ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ 568 คนชั่วตัวจริงคือใคร

Now you are reading ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ Chapter 568 คนชั่วตัวจริงคือใคร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

มู่เฉียนซียิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า “นายน้อยโม่เป็นผู้ปราดเปรื่อง คงจะดูออก”

โม่ซางคงกล่าว “อืม ข้าดูออก ตำหนักโม่อวี่ผิดต่อเขา ข้าเคารพในสิ่งที่เขาเลือก”

มู่เฉียนซีกล่าว “เรื่องอื่นข้ามิกล้าพูด ขอเพียงแค่ตำหนักโม่อวี่ไม่เป็นศัตรูกับข้า ข้าก็จะไม่เป็นศัตรูกับตำหนักโม่อวี่เช่นกัน หากเป็นไปได้ พวกเรายังสามารถร่วมมือกันได้”

“ข้าเชื่อในสิ่งที่อาจิ่นเลือก”

มู่เฉียนซีแบะปากเล็กน้อย “พวกเจ้าสมกับเป็นสหายกันจริง ๆ!”

คำพูดนี้มู่เฉียนซีได้กล่าวออกไปหลายครั้งแล้ว เพียงแต่ว่าโม่ซางคงกลับไม่รู้ความหมายของคำคำนั้น

เมืองโม่นับว่าเป็นพื้นที่ที่โม่จิ่นคุ้นเคยที่สุด ดังนั้นเวลาสามวันเขาก็จัดการเรื่องหอหมอปีศาจได้เสร็จเรียบร้อย

เมื่อเทียบกับการเปิดกิจการอย่างโอ่อ่าที่เมืองตงไห่แล้ว การเปิดหอหมอปีศาจที่เมืองโม่นี้ กลับจัดการอย่างเงียบ ๆ มิได้ร้อนแรงเหมือนก่อนหน้านี้

เพราะเป็นเช่นนี้ โม่จิ่นจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก มันช่างดีจริง ๆ หากยุ่งวุ่นวายราวกับลูกข่างเหมือนคราที่แล้วคงตงตายเป็นแน่!

มีการค้าใดบ้างที่ค้าขายเงียบเชียบเช่นนี้แล้วจะมีความสุข ผู้น้อยของหอหมอปีศาจรู้สึกว่าคุณชายจิ่นช่างเป็นคนที่แปลกประหลาดเสียจริง

โม่จิ่นรู้ดีว่านายท่านผู้วิปริตของตนนั้นไม่ยอมให้กิจการของหอหมอปีศาจเงียบเชียบเช่นนี้เด็ดขาด

รอหลังจากที่นางได้ลงมือ หอหมอปีศาจจักต้องโด่งดัง มีชื่อเสียงไปทั่วทั้งเมืองโม่แน่นอน

โม่ซางคงมาแจ้งมู่เฉียนซีว่า “แม่นางมู่ หัวหน้าหอชิงได้พาคุณหนูใหญ่ชิงมาแล้ว ตอนนี้เพิ่งจะเดินทางเข้าประตูเมืองมา จะจัดการเช่นไร ?”

มู่เฉียนซีกล่าว “พาพวกเขาไปที่หอหมอปีศาจ ข้ารอโฆษณามานานมากแล้ว”

มู่เฉียนซีเข้ามาอยู่ในตำหนักโม่อวี่มานาน และได้แต่เก็บตัวฝึกบำเพ็ญมาโดยตลอด วันนี้เป็นครั้งแรกที่นางจะออกไป

“นายท่าน ท่านมาแล้ว!” โม่จิ่นออกไปต้อนรับ ถึงแม้ว่าจะอยู่ต่อหน้าโม่ซางคง แต่เขาก็กล่าวเช่นนี้ออกมาตรง ๆ ด้วยความคิดของอาคง ก็เกรงว่าจะมองออกแล้ว

โม่ซางคงตกใจเล็กน้อย เขาและอาจิ่นเติบโตมาด้วยกัน รู้นิสัยของเขาดี

ทำตัวตามอำเภอใจ อิสระอย่างไร้ขอบเขต ไม่มีผู้ใดที่จะทำให้เขายอมจำนนได้ ที่แท้ก็เป็นเพราะว่า ผู้ที่สามารถทำให้เขายอมจำนนได้นั้น ยังไม่ปรากฏตัว ยิ่งเป็นเช่นนี้ โม่ซางคงก็ยิ่งรู้สึกว่ามู่เฉียนซีนั้น ยากที่จะหยั่งรู้ได้

มู่เฉียนซีกล่าวถามว่า “ได้ปล่อยข่าวออกไปแล้วหรือยัง ?”

“ปล่อยออกไปเรียบร้อยแล้ว”

ข่าวที่หัวหน้าหอชิงลั่วเข้าเมือง และได้นำตัวคุณหนูใหญ่ ผู้ที่นอนหมดสติมาให้รักษานั้น ได้ถูกแพร่งพรายออกไป

เป้าหมายของพวกเขาก็คือหอหมอปีศาจที่เพิ่งจะเปิดใหม่

หัวหน้าหอชิงลั่วย่างกรายเดินเข้ามาในหอหมอปีศาจ และกล่าวด้วยความไม่พอใจว่า “ไม่ใช่รักษาที่ตำหนักโม่อวี่หรอกรึ นึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าจะให้พวกข้าเดินทางมารักษาที่ร้านซอมซ่อเช่นนี้”

โม่จิ่นตอบกลับไปว่า “ถึงแม้ว่าหอชิงลั่วจะโอ่อ่าและมั่งคั่งเพียงใด แต่ก็ไม่อาจรักษาคุณหูใหญ่ให้หายได้ มิใช่เหรอ ?”

“นี่เจ้า……” หัวหน้าหอชิงลั่วโดนโม่จิ่นต่อว่าเช่นนี้ก็โกรธเกรี้ยวขึ้น แต่ฝั่งตรงข้ามนั้นมิใช่ผู้น้อยที่ธรรมดาทั่วไป อีกอย่าง ก็เป็นถึงยอมฝีมือขั้นมหาจักรพรรดิอีกด้วย

มู่เฉียนซีกล่าว “เอาตัวเข้ามาได้แล้ว!”

“เอาไปวางบนเตียง!”

เมื่อเหลือบเห็นสีหน้าของคุณหนูใหญ่ชิง มู่เฉียนซีก็รู้อยู่ในใจแล้ว

นิ้วมืออันเรียวยาวและบอบบางจับที่ชีพจรของนาง มู่เฉียนซีกล่าวว่า “นักปรุงยาหอชิงลั่วของพวกเจ้าช่างไร้ประโยชน์ยิ่งนัก คุณหนูใหญ่ชิงโดนพิษนานเพียงนี้กลับไม่มีนักปรุงยาท่านใดตรวจพบ”

“โดนพิษ เป็นไปไม่ได้!”

มู่เฉียนซีไม่อยากจะพูดจาไร้สาระกับพวกมือใหม่เหล่านี้ “เป็นไปได้หรือไม่นั้น ไม่ใช่สิ่งที่พวกเจ้าตัดสิน”

มู่เฉียนซีเดินเข้าไปปรุงยาในห้องปรุงยาของตัวเอง ตามที่คุณหนูใหญ่ชิงได้โดนพิษทั้งหมด นางจึงปรุงยาแก้พิษที่ดีที่สุดออกมา

เวลาผ่านไปหนึ่งก้านธูป มู่เฉียนซีก็เดินออกมาจากห้องปรุงยา และเตรียมที่จะฉีดยาแก้พิษให้กับคุณหนูใหญ่ชิง แต่หัวหน้าหอชิงลั่วกลับตกตะลึงและกล่าวขึ้นว่า “เจ้า นี่เจ้าจะทำอะไรหนิงเอ๋อร์ ?”

มู่เฉียนซีกล่าว “ยาแก้พิษก็ปรุงเสร็จแล้ว ข้าก็จะแก้พิษให้นางหน่ะสิ!”

“นี่เจ้ากำลังล้อเล่นอันใด นักปรุงยาของหอชิงลั่วพวกข้าดูแลอาการป่วยของหนิงเอ๋อร์มานานหลายปีก็รักษาไม่หาย จู่ ๆ เจ้าก็ปรุงยาออกมามั่วซั่วแล้วบอกว่าเป็นยาแก้พิษ นี่คงไม่ใช่ยาพิษหรอกมั้ง!”

มู่เฉียนซีขมวดคิ้วและกล่าวว่า “โม่จิ่น หากผู้ใดมาใส่ความข้าโดยไม่เป็นธรรมแล้วล่ะก็ จัดการโยนออกไปได้เลย”

“เจ้าจะโยนข้าออกไปงั้นรึ!”

ฉึก! ก่อนที่เขาจะโกรธนั้น มู่เฉียนซีก็ได้ปักเข็มยาลงบนแขนของคุณหนูใหญ่ชิงแล้ว

เวลาผ่านไปหนึ่งนาที ยาก็ออกฤทธิ์ขึ้น ใบหน้าที่ซีดเผือดของคุณหนูใหญ่ชิงก็เริ่มกลับมาเป็นปกติ และสิ่งนี้ทำให้หัวหน้าหอชิงลั่วที่เดิมทีวางแผนจะพาชิงหนิงไปประณามความผิดของตำหนักโม่อวี่ได้หุบปากลง

“เป็นไปไม่ได้!”

แพขนตาของคุณหนูใหญ่ชิงค่อยขยับเล็กน้อย และดวงตาก็ค่อย ๆ ลืมขึ้นอย่างช้า ๆ นางมองไปรอบ ๆ ด้วยความงุนงง ก่อนจะกล่าวขึ้นว่า “ท่านพ่อ พี่จิ่น ที่นี่คือที่ใด ?”

หัวหน้าหอชิงลั่วโกรธเป็นอย่างมาก “พี่จิ่น นี่เจ้ายังกล้าเรียกเดรัจฉานผู้นี้ว่าพี่จิ่นอีกงั้นเหรอ ?”

ใบหน้าของชิงหนิงเต็มไปด้วยความรู้สึกงงงวย นางได้หลับใหลไปนานจนไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น

มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “คุณหนูใหญ่ชิง ข้าเป็นนักปรุงยาที่รักษาเจ้า เจ้าหลับใหลไปนานจนร่างกายอ่อนแอมาก กินยาเม็ดนี้เพื่อฟื้นฟูเรี่ยวแรงก่อนเถอะ!”

มู่เฉียนซียื่นเม็ดยาให้ ถึงแม้ว่าคุณหนูใหญ่ชิงผู้นี้เพิ่งจะฟื้นขึ้นมา แต่นางกับท่านพ่อและน้องสาวของนางนั้นกลับต่างกันมาก

“ขอบคุณ!” ชิงหนิงรับเม็ดยามาและกล่าวขอบคุณมู่เฉียนซีด้วยความจริงใจ

เม็ดยาของมู่เฉียนซีนั้นมีประสิทธิภาพดีมาก ชิงหนิงฟื้นตัวได้ดีมาก มู่เฉียนซีกล่าว “หัวหน้าหอชิง ข้าคิดว่าเรากลับตำหนักโม่อวี่ เพื่อปรึกษาเรื่องบางเรื่องกันสักหน่อยเถอะ!”

 สีหน้าของหัวหน้าหอชิงพลันเปลี่ยนไปทันที นี่นาง……นางรักษาหนิงเอ๋อร์ได้แล้วจริง ๆ! นั่นก็หมายความว่า……

เขาแพ้เดิมพันแล้ว!

ในขณะที่ชิงหนิงได้ถูกนางรักษาจนหายและเดินออกไปจากหอหมอปีศาจนั้น ทุกคนต่างก็ตกตะลึงพรึงเพริดกับสิ่งที่เห็น

“รักษาหายแล้ว คุณหนูใหญ่ชิงได้รับการรักษาจนหายแล้วจริง ๆ”

ถูกหามเข้าไปในหอหมอปีศาจ แต่ตอนนี้กลับเดินออกมาได้ เห็นได้ชัดว่าร่างกายของนางนั้นไม่ได้เจ็บไข้ได้ป่วยแล้ว

“ได้ยินมาว่าคุณหนูใหญ่ชิงนอนป่วยมานานหลายปี ยังไม่มีผู้ใดรักษานางให้หายได้ นึกไม่ถึงเลยว่าหอหมอปีศาจจะรักษาหาย”

“หรือว่าจะเป็นฝีมือการรักษาของหมอปีศาจผู้ที่ยังไม่เคยปรากฏตัวผู้นั้น ?”

“……”

ถึงอย่างไรเสียชิงหนิงก็เป็นถึงคุณหนูใหญ่ของสำนักนิกายระดับหนึ่ง การโฆษณานี้ช่างเป็นที่น่าเชื่อถือมากยิ่งนัก

เมื่อกลับมาถึงตำหนักโม่อวี่ หัวหน้าตำหนักโม่อวี่กับเหล่าผู้อาวุโสเห็นชิงหนิงฟื้นขึ้นมาเป็นปกติ พวกเขาก็ล้วนแต่ประหลาดใจเป็นอย่างมาก

“รักษาได้แล้วจริงรึ ?”

หัวหน้าตำหนักโม่ยิ้มพลางกล่าว “ในที่สุดหนิงเอ๋อร์ก็หายแล้ว ตอนนั้นเกิดเรื่องอันใดขึ้นกับเจ้าที่ตำหนักโม่อวี่ เป็นเพราะข้าใช่หรือไม่ ?”

มู่เฉียนซีกล่าวว่า “คุณหนูใหญ่ชิง เล่าให้ข้าฟังหน่อยได้หรือไม่ ว่าตอนนั้นมันเกิดเรื่องอันใดขึ้น แล้วเพราะเหตุใดสุดท้ายถึงกลายเป็นว่าโม่จิ่นที่กระทำผิดต่อเจ้า ทำให้เจ้าสะเทือนใจจนต้องหมดสติไปจนไม่ฟื้นขึ้นมา!”

ชิงหนิงกล่าว “ไม่ใช่! พี่จิ่นไม่มีทางทำเช่นนั้นกับข้าแน่นอน ในวันนั้นข้าได้กินขนมที่ฮูหยินฉือให้มา แล้วก็หมดสติไป หลังจากนั้นเกิดอันใดขึ้นข้าก็ไม่รู้”

“ฮูหยินฉือ!” สีหน้าของทุกคนพลันเปลี่ยนไปมาก

หัวหน้าตำหนักโม่อวี่กล่าว “เด็ก ๆ! ไปตามฮูหยินฉือมา”

ฮูหยินฉือถูกเชิญเข้ามาในตำหนักใหญ่ ในขณะที่นางได้เห็นกับร่างสีขาวนั้น สีหน้าก็พลันเปลี่ยนไปทันที และนางก็กล่าวอย่างตะกุกตะกักว่า “คุ คุณ คุณหนูใหญ่ชิง……”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด