ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ 161 ตัวแทนท่านพ่อ

Now you are reading ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ Chapter 161 ตัวแทนท่านพ่อ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

มุมปากมู่เฉียนซีกระตุกเล็กน้อย ผู้ที่พรวดพราดเข้ามามิใช่ใครที่ไหน  ซวนหยวนจือผู้เป็นฮ่องเต้แห่งแคว้นจื่อเยี่ยนั่นเอง

สีหน้าท่าทางของเขาในเวลานี้ฉายความโกรธชัดเจน ดวงตาประกายกล้าแทบลุกเป็นไฟ คำที่ฮองเฮากล่าวเมื่อครู่นี้ เกรงว่าเขาจะได้ยินทั้งหมดแล้ว

ซวนหยวนจือกล่าว อัดอั้นความขื่นขมเต็มสิบส่วน “ผ่านมาหลายสิบปี… ผ่านมาหลายสิบปีแล้ว เจ้ายังไม่กลับเนื้อกลับตัวอีกรึ…?”

“ข้าต่างหากที่เป็นฮ่องเต้แห่งแคว้นนี้ บอกข้าสิ ข้าเทียบมู่เฟิงอวิ๋นไม่ได้ตรงไหนหรือ ?”

ฮองเฮาค่อย ๆ ลุกยืนขึ้นอย่างช้า ๆ  นางจ้องมองซวนหยวนจือด้วยแววตาดูถูกเหยียดหยาม “ซวนหยวนจือ เหตุใดท่านถึงไม่ส่องกระจกดูตนเองบ้าง ฮ่องเต้มีอะไรเทียบกับเฟิงอวิ๋นได้หรือ ? เขาต่างหากที่เป็นฮ่องเต้ตัวจริง เขาเป็นโอรสสวรรค์  น่าเศร้า ฮ่องเต้ที่อยู่ตรงหน้าข้าเวลานี้ แม้แต่สัตว์ก็ยังสูงส่งกว่า”

ซวนหยวนจือโกรธจนใบหน้าเขียวคล้ำ ดวงตาลุกโชนจับจ้องฮองเฮา ผู้ที่ดูน่ารังเกียจกลับดูน่าสงสาร เป็นถึงฮ่องเต้ประมุขแคว้น มาวันนี้ในใจฮองเฮาไปคิดถึงบุคคลอื่นตนก็ว่าเจ็บปวดอย่างหนักแล้ว นางยังจะดูถูกเหยียดหยามเหยียบย่ำซ้ำเติมตนได้ถึงเพียงนี้

แม้ว่ามู่เฉียนซีจะรู้สึกได้ว่าท่านพ่อของนางดีกว่าฮ่องเต้อย่างซวนหยวนจือหลายพันเท่า  นางก็ยังอดสงสัยมิได้ ฮองเฮาในฐานะผู้เป็นพระชายา เหตุใดกลับกล่าววาจาดูถูกเหยียดหยามซวนหยวนจือ  หากนางเป็นพวกตระหนกตกใจง่าย ๆ นางคงอ้าปากค้างไปแล้ว

ฮองเฮาสติเลอะเลือนไปแล้วรึ ?!

ซวนหยวนจือกล่าวด้วยอารมณ์โกรธแค้น “โอวหยางหว่าน เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถฆ่าเจ้าได้”

โอวหยางหว่านกล่าวอย่างตรงไปตรงมา “หากฮ่องเต้ประสงค์จะฆ่าข้าก็อย่ารอช้าเลย… แต่ต่อให้ท่านจะฆ่าข้าให้ตายตกไป คนเช่นท่านก็มิมีวันเทียบกับเฟิงอวิ๋นได้”

“ท่านสายเลือดต่ำช้า!  ท่านจิตใจโสโครก!  ข้าไม่อยากแม้แต่จะเห็นหน้าท่าน”

