Dungeon Defense (WN) 264 แล้วใครอยู่เหนือใครกันแน่? (1)

Now you are reading Dungeon Defense (WN) Chapter 264 แล้วใครอยู่เหนือใครกันแน่? (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

บทที่ 264 – แล้วใครอยู่เหนือใครกันแน่? (1) 

 

 

เรามาดูกันดีกว่าว่า ลำดับชนชั้นในกองกำลังของดันทาเลี่ยนเป็นอย่างไร

 

สามปีนับตั้งแต่ที่เริ่มการก่อสร้างดันเจี้ยนของผมเริ่มขึ้น

ั้ชั้นแรก ,ชั้นใต้ดินชั้นแรก, ชั้นใต้ดินชั้นสอง  และ ชั้นใต้ดินชั้นสาม สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนที่เหลือก็ค่อยๆก่อสร้างกันต่อไป

ณ ตอนนี้ ทั้งก็อบลินและเหล่าคนแคระจำนวนมากต่างเดินพลุกพล่านอยู่ในดันเจี้ยนพร้อมกับอุปกรณ์ในมือ

 

ในบรรดาชั้นทั้งหมดที่กำลังก่อสร้างอยู่ ชั้นใต้ดินชั้นสิบนั้นถูกสร้างขึ้นก่อนชั้นอื่น เพราะนั่นเป็นสถานที่ที่บุคคลสำคัญของกองกำลังของดันทาเลี่ยนพักอาศัยอยู่

หรือพูดง่ายๆก็คือ บุคคลที่อยู่ชั้นใต้ดินชั้น 10 นี่คือ บุคคลสำคัญในกองกำลังของพวกเรา

บุคคลผู้อยู่ลำดับสูงสุดในกองกำลังดันทาเลี่ยนก็ย่อมต้องเป็นผม , ดันทาเลี่ยน ผู้นี้เอง

 

 

“ท่านพ่อ,ฉันชงชามาให้”

ในออฟฟิศประจำใต้ดินชั้นสิบ

เดซี่เดินมาใกล้ๆขณะที่ผมนั่งอ่านเอกสารอยู่ เธอวางถ้วยชาลง ไอควันร้อนๆผุดลอยจากถ้วยน้ำชา

 

“ขอบใจ”

ผมพยักหน้าให้

“แล้วคราวนี้ใส่ยาพิษแบบไหนลงไปกันล่ะ?”

 

“ฉันใส่ยาพิษที่จะละลายกระดูกของท่านพ่อ หากท่านพ่อยังคงรับมันต่อเนื่องไป 200 ปี”

เดซี่ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

 

“ฉันออกจะพอใจกับสภาพตัวยาพิษที่ไร้สี,ไร้รส และไร้กลิ่น ตามที่เจเรมิสอนค่ะ ฉันภาคภูมิใจกับยาตัวนี้มาก”

 

“ทำได้ดี คราวนี้ไปชงชามาใหม่”

 

“ค่ะ, ท่านพ่อ”

เดซี่ยกถ้วยชาออกไป

 

เดซี่อายุครบ 14 ปีเมื่อเดือนที่แล้ว ย้อนกลับไปเมื่อสมัยเธอยังอายุ 10 ปี เธอเป็นเด็กที่ทำตัวไม่ต่างจากฆาตกรตัวน้อย

แม้จะอายุ 14 ปีแล้ว แต่ก็ยังคงแผ่บรรยากาศที่น่าหลงไหล เธอนั้นเติบโตขึ้นมาเป็นนังงูพิษที่ทรงเสน่ห์

 

“ท่านไม่คิดจะลงโทษหรือคะ?”

ลาพิส, ผู้มองไปยังกองเอกสารข้างๆผมถามขึ้น

“นางพยายามวางยาท่าน ย่อมต้องสมควรถูกเฆี่ยนโบย”

 

“ใจเย็นน่า นี่ก็เป็นครั้งที่ เจ็ดสิบสี่แล้วที่นังหนูนั่นพยายามจะวางยาพิษใส่ข้า”

 

เธอนั้นหันไปใช้การวางยาพิษ ซึ่งมันไม่มีทางได้ผลจนกว่าจะรับตัวยานั้นต่อเนื่องยาวนานถึง 200 ปี ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะตราทาสที่สลักอยู่บนหัวใจของเธอ

