เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย 73 – เจ้าอ้วน แกไอ้โง่!
Chapter 73 – เจ้าอ้วน แกไอ้โง่!
“แกไอ้อ้วน แกเป็นชาวบ้านโง่ๆ ที่จงใจให้ข้าเผชิญหน้ากับราชันย์ผีดิบพันปี?”
ลั่วเทียนกำลังสงสัยว่าทำไมปางเล่ยจึงทำแบบนี้.
เพราะเมื่อฟางเล่ยมองไปยังราชันย์ผีดิบพันปีสายตาของเขาก็ส่องแสงสีทองราวกับว่าเขากำลังเห็นสาวสวยที่เปลื่อยเปล่า มันเหมือนกับว่าเขากำลังยิงสายฟ้าออกจากดวงตาและท่าทางของเขาก็น่าสนใจอย่างมาก และแน่นอนเขาดูเหมือนกับหมาป่าที่หิวโหยมานับสิบปี!
ดูเหมือนว่าเขากำลังจะกระโดดเพื่อไปกัดมัน.
กัดราชันย์ผีดิบพันปี?
เชี่ยอะไรนั่น!
ลั่วเทียนไม่กล้าจินตนาการฉากนี้.
ฟางเล่ยเกาหัวของเขาและยังคงท่าทีโง่ๆ จากนั้นเขาก็พึมพำ: “นายท่าน ข้าทำอะไรผิดไปงั้นรึ?”
ลั่วเทียนไม่อาจตอบพี่น้องของเขาได้…
เพราะว่าเขาไม่มีเวลาจะพูด ราชันย์ผีดิบพันปีได้กระโดดทีเดียวและอยู่ห่างจากเขาไม่กี่เมตร.
ลั่วเทียนไม่อาจเคลื่อนไหวได้.
ถ้าศัตรูไม่ขยับ ข้าก็จะไม่ขยับ!
ถ้าศัตรูเคลื่อนไหว ข้า…
ลั่วเทียนไม่มีทางออก จากนั้นเขาก็เริ่มคิดถึงหนังผีดิบของลุงหลินเจ้งอินและวิธีต่างๆที่หลีกเลี่ยงผีดิบไม่ให้หาเจอ สิ่งแรกที่ทำได้คือกลั้นหายใจ!
เขาจำไม่ได้ว่ามาจากหนังเรื่องไหน…
แต่หนึ่งในนั้นคือตาของผีดิบไม่สามารถมองเห็นได้ ดังนั้นมันจึงใช้ลมหายใจของมนุษย์ในการระบุตำแหน่งของพวกเขาเท่านั้น.
ลั่วเทียนไม่สนใจมากอะไรตอนนี้และเขาก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนที่จะกลั้นหายใจ.
การกระทำของลั่วเทียนทำให้ฟางเล่ยอยากรู้อย่างมาก.
ฟางเล่ยนั่งลงข้างๆลั่วเทียนและสะกิดแขนเขาสองสามครั้งเพื่อถาม: “นายท่าน กำลังทำอะไรอยู่? เราไม่ฆ่ามัน?”
“นายท่านนี่เป็นสัตว์ปีศาจที่แข็งแกร่งมาก มันอาจจะเป็นสัตว์ปีศาจระดับ 4 และมีแกนปีศาจอยู่ข้างใน.”
“เคลื่อนไหวกันเถอะ.”
“ทำเหมือนเมื่อก่อน – คนหนึ่งรั้งและท่านก็โจมตีมัน.”
ในระหว่างที่เขาพูด น้ำลายเกือบจะไหลออกจากปากของเขา.
ลั่วเทียนเต็มไปด้วยความโกรธและอยากจะคว้ากิ่งไม้มาตีให้พิการไปครึ่งนึง คนประหลาดนี่ไม่แม้แต่จะคิดออกเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันของพวกเขา? ราชันย์ผีดิบฆ่าได้ง่ายๆ?
หากว่ามันเป็นสัตว์ปีศาจระดับ 4 มันจะยังเป็นเรื่องง่ายที่จะวิ่งไปพร้อมกันและยิ้ม?
ลั่วเทียนคงจะฆ่ามันแล้ว.
