Dungeon Defense (WN) 193 การป้องกันของเจ้าหญิง(Princess Defense) (4)

Now you are reading Dungeon Defense (WN) Chapter 193 การป้องกันของเจ้าหญิง(Princess Defense) (4) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

 

* * *

 

 

รุ่งอรุณของผู้ช่วยนั้นยุ่งนัก

 

ผมต้องลืมตาตื่นขึ้นมาตั้งแต่ราวตี 5 อย่างเร่งรีบ ใช้เวลาราว 15นาทีเพื่อสวมชุดเครื่องแบบให้เรียบร้อย จากนั้นก็เดินออกจากห้องขณะที่ในปากก็เคี้ยวขนมปังของเมื่อคืน

 

“โอ้ คุณโลลิต้า”

 

“อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณโลลิต้า”

เหล่าสาวใช้ต่างมาทักทายผม มันเป็นห้องส่วนตัวที่หรูหราทางทิศตะวันตกของวัง โดยเป็นห้องที่สามารถพักอาศัยได้ถึง 6 คน

 

“แต่งตัวสบายๆเกินไปสำหรับการเข้ามาในห้องของสาวๆหรือเปล่าคะเนี่ย!?”

 

“ต้องขอประทานอภัยด้วยครับ การได้เห็นภาพที่งดงามนั้นช่วยกระตุ้นให้ผมได้ตื่นเต็มตา”

 

“ฮะๆๆ แหม”

 

เหล่าสาวใช้ต่างหัวเราะคิกคัก แม้แต่ท่าทางการหัวเราะยังมีระดับ ทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างเป็นลูกสาวคนที่สามหรือสี่ของตระกูลชนชั้นสูง

 

ข้าวของในห้องนี้ดูหราแม้กระทั่งเตาฟืน และสิ่งที่ผมสนใจจริงๆก็คือ เตาฟืนนี่แหละ

 

ผมใช้ที่คีบถ่านหยิบก้อนหินหลายต่อหลายก่อนที่อยู่ในเตาฟืนตั้งแต่เมื่อคืน ใส่ไว้ในกล่องไม้ กล่องไม้สองกล่องนั้นเต็มไปด้วยหิน ผมยกกล่องขึ้นด้วยแขนทั้งสองข้าง

 

“ถ้าอย่างนั้น เลดี้ทั้งหลายครับ ผมขอตัวลาก่อนนะ”

 

“เดี๋ยวก่อนค่ะ ขอฉันไปกับคุณได้ไหมคะ?”

 

มีสาวใช้ผู้น่ารักขอตามผมมาก่อนผมจะออกไปจากห้อง

 

แหม ก็อย่างนี้แหละน้า ช่วงนี้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ผมได้ยินสาวใช้คนอื่นต่างพูดจากข้างหลังผมว่า

 

“แหมๆ ช่างใจกล้าซะจริงน้า,เอเลียน!’ , “โอ้พระเจ้าช่วย!”

 

“ไม่ใช่แบบนั้นซะหน่อย!”

 

สาวใช้คนนั้นหันกลับไปตะโกนบอกกับคนอื่นๆ ใบหน้าของเธอแดงก่ำ

เธอหันมามองที่ผมราวกับจะขออนุญาต ก็ช่วยไม่ได้นะ 

…….ถึงผมจะรำคาญอยู่ในใจแต่ก็ยิ้มสดใสออกมา

 

“แน่นอนครับ คุณเอเลียน ผมอาจจะพาคุณมาส่งไม่ได้ แต่ถ้าอยากมาด้วยก็ตามสบายเลยครับ”

 

“……ขอบคุณนะคะ”

 

พวกเราเดินเคียงข้างกันในห้องโถงทางเดินในวัง ผมได้ยินเสียงหยอกล้อมาจากสาวใช้คนอื่นจากด้านหลัง บางคนผิวปากด้วยซ้ำ

คืนนี้ข่าวลือเรื่อง เอเลียนกับผมคงแพร่กระจายไปทั่วทั้งวังแน่

 

“คุณน่ะเป็นคนใจดีมากเลยนะคะ คุณโลลิต้า ยากที่จะเชื่อว่า คุณน่ะเป็นสามัญชน”

 

“นั่นเป็นมุมมองที่เหมารวมน่ะครับ คุณเอเลียน บนโลกนี้ยังคงเต็มไปด้วยสามัญชนที่สุภาพยิ่งกว่าผมอีก”

 

“อย่างนั้นหรือคะ? ยากที่จะเชื่อจริงๆค่ะ”

เอเลียนหัวเราะคิกออกมาอย่างน่ารัก

 

หรือนี่จะเรียกว่า เดทกันนะ? พระราชวังฮับบวร์กนั้นกว้างใหญ่ไพศาลมากและมีพื้นที่ส่วนตัวลับตาอยู่มากมาย มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกด้วยซ้ำที่จะมีข้ารับใช้ที่แอบชอบกัน มาใช้ ‘เวลาอันแสนเพลิดเพลิน’ กันในสถานที่เหล่านั้น

คู่รักแอบมามีเซ็กส์กันในวังที่หรูหราที่สุดในโลก…….มันเป็นความฟุ้งเฟ้อหรูหราเหนือคนธรรมดาทั่วไปอย่างมาก

 

“โชคดีจังที่เช้านี้อุ่น หลังจากนี้จะเริ่มร้อนขึ้นหน่อยแล้ว”

 

เอเลียนพูดพลางขยับสาบคอเสื้อของชุด เห็นได้ชัดเลยว่า เธอพยายามจะแสดงเสน่ห์ผู้หญิง ผมแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น

 

 

“อย่างนั้นน่ะเองหรือครับ? นั่นสิครับ ชุดสาวใช้นั้นหนักเกินกว่าที่ผู้ชายจะสวมจริงๆแหละ 

แค่นึกถึงชุดที่สาวๆจะต้องสวมในช่วงฤดูร้อนก็ลำบากแทบตายแล้วจริงๆ 

ผมประทับใจทุกครั้งที่เห็นเหล่าสาวใช้ออกมาทำงานข้างนอกนะครับ”

 

“……ไม่จริงหรอกค่ะ อย่างน้อยพวกเราก็ทำงานเบากว่า”

 

เอเลียนดูจะผิดหวังอยู่น้อยๆ 

อย่าทำหน้าแบบนั้นเลยครับ คุณกำลังทำให้ผมรู้สึกว่า ไอ้ที่ผมทำไปเนี่ยมันผิด

 

ถึงอย่างนั้นก็เถอะ สาวใช้คนนี้ออกจะเป็นคนที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตน มีสาวบางคนที่โผล่มาตรงหน้าผมและโพล่งออกมาว่า อยากนอนกับผม

 

เฮ่อออ ทั้งเรื่องมกุฏราชกุมารรูดอร์ฟ,องค์หญิงอลิซาเบธ และเหล่าขุนนางชนชั้นสูงทั้งหลาย มีอะไรต่อมิอะไรมากมายที่ผมต้องเป็นห่วงเป็นกังวล แค่คิดถึงความเครียดก็เริ่มก่อตัวขึ้นมาแล้ว

 

คือไม่ใช่ว่า ผมน่ะไม่ชอบเซ็กส์หรอกนะ แต่ผมบอกได้เลยว่ามันเป็นเพราะเจตนาของพวกเธอน่ะมันโจ่งแจ้งมาก

 

ผมเป็นสามัญชนคนธรรมดาที่ได้รับเกียรติจากองค์พระจักรพรรดิพระราชทานนามสกุล ทั้งอยู่ๆก็กลายมาเป็นผู้ช่วยส่วนพระองค์ข้างกายเจ้าหญิงโจฮันนา

 

 

แถมผมยังเป็นตัวเอกในนิทานละครที่ขับร้องโดยนักกวี นักดนตรีพเนจรในเมืองหลวง มันคงไม่มีเกมไหนหรือของหวานใดจะน่าอร่อยไปมากกว่าผมแล้วล่ะ

“ฉันได้หลับนอนกับเค้ามาแล้วล่ะ!” 

แค่คำพูดนี้ประโยคเดียวก็เพียงพอจะทำให้กลายเป็นคนเด่นคนดังในวังแห่งนี้แล้ว

 

พูดง่ายๆก็คือ ผมน่ะอยู่ในสภาวะเศรษฐกิจแบบฟองสบู่ ฟองสบู่ที่ให้ค่าให้ราคาผมสูงเกินจริง

มันเป็นเรื่องที่ดูไร้สาระ แต่ก็เป็นความจริงที่ว่า ถ้อยคำน้ำลายคนนั้น อันตรายอยู่ในตัว แล้วผมจะยอมเสี่ยงชีวิตเพียงเพื่อความพึงพอใจทางร่างกายแค่ชั่วขณะไปทำไม?

 

ผมชอบผู้หญิงที่ไม่สนใจเรื่อง ความนิยมหรือข่าวลือมากกว่า

 

“ใครจะไปสนข่าวลือนั่นกันล่ะ? ช่างแม่งสิ! อย่างแรกข้าชอบเจ้า อย่างที่สองตอนนี้ถอดกางเกงนั่นได้แล้ว!” 

 

เด็กสาวที่สามารถพูดแบบนั้นได้อย่างเปิดเผยและมั่นใจที่จะเดินบนเส้นทางนั้น ผมว่ามีเสน่ห์มากเลยนะ 

ผมยอมรับแหละว่าตัวเองมีรสนิยมประหลาด แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ

 

(TTL : อีที่พูดมานั่น บาร์บาทอสชัดๆ!!!)

 

“พอมานึกๆดูแล้ว ฉันได้ยินว่า เจ้าหญิงโจฮันนาชอบของหวานมากเลยนี่คะ”

 

“ถูกแล้วครับ เจ้าหญิงน่ะสั่งให้ผมไปหาของขบเคี้ยวของหวานมาให้เธออยู่เสมอ เป็นปัญหาเหลือเกินจริงๆ…….”

 

ผมถอนใจออกมา

 

เอาจริงๆเลยนะ เจ้าหญิงโจฮันน่านี่แทบจะกลายเป็นน้องสาวของผมโดยสมบูรณ์ไปแล้ว

 

ฉันจะกินขนมมมม! 

ฉันอยากกินไอศกรีมมมมม!

เธอเอาแต่ร้องเรียกหาของหวานโดยไม่สนเวลา ไม่สนสถานที่

 

 

ถ้าผมบอกเธอว่า ไม่ควรที่จะกินของหวานอยู่ตลอดเวลานะ เธอก็จะขลุกๆไปลงไปกองกับพื้น …เธอทำอย่างนั้นจริงๆผมไม่ได้อุปมาอุปมัยนะ

 

เจ้าหญิงก็จะลงไปนอนกลิ้งกับพื้นแล้วตะโกนออกมาดังลั่น

“จาอาวขนม! ขะหนม! ขะหนม! ขะหนม!” 

 

โอย หัวจะปวดว่ะ! 

ทั้งรสนิยมการกินและพฤติกรรมของแม่นั่นนี่ไม่ว่าจะดูมุมไหนแม่งก็เด็กนรกชัดๆ

 

 

(TTL : เปลี่ยนจากเป็นจอมมารสุดกาก มาเป็นพี่เลี้ยงเจ้าหญิงเด็กเปรตแทน 555)

 

 

ตามปรกติแล้วเนี่ย การเอาขนมของว่างมาจากในครัวมันก็แค่เรื่องง่ายๆแหละ แต่ฐานะของผมเนี่ยมันไม่สะดวกสักเท่าไหร่ ผมเนี่ยเป็นดั่งชายคนที่อยู่ๆก็พุ่งพรวดไต่เต้าขึ้นมาอยู่ตำแหน่งสูง ผมจึงต้องขอร้องพวกข้ารับใช้ในครัวทุกวันเพื่อเอาขนมมาให้

 

พอผมลากเท้าจนเหนื่อยอ่อนมายังห้องของเจ้าหญิงแล้วส่งขนมให้แล้ว……เจ้าหญิงโจฮันนาก็จะยิ้มร่าสดใสราวกับดอกไม้บาน

 

 

“ขอบใจเจ้ามากจ้า โลลิต้า!”

 

แล้วก็เข้ามากอดผม

 

 

เจ้าหญิงจอมแก่นคนเนียะกอดทุกคนนั่นแหละ ไม่สนด้วยว่าจะเป็นผู้เฒ่าผู้แก่หรือแม้แต่สามัญชน ถ้าเธออยากทำอะไรเธอก็ทำนั่นแหละ

แม่เจ้าหญิงนี่น่าทึ่งไปเลยไม่ใช่เหรอ? มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะทำแบบนั้นได้นะ

 

ใครที่ตกอยู่ในระยะของรอยยิ้มเธอก็จะโดนเปรี้ยงเข้าให้ที่กลางใจแล้วต้องล้มลงตายตรงนั้น  

เซบาสเตียนกับผมได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่นแล้วให้อภัย ยามเมื่อเห็นเธอมีความสุข

 

สุดท้ายแล้วความดื้อรั้นของเจ้าหญิงก็มีชัยเหนือพวกเราอีกครั้ง

 

“อาจจะไม่เป็นการเคารพให้เกียรติเท่าใดนักที่จะพูดแบบนี้ แต่องค์หญิงน่ะน่ารักจริงๆนะ”

 

 

“สุดๆเลยล่ะ ยากที่จะต้านทานองค์หญิงจริงๆ”

 

ใช่แล้วล่ะ เธอมีเสน่ห์แปลกๆในแบบของเธอ เจ้านายผมคนนี้น่ะ นั่นแหละเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมถึงยากที่จะปล่อยเธอไว้แบบนั้น…….

 

 

“ฉันรู้จักร้านขนมดีๆในเมืองนะคะ อยากให้แนะนำให้รู้จักไหมคะ?”

 

“ในเมืองหรือครับ?”

 

“ฉันได้ยินว่า คนครัวน่ะสร้างความลำบากใจให้คุณอยู่”

 

อ้อ ผมเข้าใจแล้ว คราวนี้เธอพยายามจะแสดงน้ำใจกับผมสีนะ? 

นั่นสินะ เธอไม่ใช่สาวน้อยที่จะเลิกล้มยอมแพ้เพียงเพราะล้มเหลวในการพุ่งชนครั้งแรก

เอเลียนพูดด้วยสีหน้าแช่มชื่น

 

“หากข้ารับใช้คนพิเศษอย่างคุณโลลิต้าต้องไปเที่ยวขอร้องคนครัว แล้ว……มันจะมีผลต่อชื่อเสียงของผู้เป็นนายด้วยถูกไหมคะ?”

 

เธอนั้นแสดงน้ำใจและยังยกเรื่องหน้าที่ของข้ารับใช้ขึ้นมาด้วย ผมจึงไม่มีเหตุผลที่ต้องปฏิเสธเธอ ดูเหมือนเธอตั้งใจจะสร้างบุญคุณกับผมจริงๆนะ

 

ผมยิ้มอย่างมีเลศนัยก่อนจะตอบกลับไป

 

“ขอบคุณมากนะครับ จนถึงตอนนี้ผมแทบไม่เคยได้เข้าไปในตัวเมืองมาก่อน 

ผมนี่ยังขาดคุณสมบัติไปอีกเยอะเลยแฮะ จากนี้คงต้องขอคำแนะนำจากคุณเอเลียนด้วยนะครับ”

 

 

“อย่าถือเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโตเลยค่ะ พวกเราอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องทำงานยุ่งยากเหมือนกัน”

 

ไม่นานนักพวกเราก็มาถึงห้องของเจ้าหญิงโจฮันนา เอเลียนขอตัวลาและเดินจากเมื่อพวกเรามาถึงหน้าประตูแล้ว เสียงฝีเท้าของเธอนั้นเริงร่าดั่งผู้ได้ชัยชนะ

 

“ฟู่ววว”

 

ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วล่ะ ราชวังแห่งอาณาจักรฮับบวร์กนั้นเป็นสถานที่ของปีศาจทั้งหลาย 

ไม่ใช่แค่มกุฏราชกุมารรูดอล์ฟและเจ้าหญิงอลิซาเบธเท่านั้น แต่ยังมีอีกคนหนึ่งที่รับมือได้ยากมากเหลือเกิน……พูดจริงๆนะ

 

ผมเคาะประตูห้อง

 

“องค์หญิงครับ ดีเฟนเซอร์เองนะครับ ยังหลับอยู่ไหมครับ?”

 

ไม่มีเสียงตอบ ไม่มีเสียงตอบกลับมาไม่ว่าผมจะเรียกหาเธอไปสักกี่ครั้ง มันเป็นอะไรที่ผมเริ่มชินแล้วล่ะ

 

เคาะประตูเกือบยี่สิบครั้ง ผมถึงได้ยินเสียงเล็กเสียงน้อยมาจากหลังประตู เหมือนเธอบอกกับผมว่า ให้เข้ามาได้

 

 

“ขอประทานอภัยด้วยนะครับ”

ผมเปิดประตูออก

 

พรมสีแดงที่หนาทอดตัวยาวไปในห้องที่ทำมาจากหินอ่อนทั้งหมด แสงอรุณที่สาดส่องเข้ามาจากผ่านช่องหน้าต่างราคาแพงระยับ ห้องนี้คนละเรื่องกับห้องส่วนตัวอันน่าสังเวชของผม เอาล่ะ ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกอยู่แล้วนี่นะ

 

“อืมมม……โลลิต้า……?”

เจ้าของห้องนี้ องค์หญิงโจฮันนา ใบหน้าของเธอยังคงซุกจมอยู่ที่เตียง น้ำเสียงของเธอกลับงึมงัมๆแปลกๆ

 

ผ้าห่มของเธอโดนเขี่ยออกไปที่มุมเตียงก็ไหลตกลงพื้น ทำให้ผมได้รับเกียรติที่จะเห็นชุดนอนของเธอ ทั้งโคนขาและท้องเปิดเผยอล่างฉ่าง แต่ผมชินซะแล้วล่ะ

 

“ใช่ครับ ดีเฟนเซอร์เองครับ เจ้าหญิง หลับสบายดีไหมครับ?”

 

“อั่กกก……แดด……บังแดดให้ที…….”

 

“ตามบัญชาครับ”

 

ผมวางกล่องไม้ลงแล้วเดินไปที่หน้าต่าง แล้วแหวกเปิดม่านออกเต็มที่ นี่ยังเป็นรุ่งเช้า แสงแดดจึงสาดจ้าผ่านมาทางหน้าต่าง

 

 

 

 

อย่างที่คิดไว้จริงๆวังแห่งนี้สร้างขึ้น ณ สถานที่ที่แสงอาทิตย์ส่องได้ชัดเจน และตำแหน่งห้องของเจ้าหญิงนั้นก็เป็นจุดที่ดีที่สุดในการรับแสงแดด

 

“อั่กกก อ๊ากกกกก……!”

เจ้าหญิงโจฮันนาร้องออกมาอย่างกับซอมบี้ แต่ผมไม่สนใจเธอ

 

ผมเดินไปที่ห้องน้ำ ณ ใจกลางห้อง อ่างน้ำสีขาวสะอาดที่ทั้งแพงและสุดจะหรูหราเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่งในห้องนอน

 

หากมีสารพิษใดอยู่ในอ่างน้ำ จะถูกตรวจจับและชำระล้างในทันที ก็ต้องขอบคุณกลไกที่ว่านี้แหละนะ ที่ทำให้ไม่จำเป็นต้องเติมน้ำลงไปทุกเช้าเลย

 

 

– จ๋อม, จุ่ม, จ๋อม

 

ผมหย่อนหินทั้งหลายที่ผมแช่ในเตาฟืนข้ามคืนไว้ ไอน้ำพวยพุ่งขึ้นมา ตารางงานของผมเริ่มแบบนี้ทุกเช้า ด้วยการอุ่นอ่างน้ำให้กับเจ้าหญิงโจฮันน่า

 

“ดวงอาทิตย์ ดวงอาทิตย์……กำลังจะฆ่าข้า โลลิต้า!

กำจัดดวงอาทิตย์ให้ข้าที……!”

 

“มันเป็นคำสั่งที่เป็นปัญหามากครับ ถึงจะเป็นผมก็เถอะ แต่ผมไม่อาจเอาชนะ อพอลโลเทพพระอาทิตย์ได้ 

ว่าแต่องค์หญิงครับ ทำไมเมื่อคืนท่านนอนดึกกันล่ะ?”

 

“ข้าอ่านมหากาพย์ที่เป็นกระแสอยู่ในฟรานเคียช่วงนี้น่ะ…….”

 

โอเค สรุปคือ เธออ่านนิยายข้ามคืนโดยไม่ยอมหลับไม่ยอมนอนนั่นเอง

 

ผมแอบหัวเราะแล้วก็จุ่มมือลงในน้ำเพื่อเช็คอุณหภูมิ 

อืม ได้ที่แล้ว

 

 

นี่ถ้าในห้องของเจ้าหญิงมีเตาฟืนผมก็จะลดงานตัวเองลงได้

ถึงที่ผ่านมาเจ้าหญิงจะถูกครอบครัวหมางเมินมาจนโดยตลอด แต่อย่างน้อยห้องนอนของเธอก็มีคุณภาพเยี่ยม 

นี่เป็นห้องที่มีอาติแฟคที่คอยควบคุมอุณภูมิโดยอัตโนมัติ

 

 

นี่ถ้ามีข้ารับใช้คนอื่นเข้ามาในห้องนี้คงเป็นลมสลบไปเลย ถ้ารู้ว่า การที่จะสร้างห้องแบบนี้มันต้องเสียเงินเสียทองไปมากขนาดไหนกัน…….

 

“องค์หญิงครับ เตรียมให้เรียบร้อยแล้วนะครับ ได้เวลาอาบน้ำยามเช้าแล้ว”

 

“ทำไมมนุษย์ต้องอาบน้ำทุกวันด้วยอะ……? 

แม้แต่สัตว์ป่าตามทุ่งหญ้ายังนานๆครั้งอาบน้ำสักทีเลย มนุษย์อะผิดไปมากเลย……. 

โลกนี้ไม่ยุติธรรม…….”

 

“นั่นเพราะมนุษย์ดิ้นรนที่จะแยกตัวออกจากล่ำสัตว์ยังไงล่ะครับ ตอนนี้มาอาบน้ำเถอะครับ องค์หญิง”

สุดท้ายแล้วผมก็ต้องลากเธอขึ้นมาอาบน้ำ

 

เจ้าหญิงโจฮันนาเดินโซซัดโซเซมาที่อ่างอาบน้ำ ชุดนอนวันพีชของเธอนั่นเลื่อนหลุดลงมาทุกครั้งที่เธอเดิน เรือนร่างที่ผอมเพรียวและขาวเผยออกมา จากนั้นเธอก็ค่อยๆหย่อนปลายหัวแม่เท้าลงในอ่างอาบน้ำก่อนจะจุ่มลงไปทั้งตัว

 

“ฮ่าาาาห์”

 

เจ้าหญิงโจฮันนาร้องออกมาด้วยความผ่อนคลายหลังจากทั้งร่างของเธอจมอยู่ใต้น้ำ เธอวักน้ำใส่หน้าตัวเอง ผมรู้สึกเหมือนกับกำลังดูเจ้าลูกแมวน้อยตัวหนึ่งอยู่

 

โจฮันนาพูดออกมาด้วยสีหน้าที่ผ่อนคลาย

 

“ข้าอาจมีชีวิตอยู่เพื่อชั่วขณะนี้ก็ได้นะ”

 

“อย่างที่คิดไว้จริงๆขอรับ ท่านพยายามจะหาความหมายของชีวิตตั้งแต่อายุ 14ปี ”

 

ผมนั่งข้างๆอ่างน้ำ คว้าแขนขวาขององค์หญิงไว้แล้วบรรจงลูบนวดด้วยน้ำมันหอมระเหยกลิ่นดอกไม้ไปบนเรือนร่างของนาง ผิวของนางนั้นเงาและลื่นขึ้นทันทีที่ผมถูน้ำมัน

 

“หืม? นี่เจ้ากำลังชมข้าอยู่รึ?”

 

“แน่นอนครับ องค์หญิง องค์หญิงโจอันนา ฟอน ฮับบวร์กนั้นเป็นบุคคลที่งดงามและฉลาดหลักแหลมที่สุดในโลกนี้ 

แล้วผมจะไปกล่าวชมผู้อื่นผู้ใดที่มิใช่ท่านผู้นี้ได้อย่างไรกัน?”

 

 

“ถูกแล้วล่ะ หึ? ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าล่ะประหลาดใจเสียจริง”

 

“เอาล่ะครับ องค์หญิง คราวนี้แขนซ้ายบ้างนะครับ”

เจ้าหญิงโจฮันนายื่นแขนซ้ายมาให้ผมอย่างว่าง่าย น่ารักชะมัก

 

ก็เห็นกันอยู่ชัดๆ 

ผมก็แค่คิดว่าเธอน่ารักก็แค่นั้นเอง ผมจะไปมีความคิดแปลกๆตอนที่เห็นเนื้อหนังมังสาของเด็กสาวอายุ 14 ได้ยังไงกัน?

 

ผมนะเป็นมนุษย์ปกติโดยสมบูรณ์เลยนะ หากผมมีความสนใจไปในทางแบบนั้น องค์คงไม่จ้างให้ผมเป็นข้ารับใช้แต่แรกแล้ว

 

“งานล่าสัตว์ป่าตามราชประเพณีจะจัดขึ้นในอีก 4 วันข้างหน้านะครับ องค์หญิงครับ ที่ผ่านมานี่ท่านได้เตรียมงานเตรียมการได้เป็นอย่างยอดเยี่ยม”

 

“ใช่มะ! ข้าทำงานหนักมากๆเลยรู้มะ เฮ่อ 

ถ้าคราวหน้าท่านพ่อจะเอางานแบบนี้มาให้ข้าอีก ข้าจะปฏิเสธไปเลย”

 

เจ้าหญิงน่ะตัวสั่นอยู่ในอ่างน้ำ ดูเหมือนเธอจะขบกรามอยู่ 

อันที่จริงแล้วความจริงโจฮันนาน่ะทำแค่วางแผนอย่างเดียว เซบาสเตียนต่างหากที่ลงมือเตรียมการและประสานงานตัวจริง

 

 

 

“กระผมจะไม่ขอรับงานแบบนั้นอีกเป็นครั้งที่สอง!”

เซบาสเตียนกรีดร้องขึ้นมาแบบนั้นเมื่อคืน

 

 

 

ผมของเซบาสเตียนร่วงไปเป็นกำๆในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

ถึงผมจะคอยช่วยเหนืออยู่ข้างๆ แต่ผมก็เป็นแค่มือใหม่เมื่ออยู่หน้างานจริง จึงช่วยได้ไม่มากเท่าไหร่นัก 

โถ เซบาสเตียนผู้น่าสงสาร…….จนตอนนี้ดูเหมือนเขาเป็นห่วงกังวลเรื่องผมตัวเองแทนแล้ว

 

 

“ท่านก็แค่อดทนอีก 4 วันเองครับ แค่ 4 วันเอง”

 

“อั่ก 4 วัน ……. อีกแค่ 4 วัน…….”

 

ผมสระผมของเธอแล้วประทินด้วยน้ำมันหอมระเหยตามในทันที

 

 

และเมื่อเจ้าหญิงโจฮันนาเดินออกมาจากอ่างน้ำ ผมก็ซับเช็ดร่างกายที่เปียกปอนของเธอด้วยผ้าขนหนูคุณภาพดี 

พอเช็ดตัวเสร็จก็ให้เป็นหน้าที่ของสาวใช้ที่เชี่ยวชาญชำนาญในการแต่งหน้าทำผม 

 

ผมห่อตัวเจ้าหญิงที่ตัวแห้งและนุ่มนิ่มไว้ด้วยผ้า

 

“แต่ถึงอย่างไร องค์หญิงก็ทำได้อยู่แล้วนี่ครับ ถูกไหม?”

 

“อืมฮึ”

เจ้าหญิงโจฮันนาสะบัดผ้าขนหนูสีขาวราวกับเป็นผ้าคลุมไหล่ แล้วผงกหัว

 

“ข้าน่ะยอดเยี่ยมอยู่แล้ว อ้อ แล้ว……โลลิต้า เจ้าต้องอยู่กับข้าต่อไปในอนาคตด้วยนะ”

 

“แน่นอนครับ นายเหนือหัวของข้า”

 

ผมวางมือประทับไว้ที่อกและโค้งหัวให้ แสงแดงที่ส่องประกายผ่านเข้ามาทางช่องหน้าต่าง 

ผมสีเงินสลวยขององค์หญิงโจฮันน่าเปล่งประกาย

 

 

 

 

 

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Dungeon Defense (WN) 193 การป้องกันของเจ้าหญิง(Princess Defense) (4)

Now you are reading Dungeon Defense (WN) Chapter 193 การป้องกันของเจ้าหญิง(Princess Defense) (4) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

 

* * *

 

 

รุ่งอรุณของผู้ช่วยนั้นยุ่งนัก

 

ผมต้องลืมตาตื่นขึ้นมาตั้งแต่ราวตี 5 อย่างเร่งรีบ ใช้เวลาราว 15นาทีเพื่อสวมชุดเครื่องแบบให้เรียบร้อย จากนั้นก็เดินออกจากห้องขณะที่ในปากก็เคี้ยวขนมปังของเมื่อคืน

 

“โอ้ คุณโลลิต้า”

 

“อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณโลลิต้า”

เหล่าสาวใช้ต่างมาทักทายผม มันเป็นห้องส่วนตัวที่หรูหราทางทิศตะวันตกของวัง โดยเป็นห้องที่สามารถพักอาศัยได้ถึง 6 คน

 

“แต่งตัวสบายๆเกินไปสำหรับการเข้ามาในห้องของสาวๆหรือเปล่าคะเนี่ย!?”

 

“ต้องขอประทานอภัยด้วยครับ การได้เห็นภาพที่งดงามนั้นช่วยกระตุ้นให้ผมได้ตื่นเต็มตา”

 

“ฮะๆๆ แหม”

 

เหล่าสาวใช้ต่างหัวเราะคิกคัก แม้แต่ท่าทางการหัวเราะยังมีระดับ ทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างเป็นลูกสาวคนที่สามหรือสี่ของตระกูลชนชั้นสูง

 

ข้าวของในห้องนี้ดูหราแม้กระทั่งเตาฟืน และสิ่งที่ผมสนใจจริงๆก็คือ เตาฟืนนี่แหละ

 

ผมใช้ที่คีบถ่านหยิบก้อนหินหลายต่อหลายก่อนที่อยู่ในเตาฟืนตั้งแต่เมื่อคืน ใส่ไว้ในกล่องไม้ กล่องไม้สองกล่องนั้นเต็มไปด้วยหิน ผมยกกล่องขึ้นด้วยแขนทั้งสองข้าง

 

“ถ้าอย่างนั้น เลดี้ทั้งหลายครับ ผมขอตัวลาก่อนนะ”

 

“เดี๋ยวก่อนค่ะ ขอฉันไปกับคุณได้ไหมคะ?”

 

มีสาวใช้ผู้น่ารักขอตามผมมาก่อนผมจะออกไปจากห้อง

 

แหม ก็อย่างนี้แหละน้า ช่วงนี้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ผมได้ยินสาวใช้คนอื่นต่างพูดจากข้างหลังผมว่า

 

“แหมๆ ช่างใจกล้าซะจริงน้า,เอเลียน!’ , “โอ้พระเจ้าช่วย!”

 

“ไม่ใช่แบบนั้นซะหน่อย!”

 

สาวใช้คนนั้นหันกลับไปตะโกนบอกกับคนอื่นๆ ใบหน้าของเธอแดงก่ำ

เธอหันมามองที่ผมราวกับจะขออนุญาต ก็ช่วยไม่ได้นะ 

…….ถึงผมจะรำคาญอยู่ในใจแต่ก็ยิ้มสดใสออกมา

 

“แน่นอนครับ คุณเอเลียน ผมอาจจะพาคุณมาส่งไม่ได้ แต่ถ้าอยากมาด้วยก็ตามสบายเลยครับ”

 

“……ขอบคุณนะคะ”

 

พวกเราเดินเคียงข้างกันในห้องโถงทางเดินในวัง ผมได้ยินเสียงหยอกล้อมาจากสาวใช้คนอื่นจากด้านหลัง บางคนผิวปากด้วยซ้ำ

คืนนี้ข่าวลือเรื่อง เอเลียนกับผมคงแพร่กระจายไปทั่วทั้งวังแน่

 

“คุณน่ะเป็นคนใจดีมากเลยนะคะ คุณโลลิต้า ยากที่จะเชื่อว่า คุณน่ะเป็นสามัญชน”

 

“นั่นเป็นมุมมองที่เหมารวมน่ะครับ คุณเอเลียน บนโลกนี้ยังคงเต็มไปด้วยสามัญชนที่สุภาพยิ่งกว่าผมอีก”

 

“อย่างนั้นหรือคะ? ยากที่จะเชื่อจริงๆค่ะ”

เอเลียนหัวเราะคิกออกมาอย่างน่ารัก

 

หรือนี่จะเรียกว่า เดทกันนะ? พระราชวังฮับบวร์กนั้นกว้างใหญ่ไพศาลมากและมีพื้นที่ส่วนตัวลับตาอยู่มากมาย มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกด้วยซ้ำที่จะมีข้ารับใช้ที่แอบชอบกัน มาใช้ ‘เวลาอันแสนเพลิดเพลิน’ กันในสถานที่เหล่านั้น

คู่รักแอบมามีเซ็กส์กันในวังที่หรูหราที่สุดในโลก…….มันเป็นความฟุ้งเฟ้อหรูหราเหนือคนธรรมดาทั่วไปอย่างมาก

 

“โชคดีจังที่เช้านี้อุ่น หลังจากนี้จะเริ่มร้อนขึ้นหน่อยแล้ว”

 

เอเลียนพูดพลางขยับสาบคอเสื้อของชุด เห็นได้ชัดเลยว่า เธอพยายามจะแสดงเสน่ห์ผู้หญิง ผมแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น

 

 

“อย่างนั้นน่ะเองหรือครับ? นั่นสิครับ ชุดสาวใช้นั้นหนักเกินกว่าที่ผู้ชายจะสวมจริงๆแหละ 

แค่นึกถึงชุดที่สาวๆจะต้องสวมในช่วงฤดูร้อนก็ลำบากแทบตายแล้วจริงๆ 

ผมประทับใจทุกครั้งที่เห็นเหล่าสาวใช้ออกมาทำงานข้างนอกนะครับ”

 

“……ไม่จริงหรอกค่ะ อย่างน้อยพวกเราก็ทำงานเบากว่า”

 

เอเลียนดูจะผิดหวังอยู่น้อยๆ 

อย่าทำหน้าแบบนั้นเลยครับ คุณกำลังทำให้ผมรู้สึกว่า ไอ้ที่ผมทำไปเนี่ยมันผิด

 

ถึงอย่างนั้นก็เถอะ สาวใช้คนนี้ออกจะเป็นคนที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตน มีสาวบางคนที่โผล่มาตรงหน้าผมและโพล่งออกมาว่า อยากนอนกับผม

 

เฮ่อออ ทั้งเรื่องมกุฏราชกุมารรูดอร์ฟ,องค์หญิงอลิซาเบธ และเหล่าขุนนางชนชั้นสูงทั้งหลาย มีอะไรต่อมิอะไรมากมายที่ผมต้องเป็นห่วงเป็นกังวล แค่คิดถึงความเครียดก็เริ่มก่อตัวขึ้นมาแล้ว

 

คือไม่ใช่ว่า ผมน่ะไม่ชอบเซ็กส์หรอกนะ แต่ผมบอกได้เลยว่ามันเป็นเพราะเจตนาของพวกเธอน่ะมันโจ่งแจ้งมาก

 

ผมเป็นสามัญชนคนธรรมดาที่ได้รับเกียรติจากองค์พระจักรพรรดิพระราชทานนามสกุล ทั้งอยู่ๆก็กลายมาเป็นผู้ช่วยส่วนพระองค์ข้างกายเจ้าหญิงโจฮันนา

 

 

แถมผมยังเป็นตัวเอกในนิทานละครที่ขับร้องโดยนักกวี นักดนตรีพเนจรในเมืองหลวง มันคงไม่มีเกมไหนหรือของหวานใดจะน่าอร่อยไปมากกว่าผมแล้วล่ะ

“ฉันได้หลับนอนกับเค้ามาแล้วล่ะ!” 

แค่คำพูดนี้ประโยคเดียวก็เพียงพอจะทำให้กลายเป็นคนเด่นคนดังในวังแห่งนี้แล้ว

 

พูดง่ายๆก็คือ ผมน่ะอยู่ในสภาวะเศรษฐกิจแบบฟองสบู่ ฟองสบู่ที่ให้ค่าให้ราคาผมสูงเกินจริง

มันเป็นเรื่องที่ดูไร้สาระ แต่ก็เป็นความจริงที่ว่า ถ้อยคำน้ำลายคนนั้น อันตรายอยู่ในตัว แล้วผมจะยอมเสี่ยงชีวิตเพียงเพื่อความพึงพอใจทางร่างกายแค่ชั่วขณะไปทำไม?

 

ผมชอบผู้หญิงที่ไม่สนใจเรื่อง ความนิยมหรือข่าวลือมากกว่า

 

“ใครจะไปสนข่าวลือนั่นกันล่ะ? ช่างแม่งสิ! อย่างแรกข้าชอบเจ้า อย่างที่สองตอนนี้ถอดกางเกงนั่นได้แล้ว!” 

 

เด็กสาวที่สามารถพูดแบบนั้นได้อย่างเปิดเผยและมั่นใจที่จะเดินบนเส้นทางนั้น ผมว่ามีเสน่ห์มากเลยนะ 

ผมยอมรับแหละว่าตัวเองมีรสนิยมประหลาด แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ

 

(TTL : อีที่พูดมานั่น บาร์บาทอสชัดๆ!!!)

 

“พอมานึกๆดูแล้ว ฉันได้ยินว่า เจ้าหญิงโจฮันนาชอบของหวานมากเลยนี่คะ”

 

“ถูกแล้วครับ เจ้าหญิงน่ะสั่งให้ผมไปหาของขบเคี้ยวของหวานมาให้เธออยู่เสมอ เป็นปัญหาเหลือเกินจริงๆ…….”

 

ผมถอนใจออกมา

 

เอาจริงๆเลยนะ เจ้าหญิงโจฮันน่านี่แทบจะกลายเป็นน้องสาวของผมโดยสมบูรณ์ไปแล้ว

 

ฉันจะกินขนมมมม! 

ฉันอยากกินไอศกรีมมมมม!

เธอเอาแต่ร้องเรียกหาของหวานโดยไม่สนเวลา ไม่สนสถานที่

 

 

ถ้าผมบอกเธอว่า ไม่ควรที่จะกินของหวานอยู่ตลอดเวลานะ เธอก็จะขลุกๆไปลงไปกองกับพื้น …เธอทำอย่างนั้นจริงๆผมไม่ได้อุปมาอุปมัยนะ

 

เจ้าหญิงก็จะลงไปนอนกลิ้งกับพื้นแล้วตะโกนออกมาดังลั่น

“จาอาวขนม! ขะหนม! ขะหนม! ขะหนม!” 

 

โอย หัวจะปวดว่ะ! 

ทั้งรสนิยมการกินและพฤติกรรมของแม่นั่นนี่ไม่ว่าจะดูมุมไหนแม่งก็เด็กนรกชัดๆ

 

 

(TTL : เปลี่ยนจากเป็นจอมมารสุดกาก มาเป็นพี่เลี้ยงเจ้าหญิงเด็กเปรตแทน 555)

 

 

ตามปรกติแล้วเนี่ย การเอาขนมของว่างมาจากในครัวมันก็แค่เรื่องง่ายๆแหละ แต่ฐานะของผมเนี่ยมันไม่สะดวกสักเท่าไหร่ ผมเนี่ยเป็นดั่งชายคนที่อยู่ๆก็พุ่งพรวดไต่เต้าขึ้นมาอยู่ตำแหน่งสูง ผมจึงต้องขอร้องพวกข้ารับใช้ในครัวทุกวันเพื่อเอาขนมมาให้

 

พอผมลากเท้าจนเหนื่อยอ่อนมายังห้องของเจ้าหญิงแล้วส่งขนมให้แล้ว……เจ้าหญิงโจฮันนาก็จะยิ้มร่าสดใสราวกับดอกไม้บาน

 

 

“ขอบใจเจ้ามากจ้า โลลิต้า!”

 

แล้วก็เข้ามากอดผม

 

 

เจ้าหญิงจอมแก่นคนเนียะกอดทุกคนนั่นแหละ ไม่สนด้วยว่าจะเป็นผู้เฒ่าผู้แก่หรือแม้แต่สามัญชน ถ้าเธออยากทำอะไรเธอก็ทำนั่นแหละ

แม่เจ้าหญิงนี่น่าทึ่งไปเลยไม่ใช่เหรอ? มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะทำแบบนั้นได้นะ

 

ใครที่ตกอยู่ในระยะของรอยยิ้มเธอก็จะโดนเปรี้ยงเข้าให้ที่กลางใจแล้วต้องล้มลงตายตรงนั้น  

เซบาสเตียนกับผมได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่นแล้วให้อภัย ยามเมื่อเห็นเธอมีความสุข

 

สุดท้ายแล้วความดื้อรั้นของเจ้าหญิงก็มีชัยเหนือพวกเราอีกครั้ง

 

“อาจจะไม่เป็นการเคารพให้เกียรติเท่าใดนักที่จะพูดแบบนี้ แต่องค์หญิงน่ะน่ารักจริงๆนะ”

 

 

“สุดๆเลยล่ะ ยากที่จะต้านทานองค์หญิงจริงๆ”

 

ใช่แล้วล่ะ เธอมีเสน่ห์แปลกๆในแบบของเธอ เจ้านายผมคนนี้น่ะ นั่นแหละเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมถึงยากที่จะปล่อยเธอไว้แบบนั้น…….

 

 

“ฉันรู้จักร้านขนมดีๆในเมืองนะคะ อยากให้แนะนำให้รู้จักไหมคะ?”

 

“ในเมืองหรือครับ?”

 

“ฉันได้ยินว่า คนครัวน่ะสร้างความลำบากใจให้คุณอยู่”

 

อ้อ ผมเข้าใจแล้ว คราวนี้เธอพยายามจะแสดงน้ำใจกับผมสีนะ? 

นั่นสินะ เธอไม่ใช่สาวน้อยที่จะเลิกล้มยอมแพ้เพียงเพราะล้มเหลวในการพุ่งชนครั้งแรก

เอเลียนพูดด้วยสีหน้าแช่มชื่น

 

“หากข้ารับใช้คนพิเศษอย่างคุณโลลิต้าต้องไปเที่ยวขอร้องคนครัว แล้ว……มันจะมีผลต่อชื่อเสียงของผู้เป็นนายด้วยถูกไหมคะ?”

 

เธอนั้นแสดงน้ำใจและยังยกเรื่องหน้าที่ของข้ารับใช้ขึ้นมาด้วย ผมจึงไม่มีเหตุผลที่ต้องปฏิเสธเธอ ดูเหมือนเธอตั้งใจจะสร้างบุญคุณกับผมจริงๆนะ

 

ผมยิ้มอย่างมีเลศนัยก่อนจะตอบกลับไป

 

“ขอบคุณมากนะครับ จนถึงตอนนี้ผมแทบไม่เคยได้เข้าไปในตัวเมืองมาก่อน 

ผมนี่ยังขาดคุณสมบัติไปอีกเยอะเลยแฮะ จากนี้คงต้องขอคำแนะนำจากคุณเอเลียนด้วยนะครับ”

 

 

“อย่าถือเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโตเลยค่ะ พวกเราอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องทำงานยุ่งยากเหมือนกัน”

 

ไม่นานนักพวกเราก็มาถึงห้องของเจ้าหญิงโจฮันนา เอเลียนขอตัวลาและเดินจากเมื่อพวกเรามาถึงหน้าประตูแล้ว เสียงฝีเท้าของเธอนั้นเริงร่าดั่งผู้ได้ชัยชนะ

 

“ฟู่ววว”

 

ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วล่ะ ราชวังแห่งอาณาจักรฮับบวร์กนั้นเป็นสถานที่ของปีศาจทั้งหลาย 

ไม่ใช่แค่มกุฏราชกุมารรูดอล์ฟและเจ้าหญิงอลิซาเบธเท่านั้น แต่ยังมีอีกคนหนึ่งที่รับมือได้ยากมากเหลือเกิน……พูดจริงๆนะ

 

ผมเคาะประตูห้อง

 

“องค์หญิงครับ ดีเฟนเซอร์เองนะครับ ยังหลับอยู่ไหมครับ?”

 

ไม่มีเสียงตอบ ไม่มีเสียงตอบกลับมาไม่ว่าผมจะเรียกหาเธอไปสักกี่ครั้ง มันเป็นอะไรที่ผมเริ่มชินแล้วล่ะ

 

เคาะประตูเกือบยี่สิบครั้ง ผมถึงได้ยินเสียงเล็กเสียงน้อยมาจากหลังประตู เหมือนเธอบอกกับผมว่า ให้เข้ามาได้

 

 

“ขอประทานอภัยด้วยนะครับ”

ผมเปิดประตูออก

 

พรมสีแดงที่หนาทอดตัวยาวไปในห้องที่ทำมาจากหินอ่อนทั้งหมด แสงอรุณที่สาดส่องเข้ามาจากผ่านช่องหน้าต่างราคาแพงระยับ ห้องนี้คนละเรื่องกับห้องส่วนตัวอันน่าสังเวชของผม เอาล่ะ ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกอยู่แล้วนี่นะ

 

“อืมมม……โลลิต้า……?”

เจ้าของห้องนี้ องค์หญิงโจฮันนา ใบหน้าของเธอยังคงซุกจมอยู่ที่เตียง น้ำเสียงของเธอกลับงึมงัมๆแปลกๆ

 

ผ้าห่มของเธอโดนเขี่ยออกไปที่มุมเตียงก็ไหลตกลงพื้น ทำให้ผมได้รับเกียรติที่จะเห็นชุดนอนของเธอ ทั้งโคนขาและท้องเปิดเผยอล่างฉ่าง แต่ผมชินซะแล้วล่ะ

 

“ใช่ครับ ดีเฟนเซอร์เองครับ เจ้าหญิง หลับสบายดีไหมครับ?”

 

“อั่กกก……แดด……บังแดดให้ที…….”

 

“ตามบัญชาครับ”

 

ผมวางกล่องไม้ลงแล้วเดินไปที่หน้าต่าง แล้วแหวกเปิดม่านออกเต็มที่ นี่ยังเป็นรุ่งเช้า แสงแดดจึงสาดจ้าผ่านมาทางหน้าต่าง

 

 

 

 

อย่างที่คิดไว้จริงๆวังแห่งนี้สร้างขึ้น ณ สถานที่ที่แสงอาทิตย์ส่องได้ชัดเจน และตำแหน่งห้องของเจ้าหญิงนั้นก็เป็นจุดที่ดีที่สุดในการรับแสงแดด

 

“อั่กกก อ๊ากกกกก……!”

เจ้าหญิงโจฮันนาร้องออกมาอย่างกับซอมบี้ แต่ผมไม่สนใจเธอ

 

ผมเดินไปที่ห้องน้ำ ณ ใจกลางห้อง อ่างน้ำสีขาวสะอาดที่ทั้งแพงและสุดจะหรูหราเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่งในห้องนอน

 

หากมีสารพิษใดอยู่ในอ่างน้ำ จะถูกตรวจจับและชำระล้างในทันที ก็ต้องขอบคุณกลไกที่ว่านี้แหละนะ ที่ทำให้ไม่จำเป็นต้องเติมน้ำลงไปทุกเช้าเลย

 

 

– จ๋อม, จุ่ม, จ๋อม

 

ผมหย่อนหินทั้งหลายที่ผมแช่ในเตาฟืนข้ามคืนไว้ ไอน้ำพวยพุ่งขึ้นมา ตารางงานของผมเริ่มแบบนี้ทุกเช้า ด้วยการอุ่นอ่างน้ำให้กับเจ้าหญิงโจฮันน่า

 

“ดวงอาทิตย์ ดวงอาทิตย์……กำลังจะฆ่าข้า โลลิต้า!

กำจัดดวงอาทิตย์ให้ข้าที……!”

 

“มันเป็นคำสั่งที่เป็นปัญหามากครับ ถึงจะเป็นผมก็เถอะ แต่ผมไม่อาจเอาชนะ อพอลโลเทพพระอาทิตย์ได้ 

ว่าแต่องค์หญิงครับ ทำไมเมื่อคืนท่านนอนดึกกันล่ะ?”

 

“ข้าอ่านมหากาพย์ที่เป็นกระแสอยู่ในฟรานเคียช่วงนี้น่ะ…….”

 

โอเค สรุปคือ เธออ่านนิยายข้ามคืนโดยไม่ยอมหลับไม่ยอมนอนนั่นเอง

 

ผมแอบหัวเราะแล้วก็จุ่มมือลงในน้ำเพื่อเช็คอุณหภูมิ 

อืม ได้ที่แล้ว

 

 

นี่ถ้าในห้องของเจ้าหญิงมีเตาฟืนผมก็จะลดงานตัวเองลงได้

ถึงที่ผ่านมาเจ้าหญิงจะถูกครอบครัวหมางเมินมาจนโดยตลอด แต่อย่างน้อยห้องนอนของเธอก็มีคุณภาพเยี่ยม 

นี่เป็นห้องที่มีอาติแฟคที่คอยควบคุมอุณภูมิโดยอัตโนมัติ

 

 

นี่ถ้ามีข้ารับใช้คนอื่นเข้ามาในห้องนี้คงเป็นลมสลบไปเลย ถ้ารู้ว่า การที่จะสร้างห้องแบบนี้มันต้องเสียเงินเสียทองไปมากขนาดไหนกัน…….

 

“องค์หญิงครับ เตรียมให้เรียบร้อยแล้วนะครับ ได้เวลาอาบน้ำยามเช้าแล้ว”

 

“ทำไมมนุษย์ต้องอาบน้ำทุกวันด้วยอะ……? 

แม้แต่สัตว์ป่าตามทุ่งหญ้ายังนานๆครั้งอาบน้ำสักทีเลย มนุษย์อะผิดไปมากเลย……. 

โลกนี้ไม่ยุติธรรม…….”

 

“นั่นเพราะมนุษย์ดิ้นรนที่จะแยกตัวออกจากล่ำสัตว์ยังไงล่ะครับ ตอนนี้มาอาบน้ำเถอะครับ องค์หญิง”

สุดท้ายแล้วผมก็ต้องลากเธอขึ้นมาอาบน้ำ

 

เจ้าหญิงโจฮันนาเดินโซซัดโซเซมาที่อ่างอาบน้ำ ชุดนอนวันพีชของเธอนั่นเลื่อนหลุดลงมาทุกครั้งที่เธอเดิน เรือนร่างที่ผอมเพรียวและขาวเผยออกมา จากนั้นเธอก็ค่อยๆหย่อนปลายหัวแม่เท้าลงในอ่างอาบน้ำก่อนจะจุ่มลงไปทั้งตัว

 

“ฮ่าาาาห์”

 

เจ้าหญิงโจฮันนาร้องออกมาด้วยความผ่อนคลายหลังจากทั้งร่างของเธอจมอยู่ใต้น้ำ เธอวักน้ำใส่หน้าตัวเอง ผมรู้สึกเหมือนกับกำลังดูเจ้าลูกแมวน้อยตัวหนึ่งอยู่

 

โจฮันนาพูดออกมาด้วยสีหน้าที่ผ่อนคลาย

 

“ข้าอาจมีชีวิตอยู่เพื่อชั่วขณะนี้ก็ได้นะ”

 

“อย่างที่คิดไว้จริงๆขอรับ ท่านพยายามจะหาความหมายของชีวิตตั้งแต่อายุ 14ปี ”

 

ผมนั่งข้างๆอ่างน้ำ คว้าแขนขวาขององค์หญิงไว้แล้วบรรจงลูบนวดด้วยน้ำมันหอมระเหยกลิ่นดอกไม้ไปบนเรือนร่างของนาง ผิวของนางนั้นเงาและลื่นขึ้นทันทีที่ผมถูน้ำมัน

 

“หืม? นี่เจ้ากำลังชมข้าอยู่รึ?”

 

“แน่นอนครับ องค์หญิง องค์หญิงโจอันนา ฟอน ฮับบวร์กนั้นเป็นบุคคลที่งดงามและฉลาดหลักแหลมที่สุดในโลกนี้ 

แล้วผมจะไปกล่าวชมผู้อื่นผู้ใดที่มิใช่ท่านผู้นี้ได้อย่างไรกัน?”

 

 

“ถูกแล้วล่ะ หึ? ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าล่ะประหลาดใจเสียจริง”

 

“เอาล่ะครับ องค์หญิง คราวนี้แขนซ้ายบ้างนะครับ”

เจ้าหญิงโจฮันนายื่นแขนซ้ายมาให้ผมอย่างว่าง่าย น่ารักชะมัก

 

ก็เห็นกันอยู่ชัดๆ 

ผมก็แค่คิดว่าเธอน่ารักก็แค่นั้นเอง ผมจะไปมีความคิดแปลกๆตอนที่เห็นเนื้อหนังมังสาของเด็กสาวอายุ 14 ได้ยังไงกัน?

 

ผมนะเป็นมนุษย์ปกติโดยสมบูรณ์เลยนะ หากผมมีความสนใจไปในทางแบบนั้น องค์คงไม่จ้างให้ผมเป็นข้ารับใช้แต่แรกแล้ว

 

“งานล่าสัตว์ป่าตามราชประเพณีจะจัดขึ้นในอีก 4 วันข้างหน้านะครับ องค์หญิงครับ ที่ผ่านมานี่ท่านได้เตรียมงานเตรียมการได้เป็นอย่างยอดเยี่ยม”

 

“ใช่มะ! ข้าทำงานหนักมากๆเลยรู้มะ เฮ่อ 

ถ้าคราวหน้าท่านพ่อจะเอางานแบบนี้มาให้ข้าอีก ข้าจะปฏิเสธไปเลย”

 

เจ้าหญิงน่ะตัวสั่นอยู่ในอ่างน้ำ ดูเหมือนเธอจะขบกรามอยู่ 

อันที่จริงแล้วความจริงโจฮันนาน่ะทำแค่วางแผนอย่างเดียว เซบาสเตียนต่างหากที่ลงมือเตรียมการและประสานงานตัวจริง

 

 

 

“กระผมจะไม่ขอรับงานแบบนั้นอีกเป็นครั้งที่สอง!”

เซบาสเตียนกรีดร้องขึ้นมาแบบนั้นเมื่อคืน

 

 

 

ผมของเซบาสเตียนร่วงไปเป็นกำๆในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

ถึงผมจะคอยช่วยเหนืออยู่ข้างๆ แต่ผมก็เป็นแค่มือใหม่เมื่ออยู่หน้างานจริง จึงช่วยได้ไม่มากเท่าไหร่นัก 

โถ เซบาสเตียนผู้น่าสงสาร…….จนตอนนี้ดูเหมือนเขาเป็นห่วงกังวลเรื่องผมตัวเองแทนแล้ว

 

 

“ท่านก็แค่อดทนอีก 4 วันเองครับ แค่ 4 วันเอง”

 

“อั่ก 4 วัน ……. อีกแค่ 4 วัน…….”

 

ผมสระผมของเธอแล้วประทินด้วยน้ำมันหอมระเหยตามในทันที

 

 

และเมื่อเจ้าหญิงโจฮันนาเดินออกมาจากอ่างน้ำ ผมก็ซับเช็ดร่างกายที่เปียกปอนของเธอด้วยผ้าขนหนูคุณภาพดี 

พอเช็ดตัวเสร็จก็ให้เป็นหน้าที่ของสาวใช้ที่เชี่ยวชาญชำนาญในการแต่งหน้าทำผม 

 

ผมห่อตัวเจ้าหญิงที่ตัวแห้งและนุ่มนิ่มไว้ด้วยผ้า

 

“แต่ถึงอย่างไร องค์หญิงก็ทำได้อยู่แล้วนี่ครับ ถูกไหม?”

 

“อืมฮึ”

เจ้าหญิงโจฮันนาสะบัดผ้าขนหนูสีขาวราวกับเป็นผ้าคลุมไหล่ แล้วผงกหัว

 

“ข้าน่ะยอดเยี่ยมอยู่แล้ว อ้อ แล้ว……โลลิต้า เจ้าต้องอยู่กับข้าต่อไปในอนาคตด้วยนะ”

 

“แน่นอนครับ นายเหนือหัวของข้า”

 

ผมวางมือประทับไว้ที่อกและโค้งหัวให้ แสงแดงที่ส่องประกายผ่านเข้ามาทางช่องหน้าต่าง 

ผมสีเงินสลวยขององค์หญิงโจฮันน่าเปล่งประกาย

 

 

 

 

 

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+