Dungeon Defense (WN) 155 ยุคแห่งเหล่าทรราช (5)
* * *
กองทัพภาค 6 แห่งกองทัพพันธมิตรเสี้ยวจันทรานั้นนำโดยบาร์บาทอส
เธอส่งกองกำลังจำนวนหนึ่งออกไป แต่ผู้บัญชาการบาร์บาทอสนั้นไม่คิดที่จะชะลอความเร็วลง หลักการรบของเธอนั้นเรียบง่าย เคลื่อนตัวให้เร็วกว่าศัตรู เท่านั้นเอง
“หรือพวกเราควรจะรอให้กองทัพภาคอื่นมาถึงแล้วค่อยบุกไปด้วยกัน?”
จอมมารลำดับ 16 เซปาร์ เสนอไอเดียขึ้น เขาเป็นทหารเก่าผู้รอบคอบ แม้จะมีผมสีขาวแต่มันไม่ทำให้เขาดูโทรม กลิ่นอายการรบที่รุนแรงนับร้อยปีแผ่ออกมาจากผมขาวของเขา
“หากพวกเรารอไปอีก สามหรือสี่วัน กองทัพภาค 2 จะมาเข้าร่วมกับพวกเรา กำลังทหารของพวกเราจะมีเป็นสองเท่า ทำให้พวกเราสามารถพิชิตพวกมนุษย์ได้ง่ายขึ้น”
บาร์บาทอสส่ายหัว
“ศัตรูจะเตรียมการอะไรสักอย่างแน่ระหว่างที่พวกเรารอพันธมิตรมา
ถ้าเราโจมตีพวกมัน ตั้งแต่ตอนที่เรายังเตรียมตัวไม่พร้อม พวกมันก็ไม่มีทางพร้อมเช่นกัน
รู้ความแตกต่างของสองสถานการณ์ที่ว่าไหม?
มันคือเรื่องที่ พวกเราจะรู้ว่า จะบุกเมื่อไหร่และตรงไหน ในขณะที่พวกศัตรูไม่รู้เลย”
เธอยืนยันหนักแน่น
“เราควรจะเร่งให้เร็วขึ้น พวกมนุษย์อาจคิดว่า พวกเราจะโจมตีก็ต่อเมื่อรวมตัวกันได้แล้ว พวกงั่งนั่นเปิดโอกาสให้พวกเราเอง ข้าจะไม่สนใจคำแนะนำของเซปาร์ ,เบเลธ!”
“ครับ ท่านผู้บัญชาการ!”
จอมมารลำดับ 13 เบเลธ ตอบรับอย่างแข็งขัน เบเลธนั้นเป็นชายผู้มีรูปร่างใหญ่โตเหมือนออเกอร์ พอเขาตะโกนออกมาจอมมารที่ไม่ระวังตัวก็สะดุ้ง เสียงของเบเลธนั้นฟังดูคล้ายสัตว์ป่า
“ข้าจะมอบ กองทหารเดธไน้ท์ 400 นาย ใต้การบัญชาให้กับเจ้า อัศวินของข้านั้นไม่ต้องการการพักผ่อนหรืออาหาร จงนำพวกเขามุ่งหน้าไปตลอดทั้งกลางวัน กลางคืน”
บาร์บาทอสหยิบมีดออกมาแล้วปามัน มันปักลงที่พื้นดิน ปรากฏแผนที่ยุทธศาสตร์บนพื้นด้วยเวทย์มนตร์ของบาร์บาทอส
คำว่า ‘เคร็ม’ (Krems) เขียนไว้ตรงที่มีดปักอยู่
“โจมตี เคร็ม แล้วยึดซะ”
ป้อมปราการเมืองเคร็ม เป็นแนวรับสุดท้ายของจักรวรรดิฮับบวร์ก แม่น้ำดานูบิอุส(Danubius)ไหลผ่านใจกลางทีมหลังป้อมปราการแห่งนั้น
หากข้ามแม่น้ำนั่นไปก็จะพบเมือง วินโดโบน่า(Vindobona) เมืองหลวงของจักรวรรดิฮับบวร์กในทันที
“คุฮุ”
จอมมารเบเลธพ่นลมหายใจร้อนๆออกมา กล้ามเนื้อสีทองแดงของเบลธสะท้อนฉายราวกับหนังงู เขาดูตื่นเต้นที่จะได้เห็นแม่น้ำดานูบิอุส
ในช่วง 2,000 ปีที่ผ่านมา กองทัพพันธมิตรเสี้ยวจันทรานั้นได้ข้ามแม่น้ำสองครั้ง
จอมมารตนแรกที่ได้ข้ามแม้น้ำดานูบิอุสนั้น ปัจจุบันนี้คือ จอมมารลำดับ 1 บาอัล และบุคคลที่สองไม่ทางเป็นใครอื่นได้ นอกเสียจาก จอมมารลำดับ 8 บาร์บาทอส
และตอนนี้จอมมารลำดับ 13 จะได้จารึกชื่อไว้ในหนังสือประวัติศาสตร์
“ผู้บัญชาการ…… ไม่สิ ท่านบาร์บาทอส ท่านเห็นไหม? ร่างกายของข้านั้นกำลังสั่นไหวด้วยความตื่นเต้น”
ชื่อของเขาได้ไปอยู่ระดับเดียวกันกับบาอัลและบาร์บาทอส ทำให้เบเลธนั้นอดที่จะเนื้อเต้นไม่ได้
“โปรดมอบคำสั่งให้ข้า……. จะกวาดล้าง เผาทำลาย หรือขับไล่ ข้า,เบเบธ จะมอบชัยชนะทุกอย่างตามที่ท่านขอมา”
“มีสิ่งเดียวที่ข้าต้องการ”
จอมมารตนนั้นฉีกยิ้ม
“ฆ่าล้างให้สิ้น เน้นว่า ฆ่าล้างให้โหดเหี้ยมที่สุด ทำให้พวกมนุษย์ที่อ่อนแอพวกนั้นไม่อาจลุกขึ้นต่อต้านได้อีก ทำให้พวกมันหวาดกลัวพวกเราจนต้องคุกเข่ากรีดร้องเพียงแค่เห็นปลายเท้าของพวกเรา
ทำให้ชีวิตของพวกมันไม่มีความหมายนอกจากกลายเป็นฝุ่นใต้ผืนฟ้า ข้าต้องการการกวาดล้างเช่นนั้น”
“ตามที่ท่านบัญชา!”
เบเลธคำรามออกมา เสียงของเขานั้นดังไปทั่วทั้งผินฟ้า เบเลธนำทัพเดธไน้ท์ทั้ง 400 ออกไปในทันที
โดยปกติแล้วจอมมารแทบไม่ต้องการการพักผ่อน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนักรบเช่นเบเลธ
เบเลธวิ่งไปกับเดธไน้ท์ติดต่อกัน 4 วัน4 คือ โดยไม่จักเหน็ดจักเหนื่อยมาก่อน แต่ในทางกลับกัน มอนสเตอร์หมาป่าที่เป็นสัตว์ขี่อย่างหมาดำ สุดท้ายก็เหนื่อยขึ้นมาก่อน
เขาได้เตรียมหมาป่าดำไว้ คนละ 3 ตัว เพื่อที่จะสำรองไว้เผื่อมีสิ่งใดเกิดขึ้น เมื่อหมาดำตัวหนึ่งเหนื่อย พวกเขาก็สลับใช้ตัวอื่นแทน
หลังจากผ่านไปสี่วัน หอคอยเมืองเคร็มก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้าพวกเขา มันเป็นป้อมปราการที่ใช้แม่น้ำเป็นคูเมือง หน่วยของเบเลธบุกเข้าไปราวกับเป็นพายุไต้ฝุ่น
“อะไรนะ กองทัพจอมมารมาถึงแล้วเรอะ?”
ผู้บัญชาการป้อมปราการตะโกนด้วยความตกใจ คนรายงานข่าวผงกหัว
“ใช่ครับ! จำนวนของพวกเขาประมาณ 400 และทั้ง 400นั้นเป็นเดธไน้ท์ทั้งหมด”
“เดธไน้ท์ 400 ตัว …….”
ผู้บัญชาการกลืนน้ำลาย
สิ่งที่บาร์บาทอสคาดการณ์ไว้นั้นถูกต้อง
ทหารจักรวรรดิคาดการณ์ไว้ว่า ศัตรูจะมาถึงภายในหนึ่งสัปดาห์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพจักรววรดิ เจ้าหญิงลำดับสามอลิซาเบธนั้นเป็นอัจฉริยะที่มาพร้อมกลยุทธนี้
แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีทางที่เธอจะรู้ได้ถึง บุคลิกนิสัยส่วนตัวของจอมมารบาร์บาทอส
แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าหญิงเองก็เตรียมรับมือไว้ก่อนแล้ว เธอวางกำลังอัศวินแห่งฮับบวร์กไว้ในป้อมปราการ เธอบอกให้คนของเธอที่เธอรับรองความสามารถแล้วให้ไปอยู่ที่เคร็ม
– ไม่ว่า กองทัพชนิดไหนของศัตรูจะมาใกล้ ขอให้อดทนไว้ให้ถึง 4 วัน พวกเจ้าเข้าใจไหม? ปกป้องป้อมปราการด้วยชีวิตในถึง 4 วัน
เพียงแค่ 4 วัน เท่านั้น
ความแข็งแกร่งของกองทหารที่มีอัศวินมารวมตัวกันอยู่ในป้อมนั้นมีล้นเกินจำเป็น
พวกเขานั้นมี<ผู้ชำนาญดาบ>ระดับ 1 จำนวน 2 คน
นักดาบระดับ 2 จำนวน 30 คน
และนักดาบระดับ 3และ4 จำนวนอย่างละ 50 คน
รวมๆแล้วมี นักดาบ 550 ที่อยู่ในป้อมปราการ จำนวนของเขาอาจไม่มากเท่าไหร่นัก แต่เป็นหน่วยที่เข้มแข็ง
ผู้บัญชาการของป้อมปราการก็เป็น <ผู้ชำนาญดาบ> คนหนึ่ง
นับเป็นตัวตนที่ทรงอำนาจมากสำหรับกองทัพ หากกองทัพศัตรูปรากฏขึ้นหน้าป้อมปราการนั้นมิใช่เดธไน้ท์ ผู้บัญชาการคงก็พ่นลมหึออกมาแล้วจัดการสถานการณ์ตรงหน้าได้อย่างง่ายดาย
ผู้บัญชาการคนนั้นขบกราม
“สี่วัน ……เพียงแค่สี่วัน, กองกำลังเสริมก็จะมาถึง”
ตอนนี้แผนการกำลังปั่นป่วน เจ้าหญิงจักรวรรดิอลิซาเบธนั้นอยู่ระหว่างปฏิบัติการตามแผนในเมืองหลวง เธอได้สั่งย้ายผู้คนทั้งหมด ทหารจำนวนมากจึงถูกใช้เพื่อการนั้น
อีกสี่วัน เจ้าหญิงอลิซาเบธจะส่งกำลังเสริมมา แต่ถึงอย่างนั้นเบเลธ ไม่สิ บาร์บาทอสก็ขยับได้ไวกว่า
ป้อมปราการที่หยุดเบเลธไว้นั้นมีทหารเพียง 500 นาย พวกเขามีทหารยามอีกราว ร้อยคน พวกนั้นเป็นเพียงทหารธรรมดาจึงทนได้ไม่ถึงเสี้ยววินาทีใต้คมดาบของเดธไน้ท์
‘พวกเราจะดึงเวลาให้นานที่สุด!’