การที่ฮองเฮายืนชี้หน้าด่าฮ่องเต้เช่นนี้ มู่เฉียนซีรู้สึกว่าไทเฮาพระองค์นี้ กล้าหาญที่สุดเท่าที่นางรู้จักมา  นางได้แต่เหลือบมองโอวหยางหว่านที่แสนเย็นชา ไม่แยแสฮ่องเต้ อีกทั้งยังดูบ้าบิ่นไม่หลงเหลือความอ่อนโยนเหมือนเมื่อครู่อีกต่อไป

ซวนหยวนจือรุดเข้ามาบีบคอองค์ไทเฮาอย่างแรง  สีหน้าไทเฮาพลันเขียวคล้ำจากการหายใจไม่ออก ทว่านางไม่เกรงกลัวต่อความตายที่อยู่ตรงหน้าแม้แต่น้อย

“เสด็จพ่อเย็นพระทัยลงก่อนพ่ะย่ะค่ะ เสด็จพ่อ!” ทันใดนั้น องค์รัชทายาทซวนหยวนหลี่ซางรีบเข้ามาห้ามซวนหยวนจือไว้

มู่เฉียนซีมิอาจทนดูปัญญาครอบครัวนี้ได้อีก จึงฉวยโอกาสรีบวิ่งออกไป

ซวนหยวนจือสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อรวบรวมสติกลับมา จ้องมองใบหน้าของสตรีผู้เป็นที่รักตรงหน้า ต่อให้องค์รัชทายาทไม่เข้ามาห้ามไว้ เขาก็ทำร้ายนางไม่ลง  เขารักนางมาก แม้จะไม่เคยได้อยู่ในสายตานาง เขาก็ยังรักนางอย่างสุดซึ้ง ไม่มีวันทำร้ายนางได้ลง

ทันใดนั้นโอวหยางหว่านตระหนักว่าร่างของมู่เฉียนซีอันตรธานไปแล้ว นางกล่าวขึ้นด้วยความไม่พอใจทันที “พวกเจ้าทั้งสองสมควรตายยิ่งนัก มาทำให้ซีเอ๋อร์ตกใจหนีไป ซีเอ๋อร์…”

“รีบไปตามตัวซีเอ๋อร์กลับมา!”

มู่เฉียนซีรีบวิ่งออกไปจากที่นี่โดยเร็ว ทว่าขณะที่นางวิ่งไปถึงหน้าตำหนักเฟิงหลวน ก็ถูกองครักษ์ขวางอาไว้ “ท่านผู้นำตระกูลมู่ ไทเฮารับสั่งว่าให้ท่านอยู่ต่อก่อน ยังกลับไม่ได้ขอรับ”

สีหน้าของมู่เฉียนซีเคร่งขรึมลงเล็กน้อย ฮองเฮาช่างบ้าคลั่งยิ่งนัก อีกทั้งยังเป็นสตรีอันตรายอย่างมาก นางต้องการอยู่ห่างไทเฮาให้มากที่สุด  ยากนัก! พระองค์ไม่ยอมปล่อยนางไปง่าย ๆ เลย

ขณะที่นางกลับเข้าไปในตำหนักอีกครั้ง เห็นว่าฮองเฮากับซวนหยวนจือสงบสติอารมณ์ลงแล้ว มู่เฉียนซีรับรู้ได้ว่าความอดทนของฮ่องเต้แห่งแคว้นจื่อเยี่ยผู้นี้มีไม่มากนัก

โอวหยางหว่านมองมู่เฉียนซีด้วยสายตาอ่อนโยน นางยิ้ม กล่าวว่า “ซีเอ๋อร์ เมื่อครู่ข้าคงไม่ได้ทำให้ซีเอ๋อร์ตกใจใช่ไหม ?”

