ช่วยทีครับ ใจผมรับคุณมาเฟียไม่ไหว 8
เมื่ออึนฮันพยักหน้า คามินสกีก็ออกรถทันที รถแล่นไปอย่างนุ่มนวล อึนฮันคิดว่าเขาชอบแอสตันมาร์ตินเข้าเสียแล้ว เขารู้ดีว่าตัวเองเป็นเกย์ที่เห็นแก่ได้ แต่นี่คือผู้ชายหุ่น A+++ ที่เป็นเจ้าของแอสตันมาร์ตินเชียวนะ อึนฮันได้แต่นึกเสียดายที่ชายหนุ่มคนนี้ดันเป็นคนบ้าระห่ำเสียนี่ หากอีกฝ่ายเป็นเพียงเกย์จอมเจ้าชู้ทั่ว ๆ ไป เขาคงไปยืนต่อแถวให้ผู้ชายคนนี้กอดสักครั้งแล้ว จะว่าไปคามินสกีก็เป็นไบเซ็กชวลนี่นา แต่เป็นไบนี่ละยิ่งน่ากลัวกว่าเดิมอีก เป็นผู้ชายที่ชอบแค่เพศตรงข้ามไปเลยไม่ได้หรือไงนะ
ระหว่างที่อึนฮันนั่งเสียดายรูปโฉมภายนอกของคามินสกีอยู่นั้น อีกฝ่ายก็เอ่ยปากขึ้นมาอีกครั้งหลังจากเงียบไปพักหนึ่ง
“นี่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ฉันควรเข้าไปก้าวก่ายหรอกนะ แต่ว่า…”
คามินสกีพูดต่ออย่างสุขุม
“นายควรตื่นให้เป็นเวลา กินข้าว แล้วก็ออกกำลังกายเสียหน่อย โครงร่างนายสวยจะตายไป น่าเสียดายออก”
โว้ย คนดี ๆ ที่ไหนเขาจะทักเรื่องแบบนี้กัน! มาพูดบ้าอะไรถึงหุ่นคนอื่น! ได้โปรดทวงความเป็นมนุษย์กลับคืนมามั่งเหอะ! ตอนอยู่อนุบาลเรียนอะไรมาเนี่ย!
แน่นอนว่าอึนฮันไม่ใช่คนที่จะพูดคำพวกนี้ออกมาได้ เขาจึงได้แต่ปิดปากเงียบเท่านั้น เมื่อเห็นว่าอึนฮันไม่พูดอะไร คามินสกีจึงพูดต่อ
“ฟังดูเหมือนตาแก่โง่ ๆ เลยเนอะ”
คามินสกีบอกว่าตัวเขาเองก็มีมุมแบบนั้นเหมือนกันก่อนจะหัวเราะออกมา เขาดูเหมือนคนที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวเองเลยสักนิด อึนฮันไม่ได้ตอบอะไร เอาแต่มองออกไปนอกกระจกหน้าต่างให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเมื่อได้มองออกไปด้านนอก เขาจึงเห็นว่ารถแล่นเข้าไปใกล้สถานที่หนึ่งซึ่งเขาเคยเห็นอยู่หลายครั้งแต่ไม่เคยเข้าไป คามินสกีเลี้ยวรถเข้าไปในร้านอาหารที่นอกจากจะเป็นร้านอาหารชั้นหนึ่งแล้วยังเข้าไปไม่ได้หากไม่จองล่วงหน้า ว่าแต่ทำไมถึงเข้ามาในร้านอาหารที่ยังปิดอยู่ล่ะ หรือว่าคิดจะตัดแขนตัดขาเขากัน ถึงแม้จะรู้ว่าไม่ใช่แบบนั้น แต่พอนึกถึงสิ่งที่คามินสกีเคยทำกับภรรยาของพ่อค้ายารายหนึ่งแล้วก็อดเสียวสันหลังขึ้นมาไม่ได้
“อ้าว วาซยา ไม่เจอกันนานเลยนะคะ”
เจน เชฟร้านอาหารที่มักเห็นอยู่ในโทรทัศน์บ่อย ๆ ได้ยินว่าคามินสกีมาถึงแล้วจึงรีบวิ่งออกมาจากห้องครัว พออึนฮันเห็นทั้งสองคนกอดกันอย่างยินดีแบบนั้นแล้วก็ได้แต่คิดว่า ‘โลกนี้ขอแค่มีเงินก็พอสินะ’ จากนั้นเจนก็ปรายตามองมาที่อึนฮันซึ่งยืนอยู่ข้างคามินสกี
“แล้วคุณคนนี้ล่ะคะ”
“เขามากับฉัน เห็นบอกว่ายังไม่ได้กินข้าวเช้าเลยพามาน่ะ โทษทีนะ ร้านยังไม่เปิดเลยนี่”
“ไม่เป็นไรเลยค่ะ วาซยา เราเป็นอะไรกันล่ะ…เข้ามาเถอะค่ะ มื้อเช้าแบบนี้ งั้นก็เป็นอะไรง่าย ๆ ดีไหม”
เจนพูดแบบนั้นพลางดึงชายเสื้อคามินสกีไปทางหนึ่ง อึนฮันเดินตามพนักงานเสิร์ฟเข้าไปยังห้องโถงว่างเปล่า แต่แล้วเสียงของเชฟสาวก็ลอยมาเข้าหู
“ว่าแต่เขาเป็นอะไรกับวาซยาเหรอ ถึงมากินมื้อเช้าด้วยกันได้”
ไม่ได้เป็นอะไรกันทั้งนั้นละ ไม่มีอะไรเลยจริง ๆ รีบตอบเธอไปเร็วสิ คามินสกี ไอ้บ้าโรคจิตเอ๊ย! แต่อึนฮันเดินไปถึงห้องโถงเรียบร้อยแล้ว จึงไม่ได้ยินบทสนทนาของทั้งสองคนที่ยังยืนอยู่หน้าห้องครัวอีก
+++++++++++++++++++++++++++++++
อึนฮันไม่ได้อยากติดหนี้คามินสกีเลย แต่เขาจ่ายค่าอาหารไม่ได้จริง ๆ ไม่ใช่เพราะเมนูของร้านหรือเพราะเดาราคาอาหารไม่ได้ด้วย แต่เพราะเจนเอาแต่พูดว่า ‘เราเป็นอะไรกัน’ แล้วไม่ยอมรับเงินจากคามินสกีต่างหาก เขาเลยพลอยคืนเงินให้คามินสกีไม่ได้ไปด้วย อึนฮันที่ต้องติดหนี้คามินสกีโดยไม่ทันตั้งตัวกลับมานั่งในรถด้วยสีหน้าหม่นหมอง เห็นแบบนั้นคามินสกีจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“อาหารไม่ถูกปากเหรอ”
“มะ…ไม่ใช่นะครับ”
อึนฮันส่ายหน้า อาหารน่ะอร่อยอยู่แล้ว อร่อยเสียจนเขาเพิ่งรู้ว่าแค่เฟรนช์โทสต์กับออมเลตเสิร์ฟพร้อมเบคอนมันจะอร่อยได้ขนาดนี้ แต่อร่อยก็ส่วนอร่อย ไม่ชอบสถานการณ์ตอนนี้ก็ส่วนไม่ชอบ
“โล่งอกไปที”
คามินสกียิ้ม อึนฮันมองออกไปนอกกระจกหน้าต่างพลางกลืนสิ่งที่อยากจะถามตั้งแต่เมื่อกี้ลงไป ทำไมไม่ไปที่ที่มันเป็นส่วนตัวกว่านี้ล่ะ คุณทำแบบนี้ทำไมกันแน่ ผมกลัวจะตายอยู่แล้วนะ ให้ตายสิ อึนฮันตัวสั่น ไม่รู้ว่าควรถามออกไปหรือไม่ว่าอีกฝ่ายจะพาเขาไปไหน แต่ในขณะที่เขากำลังคิดวนไปวนมาเป็นครั้งที่หนึ่งร้อยสามสิบสี่นั่นเอง คามินสกีก็เหลือบดูกระจกมองหลังแล้วกระตุกยิ้ม
“มีแมลงมาตอมซะแล้วสิ”
อึนฮันตกใจหันไปมองด้านหลังทันที ก่อนจะรีบหันกลับมาอย่างรวดเร็วพลางคิดว่านี่เป็นความผิดของเขาเองแท้ ๆ ถ้าดูจากในหนัง คนเขาก็บอกอยู่ว่าอย่าหันหลังกลับไปมอง โง่จริง!
“ผะ…ผมขอโทษครับ คุณคามินสกี”
“นายจะขอโทษทำไม”
คามินสกีถามอย่างสงสัย สีหน้าเปลี่ยนเป็นบึ้งตึง แต่แล้วเมื่ออึนฮันเอ่ยถามว่า “ก็ผมหันไปมองข้างหลังนี่ครับ ที่จริงผมทำอย่างนั้นไม่ได้ไม่ใช่เหรอ”
เขาก็เผลอหัวเราะออกมาทันที
“อะไรกันเนี่ย ยุน ฉันก็นึกว่านายจะจับฉันส่งตำรวจเสียอีก อย่าทำให้ฉันสับสนสิ”
Comments