลักหรือดึง? หนูไม่สนใจแล้ว
หนูจบแล้ว ทั้งหมดมันจบ ชายดึงหอกและหนูได้ถูกดึงไปกับมัน
หอกออกจากมือหนู และชายยืนอยู่ตรงหน้าหนู หนูจะถูกฆ่าโดยไม่ต้องสงสัย ไม่มีเหตุผลที่หนูจะไม่ถูกฆ่า และหนูเตรียมตัวที่จะตาย ดังนั้นทำไมหนูกลัวแบบนี้ตรงหน้าเขา
ชายยกคางที่หดหู่ของหนูด้วยมือของเขา หนูไม่สามารถที่จะทนการดูหน้าของชายคนนี้ได้ และเสียงน้ำท่วมได้มาจากขาของหนู
มันดูเหมือนชายได้ตกใจนิดหน่อย แต่หนึ่งในเพื่อนของเขาเข้ามาใกล้ด้วยหน้าที่เปื้อนไปด้วยเลือด ความกลัวและความสิ้นหวังได้รวมกัน และหนูไม่เข้าใจหรือคิดเกี่ยวกับอะไรไม่ได้เลยซักนิด วิสัยทัศน์หนูเบลอและสติหนูบินไปไกล
สุ่งสุดท้ายที่หนูเห็นคือหน้าของชายที่ปกคลุมไปด้วยเลือด และทหารของศัตรูที่ฟันราชวงศ์ตาย
ในวันนั้น อาณาจักรอาร์คแลด ด้วยกันกับกองทัพ ได้ถูกทำลายโดยไม่มีแม้แต่ร่องรอยเดียวหลงเหลืออยู่
—————————————————————
เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 19ปี ฤดูใบไม้ร่วง
ชนชั้น: กองทัพกลางผู้บัญชากองพลที่ 3 กองพันผสม
ทีม: กองพลที่ 1 กองร้อยทหารม้า ทหารม้าหนัก 110 หน่วย ทหารม้าเบา 20 หน่วย (หลังสงคราม)
3 กองร้อยทหารราบ 140 คน, 120 คน, 90 คน
เหล่าทหารช่าง 170 คน
รวม 650 คน
ลูกน้องกองทัพ: ซีเลีย (ผู้ติดตาม), ลีโอโพลต์ (ผู้ติดตาม และ นักยุทธศาสตร์), อากอร์ (ผู้บัญชาการกองร้อยทหารราบ), คาร์ล (ผู้บัญชาการกองร้อยทหารราบ), แม็ก (ผู้บัญชาการเหล่าทหารช่าง), คริสตอฟ (พลทหาร), ย้อกลี่ย์ (ผู้จัดการทหารอาสา)
อาวุธ: แอ่งคู่ (ดาบยาว)
อุปกรณ์: ผ้าคลุมสีดำ (ต้องสาป) , เกราะทหารม้า
สถานที่ปัจจุบัน: เมืองหลวงอาร์คแลนด์
ความสำเร็จ: ปราบแนวหน้าของศัตรู (ร่วม)
ยึดหมู่บ้าน x8 ,ยึดเมืองดาโทรห์น , ขับไล่ทหารม้าหอกเหล็ก
ป้องกันดาโทรห์นคนเดียว ฆ่า 200 คน
เจาะทะลุประตูเมืองของอาร์คแลนด์ สังหารหมู่ราชวงศ์
ขึ้นภาพที่ไม่ได้ใส่เข้าไปตั้งแต่ทีแรกแบบเซ็นเซอร์แล้วนะครับ ลองย้อนไปดูได้ครับ
เวอร์ชั่นไม่เซ็นเซอร์อ่านได้ที่ tunwalai หรือ readAwrite
ขอบคุณสำหรับเงิน 50 บาท
ขอบคุณคุณประยุทธสำหรับเงิน 100 บาท
เป้าหมายเดือน 4/66
ค่าเน็ต 150/200
กาแฟ 0/300
ค่าไฟ 20/1000
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
กสิกรไทย
แปลโดย: wayuwayu
ติดตามได้ที่ดิสคอทส่งข้อความมาขอได้ที่ facebook: “wayuwayu แปล”
pdfไว้อ่านตอนกลางคืน สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ทั้ง facebook และ discord
Comments
ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi 50 สงครามอาร์คแลนด์ ⑦ จุดจบของสิ่งหนึ่ง
50 สงครามอาร์คแลนด์ ⑦ จุดจบของสิ่งหนึ่ง
เวอร์ชั่นไม่เซ็นเซอร์อ่านได้ที่ tunwalai หรือ readAwrite
—————————————————————
【–มุมมอง เอเกอร์–】
อาณาจักรอาร์คแลนด์ เมืองหลวงของอาร์คแลนด์ ที่ตั้งแคมป์ของกองกำลังลงโทษ
「ผู้บัญชาการกองพันได้กลับมาแล้ว!」
「นายพลอมตะผู้กล้าหาญ!」
「เค้าเป็นพระเจ้าแห่งการต้อสู้ที่สังหาร 200 คน!」
「เค้าคือนักชื่นชมผู้หญิงที่ไม่ย่อท้อ!」
ซีเลียและผมอยู่ที่มุมของเมืองหลวงที่ถูกล้อมเมืองอยู่ และเราได้ถูกต้อนรับกลับมาจากพวกกองทัพกลางด้วยเสียงเชียร์ ก่อนผมจะรู้มัน ข่าวลือเกี่ยวกับผมได้แพร่กระจายไปแล้ว
「นายทำได้ดีที่กลับมา ผู้บัญชาการกองพัน」
「ลอร์ดฮาร์ดเลตต์ นายกลับมาแล้ว」
อากอร์ คนอื่นและอีริชได้มาเพื่อทักทายผม
「ซีเลีย-โดโนะ เธอทำได้ดีในการดูแลผู้บัญชาการ」
「ไม่มันเป็นบางอย่างที่ธรรมชาติ」
「…บางทีบรรยากาศของรอบนายได้เปลี่ยน」
「มันไม่มีอะไรเลยซักนิด! ทุกอย่างได้เหมือนปรกติ!」
อีริชและผมพูดเกี่ยวกับว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป
「กองพันของนายจะเหมือนเดิม ชั้นจะคืนการบัญชาการให้นาย」
「รับทราบ อะไรจะเกิดกับทหารอาสา?」
จนถึงเรามาตอนนี้ รวมถึงทหารศัตรูที่หนี จำนวนของเขาได้เพิ่มขึ้น เราปฏิบัตกับพวกเขาอย่างเป็นกองทัพเดียวกัน และมีตัวแทนรับมือมัน
จำนวนได้เข้าไปถึง 20,000 แล้ว มันเป็นหนึ่งในสิบของพลเมืองของอาร์คแลนด์ ด้วยนี่ พวกเขาไม่ควรจะสามารถดูแลชาติได้อย่างถูกต้อง แต่ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องของเวลาก่อนที่ปราสาทจะล่มสลาย…
「ศัตรูได้คงอยู่ตลอดเวลานี้เหรอ?」
「ตรงกันข้าม การกบฏอย่างต่อเนื่องที่ก่อโดยพวกนั้นที่ภักดีอย่างลึกซึ้ง มีส่วนร่วมในการป้องกันการล้อมเมือง; ชั้นจิตนาการไม่ได้ว่าจะมีคนแปรพักตร์มากกว่านี้ เมืองเองแข็งแกร่งเหมือนป้อมปราการ」
ทหารของอาร์คแลนด์ที่หลบหลังสิ่งกีดขวางมีจำนวน 10,000 แต่ด้วยจำนวนพลเมือง 20,000 อยู่บนฝั่งเรา เราส่งพวกเขาบางรูปแบบได้ กองกำลังลงโทษรวมกันมีจำนวน 40,000 แต่ใส่จำนวนทหารอาสาเข้าไปมันจะเพิ่มเป็น 60,000
แม้ว่าเมืองหลวงไม่เหมือนเมืองสีขาวในสหพันธรัฐก่อนหน้า มันเป็นปราสาทที่หนาและค่อนข้างสูงปกป้องพวกเขาเองอย่างดี เพื่อที่จะทำลายกำแพงแบบนั้น มันต้องใช้เวลาจำนวนมาก และมันได้แค่เมื่อศัตรูไม่ต่อต้านด้วย
แต่ถึงอย่างไร พึ่งทหาร 60,000 คนและโจมตีอย่างจริงจัง กำแพงจะถูกพังทลายลง ยกเว้นมันจะใช้เวลา ถ้ามีผู้เสียสละมากเกินไปจะทำให้ทหารอาสารู้สึกว่าตำแห่งของพวกเขาไม่สบายใจ และพวกเขาอาจจะตื่นตกใจ
「ในการต่อสู้ระยะสั้น เราใช้ทีมชั้นสูงเพื่อที่จะทำลายจุดเดียว และถ้าส่วนหนึ่งของประตูเมืองได้ถูกทำลาย จากนั้นมันจะพังทลายเหมือนหิมะ และจำนวนจะทำที่เหลือ」
「ชั้นเห็นด้วย แต่เส้นนั้นได้ถูกทดลองหลายครั้งแล้ว ประตูเมืองหนาและทำมาจากเหล็ก; เครื่องกระแทกประตูและธนูยาวไม่มีผลเลย」
เมื่อเสียงที่เฉพาะของบาริสต้าได้ครวญ น้ำมันได้ถูกเผา และหินถูกโยน
「เราจะรบกวนแล้วโยนหินติดไฟใส่พวกเค้าต่อ แต่มันจะมีผลมากขนาดไหน?」
ดูจากระยะไกล มันไม่ได้ดูเหมือนอัคคีภัยใหญ่เกิดขึ้น ประตูเมืองต้องอยู่ไกลจากบ้าน และทีมดับไฟได้ทำหน้าที่
「ในกรณีที่แย่ที่สุด เรามีเสบียงอาหารจากบ้านเกิดของเรา ถ้าเราล้อมพวกเขา ในท้ายที่สุดพวกนั้นจะหิวและออกมา」
แต่ถ้าเราทำอย่างนั้น คนพวกนั้นจะออกมาจริงๆก่าอนที่จะหิวเพื่อต่อต้านเรา และถ้าทหารของศัตรูหิว นั่นหมายถึงชาวเมืองจะเริ่มตายไปแล้ว… ถ้านั่นเกิดขึ้น เมืองหลวงจะเป็นเมืองของคนตายและกำไรจากการได้เมืองจะหายไป
「เราต้องคิดมันด้วยฝั่งของเราไม่วิธีได้ก็วิธีหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่มันเป็นลีโอโพลต์นะ แต่」
อีริชหัวเราะ
「นั่นใช่แล้ว ชายคนนั้นมีทักษะแม้ว่าเค้าขาดความน่าคบ」
เขาได้มองอยู่ใกล้ๆ
「งั้นมันเป็นอย่างนั้น มีความคิดดีๆรึเปล่าล่ะ?」
หลังจากเวลานานที่ได้เจอลีโอโพลต์อีกครั้ง นอกจากการทักทายที่สุภาพของเขา ไม่มีอะไรเปลี่ยน
「ผมมีความคิด แต่จากตำแหน่งของผม คำขอผมจะไม่ผ่าน ดังนั้นผมเลยรอคุณกลับมาอยู่ ลอร์ดฮาร์ดเลตต์」
พวกเขาไม่ได้มอบอำนาจให้ ผู้ติดตาม/นักวางกลยุทธ์เพื่อแนะนำความคิดกับผู้บัญชาการสูงสุด อีริชน่าจะอนุญาตมัน แต่เราไม่เคารพที่เหลือไม่ได้ แม้ว่ามันเป็นบางอย่างที่คิดมาอย่างหยาบๆ ถ้ามันไม่ได้มาจากผม มันจะไม่ถูกอนุญาต
「วัตถุประสงค์มันเป็นแบบเดิมที่เราทำมาจนถึงตอนนี้ เราจะเน้นไปที่การโจมตีประตูเมืองและฝ่าเข้าไป จากนั้นจากตรงนั้น เราจะรีบเข้าไปเหมือนหิมะถล่มแล้วสรุปทุกสิ่ง」
แต่จากที่ผมได้ยิน ทั้งหมดที่เราทำจนถึงตอนนี้เหมือนการโจมตีตอนกลางคืน การยิงธนูไปเป็นห่าฝน และแม้แต่การจู่โจมพวกเขา – ความพยายามทั้งหมดของเราล้มเหลวและทหารล้มตายอย่างไม่มีจุดหมาย
「มีสองปัญหา: ไม่มีที่ให้ซ่อนรอบประตูเมือง ดังนั้นเราจะรับการโจมตีที่เน้นมา และตัวประตูเมืองเองที่เครื่องกระแทกไม่มีผล」
มันเจ็บแม้ว่าเรามองข้ามจำนวนผู้สูญเสีย เราจะได้รับความเสียหายจากการเน้นการโจมตีเพื่อที่จะฝ่าประตูเมือง และยังไม่สามารถที่จะทำลายประตูเมือง อย่างที่คาด มันไม่เหมือนแอ่งคู่ของผมที่ตัดผ่านเหล็กได้เหมือนเนย
…หรือผมมันทำได้มั้ย? ผมควรจะลองมันมั้ย?
「ได้โปรดหยุด ครั้งนี้ท่านจะตาย」
ดั่งเธอได้อ่านใจผม ซีเลียได้คัดค้าน ยังไงซะไม่ใช่ว่าเธอกลิ่นดีมากตอนนี้เหรอ ตั้งแต่ที่เธอเสียความบริสุทธิ์ไป เธอได้เป็นผู้หญิงมากขึ้นทันที
「ในเวลานี้ วันที่แดดออกจะมีลมพัดจากทิศจะวันตกไปที่ทิศตะวันออก เราจะจุดไฟที่ฝั่งจะวันตกและให้ควันลอยไป」
「เข้าใจแล้ว ใช้มันเป็นม่านควันจากนั้นโจมตี และจากนั้นไม่ใช่ว่ามันจะบอกพวกเขาถึงการโจมตีของเราก่อนหน้าเหรอ?」
「ผมก็เดาว่าอย่างนั้น แต่เราเป็นกองทัพที่ไม่เชี่ยวชาญในการร่วมมือ ดังนั้นการโจมตีซึ่งหน้านั้นดีที่สุด」
「มันจะมีควันมากพอที่จะทำให้ศัตรูบอดมั้ย?」
「ไม่มีทาง นั่นทำไมเราจะใช้สิ่งนี้」
ลีโอโพลต์ชี้ไปที่ตระกร้า ข้างในเป็นไม้ฟืนสีแดงดำและ…หนอนผีเสื้อยักษ์
「ฮฮฮิ้ห์!」
แม้แต่ซีเลียที่ปรกติจะไม่ตื่นเต้นกับแมลงหรือหนูยังถอยให้กับสิ่งนี้ ขนาดมันเกือบจะเท่าแมว และเข็มจำนวนมากได้ดิ้นอยู่บนมัน
「…เราจะโยนแมลงที่น่าเกลียดนี้ไปใส่ศัตรูเหรอ?」
「ฟืนทำจากต้นโนโรว มันเป็นต้นไม้มีพิษที่ทำให้คันเมื่อจับมัน แมลงเรียกว่ากูกริลยังไงซะ เท่าที่เห็นได้มันมีพิษด้วย และมันเป็นพิษที่ค่อนข้างแรงด้วย」
ก่อนผมจะรู้ตัว ซีเลียได้ออกจากห้องไปแล้ว ถ้าเป็นไปได้ผมไม่อยากจะอยู่ใกล้มันด้วย
「ถ้าเราเผาของเหล่านี้ไปในไฟ จากนั้นไฟพิษจะถูกสร้าง เราจะรวมพวกมันมาเป็นจำนวนมากและเผามัน เราจะไม่สามารถฆ่าอะไรได้ แต่เราจะสามารถสร้างผลกับตาและคอได้ ดังนั้นพวกเค้าจะไม่สามารถยิงธนูและหินมาที่เราได้ตามต้องการ」
มันเป็นความคิดที่ดี แต่ถ้าควันได้มาถึงที่ที่ผมอยู่ ผมจะให้คนพวกนี้สูดหายใจของพวกนี้เข้าไปลึกๆ
「นี่จะเป็นม่านควันที่เพียงพอ ผมเดาว่า…สู่ปัญหาต่อไป」
「ลอร์ดฮาร์ดเลตต์จะให้ความได้เปรียบจากช่องเปิดที่ศัตรูเปิดให้เรา ฝ่าเข้าไปและฟันประตูเมืองให้ขาดครึ่ง」
「……」
「มันเป็นมุขตลกครับ ผมได้รวบรวมข้อมูลจากทหารที่เข้าหาประตูได้จากการพุ่งเข้าตีก่อนหน้านี้ มันเป็นประตูเมืองที่ทำมาอย่างแน่นหนา ไม่ว่าจะใช้เครื่องกระแทกแค่ไหน มันจะไม่แม้แต่กระดิก」
เขาพูดเรื่องตลกและเรื่องจริงจังด้วยหน้าตรงๆเหมือนเดิมของเขา ดังนั้นผมไม่รู้เมื่อเขาบอกมุขตลก
「แต่ผมได้ดึงหินปูพื้นที่พื้นทำมาเพราะหินติดไฟไหม้พื้นดินถูกเปิดเผย พูดอีกอย่างถ้าดึงหินปูพื้นออก ข้างใต้จะเป็นดิน ความลึก 1 เมตร ถ้าเราขุด 2-3 เมตรลงไป เราลงไปข้างล่างประตูเมืองแล้วเรามุดดินไปได้」
ถ้าจะขุดดินตรงหน้าศัตรู… ถ้าพวกเขาถือโล่หรืออะไรบางอย่างเหนือหัว พวกเขาอาจจะไม่สามารถบอกได้ว่าเราจะตีเขาด้วยเครื่องกระแทกหรือจะขุดดิน ถ้ามันสำเร็จเราผ่านประตูเมืองไปได้ด้วยหลายคนและเปิดมันได้
「แน่นอนว่ากลุ่มเล็กๆจะฝ่าเส้นของศัตรูเข้าไป และพวกเค้าจะโดนรุม อย่างไรก็ตามถ้าเรามีความกล้าที่จะเอาชนะพวกศัตรูและเปิดประตูเมืองได้ เราจะยึดเมืองหลวงได้ในทีเดียว」
มันค่อนข้างน่าจะเป็นผมที่จะทำมัน แม้ว่าผมเพิ่งรักษาจากอาการบาดเจ็บ ผมจะฝ่าไปยังดินแดนแห่งความตายอีกแล้ว
「ดีคมาก ชั้นจะสื่อสารมันกับอีริช สถานการณ์ปัจจุบันมันค่อนข้างกินกันไม่ลงยังไงก็ตาม เรามาลองแผนของนายได้」
「การเตียมการเกือบจะเสร็จแล้ว แต่ออกคำสั่งแล้วเราจะออกไปได้ทุกเวลา」
เขาเป็นชายที่ฉลาดจริงๆ ดังนั้นนั่นหมายถึงเขารวบรวมไม้และแมลงที่น่าขยะแขยงนั่นแล้ว…
「คย้าาาาาา!!」
เสียงผู้หญิงกรีดร้อง เพียงแค่คนเดียวที่อยู่ใกล้คือซีเลีย เมืองผมรีบไป ซีเลียได้คลานอยู่ที่พื้น
ต้นเหตุมาจากแมลงมีพิษที่เราพูดถึง มันได้รวมกัน อัดอยู่ในกล่องและปล่อยไว้ที่มุมของแคมป์เป็นจำนวนมาก เพื่อที่จะเลี่ยงการแสดงสิ่งที่แยกๆ พวกเขาปิดมันด้วยผ้า แต่มันดูเหมือนซีเลียขึ้นไปนั่งบนมัน
「อ-เอเกอร์-ซามะะ! หนูทับไอ้ดิ้นๆนั่นอ่า! มันเผละเลย!」
เธอคลานและกอดเท้าของผม ซีเลียเกาะผมระหว่างที่ร้องไห้ แม้ว่ามันไม่ใช่เรื่องที่แย่ แม้ว่าต้นเหตุมันมาจากแมลง มันทำให้ผมมีอารมณ์นิดหน่อย
「ซีเลยมีขนติดก้นของเธอน่ะ」
「ท่านโกหก! มันอยู่ไหน?! ได้โปรดนำมันออก!」
เธอจับก้นเธออย่างสิ้นหวังแต่เข็มจากแมลงไม่ได้ดูเหมือนจะทะลุผ่านเสื้อผ้าที่ปิดมัน ไม่มีอะไรติดกับก้นของเธอ
「ชั้นจะเอาเต็นท์นี้」
ซีเลีย ที่ตามมาอย่างเชื่อฟังตอนแรก ถอดทุกอย่างทั้งหมดแม้แต่ครึ่งบนของเธอเมื่อในที่สุดเธอก็รู้
「เอเกอร์-ซามะ ท่านหลอกหนู! ท่านไม่ควรทำแบบนี้เพราะท่านเพิ่งมาถึง และอะไรบางอย่างแบบนี้」
ไม่มีอะไรจะเกิดขึ้นแม้ว่าผมจะบอกอีริชช้า
ความเจ็บจากการเปิดซิงควรจะหายไปในไม่นานนี้
「อ๊าาาาาาาา–!!」
ระหว่างที่เธอยังยืน ผมแทงเอ็นเข้าไปที่ก้นเล็กๆของเธอจากข้างหลัง ภาพที่ผิดศีลธรรมของเอ็นที่ใหญ่ฝังลงไปในสาวน้อยได้เกิดขึ้น แต่ในทางตรงกันข้าม เธอครางด้วยความรู้สึกดี ที่ยืดไปเป็นเวลานาน
—————————————————————
เช้าตรู่วันต่อมา
「พระอาทิตย์จะขึ้นในไม่นาน」
「ใช่ ลมก็เหมือนที่คาดการณ์ไว้ มาจุดไฟทันทีที่พระอาทิตย์ขึ้นเถอะ」
อีริชและผม ด้วยกันกับผู้บัญชาการกองพันอื่นได้เฝ้ามองหลายๆสิ่ง; แผนของลีโอโพลต์จะถูกใช้งานจริงๆในท้ายที่สุด ผมก็จะมีส่วนร่วมในการบุกประตูเมืองด้วย มันดูเหมือนว่าแต่ละประเทศ ได้นำกองกำลังออกมาที่เก่งในการต่อสู้
เมื่อเราสำเร็จในการเปิดประตูเมือง จากนั้นทหารเป็นหมื่นจะท่วมเข้าไป; ถ้าเราทำอย่างนั้น อาร์คแลนด์ในทางปฏิบัติแล้วจะไม่มีตัวเลือกในการป้องกัน
「จุดไฟ!!」
ควันเริ่มขึ้นมาจากทิศตะวันตกของเมือง ศัตรูก็รู้ถึงม่านควันและมีนักธนูจำนวนพอสมควรยืนอยู่ที่กำแพงทิศตะวันตก มันจะเป็นอะไรที่ชัดเจนว่าเรามาจากทิศตะวันตก ดังนั้นแผนของลีโอโพลต์มีชั้นซ้อนของความมุ่งร้ายที่จะจัดการกับการตอบโต้ที่ถูก
「ระหว่างที่เราทำมันอยู่ ใช้บาริสต้าเพื่อโยนคุไฟเข้าไปข้างในด้วย」
「แต่ชั้นไม่ชอบที่จะทำมันระหว่างที่ยังมีคนที่มีชีวิตอยู่ที่นั่นนะ」
ซีเลียได้มีแผลทางใจกับแมลง เธอเลยซ่อนอยู่ในผ้าคลุมของผมและปิดตาของเธอ ผมคิดว่าเธอได้กลายเป็นผู้หญิง แต่มันดูเหมือนเธอได้กลับไปเป็นเด็ก
「กลิ่นมันย่ำแย่…」
แม้ว่าเราจะอยู่เหนือลม กลิ่นมันแรงจนเราต้องปิดหน้าด้วยผ้า แต่ตอนนี้ พวกนั้นที่อยู่ข้างบนกำแพงได้คิดยาวและมาก ผมไม่เห็นสีหน้าของพวกเขาจากตรงนี้ แต่มันดูเหมือนพวกเขาเคลื่อนไหวกันอย่างไม่เป็นธรรมชาติ
「มาให้ควันขึ้นไปซักพักเถอะ มาทำนี่จนพวกเค้าไม่อยากจะดูกำแพงเถอะ」
หลังจากก่อกวนพวกเขาอย่างมากด้วยควันมาเป็น 2 ชั่วโมง กองทัพใหญ่ที่มีเครื่องกระแทกได้เดินหน้าไปที่ประตูเมือง
ในเวลานี้ เครื่องกระแทกจะไม่ได้เล่นบทบาท แต่ผมให้พวกเขาอ่านแผนผมจากขั้นตอนเปิดแผนไม่ได้
ทหารบ่นเกี่ยวกับกลิ่นที่เข้มข้น ทุกคนได้ถูกแนะนำให้นำผ้ามาปิดหน้า และพวกเขาทำอะไรไม่ได้สำหรับตาที่เจ็บ แต่แม้อย่างนั้น ถ้าเราหยุดควันอย่างสมบูรณ์ มันจะเหมือนกันก่อนเราจะโดนชำระบาปด้วยลูกธนูและหิน
ไม่เหมือนศัตรูที่ต้องเพ่งเมืองเล็งมาที่เรา เราแค่ต้องก้มหน้าลงระหว่างที่เดินไปข้างหน้า ดังนั้นเราควรจะสามารถทนได้
เมื่อเราได้เข้าใกล้ประตูเมือง อย่างที่คาด ลูกธนูและหินที่บินมาหาเราเข้มข้นขึ้นอีก แม้อย่างนั้น มันดูเหมือนจะดีกว่าก่อนหน้านี้ ด้วยโล่ที่ใหญ่ยกเหนือหัว เหล่าทหารช่างและเครื่องกระแทกได้เข้าหาประตูเมือง
ยังไงซะ จนกว่าหลุมจะถูกขุด มันไม่มีอะไรให้ผมทำ ผมกอดซีเลียเพื่อที่จะปกป้องเธอจากลูกธนูและหินที่โยนมา
「เอเกอร์-ซามะ! ท่านไม่ได้จริงจังที่จะทำนี่ระหว่างอยู่ที่สนามรบนะ ท่านคิดอะไรอยู่น่ะ?!」
ผมควรจะถามว่าเธอคิดอะไรอยู่ เธอเพียงแค่ถูกปกป้องโดยผม
ด้วยเสียงเชียร์และเสียงกรีดร้อง และการตะโกนด้วยความโมโห รูดูเหมือนจะถูกขุดเปิดแล้ว ขณะที่ผาเข้าหาประตูเมือง นักรบผู้กล้า(?) บางคนจากแต่ละประเทศ ที่ได้พูดว่าเป็นพลหอกที่เก่งที่สุด ได้มาท่วมทีละคนทุีละคน ระหว่างที่เรารอแถวที่รู
เหล่าทหารช่างเป็นที่สอง รูที่สามได้ถูกขุดแต่มีแถวของทหารที่จะไปเผชิญกับความตาย? ไม่ว่าจะคิดเกี่ยวกับมันอย่างไร ไม่กี่คนแรกจะเป็นคนที่ถูกฆ่า คนที่ฝ่าไปได้คือคนที่กระโดดเข้าไปเมื่อศัตรูได้ช้าลงไป
แน่นอนว่า ผมได้ยินแต่เสียงกรีดร้องมาจากรูเท่านั้น อย่างที่คาด ถ้าเราไม่ฝ่าไปโดยเร็ว จำนวนหินที่ลงมาหาเราจากข้างบนจะเพิ่มขึ้น
「ขยับ」
ผมจับหม้อน้ำมันที่ใช้สำหรับไฟที่เราจุด และโยนมันลึกเข้าไปในรู ครั้งนี้เสียงกรีดร้องมาจากศัตรู
ผมใช้ผ้าคลุมที่ทรงพลังที่เป็นสัญลักษณ์ของลูซี่ปิดตัวผมและกระโดดเข้าไปในรู และฝ่าไฟไป เพราะทหารบางคนติดไฟ ศัตรูได้สร้างระยะของพวกเขาไป ขณะที่ผมออกไปตรงหน้าพวกเขา
「เค้ามาจากข้างในไฟ!?」
「เฮ้ ไม่ใช่ว่าชั้นเห็นพวกนายมาก่อนเหรอ?」
「มันเป็นไปไม่ได้…ปีศาจของดาโทรห์น」
ทีมของศัตรูได้ถอยทันที่ ผมเดาว่าเรื่องราวที่กล้าหาญมีประโยชน์นอกจากจะไว้คุยโอ้อวดในบาร์ ซีเลียได้ตามมาข้างหลังผม ที่ดับไฟอย่างมีทักษะ และไกลออกไป พวกเราก็ตามมาด้วย
「ยิงธนู!」
「กัปตัน ธนูไม่ได้ผลกับคนนี้! ในดาโทรห์น พวกเขายิงเค้าเป็นห่าฝนจนเค้าเหมือนเม่น แต่เค้ายังมีชีวิตชีวา」
นั่นเข้าใจผิดแล้ว มันเจ็บมากจนผมเกือบตาย
「พอแล้ว ศัตรูเป็นแค่คนเดียว! ล้อมเขาในทันทีแล้วมันจะไม่มีปัญหา ไป!!」
ทหารติดอาวุธหนัก 6 คนรีบมาหาผม
และด้วยการเหวี่ยงสี่ครั้ง ดาบล้ำค่าที่ทำจากมิธริล แอ่งคู่ ฟันแยกอัศวินหกคน
ผมกำลังจะต่อ แต่สี่คนข้างหลังผมแข็งไป มันจะทำให้ง่ายกว่าถ้านายมาหาผม
ผมเดินไปด้านข้างและเปลี่ยนสี่คนเป็นหุ่นกระบอกไร้หัว ความคมของแอ่งคู่มันคนละระดับกับดาบอ่อน ผมฟันวัตถุที่มีชุดเกราะขาดได้ง่ายๆ แม้ว่าผมจะเหวี่ยงโดยไม่ใส่กำลังไป
「มันจบแล้วเหรอ? ใครต่อ?」
「สะ-สัตว์ประหลาด…」
「มันเป็นปีศาจแห่งสงครามของจริง….」
ระหว่างที่ศัตรูตื่นตกใจ ซีเลียดับไฟโดยสำเร็จ และพวกของเราออกมาจากรูทีละคนทีละคน ผมเดาว่าหน้าที่ผมเสร็จกับเรื่องนี้แล้ว
「ทุกคน ตามเค้ามา! ขโมยอุปกรณ์แล้วเปิดประตูเมือง」
ผู้บัญชาการจากบางประเทศได้ออกคำสั่งอย่างกล้าหาญ
ผมไม่ชอบเวลาที่คนตะโกนเสียงดังแบบนั้นจริงๆ
ผมไม่ได้วิ่งไปที่เครื่องเปิดประตูเมือง แต่ผมวิ่งไปหาผู้บัญชาการของกองกำลังที่แข็งอยู่ ผมฟันผู้บัญชาการตายที่หน้าเป็นเป็นสามสภาวะ ตื่นตกใจ กลัว สิ้นหวัง และดังนั้น การต่อต้านของประตูเมืองฝั่งตะวันตกหมดไป ในไม่นาน ประตูถูกเปิดและทหารท่วมเข้ามา
「ผู้บัญชาการกองพัน นั่นทำได้ดีมาก」
อากอร์จับบังเหียนของชวาร์ซมา ชวาร์ซหายใจแรงออกมาและเขาไปเพื่อซบซีเลีย มันดูเหมือนยังไม่มีชายคนไหนที่ขี่ได้ยกเว้นผม
จากนั้น ข้างในเมืองหลวงของอาร์คแลนด์ ได้เป็นนรก
ระหว่างทั้งหมดของมัน กองกำลังลงโทษได้ปล้นสะดม บ้านต่อบ้าน ทหารอาละวาดและเสียงกรีดร้องของผู้หญิงได้ยินได้ พวกคนเหล่านั้นที่พยายามจะปกป้องของมีค่าและผู้หญิงถูกฆ่าอย่างไร้ปราณี
「นี่มันปรกติเมื่อสงครามจบ ชั้นเดาว่า」
「ระหว่างกบฏขุนนางฝ่ายใต้ มันเป็นเหตุการภายใน ดังนั้นมันถูกห้าม แต่ครั้งนี้…」
อีริชและผมขมวดคิ้ว ผมคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เยอะ แต่ทหารต้องการรางวัลบ่างอย่างเมื่อพวกเขาชนะ สำหรับกองทัพกลางของโกลโดเนีย เราได้รับอนุญาติให้ยึดทรัพย์สิน แต่การลงโทษได้ถูกกำหนดไว้สำหรับการข่มขืนและการฆาตกรรม อย่างไรก็ตาม เราออกคำสั่งกองกำลังจากประเทศต่างๆไม่ได้ แต่ละประเทศมีสามัญสำนึกว่าหลังจากสงคราม คุณได้รับอนุญาตให้หาผู้หญิง และมันธรรมดาที่จะได้รับอนุญาติให้ฆ่าคนเหล่านั้นที่ต่อต้าน มอบผู้รอดชีวิตช่องว่างที่เอาเปรียบได้ มันเรื่องปรกติของแต่ละประเทศ ที่ห้ามให้จุดไฟใส่ทุกอย่าง
「มารีบแล้วไปล้มวังราชวงศ์เถอะ และหยุดเล่นไปทั่ว」
ในหลายที่ของเมือง ทหารที่รอดชีวิตของอาร์คแลนด์ถูกซ้อมจนตาย โดยไม่แสดงสัญญานของการยอมแพ้ วังราชวงศ์ปิดประตูของมัน และทหารบางคนยังแสดงเจตนาที่จะต่อต้าน แต่บาริสต้ายิงจากทุกทิศทางและธนูยาวยิงน้ำมัน พวกเขาถูกเผา
「เซอร์อัศวิน! ได้โปรดช่วยชั้น!」
ผู้หญิงเปลือยครึ่งหนึ่งวิ่งออกมาหน้าชวาร์ซ เสื่อผ้าของเธอถูกฉีกขาด ดังนั้นคุณเห็นหน้าอกเธอได้ มันโชคดีสำหรับเธอ ถ้าคนที่กระโดดออกมาคือผู้ชายงั้นชวาร์ซควรจะกระทืบเค้าโดยไม่หยุด
พวกเขาไล่ผู้หญิงลงหรืออะบางอย่างเหรอ? ทหารหลายคนวิ่งออกมาจากบ้าน
「ผู้หญิงคนนั้น นายคืนเธอให้เราได้มั้ย? เธอวิ่งหนีระหว่างที่ถูกถอดเสื้อน่ะ」
ผมกำลังจะยืนยันว่าพวกนี้มาจากกองทัพไหน แต่ผมหยุด เรื่องอย่างเดียวกันเกิดขึ้นในเมืองตอนนี้ มันจะสร้างความต่างอะไร
「ขอโทษแต่ชั้นจะเอาผู้หญิงคนนี้ คัดค้านอะไรมั้ย?」
ทหารดูเพื่อจะตะโกนอย่างโกรธ แต่มันดูเหมือนพวกเขาตัดสินว่าผมเป็นขุนนางจากม้าของผม เกราะและผู้ติดตามของผม ดังนั้นระหว่างที่บ่น พวกเขาไปหาเหยื่ออื่น ผมจะต้องฆ่าพวกเขาถ้าพวกเขาชี้ดาบมาที่ผม
「ออออออุ….」
ผู้หญิงฟังสิ่งที่ผมพูดแล้วเริ่มร้องไห้ ขณะที่เธอรู้ว่าเธอจะโดนผมทำ
「ชั้นไม่ทำผู้หญิงที่ไม่ชอบชั้น คริสตอฟ ไปส่งผู้หญิงที่ฐาน ถ้านายพยายามจะโอบกอดเธอด้วยกำลัง นายจะถูกแขวนคอ」
ผมปล่อนมันให้คริสตอฟ ผู้ที่บางที่อยู่ข้างผม เขาจะช่วยอะไรไม่ได้แม้ว่าจะพาเขาไปกับผม แต่เขาน่าจะปกป้องเธอได้ด้วยเสียงดวงและรูปลักษน์กายที่ดูแกร่ง
「รับทราบ…แต่มันโอเคถ้าเธอยอมใช่มั้ย? เธอเลดี้ ชั้นจะทำให้เธอรู้สึกดี เอายังไง」
「ไม่ล่ะขอบคุณ」
คริสตอฟบอกพวกทหารที่มีเป้าที่ผู้หญิงว่า ‘มันเป็นเพราะเธอเป็นผู้หญิงของกัปตัน’ ด้วยเสียงที่ดังและพวกเขาถอย ข่าวลือแปลกๆจะเริ่มแพร่ไปอีกผมพนันเลย
「อย่างที่คาด」
「ช่างมหัศจรรย์」
อากอร์และซีเลียชมผม ผมใจดีกับผู้หญิงและชายที่ผมติดค้าง แต่ตอนนี้ มาล้มวังให้เร็วและจบสงครามนี้เถอะ
—————————————————————
【—มุมมอง อิริจิน่า—】
ในเวลาเดียวกัน – ข้างในวังราชวงศ์
「ดับไฟ!」
「ไม่ดีเลย ที่นั่นไฟและน้ำมันมัน-!」
「มันช่วยอะไรไม่ได้แ้ลว! พระองค์ ได้โปรดหนี!」
หนูกอดหอกที่เป็นมรดกตกทอดระหว่างที่แข็งเป็นหิน ใครจะคิดว่าวันนี้จะมาถึง ศัตรูได้บุกเข้ามาในวังและเผามัน
「อิริจิน่า! มาแล้วช่วยดับไฟด้วย!」
「พอแล้วกับไฟน่ะ! ได้โปรดดูแลพระองค์」
「พระองค์เป็นลมจากก่อนหน้านี้!」
ทุกอย่างจบแล้ว ตระกูลราชวงศ์ของอาร์คแลนด์ด้วยกันกับกองทัพ และชีวิตหนูด้วย
มันเพิ่งจะไม่กี่วันที่การถูกขังอยู่ที่บ้านจบ และแทนที่จะถูกให้อภัย พวกเขาไม่มีกำลังพอจะดึงหนูออก ดังนั้น หนูได้เข้าเมืองหลวงและเตรียมตัวจะโจมตีสวน แต่มันไม่มีโอกาสแบบนั้น และเราได้มาถึงเวลานี้
ก่อนหน้านี้ พระองค์จอมพลได้รับธนูไฟและตายต่อหน้าต่อตาหนู ปรกติแล้วมันจะเป็นเรื่องใหญ่ แต่ตอนนี้ ไม่มีใครสนใจจอมพลที่ไฟไหม้
มาคิดกันอย่างใจเย็นในฐานะทหารเถอะ หนูควรจะวิ่งนี…แต่ถ้าหนูหนีจะไปที่ไหน? อาร์คแลนด์ย่อยยับแล้วตอนนี้ หนูเป็นแค่อิริจิน่าคนเก่า
หนูควรจะพึ่งพาการขโมยตอนกลางคืนเพื่อหาค่าใช้จ่ายรายวันมั้ย?
โชคดีที่หนูเป็นผู้หญิง แต่หนูก็มั่นใจในศิลปะการต่อสู้ด้วย
มาหยุดความคิดที่ไม่มีประโยชน์นั่นเถอะ ความเป็นไปได้ที่จะหนีจากที่นี้ที่ถูกล้อมโดยหลายสิ่งนั้นใกล้กับศูนย์ หนูเดาว่ามันไม่มีทางเลือกนอกจากตายอย่างสง่า ในการต่อสู้จะดีที่สุดที่หนูทำได้…ถ้าเป็นไปได้ หนูอยากจะหายยไปกับไฟนี้ ถ้าหนูถูกเอาชนะปรกติ แม้ว่าหนูเป็นผู้หญิงตัวใหญ่ กายหนูยังใช้ได้
「อิริจิน่า เธอยังมีชีวิต! รวมราชวงศ์ที่เหลือและม้า และเปิดทางออก เธอก็มาด้วย」
นายจะฝ่า ณ จุดนี้เหรอ?
「นายจะฝ่าไปที่ไหน?」
「พวกนั้นหมกมุ่นอยู่กับการปล้นสะดมและข่มขืนในเมือง! มาฝ่าไปทางประตูเมืองทิศตะวันออกอย่างเร็วเถอะ มีทหารอาสาอยู่ข้างนอก เราหนีได้ถ้ามีแค่พวกเราไม่กี่คน」
ด้วยสถานะทางสังคมของหนูที่เป็นราชวงศ์ หนูคงจะพูดอะไรไม่ได้ แต่ผู้คนที่เด่นที่หนูไม่รู้ชื่อได้ถูกนำและปรากฏมาทีละคนทีละคน
「หลังจากออกจากเมือง เธอซ่อนแล้วหาโอกาสได้! ก่อนอื่นเราต้องหนี…กุห์!!」
มันดูเหมือนหนูจะสายเกินไป ประตูถูกทำลาย ศัตรู…ทหารของโกลโดเนียมาทีละคนทีละคน
「ทุกคน! ยืนอยู่ข้างหลัง!」
ถ้ามันเป็นอย่างนี้ หนูไม่มีทางเลือกนอกจากจะสู้ มันโอกาส 1 ใน 10,000 แต่มันดีกว่าแค่ตายไปเฉยๆ
「ชื่อของชั้นคืออิริจิน่า! ทหารอาร์คแลนด์ที่รุ่งโรจน์ สู้!」
ได้ยินเสียงของหนู พวกเขาดูถูกหนูเพราะหนูเป็นผู้หญิง แต่หนูแทงทหารที่เข้ามาอย่างไม่ระวัง และหนูพลิกตัวเขา ตอนนี้ หนูต้องหาทางออกไป ที่นี่จะถูกเผาในไม่นานจริงๆ
วินาทีที่ตามมา คนที่สามมาหาหนูในเวลาต่อมา แต่หนูแทงพวกเขาและพลิกตัวเขา คนที่สี่กระเด็นไปเมื่อหนูหมุนหอก การระทำของหนูสร้างลมหายใจให้เข้าไปในหมู่อัศวินรอบข้าง หนูจบชีวิตศัตรูทีละคนทีละคนที่มีเป้าหมายที่ราชวงศ์
「คนนี้เก่ง!」
「อย่าลดการป้องกันลงต่อผู้หญิง!」
ทหารของศัตรูเว้นระยะระหว่างที่หันหน้าหาหนู แต่นี่ยังอยู่ในระยะของหอกหนู พูดอีกอย่างนี่คือระยะของหนู ทหารที่อ่อนแอของโกลโดเนียตามหนูไม่ไหว
หนูแทงหอกด้วยความเร็วดั่งพระเจ้า และศัตรูไม่มีแม้แต่เวลาที่จะรับรู้ถึงหอกขณะที่คอของพวกเขาถูกแทง
ด้วยนี้ หนูสามารถฝ่าไปได้จริง!?
「รองกัปตัวอากอร์! เธอเก่งนะระวัง!」
ลูกกระจ๊อกของศัตรูถอยไป ชายคนหนึ่งที่มีดาบในมือเดินออกมาข้างหน้า อุปกรณ์และบรรยากาศของเขาต่างออกไป หนูมั่นใจว่าเขาเก่ง แต่สำหรับหนูตอนนี้ ไม่มีทางที่หนูจะตามการสู้ 1 ต่อ 1 ไม่ทัน
การปะทะเกิดขึ้นโดยไม่มีอะไรพูด ชายที่ชื่ออากอร์มีความเร็วและกำลังที่ตางไปจากลูกกระจ๊อกคนอื่นหลายระดับ เขาปะทะกับหนู มันพูดได้ว่า ความสามารถของเขาเท่าเทียมกับหนู นั่นคือที่หนูรู้สึกหลังจากที่ปะทะกับเขาหลายครั้ง แต่ถ้ามันนั่น หนูเอาชนะได้ ของเขาเป็นระดับสูงแต่เป็นแค่ดาบธรรมดา ระหว่างที่หนูถือหอกชื่อดังที่เปนมรดกตกทอด และมันเป็นหอกมันได้เปรียบดาบ
「เซ้~!」
「กุห์!」
หอกของหนูเฉี่ยวแก้มของผู้ชาย เลือดบินออกมา ชายหยุดเคลื่อนไหวไปไม่กี่วินาที นั่นเพียงพอแล้ว หอกของหนูแทงเข้าไปในเกราะของผู้ชายและแทงข้างเขา
「กุฮ่ะ-!」
ชายล้มลง มันไม่ใช่แผลถึงตาย แต่มันไม่ใช่สถานการณ์ที่หนูจำเป็นต้องจบชีวิตเขา
「ทุกคน ทางนี้! ออกข้างนอก!」
ขณะที่หนูกำลังจะนำขุนนางชายออกไป เงาเล็กๆวิ่งมาจากข้างนอก หนูป้องกันตัวเองทันที เสียงเหล็กที่คมดังขึ้นและประกายไฟบิน เงากระโดดมาที่ข้างหลังหนูอีกครั้งและพุ่งเข้ามาหาหนู
「จึ-!」
หนูแทงหอก แต่มันไม่โดน เงาเล็กแต่รวดเร็ว มันวิ่งอย่างเร็วเหมือนคลานอยู่ที่พื้น มือถือดาบ! หนูอยากจะหมุนหอกเพื่อให้ก้นหอกตีดาบทิ้งไป แต่นั่นก็ถูกหลบด้วย
ช่างว่องไว! เงาแทงออกมา เจตนาที่จะแทงหนูจากด้านล่าง
「เออ้! แล้วนี่ล่ะ!」
หนูหมุนหอกกว้างๆเพื่อให้เงาจงใจหลบ เห็นช่องเปิดเงาได้พุ่งเข้ามาเพื่อจบสิ่งต่างๆในระยะใกล้
และจากนั้นหนูเตะมันกลับไปด้วยกำลังทั้งหมด
「กย้าน!?」
หนูจะไม่แพ้ชายธรรมดาในพลังกาย การที่ฝึกมาของหนูมีกล้ามเนื้อที่ถูกพัฒนาด้วยกันกับความสูงของหนูที่ประมาณ 180 เงาได้รับลูกเตะหนูไปอย่างดี มันบินไปถึงกำแพง แต่ดูเหมือนจะหมดสติ
ถ้าหนูดูใกล้ๆ มันเป็นสาวน้อย หนูตกใจ แต่หนูไม่มีเวลาจะจ้องเธอ
「ไปกันเถอะ!!」
ขี่คลื่นบรรยากาศ อัศวินที่พุ่งเข้าตีไปข้างหน้ากลับมา แต่แค่หัวนะ…
และจากนั้น มันได้แสดงรูปลักษณ์ของมัน มันเป็นตัวตนที่พาหนูไปก้นของความกลัว และแม้แต่ทำลายหนูในฐานะทหาร การหายใจของหนูหยาบ และหนูเริ่มสั่น หนูตั้งท่ายืนด้วยหอก แต่ปลายหอกเลื่อนขึ้นเลื่อนลง ซ้ายและขวา เหมือนหนูเล่นไปทั่วอยู่ แม้แต่หนูก็บอกได้
ในวันที่หนูเจอมัน มันเป็นครั้งแรกในชีวิตหนูฉี่ราด และไม่กี่วันต่อจากนั้นหลังจากที่หนูหนี หนูหยุดการสั่นไม่ได้ แค่คิดเกี่ยวกับมันทำให้หนูกลัวบนสนามรบ แม้ว่าหนูมาคิดไม่นานมานี้ว่าหนูจะไม่คิดเกี่ยวกับมันอีกแล้ว ของจริงได้โผล่มา
「ขออภัย ผู้บัญชาการกองพัน ชั้นไม่ทัน…」
「นายจะรอดมั้ย」
「ใช่ ไม่วิธีใดก็วิธีหนึ่ง ผู้หญิงคนนั้นเก่ง ระวังตัว」
ชายที่เผชิญหน้ากับหอก และมอบให้หนู ที่ยังแข็งเป็นหิน การชำเลืองมองข้าง และมุ่งหน้าไปที่สาวน้อย เขาหยิบสาวที่สลบอยู่ ตรวจว่าเธอยังหายใจอยู่มั้ย และนำเธอไปข้างนอก
「ขอโทษที่ทำให้รอ มาเถอะ」
หลังจากพูดอย่างนั้น ตาของชายเต็มไปด้วยความหลงใหลที่มันไม่เคยอยู่ที่นั่นมาก่อน
「อิริจิน่า! เธอทำอะไร? รีบแล้วไป」
「เดินพวกไพร่」
อัศวินผ่านข้างหนูและพุ่งไปที่ชายเพื่อที่จะกำจัดเขา
「อย่า! เค้า-!」
ท่อนบนของอัศวินหมุนรอบและตกลงไปที่พื้น มีเพียงครึ่งล่างที่ยังอยู่กับที่และในท้ายที่สุดมันล้มลง
การทำลายล้างที่ท่วมท้น ไม่มีอะไรเปลี่ยน
อัศวินพุ่งเข้าตีเขาอย่างต่อเนื่อง และพวกเขาถูกฟันเป็นชิ้นด้วยความเร็วเดียวกัน พวกที่สู้มาอย่างดีจนถึงตอนนี้ ตอนนี้ได้ไปหมดแล้ว และมีแค่ขุนนางและหนูยังเหลืออยู่
「เธอจะยอมแพ้มั้ย?」
ชายถามหนูระหว่างที่ดูไม่สนใจ แต่หนูจะตอบเสียงนั้น เหมือนหนูจะยอมแพ้ได้
「นายพูดว่าอะไรน่ะ! ย่าาาา!!」
หนูตะโกนอย่างผิดธรรมชาติในท่าทางที่จะหลอกตัวเองให้เชื่อว่าหนูไม่กลัว หนูแทงหอกออกไป บางอย่างที่หนูพูดบ่อยมากคือพวกผู้แพ้คือคนที่เห่าดังที่สุด
แม้ว่าหนูกลัว ถ้ามันเป็นทหารทั่วไป มันจะถูกแทงและถูกฆ่าทันที แต่มันถูกหลบอย่างง่ายดาย ถ้าอย่างนั้น งั้นหนูจะรวมกำลังจากทั้งตัวของหนู และเล็งไปที่ที่เขาหลบไม่ได้: กลางตัว หนูมีเจตนาจะแทงเกราะของเขาและทุกอย่าง แต่ชายไม่หลบการแทงนั่น หอกไม่ขยับ ชายก็ไม่ขยับ
หัวหอกถูกจับโดยชาย
เข้ามองทะลุหออกสังหารที่เร็วที่สุดของหนูไปได้อย่างไร? แม้ว่าหนูฝึกกับผู้ชาย ทำไมการที่ทรงพลังของหนูทำให้เขากระดิกไม่ได้เลยไม่ว่าจะพลักหรือดึง? หนูไม่สนใจแล้ว
หนูจบแล้ว ทั้งหมดมันจบ ชายดึงหอกและหนูได้ถูกดึงไปกับมัน
หอกออกจากมือหนู และชายยืนอยู่ตรงหน้าหนู หนูจะถูกฆ่าโดยไม่ต้องสงสัย ไม่มีเหตุผลที่หนูจะไม่ถูกฆ่า และหนูเตรียมตัวที่จะตาย ดังนั้นทำไมหนูกลัวแบบนี้ตรงหน้าเขา
ชายยกคางที่หดหู่ของหนูด้วยมือของเขา หนูไม่สามารถที่จะทนการดูหน้าของชายคนนี้ได้ และเสียงน้ำท่วมได้มาจากขาของหนู
มันดูเหมือนชายได้ตกใจนิดหน่อย แต่หนึ่งในเพื่อนของเขาเข้ามาใกล้ด้วยหน้าที่เปื้อนไปด้วยเลือด ความกลัวและความสิ้นหวังได้รวมกัน และหนูไม่เข้าใจหรือคิดเกี่ยวกับอะไรไม่ได้เลยซักนิด วิสัยทัศน์หนูเบลอและสติหนูบินไปไกล
สุ่งสุดท้ายที่หนูเห็นคือหน้าของชายที่ปกคลุมไปด้วยเลือด และทหารของศัตรูที่ฟันราชวงศ์ตาย
ในวันนั้น อาณาจักรอาร์คแลด ด้วยกันกับกองทัพ ได้ถูกทำลายโดยไม่มีแม้แต่ร่องรอยเดียวหลงเหลืออยู่
—————————————————————
เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 19ปี ฤดูใบไม้ร่วง
ชนชั้น: กองทัพกลางผู้บัญชากองพลที่ 3 กองพันผสม
ทีม: กองพลที่ 1 กองร้อยทหารม้า ทหารม้าหนัก 110 หน่วย ทหารม้าเบา 20 หน่วย (หลังสงคราม)
3 กองร้อยทหารราบ 140 คน, 120 คน, 90 คน
เหล่าทหารช่าง 170 คน
รวม 650 คน
ลูกน้องกองทัพ: ซีเลีย (ผู้ติดตาม), ลีโอโพลต์ (ผู้ติดตาม และ นักยุทธศาสตร์), อากอร์ (ผู้บัญชาการกองร้อยทหารราบ), คาร์ล (ผู้บัญชาการกองร้อยทหารราบ), แม็ก (ผู้บัญชาการเหล่าทหารช่าง), คริสตอฟ (พลทหาร), ย้อกลี่ย์ (ผู้จัดการทหารอาสา)
อาวุธ: แอ่งคู่ (ดาบยาว)
อุปกรณ์: ผ้าคลุมสีดำ (ต้องสาป) , เกราะทหารม้า
สถานที่ปัจจุบัน: เมืองหลวงอาร์คแลนด์
ความสำเร็จ: ปราบแนวหน้าของศัตรู (ร่วม)
ยึดหมู่บ้าน x8 ,ยึดเมืองดาโทรห์น , ขับไล่ทหารม้าหอกเหล็ก
ป้องกันดาโทรห์นคนเดียว ฆ่า 200 คน
เจาะทะลุประตูเมืองของอาร์คแลนด์ สังหารหมู่ราชวงศ์
ขึ้นภาพที่ไม่ได้ใส่เข้าไปตั้งแต่ทีแรกแบบเซ็นเซอร์แล้วนะครับ ลองย้อนไปดูได้ครับ
เวอร์ชั่นไม่เซ็นเซอร์อ่านได้ที่ tunwalai หรือ readAwrite
ขอบคุณสำหรับเงิน 50 บาท
ขอบคุณคุณประยุทธสำหรับเงิน 100 บาท
เป้าหมายเดือน 4/66
ค่าเน็ต 150/200
กาแฟ 0/300
ค่าไฟ 20/1000
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
กสิกรไทย
แปลโดย: wayuwayu
ติดตามได้ที่ดิสคอทส่งข้อความมาขอได้ที่ facebook: “wayuwayu แปล”
pdfไว้อ่านตอนกลางคืน สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ทั้ง facebook และ discord
Comments