มู่เฉียนซีส่ายหน้า “ไม่เลยเจ้าค่ะ เพียงแต่เรื่องที่เกิดขึ้นข้าเกรงว่าจะเป็นเรื่องส่วนพระองค์ ข้ามิบังอาจอยู่ต่อ สิ่งที่พระองค์ต้องการกล่าว ก็กล่าวจบไปแล้ว เวลานี้จวนตระกูลมู่ยังมีเรื่องที่ต้องสะสาง ข้าคงต้องขอตัวก่อนเจ้าค่ะ”

โอวหยางหว่านรีบกล่าว “หากซีเอ๋อร์จะกลับก็อยู่ทานสำรับกลางวันด้วยกันก่อนเถอะ ข้าจะลงมือทำให้ซีเอ๋อร์ด้วยตัวเอง ซีเอ๋อร์อย่าปฏิเสธน้ำใจข้าเลย… นะ…”

ความปลื้มในตัวมู่เฉียนซีของโอวหยางหว่าน ได้ยั่วยุต่อมความโกรธของบุรุษที่นั่งอยู่ ทั้งสองโกรธจนควันออกหู  แต่จะโกรธก็โกรธไป อย่างไรมู่เฉียนซีก็ไม่สนใจ นางต้องการกินสำรับมื้อนี้ให้หมดและรีบออกไปให้เร็วที่สุด นางไม่อยากอยู่กับคนบ้าเหล่านี้

ฮองเฮาเป็นสตรีงดงามมาก หากพระองค์รักซวนหยวนจือสักหน่อย พระองค์จะกลายเป็นแม่ของแผ่นดินอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด  ทว่าน่าเสียดายที่พระองค์เอาแต่หมกมุ่นอยู่กับบุรุษในใจ บุรุษผู้ซึ่งไม่มีวันจะได้เป็นของพระองค์  ทำให้ตกอยู่กับความรู้สึกที่เป็นอดีตเช่นนี้

ไม่นานนัก ฮองเฮาก็ได้ปรุงสำรับชาววังออกมาวางเต็มโต๊ะเพื่อให้มู่เฉียนซีพึงพอใจ พระองค์เหลือบมองซวนหยวนจือและซวนหยวนหลี่ซาง จากนั้นกล่าวขึ้นว่า “พวกเจ้าทั้งสอง เหตุใดถึงยังไม่กลับไป ?”

ด้วยสายตาที่รังเกียจและขยะแขยง บุรุษที่นั่งอยู่ทั้งสองเจ็บปวดใจยิ่งนัก  ซวนหยวนจือกำหมัดแน่นลุกพรวดขึ้น “เช่นนั้นข้ากลับก่อน!” เขาเดินออกไปจากตำหนักเฟิงหลวน จากนั้นได้ยินเสียงขันทีซุบซิบกัน “ออกไปส่งเสด็จฮ่องเต้”

…แม้ว่าตนเป็นถึงฮ่องเต้ กลับถูกฮองเฮาปฏิเสธ แน่นอนว่าความรู้สึกเจ็บปวดเกาะกุมหัวใจเขาไม่น้อยเลยทีเดียว

“เสด็จแม่!” ซวนหยวนหลี่ซางมองพระพักตร์พระมารดาด้วยสายตาคิดถึงคะนึงหา เขามิใช่องค์รัชทายาทสูงส่ง มิใช่ผู้อัจฉริยะ เขาเป็นเสมือนเด็กที่โหยหาความรักจากผู้เป็นแม่เท่านั้นเอง

เมื่อเห็นเสด็จแม่ของตัวเองทำดีกับคนอื่น ซ้ำยังมิได้มีความสัมพันธ์อันใดกันเช่นนี้ ซวนหยวนหลี่ซางรู้สึกเจ็บปวดใจอย่างถึงที่สุด

ฮองเฮาเหลือบสายตาไปมองซวนหยวนหลี่ซาง ดวงตาพลันหลุบต่ำลง กล่าวด้วยเสียงอันเบา “ซางเอ๋อร์ เจ้าอยู่ก่อนได้ มาสิ…”

สำรับที่วางอยู่บนโต๊ะล้วนแต่เป็นอาหารชาววังชั้นดี ฮองเฮาคีบอาหารให้มู่เฉียนซีด้วยความกระตือรือร้น “ซีเอ๋อร์ นี่เป็นอาหารจานโปรดของเฟิงอวิ๋น  ซีเอ๋อร์ก็คงจะชอบ เจ้าลองชิมดู”

“จานนี้ก็ใช่ของโปรด…”

“ส่วนจานนี้…”

พระองค์ใส่ใจเพียงมู่เฉียนซี ไม่สนใจซวนหยวนหลี่ซางที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เลย  แม้นางจะอนุญาตให้ซวนหยวนหลี่ซางร่วมโต๊ะ ทว่าก็เมินเฉย มิได้สนใจเขาแม้แต่น้อย

ในใจมู่เฉียนซีกลัดกลุ้มเป็นอย่างมาก ฮองเฮาแสดงอาการแปลกประหลาด คิดว่านางเป็นตัวแทนของท่านพ่อ ความอ่อนโยนของพระองค์ ความรักความเสน่ห์หาที่ทำให้นางนั้น ราวกับเห็นนางเป็นท่านพ่อนางไปแล้ว

มู่เฉียนซีก็คือมู่เฉียนซีอยู่วันยังค่ำ นางไม่ชอบเป็นตัวแทนผู้ใดแม้แต่ท่านพ่อของนางเอง  นางลอบบ่นในใจ ‘ท่านพ่อนะท่านพ่อ ทิ้งความวุ่นวายให้ตระกูลมู่แล้ว ยังทิ้งสตรีแปลกพิลึกนี่ไว้ให้ข้ารับกรรม ท่านพ่อคิดว่าบุตรสาวคนนี้ยังยุ่งวุ่นวายไม่พอใช่หรือไม่ ?’

“กินสิซีเอ๋อร์ ไม่ถูกปากหรือ ?”

เสด็จแม่เป็นเหมือนแม่ที่ดูอ่อนโยน เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักทั้งยังแสนดีต่อมู่เฉียนซี ซวนหยวนหลี่ซางรู้สึกว่าเรื่องนี้ทิ่มแทงจิตใจ เขาทำได้เพียงแต่คีบอาหารเข้าปากอย่างหงุดหงิด

ขณะที่มู่เฉียนซีคีบซี่โครงหมูตุ๋นขึ้นมาเตรียมจะกิน ประกายแสงเย็นวาบผ่านดวงตานาง นางรับรู้ได้ถึงยาพิษในอาหารนี้  ถึงแม้พระองค์จะเห็นนางเป็นตัวแทนของท่านพ่อ รักและเสน่ห์หานาง  จริง ๆ แล้วเกลียดชังนาง อยากจะให้นางตายไปให้พ้น ๆ ใจจะขาด!

ตอนนี้คงมีสองอารมณ์ความรู้สึกที่ขัดแย้งอยู่ในใจฮองเฮา เกรงว่าพระองค์ตั้งใจสังหารนาง นี่คงจะเป็นวิธีการฆ่าของสตรีในวัง…

แต่อย่างไรเสีย องครักษ์เงาของตระกูลมู่ที่คอยปกป้องนางอยู่ ไม่วอกแวกหนีไปไหนอย่างแน่นอน ยาพิษเหล่านี้ไม่มีผลกระทบใด ๆ กับนางมากนัก เพียงแต่ในสำรับอาหารทังหมดนี้ล้วนมียาพิษ

ฮองเฮาคิดจะวางยาแม้กระทั่งองค์รัชทายาทเลยเชียวรึ ?

ถึงอย่างไรองค์รัชทายาทก็เป็นโอรสของฮองเฮาเอง  มู่เฉียนซีจับตะเกียบแน่น มุมปากโค้งงอเล็กน้อยเป็นเชิงเยาะเย้ย

เป็นโอรสของฮองเฮาแล้วอย่างไร ?

นางรู้ดีว่าสตรี หากบ้าคลั่งเป็นประสาทขึ้นมาเช่นนี้ จะไม่มีทางสนใจผู้อื่นนอกจากจิตใจและความรู้สึกของตัวเอง ต่อให้เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตน ตนก็ไม่สนใจ ฮองเฮาเคยเจอบุคคลประเภทนี้มาก่อนแล้ว

มู่เฉียนซีกินอาหารสำรับนี้เสร็จ นางกล่าวขึ้นว่า… “องค์ฮองเฮาเจ้าคะ ข้ามีเรื่องจะต้องรีบไปจัดการ คงต้องขอทูลลา”

.

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด