Dungeon Defense (WN) 177 ดอกไม้อันตราย (3)

Now you are reading Dungeon Defense (WN) Chapter 177 ดอกไม้อันตราย (3) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

 

 

* * *

 

 

ุสุดท้ายแล้วขั้นตอนการผ่าตัดดำเนินไปได้ด้วยดีอย่างไร้อุปสรรค เดซี่นั้นไม่สลบหรือร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดอีกต่อไป จะมีบ้างก็บางครั้งที่เธอจะครางออกมาเหมือนสัตว์ป่า 

 

 

“ฟู่ อ่า”

 

เธอขบกัดริมฝีปากตัวเองจนเลือดไหลออกมา เดซี่ไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ นั่นอาจเป็นเพราะความเจ็บปวดมันทิ่มแทงผ่านร่างกายของเธอ 

ความเจ็บปวดที่เธอรับรู้จากการผ่าตัดนั้นมันท่วมท้นเกินกว่าความเจ็บปวดที่ริมฝีปาก

ทั้งห้องกลับเงียบลง

 

เจเรมิเงียบสนิทราวกับว่าก่อนหน้านี้ที่เธอพูดนั่นพูดนี่ ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ขั้นตอนทั้งหมดเป็นไปอย่างสงบและเงียบงัน

 

 

ในเวลานั้นเองที่เดซี่และผมเราสบตากันและกัน

ดวงตาของเธอนั้นหยั่งลึกลงไป

 

ความขุ่นแค้นเคืองใจลอยผุดขึ้นมาจากก้นบึ้งราวกับสิ่งปฏิกูล

ผมดีใจที่เห็นสายตาของเดซี่เป็นอย่างนั้น ผมได้เป็นประจักษ์พยานต่อฉากเหตุการณ์แห่งความวุ่นวายสับสน

หยาดหยดเล็กๆของความแค้นเคืองนั้นไม่เพียงพอที่จะทำให้อะไรๆมันท่วมทะลักได้หรอก พวกเรายังคงมองจ้องกันอยู่อย่างนั้นจนการผ่าตัดสิ้นสุดลง

 

“……เสร็จเรียบร้อยแล้ว ฝ่าบาท”

 

เจเรมิถอนใจยาวออกมา เธอเห็นอกจะเดซี่กระเพื่อมขึ้นลงพร้อมกับผ้าขนหนูที่ฆ่าเชื้อด้วยน้ำส้มสายชูแล้ว

 

“ตอนนี้เด็กคนนี้เป็นทาสของฝ่าบาท ท่านสามารถสั่งอะไรก็ได้ตามใจค่ะ”

 

“อย่าทำร้ายข้า อย่าทำร้ายผู้ใกล้ชิดข้า 

หากข้าหรือผู้คนที่ข้าห่วงใยตกอยู่ในอันตราย จงอย่าเมินเฉยข้าหรือพวกเขา”

 

ผมยังคงจ้องมองแล้วพูดต่อ

 

 

 

“เจ้าจะรับคำสั่งจากข้า และให้ความสำคัญกับชีวิตข้าเหนือชีวิตเจ้า นี่เป็นคำสั่งแรกที่ข้าจะมอบให้กับเจ้า นับตั้งแต่นี้ เจ้าต้องปฏิบัติตามคำสั่งนี้อย่างสมบูรณ์”

 

“……ค่ะ”

 

หัวของเดซี่ตกลงก่อนที่เธอจะได้ทันพูดจบ เธอสลบไปทั้งที่ดวงตายังเบิกกว้างอยู่

 

「คุณได้รับผู้ใต้บังคับบัญชา เดซี่ ในฐานะทาสของคุณ!」

「หน้าต่างค่าสเตตัสทาสจะแสดงให้เห็นโดยไม่คำนึงถึงค่าความชอบ 

‘ระดับค่าการรับใช้’ เพิ่มเข้ามาในหน้าต่างสเตตัสทาส」

「การรับใช้ที่เลวร้าย!」

「ความสัมพันธ์นายบ่าวถูกสร้างขึ้นด้วยตราเวทย์อันทรงพลัง แต่ถึงอย่างนั้นอีกฝ่ายก็รู้สึกขอบคุณคุณเล็กน้อย เนื่องจากเป็นการรับใช้ที่เลวร้าย ดังนั้นฉายาใหม่จะมอบให้กับอีกฝ่าย」

 

หน้าต่างโฮโลแกรมแจ้งเตือนเด้งขึ้นมาพร้อมกับซาวด์เอฟเฟ็ค

 

 

“หืมม”

 

นี่มันน่าสนใจมากเลยล่ะ ตอนที่ผมรับลอร่ามาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ค่าความจงรักภักดีของเธอนั้นแตะพุ่งสูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ 

ในขณะที่ของเดซี่นั้นเป็นสิ่งที่เรียกว่า การรับใช้ที่เลวร้าย ปรากฏขึ้นแทน 

ดูเหมือนมันจะเป็นสิ่งที่สุดขั้วทั้งสองข้างจะเกิดกับผม

 

 

แต่ก็ไม่สำคัญนักหรอก มันโอเคดีตราบใดที่เธอไม่คิดต่อต้านผม ผมจะค่อยๆจัดการกับปัญหาอื่นไปตามกาลเวลา กาเรดินทางก่อสงครามกลางเมืองในฟรานเคียของผมน่ะพึ่งเริ่มขึ้น ผมน่ะไหลไปตามกระแสเวลา

 

หน้าต่างการแจ้งเตือนไม่ได้จบลงตรงนั้น

 

 

「ขอแสดงความยินดีด้วย! ท่านได้รับทาสคนแรก หน้าต่าง ‘การศึกษา’ จะเปิดใช้งานกับทาส」

「 ตราต่อต้านของเดซี่ เพิ่มเป็น (Lv. 3)  !」

「 ตราความเจ็บปวดของเดซี่ เพิ่มเป็น (Lv. 3)!」

「 ตราอันน่าอับอายของเดซี่ เพิ่มเป็น (Lv. 1)!」

 

 

……ทั้งหมดนั่นเป็นหน้าต่างที่ไม่คุ้นเคย

 

ไม่เคยมีระบบทาสใน < Dungeon Attack> ที่เปลี่ยนNPC ให้กลายเป็นทาส

หน้าต่างการศึกษานั่นอะไรน่ะ? ผมเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก

 

นี่ก็นับเป็นครั้งที่สองแล้วที่มีฟังชั่นใหม่ๆที่ไม่เคยมีอยู่ในเกม อย่างแรกก็เควสเบรคเกอร์

นั่นคงเป็นความต่างระหว่างฮีโร่กับจอมมาร ผมคงต้องใช้เวลาครุ่นคิดเรื่องนี้อีกทีภายหลัง

 

ตอนนี้ผมต้องสรรเสริญบุคคลที่เสียสละตนในการทำการผ่าตัด

 

“เจ้าทำได้ดีมาก เจเรมิ”

 

ผมแตะบ่าเจเรมิ

 

“ข้าทำให้เจ้าต้องทำงานเพิ่ม”

 

“ด้วยความยินดี พวกเราถูกว่าจ้างมาเพื่อทำตามคำสั่งของฝ่าบาท”

 

“ไม่เลย ข้ายังปรารถนาที่จะให้รางวัลเจ้า”

 

การผ่าตัดนั้นสร้างความเหนื่อยล้าอย่างมากให้กับผู้ลงมือผ่า

ยิ่งไปกว่านั้น การสลัดตราไว้ที่หัวใจนั้นต้องการทักษะความชำนาญอย่างยิ่งยวด มันไม่ใช่อะไรที่จะมาทำแบบครึ่งๆกลางๆกันได้

ถึงจะเป็นความจริงที่ว่า เจเรมินั้นเคยทำการผ่าตัดแบบนี้มาหลายต่อหลายครั้งก็ตาม

 

 

“เจ้าน่ะเป็นผู้ตระเตรียมโพชั่นมากมาย แมนเดรค รวมถึงธูปหอมกำยาน มันย่อมเป็นการทำลายภาพลักษณ์ของข้า หากข้าจะมาเอาเปรียบด้วยการให้คนมีความสามารถทำงานให้ข้าฟรีๆ

ข้าจะมอบรางวัลให้เจ้าตามที่ข้าจะมอบให้ได้”

 

เจเรมิเอามือแตะคางแล้วคิด

 

“หากฝ่าบาทประสงค์เช่นนั้น……จะเป็นอะไรไหมหาก ผู้น้อยนี้มีคำขอที่เห็นแก่ตัว?”

 

“เอาเลย ข้าขอสาบานต่อนามของเทพีอาร์เทมิส”

 

ผมกุมมือของเธอราวกับเป็นนักบวชแล้วโค้งหัวให้

 

 

“ฟุ ฝะ-ฝ่าบาท ท่าทางของนักบวชนี่เหมาะกับท่าจริงๆ”

 

“หากข้าไม่ได้เป็นจอมมาร ข้าอาจจะเป็นนักบวชชั้นสูงไปแล้วก็ได้”

 

เจเรมิหัวเราะออกมาด้วยความสดชื่น

 

ผู้ชายและผู้หญิง หัวเราะกันอยู่ในห้องที่ชุ่มโชกไปด้วยเลือดของเด็กสาวอายุ 10 ปี มันจะเป็นอะไรได้อีกเล่าหากไม่ใช่ความวิปลาส แต่หากสังเกตดูให้ดีจะพบว่า อารมณ์ขณะหัวเราะนั้นไม่ได้กะเพื่อมไหวเลยแม้แต่น้อย

เจเรมิพูดขึ้น

 

“ฝ่าบาท บอกฉันได้ไหมว่า เด็กสาวคนนี้เป็นใคร?”

 

“อื้มม ข้าหวังว่าเจ้าจะร้องขอเงิน แต่ดูเหมือนมันจะเป็นไปอย่างที่คาดไว้…….”

 

ผมหยิบขวดไวน์มาจากโต๊ะที่มุมห้อง รสชาติของไวน์นั้นเปรี้ยวตามกลิ่นที่คละคลุ้งอบอวลแสบจมูกในห้อง

 

“ผู้นี้ได้เฝ้ามองฝ่าบาทวางแผนในกองทัพพันธมิตรเสี้ยวจันทราและดำเนินตามแผนของท่าน ในช่วงเวลานั้นมีนานๆครั้งที่ผู้น้อยนี้รู้สึกพึงพอใจ

ฝ่าบาทนั้นกำลังคิดอะไร และกำลังมุ่งเป้าไปที่สิ่งใด สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผู้น้อยสงสัยเป็นที่สุด”

 

หลังจากแสดงความอยากรู้อยากเห็นออกมาแล้ว เจเรมินั้นยังคงเงียบจนถึงตอนนี้

 

นับตั้งแต่ที่พวกเราเข้าจู่โจมหมู่บ้านร้าง ข่มขู่ชาวบ้าน ล่อให้ลุคออกไปไกลๆ เจเรมิไม่เคยตั้งคำถามกับผมเลย เธอทำตามที่ผมสั่ง เธอกำจัดความสงสัยของตัวเองทิ้งเพราะเชื่อว่า หากถามคำถามใดออกมาจะเป็นการกีดขวางงาน

 

เจเรมิจึงเลือกที่จะถามผมหลังจากที่เธอได้รับสิทธิ์ให้ถามได้ เธอเข้าใจเป็นอย่างดีว่าอะไรเป็นอะไร และควรทำอะไรเมื่อไหร่

 

เธอช่างเป็นมืออาชีพจริงๆ การที่บอกว่า เธอนั้นเป็นส่วนหนึ่งของมือสังหารที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกปีศาจมิได้เป็นการโอ่อวดเกินจริงเลยแม้แต่น้อย

 

 

“ดีมาก ถ้าอย่างนั้น เจเรมิ สิ่งที่ข้าจะบอกเจ้าต่อไปนี้นั้นเป็นสุดยอดความลับเหนือสุดยอดความลับใด”

 

“ฉันขอสาบานว่าจะไม่แพร่งพรายความลับนี้ให้ใคร”

 

“เจ้ารู้ไหมว่า ฮีโร่คืออะไร?”

 

เจเรมิพยักหน้า เธอหยิบไปป์แล้วใส่ผงที่ใช้ระหว่างผ่าตัดลงในไปป์แล้วจุดไฟ

 

 

“ค่ะ ต้องขอประทานอภัย แต่ฉันรู้ว่า นั่นเป็นสมญานามที่มอบให้กับบุคคลที่ฆ่าจอมมาร”

 

“เด็กสาวที่อยู่ตรงนี้และพี่ชายของเธอจะกลายเป็นฮีโร่นั้น”

 

“เข้าใจแล้วค่ะ”

เจเรมิพ่นควันออกมาในอากาศ ผู้หญิงที่มีรอยแผลไฟไหม้บนใบหน้าครึ่งหนึ่งนั้น ยิ้มออกมาอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว

 

“ท่านได้รับข้อมูลนั้นมาจากที่ใด……เป็นไปได้ไหมที่ผู้น้อยจะขอรู้เรื่องนั้นด้วย?”

 

“อย่างกับเจ้าจะเชื่ออย่างนั้นแหละหากข้าบอกเจ้าว่า มันเป็นคำพยากรณ์?”

 

“แน่นอนค่ะ ตัวตนผู้ยิ่งใหญ่”

 

ผมแกล้งพูดแบบติดตลกไป แต่สิ่งที่กลับมาดันผิดคาด เจเรมิรับไปคิดเป็นเรื่องจริงจัง

ผมกลืนไวน์ลงไปอึกใหญ่

 

“มันไม่ใช่การจบชีวิตของจอมมารตนหรือสองตน แต่จอมมารจำนวนนับไม่ถ้วนจะต้องตายลง……. ข้ามาที่จักรวรรดิฟรานเคียนี่ก็เพื่อหยุดสิ่งนี้”

 

 

“แม่หนูนั่นมีมานาอยู่ภายในตัวระดับสัตว์ประหลาด”

 

ดูเหมือนเจเรมิจะเริ่มเข้าใจอะไรบางอย่างเธอจึงพยักหน้าให้ตัวเองสองครั้ง ดูเหมือนความอยากรู้อยากเห็นของเธอจะได้รับการคลี่คลายลง

ไม่สิ มันเหมือนเธอหมดความสนใจเสียมากกว่า ผมก็คงต้องเอาตัวไปยุ่งเกี่ยวเพิ่มอีกหากเธอยังถามผมต่อไป…….

 

เอาล่ะ แต่ในเมื่อเธอเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมาแล้ว ก็ไม่จำเป็นที่ผมต้องพูดถึงมันอีก

 

ผมหันกลับไป

 

ใบ้หน้าของเด็กสาวแดงก่ำ ร่างกายที่เปลือยเปล่าหมดเรี่ยวแรงที่ถูกมัดไว้กับโต๊ะไม้นั้นตอนนี้ไม่เป็นระเบียบ เธอนั้นบิดขยับตัวมากมายระหว่างการผ่าตัดจึงทำให้ผิวหนังส่วนที่ถูกมัดไว้นั้นเป็นแผล

 

‘สเตตัส’

เสียงกระดิ่งสดใสจนน่ารังเกียจดังขึ้น

หน้าต่างสเตตัสที่ให้รายละเอียดมากกว่าที่เคยเห็นมาก่อน เปิดแสดงตรงหน้าผม― และนั่นทำให้ผมช็อค

 

 

━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━

 

ชื่อ: เดซี่
เผ่า: มนุษย์   เจ้านาย: ดันทาเลี่ยน
สถานะ: เป็นกลาง Neutral(0)

เลเวล: 1    ชื่อเสียง : 1
อาชีพ: นักผจญภัย( – ), นักดาบ( – )

ความเป็นผู้นำ: 9/100  อำนาจ: 13/140   ความฉลาด: 13/125
ไหวพริบ: 9/95  เสน่ห์: 10/100  เทคนิค: 8/81

 

ค่าความชอบ: 0

 

ค่าการรับใช้: 0

 

*ฉายา: 1. นักผจญภัยในตำนาน ( – ) 2. ทหารรับจ้างในตำนาน ( – ) 3. นักทำลายดันเจี้ยน ( – )
*อบิลิตี้: แท็กติค( – ), ความชำนาญดาบ( – ), ศิลปะปฏิบัติการ( – ), การพูดโน้มน้าว( – ), ทักษะการขี่ม้า( – ), เวทย์มนตร์ธาตุ ( – )

 

*สกิล: ทหารอาสา ( – ), ชำระล้าง ( – ), สกิลถึงตายไร้ผล ( – )

 

ความคิดตอนนี้: ไม่สามารถแสดงได้ ขึ้นกับสแตทค่าความชอบและค่าการรับใช้

 

━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━

 

 

“…….”

 

สิ่งนี้ทำเอาผมถึงกับพูดไม่ออก?

ผมรับรู้ถึงเลือดที่สูบฉีดขึ้นหัว ทั่วทั้งร่างผมแข็งทื่อเหมือนดั่งก้อนหิน

 

ค่าสแตทแบบนั้นผมเคยเห็นมาก่อน 

ไม่ๆ ไม่ใช่แค่เคยเห็นมาก่อน มันเหมือนกับของผมมาก ค่าสแตทพวกนั้น,ฉายา,อบิลิตี้ และสกิล 

……ทั้งหมดเลยนั่นแหละ ทุกอย่างที่ว่ามา มันเหมือนกับของผม

……. แขนขาผมเริ่มชาเนื่องจากความตกใจ

 

 

‘เจ้านี่’

เห็นกันโต้งๆอยู่แล้วนี่

 

ผมเป็นคนแรกที่สามารถพิชิตดันเจี้ยนทั้ง 72 แห่ง ในเว็บแฟนไซ้ท์และได้ค้นพบหนทางในการปราบสุดยอดจอมมารผู้ยิ่งใหญ่อย่างบาอัล

ผมก้าวข้ามความล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า ผ่านการเล่นหลายต่อหลายรอบจนได้รับปราสาทมุนดัสจากผู้ปกครองฝ่ายมนุษย์โลก

 

‘นี่มัน ค่าสแตทตัวละครของผมนี่’

นี่มันสิ่งเดียว และเป็นอย่างเดียวเท่านั้นที่ผมภาคภูมิใจ

ทั้งค่าสแตทลิมิต,สกิล,อบิลิตี้ และฉายาที่ผมได้มาด้วยหยาดเหงื่อ และน้ำตา มาอยู่ตรงนี้แล้ว

เหมือนผมกำลังถูกอะไรบางอย่างสิงสู่เข้าจนอยากเจาะลึกลงไปในหน้าต่างสเตตัส

 

━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━

[ฉายา]

━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━

Ο

“…….”

แถมยังมีนี่อีก

 

━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━

[สกิล]

━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━

Ο

“……ฮ่า”

ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากหัวเราะออกมา

 

ทุกอย่างที่ผมเห็นนั้นเป็นสิ่งที่ผมเคยได้รับมาจากการเล่นในโหมดที่ยากที่สุด

 

ตัวอย่างก็เช่น ฉายา<นักทำลายดันเจี้ยน> และสกิล <ชำระล้าง> เอามาใช้งานด้วยกัน. ค่าอำนาจก็จะแตะที่ 100

 

ถ้าตัวละครสู้ในดันเจี้ยน ฉายา <นักทำลายดันเจี้ยน> ก็จะเพิ่มความแข็งแกร่งจนไปถึง 140 และสกิล<ชำระล้าง> ก็จะเพิ่มไปอีกจนกลายเป็น 196 ค่าอำนาจของคุณจะเพิ่มทวีคูณ

 

นี่เป็นผลจากการที่ผมคิดแล้วคิดอีกมาหลายชั่วโมงต่อฉายาและสกิลที่ผมจะได้มาเพื่อให้ได้ผลลัพธิ์ที่ดีที่สุด

 

ก่อนหน้านี้ก็รู้กันแล้วว่า มีฮีโร่สองคนไม่ใช่แค่คนเดียว…….

 

‘แถมคราวนี้ยังก็อบปี้ข้อมูลเพลเย่อของผมอีกเรอะ?’

 

ผมเย้ยหยันตัวเอง

 

“ฮ่ะ, ฮ่าฮ่าฮ่า”

ดูเหมือนไอ้เจ้าโลกใบนี้จะป่วนยิ่งกว่าที่ผมคิดไว้เสียซะแล้ว

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Dungeon Defense (WN) 177 ดอกไม้อันตราย (3)

Now you are reading Dungeon Defense (WN) Chapter 177 ดอกไม้อันตราย (3) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

 

 

* * *

 

 

ุสุดท้ายแล้วขั้นตอนการผ่าตัดดำเนินไปได้ด้วยดีอย่างไร้อุปสรรค เดซี่นั้นไม่สลบหรือร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดอีกต่อไป จะมีบ้างก็บางครั้งที่เธอจะครางออกมาเหมือนสัตว์ป่า 

 

 

“ฟู่ อ่า”

 

เธอขบกัดริมฝีปากตัวเองจนเลือดไหลออกมา เดซี่ไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ นั่นอาจเป็นเพราะความเจ็บปวดมันทิ่มแทงผ่านร่างกายของเธอ 

ความเจ็บปวดที่เธอรับรู้จากการผ่าตัดนั้นมันท่วมท้นเกินกว่าความเจ็บปวดที่ริมฝีปาก

ทั้งห้องกลับเงียบลง

 

เจเรมิเงียบสนิทราวกับว่าก่อนหน้านี้ที่เธอพูดนั่นพูดนี่ ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ขั้นตอนทั้งหมดเป็นไปอย่างสงบและเงียบงัน

 

 

ในเวลานั้นเองที่เดซี่และผมเราสบตากันและกัน

ดวงตาของเธอนั้นหยั่งลึกลงไป

 

ความขุ่นแค้นเคืองใจลอยผุดขึ้นมาจากก้นบึ้งราวกับสิ่งปฏิกูล

ผมดีใจที่เห็นสายตาของเดซี่เป็นอย่างนั้น ผมได้เป็นประจักษ์พยานต่อฉากเหตุการณ์แห่งความวุ่นวายสับสน

หยาดหยดเล็กๆของความแค้นเคืองนั้นไม่เพียงพอที่จะทำให้อะไรๆมันท่วมทะลักได้หรอก พวกเรายังคงมองจ้องกันอยู่อย่างนั้นจนการผ่าตัดสิ้นสุดลง

 

“……เสร็จเรียบร้อยแล้ว ฝ่าบาท”

 

เจเรมิถอนใจยาวออกมา เธอเห็นอกจะเดซี่กระเพื่อมขึ้นลงพร้อมกับผ้าขนหนูที่ฆ่าเชื้อด้วยน้ำส้มสายชูแล้ว

 

“ตอนนี้เด็กคนนี้เป็นทาสของฝ่าบาท ท่านสามารถสั่งอะไรก็ได้ตามใจค่ะ”

 

“อย่าทำร้ายข้า อย่าทำร้ายผู้ใกล้ชิดข้า 

หากข้าหรือผู้คนที่ข้าห่วงใยตกอยู่ในอันตราย จงอย่าเมินเฉยข้าหรือพวกเขา”

 

ผมยังคงจ้องมองแล้วพูดต่อ

 

 

 

“เจ้าจะรับคำสั่งจากข้า และให้ความสำคัญกับชีวิตข้าเหนือชีวิตเจ้า นี่เป็นคำสั่งแรกที่ข้าจะมอบให้กับเจ้า นับตั้งแต่นี้ เจ้าต้องปฏิบัติตามคำสั่งนี้อย่างสมบูรณ์”

 

“……ค่ะ”

 

หัวของเดซี่ตกลงก่อนที่เธอจะได้ทันพูดจบ เธอสลบไปทั้งที่ดวงตายังเบิกกว้างอยู่

 

「คุณได้รับผู้ใต้บังคับบัญชา เดซี่ ในฐานะทาสของคุณ!」

「หน้าต่างค่าสเตตัสทาสจะแสดงให้เห็นโดยไม่คำนึงถึงค่าความชอบ 

‘ระดับค่าการรับใช้’ เพิ่มเข้ามาในหน้าต่างสเตตัสทาส」

「การรับใช้ที่เลวร้าย!」

「ความสัมพันธ์นายบ่าวถูกสร้างขึ้นด้วยตราเวทย์อันทรงพลัง แต่ถึงอย่างนั้นอีกฝ่ายก็รู้สึกขอบคุณคุณเล็กน้อย เนื่องจากเป็นการรับใช้ที่เลวร้าย ดังนั้นฉายาใหม่จะมอบให้กับอีกฝ่าย」

 

หน้าต่างโฮโลแกรมแจ้งเตือนเด้งขึ้นมาพร้อมกับซาวด์เอฟเฟ็ค

 

 

“หืมม”

 

นี่มันน่าสนใจมากเลยล่ะ ตอนที่ผมรับลอร่ามาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ค่าความจงรักภักดีของเธอนั้นแตะพุ่งสูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ 

ในขณะที่ของเดซี่นั้นเป็นสิ่งที่เรียกว่า การรับใช้ที่เลวร้าย ปรากฏขึ้นแทน 

ดูเหมือนมันจะเป็นสิ่งที่สุดขั้วทั้งสองข้างจะเกิดกับผม

 

 

แต่ก็ไม่สำคัญนักหรอก มันโอเคดีตราบใดที่เธอไม่คิดต่อต้านผม ผมจะค่อยๆจัดการกับปัญหาอื่นไปตามกาลเวลา กาเรดินทางก่อสงครามกลางเมืองในฟรานเคียของผมน่ะพึ่งเริ่มขึ้น ผมน่ะไหลไปตามกระแสเวลา

 

หน้าต่างการแจ้งเตือนไม่ได้จบลงตรงนั้น

 

 

「ขอแสดงความยินดีด้วย! ท่านได้รับทาสคนแรก หน้าต่าง ‘การศึกษา’ จะเปิดใช้งานกับทาส」

「 ตราต่อต้านของเดซี่ เพิ่มเป็น (Lv. 3)  !」

「 ตราความเจ็บปวดของเดซี่ เพิ่มเป็น (Lv. 3)!」

「 ตราอันน่าอับอายของเดซี่ เพิ่มเป็น (Lv. 1)!」

 

 

……ทั้งหมดนั่นเป็นหน้าต่างที่ไม่คุ้นเคย

 

ไม่เคยมีระบบทาสใน < Dungeon Attack> ที่เปลี่ยนNPC ให้กลายเป็นทาส

หน้าต่างการศึกษานั่นอะไรน่ะ? ผมเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก

 

นี่ก็นับเป็นครั้งที่สองแล้วที่มีฟังชั่นใหม่ๆที่ไม่เคยมีอยู่ในเกม อย่างแรกก็เควสเบรคเกอร์

นั่นคงเป็นความต่างระหว่างฮีโร่กับจอมมาร ผมคงต้องใช้เวลาครุ่นคิดเรื่องนี้อีกทีภายหลัง

 

ตอนนี้ผมต้องสรรเสริญบุคคลที่เสียสละตนในการทำการผ่าตัด

 

“เจ้าทำได้ดีมาก เจเรมิ”

 

ผมแตะบ่าเจเรมิ

 

“ข้าทำให้เจ้าต้องทำงานเพิ่ม”

 

“ด้วยความยินดี พวกเราถูกว่าจ้างมาเพื่อทำตามคำสั่งของฝ่าบาท”

 

“ไม่เลย ข้ายังปรารถนาที่จะให้รางวัลเจ้า”

 

การผ่าตัดนั้นสร้างความเหนื่อยล้าอย่างมากให้กับผู้ลงมือผ่า

ยิ่งไปกว่านั้น การสลัดตราไว้ที่หัวใจนั้นต้องการทักษะความชำนาญอย่างยิ่งยวด มันไม่ใช่อะไรที่จะมาทำแบบครึ่งๆกลางๆกันได้

ถึงจะเป็นความจริงที่ว่า เจเรมินั้นเคยทำการผ่าตัดแบบนี้มาหลายต่อหลายครั้งก็ตาม

 

 

“เจ้าน่ะเป็นผู้ตระเตรียมโพชั่นมากมาย แมนเดรค รวมถึงธูปหอมกำยาน มันย่อมเป็นการทำลายภาพลักษณ์ของข้า หากข้าจะมาเอาเปรียบด้วยการให้คนมีความสามารถทำงานให้ข้าฟรีๆ

ข้าจะมอบรางวัลให้เจ้าตามที่ข้าจะมอบให้ได้”

 

เจเรมิเอามือแตะคางแล้วคิด

 

“หากฝ่าบาทประสงค์เช่นนั้น……จะเป็นอะไรไหมหาก ผู้น้อยนี้มีคำขอที่เห็นแก่ตัว?”

 

“เอาเลย ข้าขอสาบานต่อนามของเทพีอาร์เทมิส”

 

ผมกุมมือของเธอราวกับเป็นนักบวชแล้วโค้งหัวให้

 

 

“ฟุ ฝะ-ฝ่าบาท ท่าทางของนักบวชนี่เหมาะกับท่าจริงๆ”

 

“หากข้าไม่ได้เป็นจอมมาร ข้าอาจจะเป็นนักบวชชั้นสูงไปแล้วก็ได้”

 

เจเรมิหัวเราะออกมาด้วยความสดชื่น

 

ผู้ชายและผู้หญิง หัวเราะกันอยู่ในห้องที่ชุ่มโชกไปด้วยเลือดของเด็กสาวอายุ 10 ปี มันจะเป็นอะไรได้อีกเล่าหากไม่ใช่ความวิปลาส แต่หากสังเกตดูให้ดีจะพบว่า อารมณ์ขณะหัวเราะนั้นไม่ได้กะเพื่อมไหวเลยแม้แต่น้อย

เจเรมิพูดขึ้น

 

“ฝ่าบาท บอกฉันได้ไหมว่า เด็กสาวคนนี้เป็นใคร?”

 

“อื้มม ข้าหวังว่าเจ้าจะร้องขอเงิน แต่ดูเหมือนมันจะเป็นไปอย่างที่คาดไว้…….”

 

ผมหยิบขวดไวน์มาจากโต๊ะที่มุมห้อง รสชาติของไวน์นั้นเปรี้ยวตามกลิ่นที่คละคลุ้งอบอวลแสบจมูกในห้อง

 

“ผู้นี้ได้เฝ้ามองฝ่าบาทวางแผนในกองทัพพันธมิตรเสี้ยวจันทราและดำเนินตามแผนของท่าน ในช่วงเวลานั้นมีนานๆครั้งที่ผู้น้อยนี้รู้สึกพึงพอใจ

ฝ่าบาทนั้นกำลังคิดอะไร และกำลังมุ่งเป้าไปที่สิ่งใด สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผู้น้อยสงสัยเป็นที่สุด”

 

หลังจากแสดงความอยากรู้อยากเห็นออกมาแล้ว เจเรมินั้นยังคงเงียบจนถึงตอนนี้

 

นับตั้งแต่ที่พวกเราเข้าจู่โจมหมู่บ้านร้าง ข่มขู่ชาวบ้าน ล่อให้ลุคออกไปไกลๆ เจเรมิไม่เคยตั้งคำถามกับผมเลย เธอทำตามที่ผมสั่ง เธอกำจัดความสงสัยของตัวเองทิ้งเพราะเชื่อว่า หากถามคำถามใดออกมาจะเป็นการกีดขวางงาน

 

เจเรมิจึงเลือกที่จะถามผมหลังจากที่เธอได้รับสิทธิ์ให้ถามได้ เธอเข้าใจเป็นอย่างดีว่าอะไรเป็นอะไร และควรทำอะไรเมื่อไหร่

 

เธอช่างเป็นมืออาชีพจริงๆ การที่บอกว่า เธอนั้นเป็นส่วนหนึ่งของมือสังหารที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกปีศาจมิได้เป็นการโอ่อวดเกินจริงเลยแม้แต่น้อย

 

 

“ดีมาก ถ้าอย่างนั้น เจเรมิ สิ่งที่ข้าจะบอกเจ้าต่อไปนี้นั้นเป็นสุดยอดความลับเหนือสุดยอดความลับใด”

 

“ฉันขอสาบานว่าจะไม่แพร่งพรายความลับนี้ให้ใคร”

 

“เจ้ารู้ไหมว่า ฮีโร่คืออะไร?”

 

เจเรมิพยักหน้า เธอหยิบไปป์แล้วใส่ผงที่ใช้ระหว่างผ่าตัดลงในไปป์แล้วจุดไฟ

 

 

“ค่ะ ต้องขอประทานอภัย แต่ฉันรู้ว่า นั่นเป็นสมญานามที่มอบให้กับบุคคลที่ฆ่าจอมมาร”

 

“เด็กสาวที่อยู่ตรงนี้และพี่ชายของเธอจะกลายเป็นฮีโร่นั้น”

 

“เข้าใจแล้วค่ะ”

เจเรมิพ่นควันออกมาในอากาศ ผู้หญิงที่มีรอยแผลไฟไหม้บนใบหน้าครึ่งหนึ่งนั้น ยิ้มออกมาอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว

 

“ท่านได้รับข้อมูลนั้นมาจากที่ใด……เป็นไปได้ไหมที่ผู้น้อยจะขอรู้เรื่องนั้นด้วย?”

 

“อย่างกับเจ้าจะเชื่ออย่างนั้นแหละหากข้าบอกเจ้าว่า มันเป็นคำพยากรณ์?”

 

“แน่นอนค่ะ ตัวตนผู้ยิ่งใหญ่”

 

ผมแกล้งพูดแบบติดตลกไป แต่สิ่งที่กลับมาดันผิดคาด เจเรมิรับไปคิดเป็นเรื่องจริงจัง

ผมกลืนไวน์ลงไปอึกใหญ่

 

“มันไม่ใช่การจบชีวิตของจอมมารตนหรือสองตน แต่จอมมารจำนวนนับไม่ถ้วนจะต้องตายลง……. ข้ามาที่จักรวรรดิฟรานเคียนี่ก็เพื่อหยุดสิ่งนี้”

 

 

“แม่หนูนั่นมีมานาอยู่ภายในตัวระดับสัตว์ประหลาด”

 

ดูเหมือนเจเรมิจะเริ่มเข้าใจอะไรบางอย่างเธอจึงพยักหน้าให้ตัวเองสองครั้ง ดูเหมือนความอยากรู้อยากเห็นของเธอจะได้รับการคลี่คลายลง

ไม่สิ มันเหมือนเธอหมดความสนใจเสียมากกว่า ผมก็คงต้องเอาตัวไปยุ่งเกี่ยวเพิ่มอีกหากเธอยังถามผมต่อไป…….

 

เอาล่ะ แต่ในเมื่อเธอเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมาแล้ว ก็ไม่จำเป็นที่ผมต้องพูดถึงมันอีก

 

ผมหันกลับไป

 

ใบ้หน้าของเด็กสาวแดงก่ำ ร่างกายที่เปลือยเปล่าหมดเรี่ยวแรงที่ถูกมัดไว้กับโต๊ะไม้นั้นตอนนี้ไม่เป็นระเบียบ เธอนั้นบิดขยับตัวมากมายระหว่างการผ่าตัดจึงทำให้ผิวหนังส่วนที่ถูกมัดไว้นั้นเป็นแผล

 

‘สเตตัส’

เสียงกระดิ่งสดใสจนน่ารังเกียจดังขึ้น

หน้าต่างสเตตัสที่ให้รายละเอียดมากกว่าที่เคยเห็นมาก่อน เปิดแสดงตรงหน้าผม― และนั่นทำให้ผมช็อค

 

 

━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━

 

ชื่อ: เดซี่
เผ่า: มนุษย์   เจ้านาย: ดันทาเลี่ยน
สถานะ: เป็นกลาง Neutral(0)

เลเวล: 1    ชื่อเสียง : 1
อาชีพ: นักผจญภัย( – ), นักดาบ( – )

ความเป็นผู้นำ: 9/100  อำนาจ: 13/140   ความฉลาด: 13/125
ไหวพริบ: 9/95  เสน่ห์: 10/100  เทคนิค: 8/81

 

ค่าความชอบ: 0

 

ค่าการรับใช้: 0

 

*ฉายา: 1. นักผจญภัยในตำนาน ( – ) 2. ทหารรับจ้างในตำนาน ( – ) 3. นักทำลายดันเจี้ยน ( – )
*อบิลิตี้: แท็กติค( – ), ความชำนาญดาบ( – ), ศิลปะปฏิบัติการ( – ), การพูดโน้มน้าว( – ), ทักษะการขี่ม้า( – ), เวทย์มนตร์ธาตุ ( – )

 

*สกิล: ทหารอาสา ( – ), ชำระล้าง ( – ), สกิลถึงตายไร้ผล ( – )

 

ความคิดตอนนี้: ไม่สามารถแสดงได้ ขึ้นกับสแตทค่าความชอบและค่าการรับใช้

 

━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━

 

 

“…….”

 

สิ่งนี้ทำเอาผมถึงกับพูดไม่ออก?

ผมรับรู้ถึงเลือดที่สูบฉีดขึ้นหัว ทั่วทั้งร่างผมแข็งทื่อเหมือนดั่งก้อนหิน

 

ค่าสแตทแบบนั้นผมเคยเห็นมาก่อน 

ไม่ๆ ไม่ใช่แค่เคยเห็นมาก่อน มันเหมือนกับของผมมาก ค่าสแตทพวกนั้น,ฉายา,อบิลิตี้ และสกิล 

……ทั้งหมดเลยนั่นแหละ ทุกอย่างที่ว่ามา มันเหมือนกับของผม

……. แขนขาผมเริ่มชาเนื่องจากความตกใจ

 

 

‘เจ้านี่’

เห็นกันโต้งๆอยู่แล้วนี่

 

ผมเป็นคนแรกที่สามารถพิชิตดันเจี้ยนทั้ง 72 แห่ง ในเว็บแฟนไซ้ท์และได้ค้นพบหนทางในการปราบสุดยอดจอมมารผู้ยิ่งใหญ่อย่างบาอัล

ผมก้าวข้ามความล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า ผ่านการเล่นหลายต่อหลายรอบจนได้รับปราสาทมุนดัสจากผู้ปกครองฝ่ายมนุษย์โลก

 

‘นี่มัน ค่าสแตทตัวละครของผมนี่’

นี่มันสิ่งเดียว และเป็นอย่างเดียวเท่านั้นที่ผมภาคภูมิใจ

ทั้งค่าสแตทลิมิต,สกิล,อบิลิตี้ และฉายาที่ผมได้มาด้วยหยาดเหงื่อ และน้ำตา มาอยู่ตรงนี้แล้ว

เหมือนผมกำลังถูกอะไรบางอย่างสิงสู่เข้าจนอยากเจาะลึกลงไปในหน้าต่างสเตตัส

 

━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━

[ฉายา]

━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━

Ο

“…….”

แถมยังมีนี่อีก

 

━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━

[สกิล]

━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━

Ο

“……ฮ่า”

ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากหัวเราะออกมา

 

ทุกอย่างที่ผมเห็นนั้นเป็นสิ่งที่ผมเคยได้รับมาจากการเล่นในโหมดที่ยากที่สุด

 

ตัวอย่างก็เช่น ฉายา<นักทำลายดันเจี้ยน> และสกิล <ชำระล้าง> เอามาใช้งานด้วยกัน. ค่าอำนาจก็จะแตะที่ 100

 

ถ้าตัวละครสู้ในดันเจี้ยน ฉายา <นักทำลายดันเจี้ยน> ก็จะเพิ่มความแข็งแกร่งจนไปถึง 140 และสกิล<ชำระล้าง> ก็จะเพิ่มไปอีกจนกลายเป็น 196 ค่าอำนาจของคุณจะเพิ่มทวีคูณ

 

นี่เป็นผลจากการที่ผมคิดแล้วคิดอีกมาหลายชั่วโมงต่อฉายาและสกิลที่ผมจะได้มาเพื่อให้ได้ผลลัพธิ์ที่ดีที่สุด

 

ก่อนหน้านี้ก็รู้กันแล้วว่า มีฮีโร่สองคนไม่ใช่แค่คนเดียว…….

 

‘แถมคราวนี้ยังก็อบปี้ข้อมูลเพลเย่อของผมอีกเรอะ?’

 

ผมเย้ยหยันตัวเอง

 

“ฮ่ะ, ฮ่าฮ่าฮ่า”

ดูเหมือนไอ้เจ้าโลกใบนี้จะป่วนยิ่งกว่าที่ผมคิดไว้เสียซะแล้ว

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+