ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 17 ไท้ซัวเป็นไฉน

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 17 ไท้ซัวเป็นไฉน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 17 ไท้ซัวเป็นไฉน

สาวรอยมีดกรีดผู้นี้ก็มีความคิดอ่านชัดเจนเช่นกัน

ตอนนี้ในวังใต้ดินมีแค่นางกับเยี่ยเว่ยหมิงสองคน ด้วยสภาพของนางตอนนี้ หากเยี่ยเว่ยหมิงต้องการจะฆ่านาง นางย่อมหนีไม่พ้นอยู่แล้ว

แทนที่จะเปลืองแรงไปกับการกังวลเรื่องไร้สาระ ไม่สู้รีบถอนพิษรักษาบาดแผลแข่งกับเวลาจะดีกว่า

ไม่อย่างนั้นแล้ว หากตัวนางยังติดพิษ เกรงว่าแม้กระทั่งพวกโจรลุ่มน้ำเร่ร่อนในวังใต้ดินนี้นางก็เอาชนะไม่ไหว

เยี่ยเว่ยหมิงส่ายหน้าเล็กน้อย ก่อนจะหยิบสุราสยงหวงขวดหนึ่งโยนออกไปส่งเดช ขวดสุราชนเข้ากับกำแพงที่อยู่ด้านหลังสาวรอยมีดกรีดจนแตกกระจาย สุราสาดกระเซ็นออกมาทั่วทั้งตัวนาง

สาวรอยมีดกรีดลืมตาขึ้นอีกครั้ง สายตาที่มองเยี่ยเว่ยหมิงเจือความขุ่นเคือง “ทำอะไรของเจ้า”

ทหารฆ่าได้ หยามไม่ได้!

เธอจะฆ่าคนเคลียร์สนามเพราะอยากฮุบไอเทมเด็ดในวังใต้ดินไว้คนเดียว ฉันก็รับได้ พี่ชายน้ำหนักห้าสิบกิโลกรัมกว่าๆ อยู่ตรงนี้แล้ว ถ้าพร้อมแล้วก็เข้ามาเลยสิ ถ้าแค่พี่สาวคนเดียวยังทำให้ฉันกลัวได้ ฉันก็ไม่ใช่ลูกผู้ชายแล้ว!

แต่หยามกันขนาดนี้มันเกินไปหน่อยแล้วมั้ง

แล้วตัวตนของนายล่ะ ศักดิ์ศรีของนายล่ะ?

สายตาของเยี่ยเว่ยหมิงมองไปบนรอยแผลแดงบวมบนมือขวาตรงจุดโฮวโข่วของสาวรอยมีดกรีด ด้านบนมีรอยฟันน่ากลัวที่ยังติดเลือดสีดำอยู่สองจุด จึงถามว่า “เจ้าถูกพิษได้อย่างไรกัน ไม่รู้จักประเมินสถานการณ์บ้างหรือ ในวังใต้ดินมีรังงูพิษมากมาย แต่สุราสยงหวงช่วยให้พวกมันไม่กล้าเข้าใกล้นะ”

พูดจบก็ไม่สนใจอีกฝ่ายแล้ว หมุนตัวควงกระบี่ พุ่งสังหารไปยังด้านขวาของทางแยก ด้วยอานุภาพของเคล็ดกระบี่วีรสตรีระดับเจ็ด โจรลุ่มน้ำที่อยู่ระหว่างทางโดนเขากำจัดหมดสิ้นอย่างง่ายดายราวกับตัดแตงหั่นผัก ไม่นานก็ไปถึงปลายสุดของทางเดินแล้ว

ตรงนี้ดูเหมือนเป็นทางตัน แท้จริงแล้วมีกลไกลับซ่อนอยู่

เยี่ยเว่ยหมิงทำตามวิธีการในบันทึกของผู้เฒ่าหลี่ คลำหาช่องกลมที่ไม่สะดุดตาใต้ตะเกียงที่ใส่ถ่านติดไฟบนกำแพง ทั้งสองมือคลำหาครู่เดียวก็เจอห่วงหนึ่งวง จากนั้นใช้ปลายนิ้วเหนี่ยวเข้ากับห่วงแล้วใช้แรงดึงลงด้านล่าง

แกร๊ก!

หลังกลไกถูกกระตุ้น กำแพงตรงสุดทางเดินก็เปิดขึ้นตามเสียง มองเห็นเป็นห้องศิลากว้างขวางห้องหนึ่ง ภายในห้องไม่มีตะเกียง อาศัยแสงจากทางเดินทำให้เห็นว่าในห้องศิลาสี่เหลี่ยมนี้ยังมีทางเชื่อมต่อออกไปได้อีกสามทาง

แต่หากเทียบกับทางเดินเหล่านั้นแล้ว ในห้องศิลานั้นมีงูพิษอยู่เต็มไปหมด อย่างน้อยหนึ่งร้อยตัวอัดแน่นกันอยู่ บนพื้น บนกำแพง บนเสาหิน บนคาน…มีอยู่ทุกที่ หลังจากที่ประตูหินเปิดออก สายตาเย็นเยียบพุ่งมาที่ผู้บุกรุกอย่างเยี่ยเว่ยหมิงโดยพร้อมเพรียง มองจนเขาชาวาบหนังศีรษะ

ดีที่เยี่ยเว่ยหมิงที่รู้ตั้งแต่แรกว่าจะเป็นเช่นนี้ จึงหาสุราสยงหวงไว้ล่วงหน้า งูพวกนี้หวาดกลัวกลิ่นสุราสยงหวง จึงไม่กล้าเข้าใกล้เขา

เพื่อความปลอดภัย เยี่ยเว่ยหมิงหยิบสุราสยงหวงออกมาอีกครั้ง พอเปิดขวดก็ราดลงบนตัวทันที ไม่นาน ตลอดทั้งเส้นทางก็อบอวลไปด้วยกลิ่นสุราเข้มข้น

เมื่อกลิ่นสุรากระจายออกไป บรรดางูพิษก็พากันเลื้อยถอยห่างออกไป ตอนนี้เยี่ยเว่ยหมิงถึงได้ปลุกความกล้าก้าวเข้าสู่ห้องศิลา จากนั้นหยิบคบไฟที่เตรียมไว้ล่วงหน้าขึ้นมา เมื่อพลิกมือลองขยับกลไกอีกอันที่อยู่ด้านใน ประตูหินที่เขาผ่านเข้ามาจึงปิดลง

ตอนนี้ทางหนีทีไล่ของเยี่ยเว่ยหมิงถูกปิดแล้ว กลายเป็นห้องรวมอสรพิษที่แค่มองอย่างเดียวก็ทำให้รู้สึกอึดอัดไปทั้งตัว

หันมองรอบๆ ภายใต้แสงสว่างจากคบไฟ เยี่ยเว่ยหมิงอยู่ที่ด้านซ้ายของกำแพง เป็นจุดที่ตอนแรกถูกประตูหินบังไว้แต่สำรวจจนเจอนั่นเอง

[ติ๊ง! เปิดใช้พาสซีฟสกิล ‘เวทชันสูตรศพ’ คุณพบว่าอิฐก้อนที่สิบสามด้านขวาล่างของประตูหินดูเหมือนจะไม่แน่น คล้ายจะเป็นร่องรอยที่มีใครบางคนเคยเคลื่อนย้ายมัน]

เมื่อเยี่ยเว่ยหมิงได้รับข้อความแจ้งเตือนจากระบบ ก็อดด่าคนออกแบบเกมนี้ว่าเป็นพวกไร้ศีลธรรมไม่ได้

ที่ซ่อนสมบัติของผู้เฒ่าหลี่ หากประตูหินเปิดอยู่ก็จะมองไม่เห็นเลย แต่ถ้าอยากค้นพบความลับนี้ สิ่งแรกที่ต้องทำคือปิดประตูหินเสียก่อน ทว่าในห้องศิลานี้ ทุกที่เต็มไปด้วยงูพิษมากมายหลายสี ด้านหลังเป็นทางสว่างกว้างขวางหนึ่งทาง หากจะปิดทางหนีเพียงทางเดียวนี้ ก็จะต้องใช้ความกล้าหาญอย่างถึงที่สุดเลยทีเดียว

ยิ่งไปกว่านั้น ดูจากรูปแบบของห้องศิลานี้ ทางตรงด้านหน้า แท่นว่างเปล่าตรงกลางห้อง แต่ละอย่างดูเหมือนจะยิ่งเพิ่มเสน่ห์ความลึกลับให้มากขึ้นไปอีก เมื่อเทียบกันแล้วจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า ที่มุมด้านหลังประตูนี้เป็นจุดที่จะถูกมองข้ามได้ง่ายที่สุด

การซ่อนสมบัติไว้ที่นี่ หากไม่มีแผนที่ของผู้เฒ่าหลี่นำทาง เกรงว่าต่อให้เป็นเยี่ยเว่ยหมิงที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเวทชันสูตรศพก็อาจจะคว้าน้ำเหลว เช่นนั้นก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้เล่นคนอื่นเลยน่ะสิ?

เยี่ยเว่ยหมิงยื่นมือออกไปทางอิฐก้อนที่เห็นชัดว่าเคยถูกดึงออกแล้วใส่เข้าไปใหม่ เขาดึงมันออกมาอีกครั้ง เจอห่อผ้าใบห่อหนึ่งหลังก้อนอิฐ เมื่อหยิบออกมาได้จึงรีบเปิดออก ได้รับตำราลับ ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ ×1

[ไท้ซัวเป็นไฉน (สุดยอดวิชาเคล็ดจิต): เคล็ดจิตระดับสูงของสำนักไท่ซาน อาศัยความสามารถในการอ่านใจคนที่ทรงพลังเพื่อรู้แผนการของศัตรูล่วงหน้า โจมตีครั้งเดียวศัตรูแตกพ่าย! เงื่อนไขการฝึก: ไม่มี]

สุดยอดวิชา!

คิดไม่ถึงว่าจะเป็นตำราสุดยอดวิชาบู๊ลิ้ม แถมยังเป็นสุดยอดวิชาประเภทเคล็ดจิตอีกต่างหาก!

ก่อนหน้านี้ ทักษะยุทธ์สูงสุดที่เยี่ยเว่ยหมิงเคยได้รับมาก็คือ ‘แปดก้าวไล่ทันคางคก’ ซึ่งเป็นวิชาตัวเบาระดับต้นที่ได้มาจากโฉวป้า ไม่คิดเลยว่าครั้งนี้ได้จะสุดยอดวิชาบู๊ลิ้มมาครอบครอง!

ใน ‘วีรบุรุษนิรันดร์กาล’ วิทยายุทธ์แบ่งตามความแข็งแกร่ง จะแบ่งได้เป็น วิทยายุทธ์ไม่เข้าขั้น วิทยายุทธ์ระดับต้น วิทยายุทธ์ระดับกลาง วิทยายุทธ์ระดับสูง สุดยอดวิชาบู๊ลิ้ม และสุดยอดวิชาเทพหกระดับ

หากแบ่งตามประเภท จะแบ่งได้เป็นสามประเภทใหญ่ๆ นั่นก็คือกำลังภายใน กระบวนท่า และเคล็ดจิต

ในบรรดาทั้งหมดนี้ เคล็ดจิตถือเป็นประเภทที่ค่อนข้างพิเศษ ปกติจะเป็นเคล็ดจิตที่ติดมากับพวกวิทยายุทธ์ขั้นสูง แต่เนื่องจากว่ามันติดมากับวิทยายุทธ์อื่นๆ โดยปกติแล้วก็จะเลเวลไม่ค่อยสูง แต่สุดยอดวิชาประเภทเคล็ดจิตแบบเดี่ยวๆ นี้ คุณค่าของมันสูงเกินบรรยาย

ต้องรู้ก่อนว่าแถบวิทยายุทธ์ของผู้เล่นแต่ละคนล้วนมีขีดจำกัด ไม่ใช่ว่าอยากจะเรียนเท่าไรก็เรียนได้

คอลัมน์สกิลของผู้เล่นทุกคนจะมีเพียงคอลัมน์กำลังภายในสิบสามแถบ คอลัมน์กระบวนท่าสิบสามแถบ หลังเรียนรู้จนเต็มแล้ว หากต้องการเรียนวิทยายุทธ์ใหม่ ก็จะต้องลืมวิทยายุทธ์เดิมไปเสียก่อน อีกทั้งโบนัสสเตตัสที่ได้มาจากการฝึกวิทยายุทธ์นี้ก็จะถูกล้างออกทั้งหมด

แต่สำหรับเคล็ดจิตนั้นค่อนข้างจะพิเศษ มันไม่มีขีดจำกัดจำนวนการฝึก แต่กลับมีแถบอุปกรณ์เคล็ดจิตเพียงแถบเดียว หรือกล่าวได้อีกอย่างคือ ไม่ว่าคุณจะเรียนรู้วิชาเคล็ดจิตไปมากเท่าไร แต่วิชาที่จะใช้โบนัสสเตตัสได้จะมีเฉพาะอันที่ติดตั้งยู่ในคอลัมน์เคล็ดจิตอันเดียวเท่านั้น

อย่างไรเสีย สิ่งที่ต้องฝึกสำหรับเคล็ดจิตก็คือจิตใจ จะเลือกเคล็ดอะไร ก็ขึ้นอยู่กับว่าในตอนที่คุณสู้อยู่นั้นอยู่ในสภาวะจิตใจแบบไหน และแน่นอนว่าต้องรวมจิตเป็นหนึ่งเดียวเท่านั้นถึงจะสำเร็จ

ยิ่งได้มาเห็นเงื่อนไขการฝึกของ ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ แล้ว พบว่าไม่มีเงื่อนไข!

หรือพูดได้อีกอย่างว่า ตอนนี้ก็เริ่มฝึกได้เลยน่ะสิ?

ไม่มีความลังเลใด ๆ เยี่ยเว่ยหมิงตบเข้าที่ตำราลับหนึ่งที ในขณะที่ตำราลับเปลี่ยนเป็นลำแสงสีขาวและหายไปต่อหน้าต่อตาเขา ระบบก็แจ้งเตือนขึ้นตามเวลา

[ติ๊ง! เรียนรู้สุดยอดเคล็ดจิต ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ ]

[ไท้ซัวเป็นไฉน (สุดยอดวิชา)

เคล็ดจิตระดับสูงของสำนักไท่ซาน อาศัยทักษะการอ่านใจอันทรงพลังเพื่อล่วงรู้แผนการของศัตรู โจมตีครั้งเดียวศัตรูแตกพ่าย!

เลเวล: 1

ค่าประสบการณ์: 0/1000

ดาเมจโจมตี +10%

แม่นยำ +10%

ดาเมจคริติคอล +10%]

……

สามารถเปิดใช้แอคทีฟสกิลขณะต่อสู้ ประเมินช่องโหว่ในกระบวนท่าของศัตรู โจมตีครั้งเดียวศัตรูแตกพ่าย!]

เคล็ดจิตระดับสูงก็คือเคล็ดจิตระดับสูง ไม่น่าเชื่อว่าสเตตัสของมันจะเพิ่มพลังโจมตีและดาเมจคริติคอลได้ คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ ผลลัพธ์เช่นนี้ แน่นอนว่ายิ่งนานไปประสิทธิภาพก็จะยิ่งดี สามารถเพิ่มพลังโจมตีสูงสุดให้แก่เขาได้ และนี่ก็เป็นเพียงเลเวลแรกเท่านั้น ผลลัพธ์ยังจะทรงพลังขึ้นตามการอัปเลเวลด้วย!

อีกอย่างหนึ่ง นี่เป็นเพียงโบนัสในสถานการณ์ทั่วไปเท่านั้น เช่นนั้นหากเปิดใช้เอฟเฟ็กต์เคล็ดจิต แล้วจะไม่เกิดฉากอีกแบบหนึ่งได้อย่างไร

แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว!

หลังจากสงบจิตสงบใจอยู่ครู่หนึ่ง เยี่ยเว่ยหมิงถึงได้เปิดประตูหินขึ้นอีกครั้ง แล้วก็ออกจากรังงูอันน่าขนลุกนี้ไป

เมื่อเลี้ยวผ่านหนึ่งทางโค้ง ก็เจอกับสาวรอยมีดกรีดกำลังยืนอยู่ตรงปากทางสามแยกที่พวกเขาสองคนเดินผ่านกันไป ยืนกอดอกหลังพิงกำแพงหิน ปลายเท้าข้างหนึ่งแตะบนพื้น ฝ่าเท้าทาบอยู่กับกำแพงหินด้านหลัง กำลังมองมาที่เขาเหมือนยิ้มแต่ไม่ยิ้ม

เพราะได้ตำราลับมาแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงจึงไม่ได้ระวังผู้หญิงคนนี้เหมือนตอนแรก เขาเดินเนิบนาบเข้าไปพร้อมกับพูดติดตลก “ก่อนหน้านี้เห็นเจ้าถูกพิษอาการสาหัส หายเร็วขนาดนี้เชียวหรือ”

“แน่นอนอยู่แล้ว” สาวรอยมีดกรีดกล่าวขึ้นอย่างภูมิใจ “สำนักถังเหมินของเรา นอกจากชำนาญอาวุธลับแล้ว ก็ยังชำนาญการใช้พิษอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นยาถอนพิษ หรือกำลังภายในของสำนัก ก็ล้วนแต่มีผลควบคุมพิษได้เป็นอย่างดี พิษงูก่อนหน้านี้แม้จะรุนแรง แต่ขอเพียงให้เวลาข้าสักหน่อย หากอยากถอนพิษก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร”

“เช่นนั้นก็ยินดีด้วย ขอให้วันนี้เจ้าได้ของดีไปเยอะๆ ก็แล้วกัน” ขณะที่พูดก็เดินผ่านหน้าอีกฝ่ายไป เดินออกไปตามทางที่เขาเข้ามาตอนแรก

ตอนนี้เยี่ยเว่ยหมิงอดไม่ไหวที่จะหามอนสเตอร์สักตัวมาทดสอบผลหลังเปิดใช้งาน ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’

“ช้าก่อน” เมื่อเห็นเยี่ยเว่ยหมิงกำลังจะไป จู่ๆ สาวรอยมีดกรีดก็เรียกเขาไว้ “สนใจตั้งทีมล่า BOSS ด้วยกันไหม เห็นแก่ที่ตอนนั้นเจ้าช่วยข้าไว้ ข้าต้องการเพียงไอเทมภารกิจสำนัก ของอย่างอื่นยกให้เจ้าทั้งหมดเลย”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 17 ไท้ซัวเป็นไฉน

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 17 ไท้ซัวเป็นไฉน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 17 ไท้ซัวเป็นไฉน

สาวรอยมีดกรีดผู้นี้ก็มีความคิดอ่านชัดเจนเช่นกัน

ตอนนี้ในวังใต้ดินมีแค่นางกับเยี่ยเว่ยหมิงสองคน ด้วยสภาพของนางตอนนี้ หากเยี่ยเว่ยหมิงต้องการจะฆ่านาง นางย่อมหนีไม่พ้นอยู่แล้ว

แทนที่จะเปลืองแรงไปกับการกังวลเรื่องไร้สาระ ไม่สู้รีบถอนพิษรักษาบาดแผลแข่งกับเวลาจะดีกว่า

ไม่อย่างนั้นแล้ว หากตัวนางยังติดพิษ เกรงว่าแม้กระทั่งพวกโจรลุ่มน้ำเร่ร่อนในวังใต้ดินนี้นางก็เอาชนะไม่ไหว

เยี่ยเว่ยหมิงส่ายหน้าเล็กน้อย ก่อนจะหยิบสุราสยงหวงขวดหนึ่งโยนออกไปส่งเดช ขวดสุราชนเข้ากับกำแพงที่อยู่ด้านหลังสาวรอยมีดกรีดจนแตกกระจาย สุราสาดกระเซ็นออกมาทั่วทั้งตัวนาง

สาวรอยมีดกรีดลืมตาขึ้นอีกครั้ง สายตาที่มองเยี่ยเว่ยหมิงเจือความขุ่นเคือง “ทำอะไรของเจ้า”

ทหารฆ่าได้ หยามไม่ได้!

เธอจะฆ่าคนเคลียร์สนามเพราะอยากฮุบไอเทมเด็ดในวังใต้ดินไว้คนเดียว ฉันก็รับได้ พี่ชายน้ำหนักห้าสิบกิโลกรัมกว่าๆ อยู่ตรงนี้แล้ว ถ้าพร้อมแล้วก็เข้ามาเลยสิ ถ้าแค่พี่สาวคนเดียวยังทำให้ฉันกลัวได้ ฉันก็ไม่ใช่ลูกผู้ชายแล้ว!

แต่หยามกันขนาดนี้มันเกินไปหน่อยแล้วมั้ง

แล้วตัวตนของนายล่ะ ศักดิ์ศรีของนายล่ะ?

สายตาของเยี่ยเว่ยหมิงมองไปบนรอยแผลแดงบวมบนมือขวาตรงจุดโฮวโข่วของสาวรอยมีดกรีด ด้านบนมีรอยฟันน่ากลัวที่ยังติดเลือดสีดำอยู่สองจุด จึงถามว่า “เจ้าถูกพิษได้อย่างไรกัน ไม่รู้จักประเมินสถานการณ์บ้างหรือ ในวังใต้ดินมีรังงูพิษมากมาย แต่สุราสยงหวงช่วยให้พวกมันไม่กล้าเข้าใกล้นะ”

พูดจบก็ไม่สนใจอีกฝ่ายแล้ว หมุนตัวควงกระบี่ พุ่งสังหารไปยังด้านขวาของทางแยก ด้วยอานุภาพของเคล็ดกระบี่วีรสตรีระดับเจ็ด โจรลุ่มน้ำที่อยู่ระหว่างทางโดนเขากำจัดหมดสิ้นอย่างง่ายดายราวกับตัดแตงหั่นผัก ไม่นานก็ไปถึงปลายสุดของทางเดินแล้ว

ตรงนี้ดูเหมือนเป็นทางตัน แท้จริงแล้วมีกลไกลับซ่อนอยู่

เยี่ยเว่ยหมิงทำตามวิธีการในบันทึกของผู้เฒ่าหลี่ คลำหาช่องกลมที่ไม่สะดุดตาใต้ตะเกียงที่ใส่ถ่านติดไฟบนกำแพง ทั้งสองมือคลำหาครู่เดียวก็เจอห่วงหนึ่งวง จากนั้นใช้ปลายนิ้วเหนี่ยวเข้ากับห่วงแล้วใช้แรงดึงลงด้านล่าง

แกร๊ก!

หลังกลไกถูกกระตุ้น กำแพงตรงสุดทางเดินก็เปิดขึ้นตามเสียง มองเห็นเป็นห้องศิลากว้างขวางห้องหนึ่ง ภายในห้องไม่มีตะเกียง อาศัยแสงจากทางเดินทำให้เห็นว่าในห้องศิลาสี่เหลี่ยมนี้ยังมีทางเชื่อมต่อออกไปได้อีกสามทาง

แต่หากเทียบกับทางเดินเหล่านั้นแล้ว ในห้องศิลานั้นมีงูพิษอยู่เต็มไปหมด อย่างน้อยหนึ่งร้อยตัวอัดแน่นกันอยู่ บนพื้น บนกำแพง บนเสาหิน บนคาน…มีอยู่ทุกที่ หลังจากที่ประตูหินเปิดออก สายตาเย็นเยียบพุ่งมาที่ผู้บุกรุกอย่างเยี่ยเว่ยหมิงโดยพร้อมเพรียง มองจนเขาชาวาบหนังศีรษะ

ดีที่เยี่ยเว่ยหมิงที่รู้ตั้งแต่แรกว่าจะเป็นเช่นนี้ จึงหาสุราสยงหวงไว้ล่วงหน้า งูพวกนี้หวาดกลัวกลิ่นสุราสยงหวง จึงไม่กล้าเข้าใกล้เขา

เพื่อความปลอดภัย เยี่ยเว่ยหมิงหยิบสุราสยงหวงออกมาอีกครั้ง พอเปิดขวดก็ราดลงบนตัวทันที ไม่นาน ตลอดทั้งเส้นทางก็อบอวลไปด้วยกลิ่นสุราเข้มข้น

เมื่อกลิ่นสุรากระจายออกไป บรรดางูพิษก็พากันเลื้อยถอยห่างออกไป ตอนนี้เยี่ยเว่ยหมิงถึงได้ปลุกความกล้าก้าวเข้าสู่ห้องศิลา จากนั้นหยิบคบไฟที่เตรียมไว้ล่วงหน้าขึ้นมา เมื่อพลิกมือลองขยับกลไกอีกอันที่อยู่ด้านใน ประตูหินที่เขาผ่านเข้ามาจึงปิดลง

ตอนนี้ทางหนีทีไล่ของเยี่ยเว่ยหมิงถูกปิดแล้ว กลายเป็นห้องรวมอสรพิษที่แค่มองอย่างเดียวก็ทำให้รู้สึกอึดอัดไปทั้งตัว

หันมองรอบๆ ภายใต้แสงสว่างจากคบไฟ เยี่ยเว่ยหมิงอยู่ที่ด้านซ้ายของกำแพง เป็นจุดที่ตอนแรกถูกประตูหินบังไว้แต่สำรวจจนเจอนั่นเอง

[ติ๊ง! เปิดใช้พาสซีฟสกิล ‘เวทชันสูตรศพ’ คุณพบว่าอิฐก้อนที่สิบสามด้านขวาล่างของประตูหินดูเหมือนจะไม่แน่น คล้ายจะเป็นร่องรอยที่มีใครบางคนเคยเคลื่อนย้ายมัน]

เมื่อเยี่ยเว่ยหมิงได้รับข้อความแจ้งเตือนจากระบบ ก็อดด่าคนออกแบบเกมนี้ว่าเป็นพวกไร้ศีลธรรมไม่ได้

ที่ซ่อนสมบัติของผู้เฒ่าหลี่ หากประตูหินเปิดอยู่ก็จะมองไม่เห็นเลย แต่ถ้าอยากค้นพบความลับนี้ สิ่งแรกที่ต้องทำคือปิดประตูหินเสียก่อน ทว่าในห้องศิลานี้ ทุกที่เต็มไปด้วยงูพิษมากมายหลายสี ด้านหลังเป็นทางสว่างกว้างขวางหนึ่งทาง หากจะปิดทางหนีเพียงทางเดียวนี้ ก็จะต้องใช้ความกล้าหาญอย่างถึงที่สุดเลยทีเดียว

ยิ่งไปกว่านั้น ดูจากรูปแบบของห้องศิลานี้ ทางตรงด้านหน้า แท่นว่างเปล่าตรงกลางห้อง แต่ละอย่างดูเหมือนจะยิ่งเพิ่มเสน่ห์ความลึกลับให้มากขึ้นไปอีก เมื่อเทียบกันแล้วจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า ที่มุมด้านหลังประตูนี้เป็นจุดที่จะถูกมองข้ามได้ง่ายที่สุด

การซ่อนสมบัติไว้ที่นี่ หากไม่มีแผนที่ของผู้เฒ่าหลี่นำทาง เกรงว่าต่อให้เป็นเยี่ยเว่ยหมิงที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเวทชันสูตรศพก็อาจจะคว้าน้ำเหลว เช่นนั้นก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้เล่นคนอื่นเลยน่ะสิ?

เยี่ยเว่ยหมิงยื่นมือออกไปทางอิฐก้อนที่เห็นชัดว่าเคยถูกดึงออกแล้วใส่เข้าไปใหม่ เขาดึงมันออกมาอีกครั้ง เจอห่อผ้าใบห่อหนึ่งหลังก้อนอิฐ เมื่อหยิบออกมาได้จึงรีบเปิดออก ได้รับตำราลับ ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ ×1

[ไท้ซัวเป็นไฉน (สุดยอดวิชาเคล็ดจิต): เคล็ดจิตระดับสูงของสำนักไท่ซาน อาศัยความสามารถในการอ่านใจคนที่ทรงพลังเพื่อรู้แผนการของศัตรูล่วงหน้า โจมตีครั้งเดียวศัตรูแตกพ่าย! เงื่อนไขการฝึก: ไม่มี]

สุดยอดวิชา!

คิดไม่ถึงว่าจะเป็นตำราสุดยอดวิชาบู๊ลิ้ม แถมยังเป็นสุดยอดวิชาประเภทเคล็ดจิตอีกต่างหาก!

ก่อนหน้านี้ ทักษะยุทธ์สูงสุดที่เยี่ยเว่ยหมิงเคยได้รับมาก็คือ ‘แปดก้าวไล่ทันคางคก’ ซึ่งเป็นวิชาตัวเบาระดับต้นที่ได้มาจากโฉวป้า ไม่คิดเลยว่าครั้งนี้ได้จะสุดยอดวิชาบู๊ลิ้มมาครอบครอง!

ใน ‘วีรบุรุษนิรันดร์กาล’ วิทยายุทธ์แบ่งตามความแข็งแกร่ง จะแบ่งได้เป็น วิทยายุทธ์ไม่เข้าขั้น วิทยายุทธ์ระดับต้น วิทยายุทธ์ระดับกลาง วิทยายุทธ์ระดับสูง สุดยอดวิชาบู๊ลิ้ม และสุดยอดวิชาเทพหกระดับ

หากแบ่งตามประเภท จะแบ่งได้เป็นสามประเภทใหญ่ๆ นั่นก็คือกำลังภายใน กระบวนท่า และเคล็ดจิต

ในบรรดาทั้งหมดนี้ เคล็ดจิตถือเป็นประเภทที่ค่อนข้างพิเศษ ปกติจะเป็นเคล็ดจิตที่ติดมากับพวกวิทยายุทธ์ขั้นสูง แต่เนื่องจากว่ามันติดมากับวิทยายุทธ์อื่นๆ โดยปกติแล้วก็จะเลเวลไม่ค่อยสูง แต่สุดยอดวิชาประเภทเคล็ดจิตแบบเดี่ยวๆ นี้ คุณค่าของมันสูงเกินบรรยาย

ต้องรู้ก่อนว่าแถบวิทยายุทธ์ของผู้เล่นแต่ละคนล้วนมีขีดจำกัด ไม่ใช่ว่าอยากจะเรียนเท่าไรก็เรียนได้

คอลัมน์สกิลของผู้เล่นทุกคนจะมีเพียงคอลัมน์กำลังภายในสิบสามแถบ คอลัมน์กระบวนท่าสิบสามแถบ หลังเรียนรู้จนเต็มแล้ว หากต้องการเรียนวิทยายุทธ์ใหม่ ก็จะต้องลืมวิทยายุทธ์เดิมไปเสียก่อน อีกทั้งโบนัสสเตตัสที่ได้มาจากการฝึกวิทยายุทธ์นี้ก็จะถูกล้างออกทั้งหมด

แต่สำหรับเคล็ดจิตนั้นค่อนข้างจะพิเศษ มันไม่มีขีดจำกัดจำนวนการฝึก แต่กลับมีแถบอุปกรณ์เคล็ดจิตเพียงแถบเดียว หรือกล่าวได้อีกอย่างคือ ไม่ว่าคุณจะเรียนรู้วิชาเคล็ดจิตไปมากเท่าไร แต่วิชาที่จะใช้โบนัสสเตตัสได้จะมีเฉพาะอันที่ติดตั้งยู่ในคอลัมน์เคล็ดจิตอันเดียวเท่านั้น

อย่างไรเสีย สิ่งที่ต้องฝึกสำหรับเคล็ดจิตก็คือจิตใจ จะเลือกเคล็ดอะไร ก็ขึ้นอยู่กับว่าในตอนที่คุณสู้อยู่นั้นอยู่ในสภาวะจิตใจแบบไหน และแน่นอนว่าต้องรวมจิตเป็นหนึ่งเดียวเท่านั้นถึงจะสำเร็จ

ยิ่งได้มาเห็นเงื่อนไขการฝึกของ ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ แล้ว พบว่าไม่มีเงื่อนไข!

หรือพูดได้อีกอย่างว่า ตอนนี้ก็เริ่มฝึกได้เลยน่ะสิ?

ไม่มีความลังเลใด ๆ เยี่ยเว่ยหมิงตบเข้าที่ตำราลับหนึ่งที ในขณะที่ตำราลับเปลี่ยนเป็นลำแสงสีขาวและหายไปต่อหน้าต่อตาเขา ระบบก็แจ้งเตือนขึ้นตามเวลา

[ติ๊ง! เรียนรู้สุดยอดเคล็ดจิต ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ ]

[ไท้ซัวเป็นไฉน (สุดยอดวิชา)

เคล็ดจิตระดับสูงของสำนักไท่ซาน อาศัยทักษะการอ่านใจอันทรงพลังเพื่อล่วงรู้แผนการของศัตรู โจมตีครั้งเดียวศัตรูแตกพ่าย!

เลเวล: 1

ค่าประสบการณ์: 0/1000

ดาเมจโจมตี +10%

แม่นยำ +10%

ดาเมจคริติคอล +10%]

……

สามารถเปิดใช้แอคทีฟสกิลขณะต่อสู้ ประเมินช่องโหว่ในกระบวนท่าของศัตรู โจมตีครั้งเดียวศัตรูแตกพ่าย!]

เคล็ดจิตระดับสูงก็คือเคล็ดจิตระดับสูง ไม่น่าเชื่อว่าสเตตัสของมันจะเพิ่มพลังโจมตีและดาเมจคริติคอลได้ คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ ผลลัพธ์เช่นนี้ แน่นอนว่ายิ่งนานไปประสิทธิภาพก็จะยิ่งดี สามารถเพิ่มพลังโจมตีสูงสุดให้แก่เขาได้ และนี่ก็เป็นเพียงเลเวลแรกเท่านั้น ผลลัพธ์ยังจะทรงพลังขึ้นตามการอัปเลเวลด้วย!

อีกอย่างหนึ่ง นี่เป็นเพียงโบนัสในสถานการณ์ทั่วไปเท่านั้น เช่นนั้นหากเปิดใช้เอฟเฟ็กต์เคล็ดจิต แล้วจะไม่เกิดฉากอีกแบบหนึ่งได้อย่างไร

แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว!

หลังจากสงบจิตสงบใจอยู่ครู่หนึ่ง เยี่ยเว่ยหมิงถึงได้เปิดประตูหินขึ้นอีกครั้ง แล้วก็ออกจากรังงูอันน่าขนลุกนี้ไป

เมื่อเลี้ยวผ่านหนึ่งทางโค้ง ก็เจอกับสาวรอยมีดกรีดกำลังยืนอยู่ตรงปากทางสามแยกที่พวกเขาสองคนเดินผ่านกันไป ยืนกอดอกหลังพิงกำแพงหิน ปลายเท้าข้างหนึ่งแตะบนพื้น ฝ่าเท้าทาบอยู่กับกำแพงหินด้านหลัง กำลังมองมาที่เขาเหมือนยิ้มแต่ไม่ยิ้ม

เพราะได้ตำราลับมาแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงจึงไม่ได้ระวังผู้หญิงคนนี้เหมือนตอนแรก เขาเดินเนิบนาบเข้าไปพร้อมกับพูดติดตลก “ก่อนหน้านี้เห็นเจ้าถูกพิษอาการสาหัส หายเร็วขนาดนี้เชียวหรือ”

“แน่นอนอยู่แล้ว” สาวรอยมีดกรีดกล่าวขึ้นอย่างภูมิใจ “สำนักถังเหมินของเรา นอกจากชำนาญอาวุธลับแล้ว ก็ยังชำนาญการใช้พิษอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นยาถอนพิษ หรือกำลังภายในของสำนัก ก็ล้วนแต่มีผลควบคุมพิษได้เป็นอย่างดี พิษงูก่อนหน้านี้แม้จะรุนแรง แต่ขอเพียงให้เวลาข้าสักหน่อย หากอยากถอนพิษก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร”

“เช่นนั้นก็ยินดีด้วย ขอให้วันนี้เจ้าได้ของดีไปเยอะๆ ก็แล้วกัน” ขณะที่พูดก็เดินผ่านหน้าอีกฝ่ายไป เดินออกไปตามทางที่เขาเข้ามาตอนแรก

ตอนนี้เยี่ยเว่ยหมิงอดไม่ไหวที่จะหามอนสเตอร์สักตัวมาทดสอบผลหลังเปิดใช้งาน ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’

“ช้าก่อน” เมื่อเห็นเยี่ยเว่ยหมิงกำลังจะไป จู่ๆ สาวรอยมีดกรีดก็เรียกเขาไว้ “สนใจตั้งทีมล่า BOSS ด้วยกันไหม เห็นแก่ที่ตอนนั้นเจ้าช่วยข้าไว้ ข้าต้องการเพียงไอเทมภารกิจสำนัก ของอย่างอื่นยกให้เจ้าทั้งหมดเลย”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+