ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi 130 พุ่งเข้าตีดุจสัตว์ป่า

Now you are reading ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi Chapter 130 พุ่งเข้าตีดุจสัตว์ป่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

130 พุ่งเข้าตีดุจสัตว์ป่า

—————————————————————

【–มุมมอง บุคคลที่สาม/ลีโอโพลต์–】

แค่เมื่อวันก่อน

「การล้อมฐานศัตรูสำเร็จแล้วครับ」

ภายใต้การสั่งการของลีโอโพลต์ ผู้ที่ถูกมอบความไว้วางใจ ด้วยอำนาจทั้งหมด หน่วยปราบปรามล้อมกองทัพกบฏสำเร็จ กบฏ ผู้ที่ตั้งมั่นอยู่เหนือยอดเนินเขา เรามีการขาดกองกำลัง แต่มันไม่ใช่การล้อมที่ย่ำแย่นัก แต่ความคิดนั้นคือ แม้ว่ากบฏรวมกองกำลังและพยายามที่จะตีฝ่า พวกเขาความจะถูกทำลายสิ้นไปอย่างรวดเร็ว จากการไล่ตามที่ดื้อรั้นของทหารม้าธนู

「ทีมธนู ยิงไล่พวกเค้าออกมา」

ลีโอโพลต์ส่งการสั่งการ และหน่วยที่ฝึกมาอย่างดิบดีตาม

「ยิงต่อเนื่องสองชุด」

ฐานศัตรู ตั้งอยู่ ณ ยอดเนินเขาใหญ่ ถูกรายล้อมด้วยป่าทุกด้าน ที่เดียวสำหรับทหารที่จะซ่อน ควรจะเป็นในป่า

「ยืนยันหลังจากยิงสองชุด ถ้ามีเสียงคนโวยวาย ยิงไปอีกสองชุด ถ้าไม่มีการตอบสนอง ยิงไปที่จุดอื่น」

นักธนูแต่ละคนยิงลูกธนูออกไป ทีละลูกตามๆกัน เข้าไปในดงป่า

「เกี้ยะะ!」 「อุว้าาา!」

จากแผน ลูกธนูเน้นไปที่บริเวณที่เสียงตะโกนก่อเกิด ขัดการซุ่มซอนของศัตรู และเปิดเผยขบวนแถวของพวกเขา

「มันดูเหมือนทหารที่รวมกัน ซ่อนตัวพวกมันเองอยู่ข้างเรา」

ไมล่า ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นคนดู ออกความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ เธอไม่ได้ถูกมอบอำนาจใดๆ แต่นางมีอิสระ ที่จะพูดอะไรอย่างที่นางต้องการ

「ทีมทหารราบ โจมตีศัตรูจากข้างหน้า ถ้าเจอการตีโต้ที่ทรงพลัง ถอยอย่างช้าๆ ระหว่างที่คงการปะทะกับพวกเค้า」

ลีโอโพลต์ออกอีกคำสั่งการ และลูกธนู หยุดบินไป เพื่อที่จะให้ทหารราบ ก้าวเดินไปด้านหน้า

「สอดแนมกำลังของพวกเค้างั้นเหรอ? ยังไงซะ นั่นค่อนข้างมีเหตุผล」

「จากหน่วยสอดแนม แม้ว่าพวกเค้าจะมีทหารมาก พวกเค้าแค่มากกว่า 1000 คนไปเล็กน้อย ดังนั้นเราทำต่อในท่าทีแบบนี้ได้ ถ้าสิ่งต่างๆดำเนินไปได้ด้วยดี」

400 ทหารราบ ก้าวเดินไปด้านหน้า ทันที หลังจากที่พวกเขากก้าวเท้าเข้าไปในป่า เสียงการต่อสู้ที่เข้มข้น ได้ยินมาได้

「มันไม่ได้ดูเหมือนว่าพวกเค้ามีแผนอะไรซักอย่าาง และแค่ส่งกองกำลังป้องกัน ไปที่ระยะที่สั้นที่สุด」

ไม่ทันนานนม 400 ทหารราบล่าถอยและออกมาจากป่า มันรู้สึกดั่งว่า พวกเขาถูกดันล่าถอย แต่ ไม่มีทั้งลีโอโพลต์หรือไมล่า หรือผู้บัญชาการคนใดๆ อยู่ในความเดือดเนื้อร้อนใจเลย ทุกสิ่งอย่างเป็นไปตามทีคาดหวังไว้ตั้งแต่แรกเริ่ม

ตำเหน่งที่เข้มแข็ง หรือกองกำลังที่เหนือกว่า นั้นจำเป็นสำหรับกองทัพ ของชาวนาที่ใส่อุปกรณ์หยาบๆ ที่จะขับไล่กองทัพถูกกฎหมายที่ได้ฝึกฝนมาดิบดี มันไม่ได้ปรากฏว่าจะมีอุปกรณ์ป้องกันมากมายภายในป่าดง ดังนั้นนั่นต้องเป็นอย่างน้อยสองเท่า หรือ หน่วยที่มี 800 คนที่ข้างหน้า นี่จะเป็นส่วนใหญ่ของกองกำลังที่คาดคะเนไว้ของศัตรู — พูดอีกแบบหนึ่ง พวกเขานั้นจะเปราะบางไปเสียทุกที่ นอกจากด้านหน้า

「ทหารม้าหอก ล้อมไปข้างหลัง และพุ่งเข้าตีฐานของพวกเค้า」

ในหนึ่งพริบตา ทหารม้าหอก 200 คนควบไปสู่ฐานของศัตรู การกบฏ จะจบสิ้น ถ้าหมู่บ้าน — ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาสมควรจะปกป้องและเป็นสิ่งที่สนับสนุน ดวงใจของพวกเขา — เผาไหม้เป็นเถ้าถ่าน ไม่ว่ากองกำลังต่อสู้พวกเขาจะมากเท่าไร พวกเขา ไม่ควรจะสามารถทำการต่อต้านหลังจากนั้น

ทุกคนมั่นใจในชัยชนะ แต่เพลิงไฟ ไม่ได้ขึ้นมาจากเนินเขา สิ่งที่บินมาแทนมัน คือรายงานของความดิ้นรน

「ปะทะกับกองกำลังหลักองศัตรูหลังเนินเขาครับ! จำนวนศัตรูใกล้กับ 1000 เราอยู่ที่ความเสีเปรียบอย่างท่วมท้น」

「ชั้นเข้าใจ อนุญาติให้ถอยทัพได้」

ลีโอโพลต์ ออกคำสั่งอย่างสงบนิ่ง และทหารม้าเบาควบกลับมาที่ฐานหัวหลัก มีผู้สูญเสียอยู่จำนวนที่ต้องนำมาคิด แต่นั่น ไม่ใช่ส่วนที่สำคัญ

「1000 อยู่ข้างหลังเหรอ?」

ไมล่าคร่ำครวญ

「พวกเค้าเคลื่อนพล……ไม่ นั่นมันเร็วและแม่นยำเกินไป ซึ่งหมายถึงพวกเค้ามีจำนวนเท่านั้น ที่นั่นตั้งแต่แรกเริ่ม」

ลีโอโพลต์มีหน้าตาที่ขุ่นเคืองบนใบหน้า ไม่ว่าจะแบบไหน ศัตรูมีทหารสองเท่าอย่างที่คาดการณ์ไว้ และสถานการณ์ ได้ย่ำแย่ลงใน ณ ทันใด

แม้เช่นนั้น วัตถุประสงค์นั้นสำเร็จอย่างเพียงพอแล้ว แม้ว่าถ้าศัตรูมีจำนวนทหารมากเป็นสองเท่า ความแตกต่าง ระหว่างชาวนา กับนักรบ นั้นกว้างใหญ่ และความต่างในอุปกรณ์ มันจะเพียงพอ ที่จะเอาชนะพวกเขาด้วยเหมือนกัน

「ถ้าศัตรูมีกองกำลังที่เยอะ มันไร้จุดหมายที่จะแยกทหาร ครึ่งหนึ่งของทหารม้าธนู พร้มด้วยทหารราบ และทหารม้าหอกโจมตีเน้นไปที่ข้างหน้า ระหว่างนักธนู และอีกครึ่งของมหารม้าธนู สนับสนุนพวกเค้า」

การตีฝ่าด้วยกำลัง โดยการเน้นทหารไปที่จุดเดียว นั้นอาจจะมีการจ่ายเป็นความตายที่สูง แต่ มันเป็นวิธีที่เร็วที่สุด ที่จะสรุปสิ่งต่างๆ ไปด้วยกันกับการโจมตีซึ่งหน้า คืออิริจิน่า ผู้ที่นำกองทัพโดยตรง และเห่าคำสั่ง

「ยิงเต็มกำลัง! พุ่งเข้าตี!!」

ดั่งการโจมตีชุดก่อนหน้ามันแค่การล้อเล่น ลูกธนูเทลงมาเป็นห่าฝนอย่างดุร้าย และการพุ่งเข้าตี เริ่มต้นทันที หลังจากที่คำสั่งตะโกนออกมา เหล่าทหารกระโดดเข้าไปสู่ป่า แต่ไม่มีเสียง เมื่อปรกติแล้วคุณคาดไปถึงเสียงที่ดุดันของการต่อสู้ ที่จะดังก้องออกมา