เอาจริงๆการทำแบบนั้น ไม่อาจเรียกได้เต็มปากว่า เป็นการพยายามวางยาฆ่าผมด้วยซ้ำ 

น่าเสียใจแทนจริงๆ

 

“แม่นั่นเป็นคนที่จะทำตัวแบบนั้นไปชั่วชีวิตนั่นแหละ อย่าสนใจเลย”

 

“รับทราบค่ะ”

ลาพิสพยักหน้าด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย

เธอไม่ได้แสดงความไม่เห็นด้วยกับคำพูดของผมแล้วหันกลับไปทำงานเอกสารตรงหน้าต่อ

ลาพิสยังคงสวมชุดสูทเหมือนเช่นเคย พร้อมกับเปียผมสีชมพูที่วางทาบบริเวณอกของเสื้อสูท

 

ลาพิส ลาซูลินั้นเป็นอันดับ สอง ของกองกำลังดันทาเลี่ยน

 

เธอรับหน้าที่ทำงานในส่วนงานหลังบ้าน ซึ่งเป็นส่วนที่มีอำนาจมากที่สุดในกองกำลังของผม

 

 

ไม่ใช่แค่เพียงมีอำนาจในการจัดการภายในปราสาทจอมมารของผม แต่ยังรวมถึงที่ดินอีกด้วย ทั้งยังต้องรับผิดชอบในส่วนของคุก และการควบคุมดูแลดินเขตแดนกว่าครึ่งของผม

 

มันเป็นการรวมศูนย์ของอำนาจการบริหารจัดการ, ตำรวจ รวมถึงงานหน่วยงานราชการต่างๆให้เป็นหนึ่งเดียวกันด้วย 

 

ลาพิส ลาซูลิ ผู้มีตำแหน่งสูงสุดในฝ่ายนี้ นับว่าเป็น……อืมม เธอเป็นดั่ง นายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการตำรวจ รวมถึงผู้นำชาติ

หากมองจากมุมนั้นก็นับได้ว่าเธอมีตำแหน่งใหญ่โตมากเลยทีเดียว

 

โอ้ ใช่ ลาพิสเองก็ยังเป็นพวกขยันศึกษาและยังฟู่ฟ่าอีกด้วย

แถมยังเป็นผู้คุมฝ่ายการเงินการบัญชีและแผนกก่อสร้างอีกด้วย

 

พอเพิ่มตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายการเงินและการก่อสร้างเข้าไปในรายชื่อตำแหน่งที่เธอครองอยู่นั้น ก็กลายเป็นว่า เธอเกิดก่อกบฏต่อต้านขึ้นมาเมื่อไหร่ กองกำลังดันทาเลี่ยนก็ล่มจมเมื่อนั้น

 

ฮ่าฮ่า

 

“ท่านดันทาเลี่ยนคะ, กรุณารับรองเอกสารนี้ด้วยค่ะ”

 

“โอ้ ได้เลยๆ ข้าก็พอรู้อยู่แล้วว่า งานมันเยอะ แต่มันจำเป็นต้องมานั่งทำงานที่โต๊ะเดียวกันด้วยหรือยังไง?”

 

“จำเป็นค่ะ”

ลาพิสตอบในทันทีโดยไร้ซึ่งความลังเล

“ที่เอกสารกองสูงขนาดนี้ก็เนื่องจากท่านเอาแต่ไปเที่ยวเล่นกับคุณลอร่า และมันจะเป็นปัญหามากหากท่านไม่รีบจัดการมันโดยเร็ว”

 

“แต่ตอนนี้มันยังเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์…….”

 

“ดิฉันได้ทราบมาว่า ท่านมีนัดหมายกับฝ่าบาทบาร์าทอสในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้”

หากผมจะรับรู้ความรู้สึกอะไรสักอย่างขึ้นมาได้ คงจะเป็นแววตาที่แสนเย็นชาของลาพิสนี่แหละ

 

 

“หากยังผัดผ่อนไปอีก เมื่อถึงเวลาท่านก็ต้องหาข้ออ้างที่ยังทำงานไม่เสร็จในตอนที่ฝ่าบาทบาร์บาทอสมาเยือนค่ะ”

 

“นี่เจ้าล่วงรู้ถึงแผนการอันสมบูรณ์แบบของข้าอย่างนั้นรึ……!?”

 

ทำเอาผมเสียววาบไปถึงไขสันหลังราวกับถึงจุดสุดยอด  เป็นไปไม่ได้น่า

ในเรื่องการวางแผนแล้ว ผมออกจะมั่นใจว่าไม่มีทางที่จะพ่ายแพ้ผู้ใดในทวีปนี้ แต่ผู้ที่ล่วงทันแผนการของผมกลับกลายเป็นซัคคิวบัสระดับต่ำ

 

“ดิฉันอยู่กับฝ่าบาทมากี่ปีกันแล้วคะ? คราวนี้ท่านหนีไปไหนไม่ได้แล้วค่ะ ยอมแพ้เถอะค่ะ”

 

“นี่มันแค่สี่วันหลังจากพวกเรายึดไฮเดลเบิร์กได้เองน้ะ……กระซิก, ข้าอยากจะเที่ยวเล่น…….”

ผมอ่านเอกสารด้วยน้ำตาที่ไหลริน

 

 

เอาเข้าจริง ลาพิสเองก็ไม่ต่างจากผู้ให้การสนับสนุนหลัก เธอเป็นคนเดียวที่ผมไม่อาจต่อต้านได้ หากไม่มีลาพิสแล้ว ผมเองก็คงไม่อาจทำกำไรก้อนโตจากสมุนไพรดำและทำให้ปฏิบัติการณ์มิเนอร์ว่า ลุล่วงไปได้

 

 

หากลอร่ากวนโมโหผม ผมก็แค่จัดการกับเธออย่างรุนแรงสักสองวันติด

หากเดซี่กวนโมโหผม ผมก็แค่มอบบทเรียนให้กับเธอตลอดทั้งคืน

แต่ถ้าหากลาพิสโกรธขึ้นมา ถือว่า เกมจบทันที

ผมได้แต่กราบกรานและขอให้เธอยกโทษให้

 

 

“ฟู่ววว”

เสียงถอนใจดังมาจากใต้โต๊ะ

 

 

“นายท่าน นี่ก็สี่รอบเข้าไปแล้วนะ”

 

ลอร่านั่นเอง เธอเป็นทำน้ำรักของผมหกขณะที่ยังนั่งคุดคู้อยู่ใต้โต๊ะ เหตุผลที่ก่อนหน้าผมเสียววาบนั่นก็เพราะผมถึงจุดสุดยอดจริงๆนั่นแหละ 

ลอร่าถึงกับถอนใจออกมาหลังกลืนสิ่งที่ผมหลั่งออกมาลงคอ

 

“ฉันจะกลับห้องไปอ่านหนังสือปรัชญาเล่มใหม่ของ แอนโทน อาร์เน้าท์ ที่เพิ่งได้มา…….”

 

“เธอทำแบบนั้นไม่ได้ หากเธอไปแล้ว ข้าก็ต้องทำงานเอกสารนี่โดยไม่มีอะไรบันเทิงน่ะสิ อยู่ทำต่อจนกว่าข้าจะเสร็จงานเอกสารพวกนี้”

 

“……พี่ลาพิสคะ , อีกนานแค่ไหน นายท่านถึงจะทำงานเอกสารทั้งหมดนี่จนเสร็จกันล่ะคะ?”

ผมเองก็สงสัยเหมือนกันแหละน่า

 

ลาพิสก็ตอบกลับมาว่า

“ใช้เวลาราว 5 ชั่วโมงค่ะ”

 

“นี่ นายท่านกำลังจะบอกให้ตัวฉันใช้ปากทำให้ต่อเนื่อง 5 ชั่วโมงเลยหรือ!?”

ลอร่าทำหน้าเหมือนอยากจะร้องไห้ออกมา

 

“นายท่านอาจไม่รู้เรื่องนี้ แต่มันเป็นภาระหนักต่อกรามมากๆ! 

อยู่ๆไอ้นั่นของนายท่านก็ขยายตัวขึ้นมาจนยากที่จะใช้ปากอมให้รอบได้”

 

“อะ อ๊า ช้าก่อน อย่าฟาดตีด้วยนิ้วสิ หลังจากข้าหลั่งแล้ว มันจะอ่อนไหวเป็นพิเศษ”

 

ลอร่า เดอ ฟาร์นาเซ นั้นเป็นลำดับ 3 ในกองกำลังดันทาเลี่ยน

 

เธอนั้นรับหน้าที่ดูแลทางการทหาร จะเรียกง่ายๆว่าเป็น รัฐมนตรีกลาโหมก็ได้ แต่จริงๆเธอมีอำนาจมากกว่านั้นเล็กน้อย

นั่นก็เพราะเธอนั้นรับหน้าที่ทั้งเป็นศูนย์กลางทางการทหาร ฝ่ายบัญชาการ รวมถึงฝ่ายปฏิบัติการอีกด้วย

 

มอนสเตอร์ทุกตัวที่พักอยู่ในดันเจี้ยนต้องฟังคำสั่งของลอร่า ไม่เช่นนั้น ลอร่าก็จะลากพวกนั้นไปลงโทษได้ทันทีโดยไม่ต้องรอคำอนุญาติจากผม

 

หากเป็นช่วงเวลาที่เธอรับภารกิจทางการทหารเธอจะเคร่งครัดวินัย ไร้ความเห็นใจ

ดังนั้นในทุกเดือนจึงมีมอนสเตอร์อย่างน้อยสองถึงสามตัวที่โดนลากไปประหารเนื่องจากขัดคำสั่ง มอนสเตอร์ทั้งหลายที่อยู่ในดันเจี้ยนจึงกลัวลอร่ามากกว่าผมด้วยซ้ำ

 

“หญิงสาวผู้นี้เป็นผู้ยึดเมืองไฮเดลเบิร์กได้ มิใช่นายท่าน!

จริงๆตัวฉันต้องได้รับวันหยุดพักผ่อนด้วยซ้ำ จึงไม่สมเหตุสมผลเลยที่ต้องมารับใช้นายท่านอีก 5 ชั่วโมง…….นี่มันไม่ยุติธรรมเลย!”

 

“เจ้าเพิ่งตระหนักถึงความจริงขึ้นมาตอนนี้เองน่ะหรือ ? โลกใบนี้มันอยุติธรรมอยู่แล้ว ถ้าเจ้าไม่พอใจล่ะก็ จงมาเป็นจอมมารสิ”

 

“อึก……!”

 

ลอร่าเริ่มบริการน้องชายผมด้วยปากทั้งน้ำตา

อื้มมมม ความอบอุ่นห่อหุ้มทั้งร่าง ผมถึงกับฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีขณะอ่านเอกสารตรงหน้า

 

ลำดับถัดมา ลำดับ 4 ของกองกำลังจอมมารดันทาเลี่ยน ก็คือ พาร์ซิ เขานั้นเป็นผู้ดูแล ควบคุมดินแดนรอบนอกปราสาทจอมมาร

 

เขามีสิทธิ์ในการบริหารดูแลและการจัดการภาษีในดินแดนนี้

หากลอร่าเป็นตัวตนที่สุดน่าสะพรึงกลัวในหมู่มอนสเตอร์ พาร์ซิเองก็เป็นตัวตนที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดในหมู่มนุษย์

 

ถัดจากเขาแล้ว ก็เป็นเจเรมิในลำดับที่ 5 เธอเป็นหัวหน้าหน่วยทหารใต้การบังคับการดูแลหมู่บ้าน

เธอเป็นผู้ออกคำสั่งบังคับในการจำคุกในฐานะตัวแทนของลาพิส ทั้งอำนาจในการสั่งขังคุก จับเผา รวมถึงตัดคอนักโทษ

 

และเดซี่ เป็นลำดับที่ 6 เธอเป็นเลขาส่วนตัวของผมและยังอยู่ในฐานะหัวหน้าสาวใช้

 

เหล่าภูตและมอนสเตอร์จำนวนมากที่ทำงานให้ในฐานะคนรับใช้ของผมในปราสาทจอมมารก็มีเดซี่คอยกำกับดูแลพวกนั้นอยู่

ยิ่งไปกว่านั้น งานของเดซี่ก็คือ การถ่ายทอดคำสั่งของผมไปยังทุกคนในดินแดน จะบอกว่าเธอเป็นดั่งผู้ช่วยใกล้ชิดคนสนิทของผมก็ว่าได้

 

 

“ฉันชงชามาอีกถ้วยแล้วค่ะ”

 

“ยินดีๆ ว่าแต่พิษคราวนี้ใส่ลงไปเท่าไหร่ล่ะ?”

 

“พิษครั้งนี้จะทำให้อวัยวะภายในเน่าหากดื่มต่อเนื่อง 300 ปี”

 

“ไปชงมาใหม่อีกถ้วย”

 

“ค่ะ, ท่านพ่อ”

ถึงอย่างนั้นผมก็มีปัญหาอยู่เหมือนกันกับการที่ผู้ช่วยใกล้ชิดพยายามที่จะแอบฆ่าผมในทุกครั้งที่มีโอกาส

 

ต่อจากนี้ก็คงไม่ต้องไล่รายชื่อแล้ว พวกหัวหน้าหมู่บ้านและมอนสเตอร์ระดับสูงอื่นๆในห้องบอสในทุกชั้นเป็นลำดับที่ 7 ซึ่งไม่ได้มีแค่หนึ่งสองตัว สองคน

 

อ้อ แล้วก็พี่ชายของเดซี่ อย่างลุก รองหัวหน้าของทหารหมู่บ้าน เขาตั้งใจฝึกฝนตัวเองใต้การดูแลของเจเรมิ ผมมอบลำดับให้เขา นั่นก็คือ 15

ผมก็แอบสงสัยอยู่เช่นกันว่า เขาจะรู้สึกยังไงกับการที่อยู่ต่ำกว่าน้องสาวตัวเอง

 

ถ้าให้สรุปคร่าวๆก็ได้อย่างนี้:

 

ดันทาเลี่ยน > ลาพิส > ลอร่า >>> พาร์ซิi > เจเรมิ > เดซี่ >>> หัวหน้าหมู่บ้านคนอื่นๆ + มอนสเตอร์ระดับสูง

 

นี่เป็นลำดับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ

 

แต่ถ้าให้เจาะลึกลงรายละเอียดแล้วล่ะก็ มันจะยุ่งยากซับซ้อนขึ้นไปอีก

 

 

“ดันทาเลี่ยน!”

ใครบางคนเตะประตูห้องทำงานขณะเข้ามา ผมเงยหน้าขึ้นแล้วเห็นบาร์บาทอสกำลังฮึดฮัด พร้อมกับผมสีขาวที่โบกสะบัด

ทันทีที่จอมมารระดับสูงปรากฏกายขึ้น ลาพิสก็ลุกขึ้นและหมอบลงในทันที

ผมถึงกับมุ่ยหน้า

 

“เฮ้ นี่เป็นห้องนั่งเล่นของเธอรึไงกัน? หากจะมาเยี่ยมกันก็ส่งข้ารับใช้มาบอกพวกเราก่อนสิ”

 

“ไอ้ลูกกะหรี่ ก็สัญญากันแล้วไม่ใช่เหรอวะ ว่าจะประชุมกันที่วินโดโบน่ากันเช้านี้แล้วนี่มันอะไรกัน? ส่งข้ารับใช้งั้นเรอะ? ไอ้ที่อยู่บนคอแกนี่มันกะโหลกหรือถังขยะกันแน่วะ!?”

 

“หาาา?”

ผมถึงกับประหลาดใจ

 

“วันนี้คือวันที่เรานัดกันอย่างนั้นรึ? ไม่ใช่วันพรุ่งนี้รึไง?”

 

“ไอ้ห่านี่!”

บาร์บาทอสขบเคี้ยวฟันตัวเอง ลมหายใจหนักๆบ่งบอกชัดเจนเลยว่า เธอโกรธมาก

 

“ข้าก็คิดว่า แกน่าจะใกล้มาถึงแล้ว แต่แกกล้าดียังไงวะ ปล่อยให้ข้ารออย่างนั้น จนถึงเย็น?”

 

“ดะ-เดี๋ยวนะ ก็ข้าคิดว่าเป็นวันพรุ่งนี้จริงๆ! ผู้ช่วยข้าก็บอกว่า ข้ามีนัดกับเธอพรุ่งนี้!”

ผมหันไปมองเดซี่ด้วยใบหน้าที่เริ่มซีดลง

 

“ฉันไม่ทราบว่า ท่านกำลังพูดอะไรอยู่ค่ะ,ท่านพ่อ

แต่ฉันนั้นเขียนสิ่งที่ท่านบอกกับฉันลงในสมุดจดแล้วค่ะ”

เดซี่ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

 

 

แต่ผมสังเกตเห็นมุมปากของเธอนั้นขยับยกขึ้นราวๆ 3 มิลลิเมตร

ดวงตาของเดซี่นั้นเปล่งประกายราวกับจอมวางแผนที่ผลักดันแผนตัวเองจนสำเร็จ

 

“เจ้า!?”

 

“ตอนที่แกไปลั้นลากับไพมอน มันก็ทำให้ข้าเดือดพอแล้วนะโว้ย? แล้วนี่ยังจะอะไรอีก ปล่อยให้ข้ารอเก้ออีก? ดันทาเลี่ยน, ไอ้ลูกกะหรี่อย่างแกนี่ นับว่าใจกล้าน่าดูเลยจริงๆ”

 

มือขวาบาร์บาทอสนั้นมีหุ้มห่อด้วยมานาสีดำสนิท แล้วก็มีแส้โผล่ขึ้นมา เธอกระชับแส้ในมือแน่นแล้วเดินตรงมาหาผม ผมตัวสั่นด้วยความผวา

มันเป็นความจริงอันน่าเศร้า แต่ไม่ว่าจะพูดยังไงก็ตาม ลำดับในกองกำลังดันทาเลี่ยนนั้น……บาร์บาทอสน่ะ อยู่บนสุดเสมอ ความแตกต่างของกำลังมันก็เป็นแบบนี้

‘บาร์บาทอส >>>>>> ดันทาเลี่ยน’, แล้วผมจะไปทำอะไรได้กันล่ะ?

 

ผมมองเหล่าข้ารับใช้ด้วยห้อมล้อมด้วยแววตาที่สิ้นหวัง

ช่วยผมด้วย!

 

“…….”

 

“…….”

 

ไม่มีใครสบตาผมเลย มันเป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน? ที่กำลังจะบอกผมว่า ความจงรักภักดีที่เคยมีมามันหมดสิ้นไปแล้วเรอะ? 

ไม่มีแม้สักคนเดียวที่ภักดีพอจะกล้าสละชีพแทนเจ้านายตัวเองสักคนเลยงั้นเรอะ?

 

 

“หืม พี่บาร์บาทอสอยู่นี่ด้วย”

ตอนนั้นเองที่ลอร่าคลานขึ้นมาจากใต้โต๊ะ

บาร์บาทอสหยุดและมองไปที่ลอร่า

 

“……อ้าว ลอร่า? ทำไมเธอไปมุดอยู่ตรงนั้น?”

“นายท่านน่ะให้ฉันใช้ปากทำให้เขา ตัวฉันก็เลยวุ่นยุ่งอยู่กับเรื่องนั้น แต่เรื่องสำคัญกว่านั้น ล่าสุดที่เราไปเที่ยวกัน ท่านสัญญากับฉันไม่ใช่หรือคะ ว่าพรุ่งนี้เราจะไปเที่ยวกันอีก แล้วทำไมอยู่ๆท่านถึงได้หายตัวไปในเช้าวันรุ่งขึ้นได้ล่ะ?”

 

“โอ้ ระ-เรื่องนั้น”

บาร์บาทอสพูดตะกุกตะกักทันที ความโกรธขึ้งหายไปแทนที่ด้วยการที่เธอนั้นเหงื่อท่วม

 

“คือ อยู่ๆก็เกิดเรื่องขึ้นที่วินโดโบน่าน่ะ ข้าเลยต้องไปจัดการมัน”

 

“ดูเหมือนคำสัญญาระหว่างเราจะไม่ได้สลักสำคัญขนาดนั้นสินะคะ? หญิงสาวผู้นี้ตื่นเต้นที่จะได้ใช้ช่วงเวลาตอนเช้าร่วมกันกับท่านแท้ๆ…….แต่ดูเหมือนท่านจะไม่มีความสุขกับเรื่องนั้นเท่าไหร่”

 

“มะ-ไม่ใช่! มันไม่ใช่แบบนั้น!”

อยู่ๆบาร์บาทอสก็ถอนการอัญเชิญแส้ในมือแล้วรีบเดินไปหาลอร่า

 

 

ใช่แล้วล่ะ

 

เป็นเรื่องที่น่าตกใจเหมือนกันที่ 

‘บาร์บาทอส >>>>>> ดันทาเลี่ยน’ แต่ทว่า 

‘ลอร่า > บาร์บาทอส’ ก็ด้วยเช่นกัน

 

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด