การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม 351
บทที่ 351 – มือสองข้าง
“อ้า.. ไม่.. ไม่ … ไม่”
วินาทีเดียวที่คอของชาร์ล็อตถูกตัดนั้นราวกับพันธนาการที่มองไม่เห็นถูกปลดออกจากร่างกายของเลทิเซีย
เพียงพริบตาเดียวร่างเธอก็พุ่งทำลายทุกสิ่งอย่างที่ขวางหน้า คนทุกคน เพชฌฆาตก็ดี ประชาชนก็ช่าง
ภายใต้การเคลื่อนไหวที่ไร้ทางต้านของเลทิเซียร่างกายพวกมันกลายเป็นหมอกสีเลือดแทบจะทันที
เลทิเซียก้าวขาไปรับเอาหัวที่หลุดออกจากบ่าของชาร์ล็อต.. กิโยตีนพังถล่มลงต่อหน้าพร้อมกับร่างกายตั้งแต่ไหลไปจนถึงเท้า
เลือดสีแดงสดไหลออกจากคอที่ขาดจองเธออาบไปทั่วทั้งร่างเลทิเซีย..
“อ่า.. ไม่เหลือแล้ว… ไม่เหลือแล้ว..”
“ทำไม… ทำไม.. ชีวิตมันต้องก้าวต่อไป..?”
“ก้าวยังไง.. ในเมื่อทุกอย่างมันพังโดยที่ไม่ทันได้พยายามแบบนี้”
เพื่อน.. เพื่อที่แสนสำคัญของเธอนั้นสลายหายไปต่อหน้าต่อตาอีกครั้ง.. เป็นอีกครั้งแล้วงั้นสิ..
ทำไมถึงต้องเป็นแบบนี้.. เลทิเซียกอดหัวของชาร์ล็อตเอาไว้พร้อมกับร้องไห้ออกมา.. น้ำตาของเธออัดแน่นไปด้วยความรู้สึกที่มากกว่าคำว่าเสียใจ
เธอ..รู้สึกว่าโลกแบบนี้มันโหดร้ายเกินไปแล้ว มันพรากทุกชีวิตไปจากเธออย่างโหดเหี้ยม..
พวกเธอยังไม่ได้ทำอะไรเลย.. ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้กัน เพราะมนุษย์อันแสนโสมม เพราะสิ่งมีชีวิตอันแสนชั่วร้าย
เพราะโชคชะตาที่มันเล่นตลก.. เธอเงยหน้ามองขึ้นท้องฟ้า.. ไม่รู้ว่าทำไมยามนี้ท้องฟ้าถึงกลายเป็นสีแดงฉานราวกับอาบไปด้วยเลือด..
ความรู้สึกบางอย่างภายในหัวมันค่อยๆ จางหายลงไปอีกระดับ.. หัวใจของเลทิเซียเต้นรัวขึ้น.. รัวขึ้นจนหูสองข้างเธอไม่ได้ยินเสียงอะไรนอกจากเสียงหัวใจ
ตาย.. ตายแล้วก็ตาย..
ตลอดเส้นทางที่เธอเติบโตมา.. ไม่ได้ถูกปูพรมไว้ด้วยกลีบกุหลาบหรือเส้นทางแห่งแสงสว่างอันแสนสุขสบาย
แต่ทว่ามันกลับเต็มไปด้วยเลือดพรมสีแดงไม่ได้ถูกสร้างขึ้นจากความมั่งคั่งหรือความร่ำรวย
แต่ถูกปูลงไปด้วยความเกลียดชัง ความบ้าคลั่งและความตายของเพื่อน.. เพื่อน.. แล้วก็เพื่อน..
เส้นทางที่เลทิเซียก้าวผ่านมามันทำให้เธอเติบโตขึ้นทั้งพลังและจิตใจ.. แต่มันกลับน่าขำสิ้นดีที่.. ทุกการเติบโตมันแลกมากับการสูญเสียคำสำคัญ
ครั้งแล้วครั้งเล่า..มือทั้งสองข้างมันแปดเปื้อนไปด้วยโลหิตจากคนมากมาย.. โดยไม่ทันรู้ตัวเธอก็เป็นฆาตกรที่ทำให้ทุกคนสูญสิ้น
ไม่ว่าจะเพื่อนหรือใครก็ตาม.. ทุกคนล้วนตายเพราะเธอ.. เธอเป็นคนฆ่าพวกเขาเองกับมือ..