ผู้บัญชาการได้ข้อสรุปอย่างรวดเร็ว
เสียงระฆังดังวุ่นวายไปทั่วทั้งป้อมปราการ อัศวินที่กำลังพักผ่อนอย่างสบายก็ในที่พักก็รีบหยิบเกราะขึ้นมา
วันนี้พวกเขาขยับตัวได้เร็วที่สุดตั้งแต่เกิดมา การที่ใครสักคนสวมเกราะหนาเตอะได้เป็นงานที่ยากอย่างมาก
อีกทางหนึ่งผู้บัญชาการแห่งป้อมปราการได้ส่ง <ผู้ชำนาญดาบ> ออกไปนอกป้อมปราการ เพื่อที่จะซื้อเวลาด้วยการขอดวลกับศัตรู
“เหล่าปีศาจตัวน้อย! อยากลองชิมดาบของข้าหรือไม่!?”
ผู้ชำนาญดาบออกไปยืนในลานว่างแล้วตะโกนออกมา
สิ่งที่ผู้บัญชาการต้องการนั้นง่ายดายมาก ล่อศัตรูให้มาตอบรับคำท้าดวลกับผู้ชำนาญดาบ
หากพวกเขาตอบรับคำท้าดวลแล้วส่งเดธไน้ท์มาสู้ทีละตัว ก็สามารถที่จะซื้อเวลาได้นานพอสมควร
อาจจะกินเวลาครึ่งวันหรือวันหนึ่งด้วยซ้ำ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ทำได้ในฐานะผู้บัญชาการ
“ฟุ”
แต่ถึงอย่างนั้นแผนของผู้บัญชาการก็ไม่ได้ผล
“เฮ้ย ทหาร! ดูสิพวกมนุษย์มันก็รู้จักมารยาทด้วยนะ พวกนั้นส่งเลดี้แสนน่ารักมาต้อนรับพวกเราด้วย”
จอมมารเบเลธมองเจตนาของกองทัพมนุษย์ออก แม้เขาจะสมองกล้ามแต่เขาก็เป็นนายพล เขาไม่ทำแผนดั้งเดิมฝ่ายตัวเองพังเพียงเพราะเขาชอบการดวล เบเลธยกมือขวาขึ้น
“อีกฝ่ายน่ะ ตั้งใจออกมาต้อนรับพวกเราด้วยความสุภาพ ในฐานะสุภาพบุรุษแห่งโลกปีศาจ เราจะเมินเฉยไม่ได้― พวกเราไปแสดงความมีมารยาทในฐานะปีศาจหน่อยเร็ว!?”
มานาสีแดงดำหลั่งไหลออกมาทั่วร่างเบเลธ ในตอนนั้นเองขวานขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นในอากาศ
“ไปกันเถอะ! เหล่าสุภาพบุรุษแห่งโลกปีศาจ!”
เดธไน้ท์และหมาป่าดำคำรามพร้อมกัน
เสียงร้องของพวกมอนสเตอร์ฟังเหมือนเสียงเหล็กขูดขีดอยู่ในกะโหลกของมนุษย์ที่ได้ยิน เดธไน้ท์เปล่งเสียงด้วยเวทย์มนตร์แทนที่จะใช้ลำคอ
พวกนักดาบแห่งจักรวรรดิที่มีเวทย์มนตร์อยู่ในตัวอยู่แล้วนั้น การปล่อยเสียงมาจากเดธไน้ท์ก่อให้เกิดความรู้สึกแย่ๆเนื่องจากเวทย์มนตร์ตอบรับต่อเสียงนั้น
– คูฮ่าาาาาา!
เบเลธพุ่งเข้าไปพร้อมกับเดธไน้ท์ 400 ตน ไม่มีมารยาทผู้ดีเหมือนดั่งเช่นพิธีการสุนทรพจน์หรือการดวลอีกต่อไป
เดธไน้ท์ตะโกนออกมาเหมือนกลุ่มบาบาเรี่ยนที่ลืมมารยาทไปนานมากแล้ว
“อะ-ไอ้พวกนี้มันไม่สนใจ มารยาทในสนามรบ!”
ผู้ชำนาญดาบตะโกนด้วยความตกใจ มานาของเธอนั้นสะท้อนเสียงก้องไปทั่วที่ราบ
“เจ้าพวกระยำไร้มารยาทเอ๊ย! หากพวกแกเป็นนักรบตัวจริง แกก็ต้องตอบรับ―”
“ฮุฮ่าฮ่าฮ่า! เจ้ามนุษย์ผู้หญิง! การให้เกียรติสูงสุดที่ข้าจะแสดงให้เห็นนั่นก็คือ การอัดพวกแกให้จมยังไง!”
