การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม 56
บทที่ 56 – ปริศนาในโรงเรียน
“เพราะงั้นให้ข้านอนที่นี่ด้วยเถอะนะ.. เดี๋ยวพรุ่งนี้ข้าจะหาทางทำอะไรสักอย่างเอง! ข้าสัญญาว่าจะตั้งใจสอนวิชาทฤษฎีพิเศษมากขึ้น”
ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะ แต่ว่าฉันคิดว่าถ้าปล่อยไปแบบนั้นจะอันตรายต่อตัวฉันเองหากปล่อยทิ้งไว้
ว่าแต่เรื่องสอนเธอควรทำแบบนั้นบ่อยๆ จะมีแต่คาบปฏิบัติจนด้านความรู้ช้ากว่าห้องอื่นไปแล้ว ใช่.. เธอคือครูสอนพิเศษเฉพาะชั้นของฉัน
แต่สอนแค่คาบปฏิบัติในชั้นอื่น.. ว่าง่ายๆ หล่อนสอนแค่คาบปฏิบัติห้องอื่น แต่ห้องฉันสอนทั้งวิชาความรู้เขียนมือ.. ซึ่งดูท่าเธอจะไม่ถนัดเท่าไหร่
กลับมาเรื่องเดิม แน่นอนว่าฉันเป็นคนประเภทที่แบบว่า หากไม่รู้ต้องมองในแง่ลบไว้ก่อนเพราะหากมันเกิดเรื่องไม่ดีจะได้ไม่ผิดหวังหรือเสียใจในภายหลัง
แต่ถึงจะน่ากลัวแต่จากที่ซิลเวียเล่ามานั้น แม้แต่พลังของเธอยังทำอะไรมันไม่ได้ ถึงเจ้าตัวจะไม่ได้บอกว่าใช้พลังเทพหรืออะไร
แต่นอกจากพลังเทพของเจ้าตัวก็ไม่มีอย่างอื่นแล้วนี่น่า หมายความว่าแม้แต่พลังระดับเทพก็ไม่สามารถทำอะไรได้
บางทีอาจจะเป็นเพราะซิลเวียอยู่ในระดับต่ำสุดของเหล่าเทพก็ได้ เพราะเทพที่แข็งแกร่งน้อยที่สุดเทียบพอๆ กับผู้กล้าหรือจอมมาร
และแน่นอนอย่างที่บอกพาลาดินที่อยู่ระนาบเดียวกันเองก็ทำอะไรมันไม่ได้ หมายความว่าซิลเวียอาจจะอ่อนสุดๆ
เพราะฉันเองก็ไม่มั่นใจในระดับฝีมือของซิลเวีย แต่จากที่ดูแล้วดูเจ้าตัวจะอ่อนมากๆ (ระดับเทพสงคราม…)
ฉันควรทำยังไงกับไอ้พวกเจ็ดเรื่องลึกลับนี่ดีนะ ฉันคิดแบบนั้นพลางขมวดคิ้ว ฉันควรจะหนีเลยดีไหม?
ไม่สิ หนีไปก็ยังมีเลวี่อีกต่างหากที่อยู่ที่นี่ แม้แต่ลูเซียเองก็อยู่ที่นี่ ถึงจะแค่หน้าเหมือนก็เถอะนะ..
กำจัดเหรอ? ไม่สิ อย่างฉันที่อ่อนแอยิ่งกว่าจอมมารไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า อย่างน้อยต้องชนะจอมมารให้ได้ก่อนถึงจะได้มีพลังจอมมาร..
“ฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะ…”
ในขณะที่ฉันกำลังใช้ความคิดอยู่นั้น อันน่าก็พูดตอบซิลเวียแล้วทั้งสองก็หันมามองที่ฉัน
อืมมม ยังไงฉันก็ต้องไปตรวจสอบที่นั่นด้วยแหละเพื่อความอยู่รอดดังนั้นให้ซิลเวียนอนอยู่นี่ฉันแอบออกไปเงียบๆ ดีกว่า
หากซิลเวียไปด้วยฉันคิดว่าคงยุ่งยากกว่าเดิม ไม่ต้องพูดถึงอันน่า ที่เตรียมมีดผ่าตัดจะแทงหัวใจฉันตอนไหนก็ได้ หรืออาจจะแทงหัว
ต่อให้มีเวทมนตร์ แต่ถ้ายังใช้มันฟื้นฟูไม่ได้หรือใช้ไม่ทันก็ตายได้อยู่ดีนี่น่า ดังนั้นตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
“อืม ก็ได้”
“เลทิเซีย…”
ซิลเวียน้ำตาปริ่มมองมาที่ฉันด้วยสายตาแปลกๆ ฉันคิดว่าเธออาจจะแสดงอะไรตบตาที่แม้แต่ฉันยังอายแทน
ฉันเลยไม่กล้าสบตาเธอเพราะกลัวจะมองการแสดงของเธอออกล่ะนะ
(แค่ดีใจ..)
“งั้นข้าขอนอนเตียงเลทิเซียนะ!!”
“เอ๊ะ เดี๋ยวสิ อาจารย์ นั่นมันที่ของฉันนะ”
ว่าแล้วซิลเวียก็โดดฟุบลงบนเตียงฉัน แต่ไม่รู้ทำไมอันน่าถึงออกตัวบอกว่าเตียงฉันคือเตียงของเธอกัน?
“พวกเธอหยุดเลยนะ นั่นมันเตียงของฉั…”
แต่ก่อนที่จะได้พูดจบฉันก็เห็นซิลเวียกับอันน่าหลับไปซะแล้ว นี่โดนวางยาสลบหรือไงกันนะ
หลับง่ายก็ง่ายเกินไป.. เอ๊ะ ไม่สิ หรือว่ายัยพวกนี้จะสงสัยฉันกันว่าทำไมฉันถึงยอมรับข้อเสนอจากซิลเวียซะง่ายๆ
เมื่อพิจารณาถึงเรื่องที่พวกเธอรู้จักฉัน ฉันดูเป็นคนประเภทไม่ค่อยชอบตอบปากอะไรกับใคร ดังนั้นพอฉันตอบปากง่ายๆ เลยคิดว่าฉันจะแอบออกไปข้างนอกสินะ
ถึงซิลเวียจะยังไม่รู้เป้าหมายของเธอคนนี้เท่าไหร่ แต่อันน่าต้องแอบโจมตีฉันตอนไม่ระวังตัวแน่ๆ หากเธอคิดว่ามันแปลกๆ
หมายความว่าเธออาจจะเดาสิ่งที่ฉันจะทำนั่นคือไปตรวจดูหนึ่งในเจ็ดเรื่องลึกลับ เธออาจจะใช้โอกาสนี้ บงการแผนบางอย่างทำให้ผีเมดอะไรนั่นฆ่าฉันแน่
ถึงจะไม่รู้ว่าทำไมก็เถอะนะ เอาล่ะมาดูกันว่าพวกเธอจะหลับก่อนฉันหรือฉันจะหลับก่อนพวกเธอกันแน่
ฉันนั่งลงบนเตียงและเริ่มพยายามนั่งอยู่เฉยๆ ตามที่ฉันเข้าใจมั้งสองต้องพยายามข่มตาหลับอยู่ตลอดเวลา
และคิดว่าต้องไม่หลับ นั่นหมายความว่าโอกาสจะหลับนั่นมีสูง ในเมื่อพวกเธอรู้แผนฉัน ฉันก็ไม่จำเป็นต้องแกล้งหลับตาเหมือนพวกเธอ
แค่นี้ก็แค่รอเวลาพวกเธอต้องหลับก่อนฉันแน่ๆ
(อันที่จริง ทั้งสองหลับไปแล้วทั้งแบบนั้น ในขณะที่ซิลเวียเองก็รู้สึกเพลียและอันน่าเองก็รอช่วงเวลาที่เลทิเซียหลับสนิทมากที่สุดก่อนจะโจมตียามวิกาล?)
แต่จะว่าไปตั้งแต่ฉันมาอยู่โรงเรียนนี้ก็แอบไปสืบเรื่องเจ็ดเรื่องลึกลับมาแทบหมดแล้ว แต่ที่น่าแปลกใจคือมันไม่มีข้อมูลอะไรหลงเหลือเป็นข้อมูลอยู่เลย
เหมือนกับว่ามีคนต้องการให้มันหายออกไปยังไงยังงั้น แต่เรื่องอันตรายที่ถึงแก่ชีวิตของนักเรียนแบบนี้ ทำไมถึงถูกปล่อยทิ้งไว้ แม้แต่ข้อมูลยังลบทิ้ง
คือไอ้พวกเรื่องลึกลับเหล่านี้ไม่มีบันทึกไว้ในไหนก็จริง แต่ทุกคนต่างพูดกันปากต่อปากเรื่อยมาแทน แต่จะมีใครสักกี่คนที่รู้?
พูดอีกอย่างคือมีแต่คนที่อยู่โรงเรียนนี้มาห้าถึงหกปี ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องเล่าเหล่านี้ไม่มีทางที่พวกรุ่นพี่จะบอกรุ่นน้องอย่างฉันแน่นอน
เพราะพวกเขาคงสาปแช่งให้พวกเราเจอกับตัว ทำให้ฉันเลือกที่จะไม่สอบถาม และไปหาข้อมูลก็ไม่มีทางเจอ
ในขณะที่เรื่องของโรงเรียนนี้เองก็น่าสงสัย บางทีฉันไม่ควรระวังแค่พวกนักเรียนจริงๆ สินะ ที่ฉันรู้มีแค่สามเรื่องลึกลับในตอนนี้
ซึ่งประกอบไปด้วย เปียโนผี, ทวนอำนวยการและเรื่องนี้เป็นเรื่องเมดผีสิงงั้นเหรอ ไม่สิ แค่สองนี่น่า ลืมไปว่าทวนนั่นไม่ใช่เรื่องจริง
จะว่าไปพอพูดถึงเรื่องทำความสะอาด ในโรงเรียนนี้ฉันก็ไม่เคยเจอคนที่ทำความสะอาดหรือภารโรงเลย
พอฉันนั่งคิดได้แบบนั้นก็รู้สึกมีอะไรแปลกๆ มาสะกิดความคิด แต่ฉันไม่อยากยอมรับความคิดแบบนี้ เพราะการใช้ประโยชน์จากสิ่งที่ไม่รู้จักมันอาจจะหวนกลับมาทำร้ายตัวเอง
แต่ถึงจะไม่อยากเชื่อ แต่ว่าบางที.. ผู้อำนวยการหรือคนระดับสูงของโรงเรียนนี้ บางทีอาจจะใช้ประโยชน์จากผีพวกนี้?
ที่ไม่มีคนทำความสะอาดหรือภารโรงเพราะให้เมดผีนั่นทำความสะอาดมั้งคืนตอนที่คนพักผ่อน และจากที่ฟังซิลเวียเล่า
บางทีเมดผีนั่นอาจจะมีเรื่องเล่าประมาณว่า หากใครพบเห็นเธอขณะทำความสะอาดอาจจะถูกฆ่าอะไรแบบนี้
เพราะจากที่ฉันเข้าใจคือเจ็ดเรื่องลึกลับในโรงเรียนนี้ ทุกอย่างที่มีหรือเกิดขึ้นแทบเป็นไปตามเรื่องเล่าที่ได้รู้มา ไม่ว่าจะเป็นทางเรื่องของพลัง ลักษณะของผี
มันเหมือนกับว่ามีใครสักคนคอยแอบพูดปากต่อปากกัน ราวกับได้พบได้เห็นมาอย่างสนิทชิดเชื้อยังไงยังงั้น
ฉันคิดว่านี่อาจจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ว่าทำไมถึงไม่มีข้อมูลพวกนี้แบบลายลักษณ์อักษรเลยก็ได้
แต่ฉันในตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลอะไรเลย นี่ทำให้โรงเรียนมันอันตรายมากในตอนนี้ ซึ่งฉันต้องพยายามเลี่ยงอันตรายให้มากที่สุด
ฉันพยายามเค้นความคิดและหาจุดเชื่อมต่อเพื่อได้คำอธิบายมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้เพราะข้อมูลในมือตอนนี้มันน้อยเกินไป
ฉันไม่อยากทำอะไรผลีผลามจนได้รับอุบัติเหตุ มีคำพูดประมาณว่า รู้ศัตรู รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง อะไรแบบนี้อยู่ด้วย
ยังไงฉันก็ต้องการข้อมูลเพิ่มจริงๆ นั่นแหละ แต่การไปหามันตรงๆ ไม่ใช่ว่าอันตรายหรอกเหรอ.. กำลังคิดอะไรแบบนั้นอยู่ละสิ
แน่นอนว่าแค่ไปดูเท่านั้น ไม่ได้ไปสู้สักหน่อย อีกอย่างหลังจากคำบอกเล่าของซิลเวียแล้ว ดูท่าเจ้าตัวจะไม่สามารถตามออกมาจากคฤหาสน์หอพักนั่นได้
เพราะตอนแรกมันดูเหมือนจะพยายามฆ่าซิลเวียจริงๆ หากทุกอย่างเป็นตามที่ซิลเวียบอกละก็นะ แต่ไม่มีทางที่ฉันจะเชื่อคำพูดจากปากคนอื่นแบบสิบส่วนเต็มแน่นอน
ดังนั้นฉันจึงต้องไปให้เงียบที่สุด เพราะหากถูกมันเจอนั่นแสดงว่าคือจุดจบของฉัน!
Comments