“หึ….หึ… ฮ่าๆๆๆๆ .. ฉัน.. ฉัน…”
“ฉันเป็นคนฆ่าทุกคน.. ฉัน.. เป็นฉันเอง ฮ่าๆๆๆ ”
เสียงหัวเราะของเธออัดแน่นไปด้วยความเกลียดชังที่มีต่อตนเอง.. และคนอื่น.. เสียงหัวเราะนั้นมันมากกว่าความบ้าคลั่ง
แต่มันอัดแน่นไปด้วยความมืดมัวราวกับว่าตัวเธอกำลังบิดเบี้ยว.. เธอเจ็บปวดทรมานจนแม้แต่น้ำตาของเธอก็ไม่อาจจะระบายความเสียใจนั้นออกมาได้
ความเจ็บปวดของการตายของเพื่อนๆ เธอ เธอไม่เคยลืมมันเลยสักครั้ง ฉากที่คอของสเตฟานี่ถูกตัด ฉากเจ็บปวดทรมานแสนสาหัสของโคลเอ้
การผูกคอตายของเซเรส การจากไปของอันน่า.. การตายที่ห่วงใยเธออย่างถึงที่สุดของซิลเวีย การตายของไวท์
และตอนนี้..ทสึรุและชาร์ล็อตก็จากไปโดยที่มีเธอเป็นจุดศูนย์กลางของทุกอย่าง หากเธอไม่บอกให้ทสึรุปกป้องโรงเรียนละก็
หากเธอไม่หายไปนานห้าปีละก็.. ชาร์ล็อตคงไม่ต้องตาย.. ทุกอย่างมันเริ่มต้นที่เธอ..
เสียงหัวเราะของเธอที่ถูกเปล่งออกมาจากปากนั้นจึงเต็มไปด้วยความเคียดแค้นที่มีต่อตนเอง..
เพื่อนเธอทั้งแปดคน… แปดคนเท่านั้นบนโลกแห่งนี้ที่มีคนมากมายไร้ที่สิ้นสุดนี้.. ตายเพราะเธอ.. ตายเพราะเธอ..
“ฮ่าๆ .. ฉันฆ่าทุกคน.. อีกแล้ว… พยายามไปแค่ไหนมันก็..เปล่าประโยชน์”
“ฮ่าๆๆๆๆ ”
เลทิเซียหัวเราะอย่างบ้าคลั่งทุกอย่างในมุมมองสายตาของเธอกลายเป็นสีแดงฉานหาใช่เพราะความโกรธหรือการเปลี่ยนแปลงของโลกไม่..
แต่เป็นเลือด.. บัดนี้น้ำตาของเธอไม่ได้ไหลออกมาเป็นน้ำใสสะอาดแต่เป็นสีแดงที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง..
ภาพนี้ช่างดูน่าหวาดกลัวอ่างแท้จริงร่างกายบอบบางที่อาบไปด้วยโลหิตสีแดง.. พร้อมกับเสียงหัวเราะที่คลุ้มคลั่งนั้น..
ทำให้ดูน่าเกลียดน่ากลัวไม่พอที่ตายยังมีน้ำตาสีโลหิตที่ไหลออกมา ไม่มีเข้าใจว่าเธอเกลียดชังและเสียใจไปมากขนาดไหน..
เป็นอย่างที่สตรีผมสีขาวนั่นกล่าว.. การตายของทสึรุและชาร์ล็อตเลทิเซียพอเดาได้อยู่บ้าง.. อันที่จริงมันเป็นแค่ข้อสันนิษฐานของเลทิเซียเท่านั้น
แต่จากคำอธิบายว่าเผ่าอสูรบางทีก็ตายไม่ได้ บางทีก็ตายได้แบบน่าสงสัย.. ผสมกับชื่อของเผ่าอสูรอย่างชาร์ล็อตหรือทสึรุนั้นเป็นชื่อจากบุคคลในประวัติศาสตร์ชาติที่แล้วของเลทิเซีย
แน่นอนว่าถึงจะเป็นเพียงแค่ข้อสันนิษฐานของเลทิเซียเธอก็พยายามจะหลีกเลี่ยงให้ถึงที่สุด.. เพราะงั้นเธอจึงได้สร้างโรงเรียนขึ้นมา..
หากที่เลทิเซียจำไม่ผิดแล้วละก็ทสึรุฮิเมะปกป้องปราสาทจนเสียชีวิต.. ดังนั้นเธอจึงสร้างโรงเรียนขึ้นมา
สถานที่ที่ไม่ใช่ทั้งประเทศหรือเขตการปกครอง.. เพราะมันคือเขตไร้อาณา.. เท่านี้ก็จะไม่มีฉากปกป้องดินแดนจนตัวตายแล้ว..
แต่เลทิเซียกลับไม่รู้ว่าสถานที่ที่มีเธออยู่คือ..สถานที่ที่สำคัญที่สุดสำหรับทสึรุ ดังนั้นความตายของทสึรุนั้นคงเป็นสิ่งที่กำหนดมาตั้งแต่แรกแล้วว่า..
เธอจะปกป้องสถานที่ของผู้เป็นที่รักอยากปกป้อง.. เลทิเซียต้องการปกป้องโรงเรียนลิเบอร์เพื่อทำให้โรงเรียนนี้เป็นสถานที่สำหรับทสึรุ..
ที่ไม่ต้องตายเหมือนตามตำนาน.. แต่ทสึรุกลับปกป้องโรงเรียนเพราะมันเป็นที่ที่เลทิเซียอยากปกป้อง..
สุดท้ายแล้วทั้งสองทำเพื่อกันและกันจึงต้องตายดับไปในที่สุด..
ชาร์ล็อตเองก็เช่นกันเลทิเซียพยายามจะไม่ให้เธอไปยุ่งเกี่ยวกับศาสนาที่ไม่รู้ที่มาที่ไป เพราะตามตำนานเธอได้ถูกปลุกฝังบางอย่างโดยฝ่ายหนึ่งในฝรั่งเศส
สุดท้ายเธอจึงลงมือลอบสังหารเพราะเชื่อในคำสอนบางอย่างนั้น.. ดังนั้นพอได้รู้ว่าชาร์ล็อตอยู่ที่ศาสนจักรเลทิเซียจึงต้องพาเธอกลับมา
มันต้องพากลับมาเท่านั้น.. ไม่อย่างนั้นจะเป็นตามตำนานไป.. แต่หารู้ไม่ว่าชาร์ล็อตหลังจากนั้นก็มีชีวิตอยู่เพื่อเลทิเซีย
เพราะมีเลทิเซียอยู่เธอถึงยังอยู่.. เพราะแรกเริ่มเดิมทีตัวตนของเลทิเซียก็อยู่สูงเกินกว่าคำว่าเพื่อนสำหรับชาร์ล็อตไปไกลโข
และเมื่อเลทิเซียหายไปเธอจึงถูกครอบงำด้วยความโกรธที่มีต่อพวกหัวรุนแรงอย่างถึงที่สุด คำสอนที่เหมือนการควบคุมจิตใจเป็นเพียงตัวกระตุ้นช่วยให้เธอฆ่าคนเท่านั้น
กล่าวคือ ไม่ว่าชาร์ล็อตจะอยู่ที่นู่นหรือที่ที่เลทิเซียอยู่สุดท้ายเธอก็จะต้องตาย… ใช่แล้ว.. ความพยายามตลอดห้าปีของเลทิเซียนั้นไม่ใช่เพียงไม่สำเร็จ..
แต่มันยังเป็นชนวนที่ย้อนกลับมาฆ่าคนสำคัญของเธอไปจนหมด.. ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องนี้เลทิเซียเข้าใจดีกว่าใคร
เพราะทุกอย่างมันเกิดจากเธอทั้งหมด ความตายที่เกิดขึ้นกลับเป็นความพยายามตลอดห้าปีที่ผ่านมา..
ไม่เพียงแต่ไม่สูญเปล่ากลับกลายเป็นคมดาบเสียเอง ดังนั้นเธอจึงได้หัวเราะพร้อมน้ำตาที่หลั่งออกมาเป็นเลือด..
ไม่มีใครเข้าใจคามรู้สึกของเธอในยามนี้เลยด้วยซ้ำ ราวกับโลกทั้งใบกำลังเล่นตลกอยู่กับเธอ..
“ฉัน..พยายาม..ไปเพื่ออะไรกัน”
“พยายาม..อะไรไปกันแน่”
“…..มือสองข้างนี้มีไปทำไมกัน”
“มือที่ไขว่คว้าอะไรไม่ได้”
“มือที่ฆ่าคนสำคัญ”
“อีกแล้ว.. อีกแล้ว.. เหมือนตอนที่พี่จากไปไม่มีผิด”
“ทำไม… ทำไมกันล่ะ”
“……”
Comments
การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม 351
บทที่ 351 – มือสองข้าง
“อ้า.. ไม่.. ไม่ … ไม่”
วินาทีเดียวที่คอของชาร์ล็อตถูกตัดนั้นราวกับพันธนาการที่มองไม่เห็นถูกปลดออกจากร่างกายของเลทิเซีย
เพียงพริบตาเดียวร่างเธอก็พุ่งทำลายทุกสิ่งอย่างที่ขวางหน้า คนทุกคน เพชฌฆาตก็ดี ประชาชนก็ช่าง
ภายใต้การเคลื่อนไหวที่ไร้ทางต้านของเลทิเซียร่างกายพวกมันกลายเป็นหมอกสีเลือดแทบจะทันที
เลทิเซียก้าวขาไปรับเอาหัวที่หลุดออกจากบ่าของชาร์ล็อต.. กิโยตีนพังถล่มลงต่อหน้าพร้อมกับร่างกายตั้งแต่ไหลไปจนถึงเท้า
เลือดสีแดงสดไหลออกจากคอที่ขาดจองเธออาบไปทั่วทั้งร่างเลทิเซีย..
“อ่า.. ไม่เหลือแล้ว… ไม่เหลือแล้ว..”
“ทำไม… ทำไม.. ชีวิตมันต้องก้าวต่อไป..?”
“ก้าวยังไง.. ในเมื่อทุกอย่างมันพังโดยที่ไม่ทันได้พยายามแบบนี้”
เพื่อน.. เพื่อที่แสนสำคัญของเธอนั้นสลายหายไปต่อหน้าต่อตาอีกครั้ง.. เป็นอีกครั้งแล้วงั้นสิ..
ทำไมถึงต้องเป็นแบบนี้.. เลทิเซียกอดหัวของชาร์ล็อตเอาไว้พร้อมกับร้องไห้ออกมา.. น้ำตาของเธออัดแน่นไปด้วยความรู้สึกที่มากกว่าคำว่าเสียใจ
เธอ..รู้สึกว่าโลกแบบนี้มันโหดร้ายเกินไปแล้ว มันพรากทุกชีวิตไปจากเธออย่างโหดเหี้ยม..
พวกเธอยังไม่ได้ทำอะไรเลย.. ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้กัน เพราะมนุษย์อันแสนโสมม เพราะสิ่งมีชีวิตอันแสนชั่วร้าย
เพราะโชคชะตาที่มันเล่นตลก.. เธอเงยหน้ามองขึ้นท้องฟ้า.. ไม่รู้ว่าทำไมยามนี้ท้องฟ้าถึงกลายเป็นสีแดงฉานราวกับอาบไปด้วยเลือด..
ความรู้สึกบางอย่างภายในหัวมันค่อยๆ จางหายลงไปอีกระดับ.. หัวใจของเลทิเซียเต้นรัวขึ้น.. รัวขึ้นจนหูสองข้างเธอไม่ได้ยินเสียงอะไรนอกจากเสียงหัวใจ
ตาย.. ตายแล้วก็ตาย..
ตลอดเส้นทางที่เธอเติบโตมา.. ไม่ได้ถูกปูพรมไว้ด้วยกลีบกุหลาบหรือเส้นทางแห่งแสงสว่างอันแสนสุขสบาย
แต่ทว่ามันกลับเต็มไปด้วยเลือดพรมสีแดงไม่ได้ถูกสร้างขึ้นจากความมั่งคั่งหรือความร่ำรวย
แต่ถูกปูลงไปด้วยความเกลียดชัง ความบ้าคลั่งและความตายของเพื่อน.. เพื่อน.. แล้วก็เพื่อน..
เส้นทางที่เลทิเซียก้าวผ่านมามันทำให้เธอเติบโตขึ้นทั้งพลังและจิตใจ.. แต่มันกลับน่าขำสิ้นดีที่.. ทุกการเติบโตมันแลกมากับการสูญเสียคำสำคัญ
ครั้งแล้วครั้งเล่า..มือทั้งสองข้างมันแปดเปื้อนไปด้วยโลหิตจากคนมากมาย.. โดยไม่ทันรู้ตัวเธอก็เป็นฆาตกรที่ทำให้ทุกคนสูญสิ้น
ไม่ว่าจะเพื่อนหรือใครก็ตาม.. ทุกคนล้วนตายเพราะเธอ.. เธอเป็นคนฆ่าพวกเขาเองกับมือ..
“หึ….หึ… ฮ่าๆๆๆๆ .. ฉัน.. ฉัน…”
“ฉันเป็นคนฆ่าทุกคน.. ฉัน.. เป็นฉันเอง ฮ่าๆๆๆ ”
เสียงหัวเราะของเธออัดแน่นไปด้วยความเกลียดชังที่มีต่อตนเอง.. และคนอื่น.. เสียงหัวเราะนั้นมันมากกว่าความบ้าคลั่ง
แต่มันอัดแน่นไปด้วยความมืดมัวราวกับว่าตัวเธอกำลังบิดเบี้ยว.. เธอเจ็บปวดทรมานจนแม้แต่น้ำตาของเธอก็ไม่อาจจะระบายความเสียใจนั้นออกมาได้
ความเจ็บปวดของการตายของเพื่อนๆ เธอ เธอไม่เคยลืมมันเลยสักครั้ง ฉากที่คอของสเตฟานี่ถูกตัด ฉากเจ็บปวดทรมานแสนสาหัสของโคลเอ้
การผูกคอตายของเซเรส การจากไปของอันน่า.. การตายที่ห่วงใยเธออย่างถึงที่สุดของซิลเวีย การตายของไวท์
และตอนนี้..ทสึรุและชาร์ล็อตก็จากไปโดยที่มีเธอเป็นจุดศูนย์กลางของทุกอย่าง หากเธอไม่บอกให้ทสึรุปกป้องโรงเรียนละก็
หากเธอไม่หายไปนานห้าปีละก็.. ชาร์ล็อตคงไม่ต้องตาย.. ทุกอย่างมันเริ่มต้นที่เธอ..
เสียงหัวเราะของเธอที่ถูกเปล่งออกมาจากปากนั้นจึงเต็มไปด้วยความเคียดแค้นที่มีต่อตนเอง..
เพื่อนเธอทั้งแปดคน… แปดคนเท่านั้นบนโลกแห่งนี้ที่มีคนมากมายไร้ที่สิ้นสุดนี้.. ตายเพราะเธอ.. ตายเพราะเธอ..
“ฮ่าๆ .. ฉันฆ่าทุกคน.. อีกแล้ว… พยายามไปแค่ไหนมันก็..เปล่าประโยชน์”
“ฮ่าๆๆๆๆ ”
เลทิเซียหัวเราะอย่างบ้าคลั่งทุกอย่างในมุมมองสายตาของเธอกลายเป็นสีแดงฉานหาใช่เพราะความโกรธหรือการเปลี่ยนแปลงของโลกไม่..
แต่เป็นเลือด.. บัดนี้น้ำตาของเธอไม่ได้ไหลออกมาเป็นน้ำใสสะอาดแต่เป็นสีแดงที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง..
ภาพนี้ช่างดูน่าหวาดกลัวอ่างแท้จริงร่างกายบอบบางที่อาบไปด้วยโลหิตสีแดง.. พร้อมกับเสียงหัวเราะที่คลุ้มคลั่งนั้น..
ทำให้ดูน่าเกลียดน่ากลัวไม่พอที่ตายยังมีน้ำตาสีโลหิตที่ไหลออกมา ไม่มีเข้าใจว่าเธอเกลียดชังและเสียใจไปมากขนาดไหน..
เป็นอย่างที่สตรีผมสีขาวนั่นกล่าว.. การตายของทสึรุและชาร์ล็อตเลทิเซียพอเดาได้อยู่บ้าง.. อันที่จริงมันเป็นแค่ข้อสันนิษฐานของเลทิเซียเท่านั้น
แต่จากคำอธิบายว่าเผ่าอสูรบางทีก็ตายไม่ได้ บางทีก็ตายได้แบบน่าสงสัย.. ผสมกับชื่อของเผ่าอสูรอย่างชาร์ล็อตหรือทสึรุนั้นเป็นชื่อจากบุคคลในประวัติศาสตร์ชาติที่แล้วของเลทิเซีย
แน่นอนว่าถึงจะเป็นเพียงแค่ข้อสันนิษฐานของเลทิเซียเธอก็พยายามจะหลีกเลี่ยงให้ถึงที่สุด.. เพราะงั้นเธอจึงได้สร้างโรงเรียนขึ้นมา..
หากที่เลทิเซียจำไม่ผิดแล้วละก็ทสึรุฮิเมะปกป้องปราสาทจนเสียชีวิต.. ดังนั้นเธอจึงสร้างโรงเรียนขึ้นมา
สถานที่ที่ไม่ใช่ทั้งประเทศหรือเขตการปกครอง.. เพราะมันคือเขตไร้อาณา.. เท่านี้ก็จะไม่มีฉากปกป้องดินแดนจนตัวตายแล้ว..
แต่เลทิเซียกลับไม่รู้ว่าสถานที่ที่มีเธออยู่คือ..สถานที่ที่สำคัญที่สุดสำหรับทสึรุ ดังนั้นความตายของทสึรุนั้นคงเป็นสิ่งที่กำหนดมาตั้งแต่แรกแล้วว่า..
เธอจะปกป้องสถานที่ของผู้เป็นที่รักอยากปกป้อง.. เลทิเซียต้องการปกป้องโรงเรียนลิเบอร์เพื่อทำให้โรงเรียนนี้เป็นสถานที่สำหรับทสึรุ..
ที่ไม่ต้องตายเหมือนตามตำนาน.. แต่ทสึรุกลับปกป้องโรงเรียนเพราะมันเป็นที่ที่เลทิเซียอยากปกป้อง..
สุดท้ายแล้วทั้งสองทำเพื่อกันและกันจึงต้องตายดับไปในที่สุด..
ชาร์ล็อตเองก็เช่นกันเลทิเซียพยายามจะไม่ให้เธอไปยุ่งเกี่ยวกับศาสนาที่ไม่รู้ที่มาที่ไป เพราะตามตำนานเธอได้ถูกปลุกฝังบางอย่างโดยฝ่ายหนึ่งในฝรั่งเศส
สุดท้ายเธอจึงลงมือลอบสังหารเพราะเชื่อในคำสอนบางอย่างนั้น.. ดังนั้นพอได้รู้ว่าชาร์ล็อตอยู่ที่ศาสนจักรเลทิเซียจึงต้องพาเธอกลับมา
มันต้องพากลับมาเท่านั้น.. ไม่อย่างนั้นจะเป็นตามตำนานไป.. แต่หารู้ไม่ว่าชาร์ล็อตหลังจากนั้นก็มีชีวิตอยู่เพื่อเลทิเซีย
เพราะมีเลทิเซียอยู่เธอถึงยังอยู่.. เพราะแรกเริ่มเดิมทีตัวตนของเลทิเซียก็อยู่สูงเกินกว่าคำว่าเพื่อนสำหรับชาร์ล็อตไปไกลโข
และเมื่อเลทิเซียหายไปเธอจึงถูกครอบงำด้วยความโกรธที่มีต่อพวกหัวรุนแรงอย่างถึงที่สุด คำสอนที่เหมือนการควบคุมจิตใจเป็นเพียงตัวกระตุ้นช่วยให้เธอฆ่าคนเท่านั้น
กล่าวคือ ไม่ว่าชาร์ล็อตจะอยู่ที่นู่นหรือที่ที่เลทิเซียอยู่สุดท้ายเธอก็จะต้องตาย… ใช่แล้ว.. ความพยายามตลอดห้าปีของเลทิเซียนั้นไม่ใช่เพียงไม่สำเร็จ..
แต่มันยังเป็นชนวนที่ย้อนกลับมาฆ่าคนสำคัญของเธอไปจนหมด.. ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องนี้เลทิเซียเข้าใจดีกว่าใคร
เพราะทุกอย่างมันเกิดจากเธอทั้งหมด ความตายที่เกิดขึ้นกลับเป็นความพยายามตลอดห้าปีที่ผ่านมา..
ไม่เพียงแต่ไม่สูญเปล่ากลับกลายเป็นคมดาบเสียเอง ดังนั้นเธอจึงได้หัวเราะพร้อมน้ำตาที่หลั่งออกมาเป็นเลือด..
ไม่มีใครเข้าใจคามรู้สึกของเธอในยามนี้เลยด้วยซ้ำ ราวกับโลกทั้งใบกำลังเล่นตลกอยู่กับเธอ..
“ฉัน..พยายาม..ไปเพื่ออะไรกัน”
“พยายาม..อะไรไปกันแน่”
“…..มือสองข้างนี้มีไปทำไมกัน”
“มือที่ไขว่คว้าอะไรไม่ได้”
“มือที่ฆ่าคนสำคัญ”
“อีกแล้ว.. อีกแล้ว.. เหมือนตอนที่พี่จากไปไม่มีผิด”
“ทำไม… ทำไมกันล่ะ”
“……”
Comments