ในเวลานั้น…
ราชันย์ผีดิบพันปีนั่งยองๆและเริ่มอังแก้มด้วยมองทั้งสองขณะที่ดวงตาทั้งหกจ้องมองทั้งสอง
มันเหมือนกับว่ามันได้พบของเล่นที่สนุก
“เจ้าไม่เห็นข้า เจ้าไม่เห็นข้า…”
“กลั้นหายใจ กลั้นหายใจ แม้ว่าข้าจะตายก็ต้องกลั้นหายใจ…”
ในระยะใกล้ๆลั่วเทียนเริ่มได้กลิ่นเหม็นเน่าท่ี่น่าขยะแขยงจากราชันย์ผีดิบพันปี กระเพาะอาหารโหวงเหวงและมีหลายครั้งที่เขาอยากจะอาเจียน แต่ก็อดทนไว้.
10 วิฯ… 30 วิฯ… 1 นาที… 3นาที…
หน้าของลั่วเทียนกลายเป็นสีแดง.
คนที่มีการบ่มเพาะในขั้นปราณเชี่ยวชาญที่แท้จริงมันก็ยังไม่ง่ายนักที่จะกลั้นหายใจ 3 นาที และนี่ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดของฉากในปัจจุบันนี้ ราชันย์ผีดิบพันปีก็ยังกลั้นลมหายใจจนใบหน้าเริ่มแดง ร่องรอยของเลือดเริ่มจางหายไปในผิวสีเทาเข้มและการแสดงออกของมันก็เริ่มน่ากลัว.
นี่ยังไม่ใช่จุดไคลแม็ค…
สิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือฟางเล่ย!
คนประหลาดนั่นระเบิดความโกรธออกมา มือทั้งสองข้างของเขาพุ่งไปยังอากาศและกำลังจะเด็ดหัวราชันย์ผีดิบพันปีออก.
“ดี!”
ลั่วเทียนตะโกนภายใน พลังปราณของเขาเริ่มหมุนเวียนและเตรียมที่จะโจมตีเช่นกัน.
ใบมีดมาเชเต้ที่บางแต่มีความทนทานเป็นอย่างมาก.
แต่…
“แคร้งง~!”
มีประกายไฟเกิดขึ้นตรงใบมีดกับหัวของราชันย์ผีดิบพันปี และมันก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรแม้แต่น้อยที่ศีรษะของมันและมีเพียงรอยปื้นขาวๆเท่านั้นที่เห็นได้ มันไม่มีแม้แต่เลือดซิบ.
การบ่มเพาะของฟางเล่ยอยู่ที่ปราณพื้นฐาน ขั้น 7.
ความแข็งแกร่งของเขาเทียบเท่ากับปราณเชี่ยวชาญ เพียงแค่การโจมตีเพียงครั้งเดียวก็สามารถฆ่าสัตว์ปีศาจระดับ 3 ได้ทันที.
แต่เมื่อจะจัดการราชันย์ผีดิบพันปี การโจมตีของเขาก็ไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง ถ้าเขาเล่นเกมส์อยู่ การโจมตีของฟางเล่ยก็ไม่ต่างการคำว่า มิส(Miss=พลาด).
ไม่มีแม้แค่รอยเลือด!
มันเป็นการดีที่การโจมตีไม่เกิดความเสียหาย( damage =
ดาเมจ)ใดๆ แต่แขนของฟางเล่ยร่วงด้วยความตกใจ ขากรรไกรของเขาค้างแข็ง แขนของเขาสั่น แม้กระทั่งใบมีดมาเชเต้ก็แตกออกทันทีที่โจมตีโดน!
หรือว่ามันจะเป็นจุดสิ้นสุดของพวกเขา.
ลั่วเทียนไม่ได้คิดอะไรอีกและตะโกน: “Level 2 Berserk!”
เขาคว้าตัวฟางเล่ยที่กำลังมึนงงอยู่จากนั้น, “ย่างก้าวเงาวายุ!”
“Level 2!”
“วูซซซ~!”
ความเร็วของเขาถูกใช้จนสูงสุดเพื่อให้ทั้งสองออกไป.
อย่างไรก็ตาม…
ในขณะเดียวกันตาทั้งหกดวงของราชันย์ผีดิบพันปีก็จ้องมองด้วยความโกรธและเริ่มเผยให้เห็นแสงสีแดงที่มืดมิดจากตาทั้งหกเหล่านั้น ขาทั้งสองข้างกระโจนออกมา!
“ปัง~!”
และมันก็มาถึงถัดจากลั่วเทียน
“ย่างก้าวเงาวายุ!”
ลั่วเทียนเปิดใช้งานสกิลของเขาอีกครั้งและพุ่งไปเหมือนกับกระสุน หัวใจของเขารู้สึกราวกับมีม้านับหมื่นกระหน่ำขณะที่เขากรีดร้องในใจ: “น้องสาวเจ้าสิ อย่าให้บิดาคนนี้หนีออกไปได้ ไม่อย่างนั้นข้าจะกลับมาจัดการเจ้าอย่างแน่นอน!”
เจตนาฆ่าทำร้ายร่างกายของเขา.
จิตใจและจิตสำนึกของเขาตกอยู่ในความวุ่นวาย ในช่วงเวลาไม่นานเขาก็รู้สึกเหมือนถูกพายุโหมกระหน่ำเข้ามายังร่างกายของเขาทำให้เขารู้สึกอึดอัดอย่างมาก.
ลั่วเทียนเริ่มโกรธอย่างมากจะการถูกกดดันจากเจตนาฆ่าที่ท่วมถ้นเหล่านี้.
ด้วยความเร็วของย่างก้าวเงาวายุ ลั่วเทียนสามารถทิ้งระยะห่างได้เล็กน้อย แต่ราชันย์ผีดิบพันปีที่กระโดดครั้งที่สองมีประสิทธิภาพมากกว่าครั้งแรก.
นอกจากนี้ดวงตาทั้งหกที่ส่องแสงสีแดงก็กลายเป็นสีเลือด.
ตาสีเลือดทั้งหก!
แรงกดดันจากเจตนาฆ่าก็เริ่มรุนแรงมากขึ้นไปอีก.
“เฮ้ ไอ้หนู เจ้าสามารถจัดการได้ไหม?”
“ถ้าเจ้าไม่ ปล่อยให้บิดาคนนี้ให้ออกไป ไม่มีทางที่บิดาจะปล่อยให้ตัวประหลาดนั่นไป มันกล้าที่จะปล่อยเจตนาสังหารต่อหน้าบิดาคนนี้? บิดาคนนี้จะแสดงให้เห็นเองว่าเจตนาฆ่าที่แท้จริงเป็นอย่างไร!”
“เจ้าไม่สามารถแม้แต่จะจัดการกับเจตนาฆ่าเด็กๆแบบนี้ได้อย่างไง? ข้าไม่รู้จริงๆว่าทำไมข้าถึงได้ตกอยู่ในมือเจ้า!”
ภายในใจของลั่วเทียน…
เสียงที่รุนแรงได้ออกมาจากดาบกลืนโลหิต
ลั่วเทียนไม่สนใจเขาเลย ตัวประหลาดนั่นต้องการที่จะช่วยเขา แต่เขาก็รู้ว่าเจ้าสิ่งชั่วร้ายนั่นพยายามจะฉุดเขาลง ถ้ามันบังเอิญท่ี่จะสามารถควบคุมความคิดของเขาได้ เขาจะหลงออกไปอย่างสมบูรณ์!
“นี่ ไอ้หนู ข้ากำลังคุยกับเจ้า!”
“หุบปาก!” ลั่วเทียนโกรธ.
“แหมๆ ดูอารมณ์ของเจ้าสิ เจ้าไม่สามารถแม้แต่จะต้านเจตนาฆ่าเล็กๆน้อยๆนี้ได้.” ดาบกลืนโลหิตหัวเราะเย้ยหยัน.
“แคลซซ~…”
เสียงที่เหมือนกับน้ำตกอยู่ไม่ไกลเกินไป.
ลั่วเทียนขมวดคิ้วและตะโกน: “เจ้าอ้วน กลั้นหายใจไว้!”
“ห๊ะ?”
ฟางเล่ยไม่สามารถฟังได้ครบประโยค เขาถูกลากโดยลั่วเทียนและได้ยินเสียงแต่ลมเท่านั้น ไม่มีทางที่เขาจะได้ยินประโยคเต็มๆของลั่วเทียนที่กำลังพูดกับเขา.
“บูม~!”
ราชันย์ผีดิบพันปีได้กระโดดอีกครั้งและพุ่งขึ้นไปหลายเมตรก่อนที่จะลงมาเบื้อหน้าลั่วเทียน.
เขี้ยวสีน้ำเงินที่เต็มไปด้วยน้ำสีเขียว มือทั้งสองข้างที่ยื่นออกมาและเล็บที่ดูราวกับเป็นดาบทั้ง10
.
Comments