ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีบทที่ 787 โอกาสซ้ำเติม

Now you are reading ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี Chapter บทที่ 787 โอกาสซ้ำเติม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เวลาผันแปร การทดสอบแห่งจันทราสลายหายกลายเป็นควันเมฆ

สำหรับเฟิงอวิ๋นเซิงแล้ว มงกุฎจันทราไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต และไม่ใช่เป้าหมายของชีวิตมานานแล้ว

แต่ว่าขณะมองดูนางที่ล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า จนในที่สุดก็ประสบความสำเร็จ เยี่ยนจ้าวเกอก็ทอดถอนใจ รู้สึกดีใจแทนนาง

ราวๆ แปดปีก่อนหน้านี้ นางควรจะได้ทุกสิ่งนี้ไปแล้ว

เดิมทีไม่จำเป็นต้องรอนานขนาดนั้น แต่ว่าเรื่องราวมักเต็มไปด้วยอุปสรรค เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลง เฟิงอวิ๋นเซิงสุดท้ายก็ได้แต่เดินเฉียดมงกุฎจันทรา

แม้แต่โอกาสจากการทดสอบแห่งจันทราก็หายไปด้วยเช่นกัน

ดีที่ในที่สุดทุกอย่างก็จบลงเสียที

บุรุษหนุ่มที่อยู่ใต้การครอบคลุมของเงาแสงหงส์เพลิงผู้นั้น มองเหตุการณ์นี้ด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ‘เป็นแค่คนจากโลกเบื้องล่าง กลับครอบครองของล้ำค่ามากมายขนาดนี้ ไม่กลัวว่าตนจะแบกรับความสำคัญของพวกมันไม่ไหวหรือ? ประเดี๋ยวก็กลายเป็นชาวบ้านไร้ความผิด ครั้นครองหยกก็กลายเป็นผิดหรอก’

เฟิงอวิ๋นเซิงไม่ได้อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ นางจึงสูญเสียพลังมากเกินไปในการต่อสู้กับเมิ่งหวาน

ตอนนี้แม้ว่าจะชิงมงกุฎจันทรามาได้ แต่ก็ไม่มีพลังพอจะต่อสู้อีก ไม่ว่าจะเป็นมงกุฎจันทราหรือดาบเทพอาทิตย์ยะเยือก นางล้วนไม่อาจกระตุ้นพลังของพวกมันต่อได้

เยี่ยนจ้าวเกอร่วมมือกับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก บังคับตราประทับตะวันกับดาบปีศาจเทาเที่ยพร้อมกัน ก็ถือว่าถึงขีดสุดแล้วเช่นกัน

เขาสูญเสียพลังของญาณจริงแท้ไปมหาศาล ความเร็วในการฟื้นฟูของคัมภีร์นภาไร้ขอบเขตและคัมภีร์นภาหยินหยางไล่ตามความเร็วในการถูกผลาญพลังไม่ทัน อีกไม่นานเยี่ยนจ้าวเกอก็จะไม่อาจควบคุมอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงได้อีก

ทว่าโอกาสที่เขารอมาถึงแล้ว

ในตอนที่เฟิงอวิ๋นเซิงโจมตีเมิ่งหวาน และได้มงกุฎจันทรามา เยี่ยนจ้าวเกอก็หยิบผลึกชิ้นหนึ่งออกมา แล้วใช้ฝ่ามือบี้มัน

เขาดีดนิ้วครั้งหนึ่ง “พ่านพ่าน?”

นอกจากสถานที่ที่ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันแล้ว พ่านพ่านที่บัดนี้ร่างกายใหญ่ขึ้นเท่าภูเขาอยู่ในบ่อเลือดอันเกิดจากหัวใจปีศาจของเทาเที่ย ก็ก้มหน้ามองด้านหน้าตัวเอง ผลึกชิ้นหนึ่งที่ตอนแรกลอยอยู่กลางอากาศ เหมือนกับถูกอะไรบางอย่างเหนี่ยวนำ พลันแตกสลาย

พ่านพ่านกะพริบตาปริบๆ ผิวยังคงมีแสงสีฟ้าครามเคลื่อนไหว พุ่งออกด้านนอกบ่อเลือด

หลังจากเวลาผ่านไป วังศิลาที่อยู่ติดกับบ่อเลือดแม้ไม่ได้กลายเป็นหลุมดำ แต่ก็ถล่มอย่างต่อเนื่อง

พ่านพ่านพุ่งออกจากวังศิลาผ่านช่องว่าง จากนั้นร่างกายก็ใหญ่ขึ้นอีกขั้นหนึ่ง

ร่างกายขนาดมหึมาที่ตอนแรกเหมือนกับภูเขา พองออกอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมที่ว่าง บังฟ้าบังตะวัน

สุดท้าย แม้แต่วังศิลาทรุดโทรมด้านหน้า ก็ยังดูเล็กจ้อยเมื่อเทียบกับตัวมัน!

ในดวงตาของพ่านพ่านฉายแววคลุ้มคลั่งอีกครั้ง หลังจากร้องคำรามครั้งหนึ่ง มันก็อ้าปากขึ้น กัดใส่วังศิลาที่กำลังพังทลายลง!

ตำแหน่งที่มันกัดคือบริเวณที่บ่อเลือดแห้งขอดอยู่ เป็นหัวใจของเทาเที่ยนั่นเอง

บ่อเลือดถูกพ่านพ่านกัดใส่ จากนั้นก็ถูกกลืนเข้าไป

ส่วนหนึ่งของวังศิลาทรุดโทรมที่ตอนแรกมีบ่อเลือดเป็นศูนย์กลาง พลันคงสภาพต่อไปไม่ไหว แหลกสลายลงโดยสิ้นเชิง

ซากปรักหักพังของตัววังที่อยู่รอบๆ พวกเยี่ยนจ้าวเกอซึ่งกำลังต่อสู้กันอยู่ในวังศิลา ยามนี้กำลังถล่มลงมา

เหนือศีรษะปรากฏดวงอาทิตย์อีกครั้ง มองเห็นท้องฟ้าของโลกซ้อนโลกได้แล้ว

รอบๆ เป็นน้ำทะเลที่ไหลเชี่ยว ประกอบกันเป็นน้ำวนขนาดยักษ์

ทุกคนตอนนี้กำลังอยู่ในใจกลางน้ำวน ด้านล่างน้ำวนเป็นสีดำสนิท คือหลุมดำขนาดยักษ์ซึ่งเกิดจากการพังทลายของศพเทาเที่ย

หลุมดำแผ่ขยายออก ลามไปรอบๆ กลืนกินทุกสิ่งที่อยู่ด้านบนอย่างดุร้าย หมายจะดึงทุกสรรพสิ่งลงไป

บ่อเลือดถูกพ่านพ่านกลืนกิน วังศิลาพังทลายโดยสมบูรณ์

บุรุษที่อยู่ใต้การปกคลุมของเงาแสงหงส์เพลิง สัมผัสถึงความผิดปกติได้ทันที

พลังกลืนกินอันน่ากลัวของหลุมขมุกขมัวเบื้องล่างส่งผลต่อเขาเช่นกัน

ถึงกับมีลำแสงสีดำหลายสายพุ่งออกมาจากในน้ำวน ม้วนเข้ามาหาเขา!

เขาขมวดคิ้ว รีบร้อนเพิ่มพลัง หงส์เพลิงสยายปีกบินสูง ทะยานขึ้นด้านบน เพื่อหลบเลี่ยงไม่ให้ถูกหลุมสีดำขมุกขมัวด้านล่างดูดไว้

ด้วยพลังฝึกปรือของเขา ต่อให้มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงคอยคุ้มครอง แต่ถ้าเกิดกตกลงไปด้านในหลุมสีดำขมุกขมัวจริงๆ พอหลุมพังทลาย ก็ย่อมประสบผลร้ายมากกว่าผลดีเช่นกัน

ทว่าไม่ทันไร ด้านหน้าเขาก็มีประกายกระบี่สีดำสายหนึ่งปรากฏขึ้น กลิ่นอายพลังเหมือนกับหลุมสีดำขมุกขมัวเบื้องล่างถึงขีดสุด

เป็นเยี่ยนจ้าวเกอลงมืออีกครั้ง

อีกฝ่ายไม่หวั่นวิตก แต่เมื่อพินิจมองดูอย่างละเอียด จิตใจพลันเย็นเยียบไปครึ่งหนึ่ง

พ่านพ่านที่กลืนหัวใจปีศาจของเทาเที่ย เส้นเลือดบนร่างพองออกอีกครั้ง ลำแสงหลายสายทะลัก ดวงตาสาดประกายดุร้ายอย่างไม่อาจควบคุม

แต่ว่ามันในตอนนี้ยืนอยู่กลางอากาศ แม้จะถูกหลุมสีดำขมุกขมัวเบื้องล่างดูดไว้ แต่ยังคงหยุดยั้งท่าร่างได้

เยี่ยนจ้าวเกอเก็บตราประทับตะวัน แต่ว่ากระบี่ปีศาจเทาเที่ยในมือส่องประกาย ต่อให้เผชิญกับหลุมสีดำขมุกขมัวที่เกิดจากกายเนื้อของเทาเที่ย ก็ยังคงมีพลังต้านทานอันแข็งแกร่ง

เขาที่เคลื่อนคมเหลือที่ว่าง[1] ฟันกระบี่ลงอีกหนึ่งกระบี่

เขาพูดขึ้นด้วยสีหน้าเยือกเย็น “สู้กันมาสองครั้ง ยังไม่รู้ว่าท่านชื่ออะไร?”

บุรุษหนุ่มกัดฟัน “จวงเจาฮุยแห่งเนินต้นจักรพรรดิ”

เนินต้นจักรพรรดิแห่งเขาลีลาหงส์ในเขตเพลิงทักษิณ คือสถานที่ที่ประมุขทักษิณอยู่

จวงเซิน คือชื่อของประมุขทักษิณ

จวงเจาฮุยป้องกันประกายกระบี่ ร่างที่พุ่งขึ้นด้านบนหยุดโดยฉับพลัน ถูกลำแสงสีดำมากมายม้วนพัด ก่อนจะโดนลากลงไป

เขาขมวดคิ้ว มองเยี่ยนจ้าวเกอแวบหนึ่ง สุดท้ายก็ส่ายหน้า

สถานการณ์ในตอนนี้ หลุมสีดำขมุกขมัวที่กลืนกินทุกสรรพสิ่งเบื้องล่างกลับกลายเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดของเยี่ยนจ้าวเกอ

สถานที่ที่ต่อสู้กันอยู่ในตอนนี้กลายเป็นถิ่นของเยี่ยนจ้าวเกอ นอกจากนี้ยังเป็นถิ่นที่มีความได้เปรียบด้านชัยภูมิอย่างไร้ที่สิ้นสุดด้วย

เยี่ยนจ้าวเกอไม่ต้องใช้พลังมากเกินไป เพียงขวางทางถอยไว้ อีกไม่นานจวงเจาฮุยก็จะถูกหลุมสีดำขมุกขมัวนั้นดูดเอาไว้

ขอแค่ถูกลากเข้าไปในหลุมดำที่ก้นทะเลโดยสิ้นเชิง นั่นก็จะมีแต่สถานการณ์ตายเก้ารอดหนึ่ง

จวงเจาฮุยไม่อาจเพ่งความสนใจไปที่ตัวเยี่ยนจ้าวเกอมากเกินไป ต้องใช้ความสามารถที่มีอยู่สิบส่วนไปกับการป้องกันพลังกลืนกินฟ้าดินของหลุมดำด้านล่างเสียแปดส่วน

การควบคุมอาวุธศักดิ์สิทธิ์ไปรับมือกับเยี่ยนจ้าวเกอทำให้สูญเสียพลังมหาศาลจริงๆ

แต่ไม่รอเขาหมดแรง จวงเจาฮุยก็ถูกหลุมดำกลืนกินเสียแล้ว

บนร่างของจวงเจาฮุยมีแสงม่วงบารมีส่องระยิบระยับ รอดจากภัยพิบัติ กั้นลำแสงสีดำออกไป

หงส์เพลิงกระพือปีกทีหนึ่ง พุ่งขึ้นท้องฟ้าสุดกำลัง เกาทัณฑ์วิเศษที่เปล่งประกายสีแดงก่ำคันนั้น ช่วยต้านทานการโจมตีจากกระบี่ปีศาจเทาเที่ย

ปราณขาวกุศลซ่อนสายหนึ่งปรากฏขึ้น มอบโอกาสรอดชีวิตในสภาพจนตรอก มองหาเส้นทางหนีเอาชีวิตรอดที่มีความหวังมากที่สุด

หงส์เพลิงทะยานขึ้นด้านบน สลัดหลุดจากพลังกลืนกินอันน่ากลัวของหลุมสีดำขมุกขมัวเบื้องล่าง

เขาพุ่งไปถึงด้านข้างพวกเยี่ยนจ้าวเกอ เพื่อจะพาตัวถังหย่งฮ่าวไปด้วย

เยี่ยนจ้าวเกอที่เตรียมตัวไว้ตั้งแต่แรกใช้กระบี่ขวางไว้ทันที

ในดวงตาของจวงเจาฮุยฉายแววเคียดแค้นและเสียดายชัดเจน

กระดูกหงส์เพลิงที่ถังหย่งฮ่าวมีอยู่ สำหรับคนผู้นี้ สำหรับเขตเพลิงทักษิณ สำหรับประมุขทักษิณ ล้วนมีความสำคัญยิ่งยวด

หลี่จิ้นศิษย์ของประมุขทักษิณที่ถูกเยี่ยนจ้าวเกอฆ่าตาย หวังฮุ่ยลูกศิษย์ของประมุขทักษิณที่ถูกจับเพราะเยี่ยนจ้าวเกอ จนเรื่องราวมาถึงขั้นนี้ ความจริงก็เพื่อกระดูกหงส์เพลิงที่แฝงจิตจริงแท้ของเมฆาคุณธรรมชิ้นนี้นี่เอง

นั่นคือเป้าหมายที่สำคัญที่สุดในการมายังเขตตะวันอาคเนย์ในครั้งนี้ของจวงเจาฮุย มีความสำคัญยิ่งกว่าอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงอย่างกระบี่ปีศาจเทาเที่ยเสียอีก

เขาเงยหน้าถอนใจ หมุนตัวโดยพลัน ก่อนจะใช้ปีกหงส์ม้วนเมิ่งหวานที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรด้วยไว้ จากนั้นก็บินออกไป พุ่งออกจากมหาสมุทรบนดินแดนสุทธทัศน์

“เสี่ยวหวาน!”

“ศิษย์น้องเมิ่ง!”

เฟิงอวิ๋นเซิงกับถังหย่งฮ่าวร้องอุทาน

เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

คิดจะระบายแค้นก็ไม่ควรเอาไปลงกับตัวเมิ่งหวานกระมัง…

ในตอนนั้นเอง น้ำวนเบื้องล่างก็พลิกตัว เงาร่างหลายสายพุ่งออกมาจากผิวน้ำตามลำดับ

ทว่าบนตัวพวกเขากลับเต็มไปด้วยลำแสงสีดำ ซึ่งกำลังลากพวกเขากลับไปยังก้นทะเลอย่างต่อเนื่อง สถานการณ์อันตรายยิ่งกว่าจวงเจาฮุยเมื่อครู่เสียอีก

เยี่ยนจ้าวเกอกะพริบตา

คนที่นำหน้าคือคังผิงนั่นเอง

…………………

[1] เคลื่อนคมเหลือที่ว่าง หมายถึง การทำงานที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดี จึงสามารถทำทุกสิ่งได้อย่างชำนาญ ทั้งยังมีประสิทธิภาพพ

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีบทที่ 787 โอกาสซ้ำเติม

Now you are reading ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี Chapter บทที่ 787 โอกาสซ้ำเติม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เวลาผันแปร การทดสอบแห่งจันทราสลายหายกลายเป็นควันเมฆ

สำหรับเฟิงอวิ๋นเซิงแล้ว มงกุฎจันทราไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต และไม่ใช่เป้าหมายของชีวิตมานานแล้ว

แต่ว่าขณะมองดูนางที่ล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า จนในที่สุดก็ประสบความสำเร็จ เยี่ยนจ้าวเกอก็ทอดถอนใจ รู้สึกดีใจแทนนาง

ราวๆ แปดปีก่อนหน้านี้ นางควรจะได้ทุกสิ่งนี้ไปแล้ว

เดิมทีไม่จำเป็นต้องรอนานขนาดนั้น แต่ว่าเรื่องราวมักเต็มไปด้วยอุปสรรค เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลง เฟิงอวิ๋นเซิงสุดท้ายก็ได้แต่เดินเฉียดมงกุฎจันทรา

แม้แต่โอกาสจากการทดสอบแห่งจันทราก็หายไปด้วยเช่นกัน

ดีที่ในที่สุดทุกอย่างก็จบลงเสียที

บุรุษหนุ่มที่อยู่ใต้การครอบคลุมของเงาแสงหงส์เพลิงผู้นั้น มองเหตุการณ์นี้ด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ‘เป็นแค่คนจากโลกเบื้องล่าง กลับครอบครองของล้ำค่ามากมายขนาดนี้ ไม่กลัวว่าตนจะแบกรับความสำคัญของพวกมันไม่ไหวหรือ? ประเดี๋ยวก็กลายเป็นชาวบ้านไร้ความผิด ครั้นครองหยกก็กลายเป็นผิดหรอก’

เฟิงอวิ๋นเซิงไม่ได้อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ นางจึงสูญเสียพลังมากเกินไปในการต่อสู้กับเมิ่งหวาน

ตอนนี้แม้ว่าจะชิงมงกุฎจันทรามาได้ แต่ก็ไม่มีพลังพอจะต่อสู้อีก ไม่ว่าจะเป็นมงกุฎจันทราหรือดาบเทพอาทิตย์ยะเยือก นางล้วนไม่อาจกระตุ้นพลังของพวกมันต่อได้

เยี่ยนจ้าวเกอร่วมมือกับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก บังคับตราประทับตะวันกับดาบปีศาจเทาเที่ยพร้อมกัน ก็ถือว่าถึงขีดสุดแล้วเช่นกัน

เขาสูญเสียพลังของญาณจริงแท้ไปมหาศาล ความเร็วในการฟื้นฟูของคัมภีร์นภาไร้ขอบเขตและคัมภีร์นภาหยินหยางไล่ตามความเร็วในการถูกผลาญพลังไม่ทัน อีกไม่นานเยี่ยนจ้าวเกอก็จะไม่อาจควบคุมอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงได้อีก

ทว่าโอกาสที่เขารอมาถึงแล้ว

ในตอนที่เฟิงอวิ๋นเซิงโจมตีเมิ่งหวาน และได้มงกุฎจันทรามา เยี่ยนจ้าวเกอก็หยิบผลึกชิ้นหนึ่งออกมา แล้วใช้ฝ่ามือบี้มัน

เขาดีดนิ้วครั้งหนึ่ง “พ่านพ่าน?”

นอกจากสถานที่ที่ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันแล้ว พ่านพ่านที่บัดนี้ร่างกายใหญ่ขึ้นเท่าภูเขาอยู่ในบ่อเลือดอันเกิดจากหัวใจปีศาจของเทาเที่ย ก็ก้มหน้ามองด้านหน้าตัวเอง ผลึกชิ้นหนึ่งที่ตอนแรกลอยอยู่กลางอากาศ เหมือนกับถูกอะไรบางอย่างเหนี่ยวนำ พลันแตกสลาย

พ่านพ่านกะพริบตาปริบๆ ผิวยังคงมีแสงสีฟ้าครามเคลื่อนไหว พุ่งออกด้านนอกบ่อเลือด

หลังจากเวลาผ่านไป วังศิลาที่อยู่ติดกับบ่อเลือดแม้ไม่ได้กลายเป็นหลุมดำ แต่ก็ถล่มอย่างต่อเนื่อง

พ่านพ่านพุ่งออกจากวังศิลาผ่านช่องว่าง จากนั้นร่างกายก็ใหญ่ขึ้นอีกขั้นหนึ่ง

ร่างกายขนาดมหึมาที่ตอนแรกเหมือนกับภูเขา พองออกอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมที่ว่าง บังฟ้าบังตะวัน

สุดท้าย แม้แต่วังศิลาทรุดโทรมด้านหน้า ก็ยังดูเล็กจ้อยเมื่อเทียบกับตัวมัน!

ในดวงตาของพ่านพ่านฉายแววคลุ้มคลั่งอีกครั้ง หลังจากร้องคำรามครั้งหนึ่ง มันก็อ้าปากขึ้น กัดใส่วังศิลาที่กำลังพังทลายลง!

ตำแหน่งที่มันกัดคือบริเวณที่บ่อเลือดแห้งขอดอยู่ เป็นหัวใจของเทาเที่ยนั่นเอง

บ่อเลือดถูกพ่านพ่านกัดใส่ จากนั้นก็ถูกกลืนเข้าไป

ส่วนหนึ่งของวังศิลาทรุดโทรมที่ตอนแรกมีบ่อเลือดเป็นศูนย์กลาง พลันคงสภาพต่อไปไม่ไหว แหลกสลายลงโดยสิ้นเชิง

ซากปรักหักพังของตัววังที่อยู่รอบๆ พวกเยี่ยนจ้าวเกอซึ่งกำลังต่อสู้กันอยู่ในวังศิลา ยามนี้กำลังถล่มลงมา

เหนือศีรษะปรากฏดวงอาทิตย์อีกครั้ง มองเห็นท้องฟ้าของโลกซ้อนโลกได้แล้ว

รอบๆ เป็นน้ำทะเลที่ไหลเชี่ยว ประกอบกันเป็นน้ำวนขนาดยักษ์

ทุกคนตอนนี้กำลังอยู่ในใจกลางน้ำวน ด้านล่างน้ำวนเป็นสีดำสนิท คือหลุมดำขนาดยักษ์ซึ่งเกิดจากการพังทลายของศพเทาเที่ย

หลุมดำแผ่ขยายออก ลามไปรอบๆ กลืนกินทุกสิ่งที่อยู่ด้านบนอย่างดุร้าย หมายจะดึงทุกสรรพสิ่งลงไป

บ่อเลือดถูกพ่านพ่านกลืนกิน วังศิลาพังทลายโดยสมบูรณ์

บุรุษที่อยู่ใต้การปกคลุมของเงาแสงหงส์เพลิง สัมผัสถึงความผิดปกติได้ทันที

พลังกลืนกินอันน่ากลัวของหลุมขมุกขมัวเบื้องล่างส่งผลต่อเขาเช่นกัน

ถึงกับมีลำแสงสีดำหลายสายพุ่งออกมาจากในน้ำวน ม้วนเข้ามาหาเขา!

เขาขมวดคิ้ว รีบร้อนเพิ่มพลัง หงส์เพลิงสยายปีกบินสูง ทะยานขึ้นด้านบน เพื่อหลบเลี่ยงไม่ให้ถูกหลุมสีดำขมุกขมัวด้านล่างดูดไว้

ด้วยพลังฝึกปรือของเขา ต่อให้มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงคอยคุ้มครอง แต่ถ้าเกิดกตกลงไปด้านในหลุมสีดำขมุกขมัวจริงๆ พอหลุมพังทลาย ก็ย่อมประสบผลร้ายมากกว่าผลดีเช่นกัน

ทว่าไม่ทันไร ด้านหน้าเขาก็มีประกายกระบี่สีดำสายหนึ่งปรากฏขึ้น กลิ่นอายพลังเหมือนกับหลุมสีดำขมุกขมัวเบื้องล่างถึงขีดสุด

เป็นเยี่ยนจ้าวเกอลงมืออีกครั้ง

อีกฝ่ายไม่หวั่นวิตก แต่เมื่อพินิจมองดูอย่างละเอียด จิตใจพลันเย็นเยียบไปครึ่งหนึ่ง

พ่านพ่านที่กลืนหัวใจปีศาจของเทาเที่ย เส้นเลือดบนร่างพองออกอีกครั้ง ลำแสงหลายสายทะลัก ดวงตาสาดประกายดุร้ายอย่างไม่อาจควบคุม

แต่ว่ามันในตอนนี้ยืนอยู่กลางอากาศ แม้จะถูกหลุมสีดำขมุกขมัวเบื้องล่างดูดไว้ แต่ยังคงหยุดยั้งท่าร่างได้

เยี่ยนจ้าวเกอเก็บตราประทับตะวัน แต่ว่ากระบี่ปีศาจเทาเที่ยในมือส่องประกาย ต่อให้เผชิญกับหลุมสีดำขมุกขมัวที่เกิดจากกายเนื้อของเทาเที่ย ก็ยังคงมีพลังต้านทานอันแข็งแกร่ง

เขาที่เคลื่อนคมเหลือที่ว่าง[1] ฟันกระบี่ลงอีกหนึ่งกระบี่

เขาพูดขึ้นด้วยสีหน้าเยือกเย็น “สู้กันมาสองครั้ง ยังไม่รู้ว่าท่านชื่ออะไร?”

บุรุษหนุ่มกัดฟัน “จวงเจาฮุยแห่งเนินต้นจักรพรรดิ”

เนินต้นจักรพรรดิแห่งเขาลีลาหงส์ในเขตเพลิงทักษิณ คือสถานที่ที่ประมุขทักษิณอยู่

จวงเซิน คือชื่อของประมุขทักษิณ

จวงเจาฮุยป้องกันประกายกระบี่ ร่างที่พุ่งขึ้นด้านบนหยุดโดยฉับพลัน ถูกลำแสงสีดำมากมายม้วนพัด ก่อนจะโดนลากลงไป

เขาขมวดคิ้ว มองเยี่ยนจ้าวเกอแวบหนึ่ง สุดท้ายก็ส่ายหน้า

สถานการณ์ในตอนนี้ หลุมสีดำขมุกขมัวที่กลืนกินทุกสรรพสิ่งเบื้องล่างกลับกลายเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดของเยี่ยนจ้าวเกอ

สถานที่ที่ต่อสู้กันอยู่ในตอนนี้กลายเป็นถิ่นของเยี่ยนจ้าวเกอ นอกจากนี้ยังเป็นถิ่นที่มีความได้เปรียบด้านชัยภูมิอย่างไร้ที่สิ้นสุดด้วย

เยี่ยนจ้าวเกอไม่ต้องใช้พลังมากเกินไป เพียงขวางทางถอยไว้ อีกไม่นานจวงเจาฮุยก็จะถูกหลุมสีดำขมุกขมัวนั้นดูดเอาไว้

ขอแค่ถูกลากเข้าไปในหลุมดำที่ก้นทะเลโดยสิ้นเชิง นั่นก็จะมีแต่สถานการณ์ตายเก้ารอดหนึ่ง

จวงเจาฮุยไม่อาจเพ่งความสนใจไปที่ตัวเยี่ยนจ้าวเกอมากเกินไป ต้องใช้ความสามารถที่มีอยู่สิบส่วนไปกับการป้องกันพลังกลืนกินฟ้าดินของหลุมดำด้านล่างเสียแปดส่วน

การควบคุมอาวุธศักดิ์สิทธิ์ไปรับมือกับเยี่ยนจ้าวเกอทำให้สูญเสียพลังมหาศาลจริงๆ

แต่ไม่รอเขาหมดแรง จวงเจาฮุยก็ถูกหลุมดำกลืนกินเสียแล้ว

บนร่างของจวงเจาฮุยมีแสงม่วงบารมีส่องระยิบระยับ รอดจากภัยพิบัติ กั้นลำแสงสีดำออกไป

หงส์เพลิงกระพือปีกทีหนึ่ง พุ่งขึ้นท้องฟ้าสุดกำลัง เกาทัณฑ์วิเศษที่เปล่งประกายสีแดงก่ำคันนั้น ช่วยต้านทานการโจมตีจากกระบี่ปีศาจเทาเที่ย

ปราณขาวกุศลซ่อนสายหนึ่งปรากฏขึ้น มอบโอกาสรอดชีวิตในสภาพจนตรอก มองหาเส้นทางหนีเอาชีวิตรอดที่มีความหวังมากที่สุด

หงส์เพลิงทะยานขึ้นด้านบน สลัดหลุดจากพลังกลืนกินอันน่ากลัวของหลุมสีดำขมุกขมัวเบื้องล่าง

เขาพุ่งไปถึงด้านข้างพวกเยี่ยนจ้าวเกอ เพื่อจะพาตัวถังหย่งฮ่าวไปด้วย

เยี่ยนจ้าวเกอที่เตรียมตัวไว้ตั้งแต่แรกใช้กระบี่ขวางไว้ทันที

ในดวงตาของจวงเจาฮุยฉายแววเคียดแค้นและเสียดายชัดเจน

กระดูกหงส์เพลิงที่ถังหย่งฮ่าวมีอยู่ สำหรับคนผู้นี้ สำหรับเขตเพลิงทักษิณ สำหรับประมุขทักษิณ ล้วนมีความสำคัญยิ่งยวด

หลี่จิ้นศิษย์ของประมุขทักษิณที่ถูกเยี่ยนจ้าวเกอฆ่าตาย หวังฮุ่ยลูกศิษย์ของประมุขทักษิณที่ถูกจับเพราะเยี่ยนจ้าวเกอ จนเรื่องราวมาถึงขั้นนี้ ความจริงก็เพื่อกระดูกหงส์เพลิงที่แฝงจิตจริงแท้ของเมฆาคุณธรรมชิ้นนี้นี่เอง

นั่นคือเป้าหมายที่สำคัญที่สุดในการมายังเขตตะวันอาคเนย์ในครั้งนี้ของจวงเจาฮุย มีความสำคัญยิ่งกว่าอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงอย่างกระบี่ปีศาจเทาเที่ยเสียอีก

เขาเงยหน้าถอนใจ หมุนตัวโดยพลัน ก่อนจะใช้ปีกหงส์ม้วนเมิ่งหวานที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรด้วยไว้ จากนั้นก็บินออกไป พุ่งออกจากมหาสมุทรบนดินแดนสุทธทัศน์

“เสี่ยวหวาน!”

“ศิษย์น้องเมิ่ง!”

เฟิงอวิ๋นเซิงกับถังหย่งฮ่าวร้องอุทาน

เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

คิดจะระบายแค้นก็ไม่ควรเอาไปลงกับตัวเมิ่งหวานกระมัง…

ในตอนนั้นเอง น้ำวนเบื้องล่างก็พลิกตัว เงาร่างหลายสายพุ่งออกมาจากผิวน้ำตามลำดับ

ทว่าบนตัวพวกเขากลับเต็มไปด้วยลำแสงสีดำ ซึ่งกำลังลากพวกเขากลับไปยังก้นทะเลอย่างต่อเนื่อง สถานการณ์อันตรายยิ่งกว่าจวงเจาฮุยเมื่อครู่เสียอีก

เยี่ยนจ้าวเกอกะพริบตา

คนที่นำหน้าคือคังผิงนั่นเอง

…………………

[1] เคลื่อนคมเหลือที่ว่าง หมายถึง การทำงานที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดี จึงสามารถทำทุกสิ่งได้อย่างชำนาญ ทั้งยังมีประสิทธิภาพพ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+