เบเลธตะโกนออกมาพร้อมกับชูขวาน
“ยินดีเสียเถอะที่เจ้าจะได้ลิ้มรสแท่งเนื้อของข้า!”
“พวกแกมันไอ้พวกลูกกะหรี่ขี้ขลาด!”
“เหมือนที่พี่น้องร่วมสาบานข้าพูดไว้ ช่วงนี้กระแสผู้ชายระยำมันมาแรง! คุฮ่าฮ่า!”
ผู้ชำนาญดาบจึงไม่มีทางเลือกนอกจากยอมถอน เธอกระโดดหนีขึ้นกำแพง แล้วกลับไปที่ป้อมปราการ การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วสมกับเป็นผู้ชำนาญในสายของเธอ
“บ้าชิบ”
ผู้บัญชาการป้อมปราการกัดฟัน
แผนการซื้อเวลาไม่ได้ผล แม้ภายนอกจะดูเหมือนออเกอร์แต่หัวสมองของจอมมารตนนั้นยังปกติ
เขาทำอะไรไม่ได้แล้ว ที่ทำได้มีเพียงทำตามคำสั่งของเจ้าหญิงปกป้องที่นี่ให้ได้ถึง 4 วัน
ทั้งผู้บัญชาการฝ่ายมนุษย์และเบเลธต่างตะโกนออกมาพร้อมกัน
“ทหารทุกนาย ปกป้องป้อมปราการ!”
“เหยียบย่ำพวกมันตามที่เจ้าต้องการ!”
เดธไน้ท์ปรากฏตัวอยู่บนเนินกำแพงในทันที พวกเขาร่วมสู้กันเป็นเวลานับร้อยปี พวกเขากระโดดเหยียบหมาป่าแล้วปีนขึ้นแนวกำแพงพร้อมกัน
ผ้าคลุมของเดธไน้ท์ที่เป็นสีดำกระพือสะบัดราวกับปีกค้างคาว
“หยุดพวกมัน! ช่วยกันหยุดพวกมัน!”
“พวกเราได้เปรียบทางภูมิศาสตร์! อย่าโดนมันจัดการ!”
อัศวินแห่งจักรวรรดิดึงดาบออกจากปลอกในเวลาเดียวกัน พวกเขาใช้แนวกำแพงเพื่อรับมือกับเดธไน้ท์ที่เข้ามาใกล้เหมือนเหยี่ยวนักล่า อัศวินของโลกมนุษย์และอัศวินโลกปีศาจเข้าปะทะกัน
“คูฮ่าาาา!”
“ตายยยย!”
ทุกคนต่างมีความสามารถ การต่อสู้จึงไม่อาจตัดสินได้ในชั่วขณะ
เดธไน้ท์ไม่อาจยึดยอดบนสุดของป้อมได้ บางส่วนกดดันให้มนุษย์ถอยไป แต่ไม่นานก็ถูกดันกลับมา
มีเพียงเดธไน้ท์ไม่กี่ตนเท่านั้นที่ขึ้นไปถึงได้ พวกเขากระโดดลงมาแล้วพุ่งขึ้นไปอีกรอบ
“เราจงหยุดพวกมัน! ทนไว้อย่างนั้นแหละ!”
“ขยับพร้อมกับคนข้างๆ! อย่าลืม! ขยับพร้อมกับคนข้างๆ!”
เสียงตะโกนเชียร์ดังออกมาจากเหล่าอัศวิน ความจริงมันไม่ดีนักหรอกที่จะปล่อยให้อารมณ์มีผลต่อการต่อสู้เล็กๆ
ถึงอย่างไรเสียนั้นก็เป็นแค่ช่วงแรกของการต่อสู้ พวกเขาอยากเพิ่มขวัญกำลังใจในขณะที่ยังทำได้
พวกเขาตั้งใจส่งเสียงร้องออกมาเพื่อกระตุ้นกำลังใจให้กับคนรอบๆ
คำสั่งของเจ้าหญิงแวบเข้ามาในหัวสมองของผู้บัญชาการ
อดทนไว้ให้ถึง 4 วัน!
‘พวกเราทำได้ ฝ่าบาท อาจจะสามหรือสี่วัน พวกเราจะป้องกันสถานที่แห่งนี้ให้มากที่สุดที่จะทำได้!’
ความตื่นเต้นจำนวนน้อยก่อตัวขึ้นในร่างของเขาขณะที่กำลังมองไปรอบๆ เดธไน้ท์พยายามที่จะปีนขึ้นมาเป็นรอบสอง
ตอนนั้นเองที่เขาพบว่า ตัวตนที่อันตรายที่สุดของกองทัพศัตรูกลับหายไป
‘เดี๋ยวก่อนสิ ตอนนี้จอมมารไปไหน?’
ในตอนนั้นเองที่ทั้งป้อมปราการกลับสะเทือนเลื่อนลั่นคล้ายเผชิญกับแผ่นดินไหว
ผู้บัญชาการป้อมปราการนั้นพยายามรักษาสมดุล และคาดเดาได้ว่าเสียงนั่นมาจากทางไหน เขาเริ่มตื่นตระหนก การสั่นสะเทือนนั่น―มันมาจากทางประตูป้อมปราการ
Comments
Dungeon Defense (WN) 155 ยุคแห่งเหล่าทรราช (5)
* * *
กองทัพภาค 6 แห่งกองทัพพันธมิตรเสี้ยวจันทรานั้นนำโดยบาร์บาทอส
เธอส่งกองกำลังจำนวนหนึ่งออกไป แต่ผู้บัญชาการบาร์บาทอสนั้นไม่คิดที่จะชะลอความเร็วลง หลักการรบของเธอนั้นเรียบง่าย เคลื่อนตัวให้เร็วกว่าศัตรู เท่านั้นเอง
“หรือพวกเราควรจะรอให้กองทัพภาคอื่นมาถึงแล้วค่อยบุกไปด้วยกัน?”
จอมมารลำดับ 16 เซปาร์ เสนอไอเดียขึ้น เขาเป็นทหารเก่าผู้รอบคอบ แม้จะมีผมสีขาวแต่มันไม่ทำให้เขาดูโทรม กลิ่นอายการรบที่รุนแรงนับร้อยปีแผ่ออกมาจากผมขาวของเขา
“หากพวกเรารอไปอีก สามหรือสี่วัน กองทัพภาค 2 จะมาเข้าร่วมกับพวกเรา กำลังทหารของพวกเราจะมีเป็นสองเท่า ทำให้พวกเราสามารถพิชิตพวกมนุษย์ได้ง่ายขึ้น”
บาร์บาทอสส่ายหัว
“ศัตรูจะเตรียมการอะไรสักอย่างแน่ระหว่างที่พวกเรารอพันธมิตรมา
ถ้าเราโจมตีพวกมัน ตั้งแต่ตอนที่เรายังเตรียมตัวไม่พร้อม พวกมันก็ไม่มีทางพร้อมเช่นกัน
รู้ความแตกต่างของสองสถานการณ์ที่ว่าไหม?
มันคือเรื่องที่ พวกเราจะรู้ว่า จะบุกเมื่อไหร่และตรงไหน ในขณะที่พวกศัตรูไม่รู้เลย”
เธอยืนยันหนักแน่น
“เราควรจะเร่งให้เร็วขึ้น พวกมนุษย์อาจคิดว่า พวกเราจะโจมตีก็ต่อเมื่อรวมตัวกันได้แล้ว พวกงั่งนั่นเปิดโอกาสให้พวกเราเอง ข้าจะไม่สนใจคำแนะนำของเซปาร์ ,เบเลธ!”
“ครับ ท่านผู้บัญชาการ!”
จอมมารลำดับ 13 เบเลธ ตอบรับอย่างแข็งขัน เบเลธนั้นเป็นชายผู้มีรูปร่างใหญ่โตเหมือนออเกอร์ พอเขาตะโกนออกมาจอมมารที่ไม่ระวังตัวก็สะดุ้ง เสียงของเบเลธนั้นฟังดูคล้ายสัตว์ป่า
“ข้าจะมอบ กองทหารเดธไน้ท์ 400 นาย ใต้การบัญชาให้กับเจ้า อัศวินของข้านั้นไม่ต้องการการพักผ่อนหรืออาหาร จงนำพวกเขามุ่งหน้าไปตลอดทั้งกลางวัน กลางคืน”
บาร์บาทอสหยิบมีดออกมาแล้วปามัน มันปักลงที่พื้นดิน ปรากฏแผนที่ยุทธศาสตร์บนพื้นด้วยเวทย์มนตร์ของบาร์บาทอส
คำว่า ‘เคร็ม’ (Krems) เขียนไว้ตรงที่มีดปักอยู่
“โจมตี เคร็ม แล้วยึดซะ”
ป้อมปราการเมืองเคร็ม เป็นแนวรับสุดท้ายของจักรวรรดิฮับบวร์ก แม่น้ำดานูบิอุส(Danubius)ไหลผ่านใจกลางทีมหลังป้อมปราการแห่งนั้น
หากข้ามแม่น้ำนั่นไปก็จะพบเมือง วินโดโบน่า(Vindobona) เมืองหลวงของจักรวรรดิฮับบวร์กในทันที
“คุฮุ”
จอมมารเบเลธพ่นลมหายใจร้อนๆออกมา กล้ามเนื้อสีทองแดงของเบลธสะท้อนฉายราวกับหนังงู เขาดูตื่นเต้นที่จะได้เห็นแม่น้ำดานูบิอุส
ในช่วง 2,000 ปีที่ผ่านมา กองทัพพันธมิตรเสี้ยวจันทรานั้นได้ข้ามแม่น้ำสองครั้ง
จอมมารตนแรกที่ได้ข้ามแม้น้ำดานูบิอุสนั้น ปัจจุบันนี้คือ จอมมารลำดับ 1 บาอัล และบุคคลที่สองไม่ทางเป็นใครอื่นได้ นอกเสียจาก จอมมารลำดับ 8 บาร์บาทอส
และตอนนี้จอมมารลำดับ 13 จะได้จารึกชื่อไว้ในหนังสือประวัติศาสตร์
“ผู้บัญชาการ…… ไม่สิ ท่านบาร์บาทอส ท่านเห็นไหม? ร่างกายของข้านั้นกำลังสั่นไหวด้วยความตื่นเต้น”
ชื่อของเขาได้ไปอยู่ระดับเดียวกันกับบาอัลและบาร์บาทอส ทำให้เบเลธนั้นอดที่จะเนื้อเต้นไม่ได้
“โปรดมอบคำสั่งให้ข้า……. จะกวาดล้าง เผาทำลาย หรือขับไล่ ข้า,เบเบธ จะมอบชัยชนะทุกอย่างตามที่ท่านขอมา”
“มีสิ่งเดียวที่ข้าต้องการ”
จอมมารตนนั้นฉีกยิ้ม
“ฆ่าล้างให้สิ้น เน้นว่า ฆ่าล้างให้โหดเหี้ยมที่สุด ทำให้พวกมนุษย์ที่อ่อนแอพวกนั้นไม่อาจลุกขึ้นต่อต้านได้อีก ทำให้พวกมันหวาดกลัวพวกเราจนต้องคุกเข่ากรีดร้องเพียงแค่เห็นปลายเท้าของพวกเรา
ทำให้ชีวิตของพวกมันไม่มีความหมายนอกจากกลายเป็นฝุ่นใต้ผืนฟ้า ข้าต้องการการกวาดล้างเช่นนั้น”
“ตามที่ท่านบัญชา!”
เบเลธคำรามออกมา เสียงของเขานั้นดังไปทั่วทั้งผินฟ้า เบเลธนำทัพเดธไน้ท์ทั้ง 400 ออกไปในทันที
โดยปกติแล้วจอมมารแทบไม่ต้องการการพักผ่อน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนักรบเช่นเบเลธ
เบเลธวิ่งไปกับเดธไน้ท์ติดต่อกัน 4 วัน4 คือ โดยไม่จักเหน็ดจักเหนื่อยมาก่อน แต่ในทางกลับกัน มอนสเตอร์หมาป่าที่เป็นสัตว์ขี่อย่างหมาดำ สุดท้ายก็เหนื่อยขึ้นมาก่อน
เขาได้เตรียมหมาป่าดำไว้ คนละ 3 ตัว เพื่อที่จะสำรองไว้เผื่อมีสิ่งใดเกิดขึ้น เมื่อหมาดำตัวหนึ่งเหนื่อย พวกเขาก็สลับใช้ตัวอื่นแทน
หลังจากผ่านไปสี่วัน หอคอยเมืองเคร็มก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้าพวกเขา มันเป็นป้อมปราการที่ใช้แม่น้ำเป็นคูเมือง หน่วยของเบเลธบุกเข้าไปราวกับเป็นพายุไต้ฝุ่น
“อะไรนะ กองทัพจอมมารมาถึงแล้วเรอะ?”
ผู้บัญชาการป้อมปราการตะโกนด้วยความตกใจ คนรายงานข่าวผงกหัว
“ใช่ครับ! จำนวนของพวกเขาประมาณ 400 และทั้ง 400นั้นเป็นเดธไน้ท์ทั้งหมด”
“เดธไน้ท์ 400 ตัว …….”
ผู้บัญชาการกลืนน้ำลาย
สิ่งที่บาร์บาทอสคาดการณ์ไว้นั้นถูกต้อง
ทหารจักรวรรดิคาดการณ์ไว้ว่า ศัตรูจะมาถึงภายในหนึ่งสัปดาห์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพจักรววรดิ เจ้าหญิงลำดับสามอลิซาเบธนั้นเป็นอัจฉริยะที่มาพร้อมกลยุทธนี้
แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีทางที่เธอจะรู้ได้ถึง บุคลิกนิสัยส่วนตัวของจอมมารบาร์บาทอส
แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าหญิงเองก็เตรียมรับมือไว้ก่อนแล้ว เธอวางกำลังอัศวินแห่งฮับบวร์กไว้ในป้อมปราการ เธอบอกให้คนของเธอที่เธอรับรองความสามารถแล้วให้ไปอยู่ที่เคร็ม
– ไม่ว่า กองทัพชนิดไหนของศัตรูจะมาใกล้ ขอให้อดทนไว้ให้ถึง 4 วัน พวกเจ้าเข้าใจไหม? ปกป้องป้อมปราการด้วยชีวิตในถึง 4 วัน
เพียงแค่ 4 วัน เท่านั้น
ความแข็งแกร่งของกองทหารที่มีอัศวินมารวมตัวกันอยู่ในป้อมนั้นมีล้นเกินจำเป็น
พวกเขานั้นมี<ผู้ชำนาญดาบ>ระดับ 1 จำนวน 2 คน
นักดาบระดับ 2 จำนวน 30 คน
และนักดาบระดับ 3และ4 จำนวนอย่างละ 50 คน
รวมๆแล้วมี นักดาบ 550 ที่อยู่ในป้อมปราการ จำนวนของเขาอาจไม่มากเท่าไหร่นัก แต่เป็นหน่วยที่เข้มแข็ง
ผู้บัญชาการของป้อมปราการก็เป็น <ผู้ชำนาญดาบ> คนหนึ่ง
นับเป็นตัวตนที่ทรงอำนาจมากสำหรับกองทัพ หากกองทัพศัตรูปรากฏขึ้นหน้าป้อมปราการนั้นมิใช่เดธไน้ท์ ผู้บัญชาการคงก็พ่นลมหึออกมาแล้วจัดการสถานการณ์ตรงหน้าได้อย่างง่ายดาย
ผู้บัญชาการคนนั้นขบกราม
“สี่วัน ……เพียงแค่สี่วัน, กองกำลังเสริมก็จะมาถึง”
ตอนนี้แผนการกำลังปั่นป่วน เจ้าหญิงจักรวรรดิอลิซาเบธนั้นอยู่ระหว่างปฏิบัติการตามแผนในเมืองหลวง เธอได้สั่งย้ายผู้คนทั้งหมด ทหารจำนวนมากจึงถูกใช้เพื่อการนั้น
อีกสี่วัน เจ้าหญิงอลิซาเบธจะส่งกำลังเสริมมา แต่ถึงอย่างนั้นเบเลธ ไม่สิ บาร์บาทอสก็ขยับได้ไวกว่า
ป้อมปราการที่หยุดเบเลธไว้นั้นมีทหารเพียง 500 นาย พวกเขามีทหารยามอีกราว ร้อยคน พวกนั้นเป็นเพียงทหารธรรมดาจึงทนได้ไม่ถึงเสี้ยววินาทีใต้คมดาบของเดธไน้ท์
‘พวกเราจะดึงเวลาให้นานที่สุด!’
ผู้บัญชาการได้ข้อสรุปอย่างรวดเร็ว
เสียงระฆังดังวุ่นวายไปทั่วทั้งป้อมปราการ อัศวินที่กำลังพักผ่อนอย่างสบายก็ในที่พักก็รีบหยิบเกราะขึ้นมา
วันนี้พวกเขาขยับตัวได้เร็วที่สุดตั้งแต่เกิดมา การที่ใครสักคนสวมเกราะหนาเตอะได้เป็นงานที่ยากอย่างมาก
อีกทางหนึ่งผู้บัญชาการแห่งป้อมปราการได้ส่ง <ผู้ชำนาญดาบ> ออกไปนอกป้อมปราการ เพื่อที่จะซื้อเวลาด้วยการขอดวลกับศัตรู
“เหล่าปีศาจตัวน้อย! อยากลองชิมดาบของข้าหรือไม่!?”
ผู้ชำนาญดาบออกไปยืนในลานว่างแล้วตะโกนออกมา
สิ่งที่ผู้บัญชาการต้องการนั้นง่ายดายมาก ล่อศัตรูให้มาตอบรับคำท้าดวลกับผู้ชำนาญดาบ
หากพวกเขาตอบรับคำท้าดวลแล้วส่งเดธไน้ท์มาสู้ทีละตัว ก็สามารถที่จะซื้อเวลาได้นานพอสมควร
อาจจะกินเวลาครึ่งวันหรือวันหนึ่งด้วยซ้ำ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ทำได้ในฐานะผู้บัญชาการ
“ฟุ”
แต่ถึงอย่างนั้นแผนของผู้บัญชาการก็ไม่ได้ผล
“เฮ้ย ทหาร! ดูสิพวกมนุษย์มันก็รู้จักมารยาทด้วยนะ พวกนั้นส่งเลดี้แสนน่ารักมาต้อนรับพวกเราด้วย”
จอมมารเบเลธมองเจตนาของกองทัพมนุษย์ออก แม้เขาจะสมองกล้ามแต่เขาก็เป็นนายพล เขาไม่ทำแผนดั้งเดิมฝ่ายตัวเองพังเพียงเพราะเขาชอบการดวล เบเลธยกมือขวาขึ้น
“อีกฝ่ายน่ะ ตั้งใจออกมาต้อนรับพวกเราด้วยความสุภาพ ในฐานะสุภาพบุรุษแห่งโลกปีศาจ เราจะเมินเฉยไม่ได้― พวกเราไปแสดงความมีมารยาทในฐานะปีศาจหน่อยเร็ว!?”
มานาสีแดงดำหลั่งไหลออกมาทั่วร่างเบเลธ ในตอนนั้นเองขวานขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นในอากาศ
“ไปกันเถอะ! เหล่าสุภาพบุรุษแห่งโลกปีศาจ!”
เดธไน้ท์และหมาป่าดำคำรามพร้อมกัน
เสียงร้องของพวกมอนสเตอร์ฟังเหมือนเสียงเหล็กขูดขีดอยู่ในกะโหลกของมนุษย์ที่ได้ยิน เดธไน้ท์เปล่งเสียงด้วยเวทย์มนตร์แทนที่จะใช้ลำคอ
พวกนักดาบแห่งจักรวรรดิที่มีเวทย์มนตร์อยู่ในตัวอยู่แล้วนั้น การปล่อยเสียงมาจากเดธไน้ท์ก่อให้เกิดความรู้สึกแย่ๆเนื่องจากเวทย์มนตร์ตอบรับต่อเสียงนั้น
– คูฮ่าาาาาา!
เบเลธพุ่งเข้าไปพร้อมกับเดธไน้ท์ 400 ตน ไม่มีมารยาทผู้ดีเหมือนดั่งเช่นพิธีการสุนทรพจน์หรือการดวลอีกต่อไป
เดธไน้ท์ตะโกนออกมาเหมือนกลุ่มบาบาเรี่ยนที่ลืมมารยาทไปนานมากแล้ว
“อะ-ไอ้พวกนี้มันไม่สนใจ มารยาทในสนามรบ!”
ผู้ชำนาญดาบตะโกนด้วยความตกใจ มานาของเธอนั้นสะท้อนเสียงก้องไปทั่วที่ราบ
“เจ้าพวกระยำไร้มารยาทเอ๊ย! หากพวกแกเป็นนักรบตัวจริง แกก็ต้องตอบรับ―”
“ฮุฮ่าฮ่าฮ่า! เจ้ามนุษย์ผู้หญิง! การให้เกียรติสูงสุดที่ข้าจะแสดงให้เห็นนั่นก็คือ การอัดพวกแกให้จมยังไง!”
เบเลธตะโกนออกมาพร้อมกับชูขวาน
“ยินดีเสียเถอะที่เจ้าจะได้ลิ้มรสแท่งเนื้อของข้า!”
“พวกแกมันไอ้พวกลูกกะหรี่ขี้ขลาด!”
“เหมือนที่พี่น้องร่วมสาบานข้าพูดไว้ ช่วงนี้กระแสผู้ชายระยำมันมาแรง! คุฮ่าฮ่า!”
ผู้ชำนาญดาบจึงไม่มีทางเลือกนอกจากยอมถอน เธอกระโดดหนีขึ้นกำแพง แล้วกลับไปที่ป้อมปราการ การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วสมกับเป็นผู้ชำนาญในสายของเธอ
“บ้าชิบ”
ผู้บัญชาการป้อมปราการกัดฟัน
แผนการซื้อเวลาไม่ได้ผล แม้ภายนอกจะดูเหมือนออเกอร์แต่หัวสมองของจอมมารตนนั้นยังปกติ
เขาทำอะไรไม่ได้แล้ว ที่ทำได้มีเพียงทำตามคำสั่งของเจ้าหญิงปกป้องที่นี่ให้ได้ถึง 4 วัน
ทั้งผู้บัญชาการฝ่ายมนุษย์และเบเลธต่างตะโกนออกมาพร้อมกัน
“ทหารทุกนาย ปกป้องป้อมปราการ!”
“เหยียบย่ำพวกมันตามที่เจ้าต้องการ!”
เดธไน้ท์ปรากฏตัวอยู่บนเนินกำแพงในทันที พวกเขาร่วมสู้กันเป็นเวลานับร้อยปี พวกเขากระโดดเหยียบหมาป่าแล้วปีนขึ้นแนวกำแพงพร้อมกัน
ผ้าคลุมของเดธไน้ท์ที่เป็นสีดำกระพือสะบัดราวกับปีกค้างคาว
“หยุดพวกมัน! ช่วยกันหยุดพวกมัน!”
“พวกเราได้เปรียบทางภูมิศาสตร์! อย่าโดนมันจัดการ!”
อัศวินแห่งจักรวรรดิดึงดาบออกจากปลอกในเวลาเดียวกัน พวกเขาใช้แนวกำแพงเพื่อรับมือกับเดธไน้ท์ที่เข้ามาใกล้เหมือนเหยี่ยวนักล่า อัศวินของโลกมนุษย์และอัศวินโลกปีศาจเข้าปะทะกัน
“คูฮ่าาาา!”
“ตายยยย!”
ทุกคนต่างมีความสามารถ การต่อสู้จึงไม่อาจตัดสินได้ในชั่วขณะ
เดธไน้ท์ไม่อาจยึดยอดบนสุดของป้อมได้ บางส่วนกดดันให้มนุษย์ถอยไป แต่ไม่นานก็ถูกดันกลับมา
มีเพียงเดธไน้ท์ไม่กี่ตนเท่านั้นที่ขึ้นไปถึงได้ พวกเขากระโดดลงมาแล้วพุ่งขึ้นไปอีกรอบ
“เราจงหยุดพวกมัน! ทนไว้อย่างนั้นแหละ!”
“ขยับพร้อมกับคนข้างๆ! อย่าลืม! ขยับพร้อมกับคนข้างๆ!”
เสียงตะโกนเชียร์ดังออกมาจากเหล่าอัศวิน ความจริงมันไม่ดีนักหรอกที่จะปล่อยให้อารมณ์มีผลต่อการต่อสู้เล็กๆ
ถึงอย่างไรเสียนั้นก็เป็นแค่ช่วงแรกของการต่อสู้ พวกเขาอยากเพิ่มขวัญกำลังใจในขณะที่ยังทำได้
พวกเขาตั้งใจส่งเสียงร้องออกมาเพื่อกระตุ้นกำลังใจให้กับคนรอบๆ
คำสั่งของเจ้าหญิงแวบเข้ามาในหัวสมองของผู้บัญชาการ
อดทนไว้ให้ถึง 4 วัน!
‘พวกเราทำได้ ฝ่าบาท อาจจะสามหรือสี่วัน พวกเราจะป้องกันสถานที่แห่งนี้ให้มากที่สุดที่จะทำได้!’
ความตื่นเต้นจำนวนน้อยก่อตัวขึ้นในร่างของเขาขณะที่กำลังมองไปรอบๆ เดธไน้ท์พยายามที่จะปีนขึ้นมาเป็นรอบสอง
ตอนนั้นเองที่เขาพบว่า ตัวตนที่อันตรายที่สุดของกองทัพศัตรูกลับหายไป
‘เดี๋ยวก่อนสิ ตอนนี้จอมมารไปไหน?’
ในตอนนั้นเองที่ทั้งป้อมปราการกลับสะเทือนเลื่อนลั่นคล้ายเผชิญกับแผ่นดินไหว
ผู้บัญชาการป้อมปราการนั้นพยายามรักษาสมดุล และคาดเดาได้ว่าเสียงนั่นมาจากทางไหน เขาเริ่มตื่นตระหนก การสั่นสะเทือนนั่น―มันมาจากทางประตูป้อมปราการ
Comments