「เกิดอะไรขึ้น?」

「รายงาน! ไม่มีสัญญานจากหน้าป่า! นอกจากแคมป์ที่เรียบง่าย ไม่มีอะไรอยู่ที่นั่นครับ!」

อย่างที่คาด สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไป

「พวกเค้าเคลื่อนพลเหรอ? แต่เร็วขนาดนี้……ถ้าเป็นอย่างนั้น คนที่เราเห็นที่ด้านหลังนั่นตลอดมาที่เค้า……」

การเคลื่อนไหว ของพวกเขา ถูกอ่านอย่าสมบูรณ์

「ทุกหน่วย ถอยทัพ」

แต่ มันสายเกินไป

「มันเป็นการซุ่มโจมตีครับ ทีมที่โจมตีไป ถูกล้อมจากสองฝั่ง จำนวนศัตรูไม่ทราบได้!! พวกเค้าโจมตี!」

「อะร่ะ-?! ซุ่มโจมตีเหรอ!? พวกเค้ารู้ว่าเราจะไปโจมตีงั้นเหรอ?!」

ไมล่าเริ่มลนลาน

วีธีโจมตีของลีโอโพลต์นั้นเหมาะสมที่สุด นั่นทำไมพวกนั้นที่อยู่ระดับเดียวกัน คาดไปถึงหนึ่งก้าวล่วงหน้าได้

「คุณลีโอโพลต์โดโนะ! ถ้าเป็นแบบนี้-!!」

ลีโอโพลต์รวบรวมความคิดของเขาอย่างสงบนิ่ง การโจมตีขนาบข้าง ในป่าที่ยากจะเคลื่อนไหว ปิดช่องว่างระหว่างทักษะและอุปกรณ์ของกองทัพไปอย่างมาก ถ้าปล่อยไว้ตามลำพัง จะมีการเสียกำลังพลไปมากมาย แต่ว่ากองทัพนั้นถูกแบ่งออกเพื่อจะต่อต้านศัตรูจากทั้งสองฝั่ง มันจะเป็นความยากลำบาก ที่จะเคลื่อนที่ไปรอบๆป่า และสิ่งที่สำคัญมากไปกว่านั้น คือจำนวนศัตรูที่ไม่ทราบได้ กำลังเสริมจากทีมภายนอก นั้นจำเป็น

「ทหารม้าธนู เป็นกำลังเสริมหน่วยโจมตี และพุ่งเข้าตีไปในป่า ฝ่าวงล้อมเพื่อที่จะช่วยพวกเขา ถ้าพวกเค้าถูกล้อม」

อีกครึ่งอื่นของทหารม้าธนู ที่ถูกทิ้งไว้ข้างหล้ง เพื่อสนับสนุกองทัพที่โจมตีด้วยธนู แต่พวกเขาเปลี่ยนไปเป็นกองทัพสำรองที่มีประสิทธิภาพได้ ถ้ากองทัพศัตรู พึ่งพาความคล่องตัวเพื่อปกป้องด้านหน้าและด้านหลัง พวกเขามีทหารที่่คาดว่า 1000 คน การที่ทหารม้าธนู 500 คน พุ่งเข้าตีเข้าไปข้างใน จะพลิกสิ่งต่างๆได้อย่างเพียงพอ

「มันเป็นเหตุฉุกเฉิน เพราะชั้นไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการบัญชาการ ชั้นจะไปด้วยเหมือนกัน」

ไมล่า กระโดดขึ้นม้า และตามทหารม้าธนู ในการพุ่งเข้าตีไปสูด้านหน้าไป ด้วยเหตุนี้ มีความเป็นไปได้ที่จะพลิกกระดาน หรืออย่างน้อยๆที่สุด พวกเขาสามารถวางตำแหน่งตัวเองใหม่ และช่วยเหลือทีมโจมตีได้ ก่อนที่ความเสียหายใหญ่จะถูกก่อ

ทุกคนเชื่อ ว่าสิ่งนั้น จะเกิดขึ้น

「รายงานครับ! แคมป์ป้องกันอยู่ด้านหน้า! สิ่งก่อสร้างต่อต้านทหารม้า อยู่ข้างหลังทีมโจมตี! เราตีฝ่าไม่ได้ครับ!!」

「อะไรนะ!?」

ไม่มีทางที่สิ่งก่อสร้างป้องกัน จะมาอยู่ในตำแหน่งนี้ได้ ตำแหน่งที่กองทัพที่โจมตี เดินผ่านไปแล้ว ถ้าพวกมันอยู่ตรงนั้น นั่นหมายถึง……

「งั้นมันหมายถึง พวกเค้าได้คาดถึงมากเท่านี้แล้วด้วยเหมือนกัน」

ทหารหลายคน หลบซ่อนอยู่ในรูก่อนหน้า และอยู่นิ่งๆ จนกว่าจะวินาทีสุดท้าย และจากนั้น เมื่อกองกำลังที่เน้นมาผ่านไปไกลแล้วจากข้างหน้า พวกเขากระโดดออกมา เพื่อจะดึงรั้วและอะไรจำพวกนั้นผ่านที่เปิด เพื่อสร้างการป้องกันใหม่ พวกเขา น่าจะเตรียมสิ่งก่อสร้าง ที่ก่อสร้างใหม่ได้ง่ายตั้งแต่แรกเริ่ม

สิ่งก่อสร้างทำเฉพาะหน้าเหล่านั้นจะไม่รั้งไว้ได้นาน และทหารม้าธนู 500 คน น่าจะฝ่าไปได้ในท้ายที่สุด แต่ในเวลานั้น เป็นไปได้ ที่ทีมโจมตี ได้รับความเสียหายการเสียกำลังพลไปค่อนข้างมาก

「……」

เสียงบดขยี้ ของฟันบดอัด สามารถได้ยินได้ ก่อเกิดให้ทหารใกล้ๆมองไปรอบๆ ไม่แม้แต่จะพิจารณาเลย ว่ามันได้มีวันจากลีโอโพลต์ที่ไร้สีหน้า

「นักธนู ส่งสัญญาณถอยทัพ」

「เอ๋?」

「อย่างเร็ว」

「ครับท่าน!!」

ลูกธนูเพลิง ที่หุ้มไปด้วยผ้าย้อมสี พร้อมด้วยผ้าสีต่างๆกัน บ่งบอกถึงข้อความที่ต่างกันให้ทั้งกองทัพ ลูกธนูที่ยิงขึ้นไปสู่ท้องฟ้า เป็นครั้งแรก ที่เขาได้มีวันได้ยิง — สัญญาณ ของทั้งกองทัพ ให้ถอยทัพ

「……」

ระหว่างที่สั่งการพลธนูที่เหลือ ว่าให้เลียงศัตรูจากการไล่ตาม ลีโอโพลต์ ถุยบางอย่างออกมาจากปากของเขาที่ไม่ใช่น้ำลาย แต่เป็นเศษของฟันที่เขาเคี้ยว

—————————————————————

【–มุมมอง เอเกอร์–】

ณ เวลาปัจจุบัน เมือง ซาน โดร่า

「เข้าใจแล้ว ดังนั้นการเคลื่อนไหวของนาย ถูกอ่านตั้งแต่แรกเริ่ม」

ผมฟังเรื่องราวจากทีมปราบปราม หลังจากที่พวกเขาถอยกลับมาในเมือง

「ใช่ ทหารศัตรูมีทักษะอย่างสูงอย่างแน่นอน กองทหารของเขา ก็ไม่ได้ต่างไปจาก 1000 คนที่คาดไว้ตอนแรกมาก จำนวนทหารเท่านั้น ไม่สามามารถเคลื่อนไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพ แค่โดยการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ ผมเชื่อว่าพวกเค้าตัดสินใจว่าจะเคลื่อนไหวยังไงไว้ก่อนหน้า」

ไม่เหมือนไมล่าและอิริจิน่าผู้ที่ท้อแท้ สีหน้าของลีโอโพลต์ ไม่ได้รู้สึกผิด หรือเจ็บแค้นเคืองโกรธ แต่นี่มันง่ายที่จะรับมื อ มากว่าการขอโทษขอโพยอย่างไม่จบไม่สิ้น ที่จะแก้ปัญหาให้ความว่างเปล่า เพราะส่วนที่สำคัญ คืออะไรที่ตามมา

「ไม่ว่าจะแบบไหน ศัตรูค่อนข้างที่จะน่าเกรงขาม」

「เพื่อพูดแห่งแม่นยำ มันเป็นผู้บัญชาการของศัตรู เพราะทั้งหมด ทักษะและอุปกรณ์ของกองทัพเราเหนือกว่า」

อิริจิน่า ห้อยหัวของนางอย่างไม่เป็นตัวของตัวเอง และมีหน้าตาที่น่าสมเพชอยู่บนใบหน้าของนาง ขณะที่ลีโอโพลต์ ชี้ความเป็นจริงนั้นออกมา พูดอีกอย่าง คุณภาพของผู้บัญชาการมันเพียงพอแล้ว ที่จะพลิกสถานการณ์ไปทั่ว แต่ลีโอโพลต์ ผู้ที่ควรจะรู้สึกอับอายขายขี้หน้ามากที่สุด ยังคงไม่รู้สึกกวนใจ

 「พวกเค้าใช้ภูมิประเทศได้ดี เพราะความไร้ความสามารถของผม กองทัพได้เสียความสูญเสียไปเป็นจำนวนมากด้วย ดังนั้น มันจยากที่จะขยี้พวกเค้า ในสภาพปัจจุบันของเรา」   

 「แค่ชั้นคิดอยู่ว่าจะไปครั้งหน้านะ」   

 「ไม่ใช่ว่าจะอวดดีนะ แต่ความสามารถความเป็นผู้นำของผม เหนือกว่าลอร์ดฮาร์ดเลตต์ แม้ว่าคุณจะไป ผมไม่เชื่อว่าคุณจะสำเร็จผลที่ยิ่งใหญ่ได้กว่าที่ผมทำ」   

 「อะร่ะ-!? นายมันไม่สุภาพแค่ไหนกัน พูดอะไรตามใจอย่านี้ หลังจากที่หางจุกตูดกลับมา!!」   

หน้าของซีเลียเปลี่ยนเป็นแดง ขณะที่นางน้อยตะโกนอย่าโกรธา ยังไงซะ มันมันไม่ใช่บางอย่างที่ต้องอารมณ์เสียกับมันหรอกน่า นอกจากนี้ มันผิดที่จะคาดให้เค้ารั้งปากตั้งแต่ทีแรก มากกว่านั้น สิ่งที่เขาพูด เกี่ยวกับความสามารถการเป็นผู้นำ นั้นคือความจริงแท้ ถ้าผมนี้นั้นได้บัญชาการ สิ่งต่างๆมันจะออกมาบัดซบมากกว่า

 「โดยไม่ต้องพูดถึงเลย เราแค่ทิ้งสิ่งต่างๆเป็นแบบที่มันเป็นไม่ได้ ถ้าข่าวลือ เกี่ยวกับความพ่ายแพ้ของท่าน เริ่มจะหมุนเวียน ความสงบเรียบร้อยของประชาชนจะกระจัดกระจาย」   

อดอล์ฟ น่าจะกังวลเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ในดินแดนมากกว่า มากกว่ารายละเอียดเฉพาะเจาะจงของกองทัพกบฏ

 「อะไรนั้นจำเป็น ที่จะเอาชนะ?」   

ผมไม่ได้จำเป็นต้องถามจริงๆ แต่ผมอยากได้ยิน ว่าความคิดเห็น ของไมล่า และลีโอโพลต์เป็นเช่นไร

 「จำนวนกองทหารที่มาก กองกำลังของพวกเค้าจำกันอยู่ที่ 1000 คน ดังนั้น เราควรจะสามารถที่จะรับมือกับพวกเค้าได้ โดยการล้อมจากทุกด้านและโจมตีพร้อมๆกัน」   

 「ถ้าเรารวบรวมหารม้าธนู และพลเมืองราเฟน เราหามาได้ 5000 คน ซึ่งเราใช้เพื่อขยี้พวกเค้าได้้」   

ผมมั่นใจว่านั่นจะเป็นไปได้ แต่มันจะใช้เวลา และมน่าจะทำมันไม่ทันเวลา สำหรับการคลอดของลูกเมล

 「ปัญหาคือเวลา」   

 「นั่นจริง มันจะดีกว่า ที่จะสรุปสิ่งต่างๆ เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เพื่อจะระงับข่าวลือจากการแพร่ไป」   

อดอล์ฟเห็นด้วยกับความคิดเห็นของผม ในทางกลับกัน ไมล่า ดุเหมือนจะไม่พึงพอใจ เกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าทีพลเรือนพูดออกมาต่อต้านนาง และพองแก้มของนาง แต่ะเพราะความรู้สึกของนางที่รู้สึกติดค้าง หลังจากที่กลับมาพร้อมความพ่ายแพ้ นางไม่สามารถที่จะพูดกลับไป

 「ให้ทหารพักตอนกลางคืน ทุกคนยกเว้นคนบาดเจ็บ จะออกศึกอีกครั้ง」   

ทุกคน ยกเว้นอดอล์ฟ มีหน้าตาที่ซับซ้อนบนใบหน้าของพวกนาง หลังจากที่หนีพ่ายจากการต่อสู้ การมุ่งออกไปอีกครั้ง ด้วยกองทัพ ที่จำนวนน้อยกว่าก่อนหน้า ไม่ใช่แผนการที่เฉลียวฉลาดที่สุด

 「นี่เป็นคำสัง รีบและเตรียมพร้อม」   

ผมไม่มีแผน ที่จะฟังคำคัดค้านใดๆ เรื่องใหญอะไรกันล่ะ — ถ้าพวกเขาแพ้ พวกเขาแค่พันแผลหาง แล้วกลับมาได้ เราแพ้พ่ายกันกี่ครั้งคราวก็ได้้ กระนั้น ทำการโจมตีของเรากลับไปเวลาอื่น ระหว่างที่พวกเขา แค่จำเป็นต้องรับความแพ่พ่ายแค่หนึ่งครา ก่อนที่พวกเขาจะจบสิ้น เรานั้น มีความได้เปรียบที่ท่วมท้นจากแรกเริ่ม ดันนั้น แค่สบายๆกันน่า

 「พวกน้นที่ไมมีงาน ไปนอน เพราะคิดด้วยสมองล้าๆแบนั้น จะไม่ก่อผลใดๆ ไม่ว่ายังไง」   

หลังจากที่ผมพูดอย่างนั้น คาดไม่ถึง ลีโอโพลต์ยืนขึ้นจากเก้าอี้ บอกบางอย่างกับผู้บัญชาการระดับต่ำกว่า และไปที่ห้องของเขา จริงๆเขาเป็นคนที่น่าเบื่อแต่น่าสนใจ

 「อะไรของคนนั้นกัน?! ความรับผิดชอบที่พ่ายแพ้ มันเป็นของเค้าตั้งแต่ทีแรกแล้ว!」   

ผมปลอบซีเลียที่โกรธา ถ้าเขาจะโทษตัวเขาเอง เองจะลดตำแหน่งตัวเองอย่างเต็มใจ หรือให้บางคนมาแทนที่เขา การลาออกของเขาอยู่นอกเหนือรายละเอียดงานของเขา เขาแค่ทำเต็มที่ที่สุด เพื่อไม่ให้ความเหนือยล้า มาแทรกแซงกับแผนของเขา

 「นอกจากนี้ มันใช้กำลังมาก ที่จะทำฟันหลังหัก」   

 「หือห์?」   

 「ไม่มีอะไรจะ ซีเลียน่ารักดีจัง」   

 「ว้าา! นี่ไม่ใช่เวลาที่ถูกเลยนะพ่อ!」   

ผมขยี้ผมของซีเลียให้เละเทะ ก่อนที่จะปล่อยเธอไปที่ห้อง โชคร้าย ผมต้องให้เธอพักวันนั้น ดังนั้นผมจ้ำจี้นางน้อยไม่ได้

 「อืม……」   

 「อ้าา หนูคือ-」   

เมื่ออหันกลับไปเพื่อนหาแหล่งกำเนิดของเสียง ผมเห็นแม่บ้านที่แต่งงานแล้ว หน้าแดงใส่ผม มันปรากฏว่าเธอโดนเสน่ห์ของผม หลังจาที่เธอสมสู่กับผมหนึ่งครา

 「ถ้าหนูขอความรักจากท่านได้…… ยาคุมไม่มีความจำเป็น ผัวหนูได้นอนกับหนูไปเมื่อวาน ดังนั้นได้โปรดทำอย่างเดียวกันกับหนู มากเท่าที่ท่านต้องการจะใฝ่หา……มันไม่เป็นไรแม้หนูนั้นจะตั้งท้อง」   

 「ช่างเป็นผู้หญิงที่น่ารักนะ มาที่เตียงนะ」   

ผมโอบกอดไหล่เธอ ขณะที่เราเข้าห้อง ผมต้องฟื้นพลังงานของผม ก่อนที่จะต่อสู้ การสมสู่แม้บ้าน ระหว่างที่เธอยังใส่เสื้อผ้าอยู่ ทำผมไฟลุก

 「พี่จะแตกแล้ว นี่! ท้อง!!」   

 「ระ ร้อน! มีมากมายเลยที่รักขา หนูได้เมล็ดพันธุ์ที่ยอดเยี่ยม……แน่นอนว่าลูกคนที่สี่ที่แข็งแรงจะ-……」   

—————————————————————   

หลายวันให้หลัง ใกล้ฐานกองทัพกบฏ

ทหารได้จัดระเบียบใหม่ และอีกครั้งที่กองทัพ เดินทัพไปสู้เป้าหมาย แม้ว่าจะมีกำลังใจที่ต่ำ ที่เหตุเกิดมาจากความแพ้พ่ายเมื่อคราก่อน มิมีใคกล้าพอที่จะบ่น เพราะผมมาด้วยในครั้งนี้ กำลังใจของทหารม้าธนู ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ อย่างที่ผมคาดเลย พวกเขาไร้ประโยชน์ถ้าไม่มีผม

 「มันที่นี่เหรอ? ……แน่นอนว่ามันเหมือนที่ที่โจมตียาก แต่มันไม่เหมือนว่าชั้นฝ่ากวาดทางของชั้นผ่านไปไม่ได้」   

 「กับดักที่ดี ถูกวางอยู่ทั่วทั้งบริเวณในป่า โชคร้าย การตีฝ่านั้นยากกว่าที่เห็น」   

 「ฟุมุ ฟุมุ」   

เข้าใจแล้ว ทั้งบริเวณเลย งั้นเหรอ?

 「กับดักเป็นบางอย่างเหมือนซ่อนหลุมเหรอ?」   

 「มันไม่ใช่บางอ่างที่ถูกจำกัดอยู่แค่นั้น แต่มันเป็นสิ่งต่างๆ อย่างผูกเชือกจากต้นไม้สู่ต้นไม้ รั้ว และสิ่งก่อสร้างที่มีไม้แหลมที่พลิกได้……」   

อิริจิน่า ผู้ที่เข้าปะทะการต่อสู้ระยะประชิดโดยตรง ทำหน้าตาขุ่นเคือง

 「พูดอีกอย่าง พวกเค้าส่งมันไปใช้ได้ทุกเวลา จากทุกที่」   

 「นั่นเป็นกรณีที่พวกเค้าคาดถึงความเคลื่อนไหวของพี่」   

ฟุมุ ฟุมุ ถ้าอย่างนั้น คำตอบนั้นเรียบง่าย แต่ผมจะตรวจสอบครั้งสุดท้าย

 「ลีโอโพลต์ อะไรที่นายคิดว่าเป็นการเคลื่อนไหวที่เหมาะสมที่สุด ด้วยกองททัพนี้?」   

 「……แบ่งกองทัพเท่าๆกัน โจมตีด้วยทหารจากฝั่งซ้ายและขวา แม้ว่ากองทัพของเราได้ลดขนาด เรายังมีจำนวนที่ได้เปรียบอย่างท่วมท้น ถ้าเราโจมตีจากทั้งสองข้างพร้อมกัน ศัตรูไม่มีทางลือก นอกจากจะตอบโต้เราบนทั้งสองจุด」   

 「และอะไรคือจุดอ่อน?」   

 「ศัตรูมีที่ตั้งแคมป์ ถ้าพวกเค้าคาดถึงความเคลื่อนไหวของเราได้ พวกเค้าจะแบ่งกองทัพของพวกเค้าใน 2:8 —  2 จะใช้ประโยชน์แคมป์ เพื่อถอยการป้องกัน ระหว่างที่ 8 จะไปซ่อนทหาร เพื่อที่จะใช้การโจมตีซุ่มโจมตี ทำให้ฝั่งหนึ่งอยู่ในความเสียเปรียบ ถ้าเราต้องไปช่วยที่ฝั่งนั้น กองทัพของเรา ที่อ้อมไปจากด้านนอก มันจะใช้เวลานานมากกว่ากองทัพของพวกเขา ที่ตีวงล้อมจากข้างใน เป็นผลก่อเกิดให้มีการเสียกำลังพล และการเสียความได้เปรียบไป」   

ถ้านายคิดไปถึงอะไรที่มีปัญหามากขขนาดนั้นแล้ว ผมเดาว่าสิ่งต่างๆจะไม่เป็นไรหรอก

 「ผู้บัญชาการศัตรูทักษะเยอะกว่านายเหรอ?」   

 「……มันยากที่จะเทียบข้อดีที่เทียบเคียงกันได้」   

ได้เลย ลุยแบบนี้เถอะ

 「ส่งทั้งกองทัพไปข้างหน้า ทหารม้าธนูและทหารม้าหอก จะนำการพุ่งเข้าตี ระหว่างทที่ทหารราบจะตามมา และพลธนูจะส่งการสนับสนุน ถ้าจำเป็น」   

 「ข้างหน้าที่มีกับดักที่น่ารำคาญของศัตรู นั้นคือ……」   

 「พี่ไม่รู้ว่าพวกเค้าจะโผล่มาที่ไหน ซึ่งนั่นหมายถึง มันจะไม่สำคัญว่าพี่จะเข้าไปจากทางไหน」   

ไมล่าดูเหมือนจะตกอกตกใจ ผมเลยจะลูบหัวนาง

 「เข้าสู่ขบวนแถวตีฝ่า」      

 「「เอออ๋!?」」 「ได้เลย ไปกันเถอะ!」   

ซีเลียและไมล่าตกอกตกใจ ระหว่างที่อิริจิน่าแสดงความตื่นเต้นของนาง ลููน่าก็ทำการเตรียมการของนางอย่างมั่นคง

 「การโจมตีซึ่งหน้ากระทันหันเหรอ? แม้ว่าเราไม่รู้สภาพของการต่อสู้เนี่ยนะ?」   

 「เราจะคิดอะไรซักสิ่งไม่ออกแค่ดู นอกจากนี้ ไม่มีทางเลย ที่พี่จะเอาชนะกับบางคน ที่คาดคะเนการเคลื่อนไหวของเราได้อย่างต่อเนื่อง ถ้าใช้หัวของพี่ ไม่ว่ายังไง」   

 「……」   

ลีโอโพลต์คงอยู่ในความเงียบงัน และไร้การขยับเขยื้อน ดังนั้นในความเป็นจริง เขาก็รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย เมื่อผมพูดถึงที่เขาแพ้ในศึกแห่งสมองยังไง

 「นายรู้มั้ยว่าช้นจะพุ่งเข้าตีใส่พวกเค้า?」   

 「มันอยู่ในการคาดเดาของผม แต่นั่นเพราะผมรู้นิสัยของลอร์ดฮาร์ดเลตต์ ถ้าพวกเค้าไม่ได้รับข้อมูล ที่มีอยู่แค่ในข่าวลือของความสำเร็จที่กล้าหาญ มีแผนมากมายที่พวกเค้าควรจะเตรียมการ นอกจากจะคาดไปว่าเป็นบางคงที่พุ่งเข้าตีข้างหน้า เหมือนคนงี่เง่า」   

 「ถ้าอย่างนั้นนั่นไม่เป็นไรสิ เพราะการทำอะไรที่ศัตรูเกลียด คือความหมายของสงคราม」   

กองทัพก่อรูปทรงสามเหลี่ยมพร้อมด้วยปลายแหลมชี้หาศัตรู้ พวกเค้าควรจะรู้แล้วว่าการพุ่งเข้าตีจะมา แค่จากการดูขบวนแถวของเรา

อย่างไรก็ตาม มันไม่เหมือนว่าทหารของพวกเขาฝึกมาอย่างสูงหรือมีทักษะสูง เหตุผลที่พวกเขาสู้ได้ นั้นเพราะพวกเขามีผู้บัญชาการที่ยอดเยี่ยมนำพวกเขาอยู่ มันจะใช้เวลา สำหรับข้อความของผู้บัญชาการ จะไปถึงกองทัพทั้งหมด และมีโอกาส ที่พวกเขาอาจจะสร้างความผิดพลาดถ้าพวกเขาลนลาน พวกเขาคือทหารที่อ่อนแอ ที่พึ่งพาผู้นำที่แข็งแกร่ง ดังนั้น ถ้าเราเปลี่ยนการต่อสู้เป็นทุกคนสู้กัน เราจะสามารถชนะได้ แม้แต่ด้วยจำนวนครึ่งเดียว สิ่งที่ต้องการนั้นไม่ใช่แผนการที่พิถีพิถัน แต่เป็นความรวดเร็ว และแรงกดดัน

 「บุกกกกก–!!」   

 「โอออออ้—–!!」   

เพราะเราอยู่ในความรีบ มันไม่ใช่ขบานแถวที่สวยงามที่สุด ทั้งกองทัพวิ่งไปข้างหน้าในขบวนแถวสามเหลี่ยมเบี้ยวๆ พร้อมด้วยตัวผมและหน่วยคุ้มกันนำอยู่ พร้อมเสียงคำรามของเกือกม้า แม้แต่การตะโกนก็ไม่สามารถถูกได้ยิน

 「ลอร์ดฮาร์ดเลตต์」   

ลีโอโพลต์มาอยู่ข้างผมตั้งแต่เมื่อไหร่? ผมคิดว่าเขาชอบอยู่หลังๆซะอีก

 「สุดท้ายแล้วพวกเค้าแค่ชาวนา พวกเค้าจะรู้สึกกลัว ถ้าความเป็นผู้นำพวกเค้าพังทลาย ดังนั้นได้โปรด กำจัดพวกเค้า ในแบบที่ทำให้พวกเค้ากลัวที่สุด」   

นั่นมันหมายถึงอะไรกันวะ

 「มันจะสมบูรณ์แบบ ถ้าคุณฉีกไส้ออกมาจากศัตรูเป็นๆ หรือดูดเลือดพวกเค้าออกมา」   

 「อย่ามาล้อเล่นนะเว้ยเห้ย」   

คิดว่าผมเป็นอะไรกัน? แต่ผมเข้าใจที่เขาคิดแล้ว ลีโอโพลต์ไม่พูดอะไรอีกต่อไป และเคลื่อนที่กลับไป มาอาอาละวาดให้ดุร้ายไปเลยเถอะ

ชุดของลูกธนู บินมาใส่เรา แต่ชุดการโจมตีมันห่างๆ และความเร็วนั้นอ่อนแอ บางอย่างระดับนี้ ไม่เพียงพอที่จะหยุดเราได้

ทันทีที่ผมพุ่งเข้าไปในป่า ชวาร์ซกระโดด มองลงไปข้างล่าง ผมเห็นเชือกถูกขึงระหว่าต้นไม้ได้ เข้าใจแล้ว พวกเขาเตรียมนี่ หลังจากที่เห็นว่าเราทำการพุ่งเข้าตี กับดักนี้น่าจะใช้แค่ไม่กี่วินาทีที่จะเตรียม แต่ชวาร์ซปรากฏว่าจะเห็นมันทะลุปรุโปร่ง และกระโดดขึ้นไป

 「โชคร้ายนะ เจ้านี่มันพิเศษนิดหน่อย」   

ผมเหวี่ยงหอกของผมใส่สองชาวนา ที่มองขึ้นมาหาผมอย่างว่างเปล่า จากรูปลักษณ์ของพวกเขา พวกเขาดูเหมือนชาวนาของเราอย่างสมบูรณ์ พวกเขาองคนพยายามจะหนี โดยการวิ่งไประหว่างต้นไม้ แต่หอกดวอร์ฟของผมตี หันสะบั้นพวกเขาไปกับต้นไม้ด้วย ต้นไม้ไม่ได้หนา พวกมันจะไม่เป็นปัญหากับหอกของผม

 「มีเชือกอยู่ตรงนั้น!!」   

 「อุว้าาา!」 「ว้าาาา!!」   

หน่วยทหารม้าและทหารม้าธนูหลายคน ที่ไล่ตามหลังผมมา สะดุดล้ม ทหารม้าหลังพวกเขารีบลดความเร็วเพื่อหลบเชือก แต่-

 「อย่ารถความเร็ว! วิ่งผ่านมัน! นายแค่โชคร้ายถ้านายล้ม!!」   

พวกเขาเร่งเร็วขึ้นอีกครั้ง หลังจากคำสั่งที่ดุดันของผม นั่นดีกว่า อย่างน้อยๆมันมีโอกาสสูงกว่าที่จะชนะแบบนี้ มากกวาการต้องกังวลเกี่ยวกับศัตรูระหว่างที่มาระวังว่าจะก้าวไปที่ไหน ขณะที่พวกเขาทำการเดินหน้าไป

โดยไม่ลความเร็วลง หน่วยทหารม้าพุ่งเข้าตีตรงๆเข้าไปในป่า ควบลึกลงไปข้างใน บางคนโดนกับดักประปราย และทหารม้าธนู สะดุดติดต้นไม้ตามหลังมา เพราะเห็นได้ชัดว่า การวิ่งเต็มความเร็วผ่านป่า มันค่อนข้างเป็นงานยากสำหรับพวกเขา

อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ ถ้ามองภาพที่ใหญ่กว่า ทหารศัตรูเดินเท้า การหนีจากหน่วยที่พุ่งเข้าใส่รัวๆ โดยไม่สนใจภาพลักษณ์ แต่จบที่การถูกจับและถูกฆ่า

 「พวกนายอย่าหยุดวิ่ง! กัปตันอยู่ข้างหน้า」   

 「อย่ามาโอ้เอ้นะ กัปตันเจะเอาเมียและลูกสาวไปนะโว้ย!」   

ทุกคนพุ่งเข้าทีไปข้างหน้า ด้วยดวงตาที่แดงก่ำ ไม่ใส่ใจเกี่ยวกับที่จะต้องบาดเจ็บ ทหารม้าธนูจากเผ่าภูเขาได้กำลังใจเพิ่มขึ้นไปใกล้กับสูงที่สุดที่มันขึ้นไปได้เป็นพิเศษ เพราะ ผมอยู่ที่นี่

 「ไม่มีทางที่เราจะอนุญาต ให้หัวหน้าผู้ยิ่งใหญ่แพ้! รู้ไว้ว่ามันเป็นเกียรติที่ยิ่งให้ ที่จะตายและกลับไปสู่ภูเขาที่ศักดิ์สิทธิ์!!」   

ศัตรูที่คุ้มกันทางเข้า ไม่ถูกตีไล่ก็ฟันตาย และไม่นานเราก็มาถึงจุดครึ่งทางของป่า แต่นั่น คือเมื่ออีกปัญหาหนึ่งโหม่หัวขึ้นมา

 「รั้วไม้ที่สร้างง่าย?」   

 「มีรั้วนึงครั้งที่แล้วด้วยเหมือนกัน แต่โผล่มากระทันหันขนาดนี้……」   

เมื่อมองไปข้างหน้า มีรั้วไม้สูงประมาณ 2 เมตรซึ่งดูเหมือนปรกติจะนอนอยู่ ปลอมตัวเองว่าเป็นส่วนฐานของรั้วไม้ ก่อนที่จะถูกยกขึ้นมา อย่างที่คาด แมแต่ชวาร์ซก็จะมีเวลาที่ลำบาก ที่จะกระโดดข้ามสิ่งนั้นไป ไม่เพียงแค่การอ้อมไป มันไปทำตามแผนของพวกเขา มันจะใช้เวลานานมากเกินไป และกองทัพที่เปลี่ยนทิศทางอยู่ มันเป็นเป้าหมายที่ดีไปกว่านั้นไม่ได้อีกแล้ว เราเข้าหารั้วเพื่อทำลายมันได้ แต่สิ่งต่างๆจะไม่ง่ายนาดนั้น เพราะทหารพร้อมและรอพร้อมหอกอยู่ข้างหลังรั้ว

แต่ลูน่าไม่ตื่นตกใจ และไปข้างหน้า

 「โอ้หัวหน้าผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ที่ประทานด้วยการมาถึงของเค้า เราให้พี่พ่ายแพ้ที่นี่ไม่ได้ โปรดดูความมุ่งมั่นของเรา」   

ทหารม้าธนูชักดาบ และตามคำของลูน่า และพุ่งเข้าตีพร้อมกันทั้งหมด

 「โอ้พระเจ้าแห่งขุนเขา เป็นพยานศึกของเรา!」   

หอกยื่นออกมาจากรั้วไม้ที่สร้างเร็ว และแม้ว่าแท่งไม้แหลม แทงออกมาจากพื้นตรงห้าของพวกเขา มันเป็นบางอย่างที่ทำอย่างรีบๆ แต่ค่อนข้างเป็นคู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขามกับทหารม้า

 「อุโออออ้!!」   

แม้อย่างนั้น พวกเขาไม่ล่าถอย ทหารของศัตรู อีกฝั่งของรั้ว ดูเหมือนจะหวั่นไหวเพราะเรื่องนั้น

ก่อนชนปะทะ พวกขาทั้งหมดปิดตาม้า และพุ่งเข้าตีไปข้างหน้าต่อไป เข้าไปสู่รั้ว

 「กย้าาา!」 「เกว่ะ」 「กวั่ะ!」   

 「ฮฮฮฮิ้!」 「พวกมันเป็นใครวะ พวกแม่งบ้าไปแล้้ว!」 「นี่มันเป็นไปไม่ได้!!」   

ม้าที่นำทางของทหารม้าธนูไม่ช้าลงไปซักนิด ชนปะทะเข้ากับรั้วไม้ที่สร้างเร็ว ทหารม้าธนู ได้รับบาดเจ็บสาหัส และตาย ทีละคน ตามๆกัน ขณะที่พวกเขา ถูกทิ่มทะลุด้วยไม้แหลมและหอก

แม้ว่าจะเสียชีวิต ความรวดเร็วของการควบสุดความเร็วซึ่งขนตัวม้าไป ไม่ได้แค่หยุดโดยรั้ว ม้าที่กระโดดร้องอย่างดัง ขณะที่เท้าของพวกมันพันกัน และสะดุดล้มเข้าไปสู่รั้วไม้ น้ำหนักของคนและม้าผสมกัน รวมไปได้หลายร้อยกิโลและมันมากกว่าพอ ที่จะล้มรั้วไม่ที่สร้างเร็วอย่างรีบๆ

มันดูเหมือนเหตุผมที่ปิดตามม้า คือให้มั่นใจว่าไม่เสียความเร็ว ของแรงส่งตอนกระแทก รั้วล้มไปอย่างช้าๆ ศพม้ากลิ้งเข้าในหมู่ทหารของศัตรู

 「ให้ตายซี่สุดโต่งจริงๆ…… เราจะตามไป อย่าช้า!」      

 「โอออ้!」   

การได้ถูกแสดงวิถีของผู้กล้าของการสู้แบบนี้ โดยทหารม้าธนู คนอื่นๆดูเหมือนจะมีความกลัวกับดักน้อยลง ทหารราบ ทหารม้าหอก และเหล่าทหารทั้งหมุดพุ่งเข้าไปผ่านช่องที่เปิด และดันทะลุไป ล้มรั้วด้วยกำลัง ระหว่างที่ถูกแทงด้วยหอก

ผมก็อยู่ข้างหลังด้วยไม่ได้ ผมจับหอกด้วยสองมือ และตั้งท่ายืนสู้ ง้างมันไปตลอดทางหลังหัว

 「ฟู่นนนน!」   

ด้วยการเหวี่ยงออกแนวนอนเต็มกำลัง ครึ่งบนของรั้วปลิวกระจายไป ผมขอบคุณที่รั้วไม่ได้เสริมด้วยเหล็กกล้า

มันเพียงพอ สำหรับความสูงมันทีจะลดลงครึ่ง โดยไม้ได้สั่งใดๆ ชวาร์ซกระโดดไปข้างหน้า กระโดดข้ามรั้วไป

 「เก่ะ!」   

ม้าตัวนี้มีนิสัยที่ช่างชั่วร้าย ที่จะจงจงลงพื้น ใส่ทหารที่ถือหอกที่อยู่อีกฝั่ง มันทำให้เขาร้องออกมา เหมือนหมูโดนรัดคอ

 「ฮฮฮิ้……คนนี้……อย่าบอกข้านะ……」   

 「ฮะ ฮาร์ดเลตต์!」   

 「ทักทาย」   

หลังจากที่ทักทาย ผมมอบหนึ่งเหวี่ยงของหอกไป เป็นเหตุให้สองคนของพวกเขา เสียทุกอย่างเหนือไหล่ไป โชคดี สำหรับชายที่โดนด้าม แทนที่จะเป็นใบมีด เขาบินไปใส่ต้นไม้และสันหลังหัก หลังจากที่งอตัวเป็นตัวอักษร ‘く’

ผมถูกบอกให้ทำอะไรแรงๆ มันไม่ใช่แนวของผม ที่จะกระทืบจนตาย แต่ผมเดาว่าทั้งหมดมันก็เหมือนกัน ถ้าในที่สุดพวกเขาตาย

 「เกว่ะ!」   

ผมแทงชายเข้าไปที่หลังจากนั้นยกเขาขึึ้น เหวี่ยวตัวเขาใส่ศัตรูต่อไป ระหว่างที่เขายังติดอยู่กับหอกของผม ผมเหวี่ยงอาวุธของผมไปทั่ว โดยไม่ได้สนในอะไรกับต้นไม้เลย และกายชายที่ถูกแทง แตกเป็นชิ้นอย่างน่ากลัวจากการกระแทก

แทนที่จะตัดหัวศัตรูอย่างเรียบๆ ผมจงใจที่จะเปลี่ยนการเล็ง ที่จะกระแทกจุดกึ่งกลางของหัว หรือผ่าเป็นสองซีกในแนวตั้ง ใบมีดของหอกอาจจะโดนกระโหลก แต่ผมมั่นใจว่าหอกนี้จะไม่ได้เจอกับการต่อต้านใดๆ เลือดพุ่งกระจายไปทุกที่ มาโดนผม และบริเวณรอบๆผม ช่างสกปรก และไม่มีห้องน้ำที่นี่ด้วยเหมือนกัน ดังนั้นบางทีผมจะหยุดตอนนี้

ทหารหนึ่งคนเจอโอกาสที่จะพุ่งเข้าตีใส่ผม ระหว่างที่หอกที่ผมถือในมือขวา ได้แทงคนที่คร่ำครวญสองคนเสียบไม้ แต่ผมใช้มือซ้ายเพื่อจับหัวของเขา

 「อะไรวะ-……」   

 「สัตว์ประหลาด」   

 「ถ้าพวกแกยังต่อต้านต่อไป นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับพวกแก」   

ทำการแสดงให้เหล่าทหารดู ผมกำหัวของศัตรูแน่นข้า

 「อ่ะ……อั่ก……หยุด……กุฮิ้」   

พร้อมด้วยเสียงบดขยี้ หัวระเบิดระหว่างที่ผมทำมัน ผมโยนสองคนที่ถูกแทงทะลุบนหอกผม ขึ้นไปสูงในอากกาศ

 「ร่ะ……ราชาปีศาจ……」 「กูสู้กับวิญญาณชั่วร้ายไม้ได้เว้ย!!」   

เหล่าทหารของศัตรูทิ้งการป้องกันของรั้ว และถอยไปข้างหล้ง ทหารตีฝ่าต่อไป ทันทีที่ทหารม้าผ่านกำแพง ทหารที่ยืนเท้าไม่มีทางเลือก นอกจากวิ่งหนี

 「ไล่ตามมันไป ฆ่าพวกมันให้หมด」   

 「หยะ หยุดนะ! เกี้ยะะะะะ」 「ฮฮฮฮฮฮฮฮิ้!!」      

คำสั่งผู้บัญชาการรุนแรงขึ้น ดั่งจะแก้ไขสำหรับจำนวนความเสียหายที่ได้รับ อย่างไรก็ตาม นั่นเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นชัยชนะควรจะเป็นสิ่งแรกที่อยู่ในใจ

 「นายอ้อมไปฆ่าพวกเค้าได้ทีหลัง พวกนั้นที่ผ่านทะลุแล้ว ตามชั้นมา ลุยไปข้างหน้า」   

ผมขึ้นชวาร์ซเพื่อควบไปหน้า เข้าไปสู่ป่าอีกครั้ง เพราะทหารได้หันหลังให้ผม และผมแค่บุกไปข้างหน้า งั้นก็แทงเขาเลยระหว่างทางไปสิ เพราะชวาร์ซก็สร้างเรื่องชนเขาล้มด้วยเหมือนกัน ทหารศัตรูอยู่ในความระส่ำระส่ายไปแล้ว แต่ผมมีความรู้สึก ว่าสิ่งต่างๆมันจะไม่จบแบบนี้

หลังจากนั้น กับดักประปาย ทำให้พวกเราต้องเสียสละเพื่อที่จะใช้กำลังผ่านทางไปอย่างดุร้าย ตั้งแต่ผ่านรั้วมา ไม่มีแถวการป้องกันใหญ่เลยซักนิด ในความเป็นจริง จำนวนของศัตรูนั้นลดลงไป ขณะที่เราบุกลึกเข้าไปข้างใน เพราะเราไม่เห็นศัตรูที่มีมีวิตบนทางของเรา ตั้งแต่ตอนนั้นมา

 「ฐานของพวกมันแค่อยู่อีกฝั่ง!!」   

สิ่งที่คลี่ม่านออกต่อสายตาเรา ขณะที่เราออกจากป่า เป็นเนินเขาสูงชัน มันไม่ใช่ภูเขาหิน ดังนันมันดูเหมือนว่าเรายังจะไต่ไปได้

 「มันเป็นพลธนูของศัตรู」   

พลธนูได้ถูกวางกำลังที่สันเขาของเนินเขา นี่คือการเคลื่อนไหวตามหนังสือ ทั้งหมดเป็นการเป็นไปตามที่คาดไว้

ธนูที่กระจัดกระจายถูกยิงออกมาทางเรา และทำพวกเราไม่กี่คนล้มฟุบไป แต่ความแม่นยำและกำลังไม่มีผลมากพอ ที่จะกำจัดพวกเราที่มีโล่ เมื่อทหารม้าธนูรีบออกมาจากป่าและยิงกลับไป ลูกธนูของพวกเขาพลิกความได้เปรียบ ที่ได้มาจากความสูง และฆ่าศัตรูหมดในทันที มันเห็นได้ชัดว่าใครนั้นเหนือกว่า จากการปะทะก่อนหน้าและการยิงกันก่อนหน้านี้

 「มันจะเป็นเราชนะเมื่อเราไต่เขา!」   

ผู้บัญชาการของทหารราบตะโกนเสียงดัง ขณะที่เขาเริ่มไต่เขาเกือบจะเป็นการคลาน เขาอาจจะพูดเร็วไป เพราะเทียบความดังของเสียงของเขาแล้ว ความเร็วที่เขาไต่มันลดลงไป

ผมจะตามหลังเขาไป แต่ม้าวิ่งขึ้นเขาไม่ได้ ขณะที่เขาไต่อย่างช้าๆขึ้นทางลาด ศัตรูหลายคนประกฏต่อหน้าเขา ทันทีต่อมา ก้อนหินกลมนับไม่ถ้วน และท่อนซุงหนากลิ้งลงมา

 「กย้าาาาา!!」   

ทหารที่ตะกุยตะกายเพื่อจะเป็นหนึ่งที่ไปถึงยอด ถูกขยี้ทีละคนตามๆกัน บางคนตื่นตกใจและหันหลังกลับ สะดุดล้มเองบนเขาสูงชันและกลิ้งลงมา ตลอดทางถึงล่างสุด

 「คุ มาไกลมากขนาดนี้แล้ว!」   

ซีเลียทำหน้าขุ่นเคือง ดั่งจะไปกัดเอาอะไรที่ไม่น่าพอใจ พลธนูสนับสนุนจากข้างหลังด้วยลูกธนู แต่ไม่รู้ว่าศัตรูมันทำอะไร การเสริมกำลังมันค่อนข้างไม่ได้ผล

 「อย่างที่คาด เราสู้ที่นี่ไม่ได้! ถอยตอนนี้และหลังจากที่ไปที่พื้นเรียบ……」   

อิริจิน่าก็ดูเหมือนจะคิด ว่าการสู้ที่เนินเขาที่เมื่อคุณเสียสมาะธิแค่พริบตาเดียว จะหมายถึงคุณจะโดนทับบี้แบน เป็นความคิดที่ไม่ดี

 「เอเกอร์ซามะ ระวัง!!」   

ซีเลียตะโกนขณะที่ซุงยักษ์กลิ้งลงมาจากยอดเขา พวกเขาไปหาต้นไม้ใหญ่ขนาดนี้ได้ยังไงกัน

 「ซีเลีย อิริจิน่า กระโดดออกจากทาง」   

ผมปล่อยหอกไว้ให้อิิริจิน่า และยื่นสองมือออกไป ขณะที่ผมย่อตัว

 「นั่นไร้สาระน่า!」   

 「ฮึ่ม!!」   

ผมดันมือใส่ซุงที่กลิ้งมา อย่างที่คาด มันหนักอย่างไม่น่าเชื่อ และแรงส่งของมัน ทำให้เท้าของผมไหลกลับไป ผมสามารถจะขุดรองเท้าเหล็กกล้าลงไปในพื้นได้อย่างไรก็ไม่รู้ เพื่อที่จะทำให้แรงส่งช้าลง แต่ผมโดนดันลงไปค่อนข้างไกล นี่มันจะมากสุดเท่าที่มันไปได้

 「ก้าาาาาา!!」   

ซุงนั้นหนัก มากไปกว่าอาวุธไหนๆที่ผมเคยแบกเท่าที่ผ่านมา ซึ่งนั่นหมายถึง ผมน่าจะไม่สามารถจะยกมันขึ้น แต่เทียบกันได้ว่ากลิ้งง่าย เพราะการขาดกิ่งไม้

ด้วยความเร็วของมดตัวหนึ่ง ผมผลักซุงหนาขึ้นไป และไต่ทางลาด ทีละก้าวทีละก้าว ทหารนอนลงและเกาะติดกันผูเขาพื่อที่จะซ่อนตัวเอง เห็นผมและตามหลังผมมาอย่าชาญฉลาด

 「ถ้าอย่างนั้น ซุงนี้มันใช้คนเดียวขยับ」   

 「ไอ้ควายท่านลอร์ดศักดินาซานะเค้าไม่ใช่คนโว้ย」   

พวกเขาพูดอะไรกันตามใจเลยนะ ผมจะเอาเมียพวกเขาซะหลังจากเรื่องนี้จบลง

 「ทำอะไรอยู่วะ พวกนายก็ไปดันด้วย!!」   

ผู้บัญชาการกลับมามีสติและตะโกน

ทหารออกันไหล่ชนไหล่ข้างผม มันง่ายขึ้นหน่อยที่จะผลักมันแล้ว แต่ตอนนี้มันค่อนข้างที่จะแออัด

หินและซุงกลิ้งลงมาจากเนินเขา แต่มันถูกกันดีดออกไปข้างๆ ด้วยซุงมหีมาที่เราดันดันอยู่ ศัตรูเริ่มที่จะตื่นตกใจ และเริ่มเตรียมที่จะยิงธนูใส่เรา และโผล่หัวออกมาเหนือสันเขาหมายถึง ทหารม้าธนูที่ตีนเขาซุ่มยิงพวเขาได้อย่างแม่นยำ

พวกเราทั้งหมดเหงื่อแตกขณะที่เราผลักกิ่งไม้ขึ้นเนิน และจากนั้น เราก็ไปถึงยอด

 「เก่ะ」 「ล้อเล่นเหรอวะ……」   

ศัตรูที่กำลังจะดันหินอีกก้อนส่งเสียงออกมา ในความไม่เชื่อ โชคร้ายนะ นี่คือความเป็นจริง มันหนักจริงๆ ดังนั้นให้ผมได้ระบายอารมณ์ใส่หน่อยเหอะ

ผมปล่อยซุงและชักดาบ ทหารที่ตามมาข้างหลังก็กระจายตัวเองข้างผม มันปรากฏว่าหมู่บ้านศัตรู ตั้งอยู่ข้างหลังพวกเขา ดังนั้นโดยพื้นฐานแล้วไม่มีที่ ให้แผนไหนๆมาขัดขวาง

 「ขยี้แม่ง!」 「ฆ่าม้านนนนนนน!!」   

กำลังใจของทหารที่โจมตีอย่างไม่มีวันสิ้นจบ ยิ่งขึ้นไป บทบาทตอนนี้ได้พลิกแล้ว จุดจบเข้ามาหา

—————————————————————

【–มุมมอง บุคคลที่สาม/ทริสตัน–】   

เมื่อครู่ที่แล้ว ฐานกองทัพกบฏ

 「ทั้งกองทัพจะพุ่งเข้าตีจากข้างหน้า ตั้งแต่เริ่มทันทีเลยเหรอ?」   

ทริสตันร้องในความตกใจ ระหว่างอยู่ที่ที่เขาเห็นทั้งหมด ของเหตุการที่คลี่คลาย

 「พวกนั้นมันควายเหรอ? ตรงเข้าตรงกลางแบบนี้เนี่ยนะ」   

ชายที่อยู่ข้างๆ ดูถูกดูแคลน และหัวเราะร่า แต่ทริสตันมิได้ยิ้ม

 「ฮ่าาา……นี่เป็นสิ่งที่ชั้นต้องการน้อยที่สุดเลย ในแบบ ชั้นหลอกพวกเค้าไม่ได้เลยซักนิด」   

ทันทีนั้นเอง สีหน้าของเหล่าผู้ชายรอบข้างเปลี่ยนไป

 「เฮ้ เฮ้ มันจะไม่เป็นไรใช่มั้ย?」   

 「ไม่ มันไม่เป็นอย่างนั้นเลย แต่ชั้นได้ทำการเตรียมการไว้แล้วนะ」   

 「โว่ว พวกเค้าพุ่งเข้าตีเข้าทางเข้าของป่า…… ควรจะมีเชือกอยู่ที่นั่น……」   

 「พวกเค้าพุ่งเข้าตีโดยไม่สนใจเลย มันน่าทึ่งที่มันไร้สาระแล้วไร้สาระอีกแค่ไหน」   

เหล่าชายหัวเราะ ทริสตันอธิบายเหตุการณ์ พวกเขาทั้งหมดเชื่อ ศัตรูจะไปติดกับดัก

 「เราต้องเตรียมเหล้าไว้เมื่อเราชนะซะแล้ว」   

 「มืม ชั้นคิดว่ารอก่อนดีกว่านะ จากใจเลย นี่มันค่อนข้างจะแย่……บอกพวกเค้าให้ตั้งรั้ว ในแคมป์ข้างหน้าพวกเค้าได้มั้ย?」   

 「รั้วเหรอ? ได้สิ」   

คำสั่งของทริสตัน เรียบง่ายและชัดเจน นี่ไม่ได้เป็นสิ่งที่ชอบทำ หรือเนื่องมาจากนิสัยของเขา แต่มันเพียงเพราะชายที่เขาทำงานด้วย ไม่สามารถที่จะทำอะไรซักอย่างที่ซับซ้อนมากไปกว่านี้ มากที่สุด ถ้าไม่ใช้ทั้งหมด กองทัพก่อด้วยชาวนา และคนเหล่านั้นที่มีประสบการณ์ ในการเป็นผู้บัญชาการ หรือทหารที่ไม่สามารถรับคำสั่งที่กว้างขวางได้

 「เดินหน้า」 「นิ่งไว้」 「ทำ ‘นั่น’」 「ซ่อน」   

คำสั่ง จำเป็นต้องสั้นและเรียบง่ายสุดขีด

เพื่อที่การกระทำและคำสั่งที่ซับซ้อนจะใช้งานได้ การเคลื่อนไหวต้องได้ถูกจัดเตรียมล่วงหน้า ฝึกซ้อมนับคร้งไม่ถ้วน และประเภทของคำสั่งนั้นมีจำกัด พวกเขาต้องคาดการณ์ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก่อนมันจะเกิดขึ้น หรือไม่ พวกเขาจะไม่สามารถตอบสนอง และเลือกแผนการจากที่สถานการณ์มันเปลี่ยนไป

 「แต่ทำไมมันแย่ล่ะถ้ามันพุ่งเข้าตี? ไม่ใช่มันเหมือนกัน กับเมื่อจัดการกะสัตว์ป่าเหรอ?」   

 「เหมือนที่ชั้นพูดน่ะ ชั้นมีเจตนา ที่จะได้เจอผู้บัญชาการที่ยิงใหญ่ เคานต์ฮาร์ดเลตต์ กับดักสำหรับสัตว์ป่า มันไม่ได้ผล」   

เขาถอนหายใจ เมื่อเห็นว่าแผน 90% ของเขา ไร้ประโยชน์เสียแล้ว

 「มากกว่านั้น ระหว่างที่นายจำกัดผู้เสียสละ และขับไล่ศัตรูได้ ในการต่อสู้ของแผนการ ทั้งสองฝ่ายจะได้รับการเสียจำนวนคนไป ถ้ามันกลายเป็นการตีกันหมด พวกเค้าน่ะเติมเสบียงและทหาร แล้วลองใหม่อีกครั้งได้ แต่ของเรามันต่างกัน」   

ทริสตันลากคำพูดว่า ‘นั่นทำไมการกบฏมัน-‘ แต่หยุดกลางประโยค เมื่อเขาเห็นม้าจำนวนน้อย มาถึงเพื่อส่งข้อความ

 「รัวไม้ที่สร้างเร็วข้างหน้าถูกพังผ่านแล้ว! พวกนั้นแม่งบ้า มันปิดตาม้าและพุ่งใส่ตรงๆเข้าใส่รั้วเพื่อที่จะพังมัน」   

 「โอ้ะโอ นี่มันแย่จริงจัง พวกเค้าจะสามารถสารถตีฝ่าได้ถ้าแบบนี้ บอกคนบนยอดเขาให้เตรียมพร้อม」   

 「มีคนนึงในหมู่พวกเค้าที่อันตรายที่สุดเลย เค้าฉีกพวกเราเป็นชิ้นๆ……จะ เจ้านั่นมันไม่ใช่มนุษย์แล้ว」   

มีคนหนึ่งที่เข้ามาสู่ใจ

 「ฮ่าาา……มันเป็นเคานต์ฮาร์ดเลตต์เองแน่นอนเลย ชั้นไม่คิดถึงเรื่องนี้เลยซักนิด ลอร์ดศักดินามาเอง หมายถึงเราถอยออกมาไม่ได้แล้วตอนนี้ ปัญหาเยอะจังว้า ชั้นสงสัยจังว่าเค้าจะยกโทษให้เราป่าวถ้าเราขอโทษตอนนี้」   

 「นายพูดอะไรน่ะ?! เรามันกองทัพกบฏ และถ้าเราแพ้ นายและชั้นจะถูกแขวนคอตาย! ไม่ มันอาจจะปราณีไป ที่เราจะถูกฆ่า และเราอาจจะถูกทรมานอย่างหนัก」   

 「ชั้นหวังว่านั่นจะไม่เกิดขึ้นนะ เพราะทั้งหมด ชั้นขี่ม้าไม่ได้ ชั้นเลยวิ่งหนีไม่ได้」   

ในท้ายที่สุด เสียงคำรามของความเกรี้ยวกราด สามารถได้ยินมาจากทางเข้าของป่าได้ มันหมายถึง ศัตรูได้ผ่านป่ามาแล้ว

นักธนูพยายามจะสกัดกั้น แต่พวกเขาส่วนใหญ่ถูกกำจัดแทน

 「ล้อเล่นใช่มั้ยเนี่ย……ทำไมเราเป็นคนที่โดนกวาดล้าง เมื่อเราอยู่บนพื้นสูงกว่า?」   

    

 「นั่นคือความต่างระหว่างการฝึกและอุปกรณ์ เราไม่ได้ฝึกเพื่อที่จะจับกระต่ายหลังจากทั้งหมด」   

ทริสตันยกมือของเขา และมอบสัญญาน แถวของซุงบางๆเรียงกัน จากหมู่บ้าน ถึงขอบเขา ระหว่างที่หินใหญ่และซุงหนา ถูดผลักผ่านพวกมัน ผลของมัน ก้อนหินกลมและซุงสามารถถูกขนส่งได้ แม้แต่ด้วยกำลังของผู้หญิงและคนชรา และการโจมตีที่ต่อเนื่องถูกรักษาไว้แบบนี้ได้

 「ถ้าเราผลักของลงเนินชัน ศัตรูจะไม่สามรถไต่ขึ้นมาได้ และน่าจะอื่นไปที่ฝั่งตะวันออกของเนินเขา ที่มันลาดน้อยกว่า หลุมซ่อนและไฟเตรียมแล้วมั้ย」   

 「ใช่ สมบูรณ์แบบ เราจะปกคลุมพวกเค้าไปในไฟ!」   

 「อื้ม นี่จะทำให้เราผ่านการคืนไปได้ยังไงก็อย่างนึง……」   

ทริสตันตันคำพูดของเขาขาด และมองในความทึ่ง ที่ก้นเขา

 「ชั้นตกใจ……ที่สามารถกลิ้งซุงนั่นขึ้นเขาแบบนั้นได้」   

 「ไม่มีทางน่า……มันใช้ 10 คนด้วยกันเพือนขยับไอ้นั่นนะ!」   

ซุงใหญ่เป็นพิเศษ เอาม่าเพื่อที่จะให้ศัตรูทั้งหมดบี้แบนทีเดียว ถูกใช้เป็นโล่ต่อลูกธนูและหิน มันใช้อย่างน้อยสิบคน เพื่อกลิ้งอะไรบางอย่างแบบนั้น บนพื้นราบ ดันสิ่งนั้น ไม่มีใครที่จะจินตนาการได้เลย ว่ามันจะถูกดันขึ้นทางลาด

 「ถ้าเป็นแบบนี้ พวกเค้าจะฝ่าตะวันตก ให้พวกนั้นที่ออกไปเตรียมที่ตะวันออกกลับมา」   

 「คนส่งสาส์นที่มีม้าไปไหนแล้ว !?」   

 「เค้าเพิ่งไปที่ตะวันออก!」   

 「เรียกเค้ากลับมา! ไม่ ให้บางคนวิ่งออกไปบอกพวกเค้า!!」   

โดยไม่รู้ตำแหน่งของคนส่งสาส์น คำสั่งจะไม่ถูกส่ง และโอกาสที่จะพลิกสิ่งต่างๆกลับด้าน เสียไป ทริสตันถอนหายใจ มันไม่มีเหตุผลที่จะตกใจ เพราะเขาตัวเขาเอง และเหล่าผู้ชายนั้น แค่ชาวนา และไม่ควรจะสามารถต่อสู้ได้ตั้งแต่ทีแรก

 「ฮ่าาา ชั้นแค่อยากจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขจริงๆ และเปิดร้านหนังสือในเมืองซักที่ และอาจจะมีแมวมานั่งตัก」   

มันไม่ได้ดูเหมือนว่าความหวังของเขาจะถูกสนอง

ในท้ายที่สุดทหารขของศัตรู ที่เสร็จสิ้นการดันซุงขึ้นยอดเขา ปะทะกับทหารพวกเดียวกัน แม้ว่ามีอยู่แค่ไม่กี่คน ทหารของพวกเดียวกันถูกตีล่าถอยในพริบตาเมื่อเผชิญหน้ากับออร่าที่ดุร้าย

ชายที่ถือหอกใหญ่เป็นพิเศษ แยกชิ้นส่วนทหารซ้ายขวา ทหารแปดคนพุ่งเข้าตีใส่เขา แต่จบที่เหลือแค่ท่อนล่าง เมื่อเห็นเช่นนี้ ทหารพวกเดียวกันอื่นทั้งหมด สูญเสียกำลังใจทั้งหมดไปในทันที

ในท้ายที่สุด เสบียงของที่ไว้โยนลงเนินเขา ลดลงไปถึงความว่างเปล่า ศัตรูเริ่มปรากฏจากเนินเขา เหมือนอัคคีที่แผ่กระจาย

 「ทริสตัน! พวกเค้าไต่ขึ้นมา! เราควรทำอะไรต่อ?!!」      

 「ฮ่าาา……」   

พร้อมการถอนหายใจครั้งสุดท้าย ทริสตันกางมือ และส่ายหัว

—————————————————————

ตัวเอก: เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 22 ปี ฤดูใบไม้ผลิ

สถานะ: เคานต์แห่งอาณาจักรโกลโดเนีย ลอร์ดศักดินาผู้ยิ่งใหญ่ของบริเวณตะวันออกของโกลโดเนีย ราชาแห่งภูเขา เพื่อนของดวอร์ฟ

กองทัพที่บัญชาการ: กองทัพส่วนตัว –  1850 

ทหารม้าธนู: 650, ทหารราบ: 280, นักธนู: 200, ทหารม้าหอก: 140, คนคุ้มกัน 20, รอพร้อมในราเฟน: 500

สินทรัพย์: 14300 ทอง (แรงงาน -200) หนี้: 20 000 ทอง

อาวุธ: แอ่งคู่ (ดาบใหญ่), หอกดวอร์ฟ,  ดาบเหล็กกล้ามือเดียวชั้นสูง

ครอบครัว: นนน่า (ภรรยา), คาร์ล่า (ภรรยาน้อย),เมล (ภรรยาน้อยที่ท้อง), คู (คนรัก), รู (คนรัก), มิเรล (คนรัก), เลอาห์ (ประกาศตัวเองว่าเป็นทาสกาม), เคซี่ (ผี). มิทตี้ (คนรัก), อัลม่า, ครอลล์ (ไม่ใช่หนุ่มบริสุทธิ์), เมลิสซ่า (คนรัก), มาเรีย (คนรัก), ริต้า (หัวหน้าแม่บ้าน), แคทเธอรีน (คนรัก), โยกุริ (ปรับปรุงนิสัย), ปีปี้ (ผู้ติดตาม), เซบาสเตียน (พ่อบ้าน), โดโรเธีย (คนรัก อยู่ในเมืองหลวง)

ลูก: ซู, มิว, เอคาเทอริน่า (ลูกสาว), แอนโตนิโอ, คลอดด์ (ลูกชาย), โรส (ลูกสาวบุญธรรม)

ลูกน้อง: ซีเลีย (ผู้ช่วย), อิริจิน่า (ผู้บัญชาการ), ลูน่า (ผู้บัญชาการ), รูบี้ (ผู้ติดตามของลูน่าและคนรัก), ไมล่า (เจ้าหน้าที่เพื่อสันติสุข), ลีโอโพลต์ (เจ้าหน้าที่), อดอล์ฟ (เจ้าหน้าที่กิจการภายใน), กิโด้ (คนคุ้มกัน), แคลร์ & ลอรี่ (แม่ค้าอย่างเป็นทางการ), ชวาร์ซ (ม้า), ลิเลียน (ดารา)

คู่นอน: 114, เด็กที่เกิดแล้ว: 10

—————————————————————   

 เป้าหมายเดือน 9/66

ค่าเน็ต 0/200

กาแฟ 0/300

คอมใหม่ 0/2000

สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่

067-3-63958-5

วายุ แซ่จิว

กสิกรไทย

แปลโดย: wayuwayu

โดเนทแล้วอยากให้เรื่องขึ้นหรือสะสมเงินเพิ่มตอน สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ที่ facebook   

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด